View previous topic :: View next topic |
Author |
Message |
Aishwarya
1st Class Pass (Air)


Joined: 11/01/2007 Posts: 1721
Location: นพบุรีศรีนครพิงค์เชียงใหม่
|
Posted: 17/03/2010 8:00 am Post subject: |
|
|
กำลังเดินชื่นชมกับความงามตามธรรมชาติ จู่ๆ ก็มีสาวน้อยมาสะกิดๆ แล้วก็บอกว่า "Quiero sacar foto contigo. (ขอถ่ายรูปด้วยได้มั๊ย)" ทำเอากลุ่มพวกเราอึ้ง มองหน้ากันไปๆ มาๆ แต่อีหนูนางก็มั่นจริงๆ สู้กล้องมากๆ ... เอาสิ กล้าขอ Cherie ก็กล้าประชัน ... ปลื้มจังค่ะ! เหมือนดารา เหมือน celebs เลย เดินไปไหน มีคนขอถ่ายรูปด้วย AY YY YYY YYYY ... เอาสิคะ! จัดให้.
เดินมาไกลพอสมควรได้ราวๆ ครึ่งหนึ่งของ PUENTE ROMANO [ปู เอน เต้ โร มา โน่] หรือ "สะพานแนว Roman" ... Cherie และเพื่อนๆ เหลียวมองกลับไปข้างหลัง โบสถ์อันศักดิ์สิทธิ์แะลมีชื่อเสียงของ Salamanca ก็เริ่มโดดเด่นมากขึ้นทุกที ยิ่งไกล ยิ่งสวย ว่าอย่างนั้น เลยอดใจไม่ไหวจะขอให้มีรูปนี้เกิดขึ้น ... ช่างลงตัวจริงๆ ค่ะ ทั้งสะพาน และโบสถ์ ... แบบนี้จะไม่ให้หลงรัก Salamanca ได้อย่างไรกัน.
ท่ามกลางอากาศที่หนาวเหน็บร่วม ๒ C แม้จะแดดเปรี้ยง และจ้าในยามทุ่มเศษๆ แต่พวกเราก็รู้สึกอบอุ่นเสมอ เมื่ออยู่ร่วมกัน ... ภาพนี้ยืนยันได้ค่ะ ต้องขอบคุณเป็นพิเศษทั้งไหม-อ. ภาสุรี, น้อง-อ. ไพลิน, นก-อ. เฟื่องเกษ เพื่อนๆ ทั้งหลายที่ให้การต้อนรับอย่างอบอุ่นจริงๆ ค่ะ. |
|
Back to top |
|
 |
Aishwarya
1st Class Pass (Air)


Joined: 11/01/2007 Posts: 1721
Location: นพบุรีศรีนครพิงค์เชียงใหม่
|
Posted: 17/03/2010 8:13 am Post subject: |
|
|
ยิ่งเดินไกลออกไปเท่าไหร่ โบสถ์อันศักดิ์สิทธิ์ที่เราเห็นลิบๆ ก็เริ่มชัดเจนขึ้นสวยงามขึ้น ดังภาพนี้ล่ะค่ะ ... เพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ชอบ Spain กันมั้ยคะ?
เค้าว่ากันว่า ยิ่งไกลออกมาเรื่อยๆ ลอง pose ท่าแบบนี้ดู จะเสมือนให้ความรู้สึกว่าโบสถ์แห่ง Salamanca อยู่บนอุ้งมือของเรา ... Cherie ก็เลยลองดูบ้างค่ะ พร้อมชี้ให้ดูด้วยว่า "นี่นะ โบสถ์อยู่บนมือแล้ว" ... น่าเสียดาย focus การประจำตำแหน่ง คลาดเคลื่อนไปซักนิด ... เอาเป็นว่าหยวนๆ นะคะ.
