Ads Service

Main Menu

 
icon_home.gif Homepage
icon_community.gif Members Zone
· ข้อมูลส่วนตัว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ข่าวสารส่วนตัว
· บริการเว็บเมล์
· กระดานข่าว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก กระดานฝากข้อความ
· รถไฟไทยแกลลอรี่
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก รายนามสมาชิก
· แบบสำรวจ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก สมุดเยี่ยม
· เกี่ยวกับสมาชิก
favoritos.gif News & Stories
· เรื่องทั้งหมด
· เนื้อหาสาระ
· เรื่องสำหรับพิมพ์
· ยอดฮิตติดอันดับ
· ค้นหาข่าวสาร
· ค้นหากระทู้เก่า
nuke.gif Contents
· กำหนดเวลาเดินรถ
· ประเภทขบวนรถโดยสาร
· ข้อมูลเส้นทางรถไฟ
· แผนที่เส้นทางรถไฟ
· อัตราค่าโดยสาร
· คำนวณค่าโดยสารรถไฟ
· รูปแบบการให้บริการรถไฟ
· หมายเลขโทรศัพท์ที่สำคัญ
· ทริปท่องเที่ยวโดยรถไฟ
· ระบบติดตามขบวนรถ
som_downloads.gif Services
· Downloads
· GoogleSearch
· Hotels Booking
· FlashGames
· Wallpaper 1
· Wallpaper 2
· Wallpaper 3
· Wallpaper 4
icon_members.gif Information
· เกี่ยวกับเรา
· นโยบายความเป็นส่วนตัว
· แผนผังเว็บไซต์ฯ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ส่งข้อแนะนำติชม
· ติดต่อลงโฆษณา
· แนะนำและบอกต่อ
· สถิติทั้งหมด
· สำหรับผู้ดูแลระบบ
 

Sponsors

 

Ads Service

 

Visitors

 


มีผู้เข้าเยี่ยมชม
สมาชิก:311903
ทั่วไป:13574603
ทั้งหมด:13886506
คน ตั้งแต่
01-08-2004
 


Rotfaithai.Com :: View topic - ข่าว รฟท จาก หนังสือพิมพ์
 Forum FAQForum FAQ   SearchSearch   UsergroupsUsergroups   ProfileProfile   Log in to check your private messagesLog in to check your private messages   Log inLog in 

ข่าว รฟท จาก หนังสือพิมพ์
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 333, 334, 335 ... 486, 487, 488  Next
 
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับรถไฟไทย
View previous topic :: View next topic  
Author Message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 43714
Location: NECTEC

PostPosted: 09/04/2019 8:56 pm    Post subject: Reply with quote

Wisarut wrote:
รถไฟเพิ่ม 18 ขบวนพิเศษ รองรับ 1 แสนคน / วัน
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
เผยแพร่: 8 เมษายน 2562 22:15
”


ไม่ต้องรอขบวนสุดท้าย! รถไฟเพิ่ม 18 ขบวนพิเศษรับวันละแสนคนเที่ยวสงกรานต์
พร็อพเพอร์ตี้
วันที่ 8 เมษายน 2562 16:39 น.

การรถไฟแห่งประเทศไทย เตรียมความพร้อมอำนวยความสะดวกรองรับการเดินทางแก่พี่น้องประชาชนช่วงเทศกาลสงกรานต์ปี 2562 ระหว่างวันที่ 11-17 เมษายน 2562 โดยเพิ่มเที่ยวขบวนรถพิเศษช่วยการโดยสาร 18 ขบวน และพ่วงตู้โดยสารเพิ่มจนเต็มหน่วยลากจูงในขบวนรถที่มีการวิ่งให้บริการเป็นประจำในทุกเส้นทาง 242 ขบวน พร้อมจัดศูนย์ปลอดภัยเทศกาลสงกรานต์ ดูแลประชาชนตลอดการเดินทาง มั่นใจไม่มีปัญหาผู้โดยสารตกค้างแน่นอน
นายวรวุฒิ มาลา รองผู้ว่าการกลุ่มธุรกิจการบริหารทรัพย์สิน รักษาการในตำแหน่งผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า การรถไฟฯได้เตรียมความพร้อมการอำนวยความสะดวกการเดินทางในช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2562 ระหว่างวันที่ 11-17 เมษายน 2562 เพื่อรองรับการเดินทางของพี่น้องประชาชนที่คาดว่าจะเดินทางโดยรถไฟกลับภูมิลำเนาและท่องเที่ยวจำนวนมาก

ทั้งนี้ ได้มีการจัดเตรียมความพร้อมด้วยการพ่วงตู้โดยสารเพิ่มจนเต็มหน่วยลากจูงในขบวนรถที่วิ่งให้บริการปกติทุกสายทั่วประเทศ 242 ขบวน และยังได้เตรียมเปิดเดินขบวนรถพิเศษช่วยการโดยสารเพิ่มเติมจากขบวนประจำอีก 18 ขบวน ในระหว่างวันที่ 11-13 เมษายน 2561 (เที่ยวไป 8 ขบวน) และวันที่ 15-17 เมษายน 2561 (เที่ยวกลับ 10 ขบวน) ทำให้สามารถรองรับการเดินทางของผู้โดยสารได้สูงสุดถึง 100,000 คนต่อวัน



โดยมีขบวนรถพิเศษช่วยการโดยสารเพิ่มเติม ประกอบด้วย

นายวรวุฒิกล่าวเพิ่มว่า การรถไฟฯ ยังได้จัดตั้งศูนย์ปลอดภัยเทศกาลสงกรานต์ เพื่อทำหน้าติดตาม ประสานงานกับฝ่ายที่เกี่ยวข้องในการเดินทางของผู้โดยสาร การสั่งการแก้ไขเหตุอันตราย รวบรวมสถิติผู้โดยสารตลอดช่วงเทศกาลฯ วันที่ 11-17 เมษายน 2562

เพื่อเพิ่มความสะดวกและความปลอดภัยแก่ผู้โดยสาร ขณะเดียวกัน การรถไฟฯ ยังได้ตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์ในลมหายใจ การตรวจหาสารเสพติดให้กับพนักงานขับรถ เจ้าหน้าที่ประจำขบวนรถ และประจำสถานี ก่อนปฏิบัติหน้าที่ พร้อมทั้งสั่งการให้เพิ่มความเข้มงวดเรื่องห้ามจำหน่ายและดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และสารเสพติด บนขบวนรถและบริเวณสถานีรถไฟ โดยได้ประสานงานขอความร่วมมือไปยังกองบังคับการตำรวจรถไฟ เพื่อเพิ่มความเข้มข้นในการตรวจตราอีกทางหนึ่งด้วย



นอกจากนี้ การรถไฟฯ ยังได้ประกาศงดเดินขบวนรถนำเที่ยวเส้นทางกรุงเทพ – สวนสนประดิพัทธ์ กรุงเทพ – น้ำตกไทรโยค ระหว่างวันที่ 11-17 เมษายน 2562 เพื่อนํารถพ่วงมาใช้หมุนเวียนในช่วงเทศกาลสงกรานต์

//----------------

การรถไฟแห่งประเทศไทย สรุปยอดผู้โดยสารใช้บริการรถไฟเดินทางล่วงหน้าก่อนเทศกาลสงกรานต์ ระหว่างวันที่ 5-8 เมษายน 2562 รวมจำนวน 403,639 ราย
********************************
การรถไฟแห่งประเทศไทย สรุปยอดผู้โดยสารใช้บริการรถไฟเดินทางล่วงหน้าก่อนเทศกาลสงกรานต์ ระหว่างวันที่ 5-8 เมษายน 2562 รวมจำนวน 403,639 ราย พร้อมคาดประชาชนใช้บริการรถไฟเดินทางไปกลับภูมิลำเนาและท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่องตลอดเทศกาลสงกรานต์ ช่วงระหว่างวันที่ 11-17 เมษายน 2562 โดยเพิ่มขบวนรถพิเศษอีก 15 ขบวน และพ่วงตู้โดยสารเพิ่มในขบวนรถปกติจนเต็มหน่วยลากจูงทั้ง 242 ขบวน รองรับการเดินทางได้ถึงวันละ 100,000-120,000 คน

นายวรวุฒิ มาลา รองผู้ว่าการกลุ่มธุรกิจการบริหารทรัพย์สิน รักษาการในตำแหน่งผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย เปิดเผยสถานการณ์การเดินทางของผู้โดยสารช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ระหว่างวันที่ 5-8 เมษายน 2562 พบว่า มีประชาชนใช้บริการรถไฟเดินทางกลับภูมิลำเนา และท่องเที่ยวต่างจังหวัด เพื่อฉลองเทศกาลสงกรานต์ล่วงหน้าจำนวนมาก โดยตลอด 4 วัน มีผู้โดยสารเดินทางโดยรถไฟทั่วประเทศทั้งสิ้น 403,639 ราย

