RailServe.Com

Main Menu

 
icon_home.gif Homepage
icon_community.gif Members Zone
· ข้อมูลส่วนตัว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ข่าวสารส่วนตัว
· บริการเว็บเมล์
· กระดานข่าว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก กระดานฝากข้อความ
· รถไฟไทยแกลลอรี่
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก รายนามสมาชิก
· แบบสำรวจ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก สมุดเยี่ยม
· เกี่ยวกับสมาชิก
favoritos.gif News & Stories
· เรื่องทั้งหมด
· เนื้อหาสาระ
· เรื่องสำหรับพิมพ์
· ยอดฮิตติดอันดับ
· ค้นหาข่าวสาร
· ค้นหากระทู้เก่า
nuke.gif Contents
· กำหนดเวลาเดินรถ
· ประเภทขบวนรถโดยสาร
· ข้อมูลเส้นทางรถไฟ
· แผนที่เส้นทางรถไฟ
· อัตราค่าโดยสาร
· คำนวณค่าโดยสารรถไฟ
· รูปแบบการให้บริการรถไฟ
· หมายเลขโทรศัพท์ที่สำคัญ
· ทริปท่องเที่ยวโดยรถไฟ
· ระบบติดตามขบวนรถ
som_downloads.gif Services
· Downloads
· GoogleSearch
· Hotels Booking
· FlashGames
· Wallpaper 1
· Wallpaper 2
· Wallpaper 3
· Wallpaper 4
icon_members.gif Information
· เกี่ยวกับเรา
· นโยบายความเป็นส่วนตัว
· แผนผังเว็บไซต์ฯ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ส่งข้อแนะนำติชม
· ติดต่อลงโฆษณา
· แนะนำและบอกต่อ
· สถิติทั้งหมด
· สำหรับผู้ดูแลระบบ
 

Sponsors

 

Rotfaithai.Com

 

Visitors

 


มีผู้เข้าเยี่ยมชม
สมาชิก:311282
ทั่วไป:13263137
ทั้งหมด:13574419
คน ตั้งแต่
01-08-2004
 


Rotfaithai.Com :: View topic - จดหมายเหตุพระราชกิจรายวันในพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว
 Forum FAQForum FAQ   SearchSearch   UsergroupsUsergroups   ProfileProfile   Log in to check your private messagesLog in to check your private messages   Log inLog in 

จดหมายเหตุพระราชกิจรายวันในพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว
Goto page Previous  1, 2, 3, 4, 5, 6, 7, 8, 9, 10  Next
 
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> สาระความรู้วิชาการรถไฟและประวัติศาสตร์รถไฟไทย
View previous topic :: View next topic  
Author Message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42708
Location: NECTEC

PostPosted: 11/12/2007 11:09 am    Post subject: Reply with quote

ต้นเดือนเมษายน ๒๔๗๖
สมเด็จย่าและ เจ้านายเล็กๆทั้ง สามพระองค์ พได้ประทับรถด่วนสายใต้ไปปีนัง พร้อมข้ารับใช้
จากนั้นจึงลงเรือ American President Pierce ไปขึ้นบกที่เจนัวก่อนเดินทางไปประทับที่เมืองโลซานน์ สวิตเซอร์แลนด์ เนื่องจากทูลกระหม่อมอานันทมหิดล ไม่แข็งแรง สมเด็จย่าเลยดำริว่าควรไปอยู่เสียต่างประเทศ โดยสมเด็จกรมพระยาชัยนาทนเรนทร์ (ทูลกระหม่อมลุง) แนะให้ไปสวิตเซอร์แลนด์
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42708
Location: NECTEC

PostPosted: 13/03/2009 1:23 am    Post subject: Reply with quote

ย้อนวันวานกับงาน "บุรฉัตรรำลึก"
คอลัมน์ ผู้หญิง-แฟชั่น ช่วง ข่าวทั่วไป
คมชัดลึก 11 มีนาคม 2552
http://www.komchadluek.net/detail/20090311/4771/ย้อนวันวานกับงานบุรฉัตรรำลึก.html

