Ads Service

Main Menu

 
icon_home.gif Homepage
icon_community.gif Members Zone
· ข้อมูลส่วนตัว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ข่าวสารส่วนตัว
· บริการเว็บเมล์
· กระดานข่าว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก กระดานฝากข้อความ
· รถไฟไทยแกลลอรี่
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก รายนามสมาชิก
· แบบสำรวจ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก สมุดเยี่ยม
· เกี่ยวกับสมาชิก
favoritos.gif News & Stories
· เรื่องทั้งหมด
· เนื้อหาสาระ
· เรื่องสำหรับพิมพ์
· ยอดฮิตติดอันดับ
· ค้นหาข่าวสาร
· ค้นหากระทู้เก่า
nuke.gif Contents
· กำหนดเวลาเดินรถ
· ประเภทขบวนรถโดยสาร
· ข้อมูลเส้นทางรถไฟ
· แผนที่เส้นทางรถไฟ
· อัตราค่าโดยสาร
· คำนวณค่าโดยสารรถไฟ
· รูปแบบการให้บริการรถไฟ
· หมายเลขโทรศัพท์ที่สำคัญ
· ทริปท่องเที่ยวโดยรถไฟ
· ระบบติดตามขบวนรถ
som_downloads.gif Services
· Downloads
· GoogleSearch
· Hotels Booking
· FlashGames
· Wallpaper 1
· Wallpaper 2
· Wallpaper 3
· Wallpaper 4
icon_members.gif Information
· เกี่ยวกับเรา
· นโยบายความเป็นส่วนตัว
· แผนผังเว็บไซต์ฯ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ส่งข้อแนะนำติชม
· ติดต่อลงโฆษณา
· แนะนำและบอกต่อ
· สถิติทั้งหมด
· สำหรับผู้ดูแลระบบ
 

Sponsors

 

Ads Service

 

Visitors

 


มีผู้เข้าเยี่ยมชม
สมาชิก:311903
ทั่วไป:13574910
ทั้งหมด:13886813
คน ตั้งแต่
01-08-2004
 


Rotfaithai.Com :: View topic - ข่าว รฟท จาก หนังสือพิมพ์
 Forum FAQForum FAQ   SearchSearch   UsergroupsUsergroups   ProfileProfile   Log in to check your private messagesLog in to check your private messages   Log inLog in 

ข่าว รฟท จาก หนังสือพิมพ์
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 335, 336, 337 ... 486, 487, 488  Next
 
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับรถไฟไทย
View previous topic :: View next topic  
Author Message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 43714
Location: NECTEC

PostPosted: 15/05/2019 5:07 pm    Post subject: Reply with quote

“บิ๊กตู่” ประชุม คนร.ฟังแผนฟื้นฟู ร.ฟ.ท.-รับคนเพิ่มทำรถไฟทางคู่-จด บ.ลูกดูแลรถไฟฟ้าสีแดง
โดย: ผู้จัดการออนไลน์

เผยแพร่: 15 พฤษภาคม 2562 - 10:25
ปรับปรุง: 15 พฤษภาคม 2562 - 12:27

นายกฯ ประชุม คนร.รับทราบรายงานความคืบหน้าฟื้นฟูกิจการ ร.ฟ.ท. รับคนเพิ่ม 1,900 รองรับรถไฟทางคู่ จดทะเบียนบริษัทลูก 3,400 ล้าน นำเงินหมุนเวียนบริหารรถไฟฟ้าสีแดง

วันนี้ (15 พ.ค.) เมื่อเวลา 09.00 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ หรือ คนร. ที่ทำเนียบรัฐบาล ซึ่งคาดว่าจะมีการรายงานความคืบหน้าแผนฟื้นฟูกิจการของการรถไฟแห่งประเทศไทย หรือ ร.ฟ.ท. รวมถึงการรับบุคลากรเพิ่มกว่า 1,900 คน ภายในปีนี้ เพื่อรองรับโครงการรถไฟทางคู่ และพิจารณางบประมาณในการจดทะเบียนบริษัทลูกด้านเดินรถ วงเงิน 3,400 ล้านบาท เพื่อนำไปเป็นเงินหมุนเวียนในการบริหารรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง ก่อนเสนอขอความเห็นชอบที่ประชุมคณะรัฐมนตรีต่อไป


ร.ฟ.ท.ใกล้แจ้งเกิดบริษัทลูก “ทรัพย์สินและเดินรถ”-ปลายปีประมูลเชิงพาณิชย์สถานีบางซื่อ
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
เผยแพร่: 14 พฤษภาคม 2562 - 19:04
ปรับปรุง: 15 พฤษภาคม 2562 - 13:09




ร.ฟ.ท.ชง คนร.เคาะแผนฟื้นฟู พร้อมลุยตั้ง 2 บริษัทลูก “ทรัพย์สินและสายสีแดง” ยอมรับสีแดงจะเห็นกำไรหลังปีที่ 13 ต้องวางแผนเพิ่มรายได้ลดรายจ่าย คาดมีเก็บค่าธรรมเนียมช่วยลดขาดทุน ขณะที่ปลายปี 62 เปิดประมูลเช่าพื้นที่เชิงพาณิชย์สถานีกลางบางซื่อ

นายวรวุฒิ มาลา รองผู้ว่าการกลุ่มธุรกิจการบริหารทรัพย์สิน รักษาการในตำแหน่งผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เปิดเผยว่า ในวันที่ 15 พ.ค. คณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (คนร.) จะมีการประชุมเพื่อพิจารณาแผนฟื้นฟู ร.ฟ.ท.และการจัดตั้งบริษัทลูกด้านบริหารสินทรัพย์ และบริษัทลูกรถไฟสายสีแดง ซึ่ง ร.ฟ.ท.ได้เตรียมพร้อมข้อมูลและการชี้แจงเพิ่มเติม ซึ่งการจัดตั้งบริษัทลูกเดินรถไฟสายสีแดงจะเป็นการอัปเกรดบริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท.จำกัด (ผู้บริหารการเดินรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตเรลลิงก์) เพิ่มพันธกิจขอบเขตงาน กำหนด ซึ่งจะใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนที่ 3,400 ล้านบาท ซึ่งหาก คนร.เห็นชอบจะเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติ และจัดตั้งบริษัทลูกต่อไป

สำหรับบริษัทลูกสายสีแดงนั้น ประเมินว่าจะมีกำไรในปีที่ 13-14 โดยคาดว่าจะต้องมีผู้โดยสารมากกว่า 8-9 หมื่นคน/วัน ขณะที่จะเปิดให้บริการในเดือน ม.ค. 2564 ตั้งเป้าผู้โดยสารไว้ที่ 8 หมื่นคน/วัน แต่ปีที่เปิดให้บริการคาดว่าจะยังมีผู้โดยสารไม่มากนัก ซึ่งบริษัทลูกสายสีแดงจะทำหน้าที่บริหารการเดินรถไฟสายสีแดง (Operator) และได้รับสิทธิในการบริหารพื้นที่ของสถานีรายทางของสายสีแดงเพื่อหารายได้เสริม ยกเว้นสถานีกลางบางซื่อ สถานีดอนเมือง สถานีรังสิต

