View previous topic :: View next topic |
Author |
Message |
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 43962
Location: NECTEC
|
Posted: 08/06/2006 12:38 am Post subject: คมนาคมฟื้นรถไฟรางคู่เชื่อมหัวเมือง |
|
|
คมนาคมฟื้นรถไฟรางคู่เชื่อมหัวเมือง
"เพ้ง"ดันแผนปฏิรูปขนส่งสาธารณะทั้งระบบ
ข่าสวสด - 3 มิถุนายน 2549
นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล รมว.คมนาคม เปิดเผยว่า กระทรวงคมนาคมเสนอต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)ในการประชุมนัดพิเศษเมื่อวันที่ 2 มิ.ย. เพื่อปฏิรูปโครงการรถไฟรางคู่เพื่อให้เกิดความสะดวกรวดเร็วในการขนส่งสินค้ามากยิ่งขึ้น โดยเสนอให้มีการเปลี่ยนแปลงระบบการเดินรถไฟ จากเดิม Middle gauge เป็น Standard guage เนื่องจากระบบรถไฟที่ใช้ในปัจจุบัน เป็นรถไฟ ที่ไม่สามารถสนองต่อความต้องการในการขนส่งสินค้าได้ เพราะเป็นรถไฟที่วิ่งในความเร็วไม่เกิน 40 กิโลเมตร/ ชั่วโมง และเป็นระบบรางเดียว ที่ต้องใช้เวลาในการสับเปลี่ยนรางวิ่ง ทำให้ไม่เป็นที่นิยมของผู้ประกอบการ ขณะที่ระบบรางคู่จะสามารถแก้ไขปัญหาเหล่านี้ได้ เนื่องจากไม่ต้องเสียเวลาในการสับเปลี่ยนราง และสามารถจะส่งสินค้าได้คราวละมาก ๆ อีกทั้งยังสามารถใช้ความเร็วได้มากกว่า 150 กิโลเมตร/ชั่วโมง
นายพงษ์ศักดิ์ กล่าวว่า ครม.เห็นชอบให้เร่งศึกษาความเป็นไปได้ในโครงการดังกล่าว ในเบื้องต้น กระทรวงคมนาคมจะเน้นศึกษาในเส้นทางที่เป็นหัวเมืองใหญ่ ๆ อาทิเช่น กรุงเทพฯ-ประจวบคีรีขันธ์ , กรุงเทพฯ-นครราชสีมา และกรุงเทพฯ-นครสวรรค์ ปัจจุบันโครงข่ายรถโดยสารประจำทางที่ให้บริการยังไม่เป็นระบบ ขาดการเชื่อมต่อและการแข่งขันด้านบริการ ส่งผลให้การขนส่งไม่สามารถตอบสนองต่อความต้องการในการเดินทางของประชาชนได้ คมนาคมจึงเสนอแนวทางในการปฏิรูประบบขนส่งสาธารณะเพื่อขอความเห็นชอบจากครม. โดยมีการปรับเส้นทางการให้บริการของ ขสมก.ใหม่ เนื่องจากการกำหนดเส้นทางในปัจจุบันเป็นการเสนอขอสัมปทานจากผู้ประกอบการเอกชนเป็นหลัก บางเส้นทางเกิดปัญหาวิ่งทับเส้นทางกันอยู่ นอกจากนี้ยังได้เสนอให้มีการเปิดเสรีในการให้บริการ โดยการให้ยกเลิกมติ ครม.21 ต.ค.2502 และมติ ครม. 11 ม.ค. 2526 ด้วย
"ผมเสนอให้มีการยกเลิกมติครม. ที่ให้สิทธิในการเดินรถประจำทางในเขตกรุงเทพฯ แก่ ขสมก. และสิทธิในการเดินรถระหว่างกรุงเทพฯกับต่างจังหวัดแก่ บขส.เพียงรายเดียว ซึ่งจะส่งผลให้ บขส.และขสมก. มีฐานะและสิทธิเช่นเดียวกับผู้ประกอบการเอกชนรายอื่น ๆ คงสถานะเป็นรัฐวิสาหกิจ ดูแลโครงข่ายเดิมจนกระทั่งหมดอายุใบอนุญาต และเสนอปรับโครงสร้างการบริหารกิจการขนส่งสาธารณะ โดยแยกบทบาทการเป็น Regulator และ Operator ออกจากกันอย่างชัดเจน โดยเน้นปรับเส้นทาง (Rerouting)ใหม่ โดยให้กรมการขนส่งทางบก (ขบ.) ทำหน้าที่เป็น Regulator เพื่อให้การปรับเส้นทางการให้บริการของ ขสมก.เกิดความสอดคล้องกับระบบขนส่งสาธารณะอื่นๆ" นายพงษ์ศักดิ์ กล่าว
