Ads Service

Main Menu

 
icon_home.gif Homepage
icon_community.gif Members Zone
· ข้อมูลส่วนตัว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ข่าวสารส่วนตัว
· บริการเว็บเมล์
· กระดานข่าว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก กระดานฝากข้อความ
· รถไฟไทยแกลลอรี่
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก รายนามสมาชิก
· แบบสำรวจ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก สมุดเยี่ยม
· เกี่ยวกับสมาชิก
favoritos.gif News & Stories
· เรื่องทั้งหมด
· เนื้อหาสาระ
· เรื่องสำหรับพิมพ์
· ยอดฮิตติดอันดับ
· ค้นหาข่าวสาร
· ค้นหากระทู้เก่า
nuke.gif Contents
· กำหนดเวลาเดินรถ
· ประเภทขบวนรถโดยสาร
· ข้อมูลเส้นทางรถไฟ
· แผนที่เส้นทางรถไฟ
· อัตราค่าโดยสาร
· คำนวณค่าโดยสารรถไฟ
· รูปแบบการให้บริการรถไฟ
· หมายเลขโทรศัพท์ที่สำคัญ
· ทริปท่องเที่ยวโดยรถไฟ
· ระบบติดตามขบวนรถ
som_downloads.gif Services
· Downloads
· GoogleSearch
· Hotels Booking
· FlashGames
· Wallpaper 1
· Wallpaper 2
· Wallpaper 3
· Wallpaper 4
icon_members.gif Information
· เกี่ยวกับเรา
· นโยบายความเป็นส่วนตัว
· แผนผังเว็บไซต์ฯ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ส่งข้อแนะนำติชม
· ติดต่อลงโฆษณา
· แนะนำและบอกต่อ
· สถิติทั้งหมด
· สำหรับผู้ดูแลระบบ
 

Sponsors

 

Rotfaithai.Com

 

Visitors

 


มีผู้เข้าเยี่ยมชม
สมาชิก:311903
ทั่วไป:13574089
ทั้งหมด:13885992
คน ตั้งแต่
01-08-2004
 


Rotfaithai.Com :: View topic - ข่าวกรมการขนส่งทางราง (เริ่ม 21 พ.ค. 62)
 Forum FAQForum FAQ   SearchSearch   UsergroupsUsergroups   ProfileProfile   Log in to check your private messagesLog in to check your private messages   Log inLog in 

ข่าวกรมการขนส่งทางราง (เริ่ม 21 พ.ค. 62)
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 69, 70, 71
 
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับรถไฟไทย
View previous topic :: View next topic  
Author Message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 46865
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 01/11/2024 5:13 am    Post subject: Reply with quote

สทร.รับภารกิจ “Mission Impossible”ชูเทคโนฯพลิกโฉมรถไฟไทย จากนำเข้าเป็นผู้ส่งออก ขึ้นแท่น ฮับอาเซียนอุตสาหกรรมระบบราง
Source - ผู้จัดการออนไลน์
Friday, November 01, 2024 04:55

ดูเหมือนว่าความพยายามผลักดันเศรษฐกิจไทยให้ตัวเลขขยับขึ้นยังไม่เป็นผล แม้ว่ารัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร จะพยายามกระตุ้นเศรษฐกิจ มาตรการที่ออกมาแล้วอย่างโครงการแจกเงินดิจิทัล 1 หมื่นบาท เฟสแรก โครงการ “แอ่วเหนือคนละครึ่ง” เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวภาคเหนือหลังเจอน้ำท่วมใหญ่ และอีกหลายๆมาตรการที่เตรียมจะผลักดันออกมา ยังไม่ได้ส่งผลให้เศรษฐกิจกลับมาคึกคักมากนัก เพราะล่าสุด กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ได้เปิดเผยรายงานแนวโน้มเศรษฐกิจ (WEO) ฉบับล่าสุดเดือนตุลาคม 2567 ประเทศไทยโดนหั่นคาดการณ์จีดีพีหรือเศรษฐกิจประเทศลงอีก จากเดือนกรกฎาคม 2567 จีดีพีไทยปีนี้จะเติบโต 2.9% และปีหน้า ปี 2568 จะขยับขึ้นเป็น 3.1%กลับมาขยายตัวได้เพียง 2.8% ในปีนี้ และแตะ 3.0% ในปี 2568

ในห้วงเวลาไล่เลี่ยกัน อุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ได้เปิดเผยยอดขายตลาดรถยนต์เดือนกันยายน 2567 ที่น่าตกใจ เพราะตัวเลขยอดขายต่ำที่สุดในรอบ 51 เดือน อยู่ที่ประมาณ 39,000 คัน และเป็นการลดลงต่อเนื่องติดต่อกันเป็นเดือนที่ 4 นับตั้งแต่เดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ส่งผลให้ตลาดรวม 9 เดือนของปี 2567 ตั้งแต่เดือนมกราคม-กันยายน 2567 มียอดขายเพียง 438,000 คัน ร่วงลง 25% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2566 จึงมีการคาดการณ์จากวงการผู้ผลิตรถยนต์ว่ายอดขายรถยนต์ในปีนี้จากเป้าหมายที่ปรับลดลงแล้วเหลือ 650,000 คัน น่าจะทำไม่ถึง หากปรับลดยอดขายเป้าหมายลงอีกเหลือ 600,000 คัน สภาพการณ์ก็น่าจะเหนื่อยที่จะทำให้ถึง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ที่น่ากังวลใจ คือ “โปรดักต์แชมเปี้ยน” อย่างรถปิกอัพขนาด 1 ตัน ยอดขายลดลงฮวบฮาบอย่างน่าใจหาย มากถึง 55% และตอนนี้มีแล้ว 2 ค่ายรถยนต์สัญชาติญี่ปุ่นประกาศถอนการลงทุน ยุติการผลิตโรงงานรถยนต์ในประเทศไทย โดยซูบารุจะยุติการผลิตในสิ้นปี 2567 และซูซูกิจะมีผลในช่วงปลายปี 2568 แน่นอนว่าผู้ประกอบการผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ไทยได้รับผลกระทบเต็มๆ มีการทยอยปิดกิจการแล้วกว่า 500 รายในพื้นที่ภาคตะวันออก คนงานทั้งที่เป็นพนักงานประจำและพนักงานซับคอนแทร็กต์ตกงานแล้วกว่า 100,000 คน

สทร.รับโจทย์แก้ปัญหาเชิงเศรษฐกิจและสังคม

ถือเป็นโจทย์ใหญ่ถาโถมเข้าใส่รัฐบาลที่ต้องแก้ไข โดยแม้ว่ากระทรวงที่เกี่ยวข้องโดยตรง หนีไม่พ้นกระทรวงอุตสาหกรรม แต่ในเวลานี้ รัฐบาลมีนโยบายให้ทุกภาคส่วนต้องร่วมมือกันทำงานแบบบูรณาการ สทร. หรือชื่อเรียกเต็มๆว่า สถาบันวิจัยและพัฒนาระบบราง (องค์การมหาชน) หน่วยงานภายใต้สังกัดกระทรวงคมนาคม ที่เพิ่งก่อตั้งได้ราว 3 ปี ตามแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ที่ถูกกำหนดพันธกิจไว้แล้วโดยหนึ่งในภารกิจสำคัญคือการพลิกโฉมประเทศไทยให้มีความก้าวหน้าของระบบรางด้วยการพัฒนาเทคโนโลยีและสร้างระบบนิเวศ การวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีที่จะเป็นฐานไปสู่การเป็นประเทศชั้นนำด้านระบบรางในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หรือระดับอาเซียน

