Ads Service

Main Menu

 
icon_home.gif Homepage
icon_community.gif Members Zone
· ข้อมูลส่วนตัว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ข่าวสารส่วนตัว
· บริการเว็บเมล์
· กระดานข่าว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก กระดานฝากข้อความ
· รถไฟไทยแกลลอรี่
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก รายนามสมาชิก
· แบบสำรวจ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก สมุดเยี่ยม
· เกี่ยวกับสมาชิก
favoritos.gif News & Stories
· เรื่องทั้งหมด
· เนื้อหาสาระ
· เรื่องสำหรับพิมพ์
· ยอดฮิตติดอันดับ
· ค้นหาข่าวสาร
· ค้นหากระทู้เก่า
nuke.gif Contents
· กำหนดเวลาเดินรถ
· ประเภทขบวนรถโดยสาร
· ข้อมูลเส้นทางรถไฟ
· แผนที่เส้นทางรถไฟ
· อัตราค่าโดยสาร
· คำนวณค่าโดยสารรถไฟ
· รูปแบบการให้บริการรถไฟ
· หมายเลขโทรศัพท์ที่สำคัญ
· ทริปท่องเที่ยวโดยรถไฟ
· ระบบติดตามขบวนรถ
som_downloads.gif Services
· Downloads
· GoogleSearch
· Hotels Booking
· FlashGames
· Wallpaper 1
· Wallpaper 2
· Wallpaper 3
· Wallpaper 4
icon_members.gif Information
· เกี่ยวกับเรา
· นโยบายความเป็นส่วนตัว
· แผนผังเว็บไซต์ฯ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ส่งข้อแนะนำติชม
· ติดต่อลงโฆษณา
· แนะนำและบอกต่อ
· สถิติทั้งหมด
· สำหรับผู้ดูแลระบบ
 

Sponsors

 

Ads Service

 

Visitors

 


มีผู้เข้าเยี่ยมชม
สมาชิก:311238
ทั่วไป:13181767
ทั้งหมด:13493005
คน ตั้งแต่
01-08-2004
 


Rotfaithai.Com :: View topic - รายการ "คุณพระช่วย" กับตอน "เปิดตำนานม้าเหล็ก
 Forum FAQForum FAQ   SearchSearch   UsergroupsUsergroups   ProfileProfile   Log in to check your private messagesLog in to check your private messages   Log inLog in 

รายการ "คุณพระช่วย" กับตอน "เปิดตำนานม้าเหล็ก
Goto page Previous  1, 2, 3
 
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> สัพเพเหระ
View previous topic :: View next topic  
Author Message
black_express
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/03/2006
Posts: 10060
Location: อุตรดิตถ์ - กรุงเทพฯ

PostPosted: 29/11/2006 9:34 am    Post subject: Reply with quote

ต้องออกก่อนเวลาถ่ายทอดฟุตบอลเอเชี่ยนเกมส์ ระหว่าง ไทย - ปาเลสไตน์ ครับ

รายการเริ่มตั้งแต่ 20.15 น. เริ่มจากภาพประวัติศาสตร์บางส่วนของกิจการรถไฟ แล้วต่อมาถึงเรื่องรถโยก ข้อมูลและวิทยาการ มาจาก หอเกียรติภูมิรถไฟ
Back to top
View user's profile Send private message
KTTA-50-L
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 02/04/2006
Posts: 4367
Location: Freight Division , SRT

PostPosted: 29/11/2006 11:41 am    Post subject: Reply with quote

ไม่ได้ดูครับ กว่าจะถึงบ้านก็ปาไปเกือบตี 1
_________________
The Guardian of Rotfaithai.Com
Back to top
View user's profile Send private message MSN Messenger
CivilSpice
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 18/03/2006
Posts: 11192
Location: หนองวัวหนุ่มสเตชั่น

PostPosted: 29/11/2006 1:23 pm    Post subject: Reply with quote

ใครที่ยังไม่ได้ชม สามารถดูย้อนหลังแบบออนไลน์ได้ที่ เว็บ HiPTV ของ MCOT ครับ

http://hiptv.mcot.net/hipPlay.php?id=8521
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42631
Location: NECTEC

PostPosted: 13/12/2006 2:25 pm    Post subject: Reply with quote

อ่านะ หอเกียรติภูมิรถไฟได้ลงผู้จัดการ (13 ธันวาคม 2549) อีกแล้วครับท่าน Very Happy

"หอเกียรติภูมิรถไฟ" ของดีที่ซ่อนอยู่ในสวนจตุจักร

โดย ผู้จัดการออนไลน์ 12 ธันวาคม 2549 17:55 น.


