View previous topic :: View next topic |
Author |
Message |
nathapong
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/03/2006 Posts: 3515
Location: Ayuthaya - Lamlukka - Navanakhon - Silom
|
Posted: 28/03/2010 5:15 pm Post subject: |
|
|
ส่วนภาพนี้ รู้นะว่าเข้ามาอ่าน ท่านอ.คิตตี้
No 22
ท่าน อ.คิตตี้ ไปช่วยหาคำตอบว่า AC/DC กับ AC/AC
ของเค้าแรง กว่ากันอย่างไร และที่เบากว่าเพราะเทคโนโลยี การผลิต มีทีเด็ดกว่ากันตรงไหน อะอะ |
|
Back to top |
|
|
pak_nampho
1st Class Pass (Air)
Joined: 25/06/2007 Posts: 2371
Location: คนสี่แควพลัดถิ่น ทำมาหากิน ที่เกาะภูเก็ต
|
Posted: 28/03/2010 5:33 pm Post subject: |
|
|
ได้อ่านสาระของอ.นคร จันทรศร ผ่านป๋าณัฐที่ตั้งกระทู้เมื่อเช้าทำให้ทราบแนวคิดที่ท่านอยากเผยแผ่ ขอรอท่านทีมีชื่ออาทิ อ.บ้านโป่ง1,ครูนนท์, อ.หม่อง
และท่านโดนัท ที่ร่วมสัมมนาครับ ส่วนข้อมูล MRT คงต้องให้ป๋าเพิ่มในสมองครับป๋า _________________ +++++++++++++++++ ๑๑๖ ปี รถไฟไทยก้าวไกล....จากรถจักรไอน้ำ +++++++++++++++++
....................บุตร ครฟ. พขร.ตรี แขวงรถพ่วงปากน้ำโพ ................... |
|
Back to top |
|
|
Cummins
2nd Class Pass
Joined: 28/03/2006 Posts: 719
Location: มหาวิทยาลัยราชมงคลอิสาน วิทยาเขตภาคตะวันออกเฉียงเหนือ นครราชสีมา
|
Posted: 28/03/2010 7:23 pm Post subject: |
|
|
nathapong wrote: | ท่าน อ.คิตตี้ ไปช่วยหาคำตอบว่า AC/DC กับ AC/AC ของเค้าแรง กว่ากันอย่างไร และที่เบากว่าเพราะเทคโนโลยี การผลิต มีทีเด็ดกว่ากันตรงไหน อะอะ |
ฮ่ะ ฮ่า ป๋ามีพาดพิงเดี๋ยววันพรุ่งนี้จะขอใช้สิทธิ์ คร่าว ๆ ก็ไม่มีอะไรมากหรอกป๋า เนื่องจากโครงสร้าง และคุณลักษณะเฉพาะตัวทางเทคนิคของมันครับทีทำให้มอเตอร์แบบ AC เหนือกว่าทุกด้าน เอ ว่าแต่ว่าเรื่องพรรณอย่างงี้ไหงมีแต่เราเล่นกันล่ะเนี้ยะ แล้วไอ้ที่ดูเหมือนว่าจะรู้ หรือดูเหมือนว่าจะมีข้อมูล หรือไม่ก็คนที่ใช้งานมันจริง ๆ ทุก ๆ วันเค้าไม่เห็นมาสนใจเลยอ่ะ เดี๋ยวขอเวลาหารูปสักนิดนึงแล้วเดี๋วจะมาเล่นด้วยเรื่องมอเตอร์ _________________ อดีตโชเฟอร์ล้อเหล็ก |
|
Back to top |
|
|
nop2
2nd Class Pass (Air)
Joined: 06/03/2008 Posts: 985
Location: เพชรบุรี
|
Posted: 28/03/2010 7:30 pm Post subject: |
|
|
ประสิทธิภาพเหนือกว่าทุกด้าน ยกเว้นราคา
