อีกกี่ปีจะได้นั่งรถไฟเที่ยวภูเก็ต

[Wisarut]

อีกกี่ปีจะได้นั่งรถไฟเที่ยวภูเก็ต

สนธนาภาษารถไฟ
Transport Journal 29 มิถุนายน 2552

มีเรื่องเรียกร้องจากประชาชนกลุ่มหนึ่ง ผ่านทาง website สำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ไปขอให้การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) สร้างทางรถไฟต่อจากอำเภอคีรีรัฐนิคม จังหวัดสุราษฎร์ ธานี ไปให้ถึงจังหวัดภูเก็ต ซึ่งเป็นเมืองท่องเที่ยว

พูดถึงโครงการก่อสร้างทางรถไฟสายสุราษฎร์ธานี-ภูเก็ต นี้รัฐบาลได้เวนคืนที่ดินเพื่อก่อสร้างไว้ตั้งแต่ปี 2481 โดยกรมรถไฟขณะนั้นได้สำรวจ วางแนว กำหนดเขตที่ดินตั้งแต่สถานีชุมทางบ้านทุ่งโพธิ์ ตำบลพุนพิน อำเภอพุนพิน จังหวัดสุราษฎร์ธานี ไปถึงชายฝั่งทะเลบ้านท่านุ่นตำบลโคกกลอย อำเภอตะกั่วทุ่ง จังหวัดพังงา รวมระยะทาง 163 กม. มีเขตทางกว้าง 160 เมตร เวนคืนแล้วเสร็จปี 2488 เมื่อก่อสร้างไปได้ช่วงหนึ่งถึงสถานีคีรีรัฐนิคมระยะ 31 กม. จึงได้เปิดการเดินรถเมื่อปี 2499 ส่วนการก่อสร้างช่วงต่อจากนั้นต้องยุติไปเนื่องจากไม่ได้รับการจัดสรรงบประมาณ

ต่อมาเมื่อปี 2537 ร.ฟ.ท. ได้ว่าจ้างศึกษาความเหมาะสมการก่อสร้างทางจากสถานีมะลวน และชุมทางบ้านทุ่งโพธิ์ จังหวัดสุราษฎร์ธานีถึงบ้านท่านุ่น จังหวัดพังงา โดยมีการพิจารณาเปรียบเทียบเป็น 3 กรณี

- กรณีที่ 1 ก่อสร้างถึงบ้านท่านุ่น (ระยะทาง 163 กม.)
- กรณีที่ 2 ก่อสร้างถึงบ้านท่านุ่นและขยายข้ามช่องปากพระไปบ้านท่าฉัตรไชย ถึงเมืองภูเก็ต แล้วไปสิ้นสุดที่ท่าเรือน้ำลึกภูเก็ต (ระยะทาง 213 กม.)
- กรณีที่ 3 ก่อสร้างจากสถานีคีรีรัฐนิคม ถึงบ้านท่านุ่น และก่อสร้างสายแยกจาก อำเภอทับบุดไปยัง อำเภอเมืองกระบี่ จังหวัดกระบี่ และท่าเรือน้ำลึกกระบี่ (ระยะทาง 213 กม.)

ผลจากการศึกษากรณีแรกต้องใช้เงินลงทุน 14,000 ล้านบาท ผลตอบแทนทางเศรษฐกิจ 12% ต่อปี ส่วนกรณีที่ 2 และ 3 ต้องใช้เงินลงทุนประมาณ 20,000 ล้านบาท มีผลตอบแทนทางเศรษฐกิจ 11% ต่อปี ในปี 2539 ร.ฟ.ท. จึงได้รับการจัดสรรงบประมาณสำหรับการออกแบบรายละเอียดทางวิศวกรรม, จัดทำเอกสารประกวดราคา และจัดทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม EIA Report ซึ่งการออกแบบ และจัดทำเอกสารแล้วเสร็จเมื่อปี 2541

ปัญหาอุปสรรคของการดำเนินงาน คือ การเวนคืนที่ดินเพิ่มเติมตามแนวทางศึกษาใหม่ และ EIA Report ที่ยังต้องขอผ่อนผันยกเว้นมติ ครม. เมื่อไหร่นโยบายชัดเจนศึกษาทบทวนอีกครั้ง มีปัจจัยลงทุนพร้อมนักท่องเที่ยวคงมีทางเลือกใหม่ได้นั่งรถไฟไปเที่ยวพังงา ภูเก็ต เสียที

