Ads Service

Main Menu

 
icon_home.gif Homepage
icon_community.gif Members Zone
· ข้อมูลส่วนตัว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ข่าวสารส่วนตัว
· บริการเว็บเมล์
· กระดานข่าว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก กระดานฝากข้อความ
· รถไฟไทยแกลลอรี่
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก รายนามสมาชิก
· แบบสำรวจ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก สมุดเยี่ยม
· เกี่ยวกับสมาชิก
favoritos.gif News & Stories
· เรื่องทั้งหมด
· เนื้อหาสาระ
· เรื่องสำหรับพิมพ์
· ยอดฮิตติดอันดับ
· ค้นหาข่าวสาร
· ค้นหากระทู้เก่า
nuke.gif Contents
· กำหนดเวลาเดินรถ
· ประเภทขบวนรถโดยสาร
· ข้อมูลเส้นทางรถไฟ
· แผนที่เส้นทางรถไฟ
· อัตราค่าโดยสาร
· คำนวณค่าโดยสารรถไฟ
· รูปแบบการให้บริการรถไฟ
· หมายเลขโทรศัพท์ที่สำคัญ
· ทริปท่องเที่ยวโดยรถไฟ
· ระบบติดตามขบวนรถ
som_downloads.gif Services
· Downloads
· GoogleSearch
· Hotels Booking
· FlashGames
· Wallpaper 1
· Wallpaper 2
· Wallpaper 3
· Wallpaper 4
icon_members.gif Information
· เกี่ยวกับเรา
· นโยบายความเป็นส่วนตัว
· แผนผังเว็บไซต์ฯ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ส่งข้อแนะนำติชม
· ติดต่อลงโฆษณา
· แนะนำและบอกต่อ
· สถิติทั้งหมด
· สำหรับผู้ดูแลระบบ
 

Sponsors

 

Rotfaithai Gallery in Facebook

 

Visitors

 


มีผู้เข้าเยี่ยมชม
สมาชิก:311709
ทั่วไป:13457009
ทั้งหมด:13768718
คน ตั้งแต่
01-08-2004
 


Rotfaithai.Com :: View topic - ข่าวเกี่ยวกับ "ที่ดิน" ของ "รฟท."
 Forum FAQForum FAQ   SearchSearch   UsergroupsUsergroups   ProfileProfile   Log in to check your private messagesLog in to check your private messages   Log inLog in 

ข่าวเกี่ยวกับ "ที่ดิน" ของ "รฟท."
Goto page Previous  1, 2, 3 ... , 201, 202, 203  Next
 
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับรถไฟไทย
View previous topic :: View next topic  
Author Message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 46281
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 11/06/2024 9:29 pm    Post subject: Reply with quote

เกิดเหตุไฟไหม้ครั้งใหญ่ในโซนขายสัตว์เลี้ยงของตลาดนัดจตุจักรในกรุงเทพฯ เมื่อช่วงเช้าวันอังคารที่ผ่านมา ทำให้ร้านค้าเสียหายหลายสิบร้านและสัตว์ที่อยู่ในกรงเสียชีวิตหลายร้อยตัว เจ้าหน้าที่กล่าว

เพลิงไหม้เริ่มต้นขึ้นประมาณตี 4 ภายในตลาดศรีสมรัต ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีร้านค้า 118 ร้านขายสัตว์เลี้ยงและปลาสวยงามหลากหลายชนิด เจ้าหน้าที่ดับเพลิงใช้เวลาประมาณหนึ่งชั่วโมงจึงสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้

ไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์นี้ แต่เจ้าหน้าที่ดับเพลิงประเมินว่ามีสัตว์ประมาณหนึ่งพันตัวเสียชีวิต

เจ้าของร้านขายสัตว์เลื้อยคลานชื่อ “Snake Lovers” กล่าวว่าเธอสูญเสียสัตว์ทั้งหมดของเธอไป “ร้านของเรามีงู กิ้งก่า เต่า และตุ๊กแก รวมถึงสายพันธุ์หายากด้วย” เธอกล่าว

ตลาดจตุจักรเป็นแหล่งท่องเที่ยวขนาดใหญ่และเป็นที่ชื่นชอบของคนท้องถิ่นในกรุงเทพฯ มีแผงค้าประมาณ 5,000 แผงกระจายอยู่ทั่วพื้นที่กว่า 35 เอเคอร์ (14 เฮกตาร์)

เจ้าหน้าที่เขตจตุจักรกล่าวว่าการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าความเสียหายต่อตลาดครอบคลุมพื้นที่กว่า 900 ตารางเมตร (9,687 ตารางฟุต)

เจ้าของร้านที่ได้รับผลกระทบจะมีสิทธิ์ได้รับเงินชดเชยเบื้องต้นสูงถึง 10,400 บาท ($295) จากการรถไฟแห่งประเทศไทยซึ่งเป็นเจ้าของที่ดิน

ผู้เชี่ยวชาญด้านนิติวิทยาศาสตร์จากสถานีตำรวจบางซื่อกำลังสืบสวนสาเหตุของเพลิงไหม้ ตำรวจกล่าวว่าพวกเขาได้รับแจ้งจากทีมรักษาความปลอดภัยของตลาดว่าไฟไหม้เริ่มต้นขึ้นในร้านขายสุนัข

https://www.benarnews.org/english/news/thai/fire-thailand-bangkok-chatuchak-market-kills-animals-06112024051107.html
2024.06.11
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 43373
Location: NECTEC

PostPosted: 12/06/2024 12:10 pm    Post subject: Reply with quote

Mongwin wrote:
เกิดเหตุไฟไหม้ครั้งใหญ่ในโซนขายสัตว์เลี้ยงของตลาดนัดจตุจักรในกรุงเทพฯ เมื่อช่วงเช้าวันอังคารที่ผ่านมา ทำให้ร้านค้าเสียหายหลายสิบร้านและสัตว์ที่อยู่ในกรงเสียชีวิตหลายร้อยตัว เจ้าหน้าที่กล่าว

https://www.benarnews.org/english/news/thai/fire-thailand-bangkok-chatuchak-market-kills-animals-06112024051107.html
2024.06.11



ดูข่าวนี้ก็ได้ครับ: เผาวอด ตลาดปลาจตุจักร งูชิงกัดตัวเองก่อนไฟมาถึง | ข่าวอรุณอมรินทร์ | 12/6/67
https://www.youtube.com/watch?v=7gsQKcnFc3E


นาทีเพลิงโหมจตุจักรโซนสัตว์เลี้ยงวอด 118 ร้าน สัตว์แปลกตายนับพัน | ข่าวเย็นอมรินทร์ | 11 เม.ย. 67
AMARINTV : อมรินทร์ทีวี
https://www.youtube.com/watch?v=d34Q5fpGDxs


“เพลิงไหม้จตุจักร” เสียหายกว่า 118 ห้อง เชื่ออาถรรพ์ตัดต้นโพธิ์ | ข่าวเย็นประเด็นร้อน
Ch7HDNews
https://www.youtube.com/watch?v=9xslaDCzJPo


กทม.เยียวยา เหตุไฟไหม้ตลาดสัตว์เลี้ยง – วอชด็อก รณรงค์หยุดซื้อขาย แสวงหาผลประโยชน์จากสัตว์
เรื่องเล่าเช้านี้

https://www.youtube.com/watch?v=AptbGpa8P7s


กทม.ยันเยียวยาทุกร้าน เหตุไฟไหม้จตุจักรโซนสัตว์เลี้ยง สัตว์ตายนับพัน
3PlusNews
https://www.youtube.com/watch?v=jocD_zjBcEs

ถามหาสวัสดิภาพสัตว์ อยู่กันแออัดในตลาดค้าสัตว์เลี้ยง

เหตุเพลิงไหม้ตลาดศรีสมรัตน์ ตลาดค้าสัตว์เลี้ยงย่านจตุจักรที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่ง ทำให้ร้านค้าเสียหาย 118 คูหา 1,300 ตารางเมตร สัตว์เลี้ยงหลายชนิดตายรวมนับพันตัว สร้างความรู้สึกสะเทือนใจให้แก่ผู้พบเห็น และมีการตั้งคำถามถึงสวัสดิภาพสัตว์ที่นำสัตว์มาอยู่กันแออัด
https://www.youtube.com/watch?v=4CGIOgnM-0I
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 46281
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 14/06/2024 4:50 pm    Post subject: Reply with quote

