Ads Service

Main Menu

 
icon_home.gif Homepage
icon_community.gif Members Zone
· ข้อมูลส่วนตัว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ข่าวสารส่วนตัว
· บริการเว็บเมล์
· กระดานข่าว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก กระดานฝากข้อความ
· รถไฟไทยแกลลอรี่
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก รายนามสมาชิก
· แบบสำรวจ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก สมุดเยี่ยม
· เกี่ยวกับสมาชิก
favoritos.gif News & Stories
· เรื่องทั้งหมด
· เนื้อหาสาระ
· เรื่องสำหรับพิมพ์
· ยอดฮิตติดอันดับ
· ค้นหาข่าวสาร
· ค้นหากระทู้เก่า
nuke.gif Contents
· กำหนดเวลาเดินรถ
· ประเภทขบวนรถโดยสาร
· ข้อมูลเส้นทางรถไฟ
· แผนที่เส้นทางรถไฟ
· อัตราค่าโดยสาร
· คำนวณค่าโดยสารรถไฟ
· รูปแบบการให้บริการรถไฟ
· หมายเลขโทรศัพท์ที่สำคัญ
· ทริปท่องเที่ยวโดยรถไฟ
· ระบบติดตามขบวนรถ
som_downloads.gif Services
· Downloads
· GoogleSearch
· Hotels Booking
· FlashGames
· Wallpaper 1
· Wallpaper 2
· Wallpaper 3
· Wallpaper 4
icon_members.gif Information
· เกี่ยวกับเรา
· นโยบายความเป็นส่วนตัว
· แผนผังเว็บไซต์ฯ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ส่งข้อแนะนำติชม
· ติดต่อลงโฆษณา
· แนะนำและบอกต่อ
· สถิติทั้งหมด
· สำหรับผู้ดูแลระบบ
 

Sponsors

 

Rotfaithai Gallery in Facebook

 

Visitors

 


มีผู้เข้าเยี่ยมชม
สมาชิก:311235
ทั่วไป:13181337
ทั้งหมด:13492572
คน ตั้งแต่
01-08-2004
 


Rotfaithai.Com :: View topic - ข่าว รฟท จาก หนังสือพิมพ์
 Forum FAQForum FAQ   SearchSearch   UsergroupsUsergroups   ProfileProfile   Log in to check your private messagesLog in to check your private messages   Log inLog in 

ข่าว รฟท จาก หนังสือพิมพ์
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 98, 99, 100 ... 471, 472, 473  Next
 
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับรถไฟไทย
View previous topic :: View next topic  
Author Message
Kan
3rd Class Pass
3rd Class Pass


Joined: 05/07/2010
Posts: 189
Location: กรุงเทพ - ชุมทางทุ่งสง

PostPosted: 10/07/2010 7:48 pm    Post subject: Reply with quote

เป็นรูปเป็นร่างแล้ว อีกห้าปีเท่านั้น Wink
Back to top
View user's profile Send private message
komentrain
3rd Class Pass (Air)
3rd Class Pass (Air)


Joined: 08/07/2010
Posts: 354
Location: ลำพูน

PostPosted: 10/07/2010 8:34 pm    Post subject: Re: Smart Station Plan Reply with quote

สุดยอดเลยครับ กลายเป็นหน่วยธุรกิจแล้ว หวังว่าใน 5 ปีข้างหน้าการเดินรถคงตรงเวลาเป๊ะทุกขบวนนะครับ เป็นกำลังใจให้ครับ
_________________
Click on the image for full size
ผมเด็กลำพูน ชื่อโกเมน ชื่อเล่นต้น เรียนอยู่นครนายกครับ
Back to top
View user's profile Send private message MSN Messenger
KnGEA4539
3rd Class Pass
3rd Class Pass


Joined: 07/07/2010
Posts: 125
Location: ข.35/36 ข.283 วิศวกรรมขนส่งทางราง สจล

PostPosted: 10/07/2010 10:14 pm    Post subject: Re: รายละเอียดเกี่ยวกับ งบลงทุน 5 ปี 176,808.28 ล้านบาท Reply with quote

Wisarut wrote:

1. การก่อสร้างทางคู่สายมาบกะเบา-ถนนจิระ วงเงิน 11,640 ล้านบาท
2. ทางคู่สายนครปฐม-หนองปลาดุก-หัวหิน วงเงิน 16,600 ล้านบาท
3. ทางคู่สายลพบุรี-ปากน้ำโพ วงเงิน 7,860 ล้านบาท
4. ทางคู่สายถนนจิระ-ขอนแก่น วงเงิน 13,010 ล้านบาท
5. ทางคู่สายประจวบคีรีขันธ์-ชุมพร วงเงิน 17,000 ล้านบาท
6. การจัดหารถจักรดีเซลไฟฟ้าทดแทน GE 50 คัน วงเงิน 6,526.50 ล้านบาท
7. ซ่อมบำรุงรถจักร 56 คัน วงเงิน 3,360 ล้านบาท
8. จัดหารถโดยสารรุ่นใหม่เชิงพาณิชย์ 115 คัน วงเงิน 4,981.050 ล้านบาท
9. โครงการก่อสร้างสถานีบรรจุและแยกสินค้ากล่อง (ICD) แห่งที่ 2 วงเงิน 6,066 ล้านบาท ซึ่ง ปัจจุบันได้ดำเนินงานถึงช่วงกลางการศึกษา โดยคาดว่าจะแล้วเสร็จเดือนมิถุนายน 2553

อยากให้ข้อที่1-9ทำเสร็จไวๆจริง แต่ข้อ6 ผมคิดว่า ที่จะจัดหารถจักรดีเซลไฟฟ้าทดแทน GE 50 คัน ถ้าจัดหาได้แล้วน่าจะให้ปู่ GE มาทำขบวนรถท้องถิ่น รถระยะสั้น รจ.ช่วยทำการหรือ รจ.สับเปลี่ยนแทนจะดีมากครับ เพราะปู่ GE ใช้ง่ายและอาจจะลดภาวะรถจักรตึงตัวได้บ้าง ดีกว่าที่จะปลดระวางปู่ GE ไปครับ
_________________
Click on the image for full size
Back to top
View user's profile Send private message Yahoo Messenger MSN Messenger
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42627
Location: NECTEC

PostPosted: 19/07/2010 6:17 am    Post subject: Reply with quote

คมนาคมขอมติครม. กู้จีน400ล้านเหรียญ
หน้า เศรษฐกิจ
ไทยโพสต์ 19 กรกฎาคม 2553 - 00:00

แหล่งข่าวจากกระทรวงคมนาคมเปิดเผยว่า กรณีแผนกู้เงินจำนวน 400 ล้านเหรียญสหรัฐจากจีนเพื่อใช้พัฒนาระบบรางของไทย มีปัญหาทั้งเรื่องอัตราดอกเบี้ยสูงเมื่อเทียบกับแหล่งเงินกู้อื่นและเงื่อนไขในการซื้อสินค้าจากจีนไม่น้อยกว่า 50% ทำให้ประเทศไทยเสียประโยชน์และเป็นเงื่อนไขที่ผูกมัด โดยกระทรวงคมนาคมจะเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาแนวทางการดำเนินงานเพื่อแก้ปัญหากรณีการใช้เงินกู้ดังกล่าวเพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อการดำเนินโครงการพัฒนาระบบรางของการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ที่ได้มีการเจรจามาตั้งแต่ปี 2550 ถึงปัจจุบันยังไม่มีข้อยุติ

ก่อนหน้านี้คณะทำงานเพื่อดำเนินงานความร่วมมือด้านรถไฟระหว่างไทย-จีน ของกระทรวงคมนาคมได้พิจารณาเห็นว่า ควรใช้เงินกู้ 400 ล้านเหรียญสหรัฐจากจีนใน 3 โครงการ วงเงินรวม 13,671 ล้านบาท หรือประมาณ 104 ล้านเหรียญสหรัฐ (1 ดอลลาร์ ต่อ 33.65 บาท) ประกอบด้วย

1.โครงการจัดหารถจักรดีเซลไฟฟ้าพร้อมอะไหล่เพื่อทดแทนรถจักร GE ที่มีอายุการใช้งานมากกว่า 45 ปี จำนวน 50 คัน มูลค่า 6,562.25 ล้านบาท

2.โครงการปรับปรุงระบบรางสายประธานช่วงพิษณุโลก-เชียงใหม่ มูลค่า 4,428 ล้านบาท
[แทน Rehab Phase 4 ส่วนสายเหนือ ที่ แท้งไป]

3.โครงการปรับปรุงระบบรางสายประธานช่วงทุ่งสง-ชุมทางหาดใหญ่ มูลค่า 2,680.8 ล้านบาท [แทน Rehab Phase 4 ส่วนสายใต้ ที่ แท้งไป]


แหล่งข่าวกล่าวว่า หลังจากกระทรวงคมนาคมและ ร.ฟ.ท. ได้หารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว โดยกระทรวงการคลังมีข้อสังเกตว่าข้อกำหนดในการซื้อสินค้าจากจีนไม่น้อยกว่า 50% ไม่สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลในการกระตุ้นการจ้างงานและการลงทุนภายในประเทศซึ่งก่อนการลงนามในกรอบข้อตกลงจะต้องปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญมาตรา 190 โดยต้องได้รับความเห็นชอบจากรัฐสภาก่อน.
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42627
Location: NECTEC