ทั้งนี้ สาเหตุที่ต้องเร่งเสนอให้มีการยกเลิกมติ ครม.ทั้ง 2 ครั้ง เป็นเพราะมติ ครม.ดังกล่าว ทำให้กรมการขนส่งทางบก (ขบ.) ยังคงต้องออกใบอนุญาตให้ บขส.และ ขสมก. แม้จะมีผู้กระทำผิดก็ตาม สำหรับมติครม.เดิม 2 ครั้ง ประกอบด้วย การให้ บขส.รับผิดชอบการเดินรถโดยสารต่างจังหวัดทั้งหมด โดยรับรถเอกชนที่เดินอยู่เดิมเข้าร่วม และขสมก.เป็นผู้รับใบอนุญาตประกอบการขนส่งด้วยรถโดยสารประจำทางหมวด 1 และ 4 ในเขตกทม. รวมทั้งเส้นทางเชื่อมติดต่อระหว่างกทม.กับนนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ
นายไมตรี ศรีนราวัฒน์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร กล่าวว่า นายกฯได้แสดงควมเป็นห่วงประชาชน และให้องค์การขนส่งมวลชน (ขสมก.) จำหน่ายตั๋วรถเมล์ ขสมก.ในราคาพิเศษให้กับประชาชน แบ่งเป็นราคาตั๋วรถธรรมดา ไม่ปรับอากาศ 300 บาท/เดือน และตั๋วราคา 500 บาท/เดือนสำหรับรถปรับอากาศ โดยให้ขสมก.รับภาระต้นทุนการจำหน่ายตั๋ว เนื่องจากตั๋วราคา 300 บาทจะมีต้นทุนอยู่ที่ 500 บาท และตั๋วราคา 500 บาท มีต้นทุนอยู่ที่ 700 บาท วัน 8 มิ.ย.49 ขสมก.จะมีการประชุมกำหนดแนวทางอีกครั้ง
หน้า 9< |
|
Back to top |
|
|
black_express
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/03/2006 Posts: 10060
Location: อุตรดิตถ์ - กรุงเทพฯ
|
Posted: 08/06/2006 9:13 am Post subject: |
|
|
Wisarut wrote: | โดยเสนอให้มีการเปลี่ยนแปลงระบบการเดินรถไฟ จากเดิม Middle gauge เป็น Standard guage |
Meter guage หรือเปล่า ? คุณวิศรุต ฝันตาเพ้งคราวนี้น่ะ |
|
Back to top |
|
|
pattharachai
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 6536
Location: ราชอาณาจักรไทย
|
Posted: 09/06/2006 9:29 pm Post subject: |
|
|
คงต้องรอจนหลานบวชหละครับ กว่าจะได้เรื่อง _________________
|
|
Back to top |
|
|
nathapong
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/03/2006 Posts: 3515
Location: Ayuthaya - Lamlukka - Navanakhon - Silom
|
Posted: 10/06/2006 7:41 pm Post subject: |
|
|
pattharachai wrote: | คงต้องรอจนหลานบวชหละครับ กว่าจะได้เรื่อง |
ตกลงว่าหาแม่ของลูกได้แล้วเรอะ น้อยบอย.... อิอิ.... |
|
Back to top |
|
|
nathapong
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/03/2006 Posts: 3515
Location: Ayuthaya - Lamlukka - Navanakhon - Silom
|
Posted: 11/06/2006 12:20 pm Post subject: |
|
|
ที่มา
เรื่องรถไฟระหว่างเมือง ที่เป็นรางคู่ ด้วยระบบไฟฟ้า ภายใต้กการกำกับของรฟท.
