View previous topic :: View next topic |
Author |
Message |
BanPong1
1st Class Pass (Air)
Joined: 07/12/2006 Posts: 2733
Location: กม.37 สายเหนือ, กม.68 สายกาญจนบุรี
|
Posted: 16/11/2008 10:49 pm Post subject: สถานีรถไฟกันตัง |
|
|
จากหนังสือพิมพ์เดลินิวส์ วันที่ 16 พฤศจิกายน 2551
คอลัมน์สิ่งแวดล้อม-นานาสถาปัตย์
http://www.dailynews.co.th/web/html/popup_news/Default.aspx?Columnid=65859&Newstype=2&template=2
สถานีรถไฟกันตัง
อาทิตย์นี้ขอนำท่านผู้อ่านไปทัศนาสถาปัตย์โดยทางรถไฟ ซึ่งหลายคนคงยังไม่ลืมบรรยากาศของการนั่งรถไฟ หากมีโอกาสได้พาลูกหลานนั่งรถไฟบ้าง ก็นับเป็นการเที่ยวแบบประหยัดน้ำมันไม่เลว
เป้าหมายของเราไม่ได้อยู่เพียงแค่บรรยากาศของการนั่งรถไฟเท่านั้น แต่อยู่ที่ปลายทางรถไฟสายใต้ฝั่งทะเลอันดามัน ณ สถานีรถไฟกันตัง อำเภอกันตัง จังหวัดตรัง
สถานีรถไฟกันตัง เปิดใช้อย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2456 ในอดีตถูกใช้เป็นที่รับส่งสินค้ากับต่างประเทศ ทั้งสิงคโปร์ มาเลเซีย อินโดนีเซีย มีรางรถไฟต่อไปเป็นระยะทางประมาณ 500 เมตร จากตัวสถานีถึงท่าเทียบเรือกันตัง ซึ่งเป็นท่าเรือเก่าแก่ตั้งแต่โบราณ ปัจจุบันทางรถไฟส่วนนี้ถูกชาวบ้านรุกล้ำที่ และไม่มีรางรถไฟส่วนนี้แล้ว
จากความทรงจำของ อดีตวิศวกรรถไฟ ทำให้ได้ทราบว่าสินค้าสำคัญอย่างหนึ่งที่ขนส่งเข้ามา มีความหมายยิ่งต่อวงการรถไฟไทยยุคแรก ๆ นั่นคือหัวรถจักรรุ่นต่าง ๆ ตลอดจนโบกี้รถไฟที่ผลิตในต่างประเทศ เช่น สหรัฐอเมริกา อังกฤษ หรืออินเดีย โดย จะมาทางเรือและขึ้นเทียบท่าที่กันตัง ก่อนออกวิ่งบนรางรถไฟต่อมายังกรุงเทพฯ อีกที
เมื่อกาลเวลาผ่านไปเส้นทางในการส่งสินค้าแปรเปลี่ยนไปตามแหล่งผลิต เช่นการที่รถไฟหันไปสั่งหัวรถจักรมาจากญี่ปุ่น อาจเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้เส้นทางรถไฟฝั่งอันดามันที่ต่อเชื่อมไปยังท่าเรือกันตังถูกทิ้งร้างลงดังเช่นทุกวันนี้
ตัวสถานีรถไฟกันตัง เป็นอาคารไม้ชั้นเดียวทรงปั้นหยา ทาสีเหลืองมัสตาร์ดสลับน้ำตาล อันเป็นคู่สีหลักที่คุ้นตาของอาคารรถไฟทั่วไป ตัวอาคารแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ ส่วนตัวอาคารและชานชาลา ด้านหน้าของอาคารมีมุข ยื่น มีการตกแต่งประดับมุมเสาด้วย ลวดลายไม้ฉลุ