PostPosted: 19/07/2010 6:23 am    Post subject: Reply with quote

อัพรถจักรดีเซลเป็น‘ไฟฟ้า’: ลดต้นทุน 30% เซฟเวลา 20%
ข่าวปก
สยามธุรกิจ ฉบับที่ 1117 - 17-20 กรกฎาคม 2553

สนข.เดินหน้าขับเคลื่อนรถไฟรางคู่แสนล้าน เปิดเวที ระดมสมองผู้เชี่ยวชาญ-ประชาชนร่วม พัฒนาระบบรถไฟรางคู่ระยะเร่งด่วน 5 สายทาง กว่า 767 กิโลเมตร มูลค่ากว่า แสนล้านบาท ตั้งเป้าเพิ่มสัดส่วนการขนส่งระบบรางเป็น 10% จากปัจจุบัน 2% ด้านบริษัทที่ปรึกษาแนะควรพัฒนา ระบบรถจักรดีเซลเป็นระบบรถไฟฟ้า เหตุมีข้อดีหลายประการช่วยลดต้น ทุนค่าน้ำมัน-ค่าบำรุงได้ 30% ประหยัด เวลาเดินทาง 20% ที่สำคัญเป็นมิตรต่อ สิ่งแวดล้อม

นายประณต สุริยะ รองผู้อำนวย การ สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) เปิดเผยภายหลังเป็นประธานเปิดงานสัมมนาเชิงวิชาการ ครั้งที่ 2 เรื่องการศึกษาความ เหมาะสมและออกแบบเบื้องต้น ระบบรถไฟทางคู่เพื่อการขนส่งและการจัด การลอจิสติกส์ ระยะที่ 1 ว่า ประเทศไทย มีความจำเป็นอย่างยิ่ง

ที่จะต้องมีระบบรถไฟรางคู่เพิ่ม จากปัจจุบันที่มีอยู่เพียง 280 กิโลเมตรทั่วประเทศ เพื่อรองรับการขยายตัวและการพัฒนาระบบรางในอนาคต และพัฒนาทาง Meter Gauge ซึ่งเป็นโครงข่ายรถไฟที่มีอยู่แล้วให้เกิดประสิทธิภาพเต็มที่ อีกทั้งยังเป็นการเตรียมพร้อมระบบรางรองรับรถไฟฟ้าเพื่อให้ระบบรถไฟเป็นระบบที่มีประสิทธิภาพสูงสำหรับการขนส่งระบบรางในปัจจุบัน

อย่างไรก็ตาม บริษัทที่ปรึกษาจะสรุปผลการศึกษาและออกแบบเบื้องต้นภายในเดือนต.ค.2553 นี้ หลังจากนั้น สนข.จะได้นำเสนอให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณา โดยคาดว่าจะสามารถประกวดราคาได้เร็วที่สุดในปี 2554

ด้านนายสุชัย รอยวิวัฒน์ ผู้เชี่ยวชาญ อาวุโสด้านระบบรถไฟ บริษัทที่ปรึกษา กล่าว ว่า แผนการพัฒนารางคู่ระยะเร่งด่วนที่ครม. เห็นชอบ 5 เส้นทางหลัก ซึ่งจะเร่งดำเนินการก่อน ได้แก่

1.ลพบุรี-ปากน้ำโพ ระยะทาง 118 กม.
2.มาบกะเบา-ชุมทางถนนจิระ ระยะทาง 132 กม.
3.ชุมทางถนนจิระ-ขอนแก่น ระยะทาง 185 กม.
4.นครปฐม-ชุมทางหนองปลาดุก ระยะทาง 165 กม. และ
5.ประจวบคีรีขันธ์-ชุมพร ระยะทาง 167 กม.

