ข่าวรถไฟความเร็วสูง (ไฮสปีดเทรน)

[Mongwin]

“ยูเนสโก” ลงพื้นที่ “อยุธยา” 18-22 ม.ค.ปีหน้า ประเมิน “HIA” สถานีรถไฟไฮสปีด
เดลินิวส์ 3 ธ.ค. 2567 8:28 น.

18-22 ม.ค.ปีหน้า ผู้เชี่ยวชาญจากยูเนสโก ลงพื้นที่แหล่งมรดกโลก “พระนครศรีอยุธยา” ประเมินรายงาน HIA สร้างสถานีรถไฟไฮสปีด “อยุธยา” ชี้แค่มาให้คำแนะนำ เตรียมลงนามสัญญา “บุญชัยพาณิชย์” เดินเครื่องงานสัญญา 4-5 ช่วงบ้านโพ-พระแก้ว ลุยต่อกลางปีหน้าประมูลรถไฟไฮสปีด เฟส 2 งานเดินรถ PPP ประมูลต้นปี 69 เปิดบริการปี 71

รายงานข่าวแจ้งว่า การรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.) ได้รับแจ้งจากองค์กรที่ปรึกษาขององค์การเพื่อการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ(ยูเนสโก) กรณีการประเมินผลกระทบต่อแหล่งมรดกโลกนครประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยาของโครงการรถไฟความเร็วสูง ไทย-จีน สถานีอยุธยา ในเบื้องต้นว่า จะเดินทางมายังประเทศไทย และลงพื้นที่แหล่งมรดกโลกนครประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา ระหว่างวันที่ 18-22 ม.ค.68 เพื่อพิจารณารายงานการประเมินผลกระทบด้านทรัพย์สินทางวัฒนธรรม(HIA) ของแหล่งมรดกโลกนครประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา เชื่อมโยงกับสถานีรถไฟความเร็วสูงอยุธยา

รายงานข่าวแจ้งต่อว่า ผู้เชี่ยวชาญฯ ดังกล่าว จะทำหน้าที่ให้คำแนะนำ และมุมมองทางเทคนิคเกี่ยวกับวิธีการรักษาคุณค่าของแหล่งมรดกโลกนครประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา ซึ่งอยู่ใกล้เคียงกับการก่อสร้างโครงการรถไฟความเร็วสูงฯ ไม่ได้มีอำนาจตัดสินใจว่าจะให้สร้างหรือไม่ให้สร้างสถานีอยุธยา อย่างไรก็ตามเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องน่ากังวล เพราะก่อนหน้านี้ยูเนสโกเป็นผู้แจ้งมาว่าไม่ได้ห้ามให้ก่อสร้างสถานีอยุธยา เพียงแต่ให้จัดทำรายงาน HIA เท่านั้น ดังนั้นในระหว่างนี้ รฟท. ก็สามารถดำเนินโครงการต่อได้

รายงานข่าวแจ้งอีกว่า ปัจจุบันสัญญาที่ 4-5 ช่วงบ้านโพ-พระแก้ว ระยะทาง 13.3 กิโลเมตร(กม.) ของโครงการรถไฟความเร็วสูง ระยะ(เฟส)ที่ 1 ช่วงกรุงเทพฯ-นครราชสีมา ยังไม่ได้มีการลงนามสัญญากับบริษัท บุญชัยพาณิชย์(1979) จำกัด ซึ่งเป็นผู้รับจ้าง คาดว่าจะสามารถลงนามได้ในเร็วๆ นี้ โดยต้องมีการรายงานเรื่องดังกล่าวไปยังนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คมนาคมด้วย เนื่องจากนายสุริยะมีการปรับแผนงานมากำกับดูแล รฟท. ด้วยตนเอง หลังจากก่อนหน้านี้นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รมช.คมนาคม เป็นผู้กำกับดูแล

รายงานข่าวแจ้งด้วยว่า สำหรับความคืบหน้าการเดินรถไฟความเร็วสูงตลอดเส้นทาง ช่วงกรุงเทพฯ-หนองคาย รวมระยะทางกว่า 700 กิโลเมตร(กม.) เบื้องต้นจะให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ(PPP) ในรูปแบบ PPP Gross Cost เหมือนรถไฟฟ้าสายสีม่วง วงเงินประมาณ 8 หมื่นล้านบาท ซึ่งรัฐจ้างเอกชนเดินรถ การดำเนินการดังกล่าวจะทำให้รัฐสามารถควบคุมอัตราค่าโดยสารได้ พิสูจน์ได้จากนโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย ทั้งนี้ปัจจุบันยังอยู่ระหว่างการรับฟังความคิดเห็นหน่วยงานที่เกี่ยวข้องถึงการดำเนินการในรูปแบบ PPP ซึ่งสำนักงบประมาณ ส่งหนังสือตอบกลับมายังกระทรวงคมนาคมแล้วว่าไม่ขัดข้อง ยังรอหนังสือตอบกลับจากสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สศช.) หรือสภาพัฒน์  และกระทรวงการคลัง

