View previous topic :: View next topic |
Author |
Message |
pattharachai
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 6536
Location: ราชอาณาจักรไทย
|
Posted: 28/07/2009 9:19 pm Post subject: |
|
|
palm_gea wrote: | ตอนที่ผมเข้าคอร์สติววิชาภาษาไทยเพื่อสอบเข้ามหาวิทยาลัย มีอยู่เรื่องหนึ่งที่ยังจำได้และมีออกในข้อสอบด้วย(ขอยกเครดิตให้กับอาจารย์ปิงครับ) นั่นคือการใช้คำว่า "ถูก" ครับ คำว่า ถูก จะใช้ในคำที่มีความหมายในแง่ลบ(ไม่แน่ใจว่าเรียกว่าคำวิเศษณ์รึเปล่านะครับ) เช่น ถูกตี ถูกด่า จะไม่ใช้ในความหมายในแง่บวก เช่น ถูกชม ถูกเชิญ ถูกเธอเรียกว่าแฟน โดยในความหมายแง่บวกจะใช้คำว่า "ได้รับ" หรือ "ได้รับการ" ครับ เช่น ได้รับการชม ได้รับการเชิญ
|
ในเรื่อง ถูกนั่นถูกนี่ เข้าใจว่า เป็นการเอาหลักของภาษาอังกฤษในเรื่อง passive voice มาใช้ แต่อย่างที่ปาล์มบอกหละครับว่า ในภาษาไทย ถูก จะกลายเป็นความหมายลบเมื่อนำมาใช้กรณีประธานของประโยคเป็นผู้ถูกกระทำ
เรื่อง งานเข้า ผมว่าอาจจัดอยู่ในข่ายของคำแสลงได้ เหมือนกับที่นิยมกันในแต่ละยุค เช่น จ๊าบ เจ๋ง วิริสมาหรา เป็นต้น |
|
Back to top |
|
|
palm_gea
1st Class Pass (Air)
Joined: 03/07/2006 Posts: 1321
Location: ธ.ก.ส.
|
Posted: 28/07/2009 9:46 pm Post subject: |
|
|
เพิ่งนึกออกครับ คำว่า "เซ็งเป็ด" ครับ น่าจะอยู่ในข่ายเดียวกับ "งานเข้า"
คิดเหมือนพี่บอยครับว่าเป็นคำแสลง เป็นคำแสลงแบบคำประสม ต่างจากคำว่า "จ๊าบ" ที่น่าจะเป็นคำแสลงที่คิดคำขึ้นมาใหม่(ในสมัยนั้น) แต่เดี๋ยวผมว่า 2 คำข้างบนก็คงเอวังตามคำว่าจ๊าบไปครับ
-------------------------------------------
ถ้าอย่างนั้นแสดงว่ากรณีคำว่า "ถูก" กับ "ได้รับการ" ยังไม่ได้อนุโลมเหมือนกรณีคำว่า "เสพย์" กับ "เสพ" นะครับ 2 คำนี่จำได้ว่าหลายปีก่อนคุณแม่ผมบอกให้ใช้แค่คำหลัง(คือคำว่า "เสพ" )เท่านั้น
v v v v v v v
v v v v v _________________
Last edited by palm_gea on 29/07/2009 7:11 am; edited 2 times in total |
|
Back to top |
|
|
tuie
1st Class Pass (Air)
Joined: 09/07/2006 Posts: 12156
Location: สถานีบ้านตุ้ย
|
Posted: 28/07/2009 9:57 pm Post subject: |
|
|
ขอให้คำว่า "งานเข้า" หายไปเร็วๆ คงเหลือแต่คำว่า "ผีเข้า" ก็พอครับ
เห็นชื่อหัวข้อกระทู้นี้นึกขึ้นมาได้ว่าคำว่า "รณรงค์" ความจริงแล้วแปลว่า การรบ เราน่าจะใช้คำว่า "ส่งเสริม"การอนุรักษ์ภาษาไทย มากกว่านะครับ _________________ นสน.าย./อ.ตุ้ย/อ.หลวงอัคคีเทพอาณัติ/
http//:www.facebook.com/VISIT-RAILWAY-MUSEUMS-1521959098131925/
|
|
Back to top |
|
|
umic2000
2nd Class Pass
Joined: 06/07/2006 Posts: 676
Location: Lenin Grad , U.S.S.R.
