View previous topic :: View next topic |
Author |
Message |
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 43714
Location: NECTEC
|
Posted: 05/05/2019 5:25 am Post subject: |
|
|
รฟท. แจกข้าวกล่องที่ระลึก ให้ประชาชนที่ร่วมงานพระราชพิธีบรมราชาภิเษก
โดย ไทยรัฐออนไลน์
4 พฤษภาคม 2562 11:24 น.
การรถไฟแห่งประเทศไทย จัดกิจกรรมโรงทานอิ่มอุ่น แจกอาหารกล่องให้กับประชาชนที่เดินทางเข้าร่วมงานในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก 4-6 พ.ค.62 จำนวนจำกัดวัน 1,000 กล่อง...
วันที่ 4 พ.ค.62 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ได้จัดกิจกรรมโรงทานอิ่มอุ่น แจกอาหารกล่องให้กับประชาชนที่เดินทางเข้าร่วมงานในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ระหว่างวันที่ 4-6 พ.ค.
โดยประชาชนสามารถติดต่อรับคูปองได้ตั้งแต่เวลา 10.00 น. ที่ สถานีรถไฟกรุงเทพ (หัวลำโพง) โดยนำบัตรประจำตัวประชาชนมาติดต่อรับบัตรคิวตรงจุดลงทะเบียน บริเวณโถงของสถานีก่อน จึงจะสามารถรับกล่องข้าวได้ โดยทาง รฟท. จะแจกวันละ 1,000 กล่อง ซึ่งในแต่ละวันเมนูอาหารอาจจะมีการปรับเปลี่ยนกันไป.
รฟท. จัดกิจกรรมโรงทานอิ่มอุ่น
ศุกร์ที่ 3 พฤษภาคม 2562 เวลา 18.19 น.
รฟท. จัดกิจกรรมโรงทานอิ่มอุ่น แจกอาหารกล่องให้ประชาชนที่เข้าร่วมงานพระราชพิธีบรมราชาภิเษก 4-6 พ.ค.นี้ ที่สถานีกรุงเทพ
นายวรวุฒิ มาลา รักษาการผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.) เปิดเผยว่า รฟท. กำหนดจัดโครงการเฉลิมพระเกียรติเนื่องในโอกาสมหามงคลพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พ.ศ. 2562 โดยจัดแสดงนิทรรศการเกี่ยวกับพระราชประวัติ พระอัจฉริยภาพ พระราชกรณียกิจของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ข้อมูล และความเป็นมาของพระราชพิธีบรมราชาภิเษก เครื่องราชกกุธภัณฑ์ และพระปฐมบรมราชโองการ 9 รัชกาล โดยจะจัดแสดงตั้งแต่วันที่ 4 พ.ค. 2 ส.ค.62 ที่สถานีกรุงเทพ(หัวลำโพง)
นายวรวุฒิ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ รฟท. ยังได้จัดกิจกรรมโรงทานอิ่มอุ่น แจกอาหารกล่องให้กับเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานจิตอาสา เจ้าหน้าที่ทหาร เจ้าหน้าที่ตำรวจ และประชาชนที่เดินทางเข้าร่วมงานในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ในช่วงระหว่างวันที่ 4 - 6 พ.ค.62 ด้วย ทั้งนี้จะเริ่มกิจกรรมฯ ในวันที่ 4 พ.ค.62 เวลา 11.30 13.00 น. ณ สถานีกรุงเทพ ขณะที่ในส่วนของภูมิภาค ได้จัดกิจกรรมร้อยรวมใจทำความดีเพื่อสังคม โดยเจ้าหน้าที่รฟท. ปฏิบัติงานจิตอาสา ร่วมลงพื้นที่ปรับปรุงสภาพภูมิทัศน์ ป้ายสัญญาณหรือเครื่องหมายจราจร บริเวณจุดตัดเสมอระดับทางรถไฟ-รถยนต์ 199 แห่ง เพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุ และอำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชนอีกด้วย.
Last edited by Wisarut on 06/05/2019 7:43 pm; edited 1 time in total |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 43714
Location: NECTEC
|
Posted: 06/05/2019 1:36 am Post subject: |
|
|
ร.ฟ.ท.จัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติ ร.๑๐
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
เผยแพร่: 4 พฤษภาคม 2562 17:15
ปรับปรุง: 5 พฤษภาคม 2562 11:13
รฟท.ร่วมแสดงความจงรักภักดี จัดโครงการเฉลิมพระเกียรติเนื่องในโอกาสมหามงคลพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พุทธศักราช 2562 พร้อมโรงทานอิ่มอุ่นแก่จิตอาสา ประชาชน
นายวรวุฒิ มาลา รองผู้ว่าการกลุ่มธุรกิจการบริหารทรัพย์สิน รักษาการในตำแหน่งผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เปิดเผยว่า เนื่องในโอกาสมหามงคลพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พุทธศักราช 2562 การรถไฟแห่งประเทศไทยซึ่งได้รับการโปรดเกล้าสถาปนาโดยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕ ได้ร่วมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ดำเนินการจัดโครงการเฉลิมพระเกียรติเนื่องในโอกาสมหามงคลพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พุทธศักราช 2562 เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการแสดงความจงรักภักดีผ่าน 3 กิจกรรมพิเศษเฉลิมพระเกียรติในหลวงรัชกาลที่ ๑๐
ประกอบด้วย นิทรรศการเฉลิมพระเกียรติเนื่องในโอกาสมหามงคล พระราชพิธีบรมราชาภิเษก พุทธศักราช 2562 ซึ่งภายในนิทรรศการได้มีการจัดแสดงพระราชประวัติ พระอัจฉริยภาพ พระราชกรณียกิจของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ประวัติความเป็นมาของพระราชพิธีบรมราชาภิเษก เครื่องราชกกุธภัณฑ์ และพระปฐมบรมราชโองการ ๙ รัชกาล ที่สถานีกรุงเทพ (หัวลำโพง) การรถไฟฯ จึงขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนร่วมรับชมตั้งแต่วันที่ 4 พฤษภาคม-2 สิงหาคม 2562
นอกจากนี้ การรถไฟแห่งประเทศไทยยังได้จัดกิจกรรม โรงทานอิ่มอุ่น แจกอาหารกล่องให้แก่เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานจิตอาสา เจ้าหน้าที่ทหาร เจ้าหน้าที่ตำรวจ และประชาชนที่เดินทางเข้าร่วมงานในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พุทธศักราช 2562 ระหว่างวันที่ 4-6 พฤษภาคม 2562 โดยกำหนดเริ่มกิจกรรมในวันที่ 4 พฤษภาคม 2562 เวลา 11.30-13.00 น. ณ สถานีกรุงเทพ (หัวลำโพง)
นอกจากนี้ ในส่วนภูมิภาค การรถไฟแห่งประเทศไทยได้จัด กิจกรรมร้อยรวมใจทำความดีเพื่อสังคม เฉลิมพระเกียรติเนื่องในโอกาสมหามงคล พระราชพิธีบรมราชาภิเษก พุทธศักราช 2562 โดยให้เจ้าหน้าที่การรถไฟแห่งประเทศไทยปฏิบัติงานจิตอาสา ร่วมลงพื้นที่ปรับปรุงสภาพภูมิทัศน์ ป้ายสัญญาณหรือเครื่องหมายจราจร บริเวณจุดตัดเสมอระดับทางรถไฟ-รถยนต์ จำนวน 199 แห่ง เพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุบริเวณจุดตัดทางรถไฟ และอำนวยความสะดวกในการสัญจรเดินทางให้แก่ประชาชน |
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 46867
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 43714
Location: NECTEC
|
Posted: 06/05/2019 9:05 pm Post subject: |
|
|
เหตุแห่งการเสียค่าโง่ : โง่จริงหรือแกล้งโง่?