โดย : หนุ่มลูกทุ่ง


Click on the image for full size

พระบรมรูปรัชกาลที่5ในหอเกียรติภูมิรถไฟ


“วาว วาว เสียงรถไฟวิ่งไปฤทัยครื้นเครง เรามันคนกันเองไม่ต้องเกรงใจใคร พวกเราเพลินชมไพรนั่งรถไฟถึงในไทรโยค โยนทุกข์ใดในโลกสู่ไทรโยคไป”

ฉันเดินฮัมเพลง มนต์ไทรโยคของวง ดิ อินโนเซ้นท์ ไปพลางๆหลังจากพาตัวเองแวะเวียนมาสูดอากาศบริสุทธิ์ ภายในสวนจตุจักรเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา นอกเหนือจากแวะมาชมหมู่มวลแมกไม้อันร่มรื่นแล้ว ฉันยังมีเป้าหมายสำคัญคือตั้งใจที่จะมาเยี่ยมชม "หอเกียรติภูมิรถไฟ" ซึ่งตั้งอยู่ภายในสวนด้วยนั้นเอง

หลายๆคนที่เคยมาพักผ่อนที่สวนจตุจักรอาจเคยสังเกตเห็นอาคารหลังใหญ่ ตั้งอยู่แถวๆบริเวณลาดจอดรถประตู 2 ในวันธรรมดาอาคารแห่งนี้จะถูกปิดตาย มองภายนอกคล้ายโกดังเก็บของแต่ในวัน เสาร์- อาทิตย์ ประตูจะถูกเปิดออกพร้อมกับเผยให้เห็นสิ่งที่อยู่ภายใน


Click on the image for full size
รถไฟจิ๋วขบวนนี้กำลังวิ่งวนไปตามราง


ที่นั้นแหละคือ"หอเกียรติภูมิรถไฟ"สถานที่ซึ่งเป็นขุมทรัพย์แห่งการเรียนรู้ สำหรับผู้ที่มีใจรักและสนใจในเรื่องรถไฟ หอเกียรติภูมิรถไฟแห่งนี้ เปิดดำเนินการมานานกว่า 16 ปี แต่เดิมอาคารหลังนี้การรถไฟแห่งประเทศไทยสร้างขึ้น เพื่อให้เป็น "พิพิธภัณฑ์รถไฟ"

ต่อมาการรถไฟฯ เลิกโครงการและไม่ใช้ประโยชน์จากอาคารพิพิธภัณฑ์รถไฟ ชมรม "เรารักรถไฟ" จึงขออนุมัติจากการรถไฟเข้าครอบครองใช้ประโยชน์ตั้งแต่ปี 2533 และใช้ชื่อสถานที่ว่า "หอเกียรติภูมิรถไฟ" เพื่อสอดคล้องกับสิ่งของและวัตถุประสงค์ของการจัดแสดง

เพราะไม่เพียงรถไฟที่เป็นเกียรติภูมิของชาติเท่านั้น แต่ที่นี่ยังมีนโยบายจะจัดแสดงสิ่งของ ซึ่งมีมากมายหลายอย่าง ตั้งแต่ยานยนต์ทุกชนิด รวมถึงการคมนาคม การสื่อสาร การศึกษา การพิมพ์ การถ่ายภาพ เป็นต้น

แม้จะเป็นวันอาทิตย์ก็จริงแต่ฉันก็สังเกตว่ามีผู้เข้าชมบางตา ทั้งๆที่ตอนฉันเดินเลียบสวนสาธารณะเข้ามานั้นมีผู้คนขวักไขว่ไม่รู้ด้วยเหตุใดจึงพากันมองข้ามสิ่งดีๆใกล้ตัวไป อดคิดไม่ได้ว่าถ้าฉันเป็นรถไฟและมีความรู้สึกก็คงน้อยใจเป็นแน่ ก็ดูสิอุตส่าห์ฝ่าแดดลมฝนมาหลายปี เพื่อรอคอยให้เราเข้าไปศึกษาหาประโยชน์จากตัวมัน แต่เรากลับไม่สนใจเสียนี่