โครงการพัฒนาพื้นที่เชียงใหม่ เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567
Source - บ้านเมืองออนไลน์
Friday, June 14, 2024 14:59

เมื่อวันที่ 14 มิถุนายน 2567 พล.อ.อ.สถิตย์พงษ์ สุขวิมล ราชเลขานุการในพระองค์ เลขาธิการพระราชวัง ลงพื้นที่ตรวจติดตามความก้าวหน้าโครงการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 ก.ค.2567 ในจังหวัดเชียงใหม่ โดยนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย พร้อมด้วยนายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย และคณะผู้บริหารกระทรวงมหาดไทย ร่วมในการตรวจติดตาม

ทั้งนี้ ราชเลขานุการในพระองค์ พร้อมคณะรองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทยได้ลงพื้นที่ติดตามใน 4 โครงการ ประกอบด้วย โครงการพัฒนาคลองแม่ข่า โครงการพัฒนาหนองเขียว การปรับปรุงสวนสาธารณะบนที่ดินของการรถไฟแห่งประเทศไทย และโครงการก่อสร้างและเพิ่มประสิทธิภาพระบบบำบัดน้ำเสีย จุด PS10 เทศบาลนครเชียงใหม่


Chiang Mai Development Project in Honor of His Majesty the King on the Occasion of His 6th Cycle Birthday Anniversary, July 28, 2024

Source: Ban Muang Online
Date: Friday, June 14, 2024, 14:59


On June 14, 2024, Air Chief Marshal Satitpong Sukvimol, the Lord Chamberlain and Secretary-General of the Royal Household, visited Chiang Mai to inspect the progress of the development projects initiated to honor His Majesty the King on the occasion of his 6th cycle birthday anniversary on July 28, 2024. Deputy Prime Minister and Minister of Interior Anutin Charnvirakul, along with Suttipong Juljarern, Permanent Secretary of the Ministry of Interior, and other senior officials from the Ministry of Interior, joined the inspection.

The Royal Secretary, along with the Deputy Prime Minister and the Minister of Interior, visited and inspected four key projects: the development of Mae Kha Canal, the development of Nong Khiao, the renovation of the public park on the land of the State Railway of Thailand, and the construction and enhancement of the wastewater treatment system at PS10 in Chiang Mai Municipality.
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 43373
Location: NECTEC

PostPosted: 22/06/2024 11:38 pm    Post subject: Reply with quote

คมนาคม-MLIT"สัมมนาโครงการพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์รอบสถานีรถไฟ (TOD)
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
เผยแพร่: วันเสาร์ ที่ 22 มิถุนาคม พ.ศ. 2567 เวลา 13:14 น.
ปรับปรุง: วันเสาร์ ที่ 22 มิถุนาคม พ.ศ. 2567 เวลา 13:14 น.


"คมนาคม-MLIT"สัมมนาโครงการพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์รอบสถานีรถไฟ (TOD) และร่วมเปิดสำนักงานองค์กรพัฒนาและฟื้นฟูเมืองญี่ปุ่น (UR) ประจำประเทศไทย หารือหน่วยรัฐเดินหน้าพัฒนาเมืองอัจฉริยะ- TODไฮสปีด 3 สถานีต้นแบบ

เมื่อวันที่ 19 มิถุนายน 2567 นายชยธรรม์ พรหมศร ปลัดกระทรวงคมนาคม กล่าวเปิดงานสัมมนาโครงการพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์รอบสถานีรถไฟ และร่วมพิธีเปิดสำนักงานองค์กรพัฒนาและฟื้นฟูเมืองญี่ปุ่น (UR) ประจำประเทศไทย โดยมี นายโอทากะ มซาโตะ เอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร นายอิชิดะ มาซารุ Resident of Urban Renaissance Agency (UR) นายคิคุจิ มาซาฮิโตะ Deputy Director-General for City Bureau, MLIT นายปัญญา ชูพานิช ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) นายทรงยศินทร์ ชนปทาธิป ผู้ช่วยปลัดกระทรวงคมนาคม เข้าร่วมงาน ณ โรงแรมดิ โอกุระ เพรสทีจ กรุงเทพฯ

นายชยธรรม์ พรหมศร กล่าวว่า กระทรวงคมนาคมมีความร่วมมือกับกระทรวงที่ดิน โครงสร้างพื้นฐาน การขนส่ง และการท่องเที่ยวญี่ปุ่น (MLIT) และองค์กรพัฒนาและฟื้นฟูเมืองญี่ปุ่น (UR) มายาวนาน เริ่มตั้งแต่โครงการจัดทำแผนการพัฒนาบริเวณสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ (Bang Sue Development Plan) ซึ่งเป็นโครงการนำร่องนับตั้งแต่ปี ค.ศ. 2016 และได้มีการยกระดับความร่วมมือ ด้านการพัฒนาตามแนวคิด Transit Oriented Development หรือ TOD โดยมีการยกระดับแผนการพัฒนาพื้นที่บริเวณย่านสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ มาเป็นแผนการพัฒนาเมืองอัจฉริยะพื้นที่บริเวณบางซื่อ (Bang Sue Smart City) ซึ่งแล้วเสร็จเมื่อต้นปี ค.ศ. 2020



การพัฒนาระบบคมนาคมขนส่งของประเทศจะทำให้มีประสิทธิภาพและมีความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม จำเป็นต้องมีการวางแผนควบคู่ไปกับการพัฒนาเมืองและการพัฒนาพื้นที่โดยรอบสถานีขนส่งสาธารณะให้สอดคล้องกัน เพื่อให้เกิดการพัฒนาในมิติต่าง ๆ ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม การจราจร และคุณภาพชีวิตของประชาชน แนวคิดการพัฒนาแบบ Transit Oriented Development หรือ TOD จึงเป็นแนวคิดการพัฒนาเมืองและพื้นที่ต่าง ๆ ที่อาศัยการพัฒนาระบบคมนาคมขนส่งสาธารณะเพื่อให้เกิดการใช้ประโยชน์ที่ดิน หรือกิจกรรมประเภทต่าง ๆ อย่างผสมผสานในช่วงรัศมีประมาณ 500 เมตรรอบสถานีรถไฟ/รถไฟฟ้า เชื่อมโยงพื้นที่ด้วยโครงข่ายระบบขนส่งขนาดรอง และการเดินทางที่ไม่ใช้เครื่องยนต์ (Non-motorize Transport)

มีการกำหนดสัดส่วนพื้นที่การใช้ประโยชน์ที่ดินอย่างเหมาะสมตามมาตรฐานเมืองน่าอยู่ เช่น การจัดพื้นที่เชิงพาณิชย์และสาธารณะเพื่อการสันทนาการ ส่งเสริมให้มีย่านพักอาศัยที่มีความเหมาะสม กำหนดให้มีพื้นที่สันทนาการและพื้นที่สีเขียวเพื่อเอื้อต่อคุณภาพชีวิตที่ดีของประชาชน เป็นเครื่องมือสำคัญในการขับเคลื่อนการพัฒนาที่ยั่งยืน เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และสนับสนุนเป้าหมายหลักของกระทรวงคมนาคมในการเพิ่มขีดความสามารถการพัฒนาระบบคมนาคมขนส่งของประเทศให้มีประสิทธิภาพ กระจายความเจริญไปยังภูมิภาค ยกระดับคุณภาพชีวิต ส่งเสริมให้ประชาชนทุกกลุ่มสามารถเข้าถึงระบบขนส่งสาธารณะได้อย่างสะดวก สบาย ปลอดภัย และมีอัตราค่าโดยสารที่สมเหตุสมผล



รัฐบาลภายใต้การกำกับของนายกรัฐมนตรี นายเศรษฐา ทวีสิน และรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ได้ให้นโยบายไว้กับกระทรวงคมนาคมอย่างชัดเจน ให้แก้ปัญหาการเดินทางของประชาชนในทุกมิติ และเพิ่มคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับประชาชน กระทรวงคมนาคม จึงมีนโยบายมุ่งขับเคลื่อนการพัฒนาให้ระบบขนส่งทางรางเป็นระบบการเดินทางหลักของประชาชนที่มีประสิทธิภาพ โดยต้องการนำแนวคิด TOD ที่ประสบความสำเร็จอย่างมากในหลายประเทศ โดยเฉพาะประเทศญี่ปุ่นมาประยุกต์ใช้ให้เหมาะสมกับบริบทของประเทศไทย กระทรวงคมนาคม



@ สนข.ศึกษาแผนแม่บท TOD
รอบสถานีรถไฟ 177 แห่งทั่วปท.

