View previous topic :: View next topic |
Author |
Message |
umic2000
2nd Class Pass
Joined: 06/07/2006 Posts: 676
Location: Lenin Grad , U.S.S.R.
|
Posted: 13/05/2009 9:38 pm Post subject: |
|
|
therock wrote: | ถ้าจำไม่ผิดแนวทางรถไฟคือแนวถนนเพชรเกษมปัจจุบันนะครับ |
ผมว่าไม่น่าจะเป็นแนวถนนเพชรเกษมในปัจจุบันนี้นะครับ
เพราะผมเคยอ่านหนังสือเกี่ยวกับทางรถไฟสายนี้ก็มีการระบุว่า มีการสร้างทางรถไฟตัดกับถนนเพชรเกษมหลายจุด บางจุดก็สร้างขนานไปกับแนวถนนเดิมเพราะสภาพพื้นที่บังคับ เช่น ติดภูเขา ติดลำคลองครับ และถนนเพชรเกษมเดิมก็มีมาก่อนอยู่แล้วครับ
จังหวัดระนอง wrote: |
การสำรวจเส้นทางรถไฟชุมพร-ปากจั่น
คัดจากรายงานของ พ.ต.ม.จ.ชิดชนก กฤดากร ประจำกรมประสานงานพันธมิตร
ลงวันที่ 4 มิถุนายน 2486 เรียนเจ้ากรมประสานงานพันธมิตร
-------------------------------------------
เส้นทางรถไฟสายนี้ ตามที่ทราบ ญี่ปุ่นจะสร้างขนาบไปกับทางหลวงชุมพร – กระบุรี จนถึงคลองละอุ่น แต่หลังจากได้ไปสำรวจประกอบกับพิจารณาเพื่อมิให้ญี่ปุ่นได้สร้างทางผ่านเขตชุมนุมชน, เขตทหาร และเขตที่ทางราชการสงวนไว้ จึงเห็นสมควรให้ญี่ปุ่นพิจารณาสร้างทางดังที่ได้ไปสำรวจ เห็นสมควร ดังนี้.-
(1) แนวทางเริ่มจากบริเวณทิศใต้สะพานเหล็กสถานีชุมพร ประมาณ 200 ม. ทำเป็นทางแยกออกจากสายใหญ่ไปตามหมู่บ้านวังไผ่ เป็นทางโค้งทิศใต้ทางหลวง เป็นระยะทางยาวประมาณ 2 กม. ทางจะตัดทับทางหลวงวกขึ้นผ่านบ้านวังไผ่ ทางทิศเหนือของทางหลวง (เพราะทางใต้ของทางหลวงเป็นที่ลุ่มและสวนของราษฎร) ไปยังบริเวณหมู่บ้านหนองเคล้า เป็นระยะทางประมาณ 7 กม. ห่างจากทางหลวง 4 กม. กว่า (ทั้งนี้เพื่อหลีกเลี่ยงพื้นที่ซึ่งทางจังหวัดสงวนไว้สำหรับจัดสร้างเมืองใหม่ เพราะเมืองเก่าน้ำท่วมในหน้าน้ำ)
(2) ต่อจากตำบลนี้ทางรถไฟจะต้องโค้งวกลงใต้ เลียบเข้าม้าย้ง อ้อมเขาไคลและสนามบินทับไก่ เป็นระยะทางยามประมาณ 9 กม. (เพื่อเลี่ยงเขตที่ตั้ง ร.พัน 38 และสนามบิน) ซึ่งมีเนื้อที่ห่างจากทางหลวงประมาณ 2 กม.
(3) จากนี้ทางจะเลียบเขาน้ำลอด ยาวประมาณ 5 กม.
(4) จากตำบลนี้ทางจะขนานไปทับทางหลวง (ไม่มีทางอื่นที่จะหลีกเลี่ยงในการขนานกับทางหลวงนี้ได้ เพราะต่อจากบริเวณเขาน้ำลอดนี้มีภูเขาสูง ซึ่งทางรถไฟจะต้องไปตามคลองชุมพร) เลียบเขาและคลองชุมพร จนถึงบ้านท่าสาร ระยะทางยาวประมาณ 15 กม.