ดร.จุลเทพ ขจรไชยกูล ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีระบบราง (องค์การมหาชน) หรือสทร. ได้เปิดเผยรายละเอียดถึงภารกิจในงานแถลงข่าวเปิดตัวโครงการจัดประกวด “รถไฟในฝัน” เมื่อวันที่ 24 ตุลาคมที่ผ่านมา ที่โรงแรมปทุมวันปริ๊นเซส ว่า ถือเป็นจังหวะดีที่จะผลักดันภารกิจการเป็นผู้ผลิตรถไฟให้เดินหน้า บุคลากรถือเป็นส่วนสำคัญหนึ่งที่จะทำให้ภารกิจสำเร็จลุล่วง จึงได้เริ่มโครงการนำร่อง “ผมเรียกโครงการนี้ว่า การประเมินศักยภาพของว่าที่ผู้ผลิต โดยเล็งไปยังกลุ่มผู้ประกอบธุรกิจผลิตชิ้นส่วนยานยนต์เป็นกลุ่มแรก เพราะทกำลังประสบปัญหาอย่างมากจากที่อุตสาหกรรมยานยนต์กำลังเปลี่ยนผ่านเทคโนโลยีจากรถยนต์สันดาปไปสู่รถยนต์ไฟฟ้า หากทำได้ เท่ากับเป็นการช่วยแก้ปัญหาทั้งเรื่องสังคมและเศรษฐกิจ”

จังหวะดีที่สามารถเข้ามาช่วยแก้ปัญหาได้ทั้งเชิงเศรษฐกิจและสังคมแล้ว ยังเป็นจังหวะดีที่รัฐบาลชุดปัจจุบันให้ความสำคัญกับเรื่องนี้เช่นเดียวกับรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ดร.จุลเทพ บอกว่า ภาคกิจยิ่งใหญ่ จากประเทศผู้นำเข้ารถไฟ จะเปลี่ยนผ่านเป็นผู้ผลิตรถไฟเสียเอง เรียกได้ว่าเป็นความสำเร็จร่วม โครงการเกิดขึ้นในรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา แต่กำลังเกิดขึ้นเป็นรูปเป็นร่างในสมัยรัฐบาล น.ส.แพรทองธาร ชินวัตร ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่รัฐบาลให้นโยบายชัดเจนให้ 2 หน่วยงาน คือการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) และสทร. ร่วมกันทำงานแบบบูรณาการในการสร้างโอกาสให้ประเทศด้วยระบบราง สอดคล้องกับร่างพ.ร.บ.การขนส่งทางราง พ.ศ.... ที่อยู่ระหว่างการพิจารณาของรัฐสภาเพื่อบังคับใช้เป็นกฎหมาย

ตั้งเป้า 3 ปี ไม่เกินปี 2570 ได้เห็นขบวนรถไฟผลิตเอง 50 คัน

เรื่องการผลิตรถไฟได้เอง อาจจะเป็นเรื่องตื่นเต้นสำหรับคนไทย และอาจมีคำถามตามมาว่า ทำได้จริงหรือ แต่สำหรับดร.จุลเทพ กล่าวอย่างมั่นใจว่า เกิดขึ้นได้แน่นอน เพราะสทร.ได้ศึกษาเรื่องนี้มาระยะหนึ่งแล้ว ได้จัดทำแผนงานเสนอสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือสภาพัฒน์ เพื่อขอความเห็นชอบขอรับการสนับสนุนงบประมาณปี 2569 จากคณะรัฐมนตรี(ครม.) ที่ต้องจัดทำแผนยุทธศาสตร์ให้ครม.พิจารณา หากได้รับความเห็นชอบก็จะได้รับการจัดสรรงบประมาณในวันที่ 1 ตุลาคม 2568 โดยโครงการนำร่องที่ทำก่อนแล้วคือดึงผู้ประกอบการผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ที่มีศักยภาพมาผลิตขบวนรถไฟ ตั้งเป้าว่าภายใน 3 ปี หรืออย่างช้าไม่เกินต้นปี 2570 จะผลิตขบวนรถไฟได้เองปีละ 50 คัน (โบกี้-ตู้) ประเมินว่าจะช่วยประหยัดเงินงบประมาณแผ่นดินในการสั่งซื้อจากต่างประเทศลงได้ 20% จากราคาปัจจุบันขบวนรถไฟต่อคันอยู่ที่ 100-150 ล้านบาท

สำหรับหัวรถจักร ดร.จุลเทพ กล่าวยอมรับว่า เทคโนโลยีของไทยยังพัฒนาไปไม่ถึง ดังนั้นเริ่มต้นโครงการยังจำเป็นต้องนำเข้าหัวรถจักรจากต่างประเทศ แต่ สทร. ตั้งเป้าจะมีเทคโนโลยีของตัวเอง จึงกำลังมองหาพาร์ทเนอร์ชั้นนำระดับโลก ระดับ World Class มาร่วมลงทุนกับไทย เพื่อเรียนรู้โนฮาวและเกิดการผ่องถ่ายเทคโนโลยี ดังนั้นในช่วงเริ่มต้น ภายใน 3 ปีนี้ จนถึงปี 2570 รถไฟต้นแบบที่ขบวนรถเป็นการผลิตโดยผู้ประกอบการไทย ยังคงเป็นหัวรถจักรดีเซล และจะขยับเป็นระบบไฮบริด ทั้งดีเซลและไฟฟ้า “การเลือกพาร์ทเนอร์ต่างชาติมาร่วมลงทุนนั้น จำเป็นต้องดูในหลากหลายมิติ โดยเฉพาะโลกปัจจุบันที่เกิดปัญหาด้าน Geo Politics แนวทางการดำเนินงานต้องดูทั้งเชิงเศรษฐกิจ ดูความคุ้มค่าทั้งเรื่องการเกิดมูลค่าเพิ่มสูง เกิดโอกาสการจ้างงาน ฯลฯ และต้องดูด้านภูมิรัฐศาสตร์ในการเลือกคู่เทคโนโลยีระดับโลก แม้ว่าเราต้องการเม็ดเงินลงทุนและโนฮาวจากต่างประเทศ แต่เราไม่ต้องการอยู่ในเงื่อนไขการกำกับของต่างชาติ เพราะเป้าหมายของเราคือการมีเทคโนโลยีของตัวเองเพื่อจะผลักดันให้เกิดอุตสาหกรรมระบบราง ผลิตโดยคนไทย ใช้โดยคนไทย และส่งออกไปขายในต่างประเทศ”

ฝันใหญ่ไปสุดราง หนึ่งในซัพพลายเชนโลกป้อนตลาดรางมาตรฐานขนาด 1 เมตร

อุตสาหกรรมระบบราง คือภารกิจหลักของสทร.ตามพันธกิจที่กำหนดไว้ในพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งสถาบันวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีระบบราง (องค์การมหาชน) พ.ศ.2564 ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา สทร.จึงได้ศึกษาถึงความเป็นไปได้ โดยมองถึงความถนัด ความสามารถของเราก่อน โดยมาตรฐานระบบรางไทยจะใช้ขนาด 1 เมตร และจากการศึกษาพบว่าทั่วทั้งโลกมีหลายประเทศที่ใช้ระบบรางขนาดมาตรฐาน 1 เมตร คิดเป็นระยะทางกว่า 70,000 กิโลเมตรที่ยังมีความต้องการขยายทาง ขณะที่ไทยมีความต้องการใช้ระบบรางเพื่อการขนส่งที่กำลังขยายตัวมากขึ้นเรื่อยๆ ทั้งใช้เพื่อการเดินทางของคน เพื่อการขนส่งสินค้า อย่างรถไฟจากทางเดี่ยว เป็นทางคู่ ระยะทางกว่า 4,000 กิโลเมตร รถไฟฟ้าทั้งแบบลอยฟ้าและลงดิน รถไฟฟ้าเชื่อมต่อสนามบิน อย่างรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงค์ รถไฟความเร็วสูง และรถไฟเชื่อมประเทศเพื่อนบ้าน จึงมองเห็นว่านี่คือตลาดแห่งอนาคต สามารถทำเป็นอุตสาหกรรมป้อนความต้องการในประเทศ และต่างประเทศได้ หากโครงการปั้นอุตสาหกรรมระบบรางไทยสำเร็จ จะเป็นหนึ่งอุตสาหกรรม S-Curve ช่วยผลักดันจีดีพีหรือเศรษฐกิจประเทศให้เติบโตเพิ่มขึ้น และยังเป็นการเพิ่มโอกาสการดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศอีกด้วย