ทั้งนี้พบว่า วันที่ 5 เมษายน 2562 เป็นวันที่ประชาชนใช้รถไฟเดินทางมากสุดจำนวน 92,372 ราย รองลงมาเป็นการเดินทางวันที่ 6 เมษายน 2562 จำนวน 86,602 ราย การเดินทางวันที่ 7 เมษายน 2562 จำนวน 63,137 ราย และเดินทางวันที่ 8 เมษายน 2562 จำนวน 64,069 ราย สำหรับเส้นทางที่มีประชาชนเดินทางมากที่สุด อันดับหนึ่งเป็นรถไฟสายใต้ จำนวน 149,725 ราย รองลงมาเป็นสายอีสาน จำนวน 105,463 ราย สายเหนือ จำนวน 83,163 ราย สายตะวันออก จำนวน 44,383 ราย สายมหาชัย จำนวน 17,160 ราย และสายแม่กลอง จำนวน 3,745 ราย
“การรถไฟฯประเมินว่าแม้จะมีประชาชนทยอยเดินทางกลับไปฉลองเทศกาลสงกรานต์ล่วงหน้าไปแล้ว แต่ก็ยัง
คาดว่าจะมีผู้โดยสารใช้รถไฟเดินทางช่วงเทศกาลสงกรานต์วันที่ 11-17 เมษายน 2562 อีกจำนวนมากเช่นกัน เนื่องจากในปีนี้รัฐบาลประกาศให้มีวันหยุดเพิ่มเติมในวันที่ 12 เมษายน 2562 ทำให้หยุดยาวรวม 5 วัน ประกอบกับขณะนี้มียอดจองตั๋วโดยสารล่วงหน้าเต็มหมดทุกที่นั่งแล้ว”

นายวรวุฒิกล่าวว่า อย่างไรก็ตามระหว่างนี้การรถไฟแห่งประเทศไทย ยังได้มีการจัดมาตรการอำนวยความสะดวกการเดินทางในช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2562 ระหว่างวันที่ 11-17 เมษายน 2562 ไว้พร้อมแล้ว ซึ่งเพียงพอรองรับการเดินของพี่น้องประชาชนทุกคน ไม่เกิดปัญหาผู้โดยสารตกค้างตามสถานีตลอดช่วงเทศกาลสงกรานต์อย่างแน่นอน โดยได้มีการพ่วงตู้โดยสารเพิ่มจนเต็มหน่วยลากจูงในขบวนรถที่วิ่งให้บริการปกติทุกสายทั่วประเทศ 242 ขบวน นอกจากนี้ยังได้เตรียมเปิดเดินขบวนรถพิเศษช่วยการโดยสารเพิ่มเติมจากขบวนประจำอีก 18 ขบวน แบ่งเป็นเที่ยวไป ระหว่างวันที่ 11-13 เมษายน 2562 จำนวน 8 ขบวน และเที่ยวกลับระหว่างวันที่ 15-17 เมษายน 2562 จำนวน 10 ขบวน สามารถรองรับการเดินทางของผู้โดยสารสูงสุดถึง 100,000-120,000 คนต่อวัน

ทั้งนี้ผู้โดยสารสามารถสอบถามข้อมูลการเดินทางเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์บริการลูกค้าสัมพันธ์ หมายเลขโทรศัพท์ 1690 ตลอด 24 ชั่วโมง หรือเฟซบุ๊ก แฟนเพจ ทีมพีอาร์การรถไฟแห่งประเทศไทย โดยการรถไฟฯ คาดหวังว่าในการดำเนินมาตรการอำนวยความสะดวกและเพิ่มความปลอดภัยอย่างเข้มข้น จะช่วยให้ผู้โดยสารได้รับความสะดวกสบาย และเดินทางไปกลับได้อย่างสวัสดิภาพปลอดภัยตลอดเทศกาลสงกรานต์ปีใหม่ไทย
https://www.facebook.com/pr.railway/posts/2631356830212505
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 43714
Location: NECTEC

PostPosted: 14/04/2019 9:11 pm    Post subject: Reply with quote

ร.ฟ.ท.เผยกว่า 1.21 แสนคนใช้บริการหัวลำโพงหนาแน่น
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
เผยแพร่: 12 เมษายน 2562 11:07
ปรับปรุง: 12 เมษายน 2562 16:19


ร.ฟ.ท.เผย 11 เม.ย.มีจำนวนผู้โดยสาร 1.21 แสนคน มากกว่าเมื่อวันที่10 เม.ย. เพิ่มเกือบ 2 เท่า ไม่มีตกค้าง เหตุส่วนใหญ่ประชาชนวางแผนการเดินทางล่วงหน้า

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ได้รายงานตัวเลขจำนวนผู้โดยสารที่เดินทางในวันแรกของการเสริมขบวนรถช่วงเทศกาลสงกรานต์ปีนี้ยังคงคึกคัก มีผู้โดยสารที่ใช้บริการในวันที่ 11 เมษายน 2562 จำนวนทั้งสิ้น 121,739 คน ซึ่งมีจำนวนเดินทางเพิ่มขึ้นจากเมื่อวันที่ 10 เมษายน 2562 สูงเกือบถึงสองเท่าของผู้เดินทาง

สำหรับเส้นทางที่มีผู้โดยสารเดินทางหนาแน่นที่สุด คือ สายใต้ มีผู้โดยสารเดินทางจำนวน 39,006 คน

รองลงมาคือ สายตะวันออกเฉียงเหนือ 30,598 คน สายเหนือ 22,809 คน สายตะวันออก 15,973 คน และสายแม่กลอง 13,353 คน

ส่วนภาพรวมการโดยสารในช่วงเช้าวันนี้ (12 เมษายน 2562) ยังคงมีผู้โดยสารหนาแน่น เนื่องจากยังมีประชาชนบางส่วนทยอยเดินทางกลับภูมิลำเนา คาดการณ์ว่าวันนี้จะมีประชาชนที่เดินทางใกล้เคียงกับเมื่อวานประมาณ 120,000 คน ส่วนด้านขบวนรถและตู้โดยสารมีปริมาณเพียงพอ ไม่มีผู้โดยสารตกค้าง ด้านการจำหน่ายตั๋วเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ไม่มีข้อร้องเรียน

ในส่วนของความปลอดภัยนั้น ได้มีการคุมเข้มการตรวจสารเสพติดและแอลกอฮอล์พนักงานขับรถในแต่ละสถานีทุกของเส้นทางการให้บริการ เช่น กรุงเทพฯ หาดใหญ่ ขอนแก่น เชียงใหม่ และมีการตรวจความเรียบร้อยภายในสถานี บริเวณโดยรอบ รวมทั้งขบวนรถ ร่วมกับทหาร ตำรวจ รปภ. และระบบอาณัติสัญญาณและโทรคมนาคม ติดตั้งป้ายเตือนบริเวณทางตัดเสมอระดับรถไฟ-รถยนต์ มีการตรวจร่วมอุปกรณ์บนเส้นทางรถไฟ

เช่น ประแจ ราง อาณัติสัญญาณ พร้อมทั้งบูรณาการร่วมกับส่วนราชการ ทั้งในส่วนกลาง และต่างจังหวัด เช่น เจ้าหน้าที่ป้องกันภัย หน่วยทหาร เพื่อให้เกิดความปลอดภัยในการเดินทางของผู้โดยสาร ตามนโยบายของกระทรวงคมนาคม และการรถไฟฯ

สำหรับวันนี้ (12 เม.ย.) การรถไฟฯ ได้จัดขบวนรถพิเศษช่วยการโดยสารรองรับการเดินทางเพื่อไม่ให้มีผู้โดยสารตกค้างที่สถานีเพิ่มอีก 3 ขบวน ดังนี้

1. ขบวน 955 กรุงเทพฯ 22.30 น.-ศิลาอาสน์ 07.15 น.
2. ขบวน 977 กรุงเทพฯ 22.00 น.-อุบลราชธานี 09.10 น.
3. ขบวน 967 กรุงเทพฯ 21.15 น.-อุดรธานี 04.25 น.

