นำชมพิพิธภัณฑ์การขนส่งแห่งเยอรมนี (Deutsches Museum Verkehrszentrum),

[tuie]

มุมนี้เป็นซุ้มมีทางเดินวน “ก้นหอย” เข้าไปได้ ข้างในมีอะไรให้ดู สงสัยจริงๆ สงสัยจริงๆ



เดินเข้าไปตามทาง “ก้นหอย” ก็เห็นภาพผู้มีคุณูปการต่อวงการอุตสาหกรรมยานยนต์ในโลก และประวัติติดไว้ที่ผนังหลายท่าน เช่น Carl Benz หนึ่งในผู้ก่อตั้งกิจการรถยนต์เมอร์ซิเดส-เบนซ์, Henry Ford, Werner von Siemens เป็นต้น สังเกตว่า “นามสกุล” ของท่านเหล่านี้นำมาใช้เป็นชื่อยี่ห้อของผลิตภัณฑ์ยานยานต์ที่เราคุ้นหูกันดีในปัจจุบันทั้งนั้นเลยครับ



ใกล้ๆกับซุ้ม “ก้นหอย” เป็นนิทรรศการว่าด้วยแม็คเล็ฟ-รถไฟพลังแม่เหล็ก(ไม่ใช้ล้อ) ซึ่งเยอรมันเป็นผู้คิดค้น ทดลองใช้แต่ยังไม่กล้านำมาใช้งานจริงในเยอรมนี คงส่งออกไปจำหน่ายให้แก่ประเทศจีนใช้ทำขบวนในเส้นทางเชื่อมสนามบินผู่ตง มหานครเซียงไฮ้ ด้วยความเร็วกว่า ๔๐๐ ก.ม./ช.ม.


_________________
นสน.าย./อ.ตุ้ย/อ.หลวงอัคคีเทพอาณัติ/
http//:www.facebook.com/VISIT-RAILWAY-MUSEUMS-1521959098131925/

[tuie]

เลี้ยวกลับไปชมรถยนต์โบราณกันต่อครับ รถยนต์โบราณในภาพนี้ คือ Ford Model T (Tin Lizzie) ปี1922 นับว่าเป็นรถยนต์รุ่นแรกที่ผลิตจากโรงงานในคราวละมากๆ เพื่อลดต้นทุนต่อหน่วยการผลิต ส่งผลให้ราคาจำหน่ายถูกลงอย่างมาก



วงการอุตสาหกรรมรถยนต์เมื่อราว ๑๐๐ ปีก่อน ก็เริ่มตระหนักถึงหลักอากาศพลศาสตร์ในการออกแบบรถยนต์แล้ว ดังจะเห็นได้จากรถยนต์ Rumpler “Teardrop” Automobile ซึ่งผลิตโดย Rumpler Motor Company, Berlin เมื่อปี ค.ศ.1922



รถยนต์คันนี้มีค่าสัมประสิทธิการเสียดทานอากาศ (ค่า CD) แค่ 0.28 ซึ่งนับว่ามีค่า CD น้อยกว่า(ลู่ลมกว่า)รถยนต์ในยุคปัจจุบันหลายๆรุ่นเชียวละครับ


_________________
นสน.าย./อ.ตุ้ย/อ.หลวงอัคคีเทพอาณัติ/
http//:www.facebook.com/VISIT-RAILWAY-MUSEUMS-1521959098131925/

[tuie]

รถสปอร์ตสีแดงในภาพนี้ คือ Alfa Romeo 6C “Grand Sport” รุ่นปี ค.ศ.1931 ใช้เครื่องยนต์ ๖ สูบ ความจุ 1752 cc กำลังสูงสุด 70 kw (95 hp) ความเร็วสูงสุด 165 ก.ม./ช.ม. ซึ่งนับว่าเร็วมากในยุคนั้นครับ