*** หาทางเพิ่มรายได้โปะรายจ่าย บริหารสถานีกลางบางซื่อ

นายวรวุฒิกล่าวว่า ในส่วนสถานีกลางบางซื่อ ร.ฟ.ท.อยู่ระหว่างศึกษา โดยเปิดรับฟังความเห็นและความสนใจภาคเอกชนในการลงทุน (Market Sounding) โครงการศึกษารูปแบบการบริหารจัดการและแนวทางการพัฒนาพื้นที่ และจัดทำร่างเอกสารประกอบการจัดจ้างเอกชนเพื่อบริหารจัดการพื้นที่สถานีกลางบางซื่อ ซึ่งจะมีกิจกรรมเชิงพาณิชย์ที่มีรายได้ และส่วนของบริการที่เป็นค่าใช้จ่าย โดยประเมินว่าส่วนของรายได้จะต่ำกว่ารายจ่าย ดังนั้น จะศึกษากำหนดรูปแบบการบริหารจัดการที่เหมาะสมเพื่อลดต้นทุน และหารายได้เพิ่ม โดยไม่ให้กระทบต่อ Level of Service

“สถานีรถไฟจะต้องมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบถ้วน และให้ทุกคนเข้าถึงบริการได้เท่าเทียมกัน และเป็นบริการที่ไม่เรียกเก็บค่าธรรมเนียม ทำให้มีรายได้ไม่มากนัก ไม่เหมือนสนามบินที่มีค่าธรรมเนียมการใช้สนามบิน ดังนั้น จะต้องหาแนวทางการบริหารจัดการลดรายจ่าย และต้นทุน และหากจำเป็นต้องเก็บค่าธรรมเนียมจะต้องกำหนดอัตราที่เหมาะสมและนำเสนอรัฐบาลเพื่อขออนุมัติต่อไป”

***รับฟังความเห็นนักลงทุน บริหารเชิงพาณิชย์สถานีกลางบางซื่อ

ด้าน นายฐากูร อินทรชม ผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการเดินรถ ร.ฟ.ท. กล่าวว่า สถานีกลางบางซื่อจะเปิดให้บริการเต็มรูปแบบในเดือน ม.ค. 2564 พร้อมกับรถไฟสายสีแดง ซึ่ง ร.ฟ.ท.ได้กำหนดรูปแบบการบริหารจัดการและแนวทางการพัฒนาพื้นที่กิจกรรมเชิงพาณิชย์ที่สร้างรายได้เบื้องต้นแล้ว โดยจะรับฟังความคิดเห็นและความสนใจของนักลงทุนและสรุปเสนอบอร์ด ร.ฟ.ท.ในเดือน มิ.ย. ตั้งเป้าเปิดประมูลปลายปี 2562 เพื่อให้ได้ตัวผู้รับจ้างในกลางปี 2563

เบื้องต้นกำหนดสัญญาระยะ 5 ปี แบ่งเป็น 2 ส่วน คือ การพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์ พื้นที่ในอาคาร 13,000 ตร.ม. รูปแบบให้เช่าพื้นที่ โดยเปิดประมูลภายใต้ระเบียบการรถไฟฯ เลือกผู้ให้ผลประโยชน์ตอบแทน ร.ฟ.ท.สูงสุด ประเมินจะมีรายได้จากค่าเช่าในระยะเวลา 5 ปี ประมาณ 100 ล้านบาท (ประเมินจากมูลค่าเช่าที่ 1,400 บาท/ตร.ม.) และสัญญาจ้างบริหารจัดการพื้นที่ส่วนกลาง เช่น งานรักษาความสะอาด รักษาความปลอดภัย ที่จอดรถ ประมูล พ.ร.บ.จัดซื้อจัดจ้าง 2560 ส่วนนี้ประเมินค่าใช้จ่ายประมาณ 300 ล้านบาทต่อปี โดยจะรับฟังความเห็นเอกชนเพื่อปรับให้มีความเป็นไปได้มากที่สุด

สำหรับการบริหารจัดการและแนวทางการพัฒนาพื้นที่กิจกรรมเชิงพาณิชย์ที่สร้างรายได้ทั้งในส่วนพื้นที่พาณิชยกรรมร้านค้า พื้นที่ป้ายโฆษณา และกิจกรรมบริหารสถานี ได้แก่ การรักษาความปลอดภัย การทำความสะอาด การบริหารอาคาร โดยเมื่อเปิดให้บริการ สถานีกลางบางซื่อจะกลายเป็นศูนย์กลางการเดินทางหลักของประเทศที่เชื่อมโยงโครงข่ายคมนาคมโดยระบบต่างๆ (Multi-Modal Transportation) ได้แก่ รถไฟทางไกล (Inter-City Train) รถไฟฟ้าชานเมือง (Commuter Train Red Line) รถไฟฟ้าความเร็วสูง (High-Speed Railway) รถไฟฟ้าเชื่อมท่าอากาศยาน (Airport Rail Link)

สำหรับขอบเขตของพื้นที่อาคารสถานีกลางบางซื่อเป็นอาคารสูง 3 ชั้น ประกอบด้วย ชั้นใต้ดิน เป็นพื้นที่จอดรถประมาณ 1,613 คัน มีโถงเชื่อมต่อจากพื้นที่จอดรถ (58,210 ตร.ม.) ทางเดินขึ้นไปยังชั้นจำหน่ายตั๋วโดยสาร ชั้น 1 (พื้นที่ประมาณ 122,810 ตารางเมตร) ประกอบด้วย โถงพักคอยของผู้โดยสาร และโถงชานชาลาผู้โดยสาร มีจุดเชื่อมต่อกับสถานีบางซื่อของ MRT ในปัจจุบัน

และพื้นที่ส่วนพาณิชยกรรมร้านค้า ชั้นลอยที่ 1 (พื้นที่ประมาณ 9,800 ตารางเมตร) เป็นพื้นที่ส่วนพาณิชยกรรมร้านค้า ชั้น 2 รวมชั้นลอย 2 (พื้นที่ประมาณ 50,860 ตารางเมตร) ประกอบด้วย พื้นที่ต้อนรับบุคคลสำคัญ (VIP) ส่วนควบคุมระบบการเดินรถและพื้นที่ทำงานของเจ้าหน้าที่อาคาร ส่วนชานชาลารถไฟทางไกล (LD Platform Level) ชานชาลารถไฟชานเมือง (CT Platform Level) ชั้น 3 (พื้นที่ประมาณ 43,800 ตารางเมตร) ประกอบด้วย ชานชาลารถไฟมาตรฐานและรถไฟเชื่อมท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 43714
Location: NECTEC

PostPosted: 16/05/2019 10:56 am    Post subject: Reply with quote

Wisarut wrote:
“บิ๊กตู่” ประชุม คนร.ฟังแผนฟื้นฟู ร.ฟ.ท.-รับคนเพิ่มทำรถไฟทางคู่-จด บ.ลูกดูแลรถไฟฟ้าสีแดง
โดย: ผู้จัดการออนไลน์

เผยแพร่: 15 พฤษภาคม 2562 - 10:25
ปรับปรุง: 15 พฤษภาคม 2562 - 12:27

ร.ฟ.ท.ใกล้แจ้งเกิดบริษัทลูก “ทรัพย์สินและเดินรถ”-ปลายปีประมูลเชิงพาณิชย์สถานีบางซื่อ
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
เผยแพร่: 14 พฤษภาคม 2562 - 19:04
ปรับปรุง: 15 พฤษภาคม 2562 - 13:09




คนร. ยอมล้างหนี้ขสมก.1.2 แสนล้าน สั่งลุยตามแผนฟื้นฟูกิจการ! - ตั้งบริษัทลูกรถไฟคุมทรัพย์สิน
โดย ไทยรัฐฉบับพิมพ์
16 พฤษภาคม 2562 08:50 น.



