View previous topic :: View next topic |
Author |
Message |
nop2
2nd Class Pass (Air)
Joined: 06/03/2008 Posts: 985
Location: เพชรบุรี
|
Posted: 03/03/2009 2:39 pm Post subject: |
|
|
ีเรื่องประสิทธิภาพการใช้น้ำมันต่อลิตร รถไฟดีกว่ารถบัสแน่นอนครับ(ต่อจำนวนที่นั้ง) _________________ "You are star I am darkness Our love brighter than the sun .." |
|
Back to top |
|
|
Serberk
3rd Class Pass (Air)
Joined: 17/07/2006 Posts: 380
Location: Burirum United
|
Posted: 03/03/2009 2:42 pm Post subject: |
|
|
รู้สึกว่า กระทู้นี้ จะแฉการโกงกินของนักการเมืองชั่วๆ แล้วนะไม่เหมือนชื่อกระทู้เลย |
|
Back to top |
|
|
heerchai
1st Class Pass (Air)
Joined: 29/07/2006 Posts: 7730
Location: อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา
|
Posted: 03/03/2009 7:45 pm Post subject: |
|
|
เส้นทางเก่าหาดใหญ่-สงขลา เป็นพื้นที่แดนสนธยาจริงๆ ครับ |
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 44634
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 04/03/2009 9:43 am Post subject: |
|
|
รถไฟชั้นสาม ยุคอักขรวิบัติ หาดไหย่-สงขลา จอมพล ป.พิบูลสงคราม ค่าโดยสาร 30 สต.
ยุคสุดท้าย ก่อนยกเลิกการเดินรถ ค่าโดยสาร 2 บาท
ถ้าเปิดเดินรถใหม่ ด้วยอัตราค่าโดยสารปัจจุบัน ระยะทาง 29 กม. ค่าโดยสาร 6 บาทครับ
เปิดเดินรถโดยไม่ต้องฟื้นฟู *เขาบรรไดนาง สถานีน้ำน้อย *ควนหิน *น้ำกระจาย ก็ได้
แต่ทำเป็นป้ายหยุดรถทั้งหมด ให้อยู่ใกล้จุดตัดต่างๆ และหน้าโรงงาน สถานศึกษา
ไปสิ้นสุดแถวๆ ริมคลองสำโรงก็ได้ครับ
แค่นี้ก็ได้ลูกค้าที่เป็นนักเรียน นักศึกษา และชาวบ้านเยอะแยะเลย
นอกจากนี้ก็เปิดเดินขบวนรถท่องเที่ยวในวันเสาร์อาทิตย์ สงขลา-ปาดังเบซาร์ได้ด้วย
ที่ดิน มีแล้ว ไม่ต้องเวนคืน ไม่ต้องทำการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA)
อย่าลืมว่า เส้นทางสายหาดใหญ่-สงขลา ไม่ใช่สายไร่อ้อย-นายาง หรือหัวหวาย-ท่าตะโก
เป็นเส้นทางรถไฟที่ไม่ได้ยกเลิก (dismantled) ครับ
แค่ทิ้งร้างไว้แค่นั้นเอง (abandoned)
อยากให้ดูตัวอย่างการฟื้นฟูทางรถไฟสายดาลัตของเวียดนามครับ
ทิ้งร้างไป ก็ฟื้นฟูเพื่อการท่องเที่ยวใหม่ได้ |
|
Back to top |
|
|
donatt76
1st Class Pass (Air)
Joined: 03/09/2006 Posts: 2587
Location: บางนา สุวรรณภูมิครับ
|
Posted: 04/03/2009 10:52 am Post subject: |
|
|
น่าสนใจหลายประเด็นทีเดียว....เดี๋ยวถกกันต่อนะครับ ขอตัวไปหารายได้ สร้างรถไฟเข้าบ้านตัวเองก่อน....พูดขำๆนะครับ ไม่ได้ประชด _________________
|
|
Back to top |
|
|
rodfaithai
1st Class Pass (Air)
Joined: 10/07/2006 Posts: 1346
|
Posted: 04/03/2009 2:27 pm Post subject: |
|
|
ขอบคุณผู้อ่าน และทุกๆ ความเห็นครับ
ผมจะเก็บไว้ คุยใน Focus group เพื่อโน้มน้าวให้เค้าเปลี่ยนจากรถบัส มาเป็นรถไฟ
วันก่อนได้บอกเค้าไปบ้างแล้วครับว่า เดิมที่เจ๊ง ส่วนหนึ่งเพราะใช้รถจักรลาก ถ้าเปลี่ยนมาใช้รถดีเซลราง น่าจะประหยัดกว่ามาก