|
Posted: 28/07/2009 11:58 pm Post subject: |
|
|
palm_gea wrote: | ...แต่ไม่รู้ว่าทำไมถึงไม่มีการรณรงค์ในเรื่องนี้นะครับ หรือว่าอนุโลมให้ใช้ได้แล้ว เหมือนกรณีคำว่า "เสพย์" กับ "เสพ" ถ้าท่านใดทราบข้อมูลที่เป็นปัจจุบันกรุณาบอกด้วยครับ ผมสอบครั้งที่ 2/2546 และ 1/2547 ครับ... |
คำว่า "เสพ" และ "เสพย์" นั้น มีรากศัพท์มาจากคำว่า "เสว (เส-วะ)" ในภาษาบาลี โดยคำว่า "เสพ" อยู่ในรูปคำกริยา และคำว่า "เสพย์" นั้นอยู่ในรูปคำนามและคำคุณศัพท์ ซึ่งเกิดจากการเปลี่ยนรูปตามหลักของภาษาบาลี โดยมีบัญญัติไว้ชัดแจ้งในพจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. ๒๕๒๕
ดังนั้นเมื่อนำคำว่า เสพ และ เสพย์ มาใช้ในภาษาไทย เราจึงสังเกตได้ว่าคำว่า "ยาเสพย์ติด" นั้นมี "ย์" อยู่ด้วย และเมื่อนำคำสองคำนี้ไปใช้ในประโยคหรือวลีก็ต้องพิจารณาบริบทและหลักการเขียน ดังนี้
ตัวอย่างที่ ๑ นายแดงลักลอบขายยาเสพย์ติดจนถูกศาลตัดสินจำคุกตลอดชีวิต ("เสพย์" ทำหน้าที่เป็นคำคุณศัพท์ของคำว่า "ยา")
ตัวอย่างที่ ๒ นายเขียวเสพสุรายาเมาเป็นนิจจนเสียการเสียงาน ("เสพ" ทำหน้าที่เป็นคำกริยาในประโยค)
แต่ในปัจจุบันนี้ พจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. ๒๕๔๒ ได้กำหนดให้ใช้คำว่า "เสพ" แต่เพียงคำเดียวทั้งในความหมายของรูปคำกริยา คำนาม และคำคุณศัพท์ ดังนั้นคำว่า "ยาเสพติด" ในปัจจุบันจึงไม่มี "ย์" แล้วขอรับ |
|
Back to top |
|
|
headtrack
1st Class Pass (Air)
Joined: 30/05/2009 Posts: 1627
Location: ละแวกภาคกลางตอนบน และภาคเหนือตอนล่าง
|
Posted: 29/07/2009 1:55 am Post subject: |
|
|
คือในเรื่องของคำแสลงผมมองว่าเป็นธรรมชาติของภาษานะครับ...มองอีกมุมหนึ่งคำเหล่านี้ช่วยให้ภาษาไม่ตาย...แต่ต้องใช้ให้ถูกกาละเทศะนะครับ...
ไม่น่ากังวลเท่าใดนักเพราะคำเหล่านี้ มาแล้วก็ไป...เหมือนคำว่า "ขอบอก" ที่ติดปากอยู่ระยะหนึ่ง...พอมีคำใหม่เป็นที่นิยมขึ้นมาคำที่ใช้อยู่เดิมก็เสื่อมความนิยมลงไป
การนำเอารูปประโยคที่ใช้กรรมขึ้นต้นมาจากภาษาต่างประเทศ ส่วนหนึ่งในการเรียนการสอนภาษาอังกฤษต้องการให้เข้าใจง่ายจึงเขียนประมาณเป็นสูตรให้ใช้คำว่า
"ถูก" ที่ตำแหน่งก่อนกริยา
แต่ตามหลักภาษาไทย ตามที่คุณ palm_gea เขียนไว้ครับ...หากความหมายเป็นทางบวกควรใช้คำว่า...ได้รับการ...
ส่วนหนึ่งเป็นเพราะความไร้ทิศทางของระบบการศึกษา ทำให้ขาดการบูรณาการ นักเรียนเรียนเพื่อสอบ มิได้เรียนเพื่อนำความรู้มาใช้...
