SUMMER (?) TRIP 2009 : ล่องใต้ปะทะฝนหลงฤดู

[ExtendeD]

ขบวนที่ 40 ผ่านไปแล้ว ผมก็ต้องเดินกลับไปที่ สถานีสุราษฎร์ธานี ล่ะครับ ผมเลือกเดินไปตามทางรถไฟ ระหว่างทางก็ต้องผ่านเสาสัญญาณหางปลาต้นนี้ . . . นาน ๆ จะได้เห็นเสาหางปลาแบบนี้สักที ถ่าย ๆๆๆๆ




พอเดินผ่านเสาเข้าเขตในมาแล้วก็มาถึงอีก 1 จุดที่ยังคงคาใจมาจนถึงตอนนี้ รางที่อยู่ทางซ้ายนั่นน่าจะเป็นแนวโค้งเดิมหรือเปล่าครับ


_________________
Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.

[ExtendeD]

ถึงตอนนี้ก็จะยังไม่มีขบวนรถโดยสารเข้าหยุดรับ - ส่งผู้โดยสารที่ สถานีสุราษฎร์ธานี อีกนานครับ ปีที่แล้วแวะมาก็ป้วนเปี้ยนอยู่แต่ในตัวเมืองพุนพิน วันนี้พอจะมีเวลาว่างอยู่บ้างผมก็เลยพาเจ้าตี๋ขึ้นรถประจำทางเข้าไปเปิดหูเปิดตาในตัวเมืองสุราษฎร์ธานีสักหน่อยครับ




คุณพี่คนขับรถบอกว่าในช่วงนั้นในตัวเมืองสุราษฎร์ธานีมีการจัดงาน " มหกรรมอาหาร สุราษฎร์ฟู๊ดแฟร์ ครั้งที่ 8 ประจำปี 2009 " อยู่ครับ เรื่องกินนี่ไม่เคยพลาดผมก็เลยคิดว่าจะแวะไปเดินดูสักหน่อย ค่าโดยสารจากบริเวณข้างหน้า สถานีสุราษฎร์ธานี ไปยังตัวเมืองสุราษฎร์ธานี บริเวณที่จัดงานมหกรรมอาหารก็เพียงแค่ 13 บาทเท่านั้นเองครับ




จากตัวเมืองพุนพินรถประจำทางก็จะวิ่งไปตามถนนหมายเลข 4008 แล้วเข้าสู่ถนนหมายเลข 401 จากนั้นก็จะเลี้ยวเข้าไปในสถานีขนส่งครับ


_________________
Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.

[ExtendeD]

หลังจากออกมาจากสถานีขนส่ง ก็จะกลับเข้าสู่ถนนหมายเลข 401 อีกครั้ง ไปตามทางเรื่อย ๆ จนมาถึงทางแยกใหญ่แห่งหนึ่ง ( ถ้าจำไม่ผิดแยกนี้คือแยกท่ากูบ ) ก็จะเลี้ยวซ้ายเข้าสู่ ถนนศรีวิชัย ซึ่งเป็นทางเข้าสู่ตัวเมืองสุราษฎร์ธานี ผ่านสะพานข้ามคลองมะขามเตี้ย เข้าสู่ ถนนตลาดใหม่ จากนั้นผมกับเจ้าตี๋ก็ลงจากรถที่บริเวณสถานีตำรวจภูธรเมืองสุราษฎร์ธานีครับ

ตอนนี้ผมยืนอยู่ริม ถนนตลาดใหม่ มองไปทางนี้จะเป็นทางกลับไปที่ตัวเมืองพุนพิน




ส่วนทางนี้เป็นทางเข้าสู่ตัวเมืองชั้นในครับ


_________________
Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.

[ExtendeD]

มหกรรมอาหารที่จัดขึ้นในตัวเมืองสุราษฎร์ธานีในตอนนั้นจัดขึ้นระหว่างวันที่ 13 - 21 มีนาคม ที่บริเวณเขื่อนริมแม่น้ำตาปีครับ แต่กว่างานจะเริ่มขึ้นก็ต้องรอจนถึงเวลา 17:00 น. ( สิ้นสุดเวลา 22:00 น. ) ซึ่งในเวลานั้นผมมีโปรแกรมสำคัญที่ต้องไปทำอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นก็คงไม่มีโอกาสได้เดินซื้อของอร่อย ๆ ที่นี่แล้วล่ะครับ เห็นแก่กินจนลืมคิดเรื่องเวลาไปเลย เหอะ เหอะ . . .

พอรู้ว่าคงไม่ได้เดินเที่ยวงานมหกรรมอาหารแล้วแน่ ๆ ผมก็เลยหันซ้ายหันขวาหาที่เที่ยวครับ อุตส่าห์นั่งรถมาตั้งหลายกิโล เดี๋ยวจะเสียเที่ยว ไม่ไกลจาก สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี เป็นที่ตั้งของ ศาลหลักเมืองสุราษฎร์ธานี ครับ




ตอนนั้นฝนเริ่มตกหนัก ( จริง ๆ ก็เริ่มตกปรอย ๆ มาตั้งแต่ตอนที่ยังไม่ลงจากรถประจำทางแล้วล่ะครับ ) ก็เลยถ่ายมาได้แค่ 2 รูปเองครับ



รายละเอียดพร้อมภาพสวย ๆ ของ ศาลหลักเมืองสุราษฎร์ธานี สามารถรับชมเพิ่มเติมได้จาก
1. Siamfreestyle.com
2. Gimyong.com
_________________
Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.