ยังคงรอความเห็นอื่น อีกนะครับ มีเวลาอีกหลายเดือน
เช่น อาจจะแนะนำ ยี่ห้อ รุ่น ของ
- รถดีเซลรางที่น่าสนใจ
- ที่นั่งเป็นแบบ BTS หรือนั่งแบบรถเมล์ดี
- รุ่นของ รถมินิบัส ที่จะเอามาขนคนไปยังปลายทาง หรือเอามา Feed รถไฟของเรา
- ฯลฯ สารพัดจะคิดฝันครับ
ยกตัวอย่าง สมมติ
รถที่จะรับส่ง นศ.ม.ราชภัฏ และ ม.ทักษิณ จากป้ายหยุดรถ ซ.15 กาญจนวนิช ไปยังมหาวิทยาลัย รวมถึงผู้โดยสารอื่นๆ เป็นรถไฟฟ้า(Battery) ช่วยอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม
ที่จริงเดินเอาก็ได้ครับ เพราะไม่ไกลมาก แต่อาจจะมีคนจำนวนหนึ่งขี้เกียจเดิน หรือถือของหนัก หรือสุขภาพไม่แข็งแรง |
|
Back to top |
|
|
BanPong1
1st Class Pass (Air)
Joined: 07/12/2006 Posts: 2733
Location: กม.37 สายเหนือ, กม.68 สายกาญจนบุรี
|
Posted: 04/03/2009 9:15 pm Post subject: |
|
|
ลองนึกถึงกรณีศึกษารถไฟสายสุพรรณบุรี เมื่อสักประมาณก่อน พ.ศ.2540 สัก 1-2 ปี
หลายๆท่านในที่นี้คงจำได้ว่าการฟื้นฟูทำด้วยรูปแบบและวิธีการอย่างไร มีรถไฟแบบทันสมัยวิ่งถึงวันละ 4 ขบวนเชียวนะครับ
ไม่ต้องทำ EIA ไม่ต้องทำ Feasibility และไม่ต้องคำนึงถึง IRR ด้วยครับ _________________
|
|
Back to top |
|
|
donatt76
1st Class Pass (Air)
Joined: 03/09/2006 Posts: 2587
Location: บางนา สุวรรณภูมิครับ
|
Posted: 05/03/2009 2:05 pm Post subject: |
|
|
According to: ความคิดเห็นของ อ.หม่อง
อ.หม่อง wrote: | เปิดเดินรถโดยไม่ต้องฟื้นฟู *เขาบรรไดนาง สถานีน้ำน้อย *ควนหิน *น้ำกระจาย ก็ได้
แต่ทำเป็นป้ายหยุดรถทั้งหมด ให้อยู่ใกล้จุดตัดต่างๆ และหน้าโรงงาน สถานศึกษา
ไปสิ้นสุดแถวๆ ริมคลองสำโรงก็ได้ครับ
แค่นี้ก็ได้ลูกค้าที่เป็นนักเรียน นักศึกษา และชาวบ้านเยอะแยะเลย |
ถ้าเป็นอย่างที่ อ.หม่องว่า และตัวรางยังพอมีอยู่ อันนี้ลุยโลดโดยไม่ต้องคิดเลยครับ
จะสร้างถนนทับให้เปลืองทำไม.....เริ่มจากถางวัชพืช รื้อสิ่งก่อสร้างที่คลุมรางก่อน ให้เห็นตัวรางเป็นรูป เป็นร่าง ก่อน....
เรื่องตัวรถน่ะ ค่อยเอาดีเซลรางไปทดลองก่อนซัก 2-3 คันครับ....ถ้า work ค่อนว่ากัน ว่าควรจะต้องซื้อรถใหม่มั้ย (แต่ผมก็เห็นว่าระยะทางแค่ 30 กิโลเมตร คงไม่คุ้มกับรถใหม่)
ถ้าไม่มองว่าต้องซื้อใหม่...ตัวรถที่น่าจะเอาไปวิ่ง...อยากให้ไปขุด KIHA ของ JR WEST ที่ถูกทิ้งแถวๆย่านพหลฯ มาวิ่งเอาครับ (ไม่รู้ว่าวิ่งได้อยู่หรือเปล่า)...เพราะรถมีระบบปรับอากาศอยู่แล้ว อาจจะใช้ทั้งเป็นรถธรรมดา และมีทางเลือกเป็นรถปรับอากาศ ในขบวนเดียวกัน...หรือถ้าต้องซ่อมอาจจะต้องรบกวนงบประมาณ อบต อบจ ที่ว่ามีอยู่มากมายก่ายกองซักหน่อย...ผมเชื่อว่าถ้ามีเงิน ช่างของ รฟท. เก่งพอจะชุบชีวิตเจ้าพวกนี้ได้
ส่วนเจ้า Feeder นี่...ไม่ต้องทำเองครับ ใช้ 2 แถวของชาวบ้าน หรือ วินมอเตอร์ไซค์ นั่นแหละครับ ชาวบ้านจะได้มีรายได้ด้วย (เช่น จากปากทาง เข้าถึงที่หยุดรถ เก็บค่าโดยสารซัก 3-5 บาท สำหรับ 2 แถว...7 - 10 บาทสำหรับมอเตอร์ไซค์
แต่ลองมองมุมกลับครับ...ทำไมเค้าถึงพยายามดันรถบัส มาวิ่ง? มันมีอะไรซ่อนอยู่หรือเปล่า?....