สำเร็จค่ะ WOO OO OOO OOOO! ! ! เราเดินข้ามแม่น้ำ Tormes ด้วยสะพาน Roman โบราณได้เป็นผลสำเร็จแล้ว ... เท่ากับว่า Cherie มาถึง Salamanca แล้วจริงๆ เสมือนไปเชียงใหม่ ก็ต้องไปวัดพระธาตุดอยสุเทพวรมหาวิหารให้ได้ จึงจะถึงเชียงใหม่โดยแท้จริง ฉันใดก็ฉันนั้น ... ดีใจจังเลยค่ะ ... เลยเก็บภาพสะพาน Roman ที่ดำเนินกันมาเมื่อซักครู่ใหญ่ พร้อมทั้งความวิจิตรตระการตาที่คู่กันได้อย่างลงตัว เคียงข้างกันกับโบสถ์แห่ง Salamanca ช่าง classic ราวกับเรากำลังชมภาพยนตร์ตะวันตกยุคศตวรรษที่ ๑๕ หรือ ๑๖ อะไรเทือกนั้นเลยนะคะ. |
|
Back to top |
|
 |
Aishwarya
1st Class Pass (Air)


Joined: 11/01/2007 Posts: 1721
Location: นพบุรีศรีนครพิงค์เชียงใหม่
|
Posted: 17/03/2010 8:26 am Post subject: |
|
|
เดินข้ามผ่านแม่น้ำ Tormes มาด้วยสะพานอันทรงเกียรติ ก็คงต้องเก็บภาพเป็นที่ระลึกกันหน่อยล่ะค่ะ ... ต้องรีบ pose เพราะแดดกำลังดีมากเลยทีเดียว สัญญาณแห่งการย่างก้าวเข้ามาของฤดูใบไม่ผลิเริ่มขึ้นทุกขณะๆ แล้ว ในขณะที่พื้นที่เวลากลางวันก็เริ่มยาวนานขึ้นกว่าที่เคยเป็นมา ... มีความสุขจริงๆ ค่ะ
ฝันมานานตั้งแต่เด็กๆ ว่าอยากจะมา Salamanca มาดินแดนแห่ง "อักษรศาสตร์" "วรรณกรรม" ตลอดจน "ศิลปวัฒนธรรม"
ขอยืมวลีเด็ดของพี่ๆ มาใช้ว่า --->>> "สมหวังจริงๆ สมหวังจริงๆ" ค่ะ! ! ! ! ! พร้อมอวดวงแขนขาวๆ แบบไม่ต้องใช้ Photoshop ใดๆ มาช่วยหน่อยนะคะ HAHAHAHA! ! ! (ก็วงแขนขาวจริง อะไรจริงนี่นะ แฮะๆ ๆ ๆ) SALAMANCA, TE QUIERO MUCHO --->>> SALAMANCA, I DO LOVE YOU |
|
Back to top |
|
 |
Aishwarya
1st Class Pass (Air)


Joined: 11/01/2007 Posts: 1721
Location: นพบุรีศรีนครพิงค์เชียงใหม่
|
Posted: 17/03/2010 7:40 pm Post subject: |
|
|
เมื่อสมหวังแล้ว ก็เดินกลับกัน เพื่อไปชื่นชมสถาปัตยกรรมที่สำคัญๆ หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า "sight-seeing tour" นั่นเอง ... Cherie ได้เจอกับอนุสาวรีย์ของตัวละครในวรรณกรรมที่สำคัญมากๆ ของ Spain ชิ้นนี้ค่ะ ... เพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ค่ะ นี่คือ "LAZARILLO DE TORMES Y EL CIEGO [ลา ธา รี โย่ เด โต ระ เมส อี เยล ธี เอ โก้]" หรือ "Lazarillo แห่ง Tormes และชายตาบอด"
