ข่าวรถไฟความเร็วสูง (ไฮสปีดเทรน)

[Wisarut]

3ก.ค.68 ช่วงสายลงพื่นที่ติดตามโครงการก่อสร้างรถไฟสูงไทย-จีน กรุงเทพมหานคร-นครราชสีมา ของสัญญาที่ 3-4 ช่วงลำตะคอง-สีคิ้ว และกุดจิก-โคกกรวด ระยะทาง 37.45กม. ปัจจุบันคืบหน้าร้อยละ 96.79 ครบกำหนดตามสัญญา เมื่อ 20พ.ค.68 โดยผู้รับจ้างได้รับสิทธิ์ค่าปรับร้อยละ 0 จากสถานการณ์ covid-19 จำนวน 521 วันไปจนถึง 23ต.ค.69 อย่างไรก็ตาม ได้เร่งรัดดำเนินการงานส่วนที่เหลือให้แล้วเสร็จภายใน พ.ค.69 โดยยังคงเหลือวาง Segment อีก 202 span (ปัจจุบันติดตั้ง 573 span จาก 706 span อัตราการทำงานใช้ 5 luncher จะได้รวม 20 span ต่อเดือน) และงานระเบิดหิน (Hard Rock Excavation) บริเวณทางระดับดินประมาณ 900 ม. ช่วง DK191+732.76 ถึง DK 192+682.10 ซึ่งต้องทำ slope protection ด้วย
ป.ล. ในรูปกำลังติดตั้ง segment โคกกรวด

3ก.ค.68 ช่วงสายลงพื้นที่ติดตามโครงการก่อสร้างรถไฟสูงไทย-จีน กรุงเทพมหานคร-นครราชสีมา ของสัญญาที่ 3-4 ช่วงลำตะคอง-สีคิ้ว และกุดจิก-โคกกรวด บริเวณ DK 233 ซึ่งเป็นโครงสร้างคันทางระดับดิน ลอดใต้ทางหลวงหมายเลข 290 วงแหวนรอบเมืองนครราชสีมา ซึ่งเดิมพบว่า ระยะ clearance จากระดับสันรางรถไฟความเร็วสูงถึงใต้ท้องคานสะพานทางหลวงดังกล่าว มีระยะคงเหลือเพียง 4.795 เมตร ซึ่งส่งผลกระทบต่อการเดินรถไฟความเร็วสูง โดยการออกแบบต้องการ clearance ไม่น้อยกว่า 7 เมตร จึงต้องทำการปรับแบบโดยกดระดับคันดินลง และใช้คอนกรีต U-slab ในการกั้นคันทางระดับดินที่กดลง ทำให้ด้านบนมี clearance 7.00 เมตร
วันนี้มาดูหน้างานได้รับทราบว่า โครงการฯได้ปรับแบบและก่อสร้างแล้วเสร็จ โดยปัจจุบันมี clearance อยู่ที่ 6.95 เมตร ซึ่งเป็นค่าที่ที่ปรึกษาควบคุมงาน (csc) ยอมรับได้ (น้อยกว่าเกณฑ์ออกแบบ 5 ซม.) ประกอบกับพื้นที่บริเวณนี้ ได้รับข้อร้องเรียนจากประชาชนว่า โครงการรถไฟความเร็วสูงทำให้น้ำท่วม บริเวณนี้ โดยโครงการฯ ได้ประสานแขวงทางหลวงในพื้นที่ และกรมทางหลวง ดำเนินการย้ายจุดกลับรถใต้สะพานออกไปอีก 2 span พร้อมทำท่อลอดระบายน้ำ ซึ่งเป็นการเพิ่มพื้นที่ระบายน้ำเลียบคันทางรถไฟความเร็วสูง อันจะช่วยลดปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่ลงได้

3ก.ค.68 ช่วงสายลงพื้นที่ติดตามโครงการก่อสร้างรถไฟสูงไทย-จีน กรุงเทพมหานคร-นครราชสีมา ของสัญญาที่ 3-4 ช่วงลำตะคอง-สีคิ้ว และกุดจิก-โคกกรวด บริเวณที่ต้องระเบิดหิน (Hard Rock Excavation) ซึ่งเป็นทางระดับดินประมาณ 900 ม. ช่วง DK191+732.76 ถึง DK 192+682.10 ด้านหัวกับด้านท้ายเป็นนทางยกระดับ และต้องทำ slope protection จากเดิมเป็น rock bolt แต่เนื่องจากใช้ระยะเวลาและไม่เหมาะสมกับพื้นที่ จึงเปลี่ยนเป็น arch frame พร้อมปลูกหญ้าลักษณะคล้ายคันทางของโครงการรถไฟลาว-จีน ปัจจุบันระเบิดหินได้แล้ว 4.3แสนลบ.ม. จาก5.9แสน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 73 โดยการระเบิดแต่ละครั้งได้พื้นที่ประมาณ 30*30 ม. (30รู) มีความลึก 3ม. ใช้ปุ๋ย8กก.ผสมสารเคมีต่อหลุมแล้วใส่ gap เพื่อจุดระเบิด มีความสูงมากสุด 10layer และมีรถแบคโฮ 5 คันตักหินมากองในพื้นที่ด้านข้าง ซึ่งเป็นพื้นที่ของกรมป่าไม้ คาดระเบิดแล้วเสร็จ ส.ค.68 คาดว่าจะติดตั้ง arch frame ประมาณปลายส.ค.68-ต้นก.ย.68 ระยะเวลาดำเนินการ 6 เดือน คาดแล้วเสร็จภายในสิ้นเม.ย.69
ป.ล. ในรูปฝั่งเป็นบริเวณ DK191+732.76 ที่เชื่อมต่อกับโครงสร้างทางยกระดับที่มาจากคลองไผ่ จึงต้องเว้นพื้นที่สำหรับวาง segment และทำ transition zone ปัจจุบันกำลังติดตั้ง Luncher คาดว่าจะเริ่มติดตั้ง segmentได้ประมาณต้นเดือนหน้า (ส.ค.68) ควบคู่กับอีก luncher ที่ติดตั้ง segmet จากคลองไผ่เข้ามาหากัน ส่วนด้านปลายฝั่ง FK 192+682ขึ้นไป วาง segmentโครงสร้างยกระดับเสร็จแล้วจนถึงเชื่อมต่อกับอุโมงค์ของสัญญา 3-2
https://www.facebook.com/ake.bluechifamily/posts/24002368532716766
https://www.facebook.com/ake.bluechifamily/posts/24002545569365729
https://www.facebook.com/ake.bluechifamily/posts/24002776086009344