พลวัตสังคม
โดย: สามารถ มังสัง
เผยแพร่: 6 พฤษภาคม 2562 15:38
คำว่า ค่าโง่ ตามความเข้าใจของคนทั่วไป หมายถึงการเสียเงินหรือทรัพย์สินอันมีค่า อันเนื่องมาจากความรู้เท่าไม่ถึงการณ์หรือเสียรู้คน เช่น มีคนมาชักชวนให้ร่วมลงทุนทำธุรกิจ โดยเสนอผลตอบแทนในรูปของดอกเบี้ยหรือเงินปันผลในอัตราสูง แต่ครั้นลงไปแล้วไม่ได้ผลตอบแทน และขอถอนทุนคืนก็ไม่ได้ แถมหอบเงินหนีติดต่อก็ไม่ได้ สุดท้ายต้องพึ่งกระบวนการยุติธรรม
แต่คำนี้ได้ถูกนำมาใช้กับการที่รัฐต้องจ่ายค่าเสียหายให้แก่ผู้ประกอบการเอกชน ซึ่งเป็นผู้รับจ้างหรือเป็นผู้รับสัมปทานโครงการจากหน่วยงานภาครัฐ และถูกบอกเลิกสัญญาได้เป็นโจทก์ยื่นฟ้องรัฐและชนะคดี
ค่าโง่ได้เกิดมาแล้วหลายโครงการเท่าที่พอจำได้ก็มีโครงการทางด่วน โครงการบ่อบำบัดน้ำเสีย และล่าสุดได้แก่โครงการโฮปเวลล์ ซึ่งการรถไฟแห่งประเทศไทยได้ให้เอกชนเป็นผู้สัมปทานไปดำเนินการ 30 ปี และต้องดำเนินการก่อสร้างให้แล้วเสร็จภายใน 6 ปี แต่เมื่อครบ 6 ปีแล้วปรากฏว่า โครงการคืบหน้าได้เพียง 30% กว่าๆ ทางการรถไฟฯ จึงได้บอกเลิกสัญญา และทางผู้รับสัมปทานได้ฟ้องศาลปกครอง และศาลปกครองสูงสุดได้ตัดสินให้การรถไฟฯ จ่ายค่าชดเชยให้แก่โจทก์ 11,888 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ย 7.5 ต่อปี อันเป็นที่มาของคำว่า ค่าโง่โครงการโฮปเวลล์
ค่าโง่เกิดขึ้นได้อย่างไร และเกิดขึ้นในขั้นตอนไหนของการดำเนินโครงการ?
เพื่อให้มองเห็นสาเหตุของการเสียค่าโง่ได้ชัดเจนขึ้น จึงขอแบ่งการดำเนินโครงการออกเป็น 2 ขั้นตอนดังนี้
1. ขั้นตอนเตรียมการ ซึ่งเจ้าของโครงการจะต้องทำคือ จ้างบริษัทที่ปรึกษาทำการศึกษาความเหมาะสม เพื่อให้รู้ว่าโครงการที่จะทำมีความเหมาะสมแก่การลงทุนหรือไม่ โดยพิจารณาจากผลประโยชน์ที่จะได้รับจากโครงการ ทั้งในทางการเงิน และในทางสังคม ถ้าศึกษาแล้วคุ้มค่าแก่การลงทุน จึงจะดำเนินการต่อไป เช่น ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และออกแบบ (ในกรณีมีการสร้าง) เป็นต้น
แต่ในความเป็นจริง ในอดีตที่ผ่านมา มีอยู่หลายโครงการถ้ามีการศึกษาโดยยึดหลักวิชาการ และมาตรฐานการลงทุนแล้วไม่คุ้มค่าแก่การลงทุนในขณะนั้น แต่ก็มีการลงทุนเนื่องจากมีกระบวนการแสวงหาประโยชน์เข้าไปแทรกแซง โดยการชี้นำในขั้นตอนการศึกษา เพื่อให้ผลออกมาคุ้มค่าแก่การลงทุน แต่ครั้นดำเนินการไปแล้วขาดทุน นี่ก็คือสาเหตุหนึ่งของการเสียค่าโง่ในเวลาต่อมา ต่อมาค่าโง่ในทำนองนี้มิได้เกิดขึ้นจากความโง่ และรู้เท่าไม่ถึงการณ์ แต่เกิดจากความแกล้งโง่ของเจ้าของโครงการ ซึ่งมีทั้งนักการเมือง และข้าราชการหรือพนักงานของรัฐในหน่วยงาน หรือส่วนราชการร่วมมือกันตั้งแท่นให้พ่อค้าเข้ามาแสวงหาประโยชน์จากรัฐ โดยที่ตนเองได้รับผลตอบแทนในการแกล้งโง่ในรูปของเงินทอง และตำแหน่ง
2. ขั้นตอนลงมือดำเนินโครงการ โดยเริ่มตั้งแต่การจัดทำ TOR (Terms of Reference) เป็นการกำหนดเงื่อนไขในการประมูลไปจนถึงการเปิดการประมูลเพื่อหาผู้รับเหมา หรือผู้รับสัมปทาน
ในขั้นตอนนี้ ถ้ามีการจ่ายเบี้ยบ้ายรายทางมาก ก็จะทำให้ต้นทุนในการดำเนินโครงการสูงขึ้น และถ้าราคากลางที่กำหนดไว้ต่ำในกรณีของผู้รับจ้าง และสูงในกรณีของการให้สัมปทาน ก็จะทำให้ผู้ชนะการประมูลต้องแบกรับต้นทุนที่เพิ่มขึ้น โดยไม่เกี่ยวข้องกับเนื้องานโดยตรง แต่เป็นต้นทุนที่แฝงเข้ามา จึงทำให้การดำเนินโครงการเป็นไปตามเงื่อนไขได้ยาก
ดังนั้น หลายๆ โครงการซึ่งเป็นเหตุให้รัฐต้องจ่ายค่าโง่ รวมทั้งโฮปเวลล์ด้วย ล้วนแล้วแต่สืบเนื่องมาจากการแกล้งโง่ของนักแสวงหาประโยชน์จากโครงการ ซึ่งประกอบด้วยนักการเมือง ข้าราชการประจำ และผู้ประกอบการภาคเอกชนร่วมมือกัน |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 43714