ภาษาอังกฤษก็ส่วนภาษาอังกฤษ ภาษาไทยก็ส่วนภาษาไทย
ทุกวันนี้ คำว่า "ได้รับการ" กับคำว่า "ถูก" ถูกนำมาใช้กันโดยไม่มีหลักเกณฑ์
เสมือนว่าแทนกันได้...
ทั้งในสื่อโทรทัศน์...สิ่งพิมพ์ ก็ใช้กันปะปนผิดถูกอย่างไม่น่าให้อภัยเพราะสันดาน "ฟาสต์แทร็ก"(ทับศัพท์)
แห่งโลกทุนนิยมมัน "ทานศีรษะ (กินกบาล)" กันก่อนมะเร็งเสียอีก...
"เร็ว...ง่าย...ถูก...ก่อนได้เปรียบ..." ผู้ใดที่ถือคตินี้...อาจดีกับการงานในปัจจุบัน...แต่ระวัง"ผลกระทบระยะยาวต่อแนวคิดของท่าน"
ซึ่งยังไม่มีที่ไหนรักษาให้แนวคิดกลับมาเหมือนเดิมได้นะครับ...
สื่อมวลชนทั้งหลายควรมีความรับผิดชอบต่อภาษาที่ท่านใช้ปฏิบัติวิชาชีพ...อย่าประพฤติตนเหมือนว่า อาชีพของท่านเอาใครมาทำก็ได้...
การที่สื่อมวลชนใช้ภาษาผิดผิดกรอกหูชาวบ้านทุกวันทุกวัน นอกจากจะแสดงถึงความไม่รับผิดชอบแล้ว...ยังแสดงถึง
"การไม่ให้ความสำคัญกับวิชาชีพ ที่ท่านทำกินเลี้ยงปากท้อง และทำให้ท่านมีหน้ามีตาในสังคม"... _________________
Find me on Instagram: @632knongtsaikhaow |
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 44599
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 29/07/2009 7:39 am Post subject: |
|
|
แบบว่า...
เป็นอะไรที่...
ไม่ทราบว่าเกิดขึ้นตอนไหนนะครับ
รู้เพียงว่ามีรูปแบบไวยากรณ์มาจากภาษาอังกฤษ
ส่วนความสับสนระหว่าง ฎ ชฎา กับ ฏ ปฏัก นั้น
จำง่ายๆ ว่า ฎ ชฎา ใช้เป็นตัวสะกดที่ใช้บ่อยในคำว่า กฎ(หมาย) เท่านั้น
ส่วนตัวสะกดอื่นๆ เช่น ปรากฏ ม.ราชภัฏ วัฏจักร ใช้ ฏ ปฏัก
ถ้ากลัวสะกดผิด เข้าเว็บราชบัณฑิตยสถาน ก็ทำให้สบายใจได้ระดับหนึ่งครับ
พจนานุกรมไทย ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.๒๕๔๒
http://rirs3.royin.go.th/dictionary.asp
ส่วนชื่อสถานที่ต่างๆ ก็เข้าอักขรานุกรมภูมิศาสตร์ไทย ครับ
http://rirs3.royin.go.th/akara/index.html
ศัพท์บัญญัติวิชาการ เข้าที่นี่ครับ
http://rirs3.royin.go.th/coinages/webcoinage.php
เล่มนี้ต้องมีไว้ติดโต๊ะทำงานครับ 20 บาทเท่านั้น
|
|
Back to top |
|
|
BanPong1
1st Class Pass (Air)
Joined: 07/12/2006 Posts: 2733
Location: กม.37 สายเหนือ, กม.68 สายกาญจนบุรี
|
Posted: 29/07/2009 11:19 am Post subject: |
|
|
ที่มา : หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ วันอังคาร ที่ 28 กรกฎาคม 2552
ราชบัณฑิตเต้นนักท่องเว็บ
เนื้อหาข่าว
อ้างชื่อบัญญัติศัพท์สุดเพี้ยน