(5) จากตำบลนี้ ทางรถไฟจะไปตามเส้นทางข้างเดิมสมัยโบราณ เลียบเขาหินฉุ ผ่านคลองวัน เป็นระยะทางยาวประมาณ 6 กม.
(6) จากนี้ทางจะอ้อมช่องเขาตัดเข้าหาบ้านทุ่งข่า ระยะทางยาวประมาณ 4 กม.
(7) จากนี้ทางจะตัดตรงเข้าหาบ้านสวะ เป็นระยะทางยาวประมาณ 5 กม.
(8) ณ บริเวณบ้านสวะนี้ทางรถไฟอาจไปหยุดและใช้บริเวณบ้านสวะนี้เป็นท่าลำเลียงรถไฟก็ได้ เพราะเป็นบริเวณตอนลึกของแม่น้ำกระบุรี เรือลำเลียงเข้าถึงได้ในเมื่อน้ำขึ้น และท่านี้เมื่อสมัยโบราณไทยได้เคยใช้เป็นท่าลำเลียงสินค้าเพื่อส่งไปขายยังประเทศอินเดียด้วย) ถ้าจะสร้างทางรถไฟต่อไปถึงคลองละอุ่นแล้ว ทางรถไฟจะต้องขนานไปกับทางหลวงเพื่อหลีกเลี่ยงเขาสูง ฉะนั้นจากบริเวณบ้านสวะ
(9) ทางรถไฟจะผ่านบ้านบางไทร, บ้านครอกปรือ, ระหว่างบ้านน้ำจืดใหญ่ (อำเภอกระบุรี) และบ้านเกาะคล้า ระยะทางยาวประมาณ 7 กม.
(10) จากตำบลนี้ทางรถไฟจะขนานไปกับเส้นทางหลวง ผ่านบ้านบางบอนใต้ ข้ามคลองลำเลียง(เป็นคลองใหญ่) เลียบเขานกหว้า เข้าหาบ้านทับจาก เป็นระยะทางยาวประมาณ 19 กม.
(11) ต่อจากตำบลนี้ ทางรถไฟจะผ่านบ้านบางใหญ่ใต้ ข้ามคลองสองพี่น้อง ผ่านหมู่บ้านเขาฝาชี ทางทิศตะวันออกของเขาฝาชี มุ่งเข้าหาคลองละอุ่น เป็นระยะทางยาวประมาณ 9 กม.
เป็นจุดปลายทางของทางรถไฟสายนี้
หมายเหตุ สำหรับหมายเลขที่วงเล็บจาก 1) ถึง 11) ดูตามแผนที่ประกอบ
สำหรับทางรถไฟที่ได้สำรวจเสนอข้างต้นนี้ ได้หพิจารณาไปในแง่ที่ว่า ถ้าฝ่ายเราจะเป็นผู้เสียเงินสร้างและต่อไปจะเป็นทางรถไฟของเรา ก็จะได้ใช้ทางรถำฟนี้เพื่อลำเลียงสินค้าจากจังหวัดที่ใกล้เคียง จึงได้หาเส้นทางที่ให้ทางรถไฟนี้ต้องเสียเงินน้อยในการก่อสร้าง และพยายามเข้าหาหมู่บ้านที่อาจมีสินค้าบรรทุกรถไฟได้ และในเวลาเดียวกันนั้น ก็ให้หลีกเขตหวงห้ามของรัฐบาล
เมื่อ ผบ.ทหารสูงสุด กับผู้บัญชาการกองทัพญี่ปุ่นในประเทศไทย ได้ลงนามข้อตกลงเกี่ยวกับการสร้างทางรถไฟผ่านคอคอดกระ ในวันที่ 31 พฤษภาคม 2486 นั้นแล้ว กองบัญชาการทหารสูงสุดได้มีคำสั่งตั้งกรรมการดำเนินการจัดสร้างรถำฟทหาร และอนุกรรมการ ตามคำสั่งที่ 80/86 ลงวันที่ 15 มิถุนายน 2486 ดังต่อไปนี้.-
ที่มา : http://www.ranong.go.th/imgtopmenu/menu3/war2/war-5.htm
|
|
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 44333