Click on the image for full size
รถยนต์ที่อยู่ภายในส่วนของหอเกียรติภูมิยานยนต์


อาคารหลังนี้คาดคะเนด้วยสายตาก็มีขนาดใหญ่โตพอสมควร ฉันเริ่มต้นจากเข้าไปถวายสักการะพระรูปของรัชกาลที่ 5 ซึ่งตั้งอยู่ติดกับบริเวณทางเข้าก่อนเป็นลำดับแรก เพื่อเป็นสิริมงคลแก่ตนเองพร้อมกับรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณอันใหญ่หลวงของพระองค์ท่าน ที่ทรงพระราชทานกำเนิดการรถไฟให้เป็นการขนส่งมวลชนอย่างแรกในประเทศ

จากนั้นจึงเริ่มเดินดูรอบๆด้วยความตื่นตาตื่นใจเป็นอย่างมาก เริ่มต้นที่"เกวียนไม้"ที่ตั้งไว้เพื่อเป็นเครื่องเตือนใจว่าครั้งหนึ่งในสมัยรัชกาลที่ 4 ควีนวิคตอเรียแห่งสหราชอาณาจักรให้ราชทูตนำขบวนรถไฟจำลองมาถวาย พร้อมด้วยข้อเสนอขอให้อังกฤษสร้างทางรถไฟสายแรกตัดข้ามคลองคอดกระให้
ซึ่งอาจหมายถึงการสูญเสียเอกราช รัชกาลที่4ทรงรับขบวนรถไฟจำลองไว้ก่อนปฏิเสธอย่างนุ่มนวลว่า "สยามยังยากจน เรามีเกวียนใช้ก็พอแล้ว" มิเช่นนั้นไม่แน่ว่าป่านนี้เราอาจเป็นเมืองขึ้นไปแล้วก็ได้

สิ่งที่ฉันสนใจเป็นพิเศษก็คงจะเป็น "รถจักรไอน้ำ หมายเลข 10089" เป็นรถจักรไอน้ำรุ่นสุดท้ายที่บริษัทเกียวซานโกเกียวในญี่ปุ่นสร้างขึ้นก่อนเลิกกิจการ เพราะหมดยุคไอน้ำเมื่อสามสิบปีก่อนและจากการถอดชิ้นส่วนออกมาตรวจโดยละเอียด พบว่าไม่มีริ้วรอยการใช้งาน

สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นตามความต้องการของบริษัทโรงงานน้ำตาลใช้ขนอ้อยจากไร่ป้อนโรงงาน แต่พอมาถึงท่าวัดพระยาไกรก็เลิกใช้รถไฟเปลี่ยนไปใช้รถยนต์ในการขนอ้อย "10089" จึงทิ้งไว้ในโกดังที่ท่าเรือ และไม่เคยใช้งานแต่อย่างใด


Click on the image for full size
รถจักรไอน้ำ หมายเลข 10089 ที่ไม่เคยถูกใช้งาน


บริเวณใกล้ๆกันนั้นยังมีรถจักรไอน้ำที่ได้รับคำจำกัดความว่าเป็น"ผู้ปิดทองหลังพระ" ของการรถไฟมีชื่อว่ารถจักรไอน้ำ "สูงเนิน" ซึ่งทำหน้าที่ตัดฟืน ขนน้ำ จากป่าที่ที่หัวหวายมาให้ขบวนรถไฟลากจูงด้วยรถจักรไอน้ำใช้ที่สถานีสูงเนินกลางดงพญาไฟในอดีต

ขณะที่ฉันเดินสำรวจอยู่นั้นก็จะมีเสียงบรรยายถึงประวัติ และสิ่งที่น่าสนใจจากเสียงตามสายมาเป็นระยะๆ ฉันสังเกตเห็นว่านอกจากฉันและผู้เข้าเยี่ยมชมอีกสองสามคนแล้ว ยังมีชายวัยกลางคนอีกคนหนึ่งที่คอยผุดลุกผุดนั่งเดินไปกวาดตรงโน้นปัดฝุ่นตรงนี้พร้อมกับคอยบังคับปิด เปิดสวิตช์เจ้ารถไฟโมเดลให้วิ่งไปตามราง

