เรื่องสุดจะเซ็ง (มีโชคนิดๆ)

Guitar

เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 4 ส.ค. 52 เรื่องมีอยู่ว่า เมื่อวันอาทิตย์ที่ 2 ส.ค. พ่อผมไปทำขบวน 145 ลช.-อน. ก็เอารถจอดไว้ที่ใต้ถุนบ้านพักรถไฟที่สถานีบุรีรัมย์ (จะจอดตรงนี้ทุกครั้ง ที่ต้องไปทำงาน แถม ล็อครถสองชั้นด้วย) เมื่อจอดรถเสร็จเวลาประมาณ 5 ทุ่มครึ่ง ก็ไปทำงาน และเมื่ออังคารที่ 4 ส.ค. พ่อผมทำขบวน 146 อน.-ลช. เมื่อทำขบวนเสร็จก็นั่งรถมาลงบ้านที่บุรีรัมย์ และเมื่อมาถึงที่ที่จอดรถไว้ ก็ต้องตกใจครับ รถหาย!! (เป็นรถ mio ที่เพิ่งออกมาใหม่ ยังไม่ถึง 3 เดือนเลยครับ) ไม่มีร่องรอยใดๆทิ้งไว้เลย ถามคนที่สถานีก็ไม่เห็นรถ เลยโทรมาหาผมให้ไปรับ พอผมไปรับกลับบ้านเสร็จ ผมกับน้องก็เลยลองขับรถหาดูทั่วเมือง เผื่อจะเห็น สุดท้ายก็ไม่เห็นครับ ซึ่งวันที่ 4 ส.ค. ครอบครัวผมวางแผนกันไปที่โคราชเพื่อไปงานเลี้ยง วรฟ. 43 (พ่อผม วรฟ.43) ว่าจะออกจากบ้านซัก บ่าย 3 โมง แต่เมื่อเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นทุกอย่างก็วุ่นวายไปหมด พ่อกับแม่ผมก็ไปแจ้งความที่โรงพัก พอกลับจากโรงพัก ก็จัดการเตรียมของไปโคราชกัน จนเวลาประมาณ 16.30 น. พ่อ แม่ น้อง ของผมก็ออกจากบ้านไปยังจังหวัดนคราชสีมา ส่วนผม เฝ้าบ้าน ครับ เพราะว่า วันพุธ ผมมีสอบ 2 วิชา หลังจากที่พ่อเดินทางออกไป ทุกอย่างก็ปกติดี

.... จะเกิดเหตุการณ์อะไรต่อจากนี้ อ่านกันต่อครับ........... เรื่องที่จะเล่าให้ฟังอยู่นี้ อาจจะมีคำหยาบอยู่บ้าง ซึ่งเหมือนกับเหตุการณ์จริงๆครับ

