Ads Service

Main Menu

 
icon_home.gif Homepage
icon_community.gif Members Zone
· ข้อมูลส่วนตัว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ข่าวสารส่วนตัว
· บริการเว็บเมล์
· กระดานข่าว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก กระดานฝากข้อความ
· รถไฟไทยแกลลอรี่
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก รายนามสมาชิก
· แบบสำรวจ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก สมุดเยี่ยม
· เกี่ยวกับสมาชิก
favoritos.gif News & Stories
· เรื่องทั้งหมด
· เนื้อหาสาระ
· เรื่องสำหรับพิมพ์
· ยอดฮิตติดอันดับ
· ค้นหาข่าวสาร
· ค้นหากระทู้เก่า
nuke.gif Contents
· กำหนดเวลาเดินรถ
· ประเภทขบวนรถโดยสาร
· ข้อมูลเส้นทางรถไฟ
· แผนที่เส้นทางรถไฟ
· อัตราค่าโดยสาร
· คำนวณค่าโดยสารรถไฟ
· รูปแบบการให้บริการรถไฟ
· หมายเลขโทรศัพท์ที่สำคัญ
· ทริปท่องเที่ยวโดยรถไฟ
· ระบบติดตามขบวนรถ
som_downloads.gif Services
· Downloads
· GoogleSearch
· Hotels Booking
· FlashGames
· Wallpaper 1
· Wallpaper 2
· Wallpaper 3
· Wallpaper 4
icon_members.gif Information
· เกี่ยวกับเรา
· นโยบายความเป็นส่วนตัว
· แผนผังเว็บไซต์ฯ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ส่งข้อแนะนำติชม
· ติดต่อลงโฆษณา
· แนะนำและบอกต่อ
· สถิติทั้งหมด
· สำหรับผู้ดูแลระบบ
 

Sponsors

 

Rotfaithai.Com

 

Visitors

 


มีผู้เข้าเยี่ยมชม
สมาชิก:311232
ทั่วไป:13179777
ทั้งหมด:13491009
คน ตั้งแต่
01-08-2004
 


Rotfaithai.Com :: View topic - ขุดจากกรุ : ภาพเก่าเล่าเรื่อง
 Forum FAQForum FAQ   SearchSearch   UsergroupsUsergroups   ProfileProfile   Log in to check your private messagesLog in to check your private messages   Log inLog in 

ขุดจากกรุ : ภาพเก่าเล่าเรื่อง
Goto page 1, 2, 3, 4, 5, 6, 7, 8  Next
 
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> ภาพ/วิดีโอรถไฟไทยจากผลงานของสมาชิก
View previous topic :: View next topic  
Author Message
black_express
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/03/2006
Posts: 10060
Location: อุตรดิตถ์ - กรุงเทพฯ

PostPosted: 20/12/2006 11:33 am    Post subject: ขุดจากกรุ : ภาพเก่าเล่าเรื่อง Reply with quote

สวัสดีครับ....

วันนี้ขออนุญาตขุดกรุภาพออกมาหากินอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งบางส่วนเคยนำเสนอคราวเวปไซด์ version เดิม ก่อนปิดปรับปรุงใหม่ หลายๆ ท่านอาจเคยเห็นแล้ว แต่บางรายเพิ่งเข้ามาใหม่ ก็ถือว่า แบ่งๆ กันดูย้อนความหลังก็แล้วกันครับ


เห็นคุณหมอ (ขอใช้สิทธิ์พาดพิงสักนิดครับ) พูดในหนังสือพิมพ์ กรุงเทพฯ ธุรกิจ ฉบับวันเสาร์ที่ผ่านมา เกี่ยวกับเส้นทางรถไฟสายประวัติศาสตร์ ที่ใครๆ อยากไปเที่ยวสักครั้งหนึ่งในชีวิต แน่ละครับ รวมถึงตัวผมด้วย โดยซื้อตั๋วโดยสารรถไฟนำเที่ยวสายน้ำตก เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2522 ด้วยสนนราคาตั๋ว 60 บาท เด็กคิดเพียง 33 บาท เท่านั้น

อ่านะ...แล้วกระหืดกระหอบรอขึ้นขบวนรถดีเซลราง RHN ยุคไม่เปลี่ยนสีโบกี้เป็นแบบปัจจุบัน ออกเดินทางจากสถานีกรุงเทพ เมื่อเวลา 06.15 น.