----->>>>> แต่ตามนวนิยาย ซึ่งในขณะนี้ ในวิชาวรรณคดี Spanish Cherie ก็ได้เรียนเรื่องนี้พอดี ... เหมาะเจาะมากๆ ที่จะนำมาเล่าสู่กันฟัง ... จริงๆ แล้วเรื่องนี้ มีชื่ออย่างเป็นทางการว่า "LA VIDA DE LAZARILLO DE TORMES Y DE SUS FORTUNAS Y ADVERSIDADES" หรือ "ชีวิตของ Lazarillo แห่ง Tormes และมรสุมชีวิต และโชคชะตาของพ่อหนุ่มน้อย" --->>> เรื่องของเรื่องคือว่า ช่วงศตวรรษที่ ๑๖ ณ หมู่บ้าน Salamanca ของ Spain ที่ที่ Cherie กำลังถ่ายภ่าพนี้มาฝากนี่ล่ะค่ะ มีเด็กหนุ่มนามว่า Lazarillo โดยเค้าใช้ตัวเค้าเป็นตัวเดินเรื่องเลยทีเดียว ชีวิตของเค้าเริ่มต้นขึ้นด้วยความยากจนค่นแค้น แม่ก็เป็นแม่หม้าย เนื่องจากพ่อซึ่งเป็นทหารได้เสียชีวิตลงจากสงคราม Lazarillo เป็นเด็กใจบุญสุนทานมาก และได้ให้การช่วยเหลือชายตาบอดคนหนึ่ง จากนั้นเรื่องราวก็ดำเนินต่อไป ด้วยการผจญภัยของบุคคลทั้ง ๒ ... เป็นนวนิยายขึ้นชื่อของ Spain ที่น่าค้นหาคำตอบ และน่าอ่านมากๆ เลยค่ะ ... วิชาวรรณกรรม Spanish แม้จะยาก แต่ Cherie ชอบมากๆ ค่ะ และเช่นกัน ขอภาวนาให้ได้ A วิชานี้! ! ! |
|
Back to top |
|
 |
tuie
1st Class Pass (Air)


Joined: 09/07/2006 Posts: 12156
Location: สถานีบ้านตุ้ย
|
Posted: 17/03/2010 8:07 pm Post subject: |
|
|
Aishwarya wrote: | ยิ่งเดินไกลออกไปเท่าไหร่ โบสถ์อันศักดิ์สิทธิ์ที่เราเห็นลิบๆ ก็เริ่มชัดเจนขึ้นสวยงามขึ้น ดังภาพนี้ล่ะค่ะ ... เพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ชอบ Spain กันมั้ยคะ?  |
พี่ชอบสเปนมากเลยครับเจ้านางน้องอักษราวดีฯ เมือง Salamanca ก็สวยงามน่าเดินเที่ยวชมมาก แต่พอเจ้านางน้องฯบอกว่าอุณหภูมิ ณ เพลานี้แค่ ๒ องศาฯ สงสัยคนชราจะทนหนาวไม่ไหว คงต้องรอไปเยือนยุโรปในฤดูใบไม้ผลิ-ใบไม้ร่วง น่าจะดีกว่า
อาหารไทยที่ทำกันเองดูน่ารับประทานมาก ขอบคุณเจ้านางน้องฯที่นำภาพสวยๆและเรื่องราวสนุกๆมาเล่าให้พี่ๆน้องๆฟังอยู่เสมอ ขออวยชัยให้สมหวังถึง A วิชาวรรณคดีสเปนและวิชาอื่นๆด้วยนะครับ  _________________ นสน.าย./อ.ตุ้ย/อ.หลวงอัคคีเทพอาณัติ/
http//:www.facebook.com/VISIT-RAILWAY-MUSEUMS-1521959098131925/
 |
|
Back to top |
|
 |
Aishwarya
1st Class Pass (Air)


Joined: 11/01/2007 Posts: 1721
Location: นพบุรีศรีนครพิงค์เชียงใหม่
|
Posted: 17/03/2010 8:54 pm Post subject: |
|
|
P' Nop of pak_nampho wrote: | เชรี่...ไม่มีแกงโฮ๊ะในเมนูเลยอ่ะครับ... |