ทั้งนี้ ผู้โดยสารสามารถสอบถามข้อมูลการเดินทางเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์บริการลูกค้าสัมพันธ์ หมายเลขโทรศัพท์ 1690 ตลอด 24 ชั่วโมง หรือเฟซบุ๊ก แฟนเพจ ทีมพีอาร์การรถไฟแห่งประเทศไทย.



https://www.facebook.com/129946050353608/posts/2635709499777238?sfns=mo
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 43714
Location: NECTEC

PostPosted: 17/04/2019 2:26 am    Post subject: Reply with quote

หัวลำโพงเช้านี้ คึกคัก รถไฟสายสั้น-ยาวทยอยเข้ากรุงหลังสงกรานต์
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
เผยแพร่: 16 เมษายน 2562 09:38

บรรยากาศที่สถานีรถไฟกรุงเทพ (หัวลำโพง ) เช้าวันนี้ (16 เม.ย.) เป็นไปอย่างคึกคัก มีขบวนรถไฟขาเข้ากรุงเทพมหานคร ทั้งสายสั้นและสายยาวทยอยเทียบชานชาลาอย่างต่อเนื่อง หลังหยุดยาวช่วงเทศกาลสงกรานต์



ทั้งนี้ ในส่วนของสถานีรถไฟหัวลำโพงจะมีรถโดยสารสาธารณะมาจอดประจำจุดรับส่งผู้โดยสาร อีกทั้งจะมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยดูแลประชาชนกระจายอยู่โดยรอบสถานี

ร.ฟ.ท.คาดวันนี้มีผู้โดยสารกว่า 1.1 แสนคน จัดรถพิเศษอีก 15 ขบวน
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
เผยแพร่: 16 เมษายน 2562 12:18
ปรับปรุง: 16 เมษายน 2562 15:23

การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) สรุปยอดผู้โดยสารใช้บริการรถไฟเดินทางในช่วงเทศกาลสงกรานต์ เมื่อวันที่ 15 เมษายน 2562 มีจำนวน 123,901 ราย เป็นผู้โดยสารปกติ 121,293 ราย ผู้โดยสารขบวนรถเสริม 2,608 ราย เส้นทางที่มีประชาชนเดินทางมากที่สุด อันดับหนึ่งเป็นรถไฟสายใต้ จำนวน 39,910 ราย รองลงมาเป็นสายตะวันออกเฉียงเหนือ จำนวน 31,043 ราย สายเหนือ จำนวน 24,060 ราย สายตะวันออก จำนวน 16,091 ราย และสายมหาชัย จำนวน 12,797 ราย

สำหรับวันนี้ (16 เม.ย. 62) คาดการณ์จะมีประชาชนที่เดินทางกลับจากภูมิลำเนาเพื่อเดินทางเข้ากรุงเทพฯ ประมาณ 112,000 คน อย่างไรก็ตาม การรถไฟฯ ได้เพิ่มขบวนรถพิเศษอีก 15 ขบวน และพ่วงตู้โดยสารเพิ่มในขบวนรถปกติจนเต็มหน่วยลากจูงทั้ง 242 ขบวน รองรับการเดินทางได้ถึงวันละ 100,000-120,000 คน ในช่วงระหว่างวันที่ 11-13 เม.ย. 62 และ 15-17 เม.ย. 62

สำหรับวันนี้ได้จัดขบวนรถพิเศษโดยสาร จำนวน 4 ขบวน คือ
1. ขบวน 976 ศรีสะเกษ 16.30 น.-กรุงเทพฯ 03.20 น. รองรับผู้โดยสารได้ 1,955 คน
2. ขบวน 962 ศิลาอาสน์ 19.30 น.-กรุงเทพฯ 04.45 น. รองรับผู้โดยสารได้ 1,762 คน
3. ขบวน 934 อุบลราชธานี 19.45 น.-กรุงเทพฯ 07.15 น. รองรับผู้โดยสารได้ 2,586 คน
4. ขบวน 936 อุดรธานี 20.40 น.-กรุงเทพฯ 08.30 น. รองรับผู้โดยสารได้ 2,265 คน

ทั้งนี้ ผู้โดยสารสามารถสอบถามข้อมูลการเดินทางเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์บริการลูกค้าสัมพันธ์ หมายเลขโทรศัพท์ 1690 ตลอด 24 ชั่วโมง หรือเฟซบุ๊ก แฟนเพจ ทีมพีอาร์การรถไฟแห่งประเทศไทย
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 43714
Location: NECTEC

PostPosted: 20/04/2019 8:27 am    Post subject: Reply with quote

จัด"ชัตเติลบัส-รถไฟ-เรือ"รับ-ส่งประชาชนร่วมพิธีบรมราชาภิเษก
ข่าวทั่วไป :
19 เมษายน 2562


ชัตเติลบัส 11 เส้นทาง รถไฟ 3 เส้นทาง เรือข้ามฟากและเรือด่วนเจ้าพระยา พร้อมอำนวยความสะดวกประชาชนตลอดงานพระราชพิธีบรมราชาภิเษก
เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 18 เม.ย. ที่ห้องสื่อมวลชน ชั้น 1 ศาลาว่าการหลาโหม กระทรวงกลาโหม พล.อ.ประวิตร วงศ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม เป็นประธานการประชุมกองอำนวยการร่วมถวายความปลอดภัยและการจราจรงานพระราชพิธีบรมราชาภิเษก โดยภายหลังการประชุม พล.ต.ท.ปิยะ อุทาโย ผู้ช่วย ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รองผบช.น. และ นายวิทยา ยาม่วง ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจการขนส่งทางน้ำ รักษาการผู้ตรวจราชการกระทรวงคมนาคม ร่วมแถลงข่าว

จัด"ชัตเติลบัส-รถไฟ-เรือ"รับ-ส่งประชาชนร่วมพิธีบรมราชาภิเษก

พล.อ.ประวิตร วงศ์สุวรรณ

พล.ต.ท.ปิยะ กล่าวว่า วันนี้ พล.อ.ประวิตร เป็นประธานการเปิดกองอำนวยการร่วมฯ อย่างเป็นทางการในวันแรก โดยจะดำเนินการตั้งแต่วันที่ 18 เม.ย.-7 พ.ค. นี้ ตลอด 24 ชั่วโมง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องการรักษาความปลอดภัย และการจราจร ทั้งนี้ พล.อ.ประวิตร ได้กล่าวขอบคุณทุกหน่วยงานที่ร่วมดูแลในริ้วขบวนการเชิญคนโทน้ำอภิเษกจากกระทรวงมหาดไทยไปยังวัดสุทัศนเทพวราราม โดยทุกอย่างเป็นไปด้วยดี และสมพระเกียรติที่สุด
พล.ต.ท.ปิยะ กล่าวต่อว่า สำหรับการดำเนินการของกองอำนวยการร่วมฯ ได้สรุปเป็น 7 แนวทางหลัก คือ 1.จะมีการประชุมทุกวัน ในเวลา 09.00 น. โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะร่วมผลัดเป็นประธาน จากนั้นก่อนเวลา 12.00 น. ต้องสรุปผลการประชุมให้พล.อ.ประวิตร รับทราบ 2.จากนี้ทุกหน่วยงานจะต้องติดตามการข่าวอย่างใกล้ชิดและทุกสถานการณ์ ทั้งนี้เพื่อให้การดำเนินงานสามารถปรับเปลี่ยนได้ทันท่วงที 3.มีการแบ่งพื้นที่เป็น 6 โซน โดยมีผู้บังคับบัญชา 6 นายดูแลอย่างใกล้ชิด ต้องพิสูจน์ทราบบุคคล ยานพาหนะ สิ่งของเครื่องใช้ มีการสแกนอย่างละเอียดทั้งบนบก ทางน้ำ และอากาศ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปจนกว่าจะเสร็จสิ้นพิธี เพื่อให้รู้ข้อมูลในพื้นที่อย่างละเอียด 4.ต้องมีการซักซ้อมการทำงานในทุกระดับเพื่อให้การทำงานเป็นไปในทิศทางเดียวกัน และรู้หน้าที่ของตัวเองอย่างชัดเจน