PS. อยากได้ comment แรงๆ ไปแสดงความเห็นน่ะบอกได้นะครับ แต่รบกวนหาเสื้อกันกระสุนให้ผมด้วยละกัน...ไม่ใช่สิ ต้องชุดเกราะแบบโรมัน เลยล่ะครับ _________________
|
|
Back to top |
|
|
rodfaithai
1st Class Pass (Air)
Joined: 10/07/2006 Posts: 1346
|
Posted: 05/03/2009 2:49 pm Post subject: |
|
|
BanPong1 wrote: | ลองนึกถึงกรณีศึกษารถไฟสายสุพรรณบุรี เมื่อสักประมาณก่อน พ.ศ.2540 สัก 1-2 ปี
หลายๆท่านในที่นี้คงจำได้ว่าการฟื้นฟูทำด้วยรูปแบบและวิธีการอย่างไร มีรถไฟแบบทันสมัยวิ่งถึงวันละ 4 ขบวนเชียวนะครับ
ไม่ต้องทำ EIA ไม่ต้องทำ Feasibility และไม่ต้องคำนึงถึง IRR ด้วยครับ |
ขอบคุณครับ
ใครเป็นผู้ศึกษาครับอาจารย์ และจะหา paper นี้ได้จากที่ไหนบ้างครับ |
|
Back to top |
|
|
rodfaithai
1st Class Pass (Air)
Joined: 10/07/2006 Posts: 1346
|
Posted: 05/03/2009 2:59 pm Post subject: |
|
|
donatt76 wrote: | เรื่องตัวรถน่ะ ค่อยเอาดีเซลรางไปทดลองก่อนซัก 2-3 คันครับ....ถ้า work ค่อนว่ากัน ว่าควรจะต้องซื้อรถใหม่มั้ย (แต่ผมก็เห็นว่าระยะทางแค่ 30 กิโลเมตร คงไม่คุ้มกับรถใหม่)
ถ้าไม่มองว่าต้องซื้อใหม่...ตัวรถที่น่าจะเอาไปวิ่ง...อยากให้ไปขุด KIHA ของ JR WEST ที่ถูกทิ้งแถวๆย่านพหลฯ มาวิ่งเอาครับ (ไม่รู้ว่าวิ่งได้อยู่หรือเปล่า)...เพราะรถมีระบบปรับอากาศอยู่แล้ว อาจจะใช้ทั้งเป็นรถธรรมดา และมีทางเลือกเป็นรถปรับอากาศ ในขบวนเดียวกัน...หรือถ้าต้องซ่อมอาจจะต้องรบกวนงบประมาณ อบต อบจ ที่ว่ามีอยู่มากมายก่ายกองซักหน่อย...ผมเชื่อว่าถ้ามีเงิน ช่างของ รฟท. เก่งพอจะชุบชีวิตเจ้าพวกนี้ได้ |
ขอบคุณครับ
ถ้าปรับอากาศก็น่าจะดึงดูดผู้โดยสารได้ดีขึ้นครับ
เก็บ สัก 20 บาท น่าจะพออยู่ได้
อย่างไรแล้ว จะบอกให้ผู้ทำแผนฯ ไปสำรวจตลาดก่อนครับ ว่าจะเอาแอร์หรือไม่แอร์
donatt76 wrote: | ส่วนเจ้า Feeder นี่...ไม่ต้องทำเองครับ ใช้ 2 แถวของชาวบ้าน หรือ วินมอเตอร์ไซค์ นั่นแหละครับ ชาวบ้านจะได้มีรายได้ด้วย (เช่น จากปากทาง เข้าถึงที่หยุดรถ เก็บค่าโดยสารซัก 3-5 บาท สำหรับ 2 แถว...7 - 10 บาทสำหรับมอเตอร์ไซค์
|
ดีครับ
win - win โอกาสที่โครงการนี้จะได้เกิดก็จะง่ายขึ้นครับ
donatt76 wrote: | แต่ลองมองมุมกลับครับ...ทำไมเค้าถึงพยายามดันรถบัส มาวิ่ง? มันมีอะไรซ่อนอยู่หรือเปล่า?.... |
ผมไม่แน่ใจครับ
แต่มองในแง่ดี คือ คนคิดอยุ่กรุงเทพฯ ไม่คุ้นพื้นที่ ก็ลอกฝรั่งมาไว้ก่อน ทำนองเป็น Patern มาตรฐานตามตำรา
อีกอย่างที่นึกออกคือ
กูรู ด้าน Logistics บ้านเราไม่ถนัดเรื่องรถไฟ/ระบบรางครับ
ผมเคยคุยกับ ดร. Logistcics ท่านหนึ่ง พอผมพูดถึงรถไฟท่านส่ายหัวเลยครับ |
|
Back to top |
|
|
|