ทั้งนี้ ผลการศึกษาโครงการดังกล่าว พบว่าเมื่อดำเนินการก่อสร้างรางคู่ระยะเร่งด่วนแล้ว ควรจะพัฒนาระบบรถไฟดีเซลเป็นระบบรถไฟฟ้า เพราะจะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายทั้งในส่วนของค่าน้ำมันเชื้อเพลิง ค่าซ่อมบำรุง ค่าพนักงาน ได้สูงถึง 30% ขณะเดียวกันยังช่วยลดเวลาในการเดินทางได้ 20% และที่สำคัญยังเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยการศึกษาและออกแบบครั้งนี้จะได้ออกแบบไว้สำหรับรองรับระบบรถไฟฟ้าด้วย

อย่างไรก็ตาม เป้าหมายสำคัญในการพัฒนารางคู่ของประเทศไทย คือ การปรับปรุงทางรถไฟเดิม โดยการเพิ่มความแข็งแรง และประสิทธิภาพของรางรถไฟ พื้นทาง และไม้หมอน เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการขนส่งทางรถไฟ เพื่อให้สามารถใช้ความเร็วได้ 180 กม.ต่อชั่วโมง และเพิ่มสัดส่วนการขนส่งสินค้าทางรถไฟเป็น 10% จากเดิม 2% และจะเพิ่มปริมาณขบวนบนรถไฟเป็น 500-800 ขบวนต่อวัน จากปัจจุบัน 200 ขบวนต่อวัน ขณะที่ผู้โดยสารจะเพิ่มขึ้นถึง 3.5 เท่า หรือประมาณ 97 ล้านคน

“การพัฒนาระบบรถไฟไทย ยังเป็นที่ถกถียงในระดับนโยบายว่าควรพัฒนาทางรถไฟเดิมที่กว้าง 1 เมตร (Meter Gauge) หรือควรจะเปลี่ยนเป็นทางกว้าง 1.435 เมตร (Standard Gauge) เหตุผลสำคัญที่ใช้ทางขนาด 1 เมตร ในการพัฒนาระบบรถไฟรางคู่ คือ ประหยัดงบประมาณได้มากกว่าการปรับเปลี่ยนทั้งระบบ รวมทั้งสามารถเชื่อมต่อรางปัจจุบัน และรองรับโครงข่ายการคมนาคมกับประเทศเพื่อนบ้านในภูมิภาคเอเชีย ซึ่งส่วนใหญ่ใช้รางขนาด 1 เมตร เช่น มาเลเซีย เวียดนาม สิงคโปร์ เป็นต้น” นายสุชัย กล่าว

ขณะที่นายพิเชฐ คุณาธรรมารักษ์ วิศวกรโยธาชำนาญการ สนข. กล่าวว่า การ ศึกษาครั้งนี้ได้ทำไว้ 2 ชุด คือ การพัฒนารถไฟรางคู่สำหรับรถไฟดีเซล และรถไฟรางคู่สำหรับรถไฟฟ้า เพื่อที่จะเตรียมพร้อมหากในอนาคตประเทศไทยจะพัฒนาระบบรถไฟดีเซลเป็นรถไฟฟ้าก็จะสามารถนำผลการศึกษาและออกแบบเบื้องต้นมาปรับใช้ได้ทันที ทั้งนี้แม้ว่าระบบรถไฟดีเซลมีประโยชน์ช่วยลดต้นทุนการขนส่งสินค้าของประเทศได้มากกว่าการขนส่งทางถนน แต่หากพัฒนาเป็นระบบรถไฟฟ้าและลงทุนเพิ่มอีกสักนิดประมาณกิโลเมตรละ 30 ล้านบาท ก็จะได้ระบบรถไฟฟ้าที่มีประโยชน์ทั้งเรื่องของการลดต้นทุนการขนส่ง และการประหยัดพลังงาน

ทั้งนี้ หากเปรียบเทียบเงินลงทุนระหว่างการลงทุนระบบรถไฟดีเซลและรถไฟฟ้าแล้วพบว่าการดำเนินโครงการรถไฟรางคู่ระยะเร่งด่วนที่รัฐบาลเห็นชอบระยะทางประมาณ 400 กม.วงเงินลงทุนประมาณ 3 หมื่นล้านบาท แต่หากพัฒนาเป็นระบบรถไฟฟ้าจะใช้เงินลงทุนประมาณ 4.2 หมื่น ล้านบาท
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44332
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 19/07/2010 6:24 am    Post subject: Reply with quote

Wisarut wrote:

3.โครงการปรับปรุงระบบรางสายประธานช่วงทุ่งสง-ชุมทางหาดใหญ่ มูลค่า 2,680.8 ล้านบาท [แทน Rehab Phase 4 ส่วนสายใต้ ที่ แท้งไป]

ช่วงทุ่งสง-หาดใหญ่ ต้องปรับปรุงโดยเ่ร่งด่วนครับ
โดยเฉพาะในเขตจังหวัดพัทลุง
เป็นที่ลุ่ม น้ำท่วมแทบทุกปี
และตกรางแทบทุกปีครับ
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44332
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 25/07/2010 11:40 am    Post subject: Reply with quote