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 14/05/2009 7:42 am Post subject: |
|
|
ขอบคุณครับคุณกรและน้องเอก
น่าเสียดายที่ไม่มีแผนที่ประกอบในเว็บไซต์ที่คัดมานี้ อยากเห็นเอกสารฉบับจริงนะครับ
ในภาพรวมทางรถไฟสายนี้ก็ขนานหรือไม่ก็ตัดถนนเพชรเกษมในปัจจุบันไปมา ไม่ทิ้งห่างมากนะครับ
แต่ไม่ใช่ว่าถนนเพชรเกษมสร้างทับแนวทางรถไฟ
สมัยก่อนดูการสร้างทางรถไฟทำกันอย่างรวดเร็วจริงๆ นะครับ ไม่สนใจเลยว่าหนทางจะเป็นภูเขาหรือหุบเหว
สมัยนี้ จะสร้างทางเพิ่มเติมนิดหน่อย ก็บ่นว่าเป็นภูเขา ไม่คุ้มทุน ไม่ว่าจะเป็นเด่นชัย-เชียงรายหรือสุราษฎร์ธานี-พังงาก็แล้วแต่
ดูสิครับ ชุมพร-ระนองที่โค้งเยอะน้องๆ ถนนไปแม่ฮ่องสอน ยังสร้างทางรถไฟได้เลยครับ |
|
Back to top |
|
|
umic2000
2nd Class Pass
Joined: 06/07/2006 Posts: 676
Location: Lenin Grad , U.S.S.R.
|
Posted: 14/05/2009 10:32 pm Post subject: |
|
|
Mongwin wrote: | ขอบคุณครับคุณกรและน้องเอก
น่าเสียดายที่ไม่มีแผนที่ประกอบในเว็บไซต์ที่คัดมานี้ อยากเห็นเอกสารฉบับจริงนะครับ
ในภาพรวมทางรถไฟสายนี้ก็ขนานหรือไม่ก็ตัดถนนเพชรเกษมในปัจจุบันไปมา ไม่ทิ้งห่างมากนะครับ
แต่ไม่ใช่ว่าถนนเพชรเกษมสร้างทับแนวทางรถไฟ
สมัยก่อนดูการสร้างทางรถไฟทำกันอย่างรวดเร็วจริงๆ นะครับ ไม่สนใจเลยว่าหนทางจะเป็นภูเขาหรือหุบเหว
สมัยนี้ จะสร้างทางเพิ่มเติมนิดหน่อย ก็บ่นว่าเป็นภูเขา ไม่คุ้มทุน ไม่ว่าจะเป็นเด่นชัย-เชียงรายหรือสุราษฎร์ธานี-พังงาก็แล้วแต่
ดูสิครับ ชุมพร-ระนองที่โค้งเยอะน้องๆ ถนนไปแม่ฮ่องสอน ยังสร้างทางรถไฟได้เลยครับ |
ในความเห็นของผมนะครับ ทางรถไฟสายชุมพร-ปากจั่นถึงแม้จะถูกรื้อถอนรางไปแล้ว แต่ผมว่าถ้าฟื้นฟูขึ้นมาเพื่อรองรับโครงการแลนด์บริดจ์ในกรณีที่ไม่ต้องการขุดคลองคอคอดกระ ผมว่าถึงจะใช้งบประมาณสูงแต่ระยะยาวจะคุ้มแน่นอนครับ เพราะเรือสินค้าเองก็ไม่คงอยากเดินเรือผ่านช่องแคบมะละกาให้เปลืองน้ำมัน เปลืองเวลาและเผชิญหน้ากับโจรสลัดมากนัก อีกทั้งแนวรางเดิมก็มีอยู่แล้วเพียงแค่ปรับปรุงคันทาง ปรับสภาพจุดที่มีความลาดชันสูงก็น่าจะใช้การได้แล้วครับ
