WARM THAI PARTY, WARM THAIS @SALAMANCA! ! !

[Aishwarya]

"ความอบอุ่นทางใจ" เป็นอะไรที่เกิดขึ้นได้เสมอๆ เลย เมื่อมีคนไทย (ในต่างแดน) อยู่รวมกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่ออยู่ต่างแดน (แม้จะกำลังอยู่ท่ามกลางกระแสข่าวบรรยากาศในประเทศไทยที่ร้อนระะอุเหมือนเพลิงผลาญใจ )

" ... มื้ออาหารกลางวันรสเลิศ กับการรวมตัวกันของเหล่านักเรียนไทย ชุมชนไทย ณ Salamanca (2010.03.13) ด้วยน้ำใจไมตรี และความสนุกสนานครื้นเครง"

สวัสดีค่ะ เพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ RFT ทุกคน ... ตามที่อิงกระแสความรัก ความผูกพันของเพื่อนร่วมชาติไปนั่นล่ะค่ะ ... เป็นประเด็นเล็กน้อยให้เราแสดงออกกันผ่านกระทู้นี้ซักนิดว่า "คนไทยไม่เคยทิ้งกัน" เมื่อมีนัด party รวมพลนักเรียนไทย ณ เมือง SALAMANCA [ซา ลา มาง ก้า] ซึ่งอยู่ไม่ไกลจาก Valladolid เลย โดยเดินทางลงทางทิศใต้ไปเพียง ๑ ชั่วโมงเศษๆ เท่านั้น (แอบคล้ายเชียงใหม่ - ลำปางอยู่นะ)

" ... ผัดผงกะหรี่รวมมิตร, หมูทอดกระเทียมพริกไทย, ลาบไก่อีสาน, ไก่ทอดทรงเครื่อง, sushi ทำเอง, ผีมือจากเหล่านักเรียนไทยใน Spain >> (จากซ้าย) หมูหยอง, น้อง-อ. ไพลิน, ไหม-อ. ภาสุรี, คุณแม่ของ Take ผู้เดินทางมาเยี่ยมลูกชาย ณ Spain, Take-นวมินทร์, นก-อ. เฟื่องเกษ, และ Tar-อ. เพ็ญพิสา"

จริงๆ แผนนี้เกือบจะไม่เกิดขึ้นแล้วล่ะค่ะ แต่เนื่องจากกว่าเพื่อนนักเรียนไทยคนหนึ่งของ Cherie เดินทางมาธุระเรื่องการประชุมด้านภาษาศาสตร์จาก Valencia และตอนที่เพื่อนคนดังกล่าวจะกลับ นางก็ชวนให้ไปเที่ยว Salamanca ด้วยกัน ก่อนจะแยกย้ายกันกลับถิ่นใครถิ่นมัน weekend trip ๒ วัน ๑ คืนนี้ เลยเกิดขึ้นแบบกระทันหันเลยทีเดียว

Cherie ตกปากรับคำทันทีค่ะ เพราะ Salamanca เป็นเมืองในฝันที่อยากไปเยือนมานานแสนนานเหลือเกิน สบโอกาสก็คราวนี้เอง ค่าเดินทางไป/กลับโดยรถ tour แสนถูก เพียงแค่ ๑๕ euros เท่านั้น ที่สำคัญที่สุด Salamanca มีดีเกินกว่าที่ใครจะรับรู้ได้ ฉะนั้นแล้ว Cherie ภูมิใจนำเสนอข้อดี (หลายๆ ประเด็น) ของ Salamanca ฝากยังเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ แห่งบ้านรถไฟไทยฯ ของเราค่ะ.