ส่วนตัว อาคารที่ทำเป็นห้อง มีผนังไม้ตีตามตั้งโชว์แนวเคร่า พร้อมช่องลมระแนงไม้ตีทแยง บานประตูหน้าต่างไม้แบบเก่า ส่วนที่เป็นโถงมีรั้วลูกกรงไม้พร้อมบานประตูขนาดเล็กน่ารักกั้นพื้นที่ให้เป็นสัดส่วน ส่วนด้านหลังอาคารเป็นชานชาลามีหลังคาจั่วคลุมแยกต่างหาก โดยเสารับหลังคาชานชาลานี้มีค้ำยันไม้ฉลุตกแต่งให้กลมกลืนกับตัวอาคาร
ภายในสถานียังพอมีข้าวของเครื่องใช้ในอดีตคงเหลืออยู่บ้าง โดยภาพรวมแล้วยังรักษาเอกลักษณ์เดิมตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 6 ไว้ได้เป็นอย่างดี นับเป็นสถานีรถไฟที่มีความสวยงามเป็นพิเศษ จากสถานะที่มีความสำคัญต่อกิจการรถไฟดังที่กล่าวมา ทำให้ไม่แปลกใจว่าทำไมสถานีรถไฟปลายทางเล็ก ๆ แห่งนี้จึงถูกออกแบบอย่างพิถีพิถันเช่นนี้ ซึ่งเป็นผลทำให้ได้รับการประกาศขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานของจังหวัดตรัง จากกรมศิลปากร ตั้งแต่ พ.ศ. 2539
นอกจากตัวสถานี พื้นที่โดยรอบสถานีรถไฟแห่งนี้ในอดีตเคยคึกคักไปด้วยโรงเก็บรถจักร และบ้านพักพนักงานการรถไฟ แต่ปัจจุบันได้เงียบเหงาลงตามวัฏจักรของสรรพสิ่ง คงไว้แต่ร่องรอยของอดีตผ่านตัวอาคารและคำบอกเล่า ที่คนรุ่นหลังคงนึกภาพให้ออกได้ยากเต็มที
ท้ายสุดนี้มีข้อสังเกตว่าในอดีตสถานีรถไฟ และชุมชนบ้านพักรถไฟเกือบทุกแห่ง ล้วนแต่ได้รับการออกแบบจัดวางผังเป็นอย่างดี มีระบบและแบบแผน ที่สมบูรณ์ แต่ในปัจจุบันคนรถไฟที่พอมีฐานะเลือกที่จะออกไปซื้อบ้านจัดสรรอยู่เสียมาก
ส่วนที่คงอาศัยอยู่ก็ขาดการบำรุงรักษา ทำให้สภาพบ้านพักรถไฟส่วนใหญ่ถูกทอดทิ้งชำรุดทรุดโทรมลงเรื่อย ๆ หากการรถไฟฯ วาง แผนฟื้นฟูโดยไม่ต้องลงทุนมากนัก เช่นปรับประโยชน์ใช้สอยบ้านพักรถไฟให้เป็นที่พักคนเดินทาง โดย มีบริการให้ในระดับเดียวกับโฮม สเตย์ ก็อาจเป็นการเพิ่มรายได้ที่ดีกว่า ปล่อยให้ชำรุดทรุดโทรมลงไป เรื่อย ๆ โดยอาจใช้ชื่อให้เป็นเอกลักษณ์ไม่ซ้ำใครว่า Railway Home Station เพื่อสร้าง แบรนด์
หากเริ่มที่สถานีรถไฟกันตัง ซึ่ง อยู่ในพื้นที่ซึ่งมีศักยภาพในการท่องเที่ยวสูงก่อน ก็อาจเป็นโครงการนำร่องที่มีแนวโน้มจะประสบความสำเร็จ และกระตุ้นให้มีกำลังใจ และกำลังทุนที่จะพัฒนาพื้นที่อื่น ๆ ของรถไฟให้ฟื้นคืนชีวิตชีวาได้ต่อไป.