โดยสนข.ได้จัดทำแผนแม่บท TOD เพื่อเป็นกรอบชี้นำการพัฒนาพื้นที่บริเวณรอบสถานีขนส่งทางราง 177 แห่งทั่วประเทศ มีโครงการนำร่องการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบ TOD บริเวณสถานีรถไฟความเร็วสูง 3 แห่ง ได้แก่ สถานีพัทยา สถานีขอนแก่น และสถานีพระนครศรีอยุธยา โดยอาศัยกลไกการบริหารจัดการและกฎหมายด้านการพัฒนาเมืองที่มีอยู่ในปัจจุบัน ตลอดจนเสนอร่างพระราชบัญญัติการพัฒนาพื้นที่ในและโดยรอบโครงสร้างพื้นฐานทางราง เพื่อเป็นเครื่องมือด้านกฎหมายและกำหนดองค์กรหลักในการขับเคลื่อนการพัฒนา TOD ที่เหมาะสมกับประเทศไทยในอนาคต

สำหรับกรอบแนวคิดการจัดงานสัมมนาในวันนี้ ซึ่ง UR ใช้คำว่า “MIRAI of the city by TOD” หรือ “อนาคตของเมือง ด้วย TOD” ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายของกระทรวงคมนาคมที่กำลังขับเคลื่อนการพัฒนาเมืองในอนาคต โดยใช้ TOD เป็นกลไกสำคัญ ทั้งหมดนี้จะเกิดขึ้นได้จำเป็นต้องมีความร่วมมือร่วมใจ ในการดำเนินการของหน่วยงานทุกภาคส่วนของไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ในฐานะหน่วยงานระดับนโยบายของประเทศ กระทรวงมหาดไทย โดยกรมโยธาธิการและผังเมือง องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น รวมถึงกรุงเทพมหานคร (กทม.) ในฐานะหน่วยงานที่รับผิดชอบพื้นที่และมีอำนาจหน้าที่ในการใช้กฎหมายและมาตรการด้านผังเมือง เช่น กฎหมาย การจัดรูปที่ดิน กฎหมายการจัดทำผังเฉพาะ สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก ซึ่งรับผิดชอบพื้นที่ EEC และ สถาบันการศึกษาที่มีความเชี่ยวชาญด้านการพัฒนาเมือง ตลอดจนภาคประชาสังคมในท้องถิ่นที่จะต้องให้ความร่วมมือสนับสนุนผ่านกระบวนการมีส่วนร่วมของประชาชน ยิ่งกว่านั้นความร่วมมือจากองค์กรระหว่างประเทศ เช่น MLIT UR World Bank และ UN Habitat



ซึ่งมีส่วนทำให้เกิดงานสัมมนาในวันนี้ พร้อมทั้งเชื่อมั่นว่าการบูรณาการความร่วมมือจากทุกภาคส่วนดังกล่าว ประกอบกับองค์ความรู้ ประสบการณ์และความเชี่ยวชาญด้านการพัฒนาเมืองอัจฉริยะ และความสำเร็จในการพัฒนาตามแนวคิด TOD ของ MLIT และ UR จะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งในการร่วมสร้างอนาคตของเมืองในประเทศไทยให้มีความน่าอยู่ ยั่งยืน และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยใช้ TOD ตาม Concept: “MIRAI of the city by TOD” อย่างแน่นอน



สำหรับจัดตั้งสำนักงาน UR ประจำประเทศไทย ซึ่งถือเป็นหมุดหมายอันดีสำหรับการพัฒนาความร่วมมือระหว่างกระทรวงคมนาคม MLIT และ UR ตลอดจนหน่วยงานทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องในการผลักดันให้เกิดการพัฒนาพื้นที่ต่าง ๆ ตามแนวคิด TOD ของประเทศไทยให้เกิดผลสำเร็จ และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าการสัมมนาแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ในวันนี้จะเกิดประโยชน์สูงสุด และนำไปสู่ความร่วมมือในการขับเคลื่อนการพัฒนา TOD ระหว่างหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องต่อไป
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 43373
Location: NECTEC

PostPosted: 11/07/2024 11:08 pm    Post subject: Reply with quote

ปิดดีลไม่ลง! บอร์ด รฟท.โยนฝ่ายกฎหมายพิจารณา ประมูลพัฒนา พท.สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ หลังถูกติงเอกชนเสี่ยงลงทุนไม่ไหว
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
เผยแพร่: วันพฤหัสบดี ที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2567 เวลา 19:28 น.
ปรับปรุง: วันพฤหัสบดี ที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2567 เวลา 19:36 น.

ปิดดีลไม่ลง ประมูลพัฒนาเชิงพาณิชย์สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ บอร์ด รฟท.สั่งหารือฝ่ายกฎหมายหลังอนุฯ ฝ่ายทรัพย์สินติงลงทุนสูงเสี่ยงไปไม่รอด ยังต้องลุ้นเดินหน้าเซ็นสัญญาเอกชนหรือยกเลิกประมูล

นายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) ในฐานะประธานคณะกรรมการ (บอร์ด) การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยภายหลังการประชุมบอร์ด รฟท.ครั้งที่ 8/2567 วันที่ 11 ก.ค. 2567 ว่า ที่ประชุมได้พิจารณาข้อเสนอผลการประกวดราคา ประกอบกิจการเชิงพาณิชย์ บริเวณอาคารสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ ระยะเวลา 20 ปี ซึ่งมีกิจการร่วมลงทุน พี จี ดับบลิว อาร์ (PGWR Consortium) ที่ยื่นประมูลรายเดียว ได้รับการคัดเลือก โดยคณะอนุกรรมการฝ่ายทรัพย์สิน รฟท.แสดงความเห็น โดยกังวลในเชิงการบริหารจัดการ การเงิน และการลงทุนต่างๆ ในแต่ละช่วงเวลา รวมถึงสัดส่วนการถือหุ้น ทุนจดทะเบียน และกระบวนการประมูลที่มีผู้เสนอราคาเพียงรายเดียว จะมีประสิทธิภาพในการทำงานได้จริงหรือไม่ โดยบอร์ดรับฟังความเห็นของอนุฯทรัพย์สิน และสั่งให้นำไปหารือกับคณะอนุกรรมการฝ่ายกฎหมายต่อไป



ส่วนการจะยกเลิกโครงการและประมูลใหม่หรือไม่ ต้องรอข้อมูลจากทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องให้ครบถ้วนก่อน ซึ่งกรณียื่นประมูลรายเดียว ก็เป็นเหตุให้ยกเลิกได้แต่หากไม่ยกเลิกก็ต้องมีเหตุผล ซึ่งคณะกรรมการประกวดราคาจะพิจารณาและเสนอตามขั้นตอน และผู้ว่าฯ รฟท.เป็นผู้มีอำนาจยกเลิกประมูลตามระเบียบจัดซื้อจัดจ้าง