[Superview]

พี่เต้ยโดนหมาเห่า หรือ โดนไล่กัด ระหว่างที่เดินไปสะพานจุลจอมเกล้า มั้ยครับ

[black_express]

บริเวณสะพานจุลจอมเกล้า เปลี่ยนไปเยอะครับ ช่วงปี 2539 ยังเป็นแค่ถนนสองเลน

ไม่มีสะพานลอยข้ามทางรถไฟสายใต้ ไม่มีสะพานแห่งใหม่ แต่ได้ขับรถข้ามสะพานจุลจอมเกล้าสมใจ หลังจากเห็นแต่ภาพหัวเรื่องสารคดี "สองข้างทางรถไฟ" ที่ใช้รถจักรดีเซล "ฮิตาชิ" รุ่น 6xx ทำขบวนผ่านสะพานแห่งนี้ครับ

[ExtendeD]

จากบริเวณ ศาลหลักเมืองสุราษฎร์ธานี เดินข้ามถนนมาก็จะถึงเขื่อนริมแม่น้ำตาปี ถ้ามองไปทางซ้าย ก็จะเห็นว่ามีเรือประมงจอดอยู่ริมน้ำ ถัดไปอีกไม่ไกลก็จะถึงปากแม่น้ำที่อยู่บริเวณเขตรอยต่อระหว่าง ตำบลคลองฉนาก ตำบลบางกุ้ง ( ทั้ง 2 ตำบลอยู่ในเขตอำเภอเมือง ) และ ตำบลท่าทองใหม่ ซึ่งอยู่ในเขตอำเภอกาญจนดิษฐ์ครับ




เดินห่างจาก ศาลหลักเมืองสุราษฎร์ธานี ออกมาไม่ไกล มองย้อนไปทางปากแม่น้ำอีกที ก็จะเห็น สะพานข้ามแม่น้ำตาปี ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของถนนหมายเลข 2007 ถ้าข้ามไปทางฝั่งซ้ายก็จะเข้าสู่เขตพื้นที่ ตำบลบางใบไม้ ครับ


_________________
Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.

[ExtendeD]

จากจุดที่ยืนถ่ายรูปเมื่อสักครู่มองตรงไปก็จะเห็นว่าแม่น้ำตาปีแยกออกเป็น 2 สาย ซึ่งพื้นที่ที่เห็นอยู่ทางซ้ายนั้นเป็นเกาะ เท่าที่รู้มาเขาเรียกกันว่า เกาะลำพู ครับ



รูปภาพและรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ เกาะลำพู สามารถรับชมได้จาก
1. Wikipedia.org
2. Oknation.net


ส่วนแม่น้ำตาปีทางด้านนี้ก็ไหลมาจากทางอำเภอพุนพินครับ งานมหกรรมอาหารก็จะจัดขึ้นที่ริมเขื่อนแม่น้ำตาปีที่เห็นอยู่ทางด้านซ้ายของรูป เท่าที่เห็นมีร้านค้าหลายร้าน ถ้ามีโอกาสได้มาเดินเที่ยวก็คงจะทั้งเพลิน ทั้งอิ่มเลยล่ะครับ น่าเสียดาย เวลาไม่อำนวย . . .


_________________
Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.

[ExtendeD]

เป็นเพราะว่าฟ้าฝนไม่เป็นใจ โปรแกรมทัวร์เมืองสุราษฎร์ธานีก็เลยสิ้นสุดลง ณ เขื่อนริมแม่น้ำตาปีครับ ยังไปไม่ถึงท่าเรือดอนสักเลย

เวลาผ่านไปจนถึงช่วงเย็นเจ้าตี๋เริ่มออกอาการ พรุ่งนี้ก็จะถึงโปรแกรมสำคัญแล้ว ผมก็เลยให้นอนพักอยู่ในห้อง แล้วผมก็ออกมาโต๋เต๋ตามทางรถไฟต่อ โดยที่ไม่ลืมหยิบขาตั้งกล้องติดมือมาด้วย ก่อนอื่นก็ต้องไปเช็คเวลาของขบวนรถขาเข้ากรุงเทพที่ สถานีสุราษฎร์ธานี ก่อนครับ แต่เดินไปยังไม่ทันถึงสถานีเลย ก็เห็นรถจักรสีเหลือง ๆ ส้ม ๆ อยู่ในย่าน ก็เลยเดินตรงไปเก็บภาพมาก่อนที่จะไปดูป้ายกำหนดเวลาเดินรถครับ

เป็นรถจักรดีเซลไฟฟ้า General Electric ( GEK. ) หมายเลข 4019 ทำขบวนรถสินค้า ดูจากรถที่พ่วงอยู่ในขบวนคาดว่าน่าจะเป็นขบวนที่ 701 ส่วน GEK. คันที่จอดอยู่ทางซ้าย ก็คือ GEK.4033 ที่เป็นรถจักรสับเปลี่ยนอยู่ที่ สถานีสุราษฎร์ธานี อีก 1 คันครับ




GEK.4019 ขณะกำลังวิ่งตัวเปล่าอยู่ในย่าน สถานีสุราษฎร์ธานี ครับ


_________________
Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.

[ExtendeD]

บทต. 4 คันนี้เพิ่งจะถูกตัดออกจากขบวนที่ผมคิดว่าเป็นขบวนที่ 701 เมื่อครู่นี้เองครับ มีผ้าใบคลุมอยู่ทั้ง 4 คันก็เลยเดาไม่ออกว่าที่อยู่บนแคร่นั้นคืออะไรกันแน่ . . .




ยืนเดาอยู่ได้สักพัก 16:26 น. Henschel 3015 ก็ตื่นขึ้นจากการหลับไหลมาปฏิบัติภารกิจประจำวันครับ


_________________
Life will knock us down . . . but we can choose to get back up.