Location: NECTEC
|
Posted: 07/05/2019 2:44 am Post subject: |
|
|
โวย สถานีรถไฟขอนแก่น ไม่ขายตั๋ว ทำผู้โดยสารตกรถไฟ บีบให้ซื้อตั๋วไปอุดร 659 บาท
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
เผยแพร่: 3 พฤษภาคม 2562 13:39
ปรับปรุง: 3 พฤษภาคม 2562 15:18
นี่หรือสถานีใหม่! หนุ่มรายหนึ่งจะนั่งรถไฟจากขอนแก่น ไปอุดรธานีตอนเที่ยงคืน พบช่องขายตั๋วปิดไฟเงียบสนิท กระทั่งรถไฟมาถึง เพิ่งเปิดไฟแต่ไม่ขายตั๋วให้ อ้างรถกำลังจะออก บีบให้ซื้อตั๋วขบวนถัดไป 659 บาท ทั้งที่ระยะทางแค่ 120 กม. พอโวยวายก็จะซื้อตั๋วให้จบๆ แต่เพื่อนออกตังค์เอง ไร้คำขอโทษ
วันนี้ (3 พ.ค.) เฟซบุ๊ก Anusha Teerapapong ได้โพสต์ภาพและวิดีโอคลิปร้องเรียนการให้บริการของสถานีรถไฟขอนแก่น การรถไฟแห่งประเทศไทย ระบุว่า เมื่อวันที่ 3 พ.ค. ตนกำลังจะเดินทางไปจังหวัดอุดรธานี โดยเลือกเดินทางด้วยรถไฟ และได้มาถึงสถานีรถไฟขอนแก่นเมื่อเวลาเที่ยงคืน (24.00 น.) ของวันที่ 2 พ.ค. โดยรถไฟเที่ยวต่อไปที่จะผ่านสถานี คือ รถด่วนขบวนที่ 77 กรุงเทพ-หนองคาย (ใช้เส้นทางนครราชสีมา) ซึ่งจะถึงสถานีขอนแก่นตามกำหนดเวลา 02.00 น. แต่ในเว็บไซต์ระบุว่าล่าช้าไป 24 นาที
พอมาถึงสถานี ปรากฏว่าไม่มีเจ้าหน้าที่พนักงานขายตั๋วอยู่หน้าเคาน์เตอร์จึงนั่งรอเวลาขายตั๋ว ปรากฎว่าเวลาประมาณ 02.00 น.เศษ รถด่วนขบวนที่ 77 มาถึงสถานีขอนแก่น ขณะนั้นเจ้าหน้าที่เพิ่งเปิดไฟห้องจำหน่ายตั๋ว เมื่อเพื่อนของตนเดินไปซื้อ ปรากฏว่าเจ้าหน้าที่ซึ่งไม่ได้แต่งเครื่องแบบ บอกว่าไม่ขายให้เพราะรถไฟกำลังจะออก ทำให้ตนไม่พอใจอย่างมาก เพราะไม่มีการบอกผู้โดยสารล่วงหน้าว่ารถไฟกำลังจะมาถึงสถานี ไม่บอกให้ผู้โดยสารซื้อตั๋ว และไม่มีการประชาสัมพันธ์ใดๆ ทั้งๆ ที่ควรบอกผู้โดยสารล่วงหน้า
ผลก็คือ ตนรวมทั้งผู้โดยสารคนอื่นๆ ตกรถไฟขบวนนี้ ต้องรอรถไฟอีกรอบ ได้แก่ ขบวนรถด่วนพิเศษที่ 25 อีสานมรรคา กรุงเทพ-หนองคาย คาดว่าจะมาถึงสถานีขอนแก่นเวลา 04.50 น. ต้องซื้อตั๋วในราคา 659 บาท เพื่อที่จะนั่งรถไฟขบวนนี้ไปจังหวัดอุดรธานี เมื่อสอบถามพนักงานขายตั๋วก็ปฏิเสธและบ่ายเบี่ยง กล่าวว่า น้องหยุดโวยวาย น้องหยุดพูดได้แล้ว รถไฟมันผ่านไปแล้ว น้องก็รอรถไฟคันใหม่ เดี๋ยวพี่จะซื้อตั๋วให้จะได้จบๆ และว่า พี่ให้ตั๋วได้แค่คนเดียวนะ อีกคนต้องซื้อ ทำให้ตนไม่พอใจสุดท้ายเขาก็เดินหนี และไม่พูดอะไรเลย
ผมมองว่าเจ้าพนักงานขายตั๋วสถานีรถไฟขอนแก่นท่านนี้ได้ทำงานบกพร่อง และได้ติดสินบนกับผู้โดยสารอย่างผม ด้วยการซื้อตั๋วให้ใหม่เพื่อจะให้เรื่องจบๆ ไป แต่ผมบอกเลยว่าผมไม่พอใจ เพราะไม่ใช่มีแค่ผม แต่ยังมีผู้โดยสารท่านอื่นอีกมาก รอที่จะกลับบ้าน เดินทางไปทำธุระต่างๆ และเจ้าหน้าที่คนนั้นไม่ยอมรับการทำงานที่บกพร่องของตัวเองเลย ไม่ยอมขอโทษ ไม่ยอมชี้แจงรายละเอียดใดๆ สุดท้ายผมเลือกที่จะไม่เดินทางเพราะผมไม่ใช่คนที่มีคนเอาเงินมาฟาดหัวแล้วเรื่องจะจบทุกอย่าง ผู้ใช้เฟซบุ๊ก Anusha Teerapapong กล่าว
https://www.facebook.com/BasTorresBas/posts/2415074025223726
เด้งพนักงานขายตั๋ว "สถานีรถไฟขอนแก่น" เป็นเสมียนที่นครราชสีมา หลังผู้โดยสารร้องเรียนตกรถไฟ
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
เผยแพร่: 6 พฤษภาคม 2562 11:37
สารวัตรงานเดินรถแขวงนครราชสีมา ออกคำสั่งเด้งพนักงานขายตั๋ว สถานีขอนแก่น ไปเป็นเสมียนรับ-ส่ง สินค้าสถานีนครราชสีมา พร้อมห้ามยุ่งเกี่ยวกับการบริการเป็นอันขาด หลังถูกร้องเรียนเปิดไฟห้องขายตั๋วช้า และไม่ขายตั๋วไปอุดรธานีให้ จนตกรถไฟ ก่อนบีบให้ซื้อตั๋วขบวนถัดไปสูงถึง 659 บาท