หวังเยาวชนไทยสานต่อบิ๊กโปรเจ็กต์

สิ่งที่กล่าวมาทั้งหมด คือโครงการระยะยาวที่ไม่สามารถเกิดขึ้นได้ในเร็ววันนี้ แต่จำเป็นต้องวางแผน วางรากฐานไว้ก่อน โดยช่วงแรกคือการดึงผู้ประกอบการศักยภาพที่มีอยู่ในระบบให้มาร่วมดำเนินการ แต่เยาวชนจะกลายมาเป็นกำลังสำคัญหลักในระยะถัดไป การเตรียมความพร้อมจึงเป็นสิ่งจำเป็น สทร.จึงเริ่มโครงการแรกโดยจัดประกวดความคิดสร้างสรรค์ระดับเยาวชน หัวข้อ “รถไฟในฝัน” ภายใต้ธีม “คิดไปให้สุดราง” (Think Beyond Track) พุ่งเป้าเยาวชนอายุ 16-22 ปี ในระดับมัยธมปลายและอุดมศึกษา เพื่อเปิดรับไอเดียที่ไม่มีขีดจำกัด นำความคิดสร้างสรรค์เหล่านี้มาคัดกรองว่าไอเดียไหนที่มีโอกาสเป็นจริงได้ในทางปฏิบัติ โดยเปิดรับสมัครตั้งแต่วันที่ 24 ตุลาคม-24 พฤศจิกายน 2567 สามารถส่งผลงานเข้าประกวดได้จนถึงวันที่ 4 ธันวาคม 2567 โดยคณะกรรมการจะคัดเลือกผลงานที่ผ่านเกณฑ์การคัดเลือก จำนวน 10 ทีม เข้าร่วมกิจกรรมเวิร์คชอป ทัศนศึกษาเกี่ยวกับระบบรางเพื่อให้เห็นภาพจริงและนำไปปรับปรุงแก้ไขผลงานเพื่อให้คณะกรรมการตัดสินครั้งสุด ผู้ชนะจะได้เงินรางวัล 100,000 บาท พร้อมโล่ห์และเกียรติบัตร จำนวน 2 รางวัล และรองชนะเลิศจะได้รับ 50,000 บาท จำนวน 2 รางวัลเช่นกัน และยังมีรางวัลพิเศษอีก 6 รางวัล รางวัลละ 20,000 บาท รวมเงินรางวัลทั้งสิ้น 420,000 บาท นักเรียน นักศึกษาที่สนใจสามารถศึกษารายละเอียดการสมัครเข้าร่วมโครงการและส่งผลงานได้ทางเว็บไซต์ www.คิดใหญ่ไปให้สุดราง.net” ทั้งนี้จะมีการประกาศผลการตัดสินในวันที่ 13 มกราคม 2568

รศ. ดร. สิงห์ อินทรชูโต หัวหน้าศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบเพื่อสิ่งแวดล้อม คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ หนึ่งในคณะกรรมการตัดสินโครงการ “คิดใหญ่ไปให้สุดราง” กล่าวว่า คณะกรรมการตัดสินโครงการดังกล่าว ได้กำหนดเกณฑ์การตัดสินหลักๆ 3 ส่วนในรอบแรก คือ1.ความคิดสร้างสรรค์ ซึ่งจะให้น้ำหนักมากที่สุด 2.ความสามารถในการนำไปปฏิบัติใช้ได้จริง และ3.ความสามารถการสื่อสารถึงแนวคิดสร้างสรรค์ ส่วนตัวมองว่าระบบรางคืออนาคตที่จะดึงให้เศรษฐกิจประเทศเติบโตได้ หลายประเทศทั่วโลกเล็งเห็นเรื่องนี้ ให้ความสำคัญกับระบบรางมานานแล้ว อย่างจีน มีเส้นทาง One Belt One Road คณะกรรมการฯจึงไม่อยากปิดกั้นความคิดสร้างสรรค์ของเยาวชน เพราะการพัฒนาระบบรางไม่ใช่เรื่องที่จะเกิดขึ้นได้ภายใน 1-2 วัน แต่เป็นเรื่องระยะยาว หัวใจสำคัญคือบุคลากรที่มีความสามารถ มีศักยภาพ สามารถสร้างความต่อเนื่องในการสานฝันไปให้สุดราง เยาวชน เด็กรุ่นใหม่ๆคือเป้าหมาย ถือเป็นแรงสำคัญที่จะมาสร้างความต่อเนื่อง การดึงเด็กๆเข้ามามีส่วนร่วม เป็นการเปิดประตูให้เด็กๆเข้ามาสู่กระบวนการคิด การพัฒนาระบบรางของไทย กลายเป็นอุตสาหกรรมใหม่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจ

ถือเป็นภารกิจท้าทาย ที่หวังผลระยะใกล้ๆไม่ได้ จากนี้ไป กาลเวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์ว่า Mission Impossilble จะเกิดขึ้นจริงได้หรือไม่


Thailand Aims to Become a Train Manufacturing Hub in ASEAN

Despite the Thai government's efforts to stimulate the economy, recent reports from the IMF show a downward revision of Thailand's GDP growth forecast. Adding to the economic concerns, the automotive industry is facing significant challenges, with sales plummeting and some companies closing factories in Thailand.

In response to these challenges, the Thailand Railway Research Institute (STRI) is embarking on a mission to transform Thailand from a train importer to a train exporter and establish the country as a railway industry hub in ASEAN. This initiative aims to revitalize the economy and create new jobs, particularly for those affected by the downturn in the automotive sector.

STRI plans to leverage the existing expertise in the automotive industry to manufacture train carriages. The goal is to produce 50 train carriages annually within the next three years, potentially saving 20% of the national budget currently spent on importing trains. While initially relying on imported locomotives, STRI aims to eventually develop its own locomotive technology through partnerships with world-class companies.

This ambitious project aligns with Thailand's 20-year national strategy and is supported by the current government. STRI is also engaging young people through a "Dream Train" competition to encourage innovation and build future capacity in the railway industry.