รายงานข่าวแจ้งอีกว่า หากได้รับความคิดเห็นจากทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องครบแล้ว ทางกระทรวงคมนาคมจะเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) พิจารณาต่อไป ซึ่งจะเป็นการเสนอในคราวเดียวกันกับการดำเนินโครงการรถไฟไฮสปีดเฟสที่ 2 ช่วงนครราชสีมา-หนองคาย  ระยะทาง 357.12 กม. วงเงิน 3.41 แสนล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะเสนอ ครม. ได้ในเร็วๆ นี้ และสามารถเปิดประมูลหาผู้รับจ้างได้กลางปี 68 คาดว่าจะแล้วเสร็จ และเปิดให้บริการได้ประมาณปี 71 ส่วนการเดินรถ คาดว่าจะเปิดประมูลได้ประมาณต้นปี 69


UNESCO to visit Ayutthaya on January 18-22 next year to assess the HIA of the high-speed railway station

Daily News, December 3, 2024, 8:28 a.m.

On January 18-22 of next year, experts from UNESCO will visit the "Phra Nakhon Si Ayutthaya" World Heritage Site to assess the Heritage Impact Assessment (HIA) report for the construction of the Ayutthaya high-speed railway station. They will only provide advice. The signing of a contract with "Boonchai Phanit" is being prepared to start work on contracts 4-5, Ban Pho-Phra Kaeo section. The bidding for the high-speed train Phase 2, PPP train operation, will continue in the middle of next year. The bidding will be in early 2027, and the service will open in 2029.

The State Railway of Thailand (SRT) has been informed by a consulting organization of the United Nations Educational, Scientific and Cultural Organization (UNESCO) regarding the assessment of the impact on the Phra Nakhon Si Ayutthaya World Heritage Site of the Thai-Chinese high-speed railway project, Ayutthaya Station. Initially, they will travel to Thailand and visit the Phra Nakhon Si Ayutthaya World Heritage Site between January 18-22, 2025, to consider the Heritage Impact Assessment (HIA) report of the Phra Nakhon Si Ayutthaya World Heritage Site linked to the Ayutthaya high-speed railway station.

The report further stated that the aforementioned experts will provide advice and technical perspectives on how to preserve the value of the Phra Nakhon Si Ayutthaya World Heritage Site, which is located near the construction of the high-speed railway project. They do not have the authority to decide whether to build or not build Ayutthaya Station. However, this is not a matter of concern because previously UNESCO informed that they did not prohibit the construction of Ayutthaya Station, only that an HIA report should be prepared. Therefore, in the meantime, SRT can continue the project.

The report also stated that currently, contracts 4-5, Ban Pho-Phra Kaeo section, with a distance of 13.3 kilometers, of the high-speed railway project, Phase 1, Bangkok-Nakhon Ratchasima section, have not yet been signed with Boonchai Phanit (1979) Co., Ltd., which is the contractor. It is expected that the contract can be signed soon. This matter must be reported to Mr. Suriya Jungrungreangkit, Deputy Prime Minister and Minister of Transport, because Mr. Suriya has adjusted the work plan to supervise SRT himself. Previously, Mr. Surapong Piyachoti, Deputy Minister of Transport, was the supervisor.

The report also stated that for the progress of the high-speed train operation along the route, Bangkok-Nong Khai section, with a total distance of over 700 kilometers, initially, it will allow the private sector to participate in the government's business (PPP) in the PPP Gross Cost format, similar to the Purple Line train, with a budget of approximately 80 billion baht, in which the government hires the private sector to operate the train. This action will enable the government to control fares, as evidenced by the 20 baht train policy throughout the line. Currently, it is still in the process of listening to opinions from relevant agencies regarding the implementation in the PPP format, which the Budget Bureau has sent a letter back to the Ministry of Transport saying that there is no objection. They are still waiting for a reply from the Office of the National Economic and Social Development Council (NESDC) or NESDB, and the Ministry of Finance.