เวลาประมาณ 18.00 น. เพื่อนผมที่เรียนอยู่วิทยาลัยเทคนิคด้วยกันมาเล่นที่บ้าน 2 คน ก็นั่งเล่นคอม เล่นกีต้าร์กัน จนเวลาประมาณ 19.30 เพื่อนผมขอตัวไปเล่นเกมที่ร้านข้างนอก ผมก็ไปอาบน้ำเตรียมไปทำงาน ซึ่งผมเล่นดนตรีอยู่ร้านเนื้อย่าง (ร้านอยู่ติดทางรถไฟเลยครับ) จนเวลาประมาณ 19.50 ซึ่งผมอาบน้ำเสร็จแล้ว เพื่อนผมโทรเข้ามาครับ "เฮ้ย ไอ้ปู้น กูเจอรถมึงอยู่ตรงประปาว่ะ" เอาหล่ะครับ งานเข้าแล้ว ผมก็เลยบอกว่า "เออๆ มึงรอกูตรงนั้นก่อน เดี๋ยวจะรีบออกไป) ผมก็รีบขับรถออกไปกับเพื่อนอีกคนนึง พอไปถึงก็เห็นมันอยู่ที่รถนั่นแหล่ะครับ ผมรีบเดินไปดูรถ ใช่!! มันใช่รถพ่อผมเลยครับ(สภาพรถถอดกระจก กับ แผ่นป้ายทะเบียนออก) จอดอยู่ฝั่งตรงข้ามกับประตูทางเข้า สวท. (สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย) จอดอยู่คันเดียวเลยครับ บนฟุตบาทด้วย ผมก็รีบโทรหาพ่อ หลังจากนั้นพ่อก็ให้ผมโทรไปหาเพื่อนพ่อ ซึ่งเป็นตำรวจจราจร โชคดีครับ เพื่อนพ่อผมอยู่แถวนั้นพอดี แปปเดียวก็มาถึงครับ (มา 2 คน) ใส่นอกเครื่องแบบมาครับ แล้วก็บอกให้ผมไปห่างๆรถ หรือจะกลับบ้านก่อนก็ได้ เพราะว่าเค้าจะเฝ้าดูให้ ผมก็เลยขอตัวกลับบ้านครับ ขณะที่กำลังเดินทางกลับเกือบถึงบ้านแล้ว ลุงผมซึ่งเป็นตำรวจฝ่ายสืบสวน ก็โทรเข้ามา " ปู้นเอ็งอยู่ไหน มาหาลุงหน่อยตรงประปา" อ่ะ งานเข้า!! ผมก็ขับรถไปกับเพื่อน พอไปหาลุงเสร็จ ลุงก็ให้ผมขึ้นรถกระบะ แล้วลุงผมก็ไปกับเพื่อนผมตรงที่เกิดเหตุ ตอนนี้ผมอยู่กับตำรวจอีกท่านหนึ่ง และ ก็ สารวัตร แล้วสารวัตรเค้าก็ถามผมว่า รถที่ขโมยเอาไปไว้อยู่ตรงไหน ผมก็บอกไป แล้วสารวัตรเค้าก็เดินไป ซักหน่อย ผมได้ยินวิทยุเค้าพูดอะไรนี่แหล่ะครับ แล้วคุณตำรวจก็พาขับรถกระบะไปตรงที่เกิดเหตุ (ช่วงนี้โทรศัพท์มือถือผม สายเข้าเป็นว่าเล่นเลยครับ) เมื่อไปถึงจุดที่รถจอดอยู่ ก็รับสารวัตรเข้ามาอยู่ในรถ แล้วก็เอารถไปจอดใกล้ๆกับ ที่มอไซค์พ่อผม ตอนนี้เวลา 20.30 คุณตำรวจเค้าก็ทำการดับรถ เปิดกระจกนิดหน่อย ตอนนี้ผมกับ คุณตำรวจอีก 2 คนดูฝั่งทิศใต้ ลุงผมกับตำรวจอีกชุดหนึ่งดูฝั่งทิศเหนือ แล้วก็มีตำรวจเข้ามาเสริมที่ ที่ตะวันออก อีก 2 คน ซักหน่อย ตำรวจจราจรมาตั้งด่าน ตรงจุดนั้นพอดีครับ สารวัตรเค้าเลยสั่งให้ไปตั้งด่านที่อื่น เวลาผ่านไป 2 ชั่วโมง ตอนนี้อากาศในรถร้อนมากๆครับ เหงื่อทุกคนออกมาเหมือนอาบน้ำไม่ได้เช็ดตัว จนเวลา ประมาณ 23.00 น. (ซึ่งเวลาที่ผ่านมา มีรถต้องสงสัยคันหนึ่งเป็นรถปีกอัพ ผ่านมาทางนั้น 4 รอบแล้ว) สารวัตรก็เลยบอกว่า เราลองไปอยู่ที่อื่นดิ หลังจากนั้นคุณตำรวจก็พาขับเข้าไปที่ สวท. ไปอยู่จุดเดียวกันกับน้าตำรวจ 2 คนที่เฝ้าอยู่ตรงนั้น "ไอ้หนุ่ม มาสูดอากาศข้างนอกดีกว่า" แล้วสารวัตรกับตำรวจที่ขับรถก็เดินไปเฝ้าตรงกำแพง ตรงกันข้ามกับรถพ่อผมจอดอยู่ สารวัตรเค้าบอกให้ผมรออยู่หลังบ้านพัก ใน สวท. หลังจากที่อยู่ตรงนั้นไม่นาน ผมก็ได้ยินเสียง ปั้ง!!! เสียงปืนครับ ผมเลยวิ่งออกไปดูตรงกำแพง ตำรวจกำลังไล่ขโมยอยู่ ผมหันไปมองรถพ่อผม อยู่ในสภาพที่เบาะเปิดออก รถล้มอยู่ ซักหน่อยน้าตำรวจท่านนึงก็รีบเอารถปิคอัพออกไป เหตุการณ์ตอนนี้วุ่นวายไปหมด ผมสับสนอย่างแรง งง!! กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น หลังจากนั้นผมก็เห็นตำรวจเอารถปิคอัพออกไป มีวัยรุ่นเต็มหลังรถ และก็รถนิสสัน นาวาร่า คันหนึ่งขับตามหลัง แล้วเค้าก็มาเรียกผมให้ยกรถมอไซค์ขึ้นรถปิคอัพไปโรงพัก เย้!! ดีใจมากๆ ได้รถคืน โชคดีจริงๆ เมื่อไปถึงสถานีตำรวจ ลุงผมก็บอกว่า " ให้พ่อเอ็งซื้อรองเท้าให้ลุงใหม่ด้วย" ลุงผมวิ่งตามขโมยไปครับ(รองเท้าขาดเลย) มันลงน้ำ ลุงผมก็ลงน้ำตาม หลังจากนั้นทุกอย่างก็เรื่มเคลียร์ ลุงผมก็เลยบอก กลับบ้านก่อนก็ได้ เดี๋ยวลุงมีอะไรจะโทรหา อาตำรวจคนหนึ่งเดินลงมาขอคู่มือรถ กับเบอร์โทรติดต่อของ พอให้เสร็จ ผมก็เลยขอตัวและขอบคุณคุณตำรวจ แล้วก็ไปที่ร้านเนื้อย่างที่ผมทำงานอยู่ครับ ปฏิบัติการโม้แหลก ก็เกิดขึ้น เวลาประมาณ 00.50 น. ผมก็ออกไปกินข้าวกับเพื่อนที่ไนซ์ กลับบ้านตอนตี 1 ครึ่ง กลับบ้านได้ไม่นาน ลุงผมก็โทร มาถามว่าผมอายุเท่าไหร่ แค่นั้น หลังจากนั้นก็ไม่มีอะไร ตื่นนอนตอน 07.45 น. อาบน้ำไปโรงเรียน เหตุการณ์ก็ปกติดี รอพ่อมาเดี๋ยวพ่อเข้าไปโรงพักเอง ตอนนี้รถมอเตอร์ไซค์ก็ยังอยู่ที่โรงพัก