ผู้สื่อข่าวถามว่าหากมีการยกเลิกประมูล รฟท.จะทำอย่างไรต่อ นายจิรุตม์กล่าวว่า บอร์ดเข้าใจเรื่องนี้เพราะสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์เปิดมาระยะหนึ่งแล้ว แต่คงต้องได้ข้อสรุปข้างต้นก่อนแล้วค่อยมาพิจารณาว่าจะเอาอย่างไรต่อไป ยอมรับว่า การเปิดประมูลพื้นที่เชิงพาณิชย์ที่ผ่านมาไม่ประสบความสำเร็จ อาจจะต้องทบทวนเงื่อนไขใหม่ เพราะอาจจะตั้งมาตรฐานสูงไป ดังนั้น ในขณะนี้ รฟท.จะดำเนินการเองไปก่อน


@ผลตอบแทนสูง รฟท.ได้ประโยชน์ ยื่นรายเดียวมีเหตุผลเดินหน้าต่อไป

ด้านนายอนันต์ โพธิ์นิ่มแดง รองผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) กล่าวว่า ผลประมูลพัฒนากิจกรรมเชิงพาณิชย์ บริเวณอาคารสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ ซึ่งอนุฯ ฝ่ายทรัพย์สินมีความเห็นเกี่ยวกับความมั่นคงของโครงการ โดยกังวลเรื่องการลงทุนระยะยาวถึง 20 ปี และเอกชนเสนอการลงทุนค่อนข้างสูง และให้ผลตอบแทน รฟท.สูงกว่าราคากลาง จึงมองว่าบางข้อเสนออาจทำไม่ไหว มีความสุ่มเสี่ยงที่จะทำให้โครงการไม่สำเร็จตามเป้าหมายได้ เช่น การลงทุนปรับปรุงประมาณ 700 ล้านบาท ซึ่งต้องไปกู้มาดำเนินการ ขณะที่กำหนดทุนจดทะเบียนประมาณ 100 ล้านบาท จะหนักไปหรือไม่ นอกจากนี้ ต้องจ่ายผลตอบแทนและค่าเช่าให้ รฟท.อีก

โดยเอกชนจ่ายผลตอบแทน 3 ส่วน ได้แก่ 1. ค่าตอบแทนการใช้ประโยชน์ 500 บาท ต่อตารางเมตรต่อเดือน 2. ค่าส่วนกลาง (ค่าน้ำประปา ค่าไฟฟ้า) 150 บาทต่อตารางเมตรต่อเดือน และ 3. บวกผลประโยชน์ตอบแทนขั้นต่ำรายปี (Minimum Guarantee) ซึ่งปีแรกจะส่งมอบพื้นที่ประมาณ 10,000 ตารางเมตร รฟท.จะได้ผลตอบแทนรวมอย่างน้อย 158 ล้านบาท และปีต่อไปจะเพิ่มขึ้นตามการส่งมอบพื้นที่ ครบจำนวนทั้งหมด 47,675 ตารางเมตร จะมีค่าตอบแทนรวมอย่างน้อย 366 ล้านบาทต่อปี



ส่วนกรณีที่มีผู้ยื่นข้อเสนอ 1 ราย ตามระเบียบ ต้องยกเลิกยกเว้นมีเหตุผล ซึ่งเรื่องนี้คณะกรรมการประกวดราคาฯพิจารณาในเรื่องข้อเสนอผลประโยชน์ที่รฟท.จะได้รับ อีกทั้งได้สอบถามบริษัทฯเพื่อยืนยันในการลงทุนแล้ว โดยมีการเจรจาได้ข้อยุติเมื่อเดือน ก.พ. 2567 ที่ผ่านมา จึงเห็นว่าไม่น่ามีปัญหา อย่างไรก็ตาม บอร์ด รฟท.ให้หารือกับอนุฯ ด้านกฎหมาย ดูเงื่อนไขต่างๆ ว่าจะเดินหน้าต่อไปหรือไม่ เพื่อสรุผลและนำเสนอบอร์ด รฟท.พิจารณาอีกครั้ง คาดว่าจะเสนอได้ในเดือน ส.ค.นี้
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 43373
Location: NECTEC

PostPosted: 12/07/2024 10:51 am    Post subject: Reply with quote

Wisarut wrote:
คมนาคม-MLIT"สัมมนาโครงการพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์รอบสถานีรถไฟ (TOD)
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
เผยแพร่: วันเสาร์ ที่ 22 มิถุนาคม พ.ศ. 2567 เวลา 13:14 น.
ปรับปรุง: วันเสาร์ ที่ 22 มิถุนาคม พ.ศ. 2567 เวลา 13:14 น.


Mongwin wrote:
SRTA ชูแผนพัฒนาโปรเจกต์บางซื่อ ยกระดับโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ
Source - ผู้จัดการรายวัน 360 องศา
วันศุกร์ ที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2567 เวลา 04:44 น.


SRTA ชูแผนพัฒนาโปรเจ็กต์บางซื่อ ในงาน THAILAND-JAPAN TOD FORUM
วันอังคาร ที่ 02 กรกฎาคม พ.ศ. 2567 เวลา 12.44 น.


“พลตำรวจเอก จารุวัฒน์ ไวศยะ” ประธานกรรมการ บริษัท เอสอาร์ที แอสเสท จำกัด (SRTA) ร่วมงานสัมมนา Thailand – Japan TOD Forum ภายใต้กรอบแนวคิดในการจัดงาน “MIRAI of The City by TOD” TOD อนาคตของเมือง จัดโดยกระทรวงที่ดินโครงสร้างพื้นฐานการขนส่งและการท่องเที่ยวญี่ปุ่น (MLIT) และองค์กรพัฒนาและฟื้นฟูเมืองของญี่ปุ่น (UR) โดยมีนายชยธรรม์ พรหมศร ปลัดกระทรวงคมนาคม ฯพณฯ โอทากะ มาซาโตะ เอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร นายอิชิดะ มาซารุ President of Urban Renaissance Agency (UR) นายคิคุจิ มาซาฮิโตะ Deputy Director - General for City Bureau ร่วมเป็นประธานเปิดงาน ณ โรงแรมโอกุระ เพรสทีค เมื่อวันที่ 19 มิถุนายน 2567



“พลตำรวจเอก จารุวัฒน์ ไวศยะ” ประธานกรรมการ บริษัท เอสอาร์ที แอสเสท จำกัด (SRTA) กล่าวถึง “แผนการพัฒนาพื้นที่ของการรถไฟแห่งประเทศไทย กับโปรเจ็กต์บางซื่อที่ในอนาคตจะกลายเป็นพื้นที่ศูนย์กลางคมนาคมของประเทศและภูมิภาคในระดับนานาชาติ พื้นที่จะสร้างมูลค่าให้กับประเทศ ถือเป็นโปรเจ็กต์ยักษ์ที่น่าจับตา ภายใต้การพัฒนาด้วยรูปแบบ TOD ที่เราจะใช้โปรเจ็คการพัฒนาพื้นที่รอบสถานีกรุงเทพอภิวัฒน์ เพื่อเชื่อมต่อการเดินทางทั้งหมดให้การคมนาคมทุกชนิดที่อยู่ในบริเวณรอบสถานีกรุงเทพอภิวัฒน์สามารถติดต่อกันให้ได้ การเชื่อมภายในบริเวณสถานีจะอำนวยความสะดวกให้กับผู้มาใช้บริการสามารถกันแดดหลบฝนให้ได้ด้วยนะครับ เพราะบ้านเรามันฝนแปด แดดสี่ เราก็จะทำในลักษณะเช่นนี้ พอได้ฟังท่านผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครกล่าว รู้สึกว่าเราอาจต้องสร้างสถานีเล็ก ๆ ตามรางรถไฟ เพื่อสร้างเป็น TOD ที่ไม่ใหญ่ คล้ายๆ มินิมาร์ทเล็ก ๆ ขึ้นมา เพื่อให้ประชาชนรอบ ๆ บริเวณนั้นได้ใช้การคมนาคมโดยระบบราง ซึ่งผมพูดไว้แล้วว่าระบบรางเป็นค่าใช้จ่ายที่ถูกที่สุดและก็เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ซึ่งเราก็ทำอยู่และคิดว่าจะไปปรับแผนให้มีประสิทธิภาพและก็ครอบคลุมมากขึ้นอีก”