ตอนนั้น ยังไม่รวมเป็นขบวนเดียวกับรถนำเที่ยวชายทะเลหัวหินนะครับ ขบวนนั้น ออกเวลา 06.35 น.

หลังจากอิ่มท้องด้วยข้าวหมูแดงที่นครปฐม เก็บนักท่องเที่ยวตกหล่น ที่ตามมากับขบวนรถหัวหินแล้ว ก็ชึ่กชั่กผ่านชุมทางหนองปลาดุก เข้าเส้นทางรถไฟสายน้ำตกล่ะครับ เสียงล้อกระทบรางฟังชัดถนัดหู ย้อนยุคดีแท้ๆ

Click on the image for full size

Click on the image for full size

Click on the image for full size

แวะปล่อยนักท่องเที่ยวลงเยี่ยมสะพานข้ามแม่น้ำแควราวครึ่งชั่วโมง แล้วเคลื่อนขบวนต่อไป ปล่อยให้นักท่องเที่ยวรับบรรยากาศสองข้างทางรถไฟสายมรณะ แล่นตียาวตลอดทาง เสียงสาวชาวกรุงชวนเพื่อนดูดอกไม้ประหลาดในไร่ริมทาง สีขาวนวล ดังอยู่ที่ม้านั่งแถวหลัง

เหลียวมองไปดู ดอกฝ้าย นั่นเอง Very Happy

Click on the image for full size

จนกระทั่งถึงจุด Hilight บนเส้นทางนี้ ยามสายแก่ๆ ที่สะพานไม้เลียบแม่น้ำแควน้อย ที่ถ้ำกระแซ

สะพานไม้แห่งนี้ เชลยศึกชาวฝรั่งที่ก่อสร้างทางรถไฟ เรียกว่า สะพาน Arrow hill ตามลักษณะลำน้ำแควน้อยตอนนั้น ที่โค้งแทบเป็นหัวลูกศร และผู้คุมชาวญี่ปุ่น เรียกทับชื่อฝรั่งตามภาษาเขาว่า Aru hiru แล้วคนไทยแปลงต่ออีกหนหนึ่งว่า สะพานไอ้หิต ( สะพานแห่งนี้ สร้างเสร็จภายใน 2 เดือนเท่านั้น )

ลิ้นใคร สำเนียงมัน ก็ว่ากันไป….. Laughing

Click on the image for full size

ฝั่งแม่น้ำแควน้อย หรือ แควไทรโยค สมัยนั้น ยังเงียบเหงา มีแพชาวบ้านที่หาปลาบริเวณริมสะพาน อยู่ไม่กี่แพ

Click on the image for full size

ตอนนี้น่ะหรือ ? กลายเป็นพื้นที่ทองคำ สร้างรีสอร์ทสำหรับนักท่องเที่ยวไปหมดแล้ว 8)

Click on the image for full size

เสียงไม้สะพานลั่นออดแอด ๆ ประกอบกับขบวนรถแล่นผ่านไปช้าๆ เป็นโอกาสเหมาะสำหรับผมที่โชคดี นั่งอยู่ด้านซ้ายมือ เก็บภาพสีชุดแรกในชีวิต ( ฟิล์มกลัก ) ของ โกดัก อย่างที่เห็น...

Click on the image for full size

ทางไปน้ำตกเขาพัง ( ไทรโยคน้อย ) ยังไม่มีรางรถไฟวางไปถึงเหมือนทุกวันนี้ นักท่องเที่ยวต้องเดินไปเอง ร้านอาหารก็เดินไปทานที่ร้านริมถนนสาย กาญจนบุรี – ทองผาภูมิ ที่ผ่านใกล้ๆ สถานี น้ำตก ไม่มีบริการอาหารและเครื่องดื่มใดๆ บนขบวนรถครับ

ขากลับ ออกจากสุสานสหประชาชาติดอนรัก มองดู พขร.สับห่วงทางสะดวก เพลินดีครับ เสียดายที่เวปไซด์เราเกิดทีหลังยี่สิบปีเศษ เลยไม่มีคำแนะนำด้านมุมมองถ่ายภาพ สามารถเก็บภาพได้ทุกสถานีเชียวล่ะ