จากมติครม ที่ ก.คมนาคม โดย สนข เป็นแกนร่วมกับสภาพัฒน์
เริ่มมีการแบ่งพันธกิจออกมาการขนคน โดยเฉพาะระบบราง
คือ รฟม จะรับผิดชอบในเขต กทม และปริมณฑล ใน พท. ที่ รฟท ไม่มีแนวที่ดินในการก่อสร้าง
งบภายใต้ กรอบ ของรฟม ที่เป็น การบริหารกึ่งเอกชน
ในการจัดหา บ.ร่วมทุนได้สะดวก แต่กำหนดการเชื่อมต่อระหว่างเส้นทาง
ในระบบตั๋วและจุดเชื่อมต่อ ที่ไม่ภาระกับประชาชน
ส่วน รฟท มีความชัดเจน
จะเริ่มต่อจากสายแอร์พอรต์ลิงค์ มายังดอนเมืองถึงเชียงราก แต่โครงการสุดสายที่ภาชี
สายใต้ไปถึงศาลายา และสุดทางที่นครปฐม
สายตะวันออก สุวรรณภูมิ สุดสายถึง ฉะเชิงเทรา
ความกว้างของรางมาตรฐานและไฟฟ้าเป็นแบบ เดียวกับสุวรรณภูมิ
คาดว่า ระบบทั้งหมด น่าจะเป็นเทคโนโลยีจากยุโรบ คือเยอรมันเป็นหลัก
แต่ตอนนี้ ทางญี่ปุ่นต้องการ งานในส่วนที่เหลือ ทั้งหมด คาดว่าในระยะเวลาอีกไม่นาน
หลังจากการจัดตั้งรัฐบาลใหม่แล้ว การล้อบบี้ในส่วนนี้ฝุ่นตลบแต่นอน |
|
Back to top |
|
|
pattharachai
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 6536
Location: ราชอาณาจักรไทย
|
Posted: 11/06/2006 8:41 pm Post subject: |
|
|
nathapong wrote: | pattharachai wrote: | คงต้องรอจนหลานบวชหละครับ กว่าจะได้เรื่อง |
ตกลงว่าหาแม่ของลูกได้แล้วเรอะ น้อยบอย.... อิอิ.... |
ก็ยังไม่มีหรอกครับป๋า ก็ถึงได้บอกว่าต้องรอให้หลานบวช ซึ่งคงต้องรออีกนานนนนนมากๆๆๆๆ _________________
|
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 43962
Location: NECTEC
|
Posted: 22/07/2006 10:23 pm Post subject: |
|
|
คค.จัดงบหนุนโลจิสติกส์2แสนล. +เน้นผุดรถไฟทางคู่-มอเตอร์เวย์เชื่อมภาคอีสาน ใน 5 ปี
ตัดทิ้งแผนสร้างไอซีดี
ฐานเศรษฐกิจ 23-26 กรกฎาคม 2549
คมนาคม จัดแผนลงทุนลอจิสติกส์ ในระยะ 5 ปี ปรับโหมดขนส่งทางรางและทางน้ำเป็นหลัก ปรับถนนเป็นทางเลือกรอง ทุ่ม 2 แสนล้าน ผุดทางรถไฟทางคู่มอเตอร์เวย์ เชื่อมภาคอีสาน และพัฒนาท่าเรือสำคัญๆ โละทิ้งแผนก่อสร้าง ICD ลาดกระบัง และจุดอื่นๆ
ดร.จุฬา สุขมานพ หัวหน้ากลุ่มพัฒนาการขนส่งต่อเนื่องหลายรูปแบบ สำนักงานปลัดกระทรวงคมนาคม (สปค.) เปิดเผย "ฐานเศรษฐกิจ" ถึงความคืบหน้าในการปรับเปลี่ยนแผนการพัฒนาระบบโลจิสติกส์ของกระทรวงฯ ให้สอดคล้องกับแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาโลจิสติกส์ของประเทศ (พ.ศ.2549-2553) ของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ขณะนี้จัดทำรายละเอียดแผนงานเสร็จเรียบร้อย และได้นำเสนอให้นายวันชัย ศารทูลทัต ปลัดกระทรวงคมนาคมพิจารณาแล้ว คาดว่าจะมีการเรียกทุกหน่วยงานในสังกัดกระทรวงฯ มาหารือร่วมกันในเร็วๆ นี้ เพื่อสรุปให้เป็นแผนการดำเนินงานที่ชัดเจน เตรียมเสนอให้รัฐบาลชุดใหม่พิจารณาต่อไป