วันนี้ (6 พ.ค.) จากกรณีที่เฟซบุ๊ก Anusha Teerapapong ได้โพสต์ภาพและวิดีโอคลิปร้องเรียนการให้บริการของสถานีรถไฟขอนแก่น การรถไฟแห่งประเทศไทย ระบุว่าได้มาใช้บริการที่สถานีเมื่อเวลาเที่ยงคืน ของวันที่ 3 พ.ค. เพื่อเดินทางไปจังหวัดอุดรธานี แต่พบว่าห้องจำหน่ายตั๋วปิดไฟ ไม่มีใครอยู่ กระทั่งรถด่วนขบวนที่ 77 กรุงเทพ-หนองคาย (ใช้เส้นทางนครราชสีมา) มาถึง เพิ่งเปิดไฟห้องจำหน่ายตั๋ว เมื่อเพื่อนลงไปซื้อตั๋วรถไฟกลับไม่ขายให้เพราะรถไฟกำลังจะออก โดยที่ก่อนหน้านี้ไม่มีการบอกผู้โดยสารล่วงหน้า ว่ารถไฟกำลังจะมาถึงสถานี ให้ผู้โดยสารซื้อตั๋ว และไม่ประชาสัมพันธ์ใดๆ กลับบีบให้ผู้โดยสารหยุดโวยวาย อ้างว่ารถไฟมันผ่านไปแล้ว ให้รอรถขบวนถัดไป คือขบวนรถอีสานมรรคา กรุงเทพ-หนองคาย ต้องเสียค่าโดยสาร 659 บาท โดยพยายามซื้อตั๋วให้เพื่อให้จบเรื่อง แต่เพื่อนอีกคนต้องซื้อ จึงเกิดความไม่พอใจ ตามที่ได้นำเสนอไปแล้วนั้น
รายงานข่าวแจ้งว่า นายสมาน พุทธรักษา สารวัตรงานเดินรถแขวงนครราชสีมา กองจัดการเดินรถเขต 2 ศูนย์ปฏิบัติการเดินรถภาค 3 ฝ่ายปฏิบัติการเดินรถ การรถไฟแห่งประเทศไทย ออกคำสั่งให้นายมะนัส ศรีบุญเรือง พนกงานการเดินรถ 3 สถานีขอนแก่น มาปฏิบัติหน้าที่เสมียนรับ-ส่งสินค้า สถานีนครราชสีมา ระบุว่า ด้วยนายมะนัส มีพฤติการณ์ถูกร้องเรียนด้านบริการผ่านสื่อออนไลน์จากผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ Anusha Teerapapong เพื่อเป็นการป้องกันข้อร้องเรียนอันส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของการรถไฟฯ และเพื่อป้องกันมิให้งานเกิดความเสียหายอย่างร้ายแรง จึงอาศัยอำนาจตามบันทึกฝ่ายปฏิบัติการเดินรถ ลงวันที่ 12 ก.พ. 2561 ให้นายมะนัส มาปฏิบัติหน้าที่เสมียนรับ-ส่ง สินค้าสถานีนครราชสีมา โดยให้มีที่ตั้งอยู่ที่สถานีนครราชสีมา และห้ามยุ่งเกี่ยวกับการบริการเป็นอันขาด ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 4 พ.ค. เป็นต้นไปจนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 43714
Location: NECTEC
|
Posted: 07/05/2019 4:50 pm Post subject: |
|
|
บินโลว์คอสต์แย่งผู้โดยสาร รถไฟเตรียมลดรถด่วนสายอุบลฯ-กรุงเทพฯ
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
เผยแพร่: 7 พฤษภาคม 2562 13:06
ปรับปรุง: 7 พฤษภาคม 2562 13:54
อุบลราชธานี - บินโลว์คอสต์รุกตลาดหนัก จ่อชงบอร์ดรถไฟลดขบวนพิเศษสายกรุงเทพฯ-อุบลฯ-กรุงเทพฯระหว่างจันทร์-ศุกร์ ขณะที่สุดสัปดาห์คงตารางวิ่งเดิม ส่วนมุมมองผู้โดยสารมีทั้งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย และต้องการให้เพิ่มเที่ยวในช่วงงานเทศกาล
จากการที่ฝ่ายปฏิบัติการเดินรถ การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) มีแนวคิดลดขบขวนรถด่วนพิเศษแล่นระหว่างกรุงเทพฯ-อุบลราชธานี-กรุงเทพฯ จากวันละ 2 ขบวนเหลือวันละ 1 ขบวน ระหว่างวันจันทร์-พฤหัสบดี ส่วนวันศุกร์ถึงวันอาทิตย์ยังเดินรถ 2 ขบวนตามปกติ เนื่องจากได้รับผลกระทบจากการให้บริการสายการบินโลว์คอสต์ที่มีราคาจำหน่ายตั๋วใกล้เคียงกับรถไฟ
ล่าสุด ผู้สื่อข่าวจังหวัดอุบลราชธานีได้รับการชี้แจงจากนายประสาท บัวกรด นายสถานีรถไฟอุบลราชธานี ว่าขณะนี้ ยังไม่มีหนังสือสั่งการเรื่องการลดเที่ยววิ่งของรถด่วนขบวนพิเศษ ยังคงวิ่งวันละ 2 ขบวนตามเดิม เพราะเป็นเพียงแนวความคิด หลังมีผู้โดยสารลดลง และทั้งหมดต้องนำเสนอให้บอร์ดการรถไฟแห่งประเทศไทยพิจารณาตัดสินใจอีกครั้ง