ขบวนรถท่องเที่ยว ผมใช้บริการไปสายน้ำตก สายหัวหิน สายนี้ มีรถสองแถวรับนักท่องเที่ยวไปเที่ยวที่สวนสนประดิพัทธิ์ แวะโรงงานทอผ้าโขมพัตร์ ก่อนมาปล่อยให้เดินเลียบชายทะเลหัวหิน แล้วขึ้นรถกลับ

แถมด้วยสายมวกเหล็ก เป็น บชส.สองโบกี้ พ่วงไปกับ ข.31 กรุงเทพ – อุบลราชธานี เที่ยวน้ำตกมวกเหล็ก แล้วพ่วงกลับด้วย ข.32 อุบลราชธานี - กรุงเทพ ข้ามไปมาระหว่างจังหวัดสระบุรี กับ นครราชสีมา จนเอือม แถมยังมีเวลาเดินมาซื้อนมสดที่ฟาร์มโคนม ไทย - เดนมาร์ค ริมถนนมิตรภาพ ตรงปากทางเข้า อ.มวกเหล็ก ไกลร่วม 3 กม.แน่ะ

หากเป็นสมัยนี้ คงคิดหนักก่อนเดินข้ามถนนมิตรภาพล่ะครับ รถราวิ่งขวักไขว่มากมายเหลือเกิน...

พูดไป เดี๋ยวเรื่องยาว.... ขอยุติภาพชุดแรกของกรุ ไว้แค่นี้ก่อน Wink


Last edited by black_express on 22/08/2011 10:09 pm; edited 2 times in total
Back to top
View user's profile Send private message
black_express
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/03/2006
Posts: 10060
Location: อุตรดิตถ์ - กรุงเทพฯ

PostPosted: 08/01/2007 1:12 pm    Post subject: Reply with quote

หายไปนาน มาต่อกันด้วยชุดที่สองครับ Laughing

ราวปี พ.ศ.2532 ผมได้มีโอกาสมาอบรมวิชาการถ่ายรูป - ล้างฟิล์ม ที่ ม.ธรรมศาสตร์ พอหยุดพักช่วงระหว่างสัปดาห์ ก็เดินหิ้วกล้องตะลอนๆ ไปที่สะพานอรุณอัมรินทร์ โดยมีจุดหมายที่สถานีรถไฟธนบุรี (เดิม) นั่นแหละ ซึ่งคาใจตั้งแต่เดินย่ำเท้าข้ามสะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้า ซึ่งก่อสร้างแล้วเสร็จหมาดๆ ยังไม่ได้ตีเส้นแบ่งจราจร แต่เปิดให้เดินข้ามสะพานได้ เมื่อปี พ.ศ.2515 สินะ Laughing

Click on the image for full size

ก็ไม่ผิดหวังครับ นอกจากย่านสถานีแล้ว ยังมีขาใหญ่ประจำย่าน Hitachi หมายเลข 669 สับเปลี่ยนตู้สินค้า จาก ทรส.ธนบุรี เข้าประกอบฉากด้วย

Click on the image for full size

สถานีธนบุรี ได้ก่อสร้างอาคารสถานีขึ้นที่ปากคลองบางกอกน้อย พร้อมกับการก่อสร้างเส้นทางรถไฟหลวงสายใต้ ช่วง กรุงเทพฯ – เพชรบุรี เมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม 2442 โดยย้ายชุมชนมุสลิมที่อาศัยอยู่เดิม ออกไปอยู่บริเวณใกล้เคียง จนแล้วเสร็จ และ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ได้เสด็จพระราชดำเนินมาประกอบพิธีเปิดเป็นทางการพร้อมกับเส้นทางสายใต้ เมื่อวันที่ 19 มิถุนายน 2446