[donatt76]

การศึกษาเมื่อปี 2537 ที่เฮียวิศรุต ยกมารู้สึกว่า มันจะทำเพื่อ Support logistic ขนคอนเทนเนอร์ มากกว่าคนโดยสารนะครับ...ซึ่งนั่นก็น่าจะเป็นแนวคิดที่ถูกต้อง เพราะภูเก็ต เป็นเมืองท่องเที่ยว ที่ต้องยอมรับว่า "เที่ยวเป็นฤดูกาล" เพราะช่วงที่มรสุมเข้า ก็มีนักท่องเที่ยวบางตา จนโรงแรมทั้งหลายต้องออกมาลดแลกแจกแถมกันเต็มเมือง....

อีกอย่าง...นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ กลุ่มที่นิยมเที่ยวภูเก็ตมากที่สุด ได้แก่ รัสเซีย สแกนดิเนเวีย เกาหลี และญี่ปุ่น...รวมไปถึงไต้หวัน ก็ล้วนแล้วแต่มีเครื่องบินเช่าเหมาลำ บินตรงลงภูเก็ตเลยแทบทั้งสิ้น...นักทองเที่ยวทะเลเหล่านี้ชอบเที่ยว ภูเก็ต กระบี่ สมุย พง้น เกาะเต่า...ประมาณนี้

ถ้าจะทำการท่องเที่ยวรองรับคนกลุ่มนี้จริงๆ ต้องทำสนามบินใหญ่เครื่องบินเช่าเหมาลำขนาดใหญ่ สามารถลงได้ที่ชุมพร สุราษฎร์ธานี รวมไปถึงเกาะสมุย...เพื่อที่พวกเค้าจะได้เดินทางแบบ one way...ไม่ต้องย้อนกลับทางเดิม...ซึ่งคำถามคือ คุ้มหรือไม่ที่ จะสร้างเส้นทางรองรับนักท่องเที่ยว เพียงปีละครั้ง....

หากผลการศึกษาออกมาว่าคุ้มที่จะลงทุน...ก็นับว่าเป็นเรื่องดีที่ทางรถไฟบ้านเราจะงอกเสียที...แต่ขบวนรถที่เอามารับนักท่องเที่ยวเนี่ย...ขอเถอะครับ เป็นรถดีเซลรางปรับอากาศ หรือ อะไรก็ได้ที่ไม่ใช่ชั้น 3 รถรวม....
_________________

[suraphat]

ไม่ต้องแหละครับ เอาแค่ทางรถไฟสายใหม่ ที่กระผมอยากจะได้เห็นมากๆเลยคือ สายควนเนียง-ปากบารา และให้มีการรื้อฟื้นทางรถไฟสายหาดใหญ่-น้ำกระจายก่อนเพียงเท่านี้ ก็สามารถลำเลียงตู้คอนเทนเนอร์ข้ามฝั่งด้วยระบบรางได้แล้วนะครับ

ทั้งนี้ ก็เพื่อที่จะได้หาทางเลี่ยงการก่อสร้างคลองกระที่เขามีโครงการจะก่อสร้างกันในแนวเดียวกันนี้นะครับ

คือการก่อสร้างเขาจะก่อสร้างคลองกระในแนวจังหวัดสตูลกับพัทลุงนะครับ

[arhaja]

[pattharachai]

^
^
นั่นก็คงเป็น Amazing Thailand อีกอย่างหนึ่งหละครับ นอกเหนือจากการประกาศขายที่รถไฟ

----

ผมว่า ในปัจจุบันนี้ ในยุคที่ราคาตั๋วเครื่องบินถูกมากๆ โดยเฉพาะสายการบินต้นทุนต่ำ และบางทีถูกกว่านั่งแทกซี่จากตลิ่งชันไปบางนาด้วยซ้ำ แม้จะมีรถไฟวิ่ง จะขายได้กี่มากน้อยและจะคุ้มทุนหรือเปล่าเนี่ย กลัวว่า พอสร้างแล้ว มีรถโดยสารไปกลับวันละ 2 ขบวน หนะสิครับ