สุดท้ายนี้ก็ต้องขอขอบคุณตำรวจไทยครับ emot111

เก่งมากๆ ผมได้เห็นการทำงานของคุณตำรวจ ต้องบอกว่า ขนาดผมนั่งอยู่ในรถเฉยๆ ยังเหนื่อยเลยครับ ตำรวจไทยสุดยอดจริงๆ

ตอนนี้ขอตัวไปเรียนก่อนนะครับ ... ขอบคุณครับ

alderwood · Posted: 05/08/2009 1:29 pm Post subject:

โชคดีครับปู๊นที่ได้คืนมา
_________________
รักรถไฟมั่นใจโคปเตอร์ || Railway Racing Team || Korat Spotter

Mongwin · Posted: 05/08/2009 1:40 pm Post subject:

อ่านสนุกดี เหมือนได้อยู่ในเหตุการณ์จริง
ยินดีด้วยนะครับที่ได้คืน Very Happy

KaittipsBOT · 1st Class Pass (Air) Joined: 27/03/2006 Posts: 4150

อยากรู้จัง หลังจากที่ตำรวจรอมานาน แล้วคนที่มาเอารถเป็นใคร แล้วมาจอดทิ้งไว้ที่นั้นทำไม เสียงปืนที่ว่าใครเป็นคนยิง ตำรวจหรือโจรยิง แล้วรถกระบะ นาวาร่า มาจากไหน...ปู๊น มันทิ้งปมไว้หลายปมเลยนะนั้น....เลยทำให้อยากรู้เข้าไปอีกว่า รถที่หายไปเป็นวัยรุ่นขโมย หรือพวกแก๊งค์ขโมยไปชำแหละขายอะไหล่

tuie

อ่านแล้วรู้สึกว่าทายาทผู้เสียหายยังให้การวกวนอยู่นะครับ ท่าทางจะยังตื่นเต้นไม่หาย Laughing

สรุปว่าได้รถคืนแล้วก็ดีใจด้วย นับว่าโชคดีมากๆเลยครับ ปัจจุบันนี้โจรผู้ร้ายชุกชุมไปทั่วทุกหัวระแหงจริงๆ Evil or Very Mad