สำหรับขบวนรถด่วนพิเศษที่มีแนวโน้มจะปรับลดเที่ยววิ่งลง คือ ขบวนรถด่วนพิเศษแบบเก่า ที่เปิดให้บริการมานาน แต่ยังมีการให้บริการรถด่วนสายอีสานวัฒนาที่เป็นรถด่วนแบบใหม่ มีเครื่องอำนวยความสะดวกให้ผู้โดยสารมากกว่า และให้บริการเป็นตู้นอนชั้นที่ 1 และ 2 ทั้งขบวน ไม่มีที่นั่งปรับเอนนอนเหมือนรถด่วนแบบเดิม
ปัจจุบันรถไฟทั้ง 2 ขบวนยังให้บริการออกจากสถานรถไฟอุบลราชธานี เวลา 19.00 น. และ 19.30 น.อย่างละ 1 ขบวน ซึ่งในช่วงของวันปกติขบวนรถด่วนแบบเก่ามีปริมาณผู้โดยสารลดลงไม่เต็มขบวนจริง เนื่องจากหลายสาเหตุทั้งผู้โดยสารมีทางเลือกในการเดินทางแบบอื่นมากขึ้น แต่การให้บริการรถไฟในขบวนอื่นๆ ทั้งสายยาวและสายท้องถิ่นอีกวันละ 12 ขบวนยังให้บริการตามปกติ หากมีการเปลี่ยนแปลงจะประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนที่ใช้บริการทราบ เพื่อวางแผนในการเดินทางไม่น้อยกว่า 90 วัน
ด้านนายชัยมงคล คงมาก อายุ 37 ปี ที่มาใช้บริการรถไฟเดินทางเข้ากรุงเทพฯ กล่าวว่า การลดจำนวนขบวนวิ่งของรถไฟคงส่งผลกระทบต่อผู้โดยสารที่มาใช้บริการ โดยเฉพาะช่วงเทศกาลมีประชาชนใช้บริการรถไฟมากกว่าปกติ ตนเคยซื้อตั๋วยืนจากอุบลราชธานีไปถึงกรุงเทพฯ การลดขบวนวิ่งของรถไฟน่าจะกระทบต่อผู้โดยสารแน่นอน
ขณะที่ น.ส.ราตรี จันทร์สด อายุ 27 ปี ผู้ใช้บริการอีกคนระบุว่า การลดขบวนวิ่งของรถไฟจะไม่กระทบต่อผู้ใช้บริการในช่วงวันปกติ แต่จะกระทบในช่วงเทศกาลมากกว่า จึงขอให้การรถไฟแห่งประเทศไทยมีการเพิ่มเที่ยวขบวนแล่นรับส่งประชาชนในเทศกาล แต่ในวันปกติถ้าจะลดการวิ่งลงคงไม่มีผลอะไร
ส่วนนายสุบรรณ ทุ่งสว่าง อายุ 45 ปี บอกว่า เลือกใช้บริการรถไฟแทนสายการบินต้นทุนต่ำ เพราะจุดลงรถอยู่ใกล้บ้านและที่ทำงาน นั่งรถไฟทำให้สะดวกในการเดินทางไม่ต้องไปต่อรถเหมือนการนั่งเครื่องบิน และการลดขบวนเที่ยววิ่งของรถไฟไม่น่าจะกระทบกับผู้ใช้บริการ เพราะประชาชนมีทางเลือกหลายทางในการเดินทางอยู่แล้ว |
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 46867
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 07/05/2019 9:53 pm Post subject: |
|
|
รถไฟด่วนพิเศษอุบลฯ-กทม.ยังบริการปกติ แจงลดเที่ยววิ่งเป็นเพียงแนวคิด
สำนักข่าวไทย 7 พ.ค. 2019 11:20:27
อุบลราชธานี 7 พ.ค.- นายสถานีรถไฟอุบลฯ ระบุขบวนรถด่วนพิเศษสายเดิม ไป-กลับกรุงเทพฯ-อุบลฯ ยังให้บริการปกติ หลัง รฟท.เล็งปรับลดเที่ยววิ่งรับการแข่งขันสูง ชี้เป็นเพียงแนวคิดและต้องเสนอบอร์ดพิจารณา
กรณีฝ่ายปฏิบัติการเดินรถ การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) มีแนวคิดลดขบขวนรถด่วนพิเศษ กรุงเทพฯ- อุบลราชธานี -กรุงเทพฯ จากวันละ 2 ขบวนเหลือวันละ 1 ขบวน ช่วงวันจันทร์-พฤหัสบดี ส่วนวันศุกร์-อาทิตย์ ยังเดินรถ 2 ขบวนตามปกติ เพื่อให้สอดคล้องกับสภาพการณ์ปัจจุบัน เนื่องจากมีสายการบินโลว์คอสต์เปิดให้บริการจำนวนมาก
นายประสาท บัวกรด นายสถานีรถไฟอุบลราชธานี กล่าวว่า ล่าสุดยังไม่มีหนังสือสั่งการในเรื่องดังกล่าว เพราะเป็นเพียงแนวความคิดหลังพบว่ามีผู้โดยสารลดลง ซึ่งทั้งหมดจะต้องนำเสนอให้คณะกรรมการ หรือบอร์ด รฟท.พิจารณาอีกครั้ง ดังนั้น เวลานี้รถด่วนขบวนพิเศษยังคงให้บริการตามปกติวันละ 2 ขบวน ส่วนขบวนที่มีแนวโน้มจะปรับเที่ยววิ่งลดลง คือ ขบวนรถด่วนพิเศษแบบเก่าที่เปิดให้บริการมานานแล้ว ขณะเดียวกันมีรถด่วนสายอีสานวัฒนาที่เป็นรถด่วนแบบใหม่ที่มีเครื่องอำนวยความสะดวกให้ผู้โดยสารมากกว่าเปิดให้บริการเป็นตู้นอนชั้นที่ 1 และ 2 ทั้งขบวน ซึ่งปัจจุบันรถไฟทั้ง 2 ขบวน ยังให้บริการออกจากสถานีรถไฟอุบลราชธานี เวลา 19.00 น. และ 19.30 น.อย่างละ 1 ขบวน