BMW 507 Gran Tourismo เป็นรถยนต์สปอร์ตที่ใช้วัสดุน้ำหนักเบา อีกทั้งยังได้รับการออกแบบให้ดูล้ำสมัยในช่วงทศวรรษที่ ๕๐ เห็นตัวรถขนาดกะทัดรัดแบบนี้แต่มีพละกำลังเหลือเฟือด้วยเครื่องยนต์ V8 ความจุ 3168 cc ผลิตกำลังได้สูงสุด 110 kw (150 hp)/5000 RPM ความเร็วสูงสุด 220 ก.ม./ช.ม. แน่ะครับ



รถยนต์สปอร์ต Porche 911 S รุ่นปี 1967 คันนี้มีสีเงินตามธรรมชาติของวัสดุที่ใช้ทำตัวถังรถอยู่แล้ว เนื่องจากเป็น Stainless-Stell Car ครับ


_________________
นสน.าย./อ.ตุ้ย/อ.หลวงอัคคีเทพอาณัติ/
http//:www.facebook.com/VISIT-RAILWAY-MUSEUMS-1521959098131925/

[rimura]

อลังการและยิ่งใหญ่มากๆครับ ได้ความรู้เกี่ยวกับวิวัฒนาการทางยานยนต์จากประเทศที่ได้ชื่อว่าเป็นผู้นำด้านยานยนต์ของโลกอย่างเยอรมันเยอะเลย ยานยนต์บางชนิดที่ผมเคยได้ยินแต่ชื่อ หรือคำบอกเล่า และคิดว่าไม่มีตัวตนเหลืออยู่แล้วก็ได้เห็นเป็นที่ประจักษ์ก็คราวนี้เองครับ

ขอบคุณมากๆครับผม รอติดตามชมต่อนะครับ อ.ตุ้ย

[tuie]

^
ขอบคุณครับ คุณ rimura

พิพิธภัณฑ์การขนส่งแห่งเยอรมนี ณ มิวนิค นี้มีการจัดแสดงน่าสนใจมากจริงๆ ไม่ว่าจะเป็นผู้ชื่นชอบการขนส่งทางรถยนต์ รถไฟ รับรองว่าไม่ผิดหวังเดินชมเพลินๆได้ทั้งวันเชียวละครับ ที่ผมคัดภาพมาลงกระทู้เพียงแค่ประมาณ หนึ่งในห้า ของที่ถ่ายภาพพิพิธภัณฑ์นี้เอง ด้วยเกรงว่ากระทู้จะยาวเยิ่นเย้อมากเกินไปครับ

-------------------------------------------------------------------------

นอกจากรถยนต์เก๋ง รถยนต์สปอร์ตแล้ว ภายในพิพิธภัณฑ์การขนส่งยังมีรถยนต์บรรทุกยุคบุกเบิกสมัยปี ค.ศ.1903 ให้ชมด้วยครับ



รถยนต์บรรทุกคันนี้ คือ Brussing ZU 550 ผลิตโดย H. Brussing Special Factory for Motor Trucks, Braunschweig ใช้เครื่องยนต์เบนซินสองสูบระบายความร้อนด้วยน้ำ ขนาดความจุ 2250 cc ผลิตกำลังสูงสุดได้ 6.6 kw(9 hp) น้ำหนักตัวรถ 3450 ก.ก. น้ำหนักบรรทุก 3000 ก.ก. ความเร็วสูงสุด 15 ก.ม./ช.ม. คุณสมบัติแค่นี้ก็สร้างความฮือฮาในแวดวงการขนส่งเมื่อกว่า ๑๐๐ ปีก่อนแล้ว เนื่องจากมีประสิทธิภาพและประหยัดค่าใช้จ่ายยิ่งกว่าการขนส่งโดยรถยรรทุกเทียมม้าตั้งหลายเท่าแน่ะครับ



พลังขับเคลื่อนจากเครื่องยนต์ที่อยู่ด้านหน้าส่งผ่านมายังโซ่ซึ่งขับล้อหลังทั้งสองล้ออีกทอดหนึ่ง ไม่เห็นเฟืองท้ายและเพลาขับล้อคู่หลังแบบรถยนต์บรรทุกขับเคลื่อนล้อหลังในยุคปัจจุบันนะครับ


_________________
นสน.าย./อ.ตุ้ย/อ.หลวงอัคคีเทพอาณัติ/
http//:www.facebook.com/VISIT-RAILWAY-MUSEUMS-1521959098131925/

[tuie]