นอกจากจะเป็นสถานีรถไฟต้นทางไปสู่แหลมมลายู และสิงคโปร์แล้ว ยังเป็นต้นทางของขบวนรถไฟพระที่นั่งเสด็จไปยังหัวหิน และพระราชวังสนามจันทร์ ในรัชกาลที่ 6 และรัชกาลที่ 7 อยู่เนืองๆ จนกระทั่งสะพานพระรามหกก่อสร้างเสร็จ ขบวนรถไฟพระที่นั่งจึงได้ย้ายไปออกที่สถานีรถไฟหลวงจิตรลดา

ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม 2485 อาคารสถานีธนบุรีและย่านสถานี ถูกฝูงบินกองทัพสัมพันธมิตร ซึ่งมีฐานบินที่กัลกัตตา อินเดีย ทิ้งระเบิดทำลายเกือบ ทั้งหมด หลังจากเสร็จสิ้นสงคราม จึงได้บูรณะซ่อมสร้างขึ้นมาใหม่ ในรูปแบบปัจจุบัน จนแล้วเสร็จเมื่อปี พ.ศ.2493

ต่อมา อาคารสถานีรถไฟและบริเวณพื้นที่สถานีธนบุรีได้รับการซ่อมแซมปรับปรุงเชิงอนุรักษ์รูปแบบของอาคารไว้คงเดิม เพื่อจัดทำเป็นพิพิธภัณฑ์เพื่อการศึกษาทางประวัติศาสตร์ เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ (5 ธันวาคม 2542) โดยใช้งบประมาณ 1,446,.88 ล้านบาท โดยความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชน

แล้วในที่สุด การรถไฟแห่งประเทศไทย ได้มอบโอนอาคารสถานีธนบุรีและพื้นที่ย่านสถานีบางส่วน ให้แก่โรงพยาบาลศิริราช เพื่อสร้างศูนย์การแพทย์ สวนสุขภาพ และอาคารประวัติศาสตร์ เมื่อวันที่ 4 ตุลาคม 2547 ตามมติคณะรัฐมนตรี

ทั้งนี้ การรถไฟฯ ได้ก่อสร้างอาคารสถานีธนบุรี (ใหม่) บริเวณที่หยุดรถ บางกอกน้อย (เดิม) ห่างจากที่เดิมประมาณ 870 เมตร ดังที่เราเห็นในปัจจุบันครับ

Click on the image for full size

Click on the image for full size

จากภาพชุดเดิมที่ถ่ายมานั้น กลายเป็นย่านสถานีธนบุรี (ใหม่) และบริเวณตลาดไปหมดแล้วครับ แทบไม่น่าเชื่อว่า จะมีบริเวณกว้างขวางขนาดนั้น Laughing

Click on the image for full size

ถ้าไม่พูดถึงรถจักรดีเซลไฟฟ้า Hitachi รุ่น 600 แล้ว (ผมเรียกตามหมายเลขเอาเองครับ) คงขาดอะไรไปสักอย่างแน่ๆ Laughing

Click on the image for full size

รถจักรดีเซลไฟฟ้า Hitachi รุ่นดังกล่าว การรถไฟฯ ได้สั่งซื้อเข้ามาใช้งาน 3 รุ่น ได้แก่

รุ่นหมายเลข 611 - 615 เมื่อปี พ.ศ.2501 จำนวน 5 คัน

รุ่นหมายเลข 616 - 630 จำนวน 25 คัน
และหมายเลข 661 - 670 จำนวน 10 คัน เมื่อปี พ.ศ.2504 - 2505

รวมทั้งสิ้น 40 คัน

Click on the image for full size

รถจักรดีเซลไฟฟ้า Hitachi รุ่น 600 นี้ มีการจัดวางล้อแบบ Co - Co ใช้เครื่องยนต์เดี่ยว ยี่ห้อ M.A.N. รุ่น W8V22 /30 mA.u.L มี 8 สูบ (220 x 300) กำลัง 950 แรงม้า ความเร็วสูงสุด 70 กม./ชม. มีความจุน้ำมันเชื้อเพลิง 3,300 ลิตร จุน้ำมันเครื่อง 230 ลิตร และมีน้ำหนักรถจักร เมื่อเติมน้ำมันเต็มที่ 72,000 กก.