ที่มาข้อมูล:กรมศิลปากร, www.th.wikipedia.org, www.rotfaithai.com
** ร่วมแสดงความคิดเห็นและข้อเสนอแนะด้านงานสถาปัตย์เชิงอนุรักษ์ได้ที่ www.thai-heritage-building.com
หรือเข้าผ่านหน้าเว็บของ www.asa.or.th **
ผศ.สุดจิต (เศวตจินดา) สนั่นไหว
คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์มหาวิทยาลัย
กรรมาธิการอนุรักษ์ศิลปสถาปัตยกรรม
สมาคมสถาปนิกสยามในพระบรมราชูปถัมภ์
_/_/_/_/_/_/_/_/_/_/_/_/_/_/_/_/_/_/_/_/_/_/_/_/_/_/_/_/_/_/_/_/_/_/_/
ผมได้เข้าไปดูที่หมวด "สถานีรถไฟ, อาคารอนุรักษ์ และสถาปัตยกรรมสำคัญ" นี้แล้ว
เห็นว่ายังไม่มีกระทู้ "สถานีรถไฟกันตัง" จึงขอตั้งกระทู้ใหม่ขึ้นมา
คิดว่าเคยเห็นเรื่องราวเกี่ยวกับสถานีกันตัง แต่จำไม่ได้ว่าอยู่หมวดไหน
เนื่องจากได้อ่านพบบทความนี้ใน หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ วันที่ 16 พฤศจิกายน 2551
จึงขออนุญาต ท่าน ผศ.สุดจิต (เศวตจินดา) สนั่นไหว และ เดลินิวส์ นำบทความมาลงในที่นี้ครับ |
|
Back to top |
|
|
pattharachai
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 6536
Location: ราชอาณาจักรไทย
|
|
Back to top |
|
|
Bradycardia
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 1565
Location: พระธาตุเด่น พระรอดขลัง ลำไยดัง กระเทียมดี ประเพณีงาม จามเทวี ศรีหริภุญชัย(แต่ตอนนี้อยู่พน.ครับ)
|
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 44627
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
|
Back to top |
|
|
Rakpong
President
Joined: 29/03/2006 Posts: 1716
Location: แคว้นโบราณ ด่านเจดีย์ มณีเมืองกาญจน์ สะพานข้ามแม่น้ำแคว แหล่งแร่น้ำตก
|
Posted: 17/11/2008 8:14 am Post subject: |
|
|
บทความข้างบน อ้างอิง www.rotfaithai.com ด้วยนะครับ |
|
Back to top |
|
|
KaittipsBOT
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 4150
|
Posted: 17/11/2008 8:38 am Post subject: |
|
|
ดูภาพเมืองตรังในอดีต ทำให้คิดถึงคุณแม่ ท่านเป็นคนเมืองตรังโดยกำเนิดบ้านท่าน และญาติพี่น้องท่านก็ยังอยู่กันหลายคน และเป็นคนดั่งเดิมที่อาศัยอยู่แถวๆ ต้นๆ ถนนเพลินพิทักษ์ ตรงบริเวณทางแยกทางขึ้นโรงพยาบาล "ควนหาร" หรือโรงพยาบาลตรังในปัจจุบัน ผมเกิดที่นี้ ชื่อของ "ห่าน" จะเพี้ยนไปตามกาลเวลา ซึ่งแรกเริ่มเดิมที คุณพ่อตั้งให้ ว่า "หาร" ซึ่งเป็นชื่อเรียกโรงพยายบาลในสมัยนั้น นั้นเอง และบ้านคุณยายก็อยู่ไม่ไกลกับโรงเรียนวิเชียรมาตุ โรงเรียนประจำจังหวัดชายแห่งแรกแห่งเดียวของจังหวัดตรัง จำความได้ประมาณปี 2520 เป็นต้นมา เวลาคุณแม่พาไปหาคุณยายที่เมืองตรัง นั่งรถจักรไอน้ำทำขบวนในช่วงปลายๆ มีคุณปู่ผมเป็น พขร. 2 มือเกาะกุ่มขอบหน้าต่างรถไฟมอง ข้างทางรถไฟไปตลอด ทุ่งสง - ตรัง เป็นประจำ เมืองตรังในอดีตเป็ฯเมืองที่เงียบไม่พลุกพล่าน ทำให้เห็นความคลาสิคดังรูปอยู่ในความทรงจำอยู่จนถึงปัจจุบัน แม้ปัจจุบันบ้านเมืองได้เปลี่ยนแปลงไปมาก แต่คนเมืองตรังยังอนุรักษ์ วัฒนธรรมมประเพณีที่ดีๆ เอาไว้อีกหลายอย่างให้คนรุ่นหลังๆ ได้เห็นกัน