จริงด้วยค่ะ พี่นพ ... เป็น menu ที่ Cherie คิดถึงมากๆ ๆ ๆ ค่ะ ทว่า ทำยากค่ะ องค์ประกอบหลายๆ อย่างไม่ครบค่ะ ตอนนี้คิดถึงอาหารไทยมากที่สุดค่ะ ถ้าได้ไปเมืองไทย menu แรกที่ต้องขอทานก่อนเลย คือ สุดโปรด "ไข่เยี่ยวม้ากะเพรากรอบ" นั่นเองค่ะ
tuie wrote: | พี่ชอบสเปนมากเลยครับเจ้านางน้องอักษราวดีฯ เมือง Salamanca ก็สวยงามน่าเดินเที่ยวชมมาก แต่พอเจ้านางน้องฯบอกว่าอุณหภูมิ ณ เพลานี้แค่ ๒ องศาฯ สงสัยคนชราจะทนหนาวไม่ไหว คงต้องรอไปเยือนยุโรปในฤดูใบไม้ผลิ-ใบไม้ร่วง น่าจะดีกว่า
อาหารไทยที่ทำกันเองดูน่ารับประทานมาก ขอบคุณเจ้านางน้องฯที่นำภาพสวยๆและเรื่องราวสนุกๆมาเล่าให้พี่ๆน้องๆฟังอยู่เสมอ ขออวยชัยให้สมหวังถึง A วิชาวรรณคดีสเปนและวิชาอื่นๆด้วยนะครับ  |
ขอบคุณพี่ตุ้ยมากๆ เลยค่ะ สำหรับคำอวยพร มีกำลังใจขึ้นแยะเลยค่ะ ทุกวันนี้การเรียนเริ่มหนักขึ้นแล้ว เพราะแต่ละวิชา อาจารย์กระหน่ำโหมสั่งการบ้านสุดๆ เลยค่ะ หลากหลายวิชามาก แต่วิชาสุดโปรดอย่างวรรณคดี Spanish อาจารย์กลับไม่สั่ง แต่ Cherie ก็จะตั้งใจทำทุกอย่างให้ดีที่สุดล่ะค่ะ.
จะบอกพี่ตุ้ย และเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ค่ะ ว่า วันที่ Cherie ไป Salamanca เสาณื อาทิตย์ที่ผ่านมา หนาวมาก หนาวเหน็บทีเดียว แต่มหัศจรรย์มาก จู่ๆ Spain ก็ร้อนพรึ่บขึ้นมาตั้งแต่วันจันทร์ คล้ายๆ ว่า เมื่อเสาร์ อาทิตย์ที่ผ่านมา เป็นหนาวส่งท้ายอะไรอย่างนั้น เพราะตอนนี้อุณหภูมิที่นี่อยู่ที่ ๑๙ ถึง ๒๐ C ร้อนทีเดียวค่ะ แดดเปรี้ยงมากๆ หลายๆ คนไม่สวมเสื้อ coat กันแล้ว ผู้ชายสวมเสื้อยืดมาเรียนกันตามสบายเลย เข้าใจว่าเป็นสัญญาณการเข้าสู่ฤดูใบไม้ผลิแล้วล่ะค่ะ เพราะวันที่ ๒๑ มีนาคม ที่จะถึงนี้ ก็จะเป็นฤดูดังกล่าวแล้วจริงๆ และขณะที่ Cherie กำลังลงกระทู้นี่อยู่ แดดก็จัดมากๆ มองออกไปข้างนอก เป็นสีส้มไปหมด แถมท้องฟ้าก็เปิด ไม่มีเมฆซักก้อนเลย ร้อนจริงๆ ค่ะ ไม่อยากจินตนาการเลยว่า กรกฎาคม สิงหาคม จะขนาดไหนกับ summer ปีนี้ ๒๐๑๐.
!*!*!*!*!*!*!*!*!*!*!*!*!*!*!*!*!*!*!*!*!*!*!*!*!*!*!*!*!*!*!*!
เราไปสำรวจกันทางอื่นกันบ้าง ระหว่างทางที่เราจะไปยังโบสถ์ที่เราเห็นลิบๆ ที่สะพานเมื่อซักครู่นี้ ซึ่งเป็นโบสถ์ใหม่ของเมือง ก็มีอันต้องประสบพบเจอกับโบสถ์เก่าค่ะ ... Salamanca เป็นนครแห่งมรดกทางวัฒนธรรม เป็นเมืองที่มีโบสถ์ประจำเมืองที่สำคัญๆ ถึง ๒ แห่งด้วยกัน ... ก็ตามภาพนี้เลยค่ะ.