รถจักรดีเซลไฟฟ้า Hitachi ถูกใช้เป็นม้างานทั้งขบวนรถโดยสาร รถสินค้าอยู่นานหลายปี พอๆ กับ Davenport เสียงแตรไพเราะนุ่มหูมากครับ คล้ายกับ Toshiba ของ KTM ผมเคยนั่งรถด่วนเชียงใหม่ ทำขบวนโดย Hitachi เหมือนกันนะครับ จนกระทั่ง Hitachi มาพ่ายต่อ GEK ที่สั่งซื้อมาใช้งานและมีแรงม้าสูงกว่า เมื่อปี พ.ศ.2507 รถจักรญี่ปุ่น จึงค่อยๆ หายไปจากวงการรถไฟไทย เหลือแค่รถดีเซลรางเท่านั้น จนกระทั่ง การรถไฟฯ สั่งซื้อ HID เข้ามาใช้งานอีกครั้งหนึ่ง เป็นม้างานหลักคู่กับ GEA ในปัจจุบัน

สำหรับหมายเลข 669 คันนี้ ได้ปลดประจำการ และนำมาจอดทิ้งตรงรางตัน บริเวณ ทรส.บางซื่อ ตรงจุดกลับรถประจำทางนั่นแหละครับ แถมต้นทางรางตันที่ว่า ถูกรื้อออก โดยไม่ต่อเชื่อมกับเส้นทางรถไฟใดๆ อีก จะเรียกว่า ถูกจองจำตอนแก่ คงได้กระมัง ? Laughing

Click on the image for full size

เมื่อพูดถึงรถจักร คงอดไม่ได้ที่พาดพิงถึงโรงรถจักรธนบุรี ด้วยกระมัง ?

Click on the image for full size

สำหรับโรงรถจักรธนบุรี ตอนนั้น เป็นแหล่งชุมนุมของรถจักรดีเซลไฮดรอลิกส์เกือบทั้งหมดของ รฟท. ซึ่งย้ายมาประจำการบนเส้นทางสายใต้ มี Henschel สีเขียว (แต่หน้าเหลือง) และตระกูลเดียวกันในรุ่น HAS สับเปลี่ยน , KRUPP คันสวยสะดุดตาของใครต่อใครหลายคนในนี้ รวมทั้ง รถดีเซลราง RHN สายน้ำตก และหัวรถจักรไอน้ำอนุรักษ์ C - 56 , 9xx (มิกาโด) และ 8xx (แปซิฟิก) ที่โรงรถจักรธนบุรี รับผิดชอบดูแลด้วย

Click on the image for full size

ใครจะไปรู้อนาคตล่ะครับว่า ผมได้มีโอกาสไปเยี่ยมชมโรงรถจักรธนบุรีแห่งนี้จริงๆ อีก 15 ปีต่อมา เหมือนๆ กับไม่เคยคิดว่า จะมีเวปไซด์ Rotfaithai.Com เกิดขึ้นมาจริงๆ ในเมืองไทย Laughing

ตอนนี้ หากใครจะไปเที่ยวโรงรถจักรธนบุรี สามารถไปดูได้ ซึ่งทาง กทม.ได้แนะนำว่าเป็นแหล่งท่องเที่ยวดูรถจักรไอน้ำประวัติศาสตร์ด้วยครับ แต่ภายในโรงรถจักร ยังเป็นเขตหวงห้ามสำหรับบุคคลภายนอก การเข้าชมภายใน ต้องได้รับอนุญาตจากการรถไฟแห่งประเทศไทยก่อน

ขอจบชุดสถานีธนบุรี (เดิม) ไว้แค่นี้....


Last edited by black_express on 24/08/2011 8:50 am; edited 2 times in total
Back to top
View user's profile Send private message
pitch
2nd Class Pass
2nd Class Pass


Joined: 14/07/2006
Posts: 694
Location: วังนารายณ์คู่บ้าน ศาลพระกาฬคู่เมือง ปรางค์สามยอดลือเรื่อง เมืองแห่งดินสอพอง แผ่นดินทองสมด็จพระนารายณ

PostPosted: 08/01/2007 4:35 pm    Post subject: Reply with quote

ผมชอบเจ้าHenschel สีเขียวครับ อยากเห็นรูปตอนที่ยังทาหน้าสีเขียวขี้ม้าเข้มสมเป็นรถจักรรุ่นรัฐบาลทหาร
Back to top
View user's profile Send private message
DIESELGTR
3rd Class Pass
3rd Class Pass