This long-term project faces challenges, but if successful, it could significantly boost Thailand's economy, create new jobs, and position the country as a key player in the global railway industry.
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 43714
Location: NECTEC

PostPosted: 01/11/2024 8:26 am    Post subject: Reply with quote

ฉลุย ร่าง พ.ร.บ.ขนส่งทางราง ฉบับ ครม. ผ่าอำนาจ กฎหมายคุมราง | THANTALK | 31 ต.ค. 67

ฐานเศรษฐกิจ THANTALK On TV
วันพฤหัสบดี ที่ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2567

สภาผู้แทนราษฎรมีมติ 406 เสียง รับหลักการ "ร่างพ.ร.บ.ขนส่งทางราง" ยึดร่างรัฐบาลเป็นหลักพิจารณา ตั้งกรรมาธิการวิสามัญ 31 คนพิจารณา กำหนดประชุมนัดแรก 1 พ.ย.นี้
https://www.youtube.com/watch?v=sfXSohWr5vI

Wisarut wrote:
Mongwin wrote:
Wisarut wrote:
“ชำแหละร่างพ.ร.บ.ขนส่งทางรางฯ”สหภาพฯรฟท.ต้าน’กรมราง’ยึดกรรมสิทธิ์เปิดประตูแปรรูปกิจการรัฐวิสาหกิจให้เอกชน
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
เผยแพร่: วันจันทร์ ที่ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2567 เวลา 07:21 น.
ปรับปรุง: วันจันทร์ ที่ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2567 เวลา 07:21 น.

สุริยะ ยัน พ.ร.บ.ขนส่งทางราง ยึดร่างครม. ระบุเลขากฤษฎีกา แนะปรับปรุงเพิ่มเติมให้เอกชนร่วมใช้ทางช่วงแปรญัตติ
Source - มติชนออนไลน์
วันอังคาร ที่ 22 ตุลาคม พ.ศ. 2567 เวลา 11:39



สภา มีมติเอกฉันท์ 406 เสียง รับหลักการ พ.ร.บ.ขนส่งทางราง
การเมือง
วันพุธ ที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2567 เวลา- 12:29 น.


สภามีมติรับหลักการร่างกฎหมายขนส่งทางราง 406 ต่อ 0 เสียง https://www.prachachat.net/politics/news-1684045
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 46865
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 10/11/2024 10:43 pm    Post subject: Reply with quote

ทุบสถิติ! รถไฟฟ้าสายสีแดง 8 พ.ย. ยอดผู้โดยสาร new high 46,309 คน-เที่ยว
Source - IQ สำนักข่าวอินโฟเควสท์
Sunday, November 10, 2024 11:38

สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (10 พ.ย. 67)
นายพิเชฐ คุณาธรรมรักษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางราง เปิดเผยว่า เมื่อวันศุกร์ที่ 8 พฤศจิกายน 2567 มีผู้ใช้บริการรถไฟฟ้าสายสีแดงมากที่สุดถึง 46,309 คน-เที่ยว เรียกได้ว่าเป็นการทำลายสถิติผู้ใช้บริการของรถไฟฟ้าสายสีแดง (New High) นับตั้งแต่มีสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (Covid-19)

โดยผู้ใช้บริการรถไฟฟ้าทั้ง Airport Rail Link รถไฟฟ้าสายเฉลิมรัชมงคล และสายฉลองรัชธรรม รวมถึงยอดรวมของผู้ใช้บริการระบบราง ก็มียอดสูงที่สุดในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมาด้วยเช่นกัน คือ 1,846,814 คน-เที่ยว ประกอบด้วย

1. รถไฟระหว่างเมือง จำนวน 85,575 คน-เที่ยว

2. รถไฟฟ้า Airport Rail Link จำนวน 78,487 คน-เที่ยว

3. รถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง จำนวน 46,309 คน-เที่ยว

4. รถไฟฟ้าสายเฉลิมรัชมงคล (สายสีน้ำเงิน) จำนวน 537,940 คน-เที่ยว

5. รถไฟฟ้าสายฉลองรัชธรรม (สายสีม่วง) จำนวน 84,565 คน-เที่ยว

6. รถไฟฟ้าสายสีเขียว (BTS) จำนวน 894,025 คน-เที่ยว

7. รถไฟฟ้าสายสีเหลือง จำนวน 49,495 คน-เที่ยว

8. รถไฟฟ้าสายสีชมพู จำนวน 70,418 คน-เที่ยว


Record-breaking! Red Line Electric Train Hits New High with 46,309 Passengers on November 8

Source: IQ InfoQuest News Agency
Sunday, November 10, 2024, 11:38

IQ InfoQuest News Agency (November 10, 2024)
Pichet Kunathumrak, Director-General of the Department of Rail Transport, announced that on Friday, November 8, 2024, the Red Line electric train set a new passenger record with 46,309 trips. This new high is the highest number of passengers for the Red Line since the onset of the COVID-19 pandemic.

In addition, total ridership across various rail services, including the Airport Rail Link, Chaloem Ratchamongkhon Line (Blue Line), and Chalong Ratchatham Line (Purple Line), reached its highest point for the week, totaling 1,846,814 trips, broken down as follows:

1. Intercity Rail: 85,575 trips
2. Airport Rail Link: 78,487 trips
3. Red Line Commuter Rail: 46,309 trips
4. Chaloem Ratchamongkhon Line (Blue Line): 537,940 trips
5. Chalong Ratchatham Line (Purple Line): 84,565 trips
6. Green Line (BTS): 894,025 trips
7. Yellow Line: 49,495 trips
8. Pink Line: 70,418 trips
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 43714
Location: NECTEC

PostPosted: 11/11/2024 9:42 am    Post subject: Reply with quote

Mongwin wrote:
ทุบสถิติ! รถไฟฟ้าสายสีแดง 8 พ.ย. ยอดผู้โดยสาร new high 46,309 คน-เที่ยว
Source - IQ สำนักข่าวอินโฟเควสท์
วันอาทิตย์ ที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567 เวลา 11:38 น.


ระบบราง นิวไฮยอดใช้เกิน 1.84 ล้านคน "สีแดง"พุ่งทุบสถิติยอดทะลุ 4.63 หมื่นคน
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
เผยแพร่: วันเสาร์ ที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567 เวลา 18:31 น.
ปรับปรุง: วันเสาร์ ที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567 เวลา 18:31 น.

กรมราง เผยศุกร์ 8 พ.ย. 67 ผู้โดยสารระบบราง นิวไฮ 1.84 ล้านคน-เที่ยว สายสีแดงทุบสถิติอีก ยอดทะลุ 4.63 หมื่นคน-เที่ยว

นายพิเชฐ คุณาธรรมรักษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางราง (ขร.) เปิดเผยว่า เมื่อวันศุกร์ที่ 8 พฤศจิกายน 2567 มีผู้ใช้บริการรถไฟฟ้าสายสีแดงมากที่สุดถึง 46,309 คน-เที่ยว เรียกได้ว่าเป็นการทำลายสถิติผู้ใช้บริการของรถไฟฟ้าสายสีแดง (New High) นับตั้งแต่มีสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (Covid-19)

โดยผู้ใช้บริการรถไฟฟ้าทั้ง Airport Rail Link รถไฟฟ้าสายเฉลิมรัชมงคลและสายฉลองรัชธรรม รวมถึงยอดรวมของผู้ใช้บริการระบบรางก็มียอดสูงที่สุดในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมาด้วย เช่นกัน นั่นก็คือ 1,846,814 คน-เที่ยว ซึ่งประกอบด้วย



1. รถไฟระหว่างเมือง จำนวน 85,575 คน-เที่ยว
2. รถไฟฟ้า Airport Rail Link จำนวน 78,487 คน-เที่ยว
3. รถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง จำนวน 46,309 คน-เที่ยว
4. รถไฟฟ้าสายเฉลิมรัชมงคล (สายสีน้ำเงิน) จำนวน 537,940 คน-เที่ยว

5. รถไฟฟ้าสายฉลองรัชธรรม (สายสีม่วง) จำนวน 84,565 คน-เที่ยว
6. รถไฟฟ้าสายสีเขียว (BTS) จำนวน 894,025 คน-เที่ยว
7. รถไฟฟ้าสายสีเหลือง จำนวน 49,495 คน-เที่ยว
8. รถไฟฟ้าสายสีชมพู จำนวน 70,418 คน-เที่ยว

https://mgronline.com/business/detail/9670000108005
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 46865
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 12/11/2024 8:13 pm    Post subject: Reply with quote