ส่วนเรื่องของการสร้างทางรถไฟนั้น สมัยนี้ดูเหมือนรถไฟจะเป็นลูกเมียน้อยไปแล้วครับอาจารย์ แม้แต่ภาครัฐเองก็ยังไม่เหลียวแล ไม่อยากจะสนับสนุนรถไฟด้วยเลย ดูจากงบสร้างถนน สร้างทางด่วน ปีหนึ่งๆสร้างตั้งหลายร้อยหลายพันกิโลเมตร แต่ทางรถไฟสิบกว่าปีจะมีสร้างกันสักครั้งหนึ่ง
ผมเห็นทุกรัฐบาลมีนโยบายเกี่ยวกับรถไฟตั้งแต่สร้างทางคู่ ทำโครงการรถไฟความเร็วสูง แต่สุดท้ายแล้วก็ทำไม่ได้เข้าตำรา "พูดได้ คิดได้ ทำไม่ได้" ครับ ทุกวันนี้แค่ ร.ฟ.ท. ประคองตัวไม่ให้ทรุดมากไปกว่านี้ก็ถือว่าเก่งแล้วครับอาจารย์
ป.ล. ผมว่าเมื่อไหร่ก็ตามที่พม่าสร้างทางรถไฟมาถึงจ.เกาะสองได้เมื่อไหร่ งานนี้เมืองระนองจะถูกคนพม่ายึดครองโดยพฤตินัยและเกิดปัญหาเกี่ยวกับความมั่นคงแน่นอนครับ |
|
Back to top |
|
|
Patiew
1st Class Pass (Air)
Joined: 02/04/2008 Posts: 1058
Location: กำแพงแสน
|
Posted: 17/05/2009 10:25 pm Post subject: |
|
|
BanPong1 wrote: | อาจารย์เอก ได้แวะเก็บภาพรถจักรไอน้ำ มิกาโด (หรือ แปซิฟิค ผมไม่แน่ใจ) มาบ้างหรือเปล่าครับ |
ขออภัยค่ะอาจารย์ พอดี อ.เอก ติดราชการไปสัมมนา 2 วัน และวันนี้ได้รูปมาแล้วเลยถือโอกาสนำมาฝากอาจารย์ด้วยค่ะ แต่ไม่แน่ใจว่าเป็นแปซิฟิคหรือมิกาโดนะคะ คงต้องรอผู้รู้เข้ามาเฉลยค่ะ
|
|
Back to top |
|
|
black_express
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/03/2006 Posts: 10060
Location: อุตรดิตถ์ - กรุงเทพฯ
|
Posted: 17/05/2009 10:29 pm Post subject: |
|
|
จัดวางล้อ 2-8-2 เป็นแบบ "มิกาโด้" ครับ ป้าติ๋ว
คงนำไปจัดตั้งแสดงเป็นที่ระลึกในช่วงหลัง สังเกตจากรถจักรรุ่นนี้เป็นรุ่นหลังสงคราม ขอพ่วงแบบ "อเมริกัน" แทนที่จะเป็นรถจักรรุ่น C-56 ขอพ่วงแบบ เอบีซี. ที่ตั้งแสดงบริเวณสะพานข้ามแม่น้ำแคว ซึ่งร่วมสมัยในยุคสงครามมากกว่า
แถมอุปกรณ์ชำร่วยประจำรถ หายไปเกือบหมดแล้ว
Last edited by black_express on 17/05/2009 10:41 pm; edited 1 time in total |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42629
Location: NECTEC
|
Posted: 17/05/2009 10:41 pm Post subject: |
|
|
Patiew wrote: | BanPong1 wrote: | อาจารย์เอก ได้แวะเก็บภาพรถจักรไอน้ำ มิกาโด (หรือ แปซิฟิค ผมไม่แน่ใจ) มาบ้างหรือเปล่าครับ |