ซึ่งการสัมมนาครั้งนี้เพื่อแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และประสบการณ์ในการพัฒนาเมืองตามแนวคิด Transit Oriented Development ของญี่ปุ่นเพื่อขับเคลื่อนการพัฒนา TOD ในประเทศไทย และเป็นการเปิดตัวเนื่องในโอกาสที่ UR ได้มีการจัดตั้งสำนักงานประจำประเทศไทยเป็นครั้งแรก ซึ่งถือเป็นนิมิตหมายอันดีสำหรับการพัฒนาความร่วมมือระหว่างกระทรวงคมนาคม MLIT และ UR ตลอดจนหน่วยงานทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ในการผลักดันให้เกิดการพัฒนาพื้นที่รอบสถานีระบบขนส่งทางรางของประเทศไทยตามแนวคิด TOD ซึ่งเป็นเครื่องมือในการพัฒนาเมืองให้เกิดความยั่งยืน เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ส่งเสริมคุณภาพชีวิตที่ดีของประชาชน ตลอดจนก่อให้เกิดความคุ้มค่าคุ้มทุนในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานคมนาคมขนส่งของไทยในอนาคต
https://www.banmuang.co.th/news/social/388107
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 46281
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 17/07/2024 7:01 am    Post subject: Reply with quote

'เอสอาร์ที แอสเสท' ลุยบริหารทรัพย์สิน รฟท. 1 หมื่นสัญญา
Source - ฐานเศรษฐกิจ
Wednesday, July 17, 2024 05:32

บอร์ด รฟท.ไฟเขียวร่างข้อบังคับ บริษัทลูก เอสอาร์ที แอสเสท บริหารทรัพย์สินกว่า 10,000 สัญญา คาดลงนามภายใน1 เดือน ฟาก SRTA เตรียมคลอดหลักเกณฑ์ใหม่ปั๊มรายได้ มั่นใจเริ่มบริหารสัญญาภายในปีนี้

กรณีการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.)ตั้งบริษัทลูก หรือบริษัทเอสอาร์ที แอสเสท จำกัด (SRTA) เพื่อเข้ามาบริหารทรัพย์สินให้รฟท. มีความคล่องตัวและมีรายได้เพิ่มขึ้นจากการพัฒนาที่ดินอสังหาริมทรัพย์นอกเหนือจากการบริหารการเดินรถไฟในปัจจุบัน

นายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) ในฐานะประธานคณะกรรมการการรถไฟแห่งประเทศไทยเปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) รฟท. มีมติเห็นชอบร่างข้อบังคับว่าด้วยการบริหารทรัพย์สินระหว่าง รฟท.และบริษัทเอสอาร์ที แอสเสท จำกัด หรือ SRTA เบื้องต้นได้มอบหมายให้คณะอนุกรรมการด้านกฎหมายของรฟท.พิจารณาเพื่อให้ร่างฉบับดังกล่าวเป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.)

ขณะเดียวกันตามแผนจะลงนามร่างข้อบังคับฯร่วมกับบริษัทเอสอาร์ทีฯ โดยประธานคณะกรรมการ รฟท.จะเป็นผู้ลงนามในครั้งนี้ เนื่องจากเป็นอำนาจของคณะกรรมการรฟท.ที่ต้องกำกับดูแลนโยบายทั้ง 2 หน่วยงานที่ต้องดำเนินการร่วมกัน ซึ่งจะทำให้มีผลบังคับใช้ โดยรฟท.จะต้องเร่งรัดโอนทรัพย์สินให้บริษัทเอสอาร์ทีฯไปบริหาร คาดว่าจะลงนามได้ภายใน 1 เดือน

นายจิรุตม์ กล่าวต่อว่า ขณะที่บริษัทเอสอาร์ทีฯ จะต้องไปดำเนินการพิจารณาด้านกฎระเบียบ วิธีปฏิบัติ ตลอดจนการออกหลักเกณฑ์เกี่ยวกับการบริหารสัญญาต่างๆเพื่อสอดรับกับร่างข้อบังคับดังกล่าวให้มีความเรียบร้อยโดยบริษัทเอสอาร์ทีฯ จะต้องรายงานผลการดำเนินงานต่อรฟท.รับทราบทุกๆ 3 เดือน

"หากไม่มีร่างข้อบังคับฯ จะไม่สามารถ ดำเนินการในการโอนบริหารทรัพย์สินต่อได้ โดยรฟท.จะเป็นผู้รับประโยชน์เพื่อให้เกิดความคล่องตัวในการบริหารจัดการ"
นายอนันต์ โพธิ์นิ่มแดง รองผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) กล่าวว่า ตามมติครม.ให้รฟท.จดทะเบียนตั้งบริษัทเอสอาร์ทีฯ เพื่อดำเนินการบริหารทรัพย์สินของรฟท.โดยแบ่งสัญญาออกเป็น 4 กลุ่มดังนี้

1. สัญญาเช่าเดิมของรฟท.ที่ให้บริษัทเอสอาร์ทีฯ บริการรับจ้างบริหารจัดการสัญญา โดยบริษัทเอสอาร์ทีฯ เป็นผู้บริหารสัญญาซึ่งจะได้รับค่าจ้างจากการบริหารในขณะที่รฟท.ยังเป็นเจ้าของทรัพย์สิน เช่น สัญญาให้สิทธิใช้ประโยชน์ศูนย์การค้าบริเวณสามเหลี่ยมย่านพหลโยธิน (เซ็นทรัลลาดพร้าว)

2. สัญญาเช่าที่หมดอายุ โดยบริษัทเอสอาร์ทีฯ จะต้องดำเนินการเช่าที่ดินจากรฟท. เพื่อนำทรัพย์สินไปบริหารต่อ เช่น สัญญาโรงแรมอีสติน มักกะสัน

3. สัญญาเช่าที่บริษัทเอสอาร์ทีฯบริการจัดสรรพื้นที่และเจรจาสัญญากับบุคคลที่สามหรือร่วมทุนกับเอกชน โดยรับโอนพื้นที่ไปดำเนินการให้เช่าช่วงพื้นที่เพื่อนำไปพัฒนาหรือนำไปดำเนินการหาผู้ร่วมทุนในการพัฒนาพื้นที่ ซึ่งไม่ใช่การลงทุนระหว่างภาครัฐและเอกชน (PPP) แต่เป็นโครงการขนาดเล็ก

4. สัญญาที่บริษัทเอสอาร์ทีฯ ลงทุนด้วยตนเองในการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ โดยการเช่าพื้นที่จากรฟท.หรือซื้อที่ดินจากองค์กรอื่น เพื่อนำมาพัฒนาพื้นที่โครงการหรือเพิ่มมูลค่าสินทรัพย์

แหล่งข่าวจากบริษัทเอสอาร์ที แอสเสท จำกัด หรือ SRTA กล่าวว่า ขณะนี้ทางบริษัทเอสอาร์ทีฯ รับทราบถึงหลักการอนุมัติร่างข้อบังคับฯของคณะกรรมการรฟท.แล้ว แต่ยังไม่ได้รับหนังสือร่างฯฉบับดังกล่าวอย่างเป็นทางการ ซึ่งร่างข้อบังคับฉบับนี้เจะทำให้การทำงานร่วมกันทั้ง 2 ฝ่ายมีความคล่องตัวระหว่างกันมากขึ้น

"บริษัทเอสอาร์ทีฯ จะมีการศึกษาออกหลักเกณฑ์การบริหารสัญญาใหม่จากหลักเกณฑ์เดิมที่มีอยู่เพื่อให้สอดคล้องกับร่างข้อบังคับฯนี้ โดยบริษัทจะเร่งดำเนินการให้แล้วเสร็จโดยเร็วที่สุดภายใน 1 เดือนหรือเร็วกว่านั้นตามนโยบายของประธานคณะกรรมการรฟท. หากลงนามร่างข้อบังคับฯแล้วหลังจากนั้น คาดว่าจะสามารถเข้าไปบริหารสัญญาของรฟท.ได้ภายปีนี้"
ทั้งนี้หากหลักเกณฑ์ใหม่ของบริษัทเอสอาร์ทีฯ ผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการรฟท.หลังจากนั้นจะสามารถดำเนินการจัดหาประโยชน์ในการบริหารสัญญาเช่า รวมถึงกระบวนการที่เกี่ยวข้องทั้งหมดได้