ระบบมอเตอร์ DC ไม่รู้ว่าเค้าใช่วิธีปรับแรงดันไฟฟ้ารึเปล่านะครับ แต่ AC จะใช้เปลี่ยนแปลงความถี่หรือแรงดันไฟ เพื่อให้รอบเปลี่ยน จำได้ว่ามีเรื่องนี้(มอเตอร์ AC)ตอนรถจักรใหม่ 7คันของ รฟท. VVVF กับ IGBT นี้แหละครับ _________________ "You are star I am darkness Our love brighter than the sun .." |
|
Back to top |
|
|
BanPong1
1st Class Pass (Air)
Joined: 07/12/2006 Posts: 2733
Location: กม.37 สายเหนือ, กม.68 สายกาญจนบุรี
|
Posted: 28/03/2010 8:44 pm Post subject: |
|
|
ป๋าณัฐแข็งแรงดีแล้วน่ะครับ รักษาสุขภาพด้วยครับ
อย่าคร่ำเคร่งกับอินเทอร์เน็ตร์มากนะครับ เห็นลงภาพทีเดียวยาวเหยียด นับถือในความอดทนครับ
ขอบคุณป๋าณัฐมากครับที่นำบทความของท่านอาจารย์นคร และ
presentation ของคุณโคบายาชิ มาเผยแพร่ให้สมาชิกและผู้ที่สนใจได้รับความรู้ในเรื่องนี้
ทั้ง 2 บทความนี้ผมได้เห็นคร่าวๆจากที่ป๋าณัฐนำมาให้ดูหลายวันก่อนแล้วครับ
ผมเห็นว่าเป็นการนำเสนอเรื่องที่เกี่ยวกับการพัฒนาระบบรางและโลจิสติคส์ที่ทันสมัย
เหมาะสมกับที่จะเผยแพร่เป็นองค์ความรู้สำหรับคนที่อยู่ในวงนอกอย่างพวกเรา
และคนที่อยู่ในวงการสื่อสารมวลชนที่จะนำไปศึกษาและให้ข้อคิดกับผู้ที่มีหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง
รวมถึงเป็นการกระจายความรู้ในวงที่กว้างขึ้นด้วย
บทความของท่านอาจารย์นครเป็นบทความที่อ่านเข้าใจง่ายมีภาพประกอบที่ตรงประเด็น
แยกแยะให้เห็นถึงการใช้ระบบรางในเงื่อนไขต่างๆกันและเอื้อกันอย่างไร
และเป็นการทำให้เห็นถึงการพัฒนาระบบรางที่สอดคล้องกับการพัฒนาเศรษฐกิจ และกายภาพ
ทั้งในระดับเมือง ระดับภูมิภาค และระดับประเทศ
ขอใช้เวลาอ่านอย่างละเอียดหน่อยครับ แล้วจะเข้ามาแสดงความเห็นครับ
pak_nampho wrote: | ได้อ่านสาระของอ.นคร จันทรศร ผ่านป๋าณัฐที่ตั้งกระทู้เมื่อเช้าทำให้ทราบแนวคิดที่ท่านอยากเผยแผ่ ขอรอท่านทีมีชื่ออาทิ อ.บ้านโป่ง1,ครูนนท์, อ.หม่อง
และท่านโดนัท ที่ร่วมสัมมนาครับ ส่วนข้อมูล MRT คงต้องให้ป๋าเพิ่มในสมองครับป๋า |
วันที่มีสัมมนาเรื่องนี้ ทั้ง 2 รายการ ทั้งทีี่ไบเทค และ ที่พูลแมน ผมไม่ได้ไปครับพี่นพ
เพราะยังอยู่ในช่วงพักฟื้นอยู่ครับ
มีบัตรและลงทะเบียนไว้ทั้ง 2 รายการ คงต้องหาโอกาสอื่นเข้าไปร่วมฟังอีกครับ _________________
Last edited by BanPong1 on 28/03/2010 9:13 pm; edited 2 times in total |
|
Back to top |
|
|
BanPong1
1st Class Pass (Air)
Joined: 07/12/2006 Posts: 2733
Location: กม.37 สายเหนือ, กม.68 สายกาญจนบุรี
|
Posted: 28/03/2010 8:58 pm Post subject: |
|
|
nathapong wrote: | No 5