[Wisarut]

2ก.ค.68 ช่วงบ่ายประชุมติดตามความคืบหน้าโครงการก่อสร้างรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน สัญญา 3-5 ช่วงโคกกรวด-นครราชสีมา ระยะทาง 12.38 กม. มีความคืบหน้า ร้อยละ 13.35 ล่าช้ากว่าแผนงานที่ปรับปรุงใหม่ร้อยละ 30.83 (ณ สิ้นมิ.ย.68) เนื่องจากเข้าพื้นที่ได้เพียงร้อยละ 44.83 ส่วนอีก ร้อยละ 55.47 รอการปรับแบบจากคันทางเป็นยกระดับระยะทาง 7.85 กม. ที่อยู่ระหว่างเตรียมเสนอ ครม. เพื่อปรับรูปแบบโครงสร้าง ที่ล่าช้าในปัจจุบันคือ พื้นที่ย่านสถานีนครราชสีมา ที่จะต้องสร้างทางประธานชั่วคราว และสถานีนครราชสีมาชั่วคราวพร้อมชานชาลารับส่งนักเรียนและประชาชนช่วงเช้ากับเย็น ก่อนรื้อย้ายทางประธานเดิม และรื้อย้ายอาคารสถานี เพื่อก่อสร้างทางยกระดับและสถานีนครราชสีมาใหม่
ป.ล. ปัจจุบัน บอร์ด รฟท. ขยายสัญญา 3-5 ไปสิ้นสุดสัญญา 10 มี.ค.69 ยังไม่รวมช่วงค่าปรับร้อยละ 0 อีก 521 วัน และช่วงที่มีการปรับแบบมีระยะเวลาการก่อสร้างอีก 36 เดือน คาดงานโยธาสัญญานี้น่าจะเสร็จปี 71

2ก.ค.68 แวะมาถ่ายรูปหน้าสถานีนครราชสีมาเป็นที่ระลึก ก่อนปลายนี้จะรื้อสถานีเก่าออกเพื่อสร้างสถานีรถไฟนครราชสีมาใหม่ รองรับทั้งรถไฟความเร็วสูงและรถไฟทางคู่ในที่เดียวกัน
ป.ล. งานสถานีรถไฟชั่วคราวสำหรับการเดินรถเท่านั้น (ขบวนรถไฟไม่จอด ไม่มีจำหน่ายตั๋วโดยสาร) ปัจจุบันก่อสร้างเสร็จแล้ว เหลือก่อสร้างชานชาลาเพิ่มเติมบริเวณห้าแยก (คนละจุดกับสถานีชั่วคราว) เพื่อรองรับการเดินทางของนักเรียนและประชาชนช่วงเช้าและเย็นสำหรับขบวนรถท้องถิ่น 4 ขบวนเท่านั้น

2ก.ค.68 ช่วงเย็นหลังเลิกประชุม ลงพื้นที่สถานีนครราชสีมา ติดตามความคืบหน้าโครงการก่อสร้างรถไฟความเร็วสูง ไทย-จีน สัญญา 3-5 ช่วงโคกกรวด - นครราชสีมา ซึ่งได้กำชับที่ปรึกษาควบคุมงาน และผู้รับจ้างเร่งดำเนินการก่อสร้างทางประธานชั่วคราว พร้อมทางหลีกและทางสาม (เข้าโรงรถจักรและโรงงานนครราชสีมา) ให้แล้วเสร็จภายในเดือนสิงหาคม 2568 ก่อนตรวจร่วม 4 ฝ่ายของ รฟท. โดยหลังผ่านการตรวจร่วมจะได้ย้ายให้ขบวนรถไฟมาวิ่งทางชั่วคราว ควบคู่กับการเจาะเสาเข็ม และรื้อย้ายเสาโทรเลขล๊อตสอง พร้อมรื้ออาคารสถานีนครราชสีมา เพื่อเร่งดำเนินการก่อสร้างในพื้นที่สถานีนครราชสีมาที่ล่าช้ากว่าแผนมานานแล้ว
https://www.facebook.com/ake.bluechifamily/posts/23995311723422447
https://www.facebook.com/ake.bluechifamily/posts/23995926090027677
https://www.facebook.com/ake.bluechifamily/posts/23996141096672843

[Wisarut]

5กรกฎาคม2568
งานก่อสร้างรถไฟความเร็วสูงในตัวเมืองนครราชสีมาบริเวณจุดตัดทางแยกต่างระดับปักธงชัย
- สัญญาที่ 3-5 ช่วงโคกกรวด-นครราชสีมา ระยะทาง 12.38 กิโลเมตร โดยกิจการร่วมค้า SPTK (นภาก่อสร้าง ร่วมกับรับเหมาประเทศมาเลเซีย)
https://www.facebook.com/chart.siridon/posts/24380381094902205

[Mongwin]

สุริยะห่วงไฮสปีดไทย-จีนอืด
Source - ไทยโพสต์
Monday, July 07, 2025 06:58

จี้เร่งเครื่องหลังเคลียร์ปมส่งมอบพื้นที่จบลั่นเปิดบริการปี 72

ไทยโพสต์ "คมนาคม" เร่งเครื่องรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน เฟส 1 ช่วง "กรุงเทพฯ-โคราช" ส่วน รฟท.กำชับผู้รับเหมาดันงานให้เสร็จตามแผน ขณะที่สัญญา 4-5 จ่อลงนาม ก.ค.นี้ หลังเคลียร์ประเด็นมรดกโลกจบ ด้าน "สุริยะ" ห่วงเดินรถล่าช้า ปักธงเปิดใช้ปี 72