จัด"ชัตเติลบัส-รถไฟ-เรือ"รับ-ส่งประชาชนร่วมพิธีบรมราชาภิเษก


5.การปฏิบัติหน้าที่ทั้ง 6 โซน จุดคัดกรองทั้ง 21 จุดรอบบริเวณ จะมีการนำเครื่องมือการสื่อสาร ทั้งระบบฐานข้อมูล การสแกนใบหน้า จะมีการสแกนใบหน้า กล้องวงจรปิด จะมีการเชื่อมโยงมายังกองอำนวยการร่วมตลอด 24 ชั่วโมง 6.ผู้บังคับบัญชาในทุกระดับ ต้องลงลึกในระดับผู้ปฏิบัติงานอย่างละเอียด วางระบบอย่างชัดเจน และ 7.กำชับให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติหน้าที่ให้สมบูรณ์สมพระเกียรติและเป็นไปตามพระราชประสงค์ นอกจากนี้จิตอาสาเฉพาะกิจ จะมีการฝึกอบรมตั้งแต่วันที่ 22 เม.ย. นี้เป็นต้นไป
ผู้ช่วย ผบ.ตร. กล่าวอีกว่า สำหรับงานพระราชพิธีฯ ข้าราชการทุกนาย ตลอดจนทุกส่วนที่เกี่ยวข้องที่ได้ร่วมในพระราชพิธีฯในครั้งนี้ถือเป็นเกียรติอย่างสูงสุด และจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด อย่างไรก็ตามอยากเชิญชวนพี่น้องประชาชนมาร่วมมาเป็นส่วนหนึ่งในพิธีอันสำคัญยิ่ง โดยเจ้าหน้าที่ทุกคนจะดูแลอำนวยความสะดวกอย่างเต็มที่ เพราะเราถือว่าประชาชนทุกคนเป็นแขกของพระองค์ท่าน

จัด"ชัตเติลบัส-รถไฟ-เรือ"รับ-ส่งประชาชนร่วมพิธีบรมราชาภิเษก

จัด"ชัตเติลบัส-รถไฟ-เรือ"รับ-ส่งประชาชนร่วมพิธีบรมราชาภิเษก

พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก


ด้าน พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) กล่าวว่า การฝึกซ้อมริ้วขบวนพยุหยาตราสถลมารคพื้นที่จริงเมื่อวันที่ 17 เมษายน ซึ่งมีการปิดการจราจร 40 เส้นทางนั้น ในการดำเนินการเราได้ทยอยเปิดการจราจรในเส้นทางที่ริ้วขบวนเคลื่อนผ่านไปแล้วเป็นระยะๆ เพื่อลดผลกระทบการจราจรให้น้อยที่สุด พบว่าภาพรวมการดำเนินการว่าไม่ได้ส่งผลกระทบต่อประชาชนแต่อย่างใด ก่อนนำไปปฏิบัติอีกครั้งในการฝึกซ้อมริ้วขบวนพยุหยาตราสถลมารคในวันที่ 21 เมษายน ที่จะเริ่มปิดการจราจร 40 เส้นทาง ตั้งแต่เวลา 16.00-22.00 น. ขณะที่ขบวนเชิญคนโทน้ำอภิเษกจากศาลาว่าการกระทรวงมหาดไทย ไปยังวัดสุทัศนเทพวรารามเมื่อช่วงเช้าวันที่ 18 เมษายน ที่ปิดการจราจร 7 เส้นทาง พบการดำเนินการเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ส่วนในวันที่ 19 เมษายน ที่จะมีขบวนเชิญคนโทน้ำอภิเษกจากวัดสุทัศนเทพวราราม ไปยังวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ระยะทาง 1.8 กิโลเมตร จะปิดการจราจร 16 เส้นทาง ตั้งแต่เวลา 06.00-11.00 น. ซึ่งเมื่อขบวนเชิญคนโทน้ำอภิเษกถึงยังจุดหมาย จะเปิดการจราจรอย่างรวดเร็ว เพื่อลดผลกระทบการจราจร

จัด"ชัตเติลบัส-รถไฟ-เรือ"รับ-ส่งประชาชนร่วมพิธีบรมราชาภิเษก

นายวิทยา ยาม่วง ผู้ตรวจราชการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า กองอำนวยการร่วมถวายความปลอดภัยและการจราจรงานพระราชพิธีบรมราชาภิเษกมอบหมายให้ กระทรวงคมนาคม รับผิดชอบงานอำนวยความสะดวกการเดินทางให้บริการประชาชนเข้าร่วมงานพิธีบรมราชาภิเษก ระหว่างวันที่ 4-6 พฤษภาคม โดยมีแผนการดำเนินงานดังนี้ องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพฯ​(ขสมก.) ได้จัดเตรียมรถให้บริการรับ-ส่งประชาชนจำนวน 900 คัน โดยจัดเส้นทางเดินรถอำนวยความสะดวกทั้งหมด 16 เส้นทางแบ่งออกเป็นเส้นทางเดินรถชัตเติลบัสจำนวน 11 เส้นทาง ประกอบด้วย 1.เส้นทางเดินรถจากเมืองทองธานี, ศูนย์ราชการแจังวัฒนะ-สนามม้านางเลิ้ง
2.จากสโมสรตำรวจ-มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์(ถนนวิภาวดี)-สนามม้านางเลิ้ง 3.จากสโมสรกองทัพบก, กทม.2 (ถนนวิภาวดี)-สนามม้านางเลิ้ง 4.จากฟิวเจอร์พาร์ครังสิต-สนามม้านางเลิ้ง 5.จากรฟม.พระราม9, สถานีรถไฟฟ้าใต้ดินลาดพร้าว, ศาลอาญารัชดา, สนง.อัยการสูงสุด-บ้านมนังคศิลา
6.จากอิเกีย, เมกาบางนา-บ้านมนังคศิลา
7.จากสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหราลาดกระบัง-บ้านมนังคศิลา
8.จากท่าเรือคลองเตย, โรงงานยาสูบ, แอร์พอร์ตลิงค์มักกะสัน-บ้านมนังคศิลา
9.จากเซ็นทรัลพระราม2, โรงเรียนบางมดวิทยา-วัดเทพศิรินทร์
10.จากเซ็นทรัลศาลายา,​พุทธมณฑลสาย 4, อู่จอดรถบรมราชชนนี, วิทยาลัยทองสุข-เชิงสะพานพระราม 8 และ11.จากเซ็นทรัลเวสเกตบางใหญ่-เชิงสะพานพระปิ่นเกล้า

จัด"ชัตเติลบัส-รถไฟ-เรือ"รับ-ส่งประชาชนร่วมพิธีบรมราชาภิเษก


นอกจากนี้ยังได้จัดเส้นทางรถเฉพาะกิจรับส่งทุกป้ายจำนวน 5 เส้นทาง ประกอบด้วย อนุสาวรีย์ชัย-สนามม้านางเลิ้ง, สถานีขนส่งจตุจักร-สนามม้านางเลิ้ง,​ วงเวียนใหญ่-สะพานพระพุทธยอดฟ้า, สนามศุภชลาศัย-บ้านมนังคศิลา และสถานีขนส่งกรุงเทพ (สายใต้ใหม่)-สะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้า
ขณะเดียวกันยังได้กำหนดจุดจอดรถยนต์ส่วนบุคคลเพื่อต่อรถชัตเติลบัสถึงบริเวณพื้นที่ราชพิธีจำนวน 25 จุด ได้แก่ เมืองทองธานี,​ ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ,​ สโมสรตำรวจ, ​มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์, สโมสรกองทัพบก,​ กทม.2, ฟิวเจอร์พาร์ครังสิต, ที่จอดรถของรถไฟฟ้าใต้ดินรัชดาภิเษก, ลานจอดรถใต้ดินลาดพร้าว, ศาลอาญารัชดา, สำนักงานอัยการสูงสุด, อีเกียบางนา, เมกาบางนา, ศูนย์ประชุมไบเทคบางนา,​ สถาบันเทคโนโลยี พระจอมเกล้าลาดกระบัง, ท่าเรือคลองเตย (ใกล้สน.ทางด่วน 1), โรงงานยาสูบ, แอร์พอร์ตลิงค์มักกะสัน, เซ็นทรัลพระราม 2, โรงเรียนบางมดวิทยา, ลานพุทธมณฑลสาย 4,​ เซ็นทรัลศาลายา, อู่จอดรถบรมราชชนนี, วิทยาลัยทองสุข และเซ็นทรัลเวสเตบางใหญ่ ซึ่งสามารถจอดรถได้รวม 40,000 คัน ซึ่งสามารถต่อรถชัตเติลบัสเพื่อเข้าสู่จุดรวมพลจำนวน 6 จุด ได้แก่ สนามม้านางเลิ้ง,​ บ้านมนังคศิลา,​ วัดเทพศิรินทราวาส, สะพานพระราม 8, สะพานพระพุทธยอดฟ้า และเชิงสะพานพระปิ่นเกล้า เพื่อเดินเท้าต่อสู่พื้นที่งานพระราชพิธี