The report also stated that once opinions from all relevant agencies have been received, the Ministry of Transport will propose it to the Cabinet meeting for consideration. This will be proposed at the same time as the implementation of the high-speed train project Phase 2, Nakhon Ratchasima-Nong Khai section, with a distance of 357.12 km, with a budget of 341 billion baht, which is expected to be proposed to the Cabinet soon and can be opened for bidding to find a contractor in mid-2025. It is expected to be completed and open for service around 2029. As for the train operation, it is expected that the bidding will be opened around early 2027.

[Mongwin]

พร้อมไหม ? รถไฟความเร็วสูง กำลังมาอยุธยา... : Active journey (30 พ.ย. 2567)
The Active
Nov 30, 2024


https://www.youtube.com/watch?v=w2ml6PSRmIU

คนอยุธยา กำลังจะมีรถไฟความเร็วสูงใช้… แต่ทุกคนไหม ? ที่ต้องการ สิ่งนี้ยังเป็นคำถามใหญ่ ๆ นำมาสู่ข้อถกเถียงมากมายต่อโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ ที่เกิดขึ้น
.
ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม การก่อสร้างที่อาจคุกคามพื้นที่มรดกทางวัฒนธรรม เป็นโจทย์ใหญ่ที่ยังต้องหาคำตอบ ในขณะที่ความหวังของโครงการฯ ที่ว่ากันว่าจะกระตุ้นเศรษฐกิจให้คนในพื้นที่ จะทำได้จริงแค่ไหน ?
.
Active Journey ชวนนั่งรถไฟไป จ.พระนครศรีอยุธยา สำรวจเส้นทางผ่านของรถไฟความเร็วสูง พร้อมฟังเสียงคนที่นั่นกันว่า พวกเขามองอนาคตการพัฒนาของพื้นที่ประวัติศาสตร์แห่งนี้กันอย่างไร ?

[Wisarut]

[Mongwin]

'ไฮสปีด'เชื่อม3สนามบินไม่คืบ UTA ไม่รอเตรียมแผน2ขอแก้ไขสัญญา
Source - ประชาชาติธุรกิจ
Wednesday, December 04, 2024 05:51

"พุฒิพงศ์ ปราสาททองโอสถ" นายใหญ่บางกอกแอร์เวย์ส เร่ง EEC สรุปความชัดเจนรถไฟไฮสปีดเชื่อม 3 สนามบิน เกิดหรือไม่เกิดกันแน่ เผย UTA ใส่เงินลงทุนล่วงหน้าไปแล้ว กว่า 4 พันล้านบาท กลางปีหน้าจะครบเงื่อนไขสัญญา 5 ปีเฟสแรก แต่โครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภา-เมืองการบินตะวันออกยังเดินหน้าไม่ได้ จี้ขอข้อสรุปภายในไตรมาส 1/68 เดินหน้าแผน 2 ขอแก้ไขสัญญา พร้อมปรับรูปแบบการลงทุนใหม่

นายพุฒิพงศ์ ปราสาททองโอสถ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ผู้บริหารสายการบินบางกอกแอร์เวย์ส (BA) ในฐานะผู้ร่วมทุนในบริษัท อู่ตะเภา อินเตอร์เนชั่นแนล เอวิเอชั่น จำกัด (UTA) เปิดเผยว่า บริษัทเดินหน้าโครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินตะวันออกที่ลงทุนการผ่านบริษัทร่วมทุน UTA ไปแล้ว รวมมูลค่ากว่า 4,000 ล้านบาท ทั้งจัดทำแผนพัฒนา ออกแบบโครงการ จ้างที่ปรึกษา ประสานงานด้านผลกระทบ รวมถึงทำงานร่วมกับกองทัพเรือ ฯลฯ

เร่ง EEC สรุปรถไฟ 3 สนามบิน

นายพุฒิพงศ์กล่าวว่า เนื่องจากโครงการดังกล่าวผูกติดไว้กับโครงการรถไฟไฮสปีดเชื่อม 3 สนามบิน (สุวรรณภูมิดอนเมือง-อู่ตะเภา) ซึ่งเป็นสัญญาระหว่างสำนักงานเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) และผู้ร่วมลงทุนรถไฟความเร็วสูงที่ยังไม่มีความชัดเจน จึงยังไม่สามารถออกหนังสือให้เอกชนเริ่มงาน NTP ได้

ทั้งนี้ ที่ผ่านมา UTA ได้พยายามคุยกับทางสำนักงานเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) เพื่อหาข้อสรุปความคืบหน้าของโครงการรถไฟไฮสปีดเชื่อม 3 สนามบินว่าจะสามารถเดินหน้าได้หรือไม่ อย่างไร เพื่อหาทางออกให้โครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินตะวันออกว่าจะต้องดำเนินการอย่างไรต่อไป