ภาพประกอบข่าวคมชัดลึก : เพื่อเป็นการเทิดพระเกียรติ พล.อ.พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าบุรฉัตรไชยากร กรมพระกำแพงเพชรอัครโยธิน พระราชโอรสใน พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ต้นราชสกุล "ฉัตรชัย" ที่ทรงสานต่อพระบรมราโชบายพัฒนาสยามให้ทันสมัยของพระราชบิดา

อีกทั้งยังเป็นผู้วางรากฐานการพัฒนาเมืองหัวหินให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวชั้นนำของประเทศไทย ทั้งยังเป็นการน้อมรำลึกถึงพระคุณูปการและพระกรณียกิจด้านต่างๆ นานาประการ จนได้รับการยกย่องให้เป็น "บิดา" ในสาขาต่างๆ อาทิ บิดาแห่งการรถไฟไทย บิดาแห่งทหารสื่อสาร บิดาแห่งกิจการวิทยุกระจายเสียงไทย บิดาแห่งทหารช่าง และบิดาแห่งการโรงแรม เป็นต้น

กองทุนวิมลฉัตร 84 พระชันษา สมาชิกราชสกุลฉัตรชัย ร่วมกับ โซฟิเทล เซ็นทารา แกรนด์ รีสอร์ทและวิลลา หัวหิน จึงพร้อมใจกันจัดงาน "บุรฉัตรรำลึก" ขึ้น โดยได้รับพระกรุณาธิคุณจาก สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จฯ มาทรงเป็นประธานเปิดงาน พร้อมพระราชทานรางวัล บุรฉัตรไชยากร กรมพระกำแพงเพชรอัครโยธิน ให้แก่ผู้มีผลงานโดดเด่นเป็นที่ยอมรับระดับสากลใน 3 สาขา ได้แก่

1.ผู้มีผลงานดีเด่นด้านสถาปัตยกรรมร่วมสมัย
2.ผู้บุกเบิกด้านการโรงแรม
3.ผู้มีผลงานดีเด่นด้านการท่องเที่ยว

รวมทั้งการประกวดเรียงความในระดับมัธยมศึกษาตอนปลายหรือเทียบเท่า ในหัวข้อ "แรกมีในหัวหินกับกรมพระกำแพงเพชรอัครโยธิน"

ในการนี้ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ยังทอดพระเนตรการจัดแสดงนิทรรศการ พระประวัติ พระกรณียกิจ และสิ่งของส่วนพระองค์ ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นสิ่งของโบราณที่หาดูได้ยาก อาทิ โคมไฟฉัตรห้าชั้นที่รัชกาลที่ 7 พระราชทานแก่พระเจ้าบรมวงศ์เธอฯ กรมพระกำแพงเพชรอัครโยธิน เนื่องในโอกาสวันวิวาห์รัชตะสมโภชของพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี ประกาศแต่งตั้งพระอิสริยยศ

ภาพการ์ตูนฝีพระหัตถ์ พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 ทรงล้อพระเจ้าบรมวงศ์เธอฯ กรมพระกำแพงเพชรอัครโยธิน ในพระอิริยาบถขับรถไฟหัวจักรดีเซล พระบรมสาทิสลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 7 มีลายพระหัตถ์เขียนข้อความถึงพระเจ้าบรมวงศ์เธอฯ กรมพระกำแพงเพชรอัครโยธิน ไดอารี่ส่วนพระองค์ของ พระเจ้าบรมวงศ์เธอฯ กรมพระกำแพงเพชรอัครโยธิน เป็นต้น นอกจากนี้ยังทอดพระเนตรการจัดโต๊ะน้ำชา ผสมเครื่องดื่ม และแสดงกอล์ฟเล็กจำลอง ซึ่งทุกกิจกรรมล้วนสะท้อนแนวคิดย้อนรำลึกถึงหัวหินในอดีตในยุคโรงแรมรถไฟแทบทั้งสิ้น


Last edited by Wisarut on 24/01/2022 12:54 am; edited 1 time in total
Back to top
View user's profile Send private message
rodfaithai
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 10/07/2006
Posts: 1346