“กรมราง” ลุยผลักดันใช้พื้นที่ CY “สถานีสระโกสินารายณ์” รองรับขนส่งสินค้า “บ้านโป่ง” | เดลินิวส์
Source - เว็บไซต์เดลินิวส์
Tuesday, November 12, 2024 17:56

“กรมราง” ลุยผลักดันใช้พื้นที่ “สถานีสระโกสินารายณ์” มีสภาพเป็นลานกองเก็บตู้สินค้า ของ รฟท. ที่ให้เอกชนเข้ามาพัฒนาพื้นที่ รองรับขนส่งสินค้า “บ้านโป่ง”

นายพิเชฐ คุณาธรรมรักษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางราง (ขร.) เปิดเผยว่า ได้ลงพื้นที่สถานีรถไฟสระโกสินารายณ์ จังหวัดราชบุรี ซึ่งเป็นสถานีรถไฟที่ตั้งอยู่บนเส้นทางรถไฟสายน้ำตก (หนองปลาดุก-น้ำตก) ปัจจุบันพื้นที่บริเวณสถานีสระโกสินารายณ์ มีสภาพเป็นลานกองเก็บตู้สินค้า (Container Yard : CY) ของ รฟท. ที่ให้เอกชนเข้ามาพัฒนาพื้นที่ ซึ่งในอดีตเคยมีการขนส่งสินค้ากระดาษม้วนของบริษัท สยามคราฟท์อุตสาหกรรม จำกัด (SCG โรงงานบ้านโป่ง) แต่ในปัจจุบันพบว่ายังไม่มีการใช้ประโยชน์จากพื้นที่ CY ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทางสภาอุตสาหกรรมจังหวัดราชบุรี จึงเสนอให้มีการผลักดันพื้นที่ดังกล่าว เป็น CY สำหรับใช้รองรับการขนส่งสินค้าในพื้นที่อำเภอบ้านโป่ง และอำเภอใกล้เคียง

โดยเฉพาะอย่างยิ่งการขนส่งผลิตภัณฑ์จากโรงงานกระดาษที่มีอยู่จำนวนมากในบริเวณรอบสถานีรถไฟสระโกสินารายณ์ และในพื้นที่อำเภอบ้านโป่ง ซึ่งในปัจจุบันความต้องการขนส่งสินค้าทางรถไฟมีความต้องการเพิ่มมากขึ้น โดยในพื้นที่อำเภอบ้านโป่ง นอกจากเยื่อกระดาษ และเศษกระดาษของบริษัท สยามคราฟฯ แล้ว ในพื้นที่อำเภอบ้านโป่ง และโดยรอบ ยังมีผลิตภัณฑ์ที่ต้องการขนส่งทางรถไฟ คือ ผลิตภัณฑ์อาหารแปรรูป ที่มีความต้องการใช้การขนส่งทางรถไฟอยู่มาก แต่ปัจจุบันไม่สามารถทำได้ เนื่องจากขบวนรถไฟที่ขนส่งสินค้าในแนวเส้นทางนี้ มีไม่เพียงพอต่อความต้องการของเอกชน โดยมีเพียง 2 ขบวน/วัน ในทิศทางไป-กลับ จาก ICD-สระโกสินารายณ์

อีกทั้งความต้องการใช้พื้นที่ในการยกขนตู้คอนเทเนอร์มีอยู่อย่างจำกัด โดยที่สถานีสระโกสินารายณ์ สามารถรองรับรถไฟได้เพียง 15 แคร่ต่อขบวน จึงมีความประสงค์ที่จะพัฒนา ปรับปรุง และขยายพื้นที่ CY สระโกสินารายณ์ ให้สามารถรองรับขบวนรถไฟได้มากกว่า 15 แคร่ เพื่อรองรับความต้องการในการขนส่งสินค้าที่เพิ่มขึ้น โดยผู้แทนทางบริษัท สยามคราฟท์อุตสาหกรรม จำกัด (SCG โรงงานบ้านโป่ง) ให้ข้อมูลว่า สินค้าส่วนใหญ่ของโรงงานจะเป็นสินค้าประเภทเยื่อกระดาษและเศษกระดาษ คาดว่าจะมีปริมาณสินค้าที่จุดนี้ราว 80-100 ตู้/วัน ในเส้นทางรถไฟ ICD-สระโกสินารายณ์-ท่าม่วง ซึ่งจะไม่ได้เป็นการแย่งการขนส่งสินค้าจากสถานีท่าม่วง มาใช้ที่สถานีสระโกสินารายณ์ เนื่องจากทั้งสองแห่ง ความต้องการขนส่งสินค้าที่ไม่เหมือนกัน.


Srakosinarai Station: A Rail Freight Revival

The Thai Railway Department is pushing for the revitalization of Srakosinarai Station in Ratchaburi Province, aiming to transform its underutilized container yard (CY) into a bustling hub for freight transport. This initiative comes in response to growing demand for rail freight services in the Ban Pong district and surrounding areas, particularly from the paper and food processing industries.

Historically, Srakosinarai Station, located on the Namtok railway line, served as a key transport point for rolled paper products from the Siam Kraft Industry Co., Ltd. (SCG Ban Pong Factory). However, in recent years, the station's CY has seen a decline in activity. Recognizing its potential, the Ratchaburi Provincial Industrial Council has proposed redeveloping the area to accommodate the burgeoning freight transport needs of the region.
    "We visited Srakosinarai Station and found that the CY area was not being used effectively," stated Mr. Pichet Kunathammarak, Director-General of the Department of Rail Transport (DRT). "The Ratchaburi Provincial Industrial Council proposed to promote the area as a CY to support the transportation of goods in Ban Pong District and nearby districts."
The demand for rail freight services in the area is significant, with paper factories and food processing plants seeking efficient and cost-effective ways to transport their products. Siam Kraft Industry Co., Ltd., for instance, anticipates transporting 80-100 containers of pulp and scrap paper daily via the ICD-Srakosinarai-Tha Muang railway route.

However, current infrastructure limitations pose a challenge. Srakosinarai Station can only accommodate 15 trains at a time, and the limited number of freight trains servicing the route – just two per day shuttling between ICD and Srakosinarai – falls short of meeting the private sector's needs.

To address these challenges, the DRT plans to expand and upgrade the Srakosinarai CY, increasing its capacity to handle more trains and facilitate smoother cargo operations. This initiative promises to not only boost local industries but also contribute to a more efficient and sustainable transportation network in the region.
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 46865
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 13/11/2024 9:14 pm    Post subject: Reply with quote

กรมรางดันสถานีรถไฟ”วังเย็น,ท่าม่วง”ศูนย์ขนถ่ายตู้สินค้า เพิ่มศักยภาพ CY รองรับ”เมียนมา-มาเลเซีย”
ผู้จัดการออนไลน์ 13 พ.ย. 2567 19:23

กรมราง ลงพื้นที่”กาญจนบุรี”ตรวจสถานีรถไฟวังเย็น เตรียมพัฒนาเป็นสถานีขนถ่ายตู้สินค้ารองรับปริมาณสินค้า“เมียนมา-มาเลเซีย”เชื่อมการขนส่งผ่านไทย และหาทางเพิ่มศักยภาพ CY สถานีรถไฟท่าม่วงหลังเอกชนต้องการตู้สินค้าเพิ่ม