ด้วยความสงสัยอยู่ในทีฉันจึงเดินเข้าไปสวัสดีและทักทาย จึงรู้ว่าตัวเองกำลังคุยอยู่กับ คุณจุลศิริ วิรยศิริ อายุ 58 ปี ผู้อำนวยการหอเกียรติภูมิรถไฟ และเหมาทุกตำแหน่งในหอเกียรติภูมิรถไฟ เขาเล่าให้ฉันฟังว่า ตอนนี้ที่นี่เสื่อมโทรมลงไปมากเพราะขาดงบประมาณในการบำรุงรักษา

"ที่นี่เป็นของเอกชนก่อตั้งโดยคุณพ่อผม รายได้หลักก็อาศัยการรับบริจาคจากผู้ที่เข้ามาเยี่ยมชมเท่านั้น เราไม่มีการเก็บค่าเข้าชม ขนาดให้ดูฟรีคนก็ยังน้อย ผมเองก็ท้อใจหลายครั้งแต่เหตุผลที่ไม่สามารถละทิ้งได้ก็คือต้องการอนุรักษ์เพื่อเป็นมรดกในอนุชนรุ่นหลัง ถ้าวันหนึ่งไม่ทำแล้วก็คงจะยกให้เอกชนจัดทำเป็นมูลนิธิดำเนินการหาทุน แต่ตอนนี้ก็ขอแค่มีคนเข้าชมก็พอใจเป็นที่สุดแล้ว"

ฉันรับฟังด้วยความรู้สึกที่บรรยายไม่ถูกก่อนจะจบบทสนทนาแล้วขอตัวเดินไปดูรถไฟต่อ และต้องอัศจรรย์ใจกับ "รถโยก" ขนาดเล็กที่มีประวัติบอกไว้ว่าใช้สำหรับตรวจทางนำขบวนรถไฟเมื่อครั้งงาน "ร้อยปียานยนต์ไทย" ถูกลากจูงอยู่กับที่ด้วยหัวรถจักรดีเซล "ฮันสเล็ท" ซึ่งโรงงานมักกะสันการรถไฟแห่งประเทศไทยได้ซ่อมอนุรักษ์จากซากรถที่ใช้การไม่ได้แล้ว จนกลับใช้เครื่องยนต์ลากจูงฉุดลากขบวนรถไฟได้


Click on the image for full size
พาหนะเหล่านี้ล้วนแสดงถึงวิวัฒนาการคมนาคมของไทย


ถัดมาเป็นตู้รถไฟที่ลากจูงคันแรก คือ "รถ ร.พ." ซึ่งเป็นตู้รถไฟไม้ที่นับได้ว่าเก่าที่สุดในประเทศไทย และอาจเป็นตู้รถไฟพยาบาลที่สร้างด้วยไม้สักทองหลังสุดท้ายของโลก รถ ร.พ.เกิดขึ้นพร้อมกับการแพทย์แผนตะวันตกที่เริ่มเข้ามามีบทบาทในสมัยรัชกาลที่ 5 เมื่อทรงสร้างโรงพยาบาลศิริราชขึ้นก็ทรงตระหนักถึงราษฎรที่อยู่ต่างจังหวัด

จึงทรงพระกรุณาโปรดให้สมเด็จกรมพระกำแพงเพชรอัครโยธินพระน้องยาเธอฯ ให้ออกแบบรถพยาบาลหลังแรกของไทย และโปรดเกล้าสั่งไม้สักทองจากบราซิลขนไปต่อที่ประเทศอังกฤษแล้วนำเข้ามาในประเทศไทย แต่ก็คาดว่าไม่มีโอกาสใช้รัชกาลที่ 5 ทรงสวรรคตเสียก่อน

ในโบกี้ต่อมาเป็นตู้ รถจ.พ. หรือรถจัดเฉพาะพยาบาล มีลักษณะภายนอกแบบเดียวกับรถ รพ.แต่ภายในตกแต่งคล้ายคลินิค ตรวจร่างกายแบบฉุกเฉิน ทั้งสองคันยังอยู่ในสภาพดี และถือว่าเป็นรถไฟที่เก่าที่สุดของประเทศไทย
นอกจากนั้นแล้วลุงจุลศิริก็ยังเล่าให้ฉันฟังว่า มีรถจัดเฉพาะอื่นๆ เช่น รถ จ.ขจก. ซึ่งเป็นตู้รถที่บรรทุกทหารที่จะไปปราบปรามโจรก่อการร้าย หรือ รถจ.ล.ย. ซึ่งเป็นตู้รถจัดเฉพาะลำไย ที่เอาไว้จัดส่งลำไย ทำให้ฉันนึกขันอยู่ในใจว่า นี่ถ้าเป็นผลไม้อื่นๆ ก็คงต้องมีชื่อเรียกอีกมากมายเป็นแน่