PostPosted: 13/03/2009 9:36 am    Post subject: Reply with quote

มีโอกาสดูรายการ พินิจนคร ทาง ทีวีสาธารณะ ได้ความว่า
ชื่อ ตลาดฉัตรไชย ที่หัวหินมีที่มาจากพระนามของพระองค์ท่าน
เดิมชื่อ ตลาดกรมกำแพง แต่เปลี่ยนเป็นตลาดฉัตรไชย เมื่อไหร่และเพราะเหตุใดก็ไม่มีใครทราบ
Back to top
View user's profile Send private message
black_express
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/03/2006
Posts: 10060
Location: อุตรดิตถ์ - กรุงเทพฯ

PostPosted: 13/03/2009 12:20 pm    Post subject: Reply with quote

ท่าฉัตรไชย ที่เกาะภูเก็ต ตรงข้ามท่านุ่น ฝั่งพังงา ก็ตั้งชื่อเป็นที่ระลึกถึงเสด็จในกรมเมื่อคราวโครงการก่อสร้างทางรถไฟสายท่านุ่นครับ
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42708
Location: NECTEC

PostPosted: 22/04/2009 10:35 am    Post subject: หวนคิดถึง “โรงแรมรถไฟ” ในอดีต Reply with quote

หวนคิดถึง “โรงแรมรถไฟ” ในอดีต

http://www.manager.co.th/MetroLife/ViewNews.aspx?NewsID=9520000044714
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 21 เมษายน 2552 18:33 น.


เมื่อเอ่ยชื่อ “หัวหิน” ครั้งใดความรู้สึกผ่อนคลาย สดชื่น ที่ได้สัมผัสกลิ่นอายทะเล ความโรแมนติกของพระอาทิตย์ยามอัสดง หรือแม้แต่วิถีชีวิตผู้คนที่ทำให้ หัวหิน มีสีสันที่น่าหลงใหล ไม่ว่าจะผ่านไปกี่ยุคกี่สมัย ความมีเสน่ห์ของเมืองที่ขึ้นชื่อในเรื่องสถานที่พักตากอากาศแห่งนี้ ยังครองใจและดึงดูดผู้คนให้แวะเวียนไปเที่ยวได้อย่างไม่ขาดสาย

เพื่อน้อมรำลึกถึงในพระคุณูปการและกรณียกิจด้านต่างๆ ของ พลเอก พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าบุรฉัตรไชยากร กรมพระกำแพงเพ็ชรอัครโยธิน ผู้ก่อตั้งโรงแรมรถไฟ สถานที่ตากอากาศริมหาดหัวหินเมื่อครั้งอดีต กองทุนวิมลฉัตร 84 พรรษา จึงได้จัดงาน “บุรฉัตรรำลึก” ขึ้นอีกครั้ง โดยได้รับพระกรุณาธิคุณจาก สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จฯ เป็นองค์ประธานในพิธี ณ โรงแรมโซฟิเทล เซ็นทารา แกรนด์ รีสอร์ทแอนด์วิลล่า หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ พร้อมกันนี้ยังได้พระราชทานรางวัล “บุรฉัตรไชยากร กรมพระกำแพงเพ็ชรอัครโยธิน” แก่ผู้มีผลงานดีเด่นในด้านต่างๆ อาทิ รางวัลสถาปัตยกรรมร่วมสมัย รางวัลผู้บุกเบิกโรงแรม รางวัลผลงานดีเด่นด้านการท่องเที่ยว

นอกจากนี้ ยังมีการประกวดเรียงความในหัวข้อ “แรกมีในหัวหินกับกรมพระกำแพงเพ็ชรอัครโยธิน” หลังจากนั้น สมเด็จพระเทพฯ เสด็จทอดพระเนตรนิทรรศการ พระประวัติ พระกรณียกิจและสิ่งของส่วนพระองค์ ซึ่งล้วนหาชมได้ยากและทรงคุณค่าเป็นอย่างยิ่ง

สำหรับ พลเอก พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าบุรฉัตรไชยากร กรมพระกำแพงเพ็ชรอัครโยธิน ทรงเป็นโอรสในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และเจ้าจอมมารดาวาด ต้นราชกุล “ฉัตรชัย” ผู้ทรงมีบทบาทในการพัฒนาประเทศเป็นอย่างยิ่ง จนได้รับการยกย่องให้เป็นบิดาในสาขาต่างๆ อาทิ บิดาแห่งการรถไฟ บิดาแห่งการโรงแรม บิดาแห่งกิจการวิทยุกระจายเสียง บิดาแห่งทหารช่าง และ บิดาแห่งทหารสื่อสาร