ขอบทสรุปภายใน Q1/68

นายพุฒิพงศ์กล่าวว่า โครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบิน ตะวันออกที่ทางกลุ่ม UTA ทำสัญญาดำเนินการนั้นเป็นโครงการที่พัฒนาขึ้นจากพื้นฐานของการมีรถไฟไฮสปีดเชื่อม 3 สนามบิน โดยวางแผนให้เมืองการบินตะวันออกเป็นเมืองเอ็นเตอร์เทนเมนต์ สร้างแม็กเนตใหม่ ๆ ทั้งโรงแรม ศูนย์การค้า เอ็นเตอร์เทนเมนต์ต่าง ๆ สถานที่รองรับ การแสดงโชว์ระดับโลก ฯลฯ โดยใช้แนวทางของดิวตี้ฟรี หรือพื้นที่ปลอดอากร

โดยมองว่ารถไฟไฮสปีดจะเป็นระบบคมนาคมขนส่งสำคัญที่ดึงดูดการลงทุนและขนคนเข้าไปในพื้นที่ รวมถึงรองรับความหนาแน่นของ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิและดอนเมืองด้วย ซึ่งแผนการพัฒนาจะต้องสอดรับกับศักยภาพการรองรับของสนามบิน อู่ตะเภา ที่ตั้งเป้าพัฒนาศักยภาพรองรับผู้โดยสารได้ถึง 8-10 ล้านคนในเฟสแรก และเพิ่มเป็น 60 ล้านคนตามเงื่อนไขสัญญาพัฒนา 50 ปี

"เราอยากได้สรุปภายในไตรมาส 1/2568 เพราะเงื่อนไขการดำเนินการโครงการในสัญญาใกล้จะครบกำหนด 5 ปี ในเดือนมิถุนายน 2568 แล้ว แต่จนถึงวันนี้เรายังเริ่มคิกออฟโครงการไม่ได้" นายพุฒิพงศ์กล่าว
เตรียมแผน 2 ขอแก้สัญญา

นายพุฒิพงศ์กล่าวด้วยว่า ขณะนี้ทาง UTA ได้เตรียมทำแผน 2 เพื่อเป็นแผนสำรองแล้ว หากท้ายสุดแล้วโครงการรถไฟไฮสปีดเชื่อม 3 สนามบินไม่สามารถเกิดขึ้นจริง โดยมีแผนจะขอเจรจาเพื่อปรับเงื่อนไขการลงทุนใหม่ รวมถึงตัวเลขเงินลงทุนและมาประเมินอีกครั้งว่าจะถึงจุดคุ้มทุนได้เมื่อไหร่ อย่างไรต่อไป

"ถ้าโครงการรถไฟไฮสปีดไม่เกิดขึ้น แน่นอนว่าจะมีผลโดยตรงต่อพาร์ตเนอร์ที่จะเข้าร่วมลงทุนโครงการ รวมถึงอาจส่งผลกระทบทำให้การหาแหล่งเงินทุน ยากขึ้นด้วย" นายพุฒิพงศ์กล่าวและว่า อย่างไรก็ตาม คาดว่าในเฟสแรกของการลงทุนน่าจะใช้เงินประมาณ 15,000 ล้านบาท

9 เดือนรายได้ผู้โดยสารโต 26%

สำหรับในส่วนของบริษัท การบินกรุงเทพ หรือสายการบินบางกอก แอร์เวย์สนั้น นายพุฒิพงศ์กล่าวว่า มีแนวโน้มการเติบโตไปในทิศทางเดียวกับอุตสาหกรรมการบินโลก โดยภาพรวมในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2567 มีจำนวนผู้โดยสาร 3.31 ล้านคน เพิ่มสูงขึ้น 10% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2566 และเป็นสัดส่วน 75% ของช่วงก่อนโควิด มีอัตราส่วนการขนส่งผู้โดยสาร 82% ปรับตัวเพิ่มขึ้น 2 จุด เทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2566 และสูงกว่าช่วงก่อนโควิด-19 ซึ่งมีอัตราขนส่งผู้โดยสารที่ 68%

และรายได้ผู้โดยสาร 14,006 ล้านบาท เติบโตขึ้น 26% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2566 หรือคิดเป็นสัดส่วน 96% ของช่วงก่อน โควิด-19 โดยตัวเลขดังกล่าวสะท้อนได้ถึงศักยภาพของบางกอกแอร์เวย์สที่จะบรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้เมื่อช่วงต้นปี 2567 ได้แน่นอน