นางปานทิพย์ ศรีพิมล ที่ปรึกษาด้านพัฒนารัฐวิสาหกิจ สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (คนร.) ที่มีพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ได้เห็นชอบแผนฟื้นฟูกิจการรัฐวิสาหกิจในสังกัดกระทรวงคมนาคม โดยในส่วนขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ได้รายงานผลการดำเนินงาน หลังการปรับราคาค่าโดยสารเมื่อเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา ทำให้มีรายได้เพิ่มขึ้นจากการเดินรถบริการ

นอกจากนี้ ขสมก.ยังเสนอแผนฟื้นฟูกิจการฯเพื่อล้างหนี้และผลขาดทุนสะสม 128,000 ล้านบาท ซึ่งภายใต้แผนดังกล่าวมีข้อเสนอให้ขึ้นราคาค่ารถโดยสารในปี 2563 การเพิ่มจำนวนรถโดยสาร การปรับลดจำนวนพนักงาน เพื่อลดต้น และการใช้น้ำมัน B20 โดย คนร.ขอให้ ขสมก.นำแผนฟื้นฟูฯดังกล่าวไปปรับปรุงอีกครั้ง โดยกำหนดเงื่อนไข ว่า ขสมก.จะออกจากแผนฟื้นฟูฯได้ต่อเมื่อมีผลประกอบการดีขึ้น ซึ่งตามแผนที่เสนอมานั้น ขสมก.ยืนยันว่าจะดำเนินกิจการให้ผลประกอบการกำไรก่อนหักดอกเบี้ยและภาษี (EBITDA) เป็นบวกในปี 2566

“คนร.อนุมัติในหลักการเรียบร้อยแล้ว ซึ่งภายใต้แผนการฟื้นฟูกิจการฯ ที่ ขสมก.เสนอนั้น มีหลายประเด็นที่ต้องยืนยันว่า สามารถดำเนินการได้อย่างชัดเจน เช่น แผนการดูแลพนักงานที่จะเข้าโครงการเกษียณอายุก่อนกำหนด (เออร์ลี่ รีไทร์) ที่ต้องมีรายละเอียดครบถ้วนก่อนนำเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาอนุมัติ พร้อมแผนจัดหารถใหม่ ที่มีแผนจัดหารถใหม่ให้ครบ 2,188 คัน จากก่อนหน้านี้จัดซื้อ รถเมล์เอ็นจีวี 489 คันไปแล้ว ส่วนที่เหลือจะดำเนินการตาม แผนที่วางไว้ทั้งการจัดเช่ารถเมล์ 700 คัน และรถเมล์ไฟฟ้าเพิ่มเติม”

ส่วนการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ที่ประชุม คนร.ได้เห็นชอบการจัดตั้งบริษัทลูก เพื่อบริหารทรัพย์สิน และเพิ่มภารกิจให้บริษัท รถไฟฟ้า รฟท. จำกัด หรือเออาร์แอล ผู้ให้บริการเดินรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตเรล ลิ้งค์ ให้มีภารกิจเดินรถไฟฟ้าสายสีแดงเส้นทางตลิ่งชัน-บางซื่อ และบางซื่อ-รังสิต ซึ่งโครงการจะเปิดให้บริการต้นปี 2564 รวมถึงการเพิ่มจำนวนเจ้าหน้าที่ 1,904 คน เพื่อรองรับการเปิดบริการ ทั้งรถไฟฟ้าสายสีแดงและสถานีกลางบางซื่อ และในอนาคตโครงการรถไฟฟ้าเชื่อม 3 สนามบิน คือ ดอนเมือง สุวรรณภูมิและอู่ตะเภา จะวิ่งทับเส้นทางของรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตเรล ลิ้งค์ ซึ่งจะทำให้เออาร์แอล มีเพียงรถไฟฟ้าสายสีแดงเท่านั้น ที่ให้บริการ นอกจากนี้คนร.ยังมีมติให้ควบรวบบริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) และบริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) เป็นบริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัดด้วย.
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 43714
Location: NECTEC

PostPosted: 17/05/2019 12:29 pm    Post subject: Reply with quote

รฟท. มอบอุปกรณ์กีฬาให้โรงเรียนห่างไกล
ศุกร์ที่ 17 พฤษภาคม 2562 เวลา 10.30 น.

รฟท. จัดกิจกรรมซีเอสอาร์ นำอุปกรณ์การกีฬา เครื่องอุปโภคบริโภค และทุนการศึกษามอบให้นักเรียน ร.ร.ตํารวจตระเวนชายแดนวัดสุธาสินี จ.กาญจนบุรี ช่วยเติมเต็มโอกาสให้กับเด็กนักเรียนในโรงเรียนที่ห่างไกล

นายสุพจน์ เหล่าสุอาภา กรรมการการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยว่า รฟท. ได้มีนโยบายให้ความสำคัญต่อการพัฒนาองค์กรให้เติบโตอยู่บนพื้นฐานของหลักธรรมาภิบาล ควบคู่ไปกับการดูแลรับผิดชอบต่อสังคมสิ่งแวดล้อม พร้อมกับคำนึงถึงผลประโยชน์ของผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่ม จึงได้จัดกิจกรรมซีเอสอาร์ตอบแทนสังคมขึ้น ณ โรงเรียน (ร.ร.) ตํารวจตระเวนชายแดนวัดสุธาสินี ต.บ้องตี้ อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี เมื่อวันที่ 15-16 พ.ค. 62 โดยมีตัวแทนคณะผู้บริหารระดับสูงและเจ้าหน้าที่ของ รฟท. นำอุปกรณ์ข้าวของเครื่องใช้ที่จำเป็นต่อการศึกษา เครื่องอุปโภคบริโภค ทุนการศึกษา รวมถึงอุปกรณ์การกีฬาไปมอบให้แก่คณาจารย์ เด็กนักเรียนที่ ร.ร.ตํารวจตระเวนชายแดนวัดสุธาสินี โดยจัดกิจกรรมครั้งนี้เป็นการดำเนินการตามมติคณะอนุกรรมการกํากับการดูแลกิจการที่ดีและความรับผิดชอบต่อสังคม (CG) คาดหวังว่าจะเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเติมเต็มโอกาสให้กับเด็กนักเรียนในโรงเรียนที่ห่างไกล ได้รับมาตรฐานทางการศึกษาที่ดียิ่งขึ้น ตลอดจนสร้างเสริมภาพลักษณ์ ความสัมพันธ์อันดีระหว่าง รฟท.กับชุมชนต่างๆ อีกด้วย