หากย้อนมองอดีตของ โรงแรมโซฟิเทล เซ็นทารา แกรนด์ รีสอร์ทแอนด์วิลล่า หัวหิน ในปัจจุบัน สมัยก่อนจะรู้จักกันในชื่อว่า “โรงแรมรถไฟ” ซึ่งแต่เดิมเป็นเพียงหมู่บ้านชาวประมงเล็กๆ แต่พระองค์ทรงเล็งเห็นความสวยงามของสถานที่แห่งนี้ จึงได้ริเริ่มพัฒนาและฟื้นฟูพื้นที่ ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวและสถานที่พักตากอากาศชายทะเลแห่งแรกของประเทศไทย อีกทั้งท่านยังได้สร้างถนนสายแรกจากสถานีรถไฟหัวหินไปยังโรงแรมอีกด้วย

การปฏิรูปที่พระองค์ได้ทรงทำทั้งหมดนี้ทำให้หัวหินเป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลายและเป็นสวรรค์น้อยๆ ของใครหลายๆคน ที่ได้มาสัมผัสกับธรรมชาติ ณ ที่แห่งนี้


Last edited by Wisarut on 24/01/2022 12:55 am; edited 1 time in total
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42708
Location: NECTEC

PostPosted: 25/10/2009 12:14 am    Post subject: บันทึกรายวันของสมเด็จเจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัติวงศ์พ.ศ.๒๔๗๖ Reply with quote

เมื่อหลายวันก่อนไปช็อปปิ้งหนังสือเก่าและ ได้ เจอ บันทึกรายวันของสมเด็จเจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัติวงศ์ พ.ศ. ๒๔๗๖ ซึ่งมี เรื่องที่น่าสนใจควรแก่การกล่าวถึงดังนี้:

๑. บันทึกรายละเอียดเหตุการณ์ อพยพเจ้านายขึ้นรถไฟ โดยท่านชิ้นได้ส่งกำลัง ทหาร ๑ กองร้อยไป ยึดรถจักร และ รถโดยสาร ๔ หลัง จากโรงรถจักร วังก์พง เพื่ออพยพเจ้านายไปสงขลา ใช้เวลา ๓๐ ชั่วโมงเพราะ มีผู้ขัดขวางตลอดทาง ที่ผ่านมณฑลราชบุรี นับตั้่งแต่หัวหินถึงชุมพร คราวเกิดกบฎบวรเดช เมื่อเดือน ตุลาคม พ.ศ. ๒๔๗๖

๒. บันทึกการเสด็จฯ ทอดพระเนตร สุริยุปราคาวงแหวนที่หัวหิน เมื่อเดือนสิงหาคม พ.ศ. ๒๔๗๖ มีการกล่าวถึงรถขบวนพิเศษที่กรมรถไฟจัดให้ 3 ขบวนเพื่อพานักท่องเที่ยวจาก กรุงเทพ มาชมสุริยุปราคาวงแหวน ที่หัวหิน

๓. บันทึกการเสด็จฯ ปักษ์ใต้ โดยทางเรือ จาก กรุงเทพ ไป สงขลา ระหว่างวันที่ ๖ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๗๖ ถึง ๑ มิถุนายน พ.ศ. ๒๔๗๖ สมัยที่บริษัทอิสต์เอเซียติก (EAC) ยังเดิืนเรือ วลัย และ เรือ มาลินี ขึ้นล่อง ระหว่าง กรุงเทพ - สิงคโปร์ โดยแวะจอด ที่ เกาะสีชัง สับพลี (สะพลี) ปากน้ำชุมพร ปากตะโก สวี บ้านดอน ปากพนัง สงขลา เพื่อ รับสิืนค้า เช่นข้าวหลายร้อยกระสอบ จาก ปากพนัง และ บ้านดอน ปลาสดแช่น้ำแข็งจะกสะพลีส่งกรุงเทพ ปลาแห้งจากสะพลีส่งสิงคโปร์ และ ปลาเค็มเป็นหีบ