ที่กล่าวมาทั้งหมด....ทำให้เรานึกขึ้นได้ เวลามันล่วงเลยมากเกือบ 40 ปี แล้วซินะ.....แต่มันก็ยังอยู่ในความทรงจำของเราตลอดไป... |
|
Back to top |
|
|
beer45
1st Class Pass (Air)
Joined: 18/06/2007 Posts: 4249
Location: ประเทศสยาม
|
Posted: 17/11/2008 10:13 am Post subject: |
|
|
ออ....ที่มาของคนชื่อ ห่าน เป็นอย่างนี่เองท่านเมื่อก่อนชื่อ เสือหาญ กาลเวลาผ่านมาจึ่งเพี้ยนเป็น เสือห่าน นี่เอง |
|
Back to top |
|
|
suraphat
1st Class Pass (Air)
Joined: 12/02/2007 Posts: 1117
Location: ดินแดง ห้วยขวาง
|
Posted: 17/11/2008 10:19 am Post subject: |
|
|
นั่นสิครับ กระผมว่าดีนะครับ ที่อย่างน้อย เขาก็ยังอ้างอิงมาที่ Webข องพวกเราไปด้วย ในเรื่องราวที่เกี่ยวกับสถานีกันตังแห่งนี้นะครับ
ซึ่งก็นับว่า Web ของเราก็เป็นแหล่งข้อมูลที่ดทางหนึ่งด้วย โดยเฉพาะในเรื่องราวที่เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ ของสถานีรถไฟสำคัญๆต่างๆนะครับ โดยเฉพาะภาพเก่าๆทางประวัติศาตร์ต่างๆโดยอาจารย์หม่องนะครับ |
|
Back to top |
|
|
nathapong
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/03/2006 Posts: 3515
Location: Ayuthaya - Lamlukka - Navanakhon - Silom
|
Posted: 17/11/2008 10:25 am Post subject: |
|
|
ประเด็นที่ อ.บ้านโป่งเปิดมา
เป็นเรื่อง อาคารอนุรักษ์ ของสมาคมสถาปนิคสยาม
แต่เนื่องจาก การเดินภาพในกระทู้ที่เกี่ยวข้องตามที่หลาย ๆ ท่านกล่าวมา เป็นเล่าเรื่อง + ภาพประกอบ
ถ้าไม่เป็นการซ้ำซ้อน เพื่อแนวทาง อาคารอนุรักษ์ อาคารสถานีกันตัง
ขอหารือว่าจะเปิดเป็นกระทู้ใหม่ เป็นภาพ สถานี กันตัง ล้วน ๆ ในหลาย ๆ มุมมอง
หากมีการนำภาพไปเพื่อประโยชน์ประกอบการอนุรักษ์ ของ สมาคมสถาปนิคสยาม
ในลำดับต่อไป
ปล.สำหรับกรรมการทุกท่าน งานเข้า แล้วขอรับ ....
ว่าแต่นามสกุลท่าน ผศ. สุดจิต คุ้น ๆ .....ยังไงไม่รู้ |
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 44627
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 17/11/2008 10:53 am Post subject: |
|
|
โพสต์ภาพสถานีรถไฟกันตัง ปี 2506 กับภาพถ่ายทางอากาศปี 2517 ไปแล้ว
สงสัยซะเองครับ
ในภาพถ่ายปี 2506 รางที่แยกออกจากราง 3 ด้ายซ้ายมือสุดของภาพ
ไปท่าเรื่อใช่ไหมครับ
แล้วรางที่ไปวงเวียนกลับรถจักร ซึ่งควรจะตรงออกมาจากราง 3 (เฉียงๆ เล็กน้อย) เหตุใดจึงมองไม่เห็นครับ
หรือว่ามีการแก้ผังรางใหม่ ในช่วงปี 2506-2517 กันล่ะเนี่ย |
|
Back to top |
|
|
|