แหล่งข่าวจากกระทรวงคมนาคมเปิดเผยถึงความคืบหน้าโครงการรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน ระยะที่ 1 ช่วงกรุงเทพ มหานคร-นครราชสีมา งาน โยธาแบ่งเป็น 14 สัญญา ก่อสร้าง แล้วเสร็จ 2 สัญญา อยู่ระหว่างการก่อสร้าง 10 สัญญา และเตรียมลงนามสัญญา 2 สัญญา (สัญญาที่ 4-1 และ 4-5) ส่วนงานระบบ รางและการจัดหาขบวนรถอีก 1 สัญญา อยู่ระหว่างการออกแบบ โดยสัญญาที่ 3-5 ช่วงโคกกรวด- นครราชสีมา ระยะทาง 12.38 กิโลเมตร (กม.) คืบหน้า 13.35% ล่าช้า 30.83% เนื่องจากเข้าพื้นที่ได้เพียง 44% รอการปรับแบบจากคันทางระดับดินเป็นทางรถไฟยกระดับในช่วงต้นของสัญญา ซึ่งอยู่ระหว่างการเตรียมเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่ออนุมัติปรับรูปแบบโครงสร้างก่อนดำเนินการก่อสร้างต่อไป

อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมา คณะกรรมการ (บอร์ด) การรถ ไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ได้ขยายสัญญา 3-5 ออกไปสิ้นสุดวันที่ 10 มี.ค.2569 ซึ่งยังไม่รวมช่วงเวลายกเว้นค่าปรับ 0% อีกจำนวน 521 วัน และระยะเวลาการก่อสร้างจากการปรับรูปแบบโครงสร้างเพิ่มเติมอีก 36 เดือน สำหรับช่วงที่มีการปรับแบบใหม่ ทำให้คาดว่างานโยธาของสัญญา 3-5 นี้จะแล้วเสร็จในปี 2571 เพื่อเร่งรัดโครงการให้เป็นไปตามแผน รฟท.ได้ กำชับที่ปรึกษาควบคุมงานและผู้รับจ้างให้เร่งดำเนินการก่อสร้างทางชั่วคราว พร้อมทางหลีกและทางเข้าโรงรถจักรและโรงงานนครราชสีมาให้แล้วเสร็จ ภายในเดือน ส.ค.2568

สำหรับความคืบหน้าสัญญาที่ 3-4 ช่วงลำตะคองสีคิ้ว และกุดจิก-โคกกรวด ระยะ ทาง 37.45 กม. คืบหน้า 96.79% อย่างไรก็ตาม รฟท.ได้เร่งรัดให้ดำเนินการงานส่วนที่เหลือให้ แล้วเสร็จ ภายในกลางปี 2569 ขณะที่สัญญา 4-5 ช่วงบ้านโพ- พระแก้ว ยังไม่ลงนามก่อสร้าง เนื่องจากมีประเด็นที่เกี่ยวข้อง กับแหล่งมรดกโลก นครประวัติ ศาสตร์พระนครศรีอยุธยา กรณีการก่อสร้างสถานีรถไฟความเร็วสูงอยุธยา คาดว่าจะ สามารถลงนามสัญญาที่ 4-5 กับบริษัท บุญชัยพาณิชย์ (1979) จำกัด ได้ภายในเดือน ก.ค. นี้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าก่อนหน้านี้นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.คมนาคม ได้สั่งให้ รฟท.เร่งเดินหน้าโครงการรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน เฟส 1 ช่วงกรุงเทพฯนครราชสีมา เนื่องจากหากเปิดเดินรถล่าช้าจะยิ่งทำให้เกิดความเสียหาย ปัจจุบันภาพรวมทั้งโครงการคืบหน้า 45.645% อย่างไรก็ตามคาดว่าจะแล้วเสร็จและเปิดให้บริการได้ภายในปี 2572.

บรรยายใต้ภาพ
สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ

ที่มา: นสพ.ไทยโพสต์ ฉบับวันที่ 7 ก.ค. 2568

[Mongwin]

เร็วมาก! บางปะอินล่าสุด ประกอบคานทางวิ่งรถไฟความเร็วสูง 28 Span แล้วเด้อ | สัญญา4-3 (นวนคร - บ้านโพ)
nanny official
Jul 6, 2025 บางปะอิน

สัญญาที่ 4-3 ช่วงนวนคร - บ้านโพ


https://www.youtube.com/watch?v=BDN7_f2qvaA

[Wisarut]

คมนาคมเร่งเครื่องรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน เฟส 1 กรุงเทพฯ–โคราช
ข่าวทั่วไทย - กทม.
ไทยรัฐออนไลน์
วันจันทร์ ที่ 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2568 เวลา 14:37 น.

กระทรวงคมนาคมเร่งเครื่องรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน เฟส 1 ช่วงกรุงเทพฯ–โคราช ด้าน รฟท. กำชับผู้รับเหมาดันงานสัญญา 3-5 และ3-4 ให้เสร็จตามแผน ขณะที่สัญญา 4-5 จ่อลงนาม ก.ค.นี้ หลังเคลียร์ประเด็นมรดกโลกจบ ปักธงเปิดใช้ปี 72