ในการเที่ยวปักษ์ใต้นี้ มีการขึ้นรถไฟ จากหาดใหญ่ ไปนครศรีธรรมราช โดยไปเปลี่ยนรถที่เขาชุุมทอง และ ขึ้นรถจากนครศรีธรรมราช ไป เข้าชุมทอง เพื่อเปลี่ยน รถขบวน สงขลา - กันตัง เพื่อเข้่ากันตังได้

นอกจากนี้ไปชมเหมืองแร่ดีบุก ที่ ร่อนพิบูลย์ และ ที่ปัตตานี

งานนี้่ ขอ Comment หน่อยจะได้มีกำลังใจโพสต์ต่อนะ ครับ Embarassed Laughing


Last edited by Wisarut on 25/10/2009 11:40 am; edited 2 times in total
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44519
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 25/10/2009 7:28 am    Post subject: Reply with quote

บันทึกรายวันของสมเด็จเจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์ พ.ศ. ๒๔๗๖ Shocked
น่าสนใจมากครับ เป็นฉบับพิมพ์ปีไหนครับ

นี่เป็นอีกหลักฐานสำคัญที่ระบุว่าขบวนรถสงขลา-กันตัง เป็นขบวนรถสำคัญในทางลอจิสติกส์ระหว่างสองฝั่งทะเลครับ Very Happy


Last edited by Mongwin on 25/10/2009 8:43 am; edited 1 time in total
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
nathapong
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/03/2006
Posts: 3515
Location: Ayuthaya - Lamlukka - Navanakhon - Silom

PostPosted: 25/10/2009 8:39 am    Post subject: Re: บันทึกรายวันของสมเด็จเจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัติวงศ์ พ.ศ Reply with quote

Wisarut wrote:
เมื่อหลายวันยกอ่นไปชอปิ้งหนังสือเก่าและ ได้ เจอ บันทึกรายวันของสมเด็จเจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัติวงศ์ พ.ศ. ๒๔๗๖ ซึ่งมี เรื่องที่น่าสนใจควรแก่การกล่าวถึงดังนี้:.............................................................
.............................................................................
งานนี้่ ขอ Comment หน่อยจะได้มีกำลังใจโพสต์ต่อนะ ครับ Embarassed Laughing


คอมเมนต์ ชัวร์ ถ้า ท่าน หจช.พิมพ์ ถูกต้อง ......... Wink
Back to top
View user's profile Send private message Send e-mail
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42708
Location: NECTEC

PostPosted: 25/10/2009 11:42 am    Post subject: Reply with quote

^^^
แย่ครับ เพราะ ป่วยเลยพิมพ์ ผิดๆ ถูกๆ Sad แต่ ไว้กลับบ้านเย็นนี้ จะพิมพ์ให้
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42708
Location: NECTEC

PostPosted: 25/10/2009 10:32 pm    Post subject: Reply with quote

วันเสาร์ที่ ๖ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๗๖ -
เวลา ๑๓.๓๐ น. ขึ้นรถ [จากบ้านคลองเตย] พร้อมด้วยลูกชายเจริญใจ หญิงอี๋ หญิงอาม ตางั่ว หญิงไอ แม่โต ทวี ไปท่าห้างอิสต์เอเซียติก พระพิชิต เจ้ากรม ปลัดกรม นายภี อ้ายบุ๊น อ้ายประเสริฐ ไปคอยส่ง

เวลา ๑๔.๐๐ น. กำหนดเวลาเรือ[มาลินี]ออกแต่ยังบรรทุกของไม่แล้ว[เสร็จ]

เวลา ๑๔.๓๐ น. จึง[ขนของลงเรือมาลินีออก] เสร็จ เรือไฟเล็ก ลากให้เรือมาลินีกลับลำ ล่องไปตามน้ำถึงท่าปลายถนนหลวงสุนทร[โกษา] พวกบ่าวๆที่คลองเตยลงเรืออ้ายวันที่ซื้อให้มันออกมาลอยลำส่งถึงกลางน้ำ

เวลา ๑๗.๐๐ น. เรือถึงสมุทรปราการ หยุดส่ง ตางั่ว ปลัดกรม ไปขึ้่นบกกับเรือศุลกากรแล้วเรือออกทะเลไป