[Nakhonlampang]

ขอนำข้อความส่วนหนึ่งที่คัดลอกมาจากจากหนังสือ ที่ระลึกในวันคล้ายวันสถาปนากิจการรถไฟครบรอบ ๗๒ ปี มาให้อ่านนะครับ เป็นเนื้อหาตอนท้ายที่เกี่ยวกับทางรถไฟสายนี้ (ย่อหน้าแรกจะหมายถึงเส้นทางช่วง บ้านทุ่งโพธิ์ ถึง ท่านุ่น ครับ)

[Compressor]

ถ้ามีสายภูเก็ตแล้ว จะมีผู้โดยสารอีก 2 จังหวัดแน่นอน ที่จะใช้คือ พังงา และภูเก็ต รวมไปถึงพังงาบางส่วน

จุดได้เปรียบ และข้อคิดเห็น ด้านการโดยสาร

- รถด่วนพิเศษดีเซลรางปรับอากาศ เราสามารถนำขบวน 43/44 สุราษฎร์ธานีเดิม ทำไปถึงภูเก็ตได้ โดยถึงภูเก็ตประมาณ 19.00 น. และทำขบวนกลับเวลา 20.00 น. ถึงกรุงเทพ 07.00 น. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 11 ชั่วโมง ซึ่งเป็นข้อได้เปรียบเมื่อเทียบกับการเดินทางโดยรถทัวร์ ซึ่งใช้เวลาเดินทาง 12 ชั่วโมง
ริ้วขบวน: กซข.ป. + กซข.ป. + กซข.ป.

- ขบวนรถรวมที่ 489/490 คีรีรัฐนิคมเดิม เมื่อ 490 ทำขบวนถึง รท. 07.00 น. แล้ว สามารถทำขบวนรถเร็ว (หรือรถด่วนตามแต่) สุราษฎร์ธานี-ภูเก็ต-สุราษฎร์ธานีได้ โดยออกจากสุราษฎร์ธานี 07.45 น. ถึงภูเก็ต 11.00 น. แล้วทำขบวนกลับ 13.30 น. ถึงสุราษฎร์ธานี 16.00 น. และทำขบวน 489 ไปคีรีรัฐนิคม โดยทำเป็น Shuttle Train ให้กับผู้โดยสารที่มาจาก กท. โดยขบวน 173 167 85 และส่งผู้โดยสารไปกับขบวน 86 42 170
ริ้วขบวน: ดีเซล + บชส. (นำชุดรถขบวน 489 ทำการ)+ บชส. (ขบวน 489) + บชส.(ขบวน 489) + บชส. (นำชุดรถขบวน 85 ตัดรถ รท. ทำการ)+ บชท. (ขบวน 85) + บนท.ป. (ขบวน 85)+ บนท.ป. (ขบวน 85)

[pak_nampho]

จัดตารางเวลา ข. 43/44 สุดยอดเลยเจ้าปิ แต่เป็น ข.44แล้วต้องรักษาเวลานะส่วนใหญ่คนเขามีแผนการเดินทางต่อกันมาก
ทุกวันนี้ รถ 999 / รถทัวร์อำนวยความสะดวกให้เที่ยว 17.00 น.วิ่งเป็นภูเก็ต - หมอชิต มีวันละปะรมาณ 5 คันคิดดูวันละเกือบ 200 คนที่มาต่อรถที่หมอชิต
แล้วค่าโดยสารล่ะเจ้าปิ คิดสักเท่าไร.... ตอนนี้ทัวร์คิดที่ 626 บาท
สนับสนุนขบวนนี้แหละที่คิดว่าวิ่งแล้วทำเงิน แล้วขบวนนี้จะเห็น Bag Packer จำนวนไม่น้อยเช่นกัน
_________________
+++++++++++++++++ ๑๑๖ ปี รถไฟไทยก้าวไกล....จากรถจักรไอน้ำ +++++++++++++++++

....................บุตร ครฟ. พขร.ตรี แขวงรถพ่วงปากน้ำโพ ...................

[digimontamer]

จริงๆผมก็อยากให้มีนะครับ อยากให้รถไฟไปถึง 76 จังหวัดเลย หุหุ

[Compressor]