นายประสาท ยอมรับว่า ช่วงวันปกติขบวนรถด่วนแบบเดิมมีปริมาณผู้โดยสารไม่เต็มขบวน เนื่องจากหลายสาเหตุทั้งผู้โดยสารมีทางเลือกในการเดินทางแบบอื่นมากขึ้น แต่การให้บริการรถไฟในขบวนอื่น ๆ ทั้งสายยาวและสายท้องถิ่นอีกวันละ 12 ขบวนยังให้บริการตามปกติ อย่างไรก็ตาม หากมีการเปลี่ยนแปลงจะแจ้งประชาชนที่ใช้บริการให้ทราบล่วงหน้า เพื่อวางแผนในการเดินทางไม่น้อยกว่า 90 วัน.-สำนักข่าวไทย |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 43714
Location: NECTEC
|
Posted: 10/05/2019 11:08 am Post subject: |
|
|
นายสถานีรถไฟอุบลฯ แจงลดขบวนรถด่วน กทม.-อุบลฯ แค่แนวคิด ยังไม่มีคำสั่ง
โดย ไทยรัฐออนไลน์
8 พฤษภาคม 2562 08:56 น.
นายสถานีรถไฟอุบลฯ แจงกรณีมีข่าวลดขบวนรถด่วนสายอุบลฯ-กรุงเทพฯ เหลือวันละ 1 ขบวน แค่แนวคิด ขณะนี้ยังไม่มีคำสั่งลดขบวนรถ เรื่องทั้งหมดยังต้องเสนอผ่านบอร์ด รฟท.ให้พิจารณา...
จากการที่ฝ่ายปฏิบัติการเดินรถ การรถไฟแห่งประเทศไทย มีแนวคิดลดขบวนรถด่วนพิเศษแล่นระหว่างกรุงเทพฯ-อุบลราชธานี-กรุงเทพฯ จากวันละ 2 ขบวน เหลือวันละ 1 ขบวน ระหว่างวันจันทร์-พฤหัสบดี ส่วนวันศุกร์ถึงวันอาทิตย์ ยังเดินรถ 2 ขบวนตามปกติ เนื่องจากได้รับผลกระทบจากการให้บริการสายการบินโลว์คอสต์
เมื่อวันที่ 8 พ.ค.2562 ผู้สื่อข่าวจังหวัดอุบลราชธานีได้รับการชี้แจงจาก นายประสาท บัวกรด นายสถานีรถไฟอุบลราชธานี ขณะนี้ยังไม่มีหนังสือสั่งการเรื่องการลดเที่ยววิ่งของรถด่วนขบวนพิเศษ ยังคงวิ่งวันละ 2 ขบวนตามเดิม เพราะเป็นเพียงแนวความคิด หลังมีผู้โดยสารลดลง และทั้งหมดต้องนำเสนอให้บอร์ดการรถไฟแห่งประเทศไทยพิจารณาตัดสินใจอีกครั้ง
สำหรับขบวนรถด่วนพิเศษที่มีแนวโน้มจะปรับลดเที่ยววิ่งลง คือ ขบวนรถด่วนพิเศษแบบเก่า ซึ่งเปิดให้บริการมานาน แต่ยังมีการให้บริการรถด่วนสายอีสานวัฒนาที่เป็นรถด่วนแบบใหม่ ที่มีเครื่องอำนวยความสะดวกให้ผู้โดยสารมากกว่า และให้บริการเป็นตู้นอนชั้นที่ 1 และ 2 ทั้งขบวน ไม่มีที่นั่งปรับเอนนอนเหมือนรถด่วนแบบเดิม
ปัจจุบันรถไฟทั้ง 2 ขบวน ยังให้บริการออกจากสถานรถไฟอุบลราชธานี เวลา 19.00 น. และ 19.30 น. อย่างละ 1 ขบวน ซึ่งในช่วงของวันปกติขบวนรถด่วนแบบเก่ามีปริมาณผู้โดยสารลดลงไม่เต็มขบวนจริง เนื่องจากหลายสาเหตุทั้งผู้โดยสารมีทางเลือกในการเดินทางแบบอื่นมากขึ้น แต่การให้บริการรถไฟในขบวนอื่นๆ ทั้งสายยาวและสายท้องถิ่นอีกวันละ 12 ขบวนยังให้บริการตามปกติ และหากมีการเปลี่ยนแปลงจะประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนที่ใช้บริการทราบ เพื่อวางแผนในการเดินทางไม่น้อยกว่า 90 วัน
ด้านนายชัยมงคล คงมาก อายุ 37 ปี ซึ่งมาใช้บริการรถไฟเดินทางเข้ากรุงเทพฯ กล่าวว่า การลดจำนวนขบวนวิ่งของรถไฟ คงส่งผลกระทบต่อผู้โดยสารที่มาใช้บริการ โดยเฉพาะช่วงเทศกาลมีประชาชนใช้บริการรถไฟมากกว่าปกติ ซึ่งตนเคยซื้อตั๋วยืนจากอุบลราชธานีไปถึงกรุงเทพฯ การลดขบวนวิ่งของรถไฟน่าจะกระทบกับผู้โดยสารแน่นอน
ขณะที่ น.ส.ราตรี จันทร์สด อายุ 27 ปี ผู้ใช้บริการอีกคนระบุว่า การลดขบวนวิ่งของรถไฟจะไม่กระทบกับผู้ใช้บริการในช่วงวันปกติ แต่จะกระทบในช่วงเทศกาลมากกว่า จึงขอให้การรถไฟแห่งประเทศไทยมีการเพิ่มเที่ยวขบวนแล่นรับส่งประชาชนในเทศกาล แต่ในวันปกติถ้าจะลดการวิ่งลงคงไม่มีผลอะไร
ส่วนนายสุบรรณ ทุ่งสว่าง อายุ 45 ปี บอกว่า เลือกใช้บริการรถไฟแทนสายการบินต้นทุนต่ำ เพราะจุดลงรถอยู่ใกล้บ้านและที่ทำงาน นั่งรถไฟทำให้สะดวกในการเดินทาง ไม่ต้องไปต่อรถเหมือนการนั่งเครื่องบิน และการลดขบวนเที่ยววิ่งของรถไฟไม่น่าจะกระทบกับผู้ใช้บริการ เพราะประชาชนมีทางเลือกหลายทางในการเดินทางอยู่แล้ว. |