วันที่ 13 พ.ย. 2567 นางสาวจีรวรรณ หงสกุล ผู้อำนวยการกองกำกับกิจการขนส่งทางราง กรมการขนส่งทางราง (ขร.) และนายเรืองเดช มังกรเดชสกุล ผู้อำนวยการกองยุทธศาสตร์และแผนงาน พร้อมเจ้าหน้าที่ ขร. ลงพื้นที่สถานีรถไฟวังเย็น จ.กาญจนบุรี เพื่อพิจารณาจุดที่เหมาะสมในการพัฒนาเป็นสถานีขนถ่ายสินค้าระบบทางราง เพื่อรองรับการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศในระบบตู้สินค้า และเชื่อมโยงระบบขนส่งอื่นๆ ซึ่งโครงการสถานีขนถ่ายสินค้าทางรางระหว่างประเทศสถานีรถไฟวังเย็น จะเป็นจุดเชื่อมต่อโครงข่ายทางรถไฟที่กำลังก่อสร้างทั่วประเทศ โดยจะเป็นจุดรวมสินค้าในเขตพื้นที่ภาคกลาง จังหวัดกาญจนบุรี ราชบุรี นครปฐม กรุงเทพมหานคร เป็นต้น

โดยสินค้าที่จะเข้าสู่พื้นที่มีทั้งจากประเทศเมียนมาที่จะผ่านเข้ามาทางด่านพุน้ำร้อนเพื่อขนส่งผ่านไทยไปสู่ประเทศมาเลเซีย คาดว่าจะมีปริมาณตู้สินค้าเมียนมา-มาเลเซีย ราว 200 TEU/สัปดาห์ รวมทั้งจะเป็นจุดการนำเข้า-ส่งออกสินค้าในเขตพื้นที่ภาคกลางไปยังประเทศลาวและจีน ผ่านเส้นทางรถไฟทางคู่ด่านหนองคาย นอกจากนี้ยังคาดหวังว่าจุดนี้จะเป็นจุดเชื่อมโยง การนำเข้า-ส่งออกสินค้ารองรับปริมาณสินค้าที่มาจากท่าเรือคลองเตยด้วยระบบรางเพื่อลดความแออัดของปริมาณจราจรที่จะเข้าสู่พื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑลได้อีกด้วย

หลังจากนั้น ได้ลงพื้นที่สถานีรถไฟท่าม่วง จ.กาญจนบุรี เพื่อดูพื้นที่ลานกองเก็บตู้สินค้า (Container Yard : CY) และรับฟังข้อคิดเห็นจากผู้เกี่ยวข้อง โดยปัจจุบันพื้นที่ดังกล่าวเป็นของ การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) โดยมีการให้บริษัทเอกชนขนส่งตู้สินค้าคอนเทนเนอร์ โดยจากการรับฟังความคิดเห็น พบว่า ปัจจุบันความต้องการขนส่งสินค้าทางรถไฟมีความต้องการเพิ่มมากขึ้น แต่พื้นที่สถานีรถไฟท่าม่วง ไม่สามารถรองรับการขนส่งตู้สินค้าได้ในจำนวนมาก และขบวนรถไฟไม่เพียงพอกับจำนวนตู้สินค้าที่ภาคเอกชนต้องการ

ในปัจจุบันสามารถขนส่งได้เพียง 15 แคร่/ขบวน และมีขบวนรถไฟขนส่งสินค้า 2 ขบวน/วัน (ไป-กลับ) ซึ่ง ขร.จะนับความคิดเห็นดังกล่าวและความคิดเห็นอื่นๆ ไปพิจารณาเพื่อดำเนินการพัฒนาพื้นที่นี้ให้มีประโยชน์สูงสุดต่อไป


Thailand's Railways Gear Up for Regional Trade Boom

Kanchanaburi's stations poised to become key hubs in the Myanmar-Malaysia trade route

Thailand is strengthening its position as a vital link in Southeast Asia's trade network with a major railway infrastructure push. The Department of Railways (DRT) is developing Wang Yen and Tha Muang stations in Kanchanaburi province into key container handling centers, aiming to boost capacity and facilitate smoother cargo flows between Myanmar and Malaysia.

On November 13th, DRT Director of Rail Transport Operations, Ms. Jirawan Hongsakul, and Director of Strategy and Planning, Mr. Ruangdet Mangkorndechakul, visited Wang Yen station to assess its potential as a freight hub. The plan is to transform Wang Yen into a central collection point for goods originating from Myanmar, destined for Malaysia via the Phu Nam Ron checkpoint. This initiative is projected to handle an estimated 200 TEUs of Myanmar-Malaysia containers weekly.

"Wang Yen station will be a crucial link in our national railway network," Ms. Hongsakul explained. "It will not only streamline trade with Myanmar and Malaysia but also serve as a gateway for goods moving between central Thailand and Laos and China through the Nong Khai checkpoint."

The DRT also has plans to leverage the upgraded rail network to alleviate pressure on road transport. By offering an efficient alternative for goods transportation from Khlong Toei Port, the initiative aims to reduce congestion in and around Bangkok.

The delegation then proceeded to Tha Muang Railway Station to inspect the existing container yard (CY) and gather feedback from stakeholders. While the site, currently operated by the State Railway of Thailand (SRT) in partnership with private transport companies, shows promise, it faces challenges in accommodating the surging demand.

"We've heard clear concerns about capacity," Mr. Mangkorndechakul stated. "The current infrastructure at Tha Muang, with its limited train frequency and carriage capacity, needs significant upgrades to meet the private sector's growing needs."

The SRT is actively reviewing these challenges and exploring solutions to maximize the potential of both Wang Yen and Tha Muang stations, ensuring Thailand's rail network is ready to support the region's burgeoning trade.
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 46865
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 16/11/2024 3:06 pm    Post subject: Reply with quote

วันลอยกระทง! ผู้โดยสารนั่งรถไฟ-รถไฟฟ้า 1.97 ล้านคน “สายสีน้ำเงิน” นิวไฮ 5.58 แสนคน
เดลินิวส์ 16 พ.ย. 2567 14:21 น.

รถไฟฟ้า “สายสีน้ำเงิน” ผู้โดยสารนิวไฮวันลอยกระทง 5.58 แสนคน สูงสุดนับตั้งแต่เปิดให้บริการ ขณะที่ภาพรวมผู้ใช้บริการระบบราง 1.97 ล้านคน เพิ่มขึ้น 4.15% “สุริยะ” ยังยืนยันนั่งรถไฟฟ้า 20 บาท ทุกสีทุกสายภายใน ก.ย. 68

นายพิเชฐ คุณาธรรมรักษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางราง (ขร.) เปิดเผยว่า เมื่อวันศุกร์ที่ 15 พ.ย. 67 มีผู้ใช้บริการรถไฟฟ้าสายเฉลิมรัชมงคล (สีน้ำเงิน) จำนวน 558,165 คน-เที่ยว สูงสุดตั้งแต่เปิดให้บริการมา (นิวไฮ) โดยก่อนหน้านี้มีผู้ใช้บริการรถไฟฟ้าสายเฉลิมรัชมงคล (สีน้ำเงิน) สูงสุดครั้งสุดท้ายเมื่อวันที่ 6 ก.ย. 67 ซึ่งมียอดผู้ใช้บริการจำนวน 555,976 คน-เที่ยว ทั้งนี้สำหรับภาพรวมการใช้บริการระบบราง เมื่อวันที่ 15 พ.ย. 67 ซึ่งตรงกับวันลอยกระทง มีผู้ใช้บริการรวมทั้งสิ้น 1,979,601 คน-เที่ยว โดยเพิ่มขึ้นจากวันลอยกระทง ปี 66 (27 พ.ย. 66) จำนวน 78,937 คน-เที่ยว หรือเพิ่มขึ้น 4.15% ของผู้ใช้บริการระบบรางภาพรวม ประกอบด้วย 1.รถไฟระหว่างเมืองของ รฟท. ให้บริการเดินรถไฟ 209 ขบวน มีผู้ใช้บริการรวม 81,946 คน-เที่ยว แบ่งเป็น ขบวนรถเชิงพาณิชย์ 30,757 คน-เที่ยวและขบวนรถเชิงสังคม 51,189 คน-เที่ยว 