สำหรับแผนงานที่ทบทวนใหม่นี้ ได้มีการตัดลดโครงการที่ซ้ำซ้อน และไม่จำเป็น รวมถึงไม่สอดคล้องกับแผนงานของสศช. ออกไป จนเหลือโครงการที่มีความสำคัญจริงๆ เพียง 105 โครงการ ซึ่งแบ่งเป็นโครงการที่เป็นประเภทของโครงสร้างพื้นฐาน อาทิ ท่าเรือ ทางรถไฟ ถนน ประมาณ 80 โครงการ ส่วนที่เหลือจะเป็นโครงการด้านการอำนวยความสะดวก ด้านพิธีการ ที่เสริมระบบลอจิสติกส์ให้มีความคล่องตัวมากขึ้น โดยทั้งหมดนี้มีมูลค่าในการลงทุนทั้งสิ้น 200,000 ล้านบาท มีระยะเวลาดำเนินการ 5 ปี คือจากปี 2550-2554
ดร.จุฬา กล่าวต่ออีกว่า ในแผนงานที่ทบทวนใหม่นี้ ได้มุ่งเน้นการพัฒนาให้การขนส่งทางรางและทางน้ำเป็นหลักสำคัญ โดยใช้ระบบถนนเป็นระบบรอง (Feeder) โดยเฉพาะอย่างยิ่งในแผนใหม่นี้ ได้ให้ความสำคัญต่อการก่อสร้างทางรถไฟ ซึ่งในแผนได้จัดเงินลงทุนสำหรับการก่อสร้างทางรถไฟไว้เป็นเงินประมาณ 120,000 ล้านบาท ส่วนที่เหลืออีก 80,000ล้านบาท เป็นการลงทุนในส่วนของการก่อสร้างทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (มอเตอร์เวย์) และโครงการอื่นๆ
โดยในส่วนของแผนการก่อสร้างทางรถไฟนั้น
1) ยังคงเน้นความสำคัญที่โครงการก่อสร้างทางรถไฟทางคู่ฉะเชิงเทรา-แหลมฉบังของรฟท. มูลค่า 5,233.65 ล้านบาท ซึ่งขณะนี้การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) กำลังดำเนินการเตรียมการประกวดราคาหาผู้รับเหมาก่อสร้างอยู่
2) อีกทั้ง ยังมุ่งเน้นที่จะสร้างทางคู่ต่อขยายจากฉะเชิงเทรา-แก่งคอย กับทางรถไฟคู่ แก่งคอย - ชุมทางจิระ และ
3) มีเส้นทางแยกจากบริเวณแก่งคอยไปบรรจบที่นครสวรรค์ อีกทางหนึ่งคู่ขนานกันไปด้วย
(น่าจะหมายถึงทางคู่ ลพบุรี - นครสวรรค์, ทางสาม บ้านภาชี - ลพบุรี และ ทางคอร์ดไลน์ บ้านภาชี - หนองแค -วิหารแดง แหง็มๆเด้อ )
นอกจากนั้นแล้ว ในส่วนของมอเตอร์เวย์ ก็ได้ให้ความสำคัญใน 2 เส้นทาง คือ
1) โครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (มอเตอร์เวย์) สายสระบุรี-นครราชสีมา (โคราช) มูลค่า 20,600 ล้านบาท และ
2) โครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง สายบางปะอิน-สระบุรี มูลค่า 3,800 ล้านบาท ซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของกรมทางหลวง (ทล.) ด้วย
"จะเห็นได้ว่าในแผนนี้มีการมุ่งเน้นเส้นทางที่เชื่อมต่อไปยังภาคอีสาน เนื่องจากต้องการให้มีทางลัดไปอีสานมากขึ้น เพราะเป็นแหล่งที่มีกำลังในการผลิตและบริโภคมาก อีกทั้งยังเป็นต้นทางในการขนส่งสินค้าที่สำคัญและมีปริมาณมากด้วย" ดร.จุฬา กล่าว
ขณะเดียวกันในส่วนของ การก่อสร้างท่าเรือ เพื่อรองรับการขนส่งสินค้าทางน้ำ ก็ยังคงได้รับความสำคัญ และมีหลายโครงการที่บรรจุอยู่ในแผนงานระยะ 5 ปีฉบับนี้ด้วย ไม่ว่าจะเป็น
1) โครงการก่อสร้างท่าเทียบเรือน้ำลึกปากบารา มูลค่า 5,500 ล้านบาท และ
2) โครงการก่อสร้างท่าเรือน้ำลึกสงขลา 2 และ
3) การก่อสร้างทางรถไฟ (ควนเนียง - ปากบารา? ท่าเรือสงขลา - ควนเนียง? ) และถนนที่เกี่ยวเนื่อง รวมมูลค่า 5,040 ล้านบาท
4) รวมถึงแผนการพัฒนาท่าเรือต่างๆ ก็ยังคงมีอยู่