|
สไลด์แสดงการเปรียบเทียบการขนส่งผู้โดยสารนี้เป็นภาพในฝันจริงๆครับ
ใน 20 ปี ข้างหน้านี้อยากให้มีอัตราส่วนของสีแดง (High Speed Rail) สักครึ่งหนึ่งของกราฟที่ปรากฎนี้ก็พอครับ
สีเทาข้างล่าง (รฟท.)ยังมีอยู่บ้างก็ไม่เป็นไรครับ เพราะรายได้ประชาชาติอาจจะยังไม่เติบโตไปกว่าปัจจุบันมากนัก
อยากเ็ห็นกราฟเปรียบเทียบแบบนี้ที่แสดงสภาวะปัจจุบันของประเทศไทยจังเลยครับ _________________
|
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 44325
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
|
Back to top |
|
|
donatt76
1st Class Pass (Air)
Joined: 03/09/2006 Posts: 2587
Location: บางนา สุวรรณภูมิครับ
|
Posted: 29/03/2010 12:14 pm Post subject: |
|
|
nathapong wrote: | No 5
จากภาพนี้ ต้องให้ อ.บ้านโป่ง1 ท่านเปิดประเด็นเสวนา ร่วมกับครูนนท์ อ.หม่อง และท่านโดนัท
แบบจำลองเวทีเสวนา รถไฟความเร็วสูงที่จัดที่โรงแรม พูลแมน โดยมีคนบ้ารถไฟ ไปกันเยอะ ๆ รับรองว่า สนุก เฮฮา จะสนุกอย่างไร ต้องไปเตรียม ๆ คิด กัน โดยเฉพาะที่มาจากภาพนี้ |
แอบเห็นชื่อตัวเองเหมือนกันครับ....
หลังจากอ่านแล้ว ยังมีเครื่องหมายคำถามเกิดขึ้นมาอยู่เสมอ....
จากภาพ Model คุณโคบายาชิ ใช้ เป็น Model ของญี่ปุ่น ซึ่งคนของเค้าผูกพันกับการนั่งรถไฟมาตั้งแต่อ้อนแต่ออกกัน และยังเห็นด้วยกับ อ.บ้านโป่ง ที่มองว่าเป็นภาพฝันอันสวยหรูทีเดียว......
หันกลับมามองตัวตั้งของประเทศไทยกันหน่อยครับ.....
1. เราต้องยอมรับว่า ภาพลักษณ์ของรถไฟ ในสายตาของคนทั่วไป ที่ไม่ใช่ "คนบ้ารถไฟ" อย่างพวกเรา มันไม่สู้ดีนัก
2. การเดินทางในระยะกลาง ถึงระยะไกลของบ้านเราต่างจากญี่ปุ่น เพราะบ้านเรา การเดินทางโดยเครื่องบินไม่ได้มีขนาดกว้างที่สุด แต่ การเดินทางด้วย ยานพาหนะทางถนน ต่างหากที่อยู่ในส่วนที่กว้างที่สุด
เมื่อมองถึงส่วนแบ่งขอผู้โดยสาร หากเกิด HSR ขึ้นมา...ผมติดใจว่า มันจะไปตัดส่วนของใครมากันแน่? ส่วนของ เครื่องบิน ยานพาหนะ ทางถนน หรือตัดทางรถไฟด้วยกันเอง???
โดยความเห็นส่วนบุคคลของผมเอง...ยังมองว่า ถ้าคิดถึง HSR จะต้องเลิกมองว่าคู่แข่งของรถไฟ ที่จะไปแย่งส่วนแบ่งการตลาดมา เป็นแค่ นครชัยแอร์ หรือ เจ๊เกียว....แต่ต้องมองไปว่าจะไปตัดลูกค้าของ หางแดง หางม่วง และ ปากเหลือง อย่างไรดี
เพราะลูกค้าที่มีปัญญาจ่ายตังค์นั่ง HSR ได้นั้น ต้องเป็นผู้ที่มีรายได้ปานกลาง จนถึงสูง...และปัญหาต่อมาคือ "จะทำอย่างไรให้ผู้โดยสารระดับรายได้สูง หันมาใช้ HSR แทน Airlines?"