เด็กๆมาเที่ยวชมพิพิธภัณฑ์การขนส่งเป็นจำนวนมาก ถ้าเด็กๆอยากเล่นสนุกโดยไม่ใช้บันได ก็ใช้อุโมงค์ในภาพนี้ลื่นลงจากชั้นลอยมายังชั้นล่างได้ครับ



มุมนี้จัดเป็นที่ฟังคำบรรยายเกี่ยวกับการซ่อมบำรุงยานยนต์ โดยมีอุปกรณ์ซ่อมของจริงเป็นสื่อการสอนครับ



มองต่อไปทางซ้ายเป็นสื่อการสอนว่าด้วยการซ่อมบำรุงรถจักรยานยนต์ครับ


_________________
นสน.าย./อ.ตุ้ย/อ.หลวงอัคคีเทพอาณัติ/
http//:www.facebook.com/VISIT-RAILWAY-MUSEUMS-1521959098131925/

[black_express]

เห็นระบบส่งกำลังรถบรรทุกสมัยเจ้าคุณปู่แล้ว ถ้าสเตอร์รูด หรือโซ่ขาดเมื่อใด ก็บ่มิไก๊ตรงนั้นกระมังครับ ?

[tuie]

^
สงสัยต้องขนถ่ายใส่รถบรรทุกเทียมม้าดุจเดิมครับพี่ตึ๋ง

----------------------------------------------------------

ใต้ทางเดินชั้นลอยมีป้ายจราจรในอดีตรูปแบบต่างๆแขวนไว้ให้ชม



มุมนี้เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับวิวัฒนาการของจักรยานครับ


_________________
นสน.าย./อ.ตุ้ย/อ.หลวงอัคคีเทพอาณัติ/
http//:www.facebook.com/VISIT-RAILWAY-MUSEUMS-1521959098131925/

[ALTP]

สวัสดีครับอาจารย์ เห็นฝรั่งเค้าเก็บเอาของเก่าๆไว้ให้คนรุ่นหลังได้ดูแล้ว อยากให้เมืองไทยมีอย่างฝรั่งเค้าจริงๆ

[tuie]

^
ระหว่างที่สยามประเทศยังไม่มีพิพิธภัณฑ์รถไฟไทย(ของแท้) หรือพิพิธภัณฑ์การขนส่งที่ดีๆ เราก็ร่วมด้วยช่วยกันเก็บรักษา สะสมสิ่งของ วัตถุ ข้อมูลอันทรงคุณค่าทางประวัติศาสตร์ไปก่อนก็ได้ครับคุณตูม เผื่อวันข้างหน้าจะได้บริจาคแก่พิพิธภัณฑ์ฯเพื่อรักษาไว้เป็นสมบัติของชาติต่อไปทำนองเดียวกับพิพิธภัณฑ์ดีๆในต่างประเทศครับ

---------------------------------------------------------------------------

เข้าไปชมจักรยานโบราณเหล่านี้กันใกล้ๆดีกว่าครับ



จักรยานรุ่นบุกเบิกยังใช้ระบบ “ถีบตรง” กล่าวคือ ผู้ขี่จักรยานต้องส่งกำลังขาไปยังที่ถีบซึ่งติดตั้งที่แกนล้อหน้าโดยตรง นับว่าเป็นระบบ “ขับเคลื่อนล้อหน้า” แตกต่างจากจักรยานในยุคหลังๆครับ



จักรยานโบราณประเภทล้อโตส่วนมากล้อโตจะเป็นล้อหน้า ส่วนล้อหลังเป็นล้อเล็ก แต่จักรยานคันนี้ล้อหน้ากลับเป็นล้อเล็ก ส่วนล้อหลังเป็นล้อโตโดยมีกลไกส่งกำลังขาถีบหมุนล้อหลังครับ


_________________
นสน.าย./อ.ตุ้ย/อ.หลวงอัคคีเทพอาณัติ/
http//:www.facebook.com/VISIT-RAILWAY-MUSEUMS-1521959098131925/