นายสุพจน์ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ของ รฟท. ยังได้ทำกิจกรรมทําความสะอาดโรงเรียน และรับประทานอาหารกลางวันร่วมกับเด็กนักเรียน อาจารย์ พร้อมกับมีการสอดแทรกให้ความรู้เกี่ยวกับกิจการรถไฟแก่เด็กนักเรียน คณาจารย์ ให้เกิดความเข้าใจเกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่และความสำคัญของ รฟท. ซึ่งช่วยปลูกฝังให้เยาวชนของชาติได้เกิดความภาคภูมิใจความผูกพันหวงแหนกิจการรถไฟในฐานะสาธารณะสมบัติของชาติ อย่างไรก็ตามคาดหวังว่าการจัดกิจกรรมซีเอสอาร์ตอบแทนสังคมที่ ร.ร.ตํารวจตระเวนชายแดนวัดสุธาสินี จะช่วยเพิ่มโอกาสทางให้กับเด็กนักเรียนได้รับมาตรฐานการศึกษาที่ดียิ่งขึ้น ตลอดจนสามารถนำอุปกรณ์ข้าวของเครื่องใช้ด้านการเรียนและการกีฬาไปใช้ให้เกิดประโยชน์ ต่อยอดไปสู่การช่วยยกระดับพัฒนาการศึกษาและคุณภาพชีวิตที่ดีต่อไปในอนาคตได้
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 43714
Location: NECTEC

PostPosted: 19/05/2019 10:50 pm    Post subject: Reply with quote

อดีตขุนคลังอัดรัฐบาลไม่จริงใจแก้ปัญหา รฟท.
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
เผยแพร่: อาทิตย์ที่ 19 พฤษภาคม 2562 เวลา 16:31
ปรับปรุง: อาทิตย์ที่ 19 พฤษภาคม 2562 เวลา 16:33

นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Thirachai Phuvanatnaranubala - - ธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล ถึงกรณีที่การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ต้องโอนที่ดินมักกะสันให้กับโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน โดยระบุข้อความว่า



"ตบหัว ลูบหลัง รฟท."

ข่าวระบุว่า เมื่อวันที่ 15 พ.ค. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ

ซึ่งจะมีการรายงานความคืบหน้าแผนฟื้นฟูกิจการของการรถไฟแห่งประเทศไทย

แผนรวมถึงการรับบุคลากรเพิ่มกว่า 1,900 คน ภายในปีนี้ เพื่อรองรับโครงการรถไฟทางคู่ และการจัดตั้งบริษัทลูกด้านเดินรถ ทุน 3,400 ล้านบาท เพื่อนำไปเป็นเงินหมุนเวียนในการบริหารรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง

แผนลักษณะนี้แก้ปัญหา รฟท. เฉพาะบางจุด

แต่แผนที่จะแก้ปัญหาอย่างครบถ้วนนั้น จะต้องหาคำตอบสำหรับต่อไปนี้

1. ถึงแม้รัฐจะให้ รฟท. คิดค่าโดยสารต่ำกว่าทุน แต่จะต้องกำหนดมาตรฐานค่าโดยสารที่ใช้วัดประสิทธิภาพได้ และรัฐต้องชดเชยเป็นเงินสดทุกปี ตามตัวเลขมาตรฐาน

2. รัฐต้องเร่งรัดปรับปรุงการบริหารงาน การบัญชี และการควบคุมภายใน ต้องกำหนดเวลาแล้วเสร็จที่เฉียบขาด

3. ไม่ควรตั้งบริษัทลูกเพื่อบริหารการเดินรถเป็นส่วนๆ แต่ควรตั้งเพื่อนำอสังหาริมทรัพย์ออกประมูลให้เอกชนเสนอเงินกินเปล่า เพื่อนำเงินส่วนหนึ่งมาใช้หนี้เดิม และอีกส่วนหนึ่งเพื่อลงทุนใหม่

อย่างไรก็ดี น่าเสียดายที่รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ได้แสดงความจริงใจที่จะแก้ปัญหา รฟท.

เพราะการตัดเอาที่ดินมักกะสันไปเพื่อประโยชน์แก่เอกชน โดย รฟท. ได้ประโยชน์ต่ำกว่ามูลค่ายุติธรรมมากมายนั้น เป็นการทิ้งเครื่องมือหลักที่จะใช้แก่ปัญหา รฟท.

วันที่ 19 พฤษภาคม 2562
ธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล
Facebook Thirachai Phuvanatnaranubala
(เครดิตภาพตามแหล่งที่แสดงชื่อ)

หมายเหตุ: การกล่าวถึงชื่อบุคคลใดมิใช่เป็นการกล่าวหากระทำความผิด แต่เป็นเพื่อประกอบการบรรยายทางวิชาการเพื่อประโยชน์แก่ทางราชการในการรักษาประโยชน์ของประเทศชาติเป็นสำคัญ
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 43714
Location: NECTEC

PostPosted: 24/05/2019 2:57 pm    Post subject: Reply with quote

ใครโกงบอกด้วย! คน ร.ฟ.ท.ประกาศต่อต้านการทุจริต
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
เผยแพร่: วันศุกร์ ที่ 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2562 เวลา 12:19
ปรับปรุง: วันศุกร์ ที่ 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2562 เวลา 13:47

การรถไฟฯ จัดกิจกรรม “ใครโกงบอกด้วย คนรถไฟต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชัน” ประกาศเจตจํานงการต่อต้านการทุจริต “SRT Zero Toterance” ที่สถานีกรุงเทพ (หัวลำโพง)

การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ผนึกกำลังความร่วมมือระหว่างพนักงาน ผู้มีส่วนได้เสีย และพี่น้องประชาชน จัดกิจกรรม “ใครโกงบอกด้วย คนรถไฟต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชัน” ประกาศเจตจํานงการต่อต้านการทุจริต “SRT Zero Toterance” ที่สถานีกรุงเทพ (หัวลำโพง) พร้อมทั้งได้ร่วมกันกล่าวคำปฏิญาณตน เพื่อแสดงออกถึงความตั้งใจในการแก้ปัญหาคอร์รัปชันร่วมกันอย่างจริงจัง