รวมไปทั้งทำอย่างไรให้คนรายได้ปานกลาง ยอมควักกระเป๋าเพิ่ม Upgrade จาก รถสมมติว่านอน VIP 24-32 ที่นั่ง รวมไปถึง ด่วนดีเซลราง...ไปจ่ายเงินขึ้น HSR
เปิดไว้เท่านี้ก่อนครับ....เดี๋ยวบ่ายๆมาต่อ ขอไปทำงานหลวงบ้างเดี๋ยวโดนนังหนูบีไล่ออก
---------------------------------------------------------------------------------------------------------
ส่วนหากจะให้เกิดสัมมนากลุ่มย่อยจริงๆ ถ้าจัดวันเสาร์ขอาทิตย์ หรือวันหยุด ก็ใช้ห้องประชุมเล็กที่ออฟฟิตของผมได้ครับ ห้องนั้นจุคนได้ 15-20 คนในแบบ Theater ครับ ส่วนถ้า สัมมนากันเองแบบปูเสื่อล้อมวงก็ 25-30 คนสบายๆครับ....[/b] _________________
|
|
Back to top |
|
|
black_express
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/03/2006 Posts: 10060
Location: อุตรดิตถ์ - กรุงเทพฯ
|
Posted: 29/03/2010 2:29 pm Post subject: |
|
|
การไปตัดส่วนแบ่งผู้โดยสารจากยานพาหนะประเภทอื่นของรถไฟความเร็วสูงนั้น ตามความเข้าใจของผม ไม่ได้ถึงแค่รถทัวร์เท่านั้นครับ แม้แต่เครื่องบินก็เถอะ หากว่ามีรถไฟความเร็วสูงวิ่งบริการมากเที่ยวกว่า และถึงจุดหมายในระยะเวลาใกล้เคียงกัน และข้อได้เปรียบเรื่องสถานีอยู่ใจกลางเมือง ซึ่งใช้เวลาเดินทางน้อยกว่าเดินทางไปสนามบิน ย่อมมีผู้เปลี่ยนใจมาใช้บริการรถไฟอยู่แล้ว
ในบ้านเรา ตัวอย่างที่เห็นชัดเจน เป็นเส้นทางระหว่างกรุงเทพฯ - พิษณุโลก หลังจากก่อสร้างทางหลวงสาย 117 แล้วเสร็จ ชาวบ้านเดินทางโดยรถส่วนตัวได้รวดเร็วขึ้น มีรถทัวร์วิ่งบริการตลอดทั้งวัน โดยใช้เวลาเดินทางประมาณ 5 ชั่วโมง มีผลให้รถดีเซลรางด่วน ต้องยกเลิกบริการ และสายการบินลดเที่ยวบินลง ทั้งๆ ที่ใช้เวลาเดินทางน้อยกว่า
ยังไม่นับนครราชสีมา หรือขอนแก่น ซึ่งเครื่องบินไม่ได้เป็นคู่แข่งขันโดยตรงกับรถไฟความเร็วสูง ถ้าหากมี รถทัวร์ก็เสียลูกค้าไปบางส่วน ที่ไม่ทั้งหมดเนื่องจากราคาค่าโดยสารรถไฟประเภทนี้ที่ยังสูงกว่า แต่เป็นตัวเลือกสำหรับผู้โดยสารที่มีกำลังทรัพย์ หรือนักธุรกิจซึ่งสามารถเดินทางมาติดต่อธุรกิจถึงใจกลางเมืองได้ โดยรถทัวร์ต้องมาส่งผู้โดยสารได้เพียงแค่สถานีขนส่งรังสิต (ในอนาคต) และเครื่องบิน ต้องไปลงที่สนามบินสุวรรณภูมิ ซึ่งอยู่ห่างตัวเมืองในระยะทางใกล้เคียงกัน
หากรถไฟความเร็วสูงมีความรวดเร็ว ตรงต่อเวลา และสร้างความเชื่อถือเรื่องความปลอดภัยสูงแล้ว มีสิทธิ์ดึงผู้โดยสารลงมาจากเครื่องบินได้เหมือนกันแหละครับ |
|
Back to top |
|
|
donatt76
1st Class Pass (Air)
Joined: 03/09/2006 Posts: 2587
Location: บางนา สุวรรณภูมิครับ
|
Posted: 29/03/2010 11:02 pm Post subject: |
|
|
^
^
ขอบพระคุณพี่ตึ๋งที่ได้ให้ความคิดเห็นครับ....ขออนุญาตต่อจากขอความของพี่ตึ๋งนะครับ...