จัด"ชัตเติลบัส-รถไฟ-เรือ"รับ-ส่งประชาชนร่วมพิธีบรมราชาภิเษก


ในแผนการเดินรถได้จัดเตรียมการเดินขบวนรถพิเศษช่วงงานพระราชพิธีโดยใช้รถดีเซลรางชั้น 3 เส้นทางละ 1 ชุดๆ ละ 4 คัน เดินใน 4 เส้นทางดังนี้
1.เส้นสายทางสายเหนือ จากสถานีอยุธยา-กรุงเทพฯ-อยุธยา
2.เส้นทางสายใต้ จากสถานีนครปฐม-ธนบุรี-นครปฐม
3.เส้นทางสายตะวันออก จากสถานีชุมทางฉะเชิงเทรา-กรุงเทพฯ-ชุมทางฉะเชิงเทรา และ
4.เส้นทางสายแม่กลองจากสถานีมหาชัย-วงเวียนใหญ่-มหาชัย

โดยประชาชนที่จะใช้บริการขบวนรถพิเศษสามารถจอดรถได้ตามสถานีรถไฟต่างๆ จากนั้นใช้บริการชัตเติลบัสเข้าสู่บริเวณพระราชพิธี
ส่วนกรมเจ้าท่ารับผิดชอบการจัดเดินเรืออำนวยความสะดวกให้พี่น้องประชาชน โดยจัดเตรียมเรือข้ามฟากและเรือด่วนเจ้าพระยาในหลายเส้นทาง อาทิ จากจังหวัดนนทบุรีไปยังท่าเรือปิ่นเกล้า, จากท่าเรือสาทรไปสะพานพระพุทธยอดฟ้า นอกจากนี้คมนาคมได้ร่วมปฎิบัติงานกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติจัดจราจร เตรียมอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ใช้บริการทางพิเศษ รวมทั้งบริหารจัดการ กรณีรถเสีย อุบัติเหตุ ได้จัดเตรียมรถยกเพื่อช่วยแก้ปัญหาจราจรให้สอดคล้องกัน ซึ่งขณะนี้กระทรวงคมนาคมได้มีการซักซ้อมแผนและมีความพร้อมในช่วงงานพระราชพิธี โดยใช้โมเดลการทำงานใหญ่ๆ ที่ผ่านมาเป็นต้นแบบและบทเรียน
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 46865
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 25/04/2019 12:53 am    Post subject: Reply with quote

ผู้โดยสารช่วยกันยกต้นไม้โค่นขวางทางรถไฟหลังพายุถล่ม | NationTV22
NationTV22
Published on Apr 23, 2019

พายุถล่มโคราช ต้นไม้โค่นล้มกีดขวางทางรถไฟ สาย 426 ผู้โดยสารประมาณ 300 คนในขบวนอุบลราชธานี-นครราชสีมา ต้องลงมาช่วยกันนำต้นไม้ออก เพื่อให้รถไฟวิ่งได้ตามปกติ


https://www.youtube.com/watch?v=C7qi8H9PFQA
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 46865
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 29/04/2019 9:00 am    Post subject: Reply with quote

รฟท.จ่อทบทวนแผนฟื้นฟู ปัญหางานอืด-รายได้ไม่เข้าเป้า-ค่าโง่โฮปเวลล์
เผยแพร่: 29 เม.ย. 2562 08:16 โดย: ผู้จัดการออนไลน์

รฟท.เตรียมทบทวนแผนฟื้นฟูใหม่หลังเจอพิษ ค่าโง่”โฮปเวลล์” ทำภาระหนี้เพิ่มอีกเป็นหมื่นล. ขณะที่แผนฟื้นฟูเดิม ยังติดหล่มรายได้ไม่เข้าเป้า จากปัญหาหลายโครงการล่าช้า คาดปี62 ยอดหนี้สะสมทะลุ 1.41 แสนล.

นายกุลิศ สมบัติศิริ ปลัดกระทรวงพลังงาน ในฐานะประธานคณะกรรมการ(บอร์ด) การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยว่า กรณี

ศาลปกครองสูงสุดมีคำพิพากษารฟท.ต้องคืนเงินชดเชยให้กับบริษัทโฮปเวลล์ (ประเทศไทย) จำกัด จากการบอกเลิกสัญญารวมเป็นเงิน 11,888 ล้านบาท โดยไม่รวมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี โดยบอร์ดรฟท.มีมติตั้งคณะทำงาน ขึ้นมา1 ชุด เพื่อทำงาน ร่วมกับทีมอัยการสูงสุด และทีมกรมบัญชีกลาง และสำนักงบประมาณ พิจารณาหาแนวทางที่ดีที่สุดที่รัฐจะเสียหายน้อยที่สุด

โดยเฉพาะตัวเลขค่าชดเชย ขณะนี้ยังไม่ชัดเจน เนื่องจากมีรายละเอียดมาก รฟท.ต้องนำคำพากษามาพิจารณาอย่างละเอียด ว่ารวมค่าชดเชยจากจุดไหนบ้าง มูลค่าเท่าไร เบื้องต้นเห็นแล้วว่ามีตัวเลข 1.2 หมื่นล้านบาท ซึ่งยังไม่รวมดอกเบี้ย

นายกุลิศ ยอมรับว่า การที่รฟท.มีภาระหนี้เพิ่มจากค่าชดเชย ข้อพิพาทโครงการโฮปเวลล์ จะส่งผลกระทบต่อแผนฟื้นฟู รฟท.ที่ได้นำเสนอไปแล้ว ดังนันเมื่อประมวลมูลค่าหนี้ที่เพิ่มขึ้นแล้ว ว่าเป็นเท่าไร ถึงจะทราบว่า จะกระทบต่อตัวเลขในแผนฟื้นฟูที่ทำไว้แค่ไหน เพื่อมีการทบทวน ตัวเลขต่างๆในแผนฟื้นฟูใหม่ ซึ่งกลางเดือนพ.ค.จะมีความชัดเจน

***ทบทวนแผนฟื้นฟู โครงการล่าช้า รายได้ยังไม่เข้าเป้า

ด้านนายวรวุฒิ มาลา รองผู้ว่าการกลุ่มธุรกิจการบริหารทรัพย์สิน รักษาการในตำแหน่งผู้ว่า รฟท. กล่าวว่า ต้องทบทวนแผนฟื้นฟูรฟท.ใหม่แน่นอน เพราะนอกจากกรณีค่าชดเชยโฮปเวลล์ ทำให้ตัวเลขหนี้เพิ่มขึ้น แล้ว ขณะนี้การดำเนินงานต่างๆ ของรฟท.ยังไม่เป็นไปตามแผนฟื้นฟู เนื่องจากรายได้ที่คาดการณ์ไว้ยังไม่เข้าเป้า ต้องทบทวนแผนในบางส่วนเพื่อให้สอดคล้องกับสภาพและสถานการณ์ปัจจุบัน

เช่น โครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ระยะแรก 5 เส้นทาง มีปัญหาอุปสรรค และอาจทำให้เปิดเดินรถได้ล่าช้ากว่าแผน , โครงการพัฒนาศูนย์กลางการขนส่งตู้สินค้าทางรถไฟ ท่าเรือแหลมฉบัง (SRTO) ของการท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.) ยังไม่เต็มรูปแบบ,การพัฒนาที่ดินแปลงใหญ่ ของรฟท.ยังอยู่ในกระบวนการประมูล

รายงานข่าวแจ้งว่า ปัจจุบัน รฟท.มีหนี้สะสม 141,986 ล้านบาท หาก ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ ในปี 2566 หนี้สะสมจะเพิ่มเป็น 199,279 ล้านบาท ขณะที่ปี 2562 คาดมีรายได้ 9,760 ล้านบาท รายจ่าย 17,199 ล้านบาท ขาดทุน 7,439 ล้านบาท ขาดทุนสุทธิ 21,845 ล้านบาท

ซึ่งตามแผนฟื้นฟู ในช่วง10 ปี ( 2561-2570) ตั้งเป้าว่า ในปี 2566 จะหยุดการขาดทุน หรือ EBITDA เป็นศูนย์ และมีกำไรในปี 2570 ประมาณ 3,573 ล้านบาท จากรายได้ค่าโดยสารที่เพิ่มขึ้น 4 เท่า จากการขนส่งสินค้าเพิ่มขึ้น 5 เท่า และรายได้จากการบริหารทรัพย์สินเพิ่มขึ้น 5 เท่า

ทั้งนี้ภายใต้แผนจะต้องมีการดำเนินโครงการรถไฟทางคู่ ระยะเร่งด่วน 7 เส้นทาง 993 กม. รถไฟทางคู่เฟส2 จำนวน 7 เส้นทาง 1,483 กม. รถไฟทางคู่สายใหม่ 2 เส้นทาง 681 กม. และรถไฟความเร็วสูง 4 เส้นทาง 1,500 กม. เป็นต้น
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 43714
Location: NECTEC