อย่างไรก็ตามในปัจจุบันมีสัญญาที่รฟท.ต้องโอนทรัพย์สินให้บริษัทเอสอาร์ทีฯ กว่า 10,000 สัญญา แบ่งเป็น ฝ่ายบริหารสัญญากว่า 6,000 สัญญา, ฝ่ายการเดินรถและฝ่ายงานโยธา รวมกว่า 4,000 สัญญาซึ่งการบริหารสัญญานี้จะทำให้รฟท.มีรายได้เพิ่มขึ้นจากเดิมที่รฟท.มีรายได้ประมาณ 2,000-3,000 ล้านบาทต่อปี

ที่มา: นสพ.ฐานเศรษฐกิจ ฉบับวันที่ 18 - 20 ก.ค. 2567


'SRT Asset' to Manage 10,000 Contracts for State Railway of Thailand

Source - Than Setthakij, Wednesday, July 17, 2024 05:32

The State Railway of Thailand (SRT) board has approved draft regulations for its subsidiary, SRT Asset Co., Ltd. (SRTA), to manage over 10,000 contracts. The signing is expected within a month. Meanwhile, SRTA is preparing new criteria to boost revenue and is confident it will begin managing contracts this year.

The State Railway of Thailand (SRT) established a subsidiary, SRT Asset Co., Ltd. (SRTA), to manage its assets more flexibly and increase revenue from real estate development beyond current railway operations.

Mr. Jirut Wisaljit, Director-General of the Department of Land Transport and Chairman of the State Railway of Thailand Board, revealed that the SRT board meeting approved draft regulations on asset management between SRT and SRTA. Initially, SRT's legal subcommittee was assigned to review the draft to ensure compliance with the Cabinet resolution. The plan is for the SRT board chairman to sign the draft regulations with SRTA, as it falls under the SRT board's authority to oversee policies for both entities. This will make the regulations effective, and SRT will need to expedite the transfer of assets to SRTA for management. The signing is expected within a month.

Mr. Jirut added that SRTA will need to consider regulations, procedures, and establish criteria for managing various contracts in line with these draft regulations. SRTA will report its operations to SRT every three months. "Without these draft regulations, we cannot proceed with transferring asset management. SRT will be the beneficiary, allowing for more flexible management," he said.

Mr. Anan Phonimdaeng, Deputy Governor of the State Railway of Thailand, stated that according to the Cabinet resolution, SRT is to register SRTA to manage SRT's assets. The contracts are divided into four groups:

1. Existing SRT lease contracts that SRTA will manage for a fee, while SRT remains the asset owner.
2. Expired lease contracts where SRTA will need to lease land from SRT to continue managing the assets.
3. Lease contracts where SRTA will allocate space and negotiate contracts with third parties or joint ventures with private entities.
4. Contracts where SRTA invests in real estate development by leasing land from SRT or purchasing land from other organizations.

A source from SRTA said the company is aware of the SRT board's approval of the draft regulations but hasn't officially received the document yet. These regulations will make collaboration between the two parties more flexible.

"SRTA will study and establish new contract management criteria based on existing ones to align with these draft regulations. The company will expedite this process to complete it within a month or sooner, as per the SRT board chairman's policy. After signing the draft regulations, we expect to begin managing SRT contracts this year," the source said.

Currently, there are over 10,000 contracts that SRT needs to transfer to SRTA, including over 6,000 management contracts and over 4,000 contracts related to train operations and civil works. This contract management is expected to increase SRT's annual revenue from the current 2-3 billion baht.

Source: Than Setthakij Newspaper, July 18-20, 2024 edition
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 43373
Location: NECTEC

PostPosted: 17/07/2024 9:08 pm    Post subject: Reply with quote

Mongwin wrote:
'เอสอาร์ที แอสเสท' ลุยบริหารทรัพย์สิน รฟท. 1 หมื่นสัญญา
Source - ฐานเศรษฐกิจ
Wednesday, July 17, 2024 05:32
Source: Than Setthakij Newspaper, July 18-20, 2024 edition

ลิงก์มาแล้ว
“เอสอาร์ที แอสเสท” ลุยบริหารทรัพย์สิน รฟท. 1 หมื่นสัญญา
ฐานเศรษฐกิจ
วันพุธ ที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2567 เวลา 06:00 น.


บอร์ด รฟท.ไฟเขียวร่างข้อบังคับ บริษัทลูก เอสอาร์ที แอสเสท บริหารทรัพย์สินกว่า 10,000 สัญญา คาดลงนามภายใน 1 เดือน
ฟาก SRTA เตรียมคลอดหลักเกณฑ์ใหม่ปั๊มรายได้ มั่นใจเริ่มบริหารสัญญาภายในปีนี้
กรณีการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ตั้งบริษัทลูก หรือบริษัทเอสอาร์ที แอสเสท จำกัด (SRTA) เพื่อเข้ามาบริหารทรัพย์สินให้รฟท. มีความคล่องตัวและมีรายได้เพิ่มขึ้นจากการพัฒนาที่ดินอสังหาริมทรัพย์นอกเหนือจากการบริหารการเดินรถไฟในปัจจุบัน
https://www.thansettakij.com/business/economy/601892
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 46281
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 23/07/2024 2:38 pm    Post subject: Reply with quote

ครม. มีมติอนุมัติการใช้ที่ดินในเขตปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมเพื่อดำเนินโครงการก่อสร้างทางรถไฟ 2 โครงการ รวมทั้งสิ้น 3,455-2-79 ไร่

วันนี้ (23 กรกฎาคม 2567) นางสาวเกณิกา อุ่นจิตร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (23 กรกฎาคม 2567) มีมติอนุมัติการใช้ที่ดินในเขตปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมเพื่อดำเนินโครงการก่อสร้างทางรถไฟสายเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ ในเขตปฏิรูปที่ดิน เนื้อที่รวมประมาณ 1,537-3-04 ไร่ และโครงการก่อสร้างทางรถไฟ สายบ้านไผ่-มหาสารคาม-ร้อยเอ็ด-มุกดาหาร-นครพนม เนื้อที่รวมประมาณ 1,917-3-75 ไร่ ของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เพื่อให้ รฟท. สามารถดำเนินงานโครงการก่อสร้างได้ตามกรอบระยะเวลาที่กำหนด และคณะกรรมการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (คปก.) จะได้พิจารณาให้ความยินยอมหรืออนุญาตให้ใช้ประโยชน์ที่ดินตามที่กฎหมายกำหนดต่อไป ตามที่ คปก. เสนอ

รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า คปก. รายงานว่าการดำเนินโครงการก่อสร้างทางรถไฟสายเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ และโครงการก่อสร้างทางรถไฟสายบ้านไผ่-มหาสารคาม-ร้อยเอ็ด-มุกดาหาร-นครพนม ของรฟท. ทั้ง 2 โครงการ เป็นโครงการของรัฐที่คณะรัฐมนตรีได้เคยมีมติอนุมัติให้ดำเนินการแล้ว ซึ่งเป็นประโยชน์ส่วนรวมของประเทศในด้านการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งและระบบโลจิสติกส์ และมีความจำเป็นต้องขอความยินยอมหรือขออนุญาตใช้ประโยชน์ที่ดินในเขตปฏิรูปที่ดินเพื่อดำเนินการก่อสร้าง โดยมีสาระสำคัญสรุปได้ดังนี้