บริเวณยอดปลายบนสุดของโบสถ์ ฉลุลวดลายสวยงามเป็นชั้นๆ เป็นชิ้นขนมผิงซ้อนๆ กันเลยเชียว ... Cherie ล่ะ pleased จริงๆ ค่ะ กับเรื่องราวอะไรแบบนี้.
เอากับเค้า ... พวก gravity ทำลายทัศนียภาพความน่าจะเป็นของเมือง ... มีมันได้ทั่วประเทศจริงๆ ... แต่เนื่องจากเป็นนครแห่งวรรณกรรม อักษรศาสตร์ ไม่รู้ว่าเค้าจงใจหรือว่าบังเอิญก็ไม่ได้ทราบได้ ก็ยังไม่วาย gravity ออกมาเป็นโคลงกลอนตามคำพูดของตัวละครชื่อดัง ซึ่งเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก --->>> LITTLE PRINCE นั่นเอง ... แต่ใน Spain เราเรียกนวนิยายเรื่องนี้ว่า PRINCIPITO [ปะ ริน ธิ ปิ โต้] นะคะ --->>> ไหนๆ ก็พ่นแล้ว เลยเอามาแปลให้เพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ฟังซะเลย ... Little Prince กล่าวด้วยความสงสัย ในท่อนหนึ่งของเรื่องราว ด้วยความเยาว์วัย ไร้เดียงสา ว่า.-
"... Me pregunto si las estrellas se iluminan con el fin de que algun dia cada uno pueda encontrar la suya ..." --->>> "ฉันสงสัยจังว่าดวงดาวจะส่องแสงสกาวพร่างพราวไปชั่วกัลปวสาน จนคนเรา ในที่สุดแล้ว จะค้นพบดวงดาวประจำตัวได้หรือไม่ เมื่อวันนั้นมาถึง."
ช่างกล้าพ่น gravity เป็นกวีเนอะ ... ถึงจะเพราะพริ้ง แต่เมืองทั้งเมืองมิควรจะมีอะไรรกตาอะไรเช่นนี้เลยจริงๆ เพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ว่าไงคะ? |
|
Back to top |
|
 |
Aishwarya
1st Class Pass (Air)


Joined: 11/01/2007 Posts: 1721
Location: นพบุรีศรีนครพิงค์เชียงใหม่
|
Posted: 17/03/2010 9:28 pm Post subject: |
|
|
ของเด็ดอยู่ตรงนี้ค่ะ AY YY YYY! ! ! ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าสำนวน Spanish สำนวนหนึ่ง ซึ่งเป็นสำนวนทำนอง "เรื่องอย่างว่า " จะเกิดขึ้นจากตำนานนวนิยายโบราณ และสถานที่แห่งนี้! !
ขอเกริ่นก่อนค่ะว่าที่นี่คือ HUERTO DE CALIXTO Y MELIBEA [อู เอ ระ โต้ เด กา ลิ๊กซ์ โต้ อี เม ลิ เบ อา] --->>> สวนในตำนานซึ่งเป็นเรื่องราวความรักระหว่างหนุ่มสาวชื่อว่า Calixto และ Melibea ซึ่งทั้งสองรักกัน และถูกกีดกันจากครอบครัวของแต่ละฝ่าย เมื่อจะนัดพบกัน "พลอดรักกัน" ก็จะมาที่สวนแห่งนี้เสมอๆ นี่ล่ะค่ะ จึงเป็นที่มาของสำนวนเด็ดว่า "V. llevar alguien al huerto" แปลตรงตัวตามอักษร มันก็ได้ใจความว่า "พาใครไปสวน" แต่จริงๆ แล้ววลีนี้มาว่า "พากันไป..." อย่างว่านั่นเองค่ะ HAHAHAHAHA! ! ! ! น่าจะตรงกับสำนวนไทย "ไปม่านรูดกันมั้ย" นั่นเองล่ะมั้ง AY Y Y Y! ! ! !