อย่างไรก็ดี ในการทบทวนแผนงานครั้งนี้ ได้มีการตัดโครงการ โครงการศึกษาความเหมาะสมของสถานที่ก่อสร้าง สถานีบรรจุและแยกสินค้ากล่อง (ICD) แห่งที่ 2 มูลค่า 15 ล้านบาท แผนก่อสร้าง ICD ระยะที่ 2 ที่ลาดกระบัง มูลค่า 6,066 ล้านบาท รวมถึงโครงการก่อสร้าง ICD ตามที่ต่างๆ ออกไปจากแผนการดำเนินงาน
โดย หัวหน้ากลุ่มพัฒนาการขนส่งต่อเนื่องหลายรูปแบบ สปค. ได้ชี้แจงถึงเหตุผลที่ตัดทิ้งโครงการก่อสร้าง ICD ที่มีอยู่ออก ว่า เป็นเพราะเนื่องจากเห็นว่าในขบวนการด้านศุลกากร ที่ก่อนหน้านี้ดำเนินการภายในสถานี ICD นั้น สามารถดำเนินการได้ภายในโรงงานแล้วสามารถขนส่งไปยังจุดหมายปลายทางได้ในทันที จึงเห็นควรว่ารัฐบาลไม่จำเป็นที่จะต้องลงทุนก่อสร้าง ICD อีก ดังนั้นจึงควรตัดทิ้ง เพื่อนำงบประมาณไปใช้ในโครงการอื่น แต่หากหน่วยงานใดยังคงจำเป็นต้องใช้ หรืออยากที่จะมีสถานี ICD อยู่ ก็จะต้องดำเนินการในลักษณะที่ให้เอกชนเป็นผู้ลงทุน |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 43962
Location: NECTEC
|
Posted: 17/08/2006 11:58 pm Post subject: |
|
|
คค.เร่งสร้างระบบรางรถไฟขยายภาคขนส่งแก้ปัญหาวิกฤติน้ำมัน
โดย ผู้จัดการออนไลน์ 17 สิงหาคม 2549 16:33 น.
นายวันชัย ศารทูลทัต ปลัดกระทรวงคมนาคม กล่าวในการสัมมนา ทางเลือก ทางรอด ของภาคการขนส่งในการฝ่าวิกฤติพลังงาน ว่า ภาครัฐเตรียมระบบทำรางรถไฟ ซึ่งถือเป็นการจัดทำโครงสร้างพื้นฐานในการปรับปรุงแก้ไขปัญหาวิกฤติราคาน้ำมันขณะนี้ พร้อมจะมีการปรับปรุงระเบียบกฎหมายต่างๆ ที่มีความเข้มงวดให้ผ่อนคลายลง เพื่อช่วยระบบการขนส่งของประเทศให้ดีขึ้น โดยจะเน้นการประหยัดพลังงานของประเทศเป็นหลัก ในขณะนี้ภาครัฐและภาคเอกชนอยู่ระหว่างร่วมมือกัน คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในปีนี้
ปลัดกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า ยังมีการจัดทำแผนสร้างทางรถไฟ มีการขยายการเติบโตในส่วนของภาคอุตสาหกรรมภาคตะวันออก โดยจะวางแผนระบบรางรถไฟแก่งคอย 19 เพื่อนำสินค้าจากภาคตะวันออกเข้าสู่ตัวเมืองได้มากที่สุด |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 43962
Location: NECTEC
|
Posted: 19/09/2006 1:27 pm Post subject: |
|
|
ที่ประชุมสนข. บอกว่า จะให้ รฟท. เร่งทางคู่สายต่อไปนี้แม้จะเป็นทางคู่แบบ Loop Line ที่เป็นทางคู่เก๊ๆ ก็ตามที
1) นครสวรรค์ - บ้านภาชี - แก่งคอย
2) แก่งคอย - ปากช่อง - นครราชสีมา
3) ฉะเชิงเทราง ศรีราชา - แหลมฉบัง |
|
Back to top |
|
|
Schnellzug
3rd Class Pass
Joined: 03/07/2006 Posts: 170
Location: ศาลายา
|
Posted: 19/09/2006 9:16 pm Post subject: |
|
|
ประเทศไทย เพิ่งมาคิดได้นะคับ เห็นส่งเสริมเรื่องการใช้พลังงานน้ำมันมาก ส่งเสริมการสร้างถนนต่างๆ มากมาย แต่ไม่เคยสนใจเรื่องการขนส่งระบบรางเลยนะคับ เห็นที ครั้งนี้ คงจะไม่คว้าน้ำเหลวอีกนะคับ ขอให้โครงการต่างๆๆ ได้ทำเสียที แต่คงจะรออีกนานเลยหละคับ |
|
Back to top |
|
|
|