1. โครงการก่อสร้างทางรถไฟสายเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ เป็นโครงการก่อสร้างทางรถไฟทางคู่สายใหม่ ซึ่งครอบคลุมพื้นที่ 4 จังหวัด 17 อำเภอ 59 ตำบล แบ่งเป็นทางรถไฟระยะทาง 323.10 กิโลเมตร อุโมงค์รถไฟจำนวน 4 แห่ง รวม 14.415 กิโลเมตร คันทางคู่สูงเฉลี่ย 4 เมตร ป้ายหยุดรถไฟจำนวน 13 แห่ง สถานีรถไฟขนาดเล็ก จำนวน 9 แห่ง และสถานีรถไฟขนาดใหญ่ จำนวน 4 แห่ง รวมทั้งทั้งสิ้น 6 สถานี ลานบรรทุกตู้สินค้าจำนวน 5 แห่ง ถนนยกข้ามทางรถไฟ จำนวน 39 แห่ง ถนนลอดใต้ทางรถไฟจำนวน 103 แห่ง พร้อมการติดตั้งระบบอาณัติสัญญาณและโทรคมนาคม และสร้างรั้วสองแนวข้างทางตลอดเส้นแนวทางรถไฟ ซึ่งต่อมา รฟท. ได้ลงนามสัญญาจ้างก่อสร้างโครงการดังกล่าวจำนวน 3 สัญญา ได้แก่ สัญญาที่ 1 ช่วงเด่นชัย-งาว สัญญาที่ 2 ช่วงงาว-เชียงราย และสัญญาที่ 3 เชียงราย-เชียงของ พื้นที่ของโครงการที่ต้องขอความยินยอมหรือขออนุญาตใช้ประโยชน์ที่ดินในเขตปฏิรูปที่ดิน 1,537-3-04 ไร่
2. โครงการก่อสร้างทางรถไฟ สายบ้านไผ่-มหาสารคาม-ร้อยเอ็ด-มุกดาหาร-นครพนม เป็นโครงการก่อสร้างทางรถไฟใหม่จำนวน 2 เส้นทาง ซึ่งครอบคลุมพื้นที่ 6 จังหวัด 19 อำเภอ 70 ตำบล โดยแบ่งเป็น 1. ทางรถไฟระดับดินระยะทาง 346 กิโลเมตร คันทางรถไฟสูงเฉลี่ย 4 เมตรและ 2. เป็นโครงสร้างทางรถไฟยกระดับ 9 กิโลเมตร ก่อสร้างป้ายหยุดรถไฟจำนวน 12 แห่ง สถานีรถไฟขนาดเล็ก จำนวน 9 แห่ง สถานีรถไฟขนาดกลาง จำนวน 5 แห่ง และสถานีรถไฟขนาดใหญ่ จำนวน 4 แห่ง รวมทั้งทั้งสิ้น 18 สถานี มีลานบรรทุกตู้สินค้า จำนวน 3 แห่ง มีย่านกองเก็บตู้สินค้า จำนวน 3 แห่ง ถนนยกข้ามทางรถไฟ จำนวน 81 แห่ง ถนนลอดใต้ทางรถไฟ จำนวน 245 แห่ง พร้อมการติดตั้งระบบอาณัติสัญญาณและโทรคมนาคม และสร้างรั้วสองแนวข้างทางตลอดเส้นแนวทางรถไฟ ซึ่งต่อมา รฟท. ได้ลงนามสัญญาจ้างก่อสร้างโครงการดังกล่าวจำนวน 2 สัญญาได้แก่ สัญญาที่ 1 บ้านไผ่-หนองพอก และสัญญาที่ 2 หนองพอก-สะพานมิตรภาพ 3 พื้นที่ของโครงการที่ต้องขอความยินยอมหรือขออนุญาตใช้ประโยชน์ที่ดินในเขตปฏิรูปที่ดิน 1,917 -3-75 ไร่

รวมทั้งสิ้น 3,455-2-79 ไร่

การดำเนินโครงการก่อสร้างทางรถไฟของ รฟท. ทั้ง 2 เส้นทางจะต้องเข้าดำเนินการในพื้นที่เขตปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมเนื้อที่รวมประมาณ 3,455-2-79 ไร่ โดย รฟท. ซึ่งเป็นผู้ประสงค์จะใช้ที่ดินจะต้องยื่นคำขอรับความยินยอมหรือขออนุญาตใช้ประโยชน์ที่ดินในเขตปฏิรูปที่ดินต่อ คปก. ก่อนส่งมอบพื้นที่ให้แก่ผู้รับจ้างเข้าดำเนินการก่อสร้าง ทั้งนี้ ก่อนที่ คปก. จะพิจารณาให้ความยินยอมหรืออนุญาตให้ใช้ที่ดินในเขตปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมจะต้องดำเนินการเสนอต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อมีมติอนุมัติให้ใช้ที่ดินในเขตปฏิรูปที่ดินเพื่อดำเนินโครงการดังกล่าวก่อน เพื่อให้ คปก. สามารถพิจารณาให้ความยินยอมหรืออนุญาตให้ รฟท. ใช้ที่ดินตามที่กฎหมายกำหนดให้ดำเนินโครงการดังกล่าวสัมฤทธิ์ผลและเป็นไปตามแนวนโยบายของรัฐต่อไป

จากการดำเนินโครงการดังกล่าวส่งผลให้รัฐต้องสูญเสียที่ดินเพื่อการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมบางส่วน และส่งผลต่อเกษตรกรผู้ได้รับการจัดที่ดินจากการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม แต่ในขณะเดียวกัน สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) จะให้ รฟท. ซึ่งเป็นผู้ขอใช้ประโยชน์ที่ดิน เยียวยาหรือจ่ายค่าชดเชยการสูญเสียโอกาสจากการใช้ที่ดินเพื่อก่อสร้างทางรถไฟให้แก่เกษตรกรที่ได้รับการจัดสรรที่ดินจาก ส.ป.ก. ตามข้อตกลงระหว่าง รฟท. กับเกษตรกรผู้ได้รับผลกระทบ ซึ่งกำหนดเป็นจำนวนเงินหรือประโยชน์อย่างอื่นเพื่อค่าทดแทนความเสียหายจากการรอนสิทธิเกษตรกร หรือการสูญเสียโอกาสในการใช้ที่ดินของเกษตรกรบรรดาผู้มีสิทธิในที่ดินนั้น และเมื่อได้รับอนุญาตให้ใช้ที่ดินตามกฎหมายแล้ว รฟท. จะต้องนำส่งค่าตอบแทนใช้ประโยชน์ที่ดินให้กับ ส.ป.ก. เพื่อนำเข้ากองทุนการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมตามกฎหมายว่าด้วยการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม โดยไม่ต้องนำส่งคลังเป็นรายได้แผ่นดิน ตามระเบียบ คปก. ว่าด้วยหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไข ในการใช้และค่าตอบแทนการใช้ประโยชน์ที่ดินในเขตปฏิรูปที่ดินพ.ศ. 2561 และที่แก้ไขเพิ่มเติม โดย ส.ป.ก. จะนำค่าตอบแทนดังกล่าวมาใช้เพื่อเป็นทุนหมุนเวียนในการดำเนินการปฏิรูปที่ดินเพื่อเป็นประโยชน์ต่อเกษตรกรและประชาชนในเขตปฏิรูปที่ดินต่อไป


The Cabinet approved the use of land in agricultural reform areas for two railway construction projects, totaling 3,455-2-79 rai.

Today (July 23, 2024), Ms. Kanika Ounjit, Deputy Government Spokesperson, revealed that the Cabinet meeting on July 23, 2024, approved the use of land in agricultural reform areas for the construction of the Denchai-Chiang Rai-Chiang Khong railway line in an agricultural reform area covering approximately 1,537-3-04 rai, and the Ban Phai-Maha Sarakham-Roi Et-Mukdahan-Nakhon Phanom railway line covering approximately 1,917-3-75 rai. This approval allows the State Railway of Thailand (SRT) to proceed with the construction projects within the specified timeframe. The Agricultural Land Reform Committee (ALRC) will consider giving consent or permission for land use according to the law as proposed by the ALRC.