อ๋อ...และที่นี่เขายังนำเอาตู้รถไฟมาดัดแปลงเป็นห้องสมุด "ยานยนต์เฉลิมพระเกียรติ์" มีหนังสือเอกสารให้อ่านมากมาย โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายอีกด้วยข้างในก็ติดแอร์เย็นฉ่ำทีเดียว แถมยังมีรถไฟจำลองขนาดเล็กมากมายให้ชมอีกด้วย
รวมถึง "รถราง"ซึ่งในปัจจุบันเลิกใช้ไปแล้วกว่า 30 ปี ฉันก็รู้จากที่นี่แหละว่าประเทศไทยเป็นประเทศแรกในเอเชียเชียวน่าที่ริเริ่มนำรถรางมาใช้


Click on the image for full size
“รถราง”ที่นับวันจะหาดูได้ยากในปัจจุบัน


เมื่อเดินเข้าไปข้างในสุดก็จะเป็นส่วนของ "หอเกียรติภูมิยานยนต์ พีระ-เจ้าดาราทอง" มีรถยนต์ที่มีความหมายทางประวัติศาสตร์อย่างรถ "เฟี๊ยตโทโปลิโน่" ที่เหมือนไม่ผิดเพี้ยนกับรถยนต์พระที่นั่งครั้งทรงพระเยาว์ของในหลวงรัชกาลปัจจุบัน รถ "ดัทสันบลูเบิร์ด" ฉายาว่า "แท็กซี่เลือดไทย" เพราะสร้างในเมืองไทยเป็นคันแรก ใกล้ๆกันก็มีซากเครื่องสมัยสงครามโลกครั้ง2ให้ชมด้วย

ฉันเพลิดเพลินจำเริญใจกับเหล่ารถไฟจนเต็มอิ่มแล้วก็ได้เวลาโบกมือลา แต่ก็ยังไม่วายเหลียวหลังกลับไปมองหอเกียรติภูมิรถไฟด้วยความเสียดายว่า สถานที่ดีๆ แถมยังให้ดูฟรีอย่างนี้ แต่กลับเงียบเหงาไม่มีคนมาชมเท่าไรนัก

และก่อนที่ฉันจะกลับ ก็ไม่ลืมที่จะแวะสั่นระฆังรถไฟที่ตั้งอยู่บริเวณทางออกสามครั้งดังๆเป็นการบอกลาเหล่ารถไฟและสิ่งของทุกชิ้นที่อยู่ใน "หอเกียรติภูมิรถไฟ"แห่งนี้

* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *

"หอเกียรติภูมิรถไฟ"ตั้งอยู่ที่ลานจอดรถประตู 2 สวนจตุจักร ถนนกำแพงเพชร 3 กทม.10900 เปิดให้เข้าชมวันเสาร์-อาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 08.00-15.00น. ไม่เสียใช้จ่ายในการเข้าชม วันธรรมดาหากต้องการเข้าชมเป็นหมู่คณะโทร.08-1615-5776 การเดินทางเริ่มจากลงรถไฟฟ้า B T S สถานีหมอชิต แล้วเดินเลาะริมสวนสาธารณะจตุจักรมาเรื่อยๆแล้วเลี้ยวเข้าลานจอดรถประตู 2 จุดสังเกตอยู่ตรงข้ามธนาคารทหารไทย
Back to top
View user's profile Send private message
Display posts from previous:   
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> สัพเพเหระ All times are GMT + 7 Hours
Goto page Previous  1, 2, 3
Page 3 of 3

 

Share |

Jump to:  
You cannot post new topics in this forum
You cannot reply to topics in this forum
You cannot edit your posts in this forum
You cannot delete your posts in this forum
You cannot vote in polls in this forum

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group


Forums ©