"ในด้านของจำนวนผู้โดยสารพบว่า ในช่วง 9 เดือนแรกมีจำนวน 3.31 ล้านคน เติบโตเพิ่มขึ้น 10% จำนวนเที่ยวบิน 36,358 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 9% อัตราการบรรทุกผู้โดยสารเฉลี่ย 82% เพิ่มขึ้น 2% รายได้จากผู้โดยสาร 14,006 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 26%"
บุ๊กกิ้งตั๋วล่วงหน้า 6 เดือนพุ่ง

นายพุฒิพงศ์กล่าวอีกว่า เพื่อตอบรับดีมานด์การเดินทางที่มีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง บริษัทจึงเน้นเส้นทางที่มีศักยภาพในการสร้างรายได้และทำกำไร และเพิ่มความถี่เที่ยวบินอย่างค่อยเป็นค่อยไป เพื่อรักษาระดับอัตราบรรทุกผู้โดยสาร (Load Factor) ให้อยู่ในเกณฑ์ดี

"ตอนนี้เรามียอดการสำรองที่นั่งบัตรโดยสารล่วงหน้าต่อเนื่องจนถึงช่วง 6 เดือนแรกของปี 2568 ที่มีอัตราการจองเติบโต 12% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ซึ่งสะท้อนภาพรวมการท่องเที่ยวช่วงโค้งสุดท้ายของปี 2567 นี้ได้เป็นอย่างดี" นายพุฒิพงศ์กล่าว
เร่งเสริมฝูงบิน

กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินกรุงเทพ กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า ปัจจุบันบริษัทได้ทยอยกลับมาให้บริการเส้นทางบินที่เคยปฏิบัติการบินในช่วงก่อนโควิด-19 โดยคาดว่าจะสามารถเปิดให้บริการเส้นทางบินสมุยกัวลาลัมเปอร์ ในไตรมาส 4 ปี 2568 เพื่อรองรับความต้องการในการเดินทางและเป็นจุดเชื่อมต่อผู้โดยสารจากยุโรปเดินทางเข้าเกาะสมุย

"ในปลายปีนี้เราได้จัดหาเครื่องบินรูปแบบ Wet Lease จำนวน 2 ลำ โดยเริ่มทำการบินระหว่างเดือนธันวาคม 2567-เมษายน 2568 เพื่อรองรับความต้องการในการเดินทางที่สูงขึ้นช่วงไฮซีซั่น และมีแผนเพิ่ม เครื่องบินมาเสริมฝูงบินอีก 2 ลำในปีหน้า" นายพุฒิพงศ์กล่าว

บรรยายใต้ภาพ

พุฒิพงศ์ ปราสาททองโอสถ

4 ปีกว่าแล้วแต่ยังไม่คืบ - จนถึงวันนี้โครงการลงทุนรถไฟไฮสปีดเชื่อม 3 สนามบิน (ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา) ยังไม่คืบ ทำให้แผนการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินตะวันออกของกลุ่ม -UTA ไม่สามารถดำเนินการได้ไปด้วย

ที่มา: นสพ.ประชาชาติธุรกิจ ฉบับวันที่ 5 - 8 ธ.ค. 2567


High-Speed Rail Linking 3 Airports Stalled: UTA Prepares Alternative Plan, Seeks Contract Amendment

Source - Prachachat Business
Wednesday, December 04, 2024 05:51

Puttipong Prasarttong-Osoth, President of Bangkok Airways, urges the Eastern Economic Corridor (EEC) to clarify the fate of the high-speed rail project linking 3 airports. He reveals that UTA has already invested over 4 billion baht, and the first 5-year phase of the contract will expire mid-next year. However, the U-Tapao Airport and Eastern Aviation City development project remains stalled. He demands a conclusion by Q1 2025 to proceed with a plan to amend the contract and adjust the investment model.

Puttipong Prasarttong-Osoth, President of Bangkok Airways, a partner in U-Tapao International Aviation Co., Ltd. (UTA), revealed that the company has proceeded with the U-Tapao Airport and Eastern Aviation City development project, with a total investment of over 4 billion baht through UTA. This includes development plans, project design, hiring consultants, coordinating environmental impact assessments, and collaborating with the Royal Thai Navy.

Urging EEC to Clarify the 3 Airport Rail Project

Puttipong stated that the project is tied to the high-speed rail project linking 3 airports (Suvarnabhumi-Don Mueang-U-Tapao), which is a contract between the EEC and the high-speed rail investors. Due to the lack of clarity on this project, a Notice to Proceed (NTP) cannot be issued to the private sector.

UTA has been in discussions with the EEC to determine the progress of the high-speed rail project and find solutions for the U-Tapao Airport and Eastern Aviation City development.