นายพิเชฐ กล่าวต่อว่า และ 2.รถไฟฟ้าในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล 1,897,655 คน-เที่ยว ประกอบด้วยรถไฟฟ้า Airport Rail Link ให้บริการ 215 เที่ยววิ่ง (รวมเสริม 10 เที่ยววิ่ง) 81,748 คน-เที่ยว, รถไฟฟ้าสายสีแดง ให้บริการ 294 เที่ยววิ่ง 45,067 คน-เที่ยว, รถไฟฟ้าสายฉลองรัชธรรม (สายสีม่วง) ให้บริการ 321 เที่ยววิ่ง (รวมเสริม 3 เที่ยววิ่ง) 86,279 คน-เที่ยว, รถไฟฟ้าสายเฉลิมรัชมงคล (สายสีน้ำเงิน) ให้บริการ 494 เที่ยววิ่ง (รวมเสริม 28 เที่ยววิ่ง) 558,165 คน-เที่ยว ซึ่งมีผู้ใช้บริการสูงสุดตั้งแต่เปิดให้บริการ

รถไฟฟ้า BTS สายสีเขียว (สายสุขุมวิทและสายสีลม) ให้บริการ 1,240 เที่ยววิ่ง 971,068 คน-เที่ยว, รถไฟฟ้า BTS สายสีทอง ให้บริการ 219 เที่ยววิ่ง 22,153 คน-เที่ยว, รถไฟฟ้ามหานคร สายสีเหลืองให้บริการ 276 เที่ยววิ่ง 54,050 คน-เที่ยว และรถไฟฟ้ามหานคร สายสีชมพูให้บริการ 276 เที่ยววิ่ง 79,125 คน-เที่ยว

นายพิเชฐ กล่าวด้วยว่า นายสุริยะ  จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คมนาคม ยืนยันว่า นโยบายค่ารถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย จะสามารถใช้ได้ในทุกเส้นทาง ทุกสี ภายในเดือน ก.ย. 68 อย่างแน่นอน เพื่อลดภาระค่าครองชีพในการเดินทางให้กับประชาชนต่อไป โดยขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการจัดทำร่างพระราชบัญญัติการบริหารจัดการระบบตั๋วร่วม


Loy Krathong Festival Sees Record Number of Passengers on Bangkok's Blue Line

Daily News, November 16, 2024, 2:21 PM

Bangkok's MRT Blue Line saw a record-breaking 558,165 passenger trips on Loy Krathong, the highest number since its opening. This surpasses the previous record of 555,976 trips on September 6, 2024. Overall, public transportation ridership across Bangkok reached 1,979,601 trips on November 15th, a 4.15% increase compared to Loy Krathong in 2023.

Mr. Pichet Kunadhammarak, Director-General of the Department of Rail Transport (DRT), reported the following breakdown of ridership:

* State Railway of Thailand (SRT) intercity trains: 209 trains with 81,946 passenger trips.
* Bangkok and metropolitan area electric trains: 1,897,655 passenger trips. This includes:
* Airport Rail Link: 215 train runs (including 10 extra runs) with 81,748 passenger trips.
* Red Line: 294 train runs with 45,067 passenger trips.
* Purple Line: 321 train runs (including 3 extra runs) with 86,279 passenger trips.
* Blue Line: 494 train runs (including 28 extra runs) with 558,165 passenger trips.
* BTS Green Line (Sukhumvit and Silom Lines): 1,240 train runs with 971,068 passenger trips.
* BTS Gold Line: 219 train runs with 22,153 passenger trips.
* MRT Yellow Line: 276 train runs with 54,050 passenger trips.
* MRT Pink Line: 276 train runs with 79,125 passenger trips.

Mr. Pichet also confirmed that Deputy Prime Minister and Minister of Transport, Mr. Suriya Jungrungreangkit, remains committed to the 20 baht flat fare policy for all train lines. This initiative aims to reduce the cost of living for commuters and is expected to be implemented by September 2025. Currently, the drafting of the Integrated Ticket Management Act is underway.
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 43714
Location: NECTEC

PostPosted: 18/11/2024 12:22 pm    Post subject: Reply with quote

Mongwin wrote:
วันลอยกระทง! ผู้โดยสารนั่งรถไฟ-รถไฟฟ้า 1.97 ล้านคน “สายสีน้ำเงิน” นิวไฮ 5.58 แสนคน
เดลินิวส์ วันเสาร์ ที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567 เวลา 14:21 น.


ระบบรางนิวไฮ! ลอยกระทง ดันผู้โดยสารพุ่งเกือบ 1.98 ล้านคน MRT สีน้ำเงิน
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
เผยแพร่: วันเสาร์ ที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567 เวลา 15:46 น.
ปรับปรุง: วันเสาร์ ที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567 เวลา 15:46 น.



กรมรางเผยวันลอยกระทง 67 ยอดใช้ระบบรางทำนิวไฮ เกือบ 1.98 ล้านคน-เที่ยว เพิ่มจากปีก่อน 78,937 คน โดยรถไฟฟ้าสายเฉลิมรัชมงคล (MRT สีน้ำเงิน) มีผู้ใช้บริการ 5.58 แสนคนทำสถิติมากที่สุดตั้งแต่เปิดให้บริการ

นายพิเชฐ คุณาธรรมรักษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางราง (ขร.) เปิดเผยว่า เมื่อวันศุกร์ที่ 15 พ.ย. 67 มีผู้ใช้บริการรถไฟฟ้าสายเฉลิมรัชมงคล (สีน้ำเงิน) จำนวน 558,165 คน-เที่ยว สูงสุดตั้งแต่เปิดให้บริการมา (นิวไฮ) โดยก่อนหน้านี้มีผู้ใช้บริการรถไฟฟ้าสายเฉลิมรัชมงคล (สีน้ำเงิน) สูงสุดครั้งสุดท้ายเมื่อวันที่ 6 ก.ย. 67 ซึ่งมียอดผู้ใช้บริการจำนวน 555,976 คน-เที่ยว

ทั้งนี้ ในวันที่ 15 พ.ย. 67 ตรงกับวันลอยกระทง มีผู้ใช้บริการระบบราง รวมทั้งสิ้น 1,979,601 คน-เที่ยว โดยเพิ่มขึ้นจากวันลอยกระทง ปี 2566 (27 พ.ย. 66) จำนวน 78,937 คน-เที่ยว หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 4.15 ของผู้ใช้บริการระบบรางภาพรวม ซึ่งประกอบด้วย

ad



1. รถไฟระหว่างเมืองของ รฟท. ให้บริการเดินรถไฟ 209 ขบวน มีผู้ใช้บริการรวม 81,946 คน-เที่ยว แบ่งเป็นขบวนรถเชิงพาณิชย์ 30,757 คน-เที่ยว และขบวนรถเชิงสังคม 51,189 คน-เที่ยว