เวลา ๑๙.๐๐ น. กินข้าวเย็นนั่งโต๊ะพร้อมกัน แล้วต่างคนต่างเข้านอน มีคนไปด้วยกัน 16 คน

//-----------------------------------------------------------------------

วันอาทิตย์ที่ ๗ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๗๖

เวลา ๐๘.๐๐ น. ตื่นนอน มีคนลงไปดินอาหารเข้าไม่มาก เนื่องจากส่วนใหญ่เมาคลื่น แต่ที่จริงคลื่นก็มีน้อยพอเป็นแต่เรือกระเพื่อมเล้กน้อย

เวลา ๑๒.๓๐ น. กินอาการกลางวัน ยิ่งหายไปอีก แม่โตถึงแก่ไม่สบายมาก คิดจะขึ้นชุมพรเดิรบก ไป
เวลา ๑๓.๓๐ น. ถึงหมู่บ้านชาวปมงค์ (ประมง) ที่ สับพลี ใต้บางเบิด เหนือชุมพร ขนปลา ๑๐ หีบ เอาไปขายสิงคโปร์
เวลา ๑๖.๒๕ น. เรือออกจากหมู่บ้านชาวปมงค์ (ประมง) ที่ สับพลี
เวลา ๑๗.๓๐ น. ถึงชุมพร เรือจอดรับปลาเค็ม ๓๐๐ หีบ ส่งออกไปขายสิงคโปร์
เวลา ๒๒.๓๐ น. บรรทุกเสร็จ เรือออกเดิรต่อไป

//-----------------------------------------------------
วันจันทร์ที่ ๘ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๗๖ (วันวิสาขบูชา)
เวลา ๐๑.๑๕ น. เรือจอดที่บ่อคา เพื่อรับของบรรทุกอีกเล้กน้อย เรือออกเมื่อไหร่ไม่ทราบเพราะหลับไปก่อน
เวลา ๐๗.๓๐ น. เรือจอดที่ปากตะโก หยุดรับของเล็กน้่อย แม่โตหายเมาคลื่น แจ่มใสแล้ว เรื่องคิดจะขึ้นบกที่ชุมพรเป็นเลิก
เวลา ๐๘.๐๐ น. เรือ[มาลินี] ออกเดิรต่อไป[จากปากตะโก]
เวลา ๐๙.๐๐ น. ถึงหลังสวน หยุดรับของขึ้นเรืออีก
เวลา ๑๐.๐๐ น. เรือ[มาลินี] ออกเดิรต่อไป[จากหลังสวน]
เวลา ๑๓.๓๐ น. ถึงอ่าวสวี ทอดสมอคอยเรือสินค้า เห็นไฟป่ากำลังไหม้ คอยอยู่นั้นจึงมีเรือขนปลาเค็มไม่กี่หีับ เสียเวลามาก
เวลา ๑๕.๓๐ น. เรือ[มาลินี] ออกเดิรต่อไป[จากอ่าวสวี]
เวลา ๑๗.๔๕ น. ถึงอ่าวบ้านดอน หยุดจอดทอดสมอคอยเรือสินค้า เห็นเรือขนหมูใส่กระชุมาลำหนึ่ง มีเรือไฟจูงมาลำหนึ่งมีคนเดิรสานที่ ๓ มาด้วย บรรทุกแล้วเรือยังไม่ออกไป กัปตันบอกว่าเรือออก ๐๑.๐๐ น. เพราะ ว่ามาเร็วไป ถ้าไปเดี๋ยวนี้จะถึงสงขลา ๐๒.๐๐ น. [ของวันที่ ๑๐ พฤษภาคม] ผิดกำหนด ผู้คอยจะหัวหกก้นขวิด
๒๓.๐๐ น. บูชาพระสวดมนต์ ระลึกถึงพระพุทธเจ้า อาศัยกาลวิสาขบูชาเป็นเครื่องเตือนใจ