Demands Conclusion by Q1 2025

Puttipong explained that the U-Tapao Airport and Eastern Aviation City development project, under the UTA contract, was developed based on the premise of the high-speed rail linking 3 airports. The plan is to make the Eastern Aviation City an entertainment hub with new attractions such as hotels, shopping malls, entertainment venues, and a world-class performance center, operating as a duty-free zone.

The high-speed rail is seen as a critical transportation system to attract investment and transport people to the area, as well as alleviate congestion at Suvarnabhumi and Don Mueang airports. The development plan must align with the capacity of U-Tapao Airport, which aims to accommodate 8-10 million passengers in the first phase and increase to 60 million passengers according to the 50-year development contract.

"We want a conclusion by the first quarter of 2025 because the 5-year contract deadline is June 2025, and we still haven't been able to kick off the project," said Puttipong.

Preparing Alternative Plan, Seeking Contract Amendment

Puttipong stated that UTA has prepared a backup plan if the high-speed rail project fails to materialize. They plan to negotiate adjustments to the investment conditions, including the investment amount, and re-evaluate the timeline for reaching profitability.

"If the high-speed rail project doesn't happen, it will directly affect partners and may make it harder to secure funding," said Puttipong, adding that the first phase of investment is estimated at 15 billion baht.

9-Month Passenger Revenue Grows 26%

Regarding Bangkok Airways, Puttipong said the outlook aligns with the global aviation industry. In the first 9 months of 2024, passenger numbers reached 3.31 million, a 10% increase compared to the same period in 2023 and representing 75% of pre-COVID levels. The passenger load factor was 82%, up 2 points from the same period in 2023 and higher than the pre-COVID-19 level of 68%.

Passenger revenue reached 14.006 billion baht, a 26% growth compared to the same period in 2023, or 96% of the pre-COVID-19 level. These figures indicate that Bangkok Airways is on track to achieve its targets set at the beginning of 2024.

"In terms of passenger numbers, the first 9 months saw 3.31 million passengers, a 10% increase. The number of flights was 36,358, a 9% increase. The average passenger load factor was 82%, a 2% increase. Passenger revenue was 14.006 billion baht, a 26% increase."

6-Month Advance Bookings Surge

Puttipong added that to meet the growing travel demand, the company is focusing on profitable routes and gradually increasing flight frequencies to maintain a good load factor.

"We currently have continuous advance bookings up to the first 6 months of 2025, with a 12% growth rate compared to the same period last year, reflecting the positive tourism outlook for the remainder of 2024," said Puttipong.

Expanding the Fleet

The President of Bangkok Airways further stated that the company is gradually resuming pre-COVID-19 routes and expects to launch the Samui-Kuala Lumpur route in Q4 2025 to cater to travel demand and connect passengers from Europe to Samui.

"At the end of this year, we have procured 2 Wet Lease aircraft, operating from December 2024 to April 2025, to accommodate the increased demand during the high season. We also plan to add 2 more aircraft to the fleet next year," Puttipong said.

Caption:

Puttipong Prasarttong-Osoth

Over 4 Years and Still No Progress: The high-speed rail project linking 3 airports (Don Mueang-Suvarnabhumi-U-Tapao) remains stalled, hindering the U-Tapao Airport and Eastern Aviation City development plan by UTA.

Source: Prachachat Business Newspaper, December 5-8, 2024

[Mongwin]

การรถไฟฯ ยันรอยูเนสโกอนุมัติ ก่อนเดินหน้ารถไฟไทยจีน 4-5
Source - ข่าวหุ้น
Friday, December 06, 2024 05:55

ผู้ว่าการรถไฟฯ เตรียมชงบอร์ดเคาะแนวทางแก้ปัญหารถไฟไทย-จีน สัญญา 4-5 เตรียมให้ CIVIL สร้างทางรถไฟรอไว้ก่อนจนกว่ายูเนสโกไฟเขียวผลกระทบมรดกโลก จึงสร้างสถานีอยุธยาตามมา คาดมีข้อยุติภายในเดือนนี้ ยังมั่นใจได้ก่อสร้างทุกอย่างตามแผนเดิมเพียงแต่ต้องได้รับอนุมัติ HIA ตามขั้นตอนเท่านั้น