เมื่อวันที่ 7 ก.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าโครงการรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน ระยะที่ 1 ช่วงกรุงเทพฯ–นครราชสีมา ว่า ขณะนี้ การดำเนินงานส่วนงานโยธาทางการรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.) ได้แบ่งสัญญาออกเป็น 14 สัญญา ซึ่งมีการก่อสร้างแล้วเสร็จ 2 สัญญา และอยู่ระหว่างการก่อสร้าง 10 สัญญา ขณะเดียวกันได้เตรียมลงนามสัญญา 2 สัญญา (สัญญาที่ 4-1 และ 4-5) ส่วนงานระบบรางและการจัดหาขบวนรถอีก 1 สัญญา อยู่ระหว่างการออกแบบ โดยสัญญาที่ 3-5 ช่วงโคกกรวด-นครราชสีมา ระยะทาง 12.38 กิโลเมตร (กม.) คืบหน้า 13.35% ล่าช้า 30.83% เนื่องจากเข้าพื้นที่ได้เพียง 44% รอการปรับแบบจากคันทางระดับดินเป็นทางรถไฟยกระดับในช่วงต้นของสัญญา ซึ่งอยู่ระหว่างการเตรียมเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่ออนุมัติปรับรูปแบบโครงสร้างก่อนดำเนินการก่อสร้างต่อไป

อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาคณะกรรมการ (บอร์ด) การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ได้ขยายสัญญา 3-5 ออกไปสิ้นสุดวันที่ 10 มี.ค.2569 ซึ่งยังไม่รวมช่วงเวลายกเว้นค่าปรับ 0% อีกจำนวน 521 วัน และระยะเวลาการก่อสร้างจากการปรับรูปแบบโครงสร้างเพิ่มเติมอีก 36 เดือน สำหรับช่วงที่มีการปรับแบบใหม่ทำให้คาดว่า งานโยธาของสัญญา 3-5 นี้ จะแล้วเสร็จในปี 2571 เพื่อเร่งรัดโครงการให้เป็นไปตามแผน รฟท. ได้ กำชับที่ปรึกษาควบคุมงานและผู้รับจ้างให้เร่งดำเนินการก่อสร้างทางชั่วคราว พร้อมทางหลีกและทางเข้าโรงรถจักรและโรงงานนครราชสีมาให้แล้วเสร็จภายในเดือน ส.ค.2568

สำหรับความคืบหน้าสัญญาที่ 3-4 ช่วงลำตะคอง-สีคิ้วและกุดจิก-โคกกรวด ระยะทาง 37.45 กม. คืบหน้า96.79% อย่างไรก็ตาม รฟท. ได้เร่งรัดให้ดำเนินการงานส่วนที่เหลือให้แล้วเสร็จภายในกลางปี 2569 ขณะที่สัญญา 4-5 ช่วงบ้านโพ-พระแก้ว ยังไม่ลงนามก่อสร้างเนื่องจากมีประเด็นที่เกี่ยวข้องกับแหล่งมรดกโลก นครประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา กรณีการก่อสร้างสถานีรถไฟความเร็วสูงอยุธยา โดยคาดว่าจะสามารถลงนามจะสามารถลงนามสัญญาที่ 4-5 กับบริษัท บุญชัยพาณิชย์ (1979) จำกัด ได้ภายในเดือน ก.ค.นี้


ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ก่อนหน้านี้ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้สั่งให้ รฟท.เร่งเดินหน้าโครงการรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน เฟส 1 ช่วงกรุงเทพฯ-นครราชสีมา เนื่องจากหากเปิดเดินรถล่าช้าจะยิ่งทำให้เกิดความเสียหาย ปัจจุบันภาพรวมทั้งโครงการคืบหน้า 45.645% อย่างไรก็ตาม คาดว่า จะแล้วเสร็จและเปิดให้บริการได้ภายในปี 2572
https://www.thairath.co.th/news/local/bangkok/2868960?

รฟท.เร่งเคลียร์ปมไฮสปีดไทย-จีน ช่วง 'กรุงเทพฯ-โคราช' คืบหน้า 45.645% ปักธงเปิดใช้ปี 72
วันจันทร์ ที่ 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2568 เวลา 13:07 น.

‘คมนาคม’เร่งเครื่องรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน เฟส1 ช่วง ‘กรุงเทพฯ-โคราช’ด้าน รฟท. กำชับผู้รับเหมาดันงานสัญญา 3-5 และ3-4 ให้เสร็จตามแผน ขณะที่สัญญา 4-5 จ่อลงนาม ก.ค. นี้ หลังเคลียร์ประเด็นมรดกโลกจบ ปักธงเปิดใช้ปี 72

7 ก.ค. 2568 – แหล่งข่าวจากกระทรวงคมนาคม เปิดเผยถึงความคืบหน้า โครงการรถไฟความเร็วสูงไทย – จีน ระยะที่ 1 ช่วงกรุงเทพมหานคร – นครราชสีมา งานโยธาแบ่งเป็น 14 สัญญา ก่อสร้างแล้วเสร็จ 2 สัญญา อยู่ระหว่างการก่อสร้าง 10 สัญญา และเตรียมลงนามสัญญา 2 สัญญา (สัญญาที่ 4-1 และ 4-5) ส่วนงานระบบรางและการจัดหาขบวนรถอีก 1 สัญญา อยู่ระหว่างการออกแบบ โดยสัญญาที่ 3-5 ช่วงโคกกรวด-นครราชสีมา ระยะทาง 12.38 กิโลเมตร(กม.) คืบหน้า 13.35% ล่าช้า 30.83% เนื่องจากเข้าพื้นที่ได้เพียง 44 % รอการปรับแบบจากคันทางระดับดินเป็นทางรถไฟยกระดับในช่วงต้นของสัญญา ซึ่งอยู่ระหว่างการเตรียมเสนอคณะรัฐมนตรี(ครม.)เพื่ออนุมัติปรับรูปแบบโครงสร้างก่อนดำเนินการก่อสร้างต่อไป

อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาคณะกรรมการ (บอร์ด) การรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.)ได้ขยายสัญญา 3-5 ออกไปสิ้นสุดวันที่ 10 มี.ค.2569 ซึ่งยังไม่รวมช่วงเวลายกเว้นค่าปรับ 0% อีกจำนวน 521 วัน และระยะเวลาการก่อสร้างจากการปรับรูปแบบโครงสร้างเพิ่มเติมอีก 36 เดือนสำหรับช่วงที่มีการปรับแบบใหม่ ทำให้คาดว่า งานโยธาของสัญญา3-5 นี้จะแล้วเสร็จในปี 2571 เพื่อเร่งรัดโครงการให้เป็นไปตามแผน รฟท. ได้ กำชับที่ปรึกษาควบคุมงานและผู้รับจ้างให้เร่งดำเนินการก่อสร้างทางชั่วคราว พร้อมทางหลีกและทางเข้าโรงรถจักรและโรงงานนครราชสีมาให้แล้วเสร็จ ภายในเดือนส.ค.2568

สำหรับความคืบหน้าสัญญาที่ 3-4 ช่วงลำตะคอง-สีคิ้ว และกุดจิก-โคกกรวด ระยะทาง 37.45 กม. คืบหน้า96.79% อย่างไรก็ตาม รฟท. ได้เร่งรัดให้ดำเนินการงานส่วนที่เหลือให้แล้วเสร็จ ภายในกลางปี 2569 ขณะที่สัญญา 4-5 ช่วงบ้านโพ-พระแก้ว ยังไม่ลงนามก่อสร้างเนื่องจากมีประเด็นที่เกี่ยวข้องกับแหล่งมรดกโลก นครประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา กรณีการก่อสร้างสถานีรถไฟความเร็วสูงอยุธยา คาดว่าจะสามารถลงนามจะสามารถลงนามสัญญาที่ 4-5 กับบริษัท บุญชัยพาณิชย์ (1979) จำกัด ได้ภายในเดือน ก.ค.นี้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าก่อนหน้านี้นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คมนาคม ได้สั่งให้ รฟท.เร่งเดินหน้าโครงการรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน เฟส 1 ช่วงกรุงเทพฯ – นครราชสีมา เนื่องจากหากเปิดเดินรถล่าช้าจะยิ่งทำให้เกิดความเสียหาย ปัจจุบันภาพรวมทั้งโครงการคืบหน้า 45.645% อย่างไรก็ตามคาดว่าจะแล้วเสร็จและเปิดให้บริการได้ภายในปี 2572
https://www.thaipost.net/economy-news/820006/

[Wisarut]

🚄 🧳📍ปักหมุด !!! ที่เที่ยวตามแนวรถไฟความเร็วสูง กรุงเทพฯ - หนองคาย
โครงการรถไฟความเร็วสูง ช่วงกรุงเทพมหานคร - หนองคาย สามารถเข้าถึงสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ได้อย่างสะดวกสบายด้วยระบบขนส่งสาธารณะที่เชื่อมต่อกับสถานีรถไฟความเร็วสูงทั้ง 11 สถานี โดยมีสถานที่ท่องเที่ยวมากมายตามแนวเส้นทางโครงการ ดังนี้
สถานีกรุงเทพอภิวัฒน์ 🏫🚂
- ตลาดนัดจตุจักร "แหล่งชอปปิงยอดนิยม"
- วัดพระศรีรัตนศาสดาราม (วัดพระแก้ว) "สักการะพระแก้วมรกต"
สถานีดอนเมือง 🚊🛫
- พิพิธภัณฑ์กองทัพอากาศและการบินแห่งชาติ "ประวัติศาสตร์การบินของไทย"
สถานีอยุธยา 🏯
- วัดใหญ่ชัยมงคล "สักการะพระเจดีย์ชัยมงคล"
สถานีสระบุรี 🏞
- น้ำตกสามหลั่น "เที่ยวชมธรรมชาติ และ Camping"
- หอมนสิการ "สักการะพระบรมสารีริกธาตุ 18 พระองค์ พระพุทธรูปพระบรมโลกนาถปิดทองคำแท้เนื้อสัมฤทธิ์ และเข้าชมนิทรรศการเส้นทางเดินของพระพุทธเจ้า"
สถานีปากช่อง 🏕️🌳🐘
- บ่อน้ำผุดธรรมชาติ "บ่อน้ำผุดธรรมชาติสีฟ้าเขียวมรกตใสสะอาด"
- อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ "อุทยานแห่งชาติแห่งแรกของไทย พื้นที่มรดกโลกทางธรรมชาติ (World Heritage Site) และอุทยานมรดกแห่งอาเซียน (ASEAN Heritage Park)"
สถานีนครราชสีมา 🏙
- อนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี (ย่าโม) "สักการะท้าวสุรนารี"
- วัดศาลาลอย "สักการะพระยาสุริยเดช"
สถานีบัวใหญ่ 🛤️
- เกาะกลางบึงบัวใหญ่ "สัมผัสอากาศหนาว ชมความสวยงามทางธรรมชาติ"
สถานีบ้านไผ่ 🚝
- วัดจันทรประสิทธิ์ ”สักการะเจ้าคุณพระธรรมสารเถระ"
สถานีขอนแก่น 🚝🏫🦖
- พระมหาธาตุแก่นนคร “สักการะพระบรมสารีริธาตุ องค์พระธาตุ 9 ชั้น”
- บึงแก่นนคร "แหล่งโอโซนใจกลางเมืองขอนแก่น อนุสาวรีย์เจ้าเพียงเมืองแพน"
สถานีอุดรธานี 🚅
- วัดโพธิสมภรณ์ “สักการะพระพุทธรัศมี"
- ทะเลบัวแดง “ชมทุ่งบัวแดง”
สถานีหนองคาย 🌉
- สะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 1 "สะพานข้ามแม่น้ำโขงตอนล่างขนาดใหญ่แห่งแรก เชื่อมระหว่างหนองคาย ประเทศไทย กับนครหลวงเวียงจันทน์ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว"
- พระธาตุหล้าหนอง "สักการะพระธาตุเก่าแก่กลางลำน้ำโขง"
https://www.facebook.com/DRT.OfficialFanpage/posts/1037050001952795

[Wisarut]

บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) โครงการความร่วมมือระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยและรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ในการพัฒนาระบบรถไฟความเร็วสูงเพื่อเชื่อมโยงภูมิภาค ช่วงกรุงเทพมหานคร - หนองคาย (ระยะที่ 1 ช่วงกรุงเทพมหานคร - นครราชสีมา) งานสัญญาที่ 4-4 งานโยธาสำหรับศูนย์ซ่อมบำรุงเชียงรากน้อย (J.2511)
รายละเอียดโครงการ
1. ทางรถไฟระดับพื้นในศูนย์ซ่อมบำรุง (งานโยธา)
2. งานอาคารภายในศูนย์ซ่อมบำรุง จำนวน 41 หลัง 28 ชนิดอาคาร ประกอบไปด้วย
- อาคารระบบซ่อมบำรุงขบวนรถไฟ 26 อาคาร
- อาคารควบคุมระบบการจัดการเดินรถและฝึกอบรม 5 อาคาร
- อาคารสำหรับซ่อมบำรุงทาง 10 อาคาร
3. งานก่อสร้างถนน งานระบบระบายน้ำ งานรื้อย้ายระบบสาธารณูปโภคต่างๆ และงานอื่นๆที่เกี่ยวข้องสำหรับโครงการ
ความคืบหน้าโครงการ ณ ปัจจุบัน 45.161 %
https://www.facebook.com/itdho/posts/1066594605608679

[Mongwin]

เดินหน้าไม่หยุด! ความคืบหน้าสัญญา 3-1 โครงสร้างรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน เดินหน้าอย่างต่อเนื่อง 
นิกเกิ้ล พาทัวร์ (Train Thailand)
Jul 9, 2025


https://www.youtube.com/watch?v=ExhDUPEfviw

[Mongwin]

กสม.ชี้ทำEIAโครงการรถไฟความเร็วสูงกทม.-โคราชช่วงชุมทางบ้านภาชี ขาดการมีส่วนร่วมส่อละเมิดสิทธิ
ผู้จัดการออนไลน์ 9 ก.ค. 2568 16:14

กสม.ชี้การจัดทำ EIAโครงการรถไฟความเร็วสูง กรุงเทพฯ - นครราชสีมา (ช่วงชุมทางบ้านภาชี - นครราชสีมา) ขาดการมีส่วนร่วมของประชาชนเข้าข่ายละเมิดสิทธิมนุษยชน ชงคมนาคม-รฟท. ทบทวนรูปแบบการก่อสร้าง

วันนี้ (9ก.ค.) นายจุมพล ขุนอ่อน รองเลขาธิการคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ เปิดเผยว่า คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ได้รับเรื่องร้องเรียนเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2567 ระบุว่า ประชาชนในพื้นที่อำเภอหนองแซง จังหวัดสระบุรี ที่อาศัยอยู่ในรัศมี 1 - 2 กิโลเมตร จากโครงการรถไฟความเร็วสูง สายกรุงเทพฯ - นครราชสีมา (ช่วงชุมทางบ้านภาชี - นครราชสีมา) เขตพื้นที่อำเภอหนองแซง จังหวัดสระบุรี รวมระยะทาง 7.02 กิโลเมตร ไม่ได้รับทราบรายละเอียดข้อมูลโครงการฯ และไม่ได้รับเชิญในฐานะผู้มีส่วนได้เสียหลักโดยตรงเข้าร่วมแสดงความคิดเห็นเพื่อจัดทำรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม หรือ รายงาน EIA โดยจากรายงานดังกล่าวพบข้อมูลผู้เข้าร่วมประชุมกลุ่มย่อย เมื่อช่วงเดือนเมษายน 2556 ซึ่งเป็นประชาชนทั่วไปเพียงไม่กี่คนเท่านั้น จึงไม่ถือว่าเป็นตัวแทนของประชาชนในพื้นที่ ผู้ร้องเห็นว่า การจัดทำรายงาน EIA ไม่เป็นไปตามขั้นตอนที่กฎหมายกำหนดและขาดการมีส่วนร่วมของประชาชนอย่างแท้จริง อีกทั้ง หากการรถไฟแห่งประเทศไทย ผู้ถูกร้อง ยังคงยืนยันก่อสร้างตามแบบเดิมคือ คันทางรถไฟระดับดินสูง 6.50 เมตร ระยะทางราว 7 กิโลเมตร จะส่งผลให้ประชาชนในพื้นที่ได้รับความเดือดร้อนทำให้สภาพความเป็นอยู่ต้องเปลี่ยนแปลง การเดินทางยากลำบากขึ้น และได้รับผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม จึงขอให้ตรวจสอบ

กสม. ตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้วรับฟังได้ว่า การรถไฟแห่งประเทศไทย หรือ รฟท. ผู้ถูกร้องได้รับมอบหมายจากรัฐบาลให้เป็นผู้รับผิดชอบดำเนินโครงการตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม 2560 โดยมีสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) เป็นผู้ออกแบบโครงการรถไฟความเร็วสูงตั้งแต่เริ่มต้น โครงการดังกล่าวได้รับการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) 2 ช่วง ได้แก่ ช่วงการออกแบบโครงการเมื่อปี 2556 โดย สนข. เป็นผู้รับผิดชอบ ซึ่งได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติแล้ว เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน 2560 และช่วงเปลี่ยนแปลงแบบโครงการเมื่อปี 2563 โดย รฟท. เป็นผู้รับผิดชอบ ซึ่งได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติแล้ว เมื่อวันที่ 23 ตุลาคม 2563