PostPosted: 29/04/2019 7:55 pm    Post subject: Reply with quote

Mongwin wrote:
รฟท.จ่อทบทวนแผนฟื้นฟู ปัญหางานอืด-รายได้ไม่เข้าเป้า-ค่าโง่โฮปเวลล์
เผยแพร่: 29 เมษายน 2562 08:16 โดย: ผู้จัดการออนไลน์


สรุปค่าโง่โฮปเวลล์รายงานนายกฯ เร่งหาแนวทางก่อนเปิดเจรจาจ่ายชดเชย ยันยังไม่สรุปเฉือนที่ดินใช้หนี้
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
เผยแพร่: 29 เมษายน 2562 19:42
ปรับปรุง: 29 เมษายน 2562 19:44




คมนาคม ประมวลข้อมูล “ค่าโง่โฮปเวลล์”รายงานนายกฯ ตั้งคณะทำงาน หาแนวทางที่รัฐเสียหายน้อยที่สุด เร่งประชุมสัปดาห์หน้า ก่อนเปิดโต๊ะเจรจาโฮปเวลล์ ให้ได้ข้อยุติใน 180 วันตามคำสั่งศาล ยันยังไม่พิจารณายกที่ดินให้แทนชำระหนี้

วันนี้(29 เม.ย.) นายจิรุตม์ วิศาลจิตร รองปลัดกระทรวง (หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านการขนส่ง)กระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังประชุมร่วมกับผู้บริหารการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เพื่อรับทราบแนวทางเบื้องต้นในการ ดำเนินการตามคำพิพากษาของศาลปกครองสูงสุด ที่ให้ รฟท.จ่ายเงินชดเชยแก่บริษัทโฮปเวลล์ (ประเทศไทย) จำกัด จากการบอกเลิกสัญญารวมเป็นเงิน 11,888 ล้านบาท โดยไม่รวมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี ซึ่งรฟท.ได้รายงานว่า คณะกรรมการ (บอร์ด) รฟท.มีมติตั้งคณะทำงาน ขึ้นมาโดยด่วนภายใน 1- 2 วัน ซึ่ง เพื่อพิจารณาความเสียหายและประมวลมูลค่ารวมกับดอกเบี้ย ตามคำสั่งศาลเพื่อให้มีความชัดเจน

โดยกระทรวงจะประมวลข้อมูลเบื้องต้น และความเห็นของบอร์ด รฟท. เพื่อรายงานต่อ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี หรือคณะรัฐมนตรี (ครม.) ต่อไป ซึ่งมีเป้าหมายให้เร่งดำเนินการ พิจารณาหาแนวทางให้เร็วที่สุด และในกรอบเวลา 180 วัน ตามคำสั่งศาล

“รฟท.จะเร่งตั้งคณะทำงานภายใน 1- 2 วัน ซึ่งมีองค์ประกอบจากกระทรวงคมนาคม กระทรวงคลัง สำนักงบประมาณ รฟท. เพื่อเร่งสามารถพิจารณารายละเอียดและแนวทาง ที่ชัดเจน เนื่องจากโครงการนี้มีข้อมูลเอกสารมาก และเป็นเรื่องที่ค่อนข้างเก่า และรายละเอียดของคำพิพากษา ส่วนเรื่องผู้ที่เกี่ยวข้อง ที่ทำให้เกิดความเสียหายผู้กระทำผิด จะเป็นอีกเรื่อง”

ด้านนายวรวุฒิ มาลา รองผู้ว่าการกลุ่มธุรกิจการบริหารทรัพย์สิน รักษาการในตำแหน่งผู้ว่า รฟท. กล่าวว่า การจัดตั้งคณะทำงานอยู่ระหว่างการจัดทำรายชื่อ ได้แก่ รฟท. ,ผู้แทนกระทรวงคมนาคม,อัยการสูงสุด,กระทรวงการคลัง โดยมีผู้แทนบอร์ด รฟท. คือนายสุพจน์ เหล่าสุอาภา เป็นที่ปรึกษาของคณะกรรมการฯ อยู่ในขั้นตอนการทำหนังสือขอตัวจากต้นสังกัด คาดว่าจะตั้งได้ใน 1- 2 วันนี้ และเริ่มประชุมพิจารณาข้อมูลและหาแนวทางกันในสัปดาห์หน้า

“คณะกรรมการ จะรวบรวมข้อมูล ข้อเท็จจริงที่เกี่ยวข้องเพื่อพิจารณา และหาแนวทางในการดำเนินการ ที่รัฐเสียหายน้อยที่สุด เมื่อหารือให้ได้ข้อสรุปแนวทางที่ชัดเจนแล้ว จะเร่งเจรจากับ โฮปเวลล์ต่อไป “

นายวรวุฒิกล่าวว่า กรณีที่มีข่าวว่า รฟท.อาจจะพิจารณาแนวทางให้โอปเวลล์เข้าใช้ประโยชน์ที่ดินบางแปลงเพื่อเป็นการชำระหนี้นั้น ขอชี้แจงว่า ขณะนี้ยังไม่มีการพิจารณาใดๆ ทั้งสิ้น เนื่องจากต้องรอให้คณะทำงานที่จัดตั้งขึ้น ศึกษารายละเอียด มูลหนี้ และแนวทางที่เป็นไปได้และเหมาะสมก่อน
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 43714
Location: NECTEC

PostPosted: 30/04/2019 10:22 am    Post subject: Reply with quote

เจาะเบื้องลึกสัญญาลวกๆ ค่าโง่โฮปเวลล์3หมื่นล้าน
คอลัมน์ : เศรษฐศาสตร์ข้างทาง
โดย “ทวี มีเงิน”..
พฤหัสบดีที่ 25 เมษายน 2562 เวลา 08.00 น.

สัปดาห์นี้เปิดเบื้องลึกมหากาพย์ "โฮปเวลล์" อนุสรณ์แห่งความอัปยศ หลังขมขืนยืดเยื้อนาน 3 ทศวรรษ สุดท้ายต้องเสียค่าโง่รวมดอกเบี้ยเบ็ดเสร็จ 30,591 ล้านบาท


โครงการ "โฮปเวลล์" หรือ โครงการถนนและทางรถไฟยกระดับในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล ได้ปิดฉากด้วยความเจ็บปวดของคนไทย ทั้งนี้เนื่องจากวันที่ 22 เม.ย.62 ศาลปกครองกลาง นัดอ่านคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุด พิพากษาให้กระทรวงคมนาคม โดยการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) จ่ายคืนเงินค่าก่อสร้าง และค่าใช้จ่ายอื่น ๆ แก่บริษัท โฮปเวลล์ รวม 11,888 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี

ย้อนอดีตเมื่อ 29 ปีที่แล้ว โครงการโฮปเวลล์เกิดขึ้นเนื่องจากปัญหาการจราจรในกรุงเทพฯ ติดขัดแสนสาหัส จึงเป็นโอกาสให้นักการเมืองผลักดันสารพัดโครงการ หนึ่งในนั้นคือโครงการสร้างทางรถไฟยกระดับหรือที่ชาวบ้านเรียกกันติดปากว่า “โครงการโฮปเวลล์” เกิดขึ้นในปี 2533 ในสมัยรัฐบาล พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ ตัวละครสำคัญที่ทำให้เกิดโครงการโฮปเวลล์ก็คือ นายมนตรี พงษ์พาณิชย์ รมว.คมนาคม (ขณะนั้น) โดยมีนักธุรกิจชื่อดังเป็นมือประสาน และ นายกอร์ดอน หวู่ เจ้าของบริษัทโฮปเวลล์ เข้ามาผลักดันโครงการนี้

แม้มีการเปิดประมูลในที่สุด บริษัท โฮปเวลล์ ของนายกอร์ดอน หวู่ ชนะการประมูลว่ากันว่า...