นายวีริศ อัมระปาล ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ รฟท. ได้พิจารณาแนวทางแก้ปัญหาเบื้องต้นสำหรับโครงการรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน กรุงเทพฯ-หนองคาย ระยะที่ 1 ช่วงกรุงเทพฯ-นครราชสีมา สัญญาที่ 4-5 ช่วงบ้านโพ-พระแก้ว วงเงิน 9,600 ล้านบาทแล้วว่า จะใช้วิธีให้ผู้รับงานก่อสร้างทางรถไฟไปก่อน พร้อมออกแบบสถานีอยุธยารอไว้ จนกว่าจะได้ข้อยุติเรื่องมรดกโลกจากองค์การเพื่อการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (ยูเนสโก) หากยูเนสโกเห็นชอบรายงานการประเมินผลกระทบด้านทรัพย์สินทางวัฒนธรรม (HIA) รฟท.ก็จะดำเนินการก่อสร้างสถานีอยุธยาต่อไป

สำหรับความคืบหน้าล่าสุดในการจัดทำ HIA นั้น ทาง รฟท.ได้เสนอรายงาน HIA ต่อคณะกรรมการแห่งชาติว่าด้วยอนุสัญญาคุ้มครองมรดกโลก เมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน 2567 โดยคณะกรรมการแห่งชาติฯ ได้ให้ รฟท. เพิ่มเติมข้อมูล เบื้องต้น และให้กลับมาเพิ่มเติมการทบทวนแผนพัฒนาโครงการรถไฟ และการเชื่อมต่อด้านคมนาคมทุกโครงการที่จะเกิดขึ้นในอนาคต พร้อมปรับปรุงการเรียงลำดับเนื้อหารายงาน ให้เป็นไปตามข้อเสนอแนะของคณะกรรมการแห่งชาติฯ ซึ่ง รฟท.จะเร่งรัดดำเนินการและรายงานกลับไปที่คณะกรรมการแห่งชาติฯ อีกครั้ง ประมาณเดือนมกราคม 2568 ขณะเดียว กัน สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) ได้แจ้งมายัง รฟท.ว่าจะมีผู้เชี่ยวชาญจาก UNESCO ตอบรับว่าจะร่วมลงพื้นที่ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในวันที่ 18-22 มกราคม 2568

นายวีริศ กล่าวต่อว่า ในขั้นตอนอนุมัติ HIA นั้น จะต้องมีการพิจารณาในที่ประชุมสมัชชารัฐภาคีสมาชิกเเห่งอนุสัญญาคุ้มครองมรดกโลก ที่จัดขึ้นทุก 2 ปี ซึ่ง รฟท.พิจารณาแล้วว่าไม่สามารถรอได้ เพราะจะทำให้โครงการรถไฟไทย-จีน เกิดความล่าช้าออกไปยิ่งขึ้น ดังนั้นจึงมีการหารือกันว่าจะก่อสร้างทางรถไฟไปก่อนดังกล่าว โดยขณะนี้ฝ่ายโครงการพิเศษและก่อสร้าง รฟท.อยู่ระหว่างรวบรวมรายละเอียด เหตุผลความจำเป็น เสนอมายังผู้ว่า รฟท. เพื่อเสนอที่ประชุมคณะกรรมการ รฟท.พิจารณา คาดว่าจะได้ความชัดเจนภายในเดือนธันวาคมนี้ และหากสรุปแล้วต้องก่อสร้างทางรถไฟไปก่อนจริง ก็อาจต้องระบุเงื่อนไขไว้ในสัญญาเรื่องการก่อสร้างสถานีอยุธยาในภายหลังด้วย

ด้านเอกชนผู้รับงานสัญญา 4-5 คือ บริษัท บุญชัยพาณิชย์ (1979) จำกัด ในเครือ บริษัท ซีวิลเอนจิเนียริง จำกัด (มหาชน) หรือ CIVIL นั้น ยอมรับว่าก็จะต้องให้ยืนราคาไปก่อนอย่างต่อเนื่อง ส่วนกรณีที่มีกระแสข่าวว่าเอกชนอาจไม่รับงานหากไม่มีการก่อสร้างสถานีอยุธยาเพราะจะทำให้วงเงินสัญญาลดลงราว 2,000-3,000 ล้านบาท และอัยการที่ตรวจร่างสัญญายืนยันว่าเอกชนจะต้องวางเงินค้ำประกันสัญญา (แบงก์การันตี) เต็มจำนวน ไม่ว่าจะมีหรือไม่มีสถานีอยุธยานั้น ตนยังไม่ทราบรายละเอียด แต่โดยส่วนตัวมั่นใจว่าจะมีการก่อสร้างสถานีอยุธยาตามแผนเดิม เพียงแค่ต้องจัดทำรายงาน HIA ให้ถูกต้องตามคำแนะนำของยูเนสโก และได้รับการพิจารณาอนุมัติ HIA ตามขั้นตอนเท่านั้น