Joined: 21/10/2006
Posts: 177

PostPosted: 08/01/2007 6:04 pm    Post subject: Reply with quote

น่าอิจฉาจังเลยนะครับที่ใด้เห็น ฮิตาชิ ทำการ ตัวผมเคยเห็นแค่หลังคามันเองครับ หรือไม่ก็แค่แว๊บที่นอนนิ่งสงบอยู่อ่ะครับ ที่เคยเห็นรถจักรดีเซลเก่าสุดทำการก็ ดาเวนพอร์ท 500hp x 2 อ่ะครับในตอนเด็กๆ เห็นกำลังทำการสับเปลี่ยนในย่านบางซื่ออ่ะครับ ประทับใจมาก เพราะโอกาสจะใด้เห็นรถจักรแบบนี้ มันหาดูใด้ยากครับ สำหรับผม..... Wink
Back to top
View user's profile Send private message
CivilSpice
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 18/03/2006
Posts: 11192
Location: หนองวัวหนุ่มสเตชั่น

PostPosted: 08/01/2007 6:18 pm    Post subject: Reply with quote

สมัยมาเรียน ปวช. ที่พระนครเหนือ ใหม่ๆ ก็ยังทันเห็นสถานีธนบุรีในรูปแบบเดิมๆ อยู่ ส่วนรถฮิตาชิ ไม่ค่อยแน่ใจ เหมือนจะคลับคล้ายคลับคลา เพราะเป็นช่วงปี 34-35 ที่ไปแถวๆ นั้น เพราะบ้านเพื่อนผมอยู่แถวๆ บ้านช่างหล่อ เวลามาจากเมืองนนท์ ก็จะนั่งเรือด่วนเจ้าพระยามาลงที่ท่ารถไฟ แล้วก็เดินลัดเลาะตามรางรถไฟ จากสถานีธนบุรี จนมาถึงโกดังสินค้า แล้วเดินเข้าซอย ระยะทางไกลพอดู แต่ก็สนุกดีครับ ช่วงนั้นน่าจะยังทัน Henschel อยู่ด้วย แต่เป็นหน้าเหลืองไปแล้ว

สถานีธนบุรีเดิม ผมเคยใช้บริการไม่กี่ครั้ง แต่ก็ประทับใจมากๆ โดยเฉพาะที่ยกโขยงไปเที่ยวบ้านเพื่อนที่ อ.ปะทิว จ.ชุมพร แห่กันไปเกือบ 10 คน ก็ได้อาศัยรถ ธนบุรี-หลังสวน รอบค่ำนี่แหล่ะครับ ที่พาไป ไปถึงปะทิวก็ตี 4 กว่าแล้ว ส่วนขากลับออกจากปะทิวช่วงดึก มาถึงธนบุรี เลตกว่าปกตินิดหน่อย

ว่าแล้วก็น่าเสียดายสถานีเดิมนะครับ
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
alderwood
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 10/04/2006
Posts: 6593
Location: กรุงเทพ-ราชสีมา

PostPosted: 08/01/2007 11:19 pm    Post subject: Reply with quote

อ่านของพี่ตึ๋งแล้วคิดถึงสถานีธนบุรีเดิมจัง ทันได้เห็นตอนที่ยังให้บริการอยู่ แต่ไม่มีกล้อง เสียดายจัง
ส่วนรูปนี้เป็น 669 ที่ถ่ายไว้เมื่อปี 2547 ถ่ายจากบริเวณลานจอดรถทัวร์เอกชนใต้ทางด่วนขั้นที่ 2 ใกล้หมอชิตใหม่

Click on the image for full size
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website MSN Messenger
shinoda
3rd Class Pass (Air)
3rd Class Pass (Air)


Joined: 16/10/2006
Posts: 309
Location: พิจิตร

PostPosted: 08/01/2007 11:56 pm    Post subject: Reply with quote

ภาพสวยครับ คุณ black_express ...ภาพเหล่านี้เป็นภาพในประวัติศาสตร์ที่มีคุณค่าครับ ตะแกรงหน้าของ Hitachi รุ่นนี้ดูใหญ่แล้วก็เป็นซี่ๆดีนะครับ ผมดูด้านหน้าทีไร ก็พาลนึกถึงหัวกระโหลกคนทุกที Laughing