“การทำสัญญาสัมปทานขณะนั้น เป็นสัญญาก่อนที่จะมีกฎหมายเอกชนร่วมลงทุน ทำให้สัญญาไม่ละเอียดมาก มีเอกสารเพียง 8 แผ่น เงื่อนไขในสัญญาสัมปทาน เขียนไว้คร่าว ๆ ว่าทำอะไรบ้าง ใครรับผิดชอบอะไร เป็นสัญญาลวก ๆ”

ในที่สุดได้มีการลงนามในสัญญาเมื่อวันที่ 9 พ.ย. 2533 อายุสัมปทาน 30 ปี โฮปเวลล์จะได้สัมปทานประกอบกิจการเดินรถไฟบนรางยกระดับ ระบบขนส่งทางถนนยกระดับ และเก็บค่าผ่านทาง รวมทั้งได้สิทธิในการพัฒนาและใช้ประโยชน์จากที่ดินของการรถไฟอีก 630 ไร่ ภายใต้อายุสัมปทาน 30 ปี ใช้เวลาก่อสร้าง 8 ปี โดยเสนอจ่ายผลตอบแทนรายปีให้รัฐบาลไทย รวม 353,810 ล้านบาท โดยที่โฮปเวลล์จะเป็นผู้ลงทุนทั้งหมด

จากเงื่อนไขดูเหมือนจะประเคนผลประโยชน์ให้เอกชน จึงถูกวิจารณ์ว่ามีความไม่โปร่งใส เพราะบริษัท โฮปเวลล์ เสนอโครงการมูลค่ากว่า 8 หมื่นล้านบาท ให้กับการรถไฟ แลกด้วยการขอสิทธิพัฒนาที่ดินการรถไฟ โดยที่รัฐไม่ต้องลงทุน ทำให้เกิดความคลางแคลงใจว่า โฮปเวลล์หวังเข้ามาหาผลประโยชน์จากที่ดินการรถไฟ แบบจับเสือมือเปล่าหรือไม่มีผลประโยชน์ก้อนใหญ่เข้ามายังผู้มีอำนาจในยุคนั้นหรือไม่



ทั้งนี้เมื่อพิจารณาด้วยความรอบคอบชอบธรรม ดูเผิน ๆ เหมือนรัฐบาลจะได้เปรียบ แต่หากลึก ๆ แล้วพบว่า รัฐบาลเสียเปรียบฝ่ายเอกชนอย่างมาก นั่นคือการปกป้องผลประโยชน์ของผู้ลงทุนให้บอกเลิกสัญญาได้ แต่ขณะที่รัฐบาลไม่สามารถบอกเลิกสัญญาได้

ในที่สุดเริ่มมีสัญญาณว่าโครงการนี้ส่อมีปัญหา เนื่องจาก โฮปเวลล์ อ้างเหตุที่ก่อสร้างล่าช้า จากการที่รถไฟไม่ส่งมอบที่ดินให้ได้ตามข้อตกลง ประกอบกับโฮปเวลล์เริ่มขาดสภาพคล่องทางการเงิน แหล่งเงินทุนที่เคยให้กู้ เริ่มไม่มั่นใจและถอนตัวออกจากการร่วมลงขันให้กู้แก่โครงการโฮปเวลล์

ตรงนี้แหละทำให้รัฐบาลกระอักกระอ่วนใจกลืนไม่เข้าคายไม่ออก ครั้นจะบอกเลิกสัญญาก็ทำไม่ได้ เพราะสัญญาที่เขียนกันไว้เหมือนจงใจวางยาประเทศตัวเอง รัฐบาลที่ผ่านมาหลายต่อหลายชุดจึงไม่กล้าเป็นฝ่ายบอกเลิกสัญญา เพราะกลัวว่าจะถูกฟ้องร้องเรียกค่าเสียหาย

กระทั่งในปี 2540 สมัยรัฐบาล พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ มี นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ เป็น รมว.คมนาคม (ขณะนั้น) พยายามเจรจาเร่งรัดก่อสร้าง แต่เนื่องโฮปเวลล์ประสบปัญหาสภาพคล่อง โฮปเวลล์หยุดการก่อสร้างอย่างสิ้นเชิง



ในที่สุดมติคณะรัฐมนตรีในรัฐบาล พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ เห็นชอบบอกเลิกสัญญาเมื่อวันที่ 23 ธ.ค. 2540 ก่อนที่รัฐบาล นายชวน หลีกภัย (สมัยที่ 2) นำโดย นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รมว.คมนาคม (ขณะนั้น) ได้บอกเลิกสัญญาอย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 20 ม.ค. 2541

พลันที่ถูกบอกเลิกสัญญาบริษัทโฮปเวลล์ ได้เดินหน้าฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายจากกระทรวงคมนาคม และการรถไฟ เป็นจำนวน 5.6 หมื่นล้านบาททันทันที แต่การรถไฟก็แก้ลำด้วยการฟ้องเรียกค่าเสียหายในการเสียโอกาสใช้ประโยชน์จากโครงการเป็นจำนวน 2 แสนล้านบาท สู้กันมาหลายยกสุดท้ายรัฐบาลเป็นฝ่ายพ่ายแพ้และต้องชดใช้ค่าเสียหายตามคำพิพากษาของศาลปกครองสูงสุด

อย่างไรก็ตามในฐานะประชาชนที่เสียภาษีมีข้อสงสัยว่า ทำไมปล่อยให้ทำสัญญาเสียเปรียบตั้งแต่ปี 2533 “ผู้ลงทุนบอกเลิกสัญญาได้ แต่รัฐไม่สามารถบอกเลิกสัญญาได้” ทั้งที่ต่อมา โฮปเวลล์ ประสบปัญหาทางการเงินขาดสภาพคล่องไม่สามารถทำอะไรได้ จนยุติการก่อสร้างอย่างสิ้นเชิงในปี 2540 แต่เจ้าของประเทศทำอะไรไม่ได้

โครงการโฮปเวลล์ จึงเป็นอนุสาวรีย์แห่งความล้มเหลว ที่เกิดขึ้นจากการคอร์รัปชันของคนที่เกี่ยวข้อง ทำให้ประชาชน เสียโอกาสจากการทุจริตและเสียโอกาสในการได้ใช้รถไฟและโครงสร้างพื้นฐาน

ที่น่าเจ็บใจเป็นโครงการที่มีค่าโง่ที่ต้องจ่ายด้วยภาษีของประชาชนทั้งค่าโง่ 11,880 ล้านบาท และดอกเบี้ย 18,711 ล้านบาท รวมกันเบ็ดเสร็จรวม 30,591 ล้านบาท.
................................................
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 43714
Location: NECTEC

PostPosted: 30/04/2019 7:52 pm    Post subject: Reply with quote

Wisarut wrote:
Mongwin wrote:
รฟท.จ่อทบทวนแผนฟื้นฟู ปัญหางานอืด-รายได้ไม่เข้าเป้า-ค่าโง่โฮปเวลล์
เผยแพร่: 29 เมษายน 2562 08:16 โดย: ผู้จัดการออนไลน์


สรุปค่าโง่โฮปเวลล์รายงานนายกฯ เร่งหาแนวทางก่อนเปิดเจรจาจ่ายชดเชย ยันยังไม่สรุปเฉือนที่ดินใช้หนี้
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
เผยแพร่: 29 เมษายน 2562 19:42
ปรับปรุง: 29 เมษายน 2562 19:44


ครม.รับทราบ ”โฮปเวลล์” - หาแหล่งเงินชดเชยและสอบข้อเท็จจริงคนผิด
โดย: ผู้จัดการออนไลน์

เผยแพร่: 30 เมษายน 2562 17:46

“อาคม”แจง ครม.ปมค่าโง่โฮปเวลล์ พร้อมตั้งทีมหาตัวคนเกี่ยวข้องทั้งหมด
วันที่ 30 เมษายน 2562 - 17:45 น.

ครม.รับทราบ แนวทาง”ค่าโง่โฮปเวลล์” โดยให้หาแหล่งเงินที่เหมาะสมนำมาชำระค่าชดเชย และ ตั้งคณะกรรมการ สอบข้อเท็จจริง เพื่อเอาผิดผู้ที่เกี่ยวข้อง

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 30 เม.ย.มีมติรับทราบความคืบหน้า กรณีศาลปกครองสูงสุด มีคำพิพากษาให้กระทรวงคมนาคม โดย รฟท. ปฏิบัติตามคำชี้ขาดของอนุญาโตตุลาการ เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน 2551 สั่งให้ ร.ฟ.ท. คืนเงินชดเชยให้กับบริษัทโฮปเวลล์ จากการบอกเลิกสัญญา พร้อมด้วยดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี ซึ่งคณะกรรมการการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ได้รายงานผลการประชุมจากการประชุมบอร์ด รฟท. เมื่อวันที่ 26 เม.ย. 2562 ซึ่ง สรุปแนวทางการดำเนินการ 5 ข้อ

คือ 1. ให้คำนวณวงเงินค่าเสียหายทั้งหมดรวมอัตราดอกเบี้ยให้ชัดเจน

2. ดำเนินการเจรจากับบริษัทโฮปเวลล์ เพื่อปฏิบัติตามคำพิพากษาของศาลปกครองสูงสุด

3.กำหนดแนวทางการดำเนินการและแหล่งเงินที่เหมาะสมเพื่อนำมาชำระเงินค่าชดเชยให้กับบริษัทโฮปเวลล์