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 46867
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 15/05/2019 4:56 am Post subject: |
|
|
พรุ่งนี้ รถไฟ ชงนายกฯ ลุงตู่ ไฟเขียว แผนฟื้นฟู รับสมัครพนักงานใหม่ 1,904 อัตรา
ข่าวสดออนไลน์ วันที่ 14 พฤษภาคม 2562 - 21:56 น.
พรุ่งนี้ รถไฟ ชงนายกฯ ลุงตู่ ไฟเขียวแผนฟื้นฟู รับสมัครพนักงานใหม่ 1,904 อัตรา คาดว่าจะผ่านการพิจารณาจาก ครน. ทั้งหมด หลังจากนั้นจะเสนอครม.ไฟเขียว
ชงนายกฯไฟเขียวแผนฟื้นฟูรฟท. นายวรวุฒิ มาลา รักษาการผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยถึงผลการประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) รฟท. นัดพิเศษวันที่ 14 พ.ค. ว่า ที่ประชุมสรุปรายละเอียดแผนฟื้นฟูองค์กร เพื่อเตรียมเสนอให้ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (คนร.) ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีเป็นประธาน พิจารณาในวันที่ 15 พ.ค. |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 43714
Location: NECTEC
|
Posted: 15/05/2019 12:17 pm Post subject: |
|
|
รฟท.ใกล้แจ้งเกิด บริษัทลูกทรัพย์สินและเดินรถ - ปลายปีประมูลเชิงพาณิชย์สถานีบางซื่อ
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
เผยแพร่: วันที่ 14 พฤษภาคม 2562 - 19:04
รฟท.ชงคนร.เคาะ แผนฟื้นฟู พร้อมลุยตั้ง 2 บ.ลูก ทรัพย์สินและสายสีแดง ยอมรับ สีแดงจะเห็นกำไรหลังปีที่13 ต้องวางแผนเพิ่มรายได้ลดรายจ่าย คาดมีเก็บค่าธรรมเนียมช่วยลดขาดทุน ขณะที่ปลายปี 62 เปิดประมูลเช่าพื้นที่เชิงพาณิชย์สถานีกลางบางซื่อ
นายวรวุฒิ มาลา รองผู้ว่าการกลุ่มธุรกิจการบริหารทรัพย์สิน รักษาการรักษาการในตำแหน่งผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยว่า ในวันที่ 15 พ.ค. คณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (คนร.)จะมีการประชุมเพื่อพิจารณาแผนฟื้นฟู รฟท.และการจัดตั้งบริษัทลูก ด้านบริหารสินทรัพย์ และบริษัทลูกรถไฟสายสีแดง ซึ่งรฟท.ได้เตรียมพร้อมข้อมูลและการชี้แจงเพิ่มเติมซึ่งการจัดตั้งบริษัทลูกเดินรถไฟสายสีแดง จะเป็นการอัปเกรดบริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท.จำกัด (ผู้บริหารการเดินรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตเรลลิงก์) เพิ่มพันธกิจขอบเขตงาน กำหนด ซึ่งจะใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนที่ 3,400 ล้านบาท ซึ่งหากคนร.เห็นชอบ จะคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติต่อไป และจัดตั้งบริษัทลูกต่อไป
โดย บริษัทลูกสายสีแดงนั้น ประเมินว่า จะมีกำไรในปีที่ 13-14 โดยคาดว่าจะต้องมีผู้โดยสารมากกว่า 8-9 หมื่นคน/วัน ขณะที่จะเปิดให้บริการ ในเดือนม.ค. 2564 ตั้งเป้าผู้โดยสารไว้ที่ 8 หมื่นคน/วัน แต่ปีที่เปิดให้บริการคาดว่าจะยังมีผู้โดยสารไม่มากนัก ซึ่ง บริษัทลูกสายสีแดง จะทำหน้าที่บริหารการเดินรถไฟสายสีแดง (Operator) และได้รับสิทธิในการบริหารพื้นที่ของสถานีรายทางของสายสีแดง เพื่อหารายได้เสริม ยกเว้นสถานีกลางบางซื่อ สถานีดอนเมือง สถานีรังสิต
*** หาทางเพิ่มรายได้โป๊ะรายจ่าย บริหารสถานีกลางบางซื่อ
นายวรวุฒิกล่าวว่า ในส่วน สถานีกลางบางซื่อ รฟท.อยู่ระหว่างศึกษา โดยเปิดรับฟังความเห็นและความสนใจภาคเอกชนในการลงทุน (Market Sounding) โครงการศึกษารูปแบบการบริหารจัดการและแนวทางการพัฒนาพื้นที่ และจัดทำร่างเอกสารประกอบการจัดจ้างเอกชนเพื่อบริหารจัดการพื้นที่สถานีกลางบางซื่อ ซึ่งจะมีกิจกรรมเชิงพาณิชย์ที่มีรายได้ และส่วนของบริการ ที่เป็นค่าใช้จ่าย โดยประเมินว่า ส่วนของรายได้จะต่ำกว่ารายจ่าย ดังนั้น จะศึกษากำหนดรูปแบบการบริหารจัดการที่เหมาะสม เพื่อลดต้นทุน และหารายได้เพิ่ม โดยไม่ให้กระทบต่อ Level Of Service