วันนี้ (24 พ.ค.) เวลา 09.00-12.00 น. บริเวณชานชาลาที่ 4 และ 5 ณ สถานีกรุงเทพ (หัวลำโพง) การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ได้จัดกิจกรรม “ใครโกงบอกด้วย คนรถไฟต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชัน” ประกาศเจตจํานงการ ต่อต้านการทุจริต “SRT Zero Toterance” เพื่อแสดงออกถึงการบริหารงานที่สุจริต มีคุณธรรม และความโปร่งใส โดยมีนายกุลิศ สมบัติศิริ ประธานกรรมการรถไฟแห่งประเทศไทย เป็นประธานเปิดงาน พร้อมด้วยคณะกรรมการรถไฟ ผู้บริหารและบุคลากรเจ้าหน้าที่การรถไฟฯ ผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง และประชาชนเข้าร่วมกิจกรรม

โดยนายกุลิศ สมบัติศิริ ประธานบอร์ด ร.ฟ.ท.เปิดเผยว่า การจัดกิจกรรมประกาศเจตจํานงการต่อต้านการทุจริต “SRT Zero Toterance” มีวัตถุประสงค์เพื่อต้องการแสดงให้เห็นถึงความตั้งใจในการบริหารงานที่สุจริต มีคุณธรรม และความโปร่งใสขององค์กร โดยได้มีการเปิดพื้นที่สถานีกรุงเทพ (หัวลำโพง) เพื่อให้พนักงานการรถไฟฯ ประชาชน และผู้มีส่วนได้เสียกับการรถไฟฯ ได้เข้ามามีส่วนร่วมในการกล่าวคำปฏิญาณตนต่อต้านการทุจริตร่วมกัน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในการประเมินคุณธรรมและความโปร่งใสในการดำเนินงานของหน่วยงานภาครัฐ (ITA) รวมถึงยังได้มีการจัดกิจกรรมระหว่างพนักงานรถไฟกับประชาชน เพื่อร่วมกันปลูกฝังค่านิยม ส่งเสริมแนวคิดการทำงานที่สุจริต มีคุณธรรม นำไปสู่การสร้างเสริมวัฒนธรรมที่ดีแก่องค์กรอีกด้วย

“การจัดกิจกรรมรณรงค์ต่อต้านการทุจริต SRT Zero Tolerance ถือได้ว่ามีความสำคัญและสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่มุ่งมั่นในการปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชันอย่างจริงจัง โดยได้บรรจุเรื่องนี้ให้อยู่ในคำแถลงนโยบายของคณะรัฐมนตรีต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติ เมื่อวันที่ 12 กันยายน 2557 รวมถึงยังกำหนดให้เป็นวาระสำคัญอยู่ในยุทธศาสตร์ชาติระยะ 20 ปี ในยุทธศาสตร์ที่ 6 ที่มุ่งการปรับสมดุลและพัฒนาระบบการบริหารจัดการภาครัฐ เพื่อให้การแก้ปัญหาการทุจริตเกิดความต่อเนื่องและเห็นผลเป็นรูปธรรม”

ที่ผ่านมาการรถไฟแห่งประเทศไทยยังได้ร่วมเป็นหนึ่งในองค์กรที่เข้าร่วมกิจกรรมรณรงค์ต่อต้านการทุจริต “MOT Zero Tolerance ไม่ยอม ไม่ทน ไม่เฉย ของกระทรวงคมนาคม ซึ่งแสดงออกให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการต่อต้านปัญหาการทุจริตคอร์รัปชันในองค์กรอย่างต่อเนื่องและจริงจัง ตลอดจนยังได้เสริมสร้างคุณธรรม ปลุกจิตสำนึกให้พนักงานตระหนักถึงปัญหาและความเลวร้ายของการคอร์รัปชั่น เพื่อนำไปสู่การร่วมมือในการขจัดการปัญหาทุจริตให้หมดไปจากสังคมไทย

บอร์ดรฟท.นำทีม รณรงค์โครงการ ใครโกงบอกด้วย
วันเสาร์ ที่ 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2562, 06.00 น.


เมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม 2562 เวลา 09.00-12.00 น. บริเวณชานชาลาที่ 4 และ 5 ณ สถานีกรุงเทพ (หัวลำโพง) การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ได้จัดกิจกรรม “ใครโกงบอกด้วย คนรถไฟต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชั่น” ประกาศเจตจํานงการต่อต้านการทุจริต “SRT Zero Toterance” เพื่อแสดงออกถึงการบริหารงานที่สุจริตมีคุณธรรมและความโปร่งใส โดยมีนายกุลิศ สมบัติศิริ ประธานกรรมการ(บอร์ด) การรถไฟแห่งประเทศไทย เป็นประธานเปิดงาน พร้อมด้วยคณะกรรมการการรถไฟฯ ผู้บริหารและบุคลากรเจ้าหน้าที่การรถไฟฯ ผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง และประชาชนเข้าร่วมกิจกรรมเป็นจำนวนมาก


นายกุลิศกล่าวว่า กิจกรรมประกาศเจตจํานงการต่อต้านการทุจริตครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อต้องการแสดงให้เห็นถึงความตั้งใจในการบริหารงานที่สุจริต มีคุณธรรม และความโปร่งใสขององค์กร โดยได้มีการเปิดพื้นที่สถานีกรุงเทพ (หัวลำโพง) เพื่อให้พนักงานการรถไฟฯ ประชาชน และผู้มีส่วนได้เสียกับการรถไฟฯ ได้เข้ามามีส่วนร่วมในการกล่าวคําปฏิญาณตนต่อต้านการทุจริตร่วมกัน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในการประเมินคุณธรรมและความโปร่งใสในการดําเนินงานของหน่วยงานภาครัฐ (ITA)

“การจัดกิจกรรมรณรงค์ต่อต้านการทุจริต ถือได้ว่ามีความสำคัญและสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่มุ่งมั่นในการปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชั่นอย่างจริงจัง” นายกุลิศ กล่าว
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 43714
Location: NECTEC

PostPosted: 26/05/2019 3:24 am    Post subject: Reply with quote

Wisarut wrote:

ท่านไพรินทร์ พูดเรื่องรถไฟความเร็วสูงโดยรวมไว้ได้ดีมากๆ

พูดถึงว่าทำไมเราต้องพึ่งจีนออกแบบ ใครได้ประโยชน์จากโครงการ อนาคตของรถไฟความเร็วสูง สายอิสาน ที่ต่อไปหนองคาย-ลาว

ประโยชน์จากการเชื่อมต่อกับระบบรถไฟความเร็วสูงสายอิสานที่เชื่อมกับรถไฟความเร็วสูงของจีนที่มีโครงข่ายถึง 20,000 กิโลเมตร

การออกแบบทางรถไฟความเร็วสูงเพื่อเผื่อสำหรับความเร็วสูงสุดที่รับได้ในอนาคต

และอีกมากมาย บอกเลยว่าเป็นส่วนที่น่าสนใจและน่าฟังมาก

อยากให้ลูกเพจทุกคนฟังแล้วช่วยกันแชร์เลยครับ
https://www.facebook.com/Thailand.Infra/videos/vb.491766874595130/361903304438953/?type=2&theater
https://www.youtube.com/watch?v=nMDSZbJ37x4