The Deputy Government Spokesperson stated that the ALRC reported the construction projects of the Denchai-Chiang Rai-Chiang Khong and Ban Phai-Maha Sarakham-Roi Et-Mukdahan-Nakhon Phanom railway lines are state projects previously approved by the Cabinet. These projects are essential for national infrastructure and logistics development, requiring land use approval in the agricultural reform areas for construction. The key points of the projects are summarized as follows:

1. The Denchai-Chiang Rai-Chiang Khong railway project involves the construction of a new double-track railway covering 4 provinces, 17 districts, and 59 sub-districts, spanning 323.10 kilometers. It includes 4 railway tunnels totaling 14.415 kilometers, an average embankment height of 4 meters, 13 train stops, 9 small stations, 4 large stations, 6 total stations, 5 container yards, 39 overpasses, 103 underpasses, and installation of signaling and telecommunications systems, along with dual fences along the railway line. The SRT signed 3 construction contracts for this project: Denchai-Ngao, Ngao-Chiang Rai, and Chiang Rai-Chiang Khong. The project requires approval for land use of 1,537-3-04 rai in the agricultural reform area.

2. The Ban Phai-Maha Sarakham-Roi Et-Mukdahan-Nakhon Phanom railway project involves the construction of two new railway lines covering 6 provinces, 19 districts, and 70 sub-districts, spanning 346 kilometers of ground-level tracks with an average embankment height of 4 meters, and 9 kilometers of elevated tracks. It includes 12 train stops, 9 small stations, 5 medium stations, 4 large stations, 18 total stations, 3 container yards, 3 container storage areas, 81 overpasses, 245 underpasses, and installation of signaling and telecommunications systems, along with dual fences along the railway line. The SRT signed 2 construction contracts for this project: Ban Phai-Nong Phok and Nong Phok-Third Friendship Bridge. The project requires approval for land use of 1,917-3-75 rai in the agricultural reform area.

Totaling 3,455-2-79 rai.

The SRT must obtain consent or permission for land use in the agricultural reform areas before proceeding with the construction in these areas. The ALRC must submit the approval request to the Cabinet before granting land use permission. This ensures the projects align with state policies and achieve their intended outcomes.

The projects will result in the loss of some agricultural reform land, affecting farmers allocated land under the reform program. However, the Agricultural Land Reform Office (ALRO) will require the SRT to compensate affected farmers for the loss of land use opportunities. This compensation will be in the form of monetary or other benefits as agreed between the SRT and the affected farmers. Once legal permission for land use is granted, the SRT must pay the compensation to the ALRO, which will be used as a revolving fund for further agricultural reform initiatives.
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 43373
Location: NECTEC

PostPosted: 02/08/2024 3:07 pm    Post subject: Reply with quote

การรถไฟฯ ประสานความร่วมมือสถานีตำรวจนครบาลปทุมวัน จัดระเบียบถนนเลียบคลองผดุงกรุงเกษม ดูแลความปลอดภัยให้กับผู้ใช้รถใช้ถนน และประชาชนในพื้นที่ใกล้เคียง
นายเอกรัช ศรีอาระยันพงษ์ หัวหน้าสำนักงานผู้ว่าการ การรถไฟแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า การรถไฟฯ ได้ประสานความร่วมมือสถานีตำรวจนครบาลปทุมวัน เข้าดำเนินการจัดระเบียบการจราจรในพื้นที่ บริเวณถนนเลียบคลองผดุงกรุงเกษมตลอดเส้นทางทั้งสองฝั่ง ตั้งแต่สถานีกรุงเทพ (หัวลำโพง) จนถึงที่ทำการตำรวจรถไฟนพวงศ์ (เดิม) เพื่อแก้ไขปัญหาการจราจรติดขัด และลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุทางถนน ตลอดจนดูแลความปลอดภัยให้กับผู้สัญจรไปมา และประชาชนในพื้นที่
ทั้งนี้ ที่ผ่านมาการรถไฟฯ ได้รับร้องเรียนในบริเวณดังกล่าว มักมีการนำรถยนต์ส่วนบุคคล และรถขนส่งสินค้ามาจอดเป็นจำนวนมาก ซึ่งเส้นทางดังกล่าวอยู่ใกล้พื้นที่โรงเรียนหลายแห่งที่มีประชาชนและนักเรียนเดินทางจำนวนมาก ทำให้ได้รับผลกระทบด้านจราจรในชั่วโมงเร่งด่วน อีกทั้งยังบดบังทัศนียภาพในการใช้รถใช้ถนน และการสัญจรบนทางเท้า ตลอดจนเกิดปัญหาขยะมูลฝอยสะสม เสี่ยงต่อการเป็นแหล่งมั่วสุมในการเกิดปัญหาอาชญากรรม ซึ่งจำเป็นต้องได้รับการแก้ไขอย่างเร่งด่วน
ดังนั้น การรถไฟฯ จึงได้ประสานขอความร่วมมือไปยังสถานีตำรวจนครบาลปทุมวันให้ดำเนินการจัดระเบียบการจราจร พร้อมบังคับใช้กฎหมายจราจรอย่างเคร่งครัด เพื่อบรรเทาปัญหาการจราจรติดขัดและลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุทางถนน ซึ่งจะช่วยให้พื้นที่บริเวณดังกล่าว กลับมาเป็นระเบียบเรียบร้อย ปลอดภัย ตลอดจนสร้างทัศนียภาพที่สวยงาม ส่งเสริมภาพลักษณ์ที่ดีให้กับสถานีกรุงเทพ (หัวลำโพง) อีกทั้งยังเป็นการช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตให้ประชาชนในพื้นที่โดยรอบอีกด้วย
ท้ายนี้ การรถไฟฯ ขอความร่วมมือไปยังพี่น้องประชาชนในการร่วมกันปฏิบัติตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัด อาทิ งดจอดรถบริเวณที่ห้ามจอด ขับรถตามความเร็วที่กฎหมายกำหนด และหยุดรถให้ผู้ที่ข้ามทางม้าลายก่อนทุกครั้ง เพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุ และช่วยให้การเดินทางของพี่น้องประชาชนเกิดความปลอดภัย สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ศูนย์บริการข้อมูลลูกค้าสัมพันธ์ โทรศัพท์ 1690 ตลอด 24 ชั่วโมง หรือเฟซบุ๊ก แฟนเพจทีมพีอาร์การรถไฟแห่งประเทศไทย
https://www.facebook.com/pr.railway/posts/904590881698904

รฟท.ผนึกตำรวจ สน.ปทุมวัน ลุยจัดระเบียบถนนเลียบคลองผดุงฯ หลัง ปชช.ร้องรถจอดกีดขวางจราจร
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
เผยแพร่: วันพฤหัสบดี ที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2567 เวลา 15:15 น.
ปรับปรุง: วันพฤหัสบดี ที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2567 เวลา 19:10 น.


การรถไฟฯ ประสานความร่วมมือสถานีตำรวจนครบาลปทุมวันจัดระเบียบถนนเลียบคลองผดุงกรุงเกษม หลังประชาชนร้องเรียน รถขนส่งสินค้าจอดกีดขวางจราจร เกิดความไม่ปลอดภัยต่อผู้ใช้รถใช้ถนน และประชาชนในพื้นที่ใกล้เคียง
https://mgronline.com/business/detail/9670000067679

รฟท.ขอตร.จัดระเบียบถนนเลียบคลองผดุงกรุงเกษม
*รถจอดกีดขวาง-แหล่งเพาะขยะ-ก่ออาชญากรรม
*ปรับภูมิทัศน์-เพิ่มความปลอดภัยรอบ“หัวลำโพง”
https://www.facebook.com/TransportDailynews/posts/1035650244678876
Back to top
View user's profile Send private message
Display posts from previous:   
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับรถไฟไทย All times are GMT + 7 Hours
Goto page Previous  1, 2, 3 ... , 201, 202, 203  Next
Page 202 of 203

 

Share |

Jump to:  
You cannot post new topics in this forum
You cannot reply to topics in this forum
You cannot edit your posts in this forum
You cannot delete your posts in this forum
You cannot vote in polls in this forum

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group


Forums ©