นางกาญจนา นาคสกุล ราชบัณฑิตและนายกสมาคมครูภาษาไทยแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ปัจจุบันมีการโพสความหมายของคำศัพท์คอมพิวเตอร์ในอินเทอร์เน็ต โดยอ้างว่าเป็นคำศัพท์ที่ราชบัณฑิตยสถานบัญญัติขึ้น อาทิ ละมุนพรรณ หมายถึง ซอฟต์แวร์ (Software) และกระด้างพรรณ หมายถึง ฮาร์ดแวร์ (Hardware) ซึ่งได้สร้างความเข้าใจผิด ให้แก่ประชาชนอย่างมาก นอกจากนี้ยังมีการแปลศัพท์คอมพิวเตอร์ที่ไม่ ถูกต้องอีกหลายคำ เช่น คำว่า จิ๋วระทวย แปลมาจากคำว่า ไมโครซอฟท์ (Microsoft) โดย Micro แปลว่า เล็ก จิ๋ว และ soft แปลว่า อ่อนนุ่ม, แท่งหฤหรรษ์ แปลจาก จอยสติ๊ก (Joystick), พหุบัญชร แปลจาก วินโดวส์ (Windows), จุดอิทธิฤทธิ์ แปลจาก พาวเวอร์พอยท์ (Power Point), พหุอุบลจารึก แปลจาก โลตัส โน้ต (Lotus Notes), ภัทร แปลจาก เอ็กซ์เซล (Excel), ปฐมพิศ แปลจาก วิชวลเบสิก (Visual Basic), พหุภาระ แปลจาก มัลติทาสก์กิ้ง (Multitasking), แท่งภาระ แปลจาก ทาสก์บาร์ (Taskbar), สรรค์ใน แปลจาก บิลต์อิน (Build In) และยืนเอกา แปลจาก สแตนอโลน (Standalone) เป็นต้น
ขอยืนยันว่าศัพท์ดังกล่าวไม่ใช่การแปลความโดยราชบัณฑิต ซึ่งในการบัญญัติคำศัพท์คอมพิวเตอร์ของราชบัณฑิต จะมีคณะกรรมการบัญญัติศัพท์คอมพิวเตอร์ เป็นผู้ดูแลโดยเฉพาะ และการแปลความจะเน้นว่าต้องไม่ใช้ภาษากำกวม หยาบคาย หรือสองแง่สองง่าม ซึ่งตามหลักการแล้วจะมีบางคำศัพท์ที่ต้องบัญญัติขึ้นใหม่ แต่ส่วนใหญ่จะใช้วิธีการเรียกทับศัพท์ นางกาญจนา กล่าวและว่า การโพสคำศัพท์คอมพิวเตอร์และอ้างว่าเป็นคำที่ ราชบัณฑิตบัญญัติขึ้น เป็นเรื่องที่น่าห่วง ซึ่งตนขอเตือนผู้ที่โพสข้อความ ในลักษณะดังกล่าวให้เลิกทำ อย่างไรก็ตามตนจะเสนอให้ราชบัณฑิตออกประกาศทำความเข้าใจเกี่ยวกับคำศัพท์คอมพิวเตอร์ เพื่อป้องกันความสับสนในการใช้ภาษาไทยของประชาชนต่อไป
ด้าน นายศักดิ์ แวววิริยะ หัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้วิชาภาษาไทย โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย จ.นนทบุรี กล่าวว่า วิธีป้องกันกรณีหากมีคำศัพท์ใหม่เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ราชบัณฑิตน่าจะใช้คำทับศัพท์ไปเลย ไม่ควรบัญญัติหรือให้ความหมายใหม่อีก เพราะจะเป็นการสร้างความสับสน อย่างไรก็ตามตนขอเสนอให้ราชบัณฑิต ระดมความคิดเห็นจากนักวิชาการ นักภาษาศาสตร์ เพื่อชำระคำศัพท์ด้านเทคโนโลยี (ไอที) และคอมพิวเตอร์ใหม่ เพื่อเผยแพร่ให้ประชาชนรู้จักคำศัพท์และความหมายที่ตรงกันโดยเร็วที่สุด.
_/_/_/_/_/_/_/_/_/_/_/_/_/_/_/_/_/_/_/_/_/_/_/_/_/
เรื่อง คำศัพท์ด้านไอที และคอมพิวเตอร์ ผมสงสัยคำพวกนี้ที่เราได้ยินกันมานานแล้ว
จึงนำสำเนาข่าวมาโพสต์ไว้ ด้วยเห็นว่าน่าจะเกี่ยวข้องกับกระทู้นี้ครับ _________________
|
|
Back to top |
|
|
umic2000
2nd Class Pass
Joined: 06/07/2006 Posts: 676
Location: Lenin Grad , U.S.S.R.