ปัจจุบันสถานที่ในรูปเหล่านี้คงเป็นชุมชน บ้านเรือน ร้านค้าไปเกือบหมดแล้วมั้งนี่ Question
_________________
Click on the image for full size
Back to top
View user's profile Send private message Send e-mail Visit poster's website MSN Messenger
Gunnersaurus
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 29/03/2006
Posts: 1574
Location: เมืองช้าง

PostPosted: 09/01/2007 6:30 am    Post subject: Reply with quote

เห็นแล้วนึกถึงสมัยที่สถานีธนบุรีเดิมยังอยู่ในยุครุ่งเรือง ยังคิดว่าทำไมสมัยเรียนที่ มธ. ตอนนั้นไม่ถ่ายภาพเอาไว้ ทั้งๆ ที่เดินเข้าออกแถวนั้นเป็นว่าเล่น
แต่ก็ยังโชคดีที่เคยได้โดยสารรถไฟออกจากธนบุรีบ้าง ไม่อย่างนั้นเสียดายแย่เลย ขอบคุณพี่ตึ๋งที่ขุดกรุภาพเก่าๆ มาแบ่งกันชมครับ
Back to top
View user's profile Send private message
anusorn
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 04/09/2006
Posts: 1642
Location: มณฑลอาคเนย์

PostPosted: 09/01/2007 11:24 am    Post subject: Reply with quote

Quote:
ตะแกรงหน้าของ Hitachi รุ่นนี้ดูใหญ่แล้วก็เป็นซี่ๆดีนะครับ ผมดูด้านหน้าทีไร ก็พาลนึกถึงหัวกระโหลกคนทุกที


เป็นไปได้หรือไม่ว่ารถจักรดีเซลยุคนั้นมีแนวคิดในการออกแบบให้รูปทรงด้านหน้าใกล้เคียงกับหัวกะโหลกเพื่อที่ใครเห็นจะไม่กล้าเข้าไปใกล้โดยเฉพาะบรรดาเด็กๆ สมัยเด็กมากๆผมยังกลัว GEK เลย ยิ่งตอนมีเสียงคำรามออกมายิ่งแล้วใหญ่ ถ้าหัวรถจักรดูเท่ห์สวยงามอาจดึงดูดคนมาดูใกล้ๆทำให้เกิดอันตรายได้ สมัยก่อนๆความเจริญยังไม่เท่าเดี๋ยวนี้ซึ่งเดี๋ยวนี้คนกลัวผียากขึ้น (คิดไปถึงไหนแล้วเนี่ย)

แต่เท่าที่เห็นหน้าตาค่อนข้างน่ากลัวก็มี Davenport GEK แล้วก็ Hitachi 6xx นี่ล่ะครับ

Grupp ก็รองมาหน่อย ขนาดตะแกรงทึบก็ยังไม่วายมีซี่ให้ดูเหมือนฟันอีก Laughing
Back to top
View user's profile Send private message
nOo-Neung
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 1013
Location: ARL ลาดกระบัง

PostPosted: 09/01/2007 2:09 pm    Post subject: Reply with quote

ผมก็ได้ไปด้อมๆมองๆ สถานีธนบุรีประมาณ ปี 34 เช่นกันกับพี่บอมบ์ครับ
(ช่วงนั้นมาผ่าตัดหูที่ศิริราช) ตื่นเต้นสุดๆครับ เวลาข้ามสะพานอรุณอัมรินทร์
ต้องเลือกเอาว่าจะมองฝั่ง โรงรถจักรหรือฝั่งสถานีดี Embarassed
Back to top
View user's profile Send private message
Display posts from previous:   
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> ภาพ/วิดีโอรถไฟไทยจากผลงานของสมาชิก All times are GMT + 7 Hours
Goto page 1, 2, 3, 4, 5, 6, 7, 8  Next
Page 1 of 8

 

Share |

Jump to:  
You cannot post new topics in this forum
You cannot reply to topics in this forum
You cannot edit your posts in this forum
You cannot delete your posts in this forum
You cannot vote in polls in this forum

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group


Forums ©