25 พ.ค.62 14.00น. มาร่วมรับฟังการบรรยายพิเศษ "อดีต ปัจจุบัน และอนาคตของระบบขนส่งรางไทย" โดย ดร.ไพรินทร์ ชูโชติถาวร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ณ ชั้น6 Energy Complex C
https://www.facebook.com/photo.php?fbid=2316520325061566&set=a.1957785667601702&type=3&theater
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 43714
Location: NECTEC

PostPosted: 26/05/2019 5:15 am    Post subject: Reply with quote

การรถไฟฯ ยกเลิกพ่วงตู้เสบียง 1 มิ.ย.นี้ เหตุผู้เช่าแบกไม่ไหว พบขาดทุนเดือนละเกือบ 3 หมื่น
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
เผยแพร่: ศุกร์ที่ 24 พฤษภาคม 2562 เวลา 22:30

การรถไฟแห่งประเทศไทย เตรียมยกเลิกพ่วงตู้เสบียงจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่ม ในขบวนรถด่วนและรถเร็ว รวม 26 ขบวน เหตุผู้เช่าไม่ต่อสัญญาอีก แถมสภาพรถชำรุดทรุดโทรม พบขาดทุนเดือนละเกือบ 3 หมื่นบาท

วันนี้ (24 พ.ค.) รายงานข่าวจากการรถไฟแห่งประเทศไทย แจ้งว่า ในวันที่ 1 มิ.ย. 2562 เป็นต้นไป จะยกเลิกการพ่วงตู้เสบียง (ตู้โดยสารจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่ม) ในขบวนรถด่วนที่ 67, 68 (อุบลราชธานี) และขบวนรถเร็วทั้งภาคเหนือ (เชียงใหม่, เด่นชัย) ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (หนองคาย, อุบลราชธานี) และภาคใต้ (ยะลา, นครศรีธรรมราช, กันตัง และสุไหงโก-ลก) 24 ขบวน โดยการรถไฟฯ แนะนำให้ผู้โดยสารจัดเตรียมอาหารและเครื่องดื่มสำหรับรับประทานขณะเดินทางไว้ล่วงหน้า

สำหรับสาเหตุที่มีการยกเลิกการพ่วงตู้เสบียง เนื่องจากปัจจุบันสัญญาเช่าสิทธิ์รถเสบียงได้หมดลงมานานแล้ว ผู้เช่าไม่ประสงค์จะต่อสัญญาเช่าอีก ขณะที่การรถไฟฯ มีค่าใช้จ่ายทั้งค่าน้ำมันเชื้อเพลิง และค่าซ่อมบำรุงรถเสบียงเดือนละประมาณ 49,000 บาท แต่ทางผู้เช่าจ่ายค่าเช่าเฉลี่ยอยู่ที่เดือนละประมาณ 20,000 บาท ทำให้การรถไฟฯ ขาดทุนเดือนละ 29,000 บาทต่อคันต่อเดือน ขณะที่รถเสบียงในปัจจุบันมีสภาพชำรุดทรุดโทรม เนื่องจากผ่านการใช้งานมานาน ถ้าจะให้ดำเนินการต่อไป จำเป็นต้องปรับปรุงใหม่ ซึ่งต้องใช้เวลาและงบประมาณอีกจำนวนมาก

อีกทั้งรูปแบบการให้บริการของรถเสบียงในปัจจุบันเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมมาก ทั้งด้านคุณภาพการบริการและราคา ซึ่งได้รับการร้องเรียนจากผู้โดยสารเป็นจำนวนมาก และจากการสอบถามผู้โดยสาร ส่วนใหญ่เห็นควรให้การรถไฟฯ ปรับเปลี่ยนรูปแบบการให้บริการให้สะอาดในราคาที่เหมาะสมมากขึ้น ด้วยเหตุผลดังกล่าวจึงจำเป็นต้องยกเลิกพ่วงรถเสบียงในส่วนของรถเร็วที่หมดสัญญาไปก่อน จนกว่าจะมีการปรับปรุงทั้งตัวรถและรูปแบบการบริการให้ดีขึ้น อย่างไรก็ตาม สำหรับรถเสบียงในรถไฟรุ่นใหม่ ได้แก่ รถด่วนพิเศษอุตราวิถี, อีสานมรรคา, อีสานวัตนา และทักษิณารัถย์ ยังคงให้บริการตามปกติ
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 43714
Location: NECTEC

PostPosted: 28/05/2019 12:03 am    Post subject: Reply with quote

ถกค่าโง่โฮปเวลล์ วันที่ 31 พฤษภาคมศกนี้
https://www.thebangkokinsight.com/151949/

นัดถกค่าโง่โฮปเวลล์! 31พ.ค.ตรวจสอบตัวเลขและแนวทางเจรจา
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
เผยแพร่: อังคารที่ 28 พฤษภาคม 2562 เวลา 18:46



คณะทำงาน”คมนาคม”นัด 31 พ.ค. หารือแนวทางชดใช้ค่าโง่ โฮปเวลล์ รอรฟท.ประมวลข้อมูล สรุปตัวเลข ก่อนเดินหน้าเจรจา และเตรียมตั้งคณะทำงานสอบสวน ลงโทษคนทำผิด

นายชัยวัฒน์ ทองคำคูณ ปลัดกระทรวงคมนาคม เปิดเผยถึงความคืบหน้าการดำเนินการตามคำพิพากษาของศาลปกครองสูงสุด ที่ให้การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) คืนเงินชดเชยกับ บริษัทโฮปเวลล์ (ประเทศไทย) จำกัด จากการบอกเลิกสัญญา ว่า ขณะนี้ ได้มีการแต่งตั้งคณะทำงาน เพื่อพิจารณารายละเอียดและแนวทาง ที่ชัดเจนเพื่อปฏิบัติตามคำสั่งศาล โดยมี นายพิศักดิ์ จิตวิริยะวศิน รองปลัดกระทรวงคมนาคมเป็นประธาน ซึ่งคณะทำงานจะดำเนินการ 3 เรื่อง คือ 1. พิจารณามูลค่าความเสียหายและค่าชดเชยรวมกับดอกเบี้ย 2. แนวทางการเจรจา 3. แหล่งเงินที่จะนำมาจ่ายชดเชย

ทั้งนี้ คณะทำงานประกอบด้วยผู้แทนจากกระทรวงคมนาคม กระทรวงคลัง สำนักงบประมาณ กรมบัญชีกลาง รฟท.
โดยเมื่อมีแนวทางและมูลหนี้ที่ชัดเจน จะต้องมีการดำเนินการในเรื่องความรับผิดทางละเมิดเพื่อให้เป็นไปตามกฎหมาย และข้อบังคับ กรณีที่ภาครัฐเสียหาย โดยกระทรวงคมนาคมจะตั้งคณะทำงานอีกชุดหนึ่ง เพื่อพิจารณาในเรื่องละเมิดและหาผู้ที่ทำให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ

ด้านนายพิศักดิ์ จิตวิริยะวศิน รองปลัดกระทรวงคมนาคม ในฐานะประธานคณะทำงานพิจารณาแนวทางกรณีโฮปเวลล์ตามคำพิพากษาของศาลปกครองสูงสุด กล่าวว่า คณะทำงานจะประชุมนัดแรกในวันที่ 31 พ.ค.นี้ เพื่อเร่งกำหนดแนวทาง ทั้งนี้ต้องขึ้นกับข้อมูลที่รฟท.จะรวบรวมมาหารือในที่ประชุมด้วยว่าจะมีรายละเอียดที่ชัดเจนแค่ไหน เนื่องจากโครงการนี้มีข้อมูลเอกสารที่เกี่ยวข้องมาก และเป็นเรื่องที่ค่อนข้างเก่าด้วย

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 22 เมษายน 2562 ศาลปกครองสูงสุด มีคำสั่งให้บังคับคดี ให้บริษัท โฮปเวลล์ (ประเทศไทย) จำกัด ชนะคดีตาม คำชี้ขาดของอนุญาโตตุลาการให้ภาครัฐจ่าย รวม 11,888 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี พร้อมคืนหนังสือค้ำประกันมูลค่า 500 ล้านบาท ที่ออกโดยธนาคารกรุงเทพ ซึ่งประกอบด้วยเงินที่บริษัทได้ชำระเป็นค่าตอบแทนจากการใช้ประโยชน์จากที่ดินของ รฟท. ถึงก่อนวันบอกเลิกสัญญาเป็นเงิน 2,850 ล้านบาท รวมถึงเงินค่าออกหนังสือค้ำประกัน 38 ล้านบาท และเงินค่าก่อสร้าง 9,000 ล้านบาท โดยดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 180 วันนับคดีถึงที่สุด
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 43714
Location: NECTEC

PostPosted: 29/05/2019 10:42 am    Post subject: Reply with quote

Wisarut wrote:
การรถไฟฯ ยกเลิกพ่วงตู้เสบียง 1 มิ.ย.นี้ เหตุผู้เช่าแบกไม่ไหว พบขาดทุนเดือนละเกือบ 3 หมื่น
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
เผยแพร่: ศุกร์ที่ 24 พฤษภาคม 2562 เวลา 22:30


1 มิ.ย.62ปลด"ตู้เสบียงรถไฟ"ทุกภาค
ข่าวเเศรษฐกิจ-โลจิสติกส์
เดลินิวส์
พุธที่ 29 พฤษภาคม 2562 เวลา 08.03 น.

ไปต่อไม่ไหวรถไฟปลดรถตู้เสบียงทุกภาค 1 มิ.ย.นี ผู้เช่าขายอาหารขาดทุนต่อเนื่อง ผู้โดยสารไม่ปลื้ม ขณะที่รถไฟต้องแบกภาระค่าซ่อมรถเสบียงเดือนละเกือบ5 หมื่นแต่ได้ค่าเช่า2 หมื่น



นายสุภัทร วรวัฒนนุไทย รองผู้อำนวยการฝ่ายบริการสินค้ารักษาการแทนผู้อำนวยการฝ่ายบริการโดยสาร การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยว่า วันที่ 1 มิ.ย.นี้รฟท.จะยกเลิกพ่วงรถเสบียง ขบวนในเส้นทางสายตะวันตะวันออกเฉียงเหนือ ขบวนรถด่วนที่ 67, 68 (อุบลราชธานี) ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (หนองคาย, อุบลราชธานี) และขบวนรถเร็วภาคเหนือ (เชียงใหม่, เด่นชัย) และภาคใต้ (ยะลา, นครศรีธรรมราช, กันตัง และสุไหงโก-ลก) รวมทั้งหมด24ขบวนได้แก่ 133/134 , 141/142 , 135/140 , 139/146 , 145/136 , 67/68 111/108 , 107/112 , 109/102 , 169/170 , 173/174 , 167/168 และ 171/172 ทั้งนี้สาเหตุการยกเลิกเพราะผู้เช่าเอกชนประมาณ 3 รายที่ทำสัญญากับรฟท.หมดสัญญา และไม่ขอต่อสัญญาเพราะประสบภาวะขาดทุนต่อเนื่องมา2-3 ปีแล้วโดยให้เหตุผลว่าไม่สามารถจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้ทำให้ขาดรายได้ ซึ่งต้องยอมรับผู้โดยสารที่ชอบบรรยากาศนั่งรถไฟแล้วดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์หายไป และต้องยอมรับความจริงว่า ไม่ได้รับความความนิยมจากผู้โดยสาร มีข้อสังเกตว่าได้รับข้อร้องเรียนจากผู้โดยสารบ่อยครั้ง เรื่องคุณภาพของอาหาร ราคา รสชาติไม่ถูกใจ อีกทั้งผู้ประกอบการยังโดนร้านค้าที่นำอาหารมาขายให้กับผู้โดยสารบนขบวนรถทำให้แย่งลูกค้าไปอีก อย่างไรก็ตามยืนยันว่าผู้โดยสารจะไม่ได้รับผลกระทบเพราะปัจจุบัน ขบวนรถไฟมีจุดจอดตามสถานีต่างๆมีแม่ค้าพ่อค้านำอาหารขึ้นมาขายบนขบวนรถอยู่แล้ว เช่นที่สถานีรถไฟนครปฐม ราชบุรี เพชรบุรี นอกจากนี้ผู้โดยสารสามารถซื้ออาหารและน้ำดื่มขึ้นไปบนขบวนรถได้อยู่แล้ว และการรถไฟมีนโยบายจะพัฒนาสถานีรถไฟให้เป็นสมาร์ทเสตชั่นอยู่แล้ว

รองผู้อำนวยการฝ่ายบริการสินค้ารักษาการแทนผู้อำนวยการฝ่ายบริการโดยสาร การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) กล่าวว่า การรถไฟฯมี ค่าใช้จ่ายทั้งค่าน้ำมันเชื้อเพลิง และค่าซ่อมบำรุงรถเสบียงเดือนละ ประมาณ49,000 บาทแต่ทางผู้เช่า เช่าอยู่เฉลี่ยเดือนละประมาณ 20,000 บาททำให้การรถไฟฯขาดทุนเดือนละ 29,000 บาท ต่อคันต่อเดือนอีกทั้งรถเสบียงมีสภาพเก่าและทรุดโทรม หลังจากนี้มีแผนจะปรับปรุงรถเสบียงใหม่และกำลังพิจารณาปรับปรุงให้เป็นตู้ขายอาหาร ซึ่งยังไม่ได้ข้อสรุปว่าจะให้เอกชนเข้ามาประมูลหรือการรถไฟฯจะดำเนินการเอง อย่างไรก็ตามตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย.เป็นต้นไปการรถไฟฯจะไม่พ่วงรถเสบียงที่ปรุงอาหารบนรถไฟอีกต่อไป แต่ในขบวนรถรุ่นใหม่รถด่วนพิเศษอุตราวิถี, อีสานมรรคา, อีสานวัตนา และทักษิณารัถย์ ซึ่งเป็นบริการรถไฟตั้งแต่ระดับชั้น 2 ขึ้นไป ภายในขบวนรถ ยังมีอาหารแช่แข็งอุ่นร้อนให้บริการบนขบวนรถ เนื่องจากเป็นเรื่องของความปลอดภัยในขบวนรถ ที่ไม่ให้ประกอบอาหาร
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 43714
Location: NECTEC

PostPosted: 03/06/2019 2:05 pm    Post subject: Reply with quote

ทุ่ม27,000 ล้านสร้างท่าเรือบก 4 จังหวัด
อังคารที่ 28 พฤษภาคม 2562 เวลา 15.44 น.
 