และ เมื่อพิจารณาถึงการมีส่วนร่วมของประชาชนในพื้นที่อำเภอหนองแซง พบว่า รฟท.ได้ลงพื้นที่ประชาสัมพันธ์โครงการ เมื่อวันที่ 4 เมษายน 2565 ซึ่งปรากฏข้อเท็จจริงว่า ประชาชนในพื้นที่อำเภอหนองแซงเพิ่งทราบรายละเอียดรูปแบบการก่อสร้างโครงการดังกล่าวเป็นครั้งแรก และได้คัดค้านเกี่ยวกับรูปแบบการก่อสร้างแบบคันทางรถไฟระดับดินเนื่องจากข้อห่วงกังวลเกี่ยวกับผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมและด้านวิถีชีวิตของชุมชน เช่น มลพิษ ฝุ่น เสียง การแบ่งแยกชุมชนออกเป็นสองฝั่ง การบดบังทัศนียภาพ แสงแดดและทิศทางลม และการเปลี่ยนทิศการระบายน้ำที่อาจทำให้เกิดน้ำท่วมขัง แต่ผู้ถูกร้องไม่สามารถปรับรูปแบบตามที่ประชาชนในพื้นที่เสนอได้ด้วยข้อจำกัดด้านงบประมาณการก่อสร้าง ข้อพิพาทเกี่ยวกับรูปแบบการก่อสร้างโครงการช่วงพื้นที่อำเภอหนองแซงจึงยังไม่อาจยุติได้ ในขณะที่รายงาน EIA ของโครงการได้รับความเห็นชอบแล้ว

ส่วนการดำเนินงานของ สนข. ในกระบวนการจัดทำรายงาน EIA ฉบับแรก ที่ได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการสิ่งแวดลอมแห่งชาติแล้วนั้น ปรากฏว่า การประชาสัมพันธ์โครงการมีเพียงการติดป้ายประชาสัมพันธ์ที่สถานีรถไฟหนองแซง และในการจัดประชุมกลุ่มย่อยในพื้นที่อำเภอหนองแซง 1 ครั้ง เพื่อประชาสัมพันธ์โครงการให้ประชาชนทราบ เมื่อวันที่ 5 เมษายน 2556 นั้น มีผู้เข้าร่วม 38 คน เป็นประชาชนทั่วไปเพียง 2 คน ซึ่งไม่ได้สัดส่วนกับจำนวนประชาชนที่มีอยู่ราว 247 ครัวเรือนในพื้นที่โครงการและพื้นที่ใกล้เคียงในระยะ 500 เมตร แม้ต่อมา เมื่อวันที่ 12 มิถุนายน 2556 สนข. ได้จัดประชุมรับฟังความคิดเห็นของประชาชน ครั้งที่ 2 เพื่อสรุปผลการศึกษาโครงการ ก็ไม่ปรากฏว่ามีประชาชนในพื้นที่อำเภอหนองแซงเข้าร่วมด้วย เนื่องจากไม่ได้รับทราบการประชาสัมพันธ์ให้เข้าร่วม ประชาชนในพื้นที่อำเภอหนองแซงจึงได้รับทราบรายละเอียดของโครงการเป็นครั้งแรกเมื่อปี 2565 ที่การรถไฟแห่งประเทศไทย (ผู้ถูกร้อง) ลงพื้นที่ประชาสัมพันธ์โครงการ ดังที่ได้กล่าวไปแล้ว

กสม. จึงเห็นว่า ประชาชนในพื้นที่อำเภอหนองแซงไม่ได้มีส่วนร่วมในกระบวนการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมตั้งแต่เริ่มต้น จนถึงกระบวนการจัดทำรายงานการเปลี่ยนแปลงรายละเอียดโครงการใน EIA ฉบับแรกของผู้ถูกร้อง ประชาชนในพื้นที่อำเภอหนองแซงก็ยังคงไม่ได้เข้าไปมีส่วนร่วมในกระบวนการจัดทำ EIA อยู่เช่นเดิม และได้รับทราบรายละเอียดของโครงการจากผู้ถูกร้องเป็นครั้งแรกภายหลังจากที่ EIA ทั้ง 2 ฉบับได้รับความเห็นชอบแล้ว ดังนั้น ประชาชนในพื้นที่ไม่สามารถให้ความเห็นและเสนอแนวทางในการแก้ปัญหาของชุมชนที่เหมาะสมเพื่อเป็นข้อมูลในการพัฒนาโครงการได้ จึงไม่สอดคล้องตามประกาศสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เรื่อง แนวทางการมีส่วนร่วมของประชาชนในกระบวนการจัดทำรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม จึงส่งผลให้เกิดข้อพิพาทและข้อห่วงกังวลเกี่ยวกับรูปแบบการก่อสร้างคันทางรถไฟระดับดินที่ผ่านพื้นที่อำเภอหนองแซง รวมระยะทาง 7.02 กิโลเมตร ขึ้นตามที่มีการร้องเรียน และส่งผลกระทบต่อสิทธิของชุมชนและบุคคลในการรับทราบข้อมูลข่าวสาร รวมทั้งสิทธิที่จะได้รับข้อมูล คำชี้แจง ก่อนการดำเนินการที่อาจส่งผลกระทบต่อทรัพยากรธรรมชาติ คุณภาพสิ่งแวดล้อม และคุณภาพชีวิต จึงรับฟังได้ว่า รฟท. มีการกระทำหรือละเลยการกระทำอันเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชน

ที่ประชุมกสม.วันที่ 3 กรกฎาคม 2568 จึงมีมติให้มีข้อเสนอแนะแนวทางในการป้องกันหรือแก้ไขการละเมิดสิทธิมนุษยชนไปยังกระทรวงคมนาคม ให้ร่วมกับการรถไฟแห่งประเทศไทย (ผู้ถูกร้องนำความเห็นและข้อเสนอแนะของประชาชนในพื้นที่อำเภอหนองแซงเกี่ยวกับรูปแบบการก่อสร้างโครงการแบบทางรถไฟยกระดับ มาประกอบการพิจารณารูปแบบการก่อสร้างโครงการช่วงพื้นที่อำเภอหนองแซง จังหวัดสระบุรี โดยให้จัดประชุมรับฟังความเห็นจากผู้เชี่ยวชาญและนักวิชาการอิสระในด้านต่าง ๆ เช่น ด้านวิศวกรรมโยธา ด้านสิ่งแวดล้อม ด้านชุมชน อย่างรอบด้าน รวมถึงให้คำนึงถึงสิทธิของประชาชนในพื้นที่ในการดำรงชีวิตในสิ่งแวดล้อมตามมาตรฐานสูงสุดเท่าที่เป็นไปได้แล้วเสนอให้กระทรวงคมนาคมพิจารณาต่อไป