[tong_sanam]

อบอุ่นจริงๆ อาหารบางอย่างในรูป ผมเองยังหากินยากในเมืองไทยเลย
_________________


"ที่นี่สถานีชุมทางสนามชัยเขต
ท่านที่จะเดินทางไป จันทบุรี ตราด
โปรดข้ามไปรอการโดยสารในชานชาลาที่ 2"

[Aishwarya]

"SALAMANCA [ซา ลา มาง ก้า]" อยู่ที่ไหนเอ่ย ... ทำความรู้จัก Salamanca กันก่อนดีมั้ยคะ ... Salamanca เป็นเมืองสำคัญเมืองหนึ่งในแคว้น Castilla-Leon ที่ Cherie อาศัยอยู่นี่เองค่ะ แต่อยู่ห่างออกไปทางตะวันตกเฉียงใต้ (เล็กๆ) ของ Valladolid ลงไปราวๆ ๑๒๐ km. เท่านั้น และใช้เวลาการเดินทางราวๆ ๑ ชั่วโมงเศษๆ เท่านั้นเอง

Salamanca เป็นเมืองที่โดดเด่น "ระดับประเทศ" แม้จะเป็นเมืองที่ไม่ใหญ่โตอะไรเลย ... เหตุใดจึงเป็นเช่นนั้นคะ ... เพราะ Salamanca เป็นที่ตั้งของ "UNIVERSIDAD DE SALAMANCA (มหาวิทยาลัย Salamanca)" ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยที่เก่าแก่ที่สุดของ Spain ซึ่งหากจะกล่าวในแง่ความเก่าแก่ ในประเทศไทยมีจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยเป็นแม่แบบแห่งความเก่าแก่ฉันใด มหาวิทยาลัย Salamanca ก็คงระดับความเก่าแก่ และขลังฉันนั้นนั่นเองค่ะ ... นอกจากนี้ Salamanca ยังเป็นเมืองแห่งวิชาการ ตำนาน วรรณกรรม เรื่องเล่า นวนิยาย ... เรียกได้ว่าเป็นเมืองแห่ง "อักษรศาสตร์" โดยแท้จริง โดย guarantee ได้จากการได้รับเกียรติขึ้นแป้นเป็น "เมืองแห่งวัฒนธรรมแห่ง Europe" นับตั้งแต่ปี ๒๕๔๕ เป็นต้นมา!

Salamanca เป็นภาษาพื้นเมือง ซึ่งแปลว่า "เวทย์มนต์คาถา" เนื่องจากตามเรื่องเล่าสืบกันมาในอดีต มีตำนานไสยศาสตร์มากมายเกิดขึ้นที่นี่ มีเรื่องเล่าแห่งพ่อมด แม่มด อาถรรพณ์ต่างๆ นับสิบๆ เรื่องราว ... แม้กาลเวลาเปลี่ยนผัน และแนวคิดความเป็นสมัยใหม่ก้าวย่างสู่ตัวเมือง แต่ยังคงทิ้งร่องรอย การบอกเล่าสืบต่อกันนานแสนนานค่ะ

[pak_nampho]

เชอรี่...ไม่มีแกงโฮ๊ะในเมนูเลยอ่ะครับ...
_________________
+++++++++++++++++ ๑๑๖ ปี รถไฟไทยก้าวไกล....จากรถจักรไอน้ำ +++++++++++++++++

....................บุตร ครฟ. พขร.ตรี แขวงรถพ่วงปากน้ำโพ ...................

[Aishwarya]

หลังจากทานกลางวันกันเสร็จดีแล้ว พวกเราเหล่าผองเพื่อนก็ mouth mouth mouth mouth mouth mouth! ! ! (สังเกตว่าหลาย mouth มาก) ก็แน่นอนล่ะค่ะ ... คุยกันตั้งแต่ Cherie เดินทางไปถึง ราวๆ บ่ายโมง จนถึง ๕ โมงครึ่ง เราจึงออกจากบ้านของไหม ซึ่งใช้เป็นฐานที่ตั้งในการรับประทานอาหาร และการ mouth มอย เพื่อเยี่ยมชมความสวยงาม อลังการของ Salamanca ว่าถึงขนาดลงทะเบียนขึ้นเป็น "นครหลวงแห่งวัฒนธรรมของ Europe" นั้น จะวิเศษมากน้อยเพียงใด