ก็ยังดีค่ะ ที่ความรักของหนุ่มสาวทั้ง ๒ สมหวัง เพราะอะไรน่ะเหรอ ... เพราะมีแม่สื่อเป็น "แม่มด" และมีเวทย์มนต์คาถาน่ะสิคะ ... นี่คือ ESCENA DE CELESTINA [เอส เธ น่า เด เธ เลส ตี น่า] แม่มดเฒ่าผู้คอยช่วยเหลือเมื่อหนุ่มสาวทั้ง ๒ ตกอยู่ในภาวะเสี่ยง และความไม่สมปรารถนา จนทั้งสองได้ครองรักกันในที่สุด ... เก๋นะ! มีแม่สื่อแม่ชักเป็นถึงแม่มด หมอผี เริ่ดค่ะ!  |
|
Back to top |
|
 |
Aishwarya
1st Class Pass (Air)


Joined: 11/01/2007 Posts: 1721
Location: นพบุรีศรีนครพิงค์เชียงใหม่
|
Posted: 17/03/2010 9:44 pm Post subject: |
|
|
น่าเสียดายที่ภายในสวน ไม่มีพิชพรรณใดๆ เลยค่ะ เพราะยังอยู่ในช่วงหนาว โกร๋นหมดเลย เราเลยเบนความสนใจมายังจุดชม view ภายในสวนกัน ซึ่งตั้งอยู่บนที่สูงมากๆ ทำให้เห็นทิวทัศน์ของ Salamanca ในยามเย็นเช่นนี้ค่ะ.
เวลาในขณะนี้ ราวๆ ๒ ทุ่ม ๑๕ นาทีได้ ... พระอาทิตย์เริ่มจะลาลับขอบฟ้าแล้วล่ะค่ะ ... Salamanca ยามอาทิตย์อัสดงนี่สวยงามเอาเรื่องอยู่นะ. |
|
Back to top |
|
 |
Aishwarya
1st Class Pass (Air)


Joined: 11/01/2007 Posts: 1721
Location: นพบุรีศรีนครพิงค์เชียงใหม่
|
Posted: 18/03/2010 9:51 pm Post subject: |
|
|
Salamanca เหมือน San Francisco ในสหรัฐฯ อย่างนึงค่ะ คือเมืองตั้งอยู่บนเขา ฉะนั้นแล้ว เพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ คะ หากมาเที่ยว Salamanca จะต้องมันส์มากๆ กับการเดินขึ้นเนิน ลงเนิน เป็นอย่างนี้ตลอดเวลา และเป็นเมืองที่มีเอกลักษณ์มากๆ เพราะพื้นทำด้วยหินศิลาก้อนต่างๆ มารวมๆ กัน เรียกได้ว่าเป็นเมืองอนุรักษ์นิยม นอกเหนือจากเมืองหลวงแห่งมรดกทางวัฒนธรรมของ Europe จริงๆ ค่ะ.
อีกหนึ่งความน่าสนใจ และเป็นชุด highlight ของเมือง ... นี่คือ CUEVA DE SALAMANCA [กู เอ บ้า เด ซา ลา มาง ก้า] หรือ "ถ้ำแห่ง Salamanca" นั่นเองค่ะ ... สำคัญอย่างไรเหรอ? ... ถ้ำแห่งนี้ตั้งอยู่ใจกลางเมืองเลยล่ะค่ะ ถ้ำแห่งนี้มีเรื่องเล่าเป็นตำนานมานานแสนนานเลยล่ะค่ะ ว่ากันว่าเป็นถ้ำปีศาจ มีปีศาจอาศัยอยู่ แต่เมื่อเวลาผ่านไป ความเชื่อเริ่มเปลี่ยนไป แล้วในที่สุดก็ได้รับการผนวกให้เข้าเป็นส่วนหนึ่งของโบสถ์ SAN CEBRIAN [ซาน ธิ บะ รี อาน] ในที่สุดค่ะ |
|
Back to top |
|
 |
|