ขออภัยค่ะอาจารย์ พอดี อ.เอก ติดราชการไปสัมมนา 2 วัน และวันนี้ได้รูปมาแล้วเลยถือโอกาสนำมาฝากอาจารย์ด้วยค่ะ แต่ไม่แน่ใจว่าเป็นแปซิฟิคหรือมิกาโดนะคะ คงต้องรอผู้รู้เข้ามาเฉลยค่ะ
|
โธ่! มิกาโด้ 962 โทรมมะนังขนาดนี้เลยเทียวหรือ สู้เอา เจ้า รถจักรสับเปลี่ยน Brush หรือ ไม่ก็เอาเจ้าซี 56 จากย่านสถานีกรุเทพ ไปไว้ที่เขาฝาชียังดีกว่า เพราะ ทางสายนี้ สร้างได้เลว ทำให้เเฉพาะ รถจักรสับเปลี่ยน กับ 1 รถ ตญ. + 1 รถ ชส. เท่านั้นที่จะผ่านไปได้! |
|
Back to top |
|
|
Patiew
1st Class Pass (Air)
Joined: 02/04/2008 Posts: 1058
Location: กำแพงแสน
|
Posted: 17/05/2009 10:43 pm Post subject: |
|
|
ขอบคุณค่ะพี่ตึ๋ง
แหม ไม่ผิดหวังจริงๆ ยังไม่ทันไรก็ทราบคำตอบซะแล้ว
หลังจากหายหน้าไปนาน ติ๋วขออนุญาตโผล่หน้ามาทักทายด้วยค่ะ กลัวหลานๆ ลืมหน้ากันซะก่อน สวัสดีค่ะทุกคน
ภาพนี้ให้ชื่อว่า รถเก่ากับคนแก่ค่ะ
การแต่งกายอาจไม่เหมาะกับรถสักเท่าไร เหตุฉุกเฉินจริงๆ ค่ะ ออกจากงานแต่งก็มุ่งหน้าตามหารถไฟกันเลย
|
|
Back to top |
|
|
Patiew
1st Class Pass (Air)
Joined: 02/04/2008 Posts: 1058
Location: กำแพงแสน
|
Posted: 17/05/2009 10:54 pm Post subject: |
|
|
ยังค่ะคุณวิศรุต สภาพที่เห็นเบื้องต้นยังไม่ถือว่าโทรมมาก เดี๋ยวป้าจะพาเข้าไปดูด้านในตู้.... เห็นแล้วเศร้าจริงๆ แต่ก่อนอื่นมาดูด้านนอกโดยรอบก่อนนะคะ
สภาพตัวถังหัวรถจักรค่ะ
|
|
Back to top |
|
|
Patiew
1st Class Pass (Air)
Joined: 02/04/2008 Posts: 1058
Location: กำแพงแสน
|
Posted: 17/05/2009 11:05 pm Post subject: |
|
|
ถ้าเดินอ้อมมาด้านหลัง ยืนใกล้คลองละอุ่น แล้วมองย้อนกลับไปด้านทางเข้า จะเห็นภาพนี้ค่ะ
|
|
Back to top |
|
|
Patiew
1st Class Pass (Air)
Joined: 02/04/2008 Posts: 1058
Location: กำแพงแสน
|
Posted: 17/05/2009 11:23 pm Post subject: |
|
|
และหัวรถจักรที่เราเห็นกันนี้ ปัจจุบันอยู่ภายใต้ความดูแลขององค์การบริหารส่วนจังหวัดระนอง โดย อบจ. ให้ความอนุเคราะห์จัดสร้างหลังคาคลุมกันแดดกันฝนมูลค่ารวมหนึ่งล้านสองแสนบาทถ้วน หลังคายังอยู่ในสภาพดีและอยู่ในช่วงรับประกัน แต่หัวรถจักรดูเหมือนจะขาดการดูแลมานานแล้วรึเปล่านะคะ ผุพังเสียหายมากมายจริงๆ
|
|
Back to top |
|
|
|