KaittipsBOT · 1st Class Pass (Air) Joined: 27/03/2006 Posts: 4150

OutRun · 1st Class Pass (Air) Joined: 26/05/2006 Posts: 1187

โชคดีจริง ๆ ครับน้องปู๊น ที่ได้รถกลับคืนมา แสดงว่ารถมันยังคงอยากอยู่กับเราเนาะ

เกือบ 1 ปีผ่านมาละ พี่ก็เคยโดนเหตุการณ์แบบนี้กับตัวเองเหมือนกัน และโชคดีที่ได้รถคืนเหมือนกัน คือวันนั้นพี่จะไปเที่ยวแถว ๆ รังสิต
ก็เอามอเตอร์ไซต์มาจอดใต้บันไดทางลงรถไฟฟ้า BTS อนุสาวรีย์ชัย ฝั่งตรงข้ามห้างเซ็นจูรี่ แล้วนั่งรถเมล์ไป จอดตั้งแต่ 14.00 น. ด้วยความฉะล่าใจ
ว่ารถตัวเองเป็นรถเก่า ผ่านการใช้งานมา 6 ปีแล้ว และก็ไม่ได้เป็นรุ่นที่ตลาดต้องการ (SUZUKI Smach) เหมือนพวก Honda Wave หรือพวกรถเกียร์ออโต้ทั้งหลาย
ก็เลยล็อคแค่คอรถ กับเอาแม่กุญแจมาล็อคดิสหน้าไว้ จริง ๆ อยากจะเอาโซ่คล้องรถไว้กับเสาด้วย แต่บริเวณนั้นไม่มีเสา และเห็นว่าบริเวณนั้น
ก็ไม่ได้เปลี่ยวอะไรมากมาย เพราะมีคนเดินลงจากรถไฟฟ้ามาเรื่อย ๆ และก็มีคันอื่นจอดอยู่ด้วยเกือบ 10 คัน พอกลับมาประมาณ 23.30 น. ปรากฎว่ารถหายครับ
ก็เลยจะไปแจ้งความที่ สน. พญาไท พอไปถึง ทาง สน. บอกว่าพรุ่งนี้ตอนเช้าให้ลองไปถามเทศกิจดูก่อน ว่าเทศกิจยกไปรึเปล่า เพราะจอดบนฟุตบาท
ตอนเช้าก็เลยไปเทศกิจ แต่เทศกิจบอกว่าไม่มีรถยกมา ผมก็เตรียมใจไว้แล้วหล่ะ สงสัยได้ซื้อรถใหม่แน่นอน แต่แฟนผมบอกให้เดินกลับไปดู
ที่จุดเกิดเหตุอีกทีดีไหม ก็เลยลองเดินไป ปรากฎว่าเจอจริง ๆ ครับ แต่รถไม่ได้จอดอยู่ในตำแหน่งเดิม เจ้าขโมยเอามาจอดแอบไว้หลังป้ายรถเมล์
ฝั่งตรงข้างห้างเซ็นจูรี่ครับ อยู่ในสภาพปกติ ไม่ได้ถูกงัดแงะแต่อย่างใด แม่กุญแจล็อคดิสหน้าก็ยังล็อคอยู่ มีเพียงหมวกกันน็อคที่ผมล็อคไว้ใต้เบาะ 2 ใบเท่านั้นที่หายไป
ซึ่งผมก็ยัง งง อยู่ว่ามันเคลื่อนรถมาไว้ตรงนี้ได้ยังไง เพราะห่างจากจุดที่ผมจอดเดิมประมาณ 100 เมตรได้มั้ง ทั้ง ๆ ที่ดิสหน้าก็ล็อคกุญแจอยู่

หลังจากนั้นมาพอจะจอดรถทิ้งไว้นาน ๆ หลายชั่วโมงเลยปฏิบัติดังนี้ครับ
1. ไม่จอดในที่เปลี่ยว
2. ล็อคดิสหน้า
3. หาเสาไฟฟ้า หรือเสาอะไรก็ได้เพื่อล่ามโซ่กับรถเอาไว้
อย่าประมาทขโมยมันครับ รถของน้องปู๊นยังเป็นรถใหม่ พวกมันจ้องอยู่แล้วหล่ะครับ ขนาดรถพี่ซื้อมาตั้งแต่ปี 2545 มันยังจะเอาเลย

อ้อ มีอีกประสบการณ์ เกิดขึ้นกับพี่ชายพี่เอง รถฟี่โน่ แต่งครบครัน แต่ดันประมาท ว่าใครไม่ได้ เพราะดันจอดเอาไว้หน้าบ้าน แล้วไม่ได้ล็อคคอ
หายจ้อยจนถึงทุกวันนี้