จุดแรกที่เราสัมผัสกัน ก็คงจะเป็นที่นี่ล่ะค่ะ --->>> "CASA DE CONCHAS [กา ซ่า เด กน ชาส]" หรือแปลตรงตัวก็คือ "บ้านหอย" นั่นเอง! ! ... เนื่องจากว่าสถาปัตยกรรมแห่งนี้ เพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ จะสังเกตว่ามีการสร้างรูปหอยประดับประดารอบๆ ผนังอาคารเลยทีเดียวค่ะ ... ฝีมือการสร้างสถาปัตยกรรมแห่งนี้เป็นของ Rodrigo Arias de Maldonado ซึ่งเป็นวีรบุรุษผู้พิชิตหนทางสู่เมือง Santiago de Compostela ซึ่งได้รับการสร้างสรรค์เมื่อราวปลายศตวรรษที่ ๑๕ ค่ะ ที่แห่งนี้มีหอยมากกว่า ๓๐๐ ตัวทีเดียวนะคะ ... และทำไมต้องเป็นหอย เป็นสัตว์อย่างอื่นไม่ได้เหรอ? ปลา นก แมว สุนัข เก้ง กวาง? ? ? ทำไมล่ะ ... เรื่องของเรื่องคือว่า หอยเปรียบเสมือนเป็นสัญลักษณ์อันทรงคุณค่า เพื่อรำลึกถึง San Jaime de Santiago [ซาน ไฆ เม่ เด ซาน ติ อา โก้] นักบุญรูปหนึ่งซึ่งสำคัญมากของ Spain นั่นเองค่ะ.


เรามาสัมผัสกับจุดต่อไป ... เพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ อย่าคิดว่านี่คือโบสถ์ หรือศาสนสถานนะคะ ทว่า นี่แหล่ะค่ะ เป็นหนึ่งในขอบแตของรั้วมหาวิทยาลัยแห่ง Salamanca ค่ะ ... ก็เนื่องจากเป็นนครหลวงทางวัฒนธรรม ความสวยงามแบบ classic จึงบังเกิดกับมหาวิทยาลัยด้วย ... ระหว่างเที่ยวชม ไหมได้เล่าให้ Cherie ฟังค่ะว่าเป็นคณะหนึ่ง แต่ Cherie ลืมไปเสียแล้วว่าเป็นคณะอะไร แต่ที่แน่ๆ ไม่ลืมความสวยงามของอาคารคณะแห่งนี้แน่นอนค่ะ.


Spain ณ เวลานี้ กลางวันเริ่มจะยาวนานขึ้นแล้วล่ะค่ะ สังเกตว่าแม้จะเป็นเวลาบ่ายจัดๆ ราวๆ ๖ โมงเย็นได้ แต่ฟ้ายังเปิด ใสทีเดียว เป็นสัญญาณที่ดีค่ะ ว่าฤดูใบไม้ผลิใกล้เข้ามาเยือนทุกขณะแล้ว


อาคารคณะแห่งมหาวิทยาลัย Salamanca ไม่ใช่มีเพียงความสวยงามเท่านั้น แต่มีตำนานค่ะ เพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ทราบมั้ยคะว่า ลวดลายแกะสลักบริเวณท่เราพบเห็นนั้น มีรูปปั้นหัวกะโหลกประดับประดาอยู่ แต่เค้าว่ากันว่า บนหัวกะโหลกหนึ่ง เพรยงหนึ่งเดียวเท่านั้น จะมีกบอยู่บนนั้น ตามตำนานกล่าวว่าหากใครตาดี หากบเจอเอง ก็จะสมหวังในทุกด้านของชีวิตค่ะ ไม่ว่าจะเป็นการงาน ชีวิต ความรัก ฯลฯ ... ตอนแรก Cherie ก็ควานหา กวาดสายตาตั้งนานค่ะ พยายามไม่ให้เพื่อนๆ บอกตำแหน่ง จนในที่สุดก็เจอจนได้ กบอยู่ตรงนี้นี่เอง ... สาธุ! ! ได้มหาบัณฑิตไวๆ และต่อด้วยดุษฎีบัณฑิต (Ph. D.) ให้เร็วที่สุดทีเถอะ เพี้ยง! ! !