2. รถไฟฟ้าในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล 1,897,655 คน-เที่ยว ประกอบด้วย
- รถไฟฟ้า Airport Rail Link ให้บริการ 215 เที่ยววิ่ง (รวมเสริม 10 เที่ยววิ่ง) จำนวน 81,748 คน-เที่ยว
- รถไฟฟ้าสายสีแดง ให้บริการ 294 เที่ยววิ่ง จำนวน 45,067 คน-เที่ยว
- รถไฟฟ้าสายฉลองรัชธรรม (สายสีม่วง) ให้บริการ 321 เที่ยววิ่ง (รวมเสริม 3 เที่ยววิ่ง) จำนวน 86,279 คน-เที่ยว
- รถไฟฟ้าสายเฉลิมรัชมงคล (สายสีน้ำเงิน) ให้บริการ 494 เที่ยววิ่ง (รวมเสริม 28 เที่ยววิ่ง) จำนวน 558,165 คน-เที่ยว ซึ่งมีผู้ใช้บริการสูงสุดตั้งแต่เปิดให้บริการ
- รถไฟฟ้า BTS สายสีเขียว (สายสุขุมวิทและสายสีลม) ให้บริการ 1,240 เที่ยววิ่ง จำนวน 971,068 คน-เที่ยว
- รถไฟฟ้า BTS สายสีทอง ให้บริการ 219 เที่ยววิ่ง จำนวน 22,153 คน-เที่ยว
- รถไฟฟ้ามหานคร สายสีเหลืองให้บริการ 276 เที่ยววิ่ง จำนวน 54,050 คน-เที่ยว
- รถไฟฟ้ามหานคร สายสีชมพูให้บริการ 276 เที่ยววิ่ง จำนวน 79,125 คน-เที่ยว



ทั้งนี้ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ยืนยันว่า นโยบายค่ารถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสายอยู่ระหว่างการจัดทำร่างพระราชบัญญัติการบริหารจัดการระบบตั๋วร่วม พ.ศ. .... สอดคล้องกับแผนที่กำหนดไว้ว่า ค่ารถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย จะสามารถใช้ได้ในทุกเส้นทาง ทุกสี ภายในเดือนกันยายน 2568 อย่างแน่นอน เพื่อลดภาระค่าครองชีพในการเดินทางให้กับประชาชนต่อไป
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 43714
Location: NECTEC

PostPosted: 18/11/2024 10:55 pm    Post subject: Reply with quote

Mongwin wrote:
กรมรางดันสถานีรถไฟ”วังเย็น,ท่าม่วง”ศูนย์ขนถ่ายตู้สินค้า เพิ่มศักยภาพ CY รองรับ”เมียนมา-มาเลเซีย”
ผู้จัดการออนไลน์ วันพุธ ที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567 เวลา 19:23



“กรมราง” ดันสถานีรถไฟวังเย็น-ท่าม่วง รับสถานีขนถ่ายสินค้า เชื่อม 2 ประเทศ
ฐานเศรษฐกิจ
เผยแพร่: วันพุธ ที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567 เวลา 17:04 น.
อัปเดตล่าสุด : วันพุธ ที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567 เวลา 17:09 น.
“กรมขนส่งทางราง” ลงพื้นที่กาญจนบุรี ปลุกสถานีรถไฟวังเย็น-ท่าม่วง ขึ้นแท่นสถานีขนถ่ายสินค้าระบบทางราง รับขนส่งเชื่อมเมียนมา-มาเลเซีย
รายงานข่าวจากกรมการขนส่งทางราง (ขร.) กล่าวว่า นางสาวจีรวรรณ หงสกุล ผู้อำนวยการกองกำกับกิจการขนส่งทางราง และนายเรืองเดช มังกรเดชสกุล ผู้อำนวยการกองยุทธศาสตร์และแผนงาน พร้อมเจ้าหน้าที่ ลงพื้นที่สถานีรถไฟวังเย็น จ.กาญจนบุรี

สำหรับการลงพื้นที่ครั้งนี้เพื่อพิจารณาพื้นที่ที่จะเตรียมการพัฒนาเป็นสถานีขนถ่ายสินค้าระบบทางราง ในการรองรับการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศในระบบตู้สินค้า และเชื่อมโยงระบบขนส่งอื่นๆ ซึ่งโครงการสถานีขนถ่ายสินค้าทางรางระหว่างประเทศ

“กรมราง” ดันสถานีรถไฟวังเย็น-ท่าม่วง รับสถานีขนถ่ายสินค้า เชื่อม 2 ประเทศ

ทั้งนี้สถานีรถไฟวังเย็น จะเป็นจุดเชื่อมต่อโครงข่ายทางรถไฟที่กำลังก่อสร้างทั่วประเทศ โดยจะเป็นจุดรวมสินค้าในเขตพื้นที่ภาคกลาง จังหวัดกาญจนบุรี ราชบุรี นครปฐม กรุงเทพมหานคร เป็นต้น


ขณะเดียวกันสินค้าที่เข้าสู่พื้นที่มีทั้งจากประเทศเมียนมาที่จะผ่านเข้ามาทางด่านพุน้ำร้อนเพื่อขนส่งผ่านไทยไปสู่ประเทศมาเลเซีย

ทั้งนี้คาดว่าจะมีปริมาณตู้สินค้าเมียนมา-มาเลเซีย ราว 200 TEU ต่อสัปดาห์ รวมทั้งจะเป็นจุดการนำเข้า-ส่งออกสินค้าในเขตพื้นที่ภาคกลางไปยังประเทศลาวและจีน ผ่านเส้นทางรถไฟทางคู่ด่านหนองคาย


นอกจากนี้ยังคาดหวังว่าจุดนี้จะเป็นจุดเชื่อมโยงการนำเข้า-ส่งออกสินค้ารองรับปริมาณสินค้าที่มาจากท่าเรือคลองเตยด้วยระบบรางเพื่อลดความแออัดของปริมาณจราจรที่จะเข้าสู่พื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑลได้อีกด้วย

รายงานข่าวจากกรมขนส่งทางราง กล่าวต่อว่า หลังจากนั้นทางคณะฯ นั้นได้ลงพื้นที่สถานีรถไฟท่าม่วง จ.กาญจนบุรี เพื่อดูพื้นที่ลานกองเก็บตู้สินค้า (Container Yard : CY) และรับฟังข้อคิดเห็นจากผู้เกี่ยวข้อง



ทั้งนี้ในปัจจุบันพื้นที่ดังกล่าวเป็นของการรถไฟแห่งประเทศไทย โดยมีการให้บริษัทเอกชน ขนส่งตู้สินค้าคอนเทนเนอร์ โดยจากการรับฟังความคิดเห็น พบว่า ปัจจุบันความต้องการขนส่งสินค้าทางรถไฟมีความต้องการเพิ่มมากขึ้น


สำหรับพื้นที่สถานีรถไฟท่าม่วง ไม่สามารถรองรับการขนส่งตู้สินค้าได้ในจำนวนมากและขบวนรถไฟไม่เพียงพอกับจำนวนตู้สินค้าที่ภาคเอกชนต้องการ

อย่างไรก็ตามในปัจจุบันสามารถขนส่งได้เพียง 15 แคร่/ขบวน และมีขบวนรถไฟขนส่งสินค้า 2 ขบวน/วัน (ไป-กลับ) ซึ่ง ขร. จะนับความคิดเห็นดังกล่าว และความคิดเห็นอื่นๆ ไปพิจารณาเพื่อดำเนินการพัฒนาพื้นที่นี้ให้มีประโยชน์สูงสุดต่อไป
Back to top
View user's profile Send private message
Display posts from previous:   
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับรถไฟไทย All times are GMT + 7 Hours
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 69, 70, 71
Page 71 of 71

 

Share |

Jump to:  
You cannot post new topics in this forum
You cannot reply to topics in this forum
You cannot edit your posts in this forum
You cannot delete your posts in this forum
You cannot vote in polls in this forum

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group


Forums ©