สำหรับประเด็นเรื่องส่วนแบ่งจำนวนผู้โดยสาร ผมก็เห็นด้วยกับพี่ตึ๋งครับ ว่าคำตอบของผู้โดยสารที่จะมาใช้บริการ HSR นั้นมันมีปัจจัยหลักๆอยู่ไม่กี่อย่าง....(ซึ่งผมสรุปตามความคิดผม หากท่านอื่นมีความเห็นเพิ่มเติมก็ช่วยๆกันนะครับ)
ปัจจัยที่ว่าคือ
1. ความถี่ของขบวนรถ....ถ้าโดยความเห็นของผมแล้ว ระยะแรกอยู่ที่ 1 ขบวน / ชั่วโมง ดูจะเหมาะสม หลังจากนั้นค่อยขยายออกไปเป็น 2 ขบวน และ 3 ขบวนต่อชั่วโมง หรือเฉลี่ย 30 นาที และ 20 นาที ต่อ 1 ขบวน
2. ความตรงต่อเวลา....อันนี้สำคัญครับ ดูอย่าง Shinkansen ของ Mr. Kobayashi เป็น Model ได้ครับที่อัตราเสียเวลาอยู่ที่ 0.1 - 0.5 นาที....หรือ แค่ 10-50 วินาทีเท่านั้น ไม่ใช่เฉพาะ HSR เท่านั้นนะครับ ซึ่งถ้าเราสามารถทำ รถไฟทั้งระบบ ให้ตรงเวลาได้ อันนี้ก็ไม่ต้องกลัวคู่แข่งครับ...เพราะเรื่องเวลาเป็นสิ่งที่ ทางถนนควบคุมได้ยากมากๆ
3. ความเร็วของขบวนรถ...อันนี้เรากำลังพูดถึง HSR จริงๆ ที่ใช้ความเร็วมากกว่า 200 km/h อยู่ใช่มั้ยครับ ถ้างั้นลองมาคำนวนเล่นๆดู
3.1 สายเหนือ จากกรุงเทพฯ (สมมติว่าเริ่มที่บางซื่อละกันนะครับ) - อยุธยา 15 นาที - ลพบุรี 40 นาที - นครสวรรค์ 1 ชั่วโมง 10 นาที - พิษณุโลก 2 ชั่วโมงเศษ - ลำปาง 3 ชั่วโมงเศษ - เชียงใหม่ 4 ชั่วโมงเศษ
3.2 สายใต้: นครปฐม 20 นาที - เพชรบุรี 1 ชั่วโมง - หัวหิน 1.30 ชั่วโมง - ชุมพร 3 ชั่วโมง - สุราษฏร์ธานี 4 ชั่วโมงเศษ - หาดใหญ่ 5 ชั่วโมง
3.3 สายตะวันออกเฉียงเหนือ: สระบุรี 30 นาที - นครราชสีมา 1.30 ชั่วโมง - ขอนแก่น 2ชั่วโมง - อุดรธานี 3 ชั่วโมง หนองคาย 4 ชั่วโมง
3.4 สายตะวันออก: (อันนี้ไม่ขอ 200 km/h) เอาแค่ความเร็วระดับ Limited Express Tilt Train (เอาไว้ Tilt ตรงบางปะกง) ไปพัทยาแบบ Non Stop หรือ Stop ที่หัวตะเข้ก็พอ ถึงพัทยาได้ภายใน 1 ชั่วโมง
ถ้าเป็นตาม Model ได้อันนี้สิ่งที่ต้องกลัวมีอย่างเดียวครับ คือ กำลังภายในของเจาถิ่นเดิม
4. ความปลอดภัย...HSR คงจะต้องวิ่งบนทางยกระดับตลอดเส้นทางล่ะครับ เพราะถ้าวิ่งเสมอระดับเมื่อไหร่ ต่อใหมีรั้วไฟฟ้าพวกก็แหกเข้ามาได้อยู่ดี
5. ค่าโดยสาร...เป็นคำถามที่ต้องคิดหนักครับว่า ควรอยู่ที่เท่าไหร่จึงจะเหมาะสม แน่นอนว่า มันอาจจะแพงไปเกือยเท่าตั๋วเครื่องบินตอนไม่รวมภาษี หรือ แพงกว่ารถนอน บนอ.ป. เลยก็ได้นะครับ
--------------------------------------------------------------------------------------------------------- _________________
|
|
Back to top |
|
|
|