อ้อ อีก 1 ตัวอย่าง เกิดขึ้นกับแฟนพี่เอง วันนั้นกลับจากทำงาน ซื้อของมาเยอะ แฟนพี่นั่งซ้อนท้าย มือถือของที่ซื้อมา แต่ดันวางกระเป๋าสะพายไว้บนตักเฉย ๆ
สงสัยพวกจ้องตั้งแต่ติดไฟแดงแยกสุรศักดิ์แล้ว พอลงสะพานสาทรพวกขี่มาตีขนาบข้างแบบเข่าชนเข่า พี่ก็นึกว่ามันเสียหลักหักหลบรถคันอื่น ไม่นึกว่ามันจะ
กระชากกระเป๋าทั้ง ๆ ที่รถวิ่งอยู่ (มันมาคนเดียวด้วยนะหน่ะ) หลังจากนั้นมาพี่ไม่ให้แฟนถือกระเป๋าเลย ให้เอากระเป๋าสะพายมาใส่กระเป๋าเป้แทน
_________________
นายจักรยานกับการรถไฟ ฯ

donatt76 · Posted: 05/08/2009 2:51 pm Post subject:

อ่านสนุกดีแฮะ....ตอนต้น เหมือนหนังสืบสวนสอบสวน ตอนกลางเรื่อง เหมื่อหนังแอกชั่น มียิงกันด้วย....พอจบ...ดันกลายเป็น Harry Potter คือ ต้องมีตอนต่อไปมาคลี่ปม....

แต่ก็ ดีใจด้วยครับ ที่ได้รถคืน...

เรื่องขโมย เนี่ย เดี๋ยวนี้ชุกชุมยิ่งกว่า ยุงในคลองน้ำเน่าซะอีกนะครับ...ผมเองก็โดนทุบกระจก เอา สมุดโน๊ต (Notebook) ไปเครื่องนึง....เพราะดันประมาทเอง วางไว้ที่เบาะหลัง ไม่ได้เก็บให้ดี...เหตุเกิดที่ ศรีวรา ท้องที่ สน.วังทองหลาง...ผล คือ หายไปกับสายลม

อีกครั้งโชคดีกว่า...เอารถจอดไว้ที่ สถานีหัวหมาก...แล้วหยิบกล้องไปถ่ายรูปรถไฟที่หัวลำโพง...ทิ้งโน๊ตบุค เครื่องใหม่ไว้ท้ายรถ...แล้วปิดไม่สนิท กลับมา ปรากฎว่า โน๊ตบุคอยู่ เพราะใส่เป้เก่าๆ โทรมๆไว้ แต่กระเป๋าโน๊ตบุค พร้อมตั๋วรถไฟหาย...รู้มั้ยครับ หายไปไหน เอาไป Refund เรียบร้อย แถม Refund ตรงสถานีหัวหมากที่ผมเพิ่ซื้อตั๋วนั่นแหละ...พี่ที่ขายตั๋วบอกว่า ยังสงสัยว่า เพิ่งซื้อไป ทำไมเอามาคืนแล้ว...และพี่เค้าจำได้แค่เป็นเด็กวัยรุ่นผอมๆ ตัวดำๆ ตัวผมเกรียน เท่านั้นแหละครับ...สรุปงานนั้น การรถไฟ ได้ เงินผม ซื้อตั๋วที่นั่งเดียวกัน ขบวนเดียวกัน แถมวันเดียวกัน 2 รอบ....
_________________
Click on the image for full size

Guitar · Posted: 05/08/2009 4:46 pm Post subject:

palm_gea · Posted: 05/08/2009 5:53 pm Post subject:

ดีแล้วที่ได้รถคืนไอ่น้อง รุ่นน้องพี่ที่ม.ก็เคยเหมือนกัน รถหายเลยโมโหเขวี้ยง N70 ลงพื้นแตก เลยพามันไปแจ้งความ พอวันรุ่งขึ้น อ้าว! ได้รถคืน เพราะตำรวจกำลังตามแก๊งค์นี้อยู่ ตะครุบได้ทั้งรถของกลางพร้อมหัวขโมย Exclamation

สรุป น้องพี่มันเสียแค่ N70 เครื่องเดียว ฮ่าๆ Razz

ป.ล. ตอนนี้ออร์เดอร์บุรีรัมย์เรา อันดับหนึ่งนี่คลิก สอง-ฟีโน่ สาม-มีโอ ใครมี 3 รุ่นนี้ทำประกันชั้น 1 เลย กันรถหาย Very Happy

_________________
Click on the image for full size