|
Posted: 29/07/2009 5:55 pm Post subject: |
|
|
Mongwin wrote: | เล่มนี้ต้องมีไว้ติดโต๊ะทำงานครับ 20 บาทเท่านั้น
|
เล่มนี้หลังๆผมไม่ได้ซื้อแล้วครับ เพราะ "ตรงเขียนอย่างไร" ราชบัณฑิตยังรักษามาตรฐานไว้ได้ครับ แต่ตรง "อ่านอย่างไร" กลายเป็นว่าราชบัณฑิตใช้มาตรฐานลักลั่น (Double Standard) ยอมให้มีการอ่านตามสมัยนิยมได้เสียนี่ ตัวอย่างเช่น คำว่า "สัปดาห์" อ่านว่า สับ-ดา , สับ-ปะ-ดา
ซึ่งผมขอคัดค้านและโต้แย้งในเรื่องนี้ เพราคำว่า "สัปดาห์" มันสนธิมาจากคำว่า สปฺต+อห (สปฺต = เจ็ด , อห = วัน) เมื่อสนธิกันจึงมีความหมายว่า "รอบ 7 วัน" และเมื่อดูจากรากศัพท์ของคำว่า "สปฺต" ก็เป็นคำในภาษาสันสกฤต (ถ้าเขียนในรูปบาลีขะเขียนว่า "สตฺต") ไม่มีการซ้ำตัวอักษรเช่นภาษาบาลี การจะให้อ่านว่า สับ-ปะ-ดา มันจึงค้านกันเองในตัวครับ |
|
Back to top |
|
|
suraphat
1st Class Pass (Air)
Joined: 12/02/2007 Posts: 1117
Location: ดินแดง ห้วยขวาง
|
Posted: 29/07/2009 10:38 pm Post subject: |
|
|
แหม ถ้าเป็นเช่นนี้แล้ว กระผมก็อยากจะรู้ว่าชื่อเรียกอักษรภาษาไทยนั้น เขาเอาชื่อเรียกมาจากตำราของใครหรือ
เช่น อักษร ก พวกเราก็เรียกกันว่า ก.ไก่ ซึ่งทำไมจึงไม่เรียกว่า ก. กา นะครับ
หรืออักษร ส. พวกเราก็เรียกกันว่า ส.เสือ ซึ่งทำไมจึงไม่เรียกกันว่า ส.สิงห์โต นะครับ
แล้วที่เราคุ้นกันมาว่า ไก่ เสือ เรือ ปลา นั้น เราไปเอามาจากตำราฉบับใดหรือ
ซึ่งถ้าเป็นภาษาอังกฤษพวกเราก็ทราบกันมาว่าเราเอาชื่อเรียกตัวอักษรภาษาอังกฤษนี้มาจาก องค์กรการบินระหว่างประเทศ ที่ได้กำหนดกันมาว่า
อักษร A ก็ให้เรียกว่า Alfa อักษร I ก็ให้เรียกว่า India อักษร L ก็ให้เรียกว่า Lima ซึ่งคนไทยก็ไม่ค่อยจะคุ้นกับระบบการเรียกตัวอักษรภาษาอังกฤษนี้ กันเท่าไรเลยนะ |
|
Back to top |
|
|
pattharachai
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 6536
Location: ราชอาณาจักรไทย
|
Posted: 29/07/2009 10:43 pm Post subject: |
|
|
ให้ผมเดานะพี่น้อย
เราเรียกว่า ก.ไก่ ข.ไข่ ด.เด็ก เพราะอาศัยความคุ้นชินในชีวิตประจำวัน ไก่ก็เป็นสัตว์เลี้ยงที่เลี้ยงโดยทั่วไปในบ้านของคนไทย เราไม่เรียก ก.กา อาจเป็นเพราะมันไม่ใช่สัตว์เลี้ยงและสีของมันก็ไม่เป็นมงคลเอาเสียอีก
ส่วน ส.เสือ ไม่เรียก ส.สิงโต อาจเป็นเพราะ สิงโต เป็นสัตว์ที่ไม่มีอยู่ตามธรรมชาติในประเทศไทยกระมังครับ คนไทยสมัยก่อนเลยอาจไม่รู้จักคุ้นเคยมากนัก
เดานะครับ ไม่มีหลักการใดๆ |
|
Back to top |
|
|
|