นอกจากนี้ยังมีข้อเสนอแนะในการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชนให้การรถไฟแห่งประเทศไทย และ สนข. จัดให้มีการตรวจสอบความเสี่ยงด้านสิทธิมนุษยชนอย่างรอบด้าน และมีการเยียวยาความเสียหายที่อาจเกิดจากการดำเนินการ รวมทั้งจัดให้มีมาตรฐานการดำเนินงานและช่องทางการรับเรื่องร้องเรียนให้แก่ผู้ที่ได้รับผลกระทบตามหลักการชี้แนะของสหประชาชาติว่าด้วยธุรกิจกับสิทธิมนุษยชน (UNGPs) และให้นำรายงานผลการตรวจสอบฉบับนี้ไปใช้ประกอบการทบทวนกระบวนการดำเนินการด้านการมีส่วนร่วมจากประชาชนในโครงการอื่น ทั้งที่อยู่ระหว่างดำเนินการและโครงการอื่นในอนาคต เพื่อให้เกิดกระบวนการมีส่วนร่วมกับประชาชนอย่างแท้จริงโดยให้คำนึงรวมถึงหลักการพื้นฐานของการจัดการการมีส่วนร่วมของประชาชนตามประกาศสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เรื่อง แนวทางการมีส่วนร่วมของประชาชนในกระบวนการจัดทำรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม พ.ศ. 2566


Human Rights Commission Finds Public Participation Lacking in High-Speed Rail EIA

**Bangkok, Thailand – July 9, 2025** – The National Human Rights Commission (NHRC) has ruled that the Environmental Impact Assessment (EIA) for the Bangkok-Nakhon Ratchasima high-speed rail project (specifically the 구간 from Ban Phachi Junction to Nakhon Ratchasima) **lacked genuine public participation, potentially violating human rights.**

The NHRC's Deputy Secretary-General, Jumpon Khun-on, announced today that the commission received a complaint in November 2024. Residents of Nong Saeng District, Saraburi Province, living within 1-2 kilometers of the 7.02-kilometer section of the railway, claimed they were unaware of project details and were not invited to participate in the EIA process as direct stakeholders. The initial EIA report from April 2013 showed only a few general public members at subgroup meetings, which the complainants argued did not adequately represent the local population. They asserted that the EIA process did not follow legal procedures and lacked true public involvement. Furthermore, they expressed concerns that the State Railway of Thailand (SRT) persisting with the original design of a 6.50-meter high ground-level embankment for approximately 7 kilometers would significantly impact their livelihoods, make travel difficult, and cause environmental issues.

### Investigation Findings

The NHRC's investigation confirmed that the SRT was assigned responsibility for the project by a Cabinet resolution on July 11, 2017. The Office of Transport and Traffic Policy and Planning (OTP) was initially responsible for the project's design and the first EIA, which was approved in 2017. A subsequent EIA for design changes in 2020, led by the SRT, was also approved.

However, the investigation revealed that local residents in Nong Saeng District were only informed of the project's design on April 4, 2022, when the SRT conducted public relations activities. At this point, residents immediately objected to the ground-level embankment design due to concerns about environmental impacts (pollution, dust, noise), community division, obstruction of views, sunlight, wind, and potential changes in water drainage leading to flooding. Despite these concerns, the SRT stated budgetary constraints prevented design modifications.

The NHRC found that during the initial EIA process conducted by the OTP, public outreach was limited to a single billboard at Nong Saeng train station. A subgroup meeting on April 5, 2013, to inform the public had only 38 attendees, with just two members of the general public. This number was disproportionate to the approximately 247 households in the project and surrounding areas within 500 meters. Even a second public hearing on June 12, 2013, aimed at summarizing the project study, saw no participation from Nong Saeng residents as they were not adequately informed. Consequently, residents only learned about the project's details for the first time in 2022, after both EIAs had already been approved.

### NHRC's Conclusion and Recommendations

The NHRC concluded that the residents of Nong Saeng District were **not genuinely involved in the environmental impact assessment process from the beginning**, nor were they included in the process for subsequent design changes. This lack of participation meant residents could not provide input or propose suitable solutions for their community's problems, which is inconsistent with the guidelines for public participation in EIA reports set by the Office of Natural Resources and Environmental Policy and Planning.

This failure resulted in disputes and concerns regarding the 7.02-kilometer ground-level embankment design and infringed upon the community's and individuals' **rights to information and the right to receive information and explanations before actions that could affect natural resources, environmental quality, and quality of life.** Therefore, the NHRC found the SRT's actions or inactions constituted a **human rights violation.**

On July 3, 2025, the NHRC passed a resolution recommending that the **Ministry of Transport, in conjunction with the SRT, reconsider the project's design for the Nong Saeng District section.** They suggest incorporating public feedback and proposals for an elevated railway design. This should involve comprehensive consultations with independent experts and academics in fields such as civil engineering, environmental science, and community planning, while also considering the residents' right to live in the highest possible environmental standards.

Furthermore, the NHRC recommended that the SRT and OTP **conduct comprehensive human rights risk assessments** for all projects, provide **remedies for potential damages**, establish **operational standards**, and create **channels for complaints** in line with the UN Guiding Principles on Business and Human Rights (UNGPs). They also advised using this investigation report to **review public participation processes in current and future projects** to ensure genuine public involvement, adhering to the fundamental principles of public participation outlined in the 2023 guidelines from the Office of Natural Resources and Environmental Policy and Planning.