ที่บางกอก เกิดพายุลุกเห็บ โรงทหารม้าพัง ทหารตาย ๒ เจ็บมาก ๖ เจ็บน้่อย ๑๒

วันอังคารที่ ๙ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๗๖

เวลา ๐๑.๓๐ น.เรือ[มาลินี] ออกเดิรต่อไป[จากอ่าวบ้านดอน]
เวลา ๐๖.๓๐ น. ถึงสิชล เรือจอดทอดสมอรับบรรทุกปลาเค็ม
เวลา ๐๗.๓๐ น.เรือ[มาลินี] ออกเดิรต่อไป[จากสิชล]
เวลา ๑๑.๐๐ น.ถึงปากน้ำนคึรศรีธรรมราช หยุดจอดทอดสมอ รับข้าวสาร [ต้นฉบับเขียนเป็นเข้าสาร] ๓๐๐๐ กระสอบ เวลากินข้าวคุยกับกัปตัน ได้ความว่า เรือเข้าออกเที่ยวหนึ่้งได้เงิน ๑๕๐๐๐ บาท ค่าโสหุ้ยเที่ยวหนึ่ง ๑๐๐๐๐ บา่ท ก็แปลว่ามีกำไร ๕๐๐๐ บาท งามพอใช้ แต่คงจะต้องไปเสียเปล่ามากเวลาเรือเข้าอู่
เวลา ๒๑.๐๐ น.เรือ[มาลินี] ออกเดิรต่อไป[จากอ่าวนคร] เวลาเดรทาง ๑๑ ชั่วโมง ถึงสงขลา เวลา ๐๗.๐๐ น. วันที่ ๑๐

วันพุธที่ ๑๐ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๗๖
เวลา ๐๗.๑๐ น.เรือ[มาลินี] ถึงสงขลา จอดทอดสมอที่เกาะหนู เริ่่มลงมือขนสิ่งของเล็กน้่อย ที่นี่ กัปตันว่ามีข้าวกับปลาบรรทุกลงเรือ
เวลา ๐๘.๓๐ น. พระยานครศรีธรรมราช (สมุหเทศาภิบาลมณฑลนครศรีธรรมราช) และ พระเพชรคิรี (ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา) กัปตันเรือถลางเก่า พากันลงมารับ พระยาเพชรดายนำเฝ้า แล้วกินอาหารเช้า
เวลา ๐๙.๐๐ น. ลาพวกที่อยู่ในเรือ ลงเรือไฟเล็กของ บริษัท อิสต์เอเซียติก
เวลา ๑๐.๐๐ น. ถึงท่าน้ำเมืองสงขลา จากนั้น สมุหเทศาภิบาล นำข้าราชการพลเรือ คนหนึ่้งและตำรวจภูธร ๒ คนให้รู้จัก ก่อนเชิญขึ้นรถที่เตรียมไว้ เพื่อพาไปส่งที่ตำหนักสมเด็จหญิงน้อยซึ่งปลุกใหม่
เวลา ๑๖.๔๕ น. สมุหเทศาภิบาลนำข้าราชการหัวหน้าแผนกต่างๆให้รู้จักก่อนโปรแกรมกำหนดเดิรทางเที่ยวมาให้
เวลา ๑๗.๐๐ น. สมุหเทศาภิบาล พาขึ้นรถเที่ยวตามถนนชมเมือง ที่สุดพาขึ้นเขาน้อย ชมโฮเต็ล[กรมรถไฟ] ที่เขาน้อย มีทางน่าอยู่ วิวงาม เป็นทั้งทะเลใหญ่และทะเลสาบแต่น้ำใช้อัตคัด จะขนน้ำขึ้นไปใช้ก็ลำบาก ลงจากเขาไปชมหาดทรายที่ชายเขาน้อย
เวลา ๑๘.๐๐ น. กลับที่พัก


Last edited by Wisarut on 26/10/2009 12:02 pm; edited 4 times in total
Back to top
View user's profile Send private message
Display posts from previous:   
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> สาระความรู้วิชาการรถไฟและประวัติศาสตร์รถไฟไทย All times are GMT + 7 Hours
Goto page Previous  1, 2, 3, 4, 5, 6, 7, 8, 9, 10  Next
Page 7 of 10

 

Share |

Jump to:  
You cannot post new topics in this forum
You cannot reply to topics in this forum
You cannot edit your posts in this forum
You cannot delete your posts in this forum
You cannot vote in polls in this forum

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group


Forums ©