สถานีรถไฟจะต้องมีสิ่งอำนวยความสะดวก ครบถ้วน และให้ทุกคนเข้าถึงบริการได้เท่าเทียมกัน และเป็นบริการที่ไม่เรียกเก็บค่าธรรมเนียม ทำให้มีรายได้ไม่มากนัก ไม่เหมือนสนามบินที่มีค่าธรรมเนียมการใช้สนามบิน ดังนั้น จะต้องหาแนวทางการบริหารจัดการลดรายจ่าย และต้นทุน และหากจำเป็นต้องเก็บค่าธรรมเนียมจะต้องกำหนดอัตราที่เหมาะสมและนำเสนอรัฐบาลเพื่อขออนุมัติต่อไป
***รับฟังความเห็นนักลงทุน บริหารเชิงพาณิชย์ สถานีกลางบางซื่อ
ด้าน นายฐากูร อินทรชม ผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการเดินรถ รฟท. กล่าวว่า สถานีกลางบางซื่อจะเปิดให้บริการเต็มรูปแบบในเดือนม.ค. 2564 พร้อมกับ รถไฟสายสีแดง ซึ่ง รฟท. ได้กำหนดรูปแบบการบริหารจัดการและแนวทางการพัฒนาพื้นที่ กิจกรรมเชิงพาณิชย์ที่สร้างรายได้ เบื้องต้นแล้ว โดยจะรับฟังความคิดเห็นและความสนใจของนักลงทุนและสรุปเสนอบอร์ด รฟท.ในเดือนมิ.ย.ตั้งเป้าเปิดประมูลปลายปี 2562 เพื่อให้ได้ตัวผู้รับจ้างในกลางปี 2563
โดยเบื้องต้นกำหนดสัญญาระยะ 5 ปี แบ่งเป็น 2 ส่วน คือ การพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์ พื้นที่ในอาคาร 13,000 ตรม. รูปแบบให้เช่าพื้นที่ โดยเปิดประมูลภายใต้ระเบียบการรถไฟฯ เลือกผู้ให้ผลประโยชน์ตอบแทน รฟท.สูงสุด ประเมินจะมีรายได้จากค่าเช่าในระยะเวลา 5 ปี ประมาณ 100 ล้านบาท (ประเมินจากมูลค่าเช่าที่ 1,400 บาท/ตรม.) และ สัญญาจ้างบริหารจัดการพื้นที่ส่วนกลาง เช่น งานรักษาความสะอาด รักษาคาวามปลอดภัย ที่จอดรถ ประมูลพ.ร.บ.จัดซื้อจัดจ้าง 2560 ส่วนนี้ประเมินค่าใช้จ่าย ประมาณ 300 ล้านบาทต่อปี โดยจะรับฟังความเห็นเอกชนเพื่อปรับให้มีความเป็นไปได้มากที่สุด
สำหรับการบริหารจัดการและแนวทางการพัฒนาพื้นที่ กิจกรรมเชิงพาณิชย์ที่สร้างรายได้ทั้งในส่วนพื้นที่พาณิชยกรวมร้านค้า พื้นที่ป้ายโฆษณา และกิจกรรมบริหารสถานี ได้แก่ การรักษาความปลอดภัย การทำความสะอาด การบริหารอาคาร โดยเมื่อเปิดให้บริการ สถานีกลางบางซื่อจะกลายเป็นศูนย์กลางการเดินทางหลักของประเทศที่เชื่อมโยงโครงข่ายคมนาคมโดยระบบต่างๆ (Multi-Modal Transportation) ได้แก่ รถไฟทางไกล (Inter-City Train) รถไฟฟ้าชานเมือง (Commuter Train Red Line) รถไฟฟ้าความเร็วสูง (High-Speed Railway) รถไฟฟ้าเชื่อมท่าอากาศยาน (Airport Rail Link)
สำหรับขอบเขตของพื้นที่ของอาคารสถานีกลางบางซื่อเป็นอาคารสูง 3 ชั้น ประกอบด้วย ชั้นใต้ดิน เป็นพื้นที่จอดรถประมาณ 1,613 คัน มีโถงเชื่อมต่อจากพื้นที่จอดรถ (58,210 ตรม.) ทางเดินขึ้นไปยังชั้นจำหน่ายตั๋วโดยสาร ชั้น 1 (พื้นที่ประมาณ 122,810 ตารางเมตร) ประกอบด้วย โถงพักคอยของผู้โดยสาร และโถงชานชาลาผู้โดยสาร มีจุดเชื่อมต่อกับสถานีบางซื่อของ MRT ในปัจจุบัน
และพื้นที่ส่วนพาณิชยกรรมร้านค้า ชั้นลอยที่ 1 (พื้นที่ประมาณ 9,800 ตารางเมตร) เป็นพื้นที่ส่วนพาณิชยกรรมร้านค้า ชั้น 2 รวมชั้นลอย 2 (พื้นที่ประมาณ 50,860 ตารางเมตร) ประกอบด้วย พื้นที่ต้อนรับบุคคลสำคัญ (VIP) ส่วนควบคุมระบบการเดินรถและพื้นที่ทำงานของเจ้าหน้าที่อาคาร ส่วนชานชาลารถไฟทางไกล (LD Platform Level) ชานชาลารถไฟชานเมือง (CT Platform Level) ชั้น 3 (พื้นที่ประมาณ 43,800 ตารางเมตร) ประกอบด้วย ชานชาลารถไฟมาตรฐานและรถไฟเชื่อมท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ |
|
Back to top |
|
|
|