ที่มา: นสพ.ข่าวหุ้น ฉบับวันที่ 6 ธ.ค. 2567

State Railway of Thailand (SRT) insists on UNESCO approval before proceeding with Thai-Chinese railway sections 4-5

Source - Khao Hoon Newspaper
Friday, December 6, 2024, 05:55

The Governor of the State Railway of Thailand (SRT) is preparing to propose to the board a solution to the problem of the Thai-Chinese high-speed railway, Bangkok-Nong Khai, Phase 1, Bangkok-Nakhon Ratchasima section, contracts 4-5, Ban Pho-Phra Kaeo section, worth 9.6 billion baht. The solution involves instructing the contractor to proceed with the railway construction while the design for Ayutthaya station is put on hold until UNESCO gives the green light regarding the impact on the World Heritage site. If UNESCO approves the Heritage Impact Assessment (HIA) report, SRT will then proceed with the construction of Ayutthaya station.

Regarding the latest progress in the preparation of the HIA, the SRT submitted the HIA report to the National Committee on the World Heritage Convention on November 25, 2024. The National Committee requested SRT to provide additional preliminary information and a review of the railway development plan and all future transportation connections. They also requested adjustments to the content order of the report in accordance with the recommendations of the National Committee. The SRT will expedite this process and report back to the National Committee around January 2025. At the same time, the Office of Natural Resources and Environmental Policy and Planning (ONEP) has informed the SRT that experts from UNESCO have agreed to join a site visit with relevant agencies on January 18-22, 2025.

Veeris Ammarapala, Governor of the State Railway of Thailand (SRT), further stated that the HIA approval process requires consideration at the General Assembly of States Parties to the World Heritage Convention, which is held every 2 years. The SRT has determined that waiting for this meeting is not feasible as it would further delay the Thai-Chinese railway project. Therefore, discussions have taken place to proceed with the railway construction as mentioned earlier. Currently, the SRT's Special Projects and Construction Division is in the process of gathering detailed information and justifications to submit to the SRT Governor for presentation at the SRT Board meeting. It is expected that there will be clarity on this matter within December 2024. If it is concluded that the railway construction must proceed first, conditions regarding the subsequent construction of Ayutthaya station may need to be included in the contract.

The private contractor for contracts 4-5, Boonchai Panich (1979) Co., Ltd., under Civil Engineering Public Company Limited (CIVIL), acknowledged that they would have to maintain their bid price. Regarding rumors that the private sector might not accept the work if Ayutthaya station is not built, as this would reduce the contract value by approximately 2-3 billion baht, and that the Attorney General who reviewed the draft contract confirmed that the private sector must provide a full performance bond (bank guarantee) regardless of whether Ayutthaya station is included, Veeris stated that he is not yet aware of the details. However, he personally believes that the construction of Ayutthaya station will proceed as originally planned, only requiring the HIA report to be prepared correctly according to UNESCO's recommendations and the HIA approval process to be completed.

Source: Khao Hoon Newspaper, December 6, 2024

[Mongwin]

เคยเห็นกันรึยัง! ทางฉุกเฉินรถไฟความเร็วสูง จุดแรกก่อสร้างเสร็จแล้ว พิกัดสัญญาที่ 2-1 อ.สูงเนิน
nanny official
Dec 6, 2024


https://www.youtube.com/watch?v=b2NpPMMUZik

Have you seen it yet? The first high-speed rail emergency escape route is now complete! Located in Contract 2-1, Sung Noen District.

[Mongwin]

เมื่อรถไฟความเร็วสูงได้มาถึงประเทศไทย Thailand high speed train
รถไฟไทยสดใส
Dec 6, 2024


https://www.youtube.com/watch?v=Tx_O4znIyYY

[Wisarut]

[Mongwin]

วิดีทัศน์ความก้าวหน้างาน ประจำเดือนพฤศจิกายน 2567
กิจการร่วมค้า ITD-CREC No.10
Dec 5, 2024


https://www.youtube.com/watch?v=gAvURTawn9c

[Wisarut]

ที่แก่งคอยทางรถไฟความเร็วสูงจะมีสี่ทางวิ่ง (ปกติ 2 สวนไปกลับ) เพราะเผื่ออีก 1 สาย โครงการในอนาคต วิ่งออกภาคตะวันออกเลย ไม่ผ่านกรุงเทพ (ไม่เข้าเมืองสระบุรี) ผ่านทางรถไฟสายชุมทางแก่งคอย–คลองสิบเก้า ตำบลโยธะกา อำเภอบางน้ำเปรี้ยว ฉะเชิงเทรา
https://www.facebook.com/pagesaraburi/posts/122182162724105993