เลือกพื้นที่ 4 จังหวัดสร้างท่าเรือบก วงเงิน 27,490 ล้านบาท ประเดิมฉะเชิงเทราแห่งแรกบนพื้นที่ 1,800 ไร่ เริ่มสร้างปี 64 เปิดให้บริการปี 67 

รายงานข่าวการสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) แจ้งความคืบหน้าโครงการศึกษาจัดทำแผนแม่บทการพัฒนาท่าเรือบก (Dry Port) เพื่อนำไปสู่การเป็นศูนย์กลางโลจิสติกส์ของภูมิภาคว่า ตามที่ สนข. นำเสนอผลการศึกษาสมบูรณ์ไปที่กระทรวงคมนาคมแล้ว นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคม รับทราบ และมอบหมายให้ สนข. นำเสนอเข้าที่ประชุมคณะกรรมการพัฒนาระบบบริหารจัดการขนส่งสินค้าและบริการของประเทศ (กบส.) คาดจะประชุมได้ภายหลังจัดตั้งรัฐบาลใหม่ 
    
โดยผลการศึกษาดังกล่าวได้คัดเลือกพื้นที่เหมาะสมพัฒนาเป็นท่าเรือบก 4 แห่ง วงเงินลงทุนรวม 27,490 ล้านบาท ดังนี้

1. ฉะเชิงเทรา ตั้งอยู่ที่ ต.ดอนทราย และ ต.หนองตีนนก อ.บ้านโพธิ์ พื้นที่ 1,800 ไร่ วงเงินลงทุน 8,920 ล้านบาท เริ่มสร้างปี 64 เปิดให้บริการปี 67 คาดมีปริมาณสินค้า 395,300 TEUs  
2. นครราชสีมา ที่ตั้ง ต.กุดจิก อ.สูงเนิน พื้นที่ 1,800 ไร่ วงเงิน 7,740 ล้านบาท เริ่มสร้างปี 65 เปิดบริการปี 68 คาดมีปริมาณสินค้า 287,400 TEUs
3. ขอนแก่น ที่ตั้ง ต.ม่วงหวาน อ.น้ำพอง 1,800 ไร่ วงเงิน 7,530 ล้านบาท สร้างปี 65 เปิดบริการปี 68 คาดมีปริมาณสินค้า 226,700 TEUs  และ
4. นครสวรรค์ ต.เขาทอง อ.พยุหะคีรี 1,300 ไร่ วงเงิน 3,300 ล้านบาท เริ่มสร้างปี 67 เปิดบริการปี 70 คาดมีปริมาณสินค้า 95,800 TEUs 
    
ขณะที่การลงทุนควรเป็นรูปแบบให้เอกชนร่วมลงทุนภาครัฐ (พีพีพี) เนื่องจากต้องใช้เงินลงทุนสูงและดำเนินการเชิงธุรกิจเพื่อประสิทธิภาพสูงสุด ส่วนหน่วยงานที่เหมาะสมเป็นเจ้าของโครงการมากที่สุด คือการท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.) เนื่องจากท่าเรือบกมีกลไกลและลักษณะคล้ายกับท่าเรือ อีกทั้ง กทท.ยังเป็นหน่วยงานที่มีสภาพคล่องตัวสูง มีประสบการณ์บริหารงานโดยตรงและมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับสายเรือ อย่างไรก็ตามเพื่อความยืดหยุ่นเรื่องบริการควรให้เอกชนเข้ามาแข่งขันบริหารจัดการพื้นฐานภายในท่าเรือบก ส่วนการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) จะทำหน้าที่เสมือนผู้ประกอบการขนส่งสินค้าทางรางเชื่อมโยงระหว่างท่าเรือบกกับท่าเรือแหลมฉบัง โดยเรียกเก็บค่าบริการจากผู้ให้บริการ
    
ส่วนภาคเอกชนที่มาบริหารพื้นที่ท่าเรือบก อาจเป็นผู้ประกอบการโลจิสติกส์ หรือผู้ประกอบการสายเรือเป็นผู้พัฒนาและบริหารพื้นที่ รวมถึงจัดการย่านกองเก็บตู้คอนเทนเนอร์ ขนถ่ายสินค้าขึ้นลงรถไฟ และให้เช่าพื้นที่เพื่อให้บริการจัดการสินค้าภายในอาคารสถานี โดยเปิดให้ผู้ประกอบการโลจิสติกส์หรือผู้ประกอบการสายเรือเช่าพื้นที่อาคารสถานี เพื่อเพิ่มศักยภาพในด้านการตลาดและดำเนินงานภายในท่าเรือบกแต่ละส่วน โดยหน่วยงานที่เหมาะสมบริหารจัดการท่าเรือบก ได้แก่ 1.กทท. 2.รฟท. และ 3.จังหวัด หรือการร่วมกลุ่มหน่วยงานทางเลือก 
    
นอกจากนี้ผลการศึกษายังพบว่า การพัฒนาท่าเรือบกไปสู่การปฏิบัติควรจะสร้างความร่วมมือ กำหนดเงื่อนไข และรายละเอียดข้อตกลง ระหว่างผู้บริหารพื้นที่โครงการ คือกทท. ผู้ให้บริการขนส่งทางรถไฟคือรฟท. และผู้บริหารจัดการสินค้าคือผู้ให้บริการโลจิสติกส์หรือผู้ประกอบการสายเรือ ที่จะบูรณาการสิ่งอำนวยความสะดวก ให้บริการ กำหนดตารางเวลา และอัตราค่าธรรมเนียม รวมทั้งพัฒนาความสามารถและประสิทธิภาพการขนส่งทางรถไฟ เพื่อลดภาระและเพิ่มประสิทธิภาพในการตอบสนองความต้องการลูกค้าภาคธุรกิจ รวมถึงกำหนดให้ท่าเรือบกเป็นพื้นที่ด่านศุลกากรตาม พ.ร.บ.ศุลกากร ปี 60 เพื่อประโยชน์ในการปฏิบัติพิธีศุลกากรส่งผลให้ท่าเรือบกดึงดูดผู้ประกอบการโลจิสติกส์และผู้นำเข้า-ส่งออกมาใช้บริการได้มากยิ่งขึ้น.
Back to top
View user's profile Send private message
Display posts from previous:   
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับรถไฟไทย All times are GMT + 7 Hours
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 335, 336, 337 ... 486, 487, 488  Next
Page 336 of 488

 

Share |

Jump to:  
You cannot post new topics in this forum
You cannot reply to topics in this forum
You cannot edit your posts in this forum
You cannot delete your posts in this forum
You cannot vote in polls in this forum

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group


Forums ©