4 .จัดตั้งคณะทำงานเพื่อพิจารณารายละเอียดแนวทางการดำเนินการที่เกี่ยวข้อง เบื้องต้นประกอบด้วย กระทรวงคมนาคม ร.ฟ.ท. อัยการสูงสุด สำนักงบประมาณ กระทรวงการคลัง

5. ให้กระทรวงคมนาคมและ ร.ฟ.ท. แต่งตั้งคณะกรรมการ เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง และดำเนินการเอาผิดทางละเมิดกับผู้ที่เกี่ยวข้อง
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 43714
Location: NECTEC

PostPosted: 01/05/2019 3:20 pm    Post subject: Reply with quote

Wisarut wrote:
Wisarut wrote:
Mongwin wrote:
รฟท.จ่อทบทวนแผนฟื้นฟู ปัญหางานอืด-รายได้ไม่เข้าเป้า-ค่าโง่โฮปเวลล์
เผยแพร่: 29 เมษายน 2562 08:16 โดย: ผู้จัดการออนไลน์


สรุปค่าโง่โฮปเวลล์รายงานนายกฯ เร่งหาแนวทางก่อนเปิดเจรจาจ่ายชดเชย ยันยังไม่สรุปเฉือนที่ดินใช้หนี้
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
เผยแพร่: 29 เมษายน 2562 19:42
ปรับปรุง: 29 เมษายน 2562 19:44


ครม.รับทราบ ”โฮปเวลล์” - หาแหล่งเงินชดเชยและสอบข้อเท็จจริงคนผิด
โดย: ผู้จัดการออนไลน์

เผยแพร่: 30 เมษายน 2562 17:46

“อาคม”แจง ครม.ปมค่าโง่โฮปเวลล์ พร้อมตั้งทีมหาตัวคนเกี่ยวข้องทั้งหมด
วันที่ 30 เมษายน 2562 - 17:45 น.




ตั้งคณะทำงานทำงานไล่ล่าปม"โฮปเวลล์"
ข่าว เศรษฐกิจ-โลจิสติกส์
เดลินิวส์
อังคารที่ 30 เมษายน 2562 เวลา 17.03 น.
“นายกฯ” กำชับ  “คมนาคม” สางปมโฮปเวลล์ 1.18 หมื่นล้านให้รอบคอบ เผย 5 แนวทางออก ตั้งคณะทำงานไล่หาผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด เร่งปิดจ๊อบภายใน 180 วัน


นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคม เปิดเผยผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า เมื่อวันที่ 30 เม.ย.62 กระทรวงคมนาคมได้รายงานความคืบหน้ากรณีที่ศาลปกครองสูงสุดมีคำพิพากษาให้กระทรวงคมนาคม และ การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.)จ่ายชดเชยแก่ บริษัท โฮปเวลล์ (ประเทศไทย) จำกัด จากการบอกเลิกสัญญา เป็นเงิน 11,888.75 พร้อมดอกเบี้ย 7.5% ให้ที่ประชุม ครม. ทราบมีแนวทางทั้งหมด 5 เรื่อง ได้แก่

1.ให้คำนวณวงเงิน พร้อมดอกเบี้ยให้ชัดเจน ซึ่งอัตราดอกเบี้ยแม้จะต้องจ่าย 7.5% ในเรื่องค่าตอบแทน ค่าธรรมเนียมออกหนังสือค้ำประกัน แต่ระยะเวลาคิดดอกเบี้ยไม่เหมือนกัน ที่ต้องดำเนินการตามคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุดให้ชัดเจน ทั้งนี้ขอให้ศาลปกครองสูงสุดระบุจำนวนตัวเลขในส่วนนี้ให้ ขณะนี้ รฟท. มีหนังสือถึงสำนักงานคดีปกครองเพื่อตรวจสอบวงเงินดังกล่าวด้วยอีกทางหนึ่ง 



นายอาคม กล่าวต่อว่า 

2.เจรจากับบริษัทโฮปเวลล์ เพื่อปฏิบัติตามคำพิพากษาของศาลปกครองสูงสุดและลดผลกระทบต่อภาครัฐ โดยเฉพาะเรื่องวงเงินที่ต้องดำเนินการตามคำพิพากษาของศาลปกครองสูงสุด ดอกเบี้ยและระยะเวลาการชำระคืน

3.ให้กำหนดแนวทางและแหล่งเงินที่เหมาะสมในทางปฏิบัติตามคำพิพากษาของศาลปกครองสูงสุด ตอนนี้ยังไม่ได้ข้อสรุปรายละเอียด

4.ให้แต่งตั้งคณะทำงานโดยให้มีองค์ประกอบจากคณะทำงานจากผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กระทรวงคมนาคม รฟท. สำนักงานอัยการสูงสุด สำนักงบประมาณ กรมบัญชีกลาง สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน. ) และสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) เพื่อพิจารณาตามข้อ 1-3 รวมทั้งการดำเนินการที่เกี่ยวข้องกับคำพิพากษาสูงสุด และเป็นประโยชน์กับภาครัฐ โดยคณะทำงานชุดนี้จะดูทั้งวงเงิน แนวทางเจรจาหารือกับโฮปเวลล์ และแนวทางชำระกรณีที่ค่าใช้จ่ายที่จ่ายคืนบริษัทได้ โดยเฉพาะแหล่งเงินที่ใช้ในการชำระ ซึ่งมีหลายทางเลือก และ

5.กระทรวงคมนาคมและ รฟท.ร่วมกันแต่งตั้งคณะกรรมการสอบความรับผิดทางละเมิดเพื่อดำเนินการให้เป็นกฎหมาย กฎระเบียบและข้อบังคับที่เกี่ยวข้อง โดยต้องไปไล่ดูรายละเอียดโครงการในเรื่องข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้น และมีบุคคลที่เกี่ยวข้องบ้าง ตั้งแต่เริ่มต้นโครงการและบอกเลิกสัญญาจนทำให้เกิดผลกระทบจนถึงปัจจุบัน

นายอาคม กล่าวอีกว่า ยืนยันว่า โครงการดังกล่าวไม่ได้เกิดในรัฐบาลชุดชี้ แต่รัฐบาลชุดนี้ต้องมาแก้ไข อย่างไรก็ตามมีเวลาภายใน 180 วัน ขณะนี้ได้แต่งตั้งคณะทำงานร่วมแล้วดำเนินการให้เร็ว ขณะเดียวกัน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีกำชับให้ดำเนินการอย่างรอบคอบ อย่างไรก็ตาม เริ่มต้นโครงการไม่มีการทำโครงการศึกษาความเหมาะสม โดยเกิดขึ้นเนื่องจากรัฐบาลมีนนโยบายแก้ปัญหาการจราจร และกระทรวงได้เสนอโครงการนี้ให้ก่อสร้างทางยกระดับและรถไฟวิ่งด้านบาน ส่วนด้านล่างพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์ ตามหลักทั่วไปโครงการต่างๆ ที่เสนอต่อรัฐบาลนั้น กระทรวงต้องศึกษาความเหมาสมก่อนตามหลักการ แต่โครงการนี้ผิดแปลกไปจากโครงการอื่น ซึ่งอาจมีความจำเป็นเร่งด่วนการแก้ปัญหาจราจร และหวังว่าโครงการนี้จะช่วยการเดินทางสู่สนามกีฬาแข่งขันของเอเชี่ยนเกมส์ที่ไทยเป็นเจ้าภาพในปี 40 โดยจัดขึ้นที่ มธ. ศูนย์รังสิต ทั้งนี้ที่ผ่านมา ครม. มีมติไม่ให้ภาครัฐทำโครงการที่มีลักษณะออกแบบ แล้วขออนุมัติแบบ คำนวณวงเงินที่ต้องจ่าย แล้วค่อยก่อสร้าง ซึ่งมีข้อโต้แย้งจำนวนมาก และให้ดำเนินการการออกแบบรายละเอียดมากกว่า เพื่อไม่เป็นข้อถกเถียงกัน ระหว่างการก่อสร้าง
Back to top
View user's profile Send private message
Display posts from previous:   
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับรถไฟไทย All times are GMT + 7 Hours
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 333, 334, 335 ... 486, 487, 488  Next
Page 334 of 488

 

Share |

Jump to:  
You cannot post new topics in this forum
You cannot reply to topics in this forum
You cannot edit your posts in this forum
You cannot delete your posts in this forum
You cannot vote in polls in this forum

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group


Forums ©