[Aishwarya]

เอากับเค้าสิ สมกับเป็นเมืองแห่งวัฒนธรรม วิชาการ และการเรียนรู้จริงๆ ... ที่คืออีกหนึ่งทัศนียภาพภายในอาณาเขตรอบรั้วมหาวิทยาลัย Salamanca ค่ะ ... นี่คือบริเวณลานกลางอาคารที่ทำการของมหาวิทยาลัย ... ถ้าเป็นเมืองอื่นๆ สถานที่อื่นๆ นักท่องเที่ยวคงจะไปที่อื่นๆ แต่ที่ Salamanca เราสามารถเที่ยวชมมหาวิทยาลัยเสมือน ๑ ใน tourist attractions ได้เลยค่ะ เพราะสวยงาม อลังการ สะท้อนศิลปะยุค ๕๐ ได้อย่างมีมนต์เสน่ห์มากๆ


ใจกลางสนามหญ้าที่บ่อน้ำโบราณอยู่ พร้อมฉากหลังของ Arco Romanico (โค้งวงกบยุค Roman อันสวยงาม) ... Cherie หลงรัก Salamanca ตั้งแต่แรกเหยียบย่างก้าวเข้ามาในตัวเมืองเลยทีเดียวค่ะ ... นี่เป็นครั้งแรกของ Cherie ด้วยนะคะ ที่ได้มาเยือน Salamanca แห่งนี้


เมืองทั้งเมืองจะบรรจงเขียนรายละเอียด สถานที่ อะไรต่างๆ นานา ด้วยอักษรโบราณแบบ Roman เช่นกัน ... ถ้าเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ สังเกตนะคะ ความเป็น Romanism ในยุคบุกเบิก จะไม่ใช่ตัว U เลย เค้าจะใช้ตัว V แทน ... เพราะฉะนั้น ใครเป็น fanclub ของสินค้าชื่อดัง "BVLGARI" คงหายสงสัยแล้วนะคะ ว่าทำไมเขียนอย่างนั้น ไม่ใช้ U แต่กลับเป็น V ใช้แทน ... นั่นเพราะเค้าต้องการสื่อให้เห็นถึงความโบราณ และขลังในด้านอักษรศาสตร์นั่นเองค่ะ ... สวยจริง อะไรจริงเนอะ

[Aishwarya]

ด้วยความที่เป็นเมืองมหาวิทยาลัย นี่ก็เป็นอีกหนึ่งความวิจิตรงดงาม เพราะคือ School of Hotel Management (โรงเรียนการโรงแรม) สังกัดมหาวิทยาลัย Salamanca ค่ะ ... แต่ปัจจุบันโรงเรียนได้ถูกแบ่ง share ร่วมกับศาลาว่าการของเมืองด้วย ... ก็นับเป็น ๑ ในสถานที่ที่สำคัญมากๆ ของเมืองค่ะ.


ถ้าเป็นช่วงฤดูใบไม้ผลินะคะ ที่แห่งนี้ก็พันธนาการรายล้อมด้วยพืชไม้เลื้อยสวยงามมากๆ เลยล่ะค่ะ ให้ sense ของที่แห่งความลี้ลับตามนวนิยายของตะวันตกยุคโบราณอะไรเยี่ยงนั้นเลย


ป้ายบ่งบอกชัดเจนค่ะ ว่าส่วนหนึ่ง share กับโรงเรียนการโรงแรม

[Aishwarya]

ระหว่างทางที่เราดำเนินไปเรื่อยๆ ใจกลางเมือง Salamanca เราก็ได้พบกับเสาใจกลางเมือง ณ ลานกว้างใจกลางเมืองอีกเช่นกันค่ะ ... ตามตำนานว่ากันว่า ในครั้นโบราณกาล ตามความเชื่อ ใครถูกตราหน้าว่าเป็น "แม่มด" เค้าก็จะทำพิธีเผานาง ณเสาตรงนี้แหล่ะค่ะ ... แหม! เรื่องผีๆ สางๆ นี่มีมันได้ทั่วโลกเลยเนอะ คงคล้ายๆ กับไทย ใครเป็นปอบ กระสือ อะไรทำนองนี้ ตามเข่นตามฆ่าไม่ให้เหลือซากเลยทีเดียว


กาลเวลาผ่านพ้นไป สถานที่แห่งนี้กลายเป็นที่หยุดนั่งพักผ่อนของประชาชน และนักท่องเที่ยวโดยทั่วไปค่ะ ... ขอสวมบทบาทเป็นแม่มดหน่อยนะคะ ... ใคร ใครหน้าไหนจะกล้าเผาเดี๊ยน! ! มา! ! เข้ามา! !

[Aishwarya]

จากเสาหลักที่ประกอบพิธีกรรมเผาร่างแม่มดในอดีตกาล เราจะละจากตรงนั้นไปสู่สถานที่ที่สำคัญอีกแห่ง นั่นคือการข้ามแม่น้ำสายสำคัญสายหลักของ Salamanca ซึ่งคือแม่น้ำ TORMES [โต ระ เมส] โดยเราจะข้ามสะพานโบราณแนว Romanism เพื่อชมความงดงามตามศิลปะ สถาปัตยกรรมที่วิจิตรตระการตากัน ซึ่งก่อนจะข้ามสะพานไป ก็ขอถ่ายภาพด้วยกันเป็นที่ระลึกซักหน่อย ... เป็นเกียรติมากๆ ค่ะ ที่ได้ประกบ ๒ อาจารย์สาวจากคณะอักษรศาสตร์ แห่งรั้วจามจุรี --->>> ขนาบด้วย ไหม-อ. ภาสุรี และ Tar-อ. เพ็ญพิสา คงค้องอวยพรอวยชัยให้เพื่อนทั้งสองสำเร็จการศึกษา ได้ Ph.D. กันในเร็ววันนี้ทั้งคู่นะจ๊ะ


ณ หัวมุมสะพาน ก็ยังมิวายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวค่ะ ... ที่เพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ รับชมอยู่นี้ เป็นอาคารที่ใช้เป็น location ในการถ่ายทำภาพยนตร์เรื่องหนึ่ง เมื่อหลายปีก่อน เป็นคล้ายๆ กับ ... อะไรดีนะ ... หากเปรียบเทียบกับของไทยแล้ว อาจจะ --->>> "โรงถ่ายลาดหลุมแก้ว" สังกัด "ดาราวิดิโอ" ปทุมธานี อะไรเทือกๆ นั้นล่ะค่ะ ... สวยงามนะคะ.


กำลังจะเดินข้ามสะพานอยู่แล้วเชียว โถ! เวรกรรม รูปปั้นราชสีห์กลับหัวขาดซะนั่น เลยกลายเป็นสัญลักษณ์เด่นให้ใครไปใครมา บันทึกภาพเก็บไว้ โดยมิได้ตั้งใจไปเลยค่ะ.

[Aishwarya]

ขณะนี้เรากำลังเดินข้ามสะพานโบราณยุค Romanism กันแล้วนะคะ แต่สิ่งที่ Cherie อดจะตะลึงกับความงามไม่ได้ นั่นคือ เมื่อหันหลังกลับไป ก็ได้พบเจอกับสถาปัตยกรรมออันดับ ๑ เลื่องชื่อแห่ง Salamanca นั่นคือ CATEDRAL NUEVA DE SALAMANCA [กา เต ดะ รัล นู เอ บ้า เด ซา ลา มาง ก้า] หรือ "โบสถ์ใหม่แห่ง Salamanca" นั่นเอง ... สวยงามจนแทบไม่น่าเชือว่า มนุษย์เราๆ สามารถสรรค์สร้างทุกอย่างได้ด้วยมันสมองจริงๆ ค่ะ.


ความงดงามของแม่น้ำ Tormes กับวันแดดจ้า แม้เวลาล่วงเลยมาราวทุ่มเศษๆ แล้ว ... ภาพนี้เป็นมุมมองจากสะพาน Roman ดังกล่าวที่พวกเราเดินกันมาค่ะ.


น้ำอันนิ่งสงบ ราวกับกระจกแก้ว สะท้อนความงามตามธรรมชาติราวกับใครคนหนึ่งสรรค์สร้าง ... สมแล้วค่ะ ที่ Salamanca ได้รับการยกย่องเป็น "นครหลวงมรดกแห่งวัฒนธรรมแห่ง Europe" ... ภาพดังกล่าวนี้ เป็นเครื่องประกันความงามได้เป็นอย่างดี โดยแทบไม่ต้องสรรหาคำพูดใดๆ มาบรรยายได้ ... Cherie ชอบรูปนี้มากๆ ค่ะ และหวังใจว่าเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ก็น่าจะชอบด้วยเช่นกัน จริงมั้ยคะ?