วารสารเมืองโบราณ ฉบับประจำเดือนเม.ย.-มิ.ย. 53
มีบทบรรณาธิการ เรื่อง สถานีรถไฟเจ็ดเสมียน ๑๑๗ ปี “รื้อทิ้ง-สร้างใหม่ : ทำลาย –ทดแทน” ครับ
อ่านได้ที่นี่ครับ
http://www.muangboranjournal.com/modules.php?name=News&file=article&sid=2880
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
BanPong1
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 07/12/2006
Posts: 2733
Location: กม.37 สายเหนือ, กม.68 สายกาญจนบุรี

PostPosted: 25/07/2010 3:30 pm    Post subject: Reply with quote

Wisarut wrote:
[url=http://www.siamturakij.com/home/news/display_news.php?news_id=413346281]

ขณะที่นายพิเชฐ คุณาธรรมารักษ์ วิศวกรโยธาชำนาญการ สนข. กล่าวว่า การ ศึกษาครั้งนี้ได้ทำไว้ 2 ชุด คือ การพัฒนารถไฟรางคู่สำหรับรถไฟดีเซล และรถไฟรางคู่สำหรับรถไฟฟ้า เพื่อที่จะเตรียมพร้อมหากในอนาคตประเทศไทยจะพัฒนาระบบรถไฟดีเซลเป็นรถไฟฟ้าก็จะสามารถนำผลการศึกษาและออกแบบเบื้องต้นมาปรับใช้ได้ทันที ทั้งนี้แม้ว่าระบบรถไฟดีเซลมีประโยชน์ช่วยลดต้นทุนการขนส่งสินค้าของประเทศได้มากกว่าการขนส่งทางถนน แต่หากพัฒนาเป็นระบบรถไฟฟ้าและลงทุนเพิ่มอีกสักนิดประมาณกิโลเมตรละ 30 ล้านบาท ก็จะได้ระบบรถไฟฟ้าที่มีประโยชน์ทั้งเรื่องของการลดต้นทุนการขนส่ง และการประหยัดพลังงาน

ทั้งนี้ หากเปรียบเทียบเงินลงทุนระหว่างการลงทุนระบบรถไฟดีเซลและรถไฟฟ้าแล้วพบว่าการดำเนินโครงการรถไฟรางคู่ระยะเร่งด่วนที่รัฐบาลเห็นชอบระยะทางประมาณ 400 กม.วงเงินลงทุนประมาณ 3 หมื่นล้านบาท แต่หากพัฒนาเป็นระบบรถไฟฟ้าจะใช้เงินลงทุนประมาณ 4.2 หมื่น ล้านบาท


ทำไปเถอะครับ ไว้ให้ลูกหลานได้ใช้ แล้วจะได้ไม่มาด่าคนยุคนี้ภายหลังครับ
ใส่ระบบไฟฟ้าเตรียมเผื่อไปเลยครับ ราง 1.00 เมตร พอแล้วครับ ไม่ต้องราง 1.453 หรอกครับ ขนตู้คอนเทนเนอร์ได้พอแล้ว
ช่วงนี้ยังไม่คุ้มทุน แต่ผลตอบแทนด้านสิ่งแวดล้อมและการลดการใช้น้ำมันจากขนส่งทางรถบรรทุก 10 ปีก็น่าจะคุ้มแล้วครับ
_________________
Click on the image for full size
Back to top
View user's profile Send private message Send e-mail MSN Messenger
Kan
3rd Class Pass
3rd Class Pass


Joined: 05/07/2010
Posts: 189
Location: กรุงเทพ - ชุมทางทุ่งสง

PostPosted: 25/07/2010 3:44 pm    Post subject: Reply with quote

Mongwin wrote:
วารสารเมืองโบราณ ฉบับประจำเดือนเม.ย.-มิ.ย. 53
มีบทบรรณาธิการ เรื่อง สถานีรถไฟเจ็ดเสมียน ๑๑๗ ปี “รื้อทิ้ง-สร้างใหม่ : ทำลาย –ทดแทน” ครับ
อ่านได้ที่นี่ครับ
http://www.muangboranjournal.com/modules.php?name=News&file=article&sid=2880


ตกลงว่าจะรื้อแล้วให้จะให้ชุมชนไปสร้างใหม่เอาเองเหรอ เอ แปลกๆน่ะครับเนี่ย
เสียดายเอกลักษณ์ของชุมชน

ส่วนระบบไฟฟ้านี่ ทำเผื่อไว้แล้วเกิดชำรุดอาจจะไม่คุ้มค่าน่ะครับ
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42627
Location: NECTEC

PostPosted: 28/07/2010 4:02 pm    Post subject: Reply with quote

หยุดยาว 4 วัน กระเตื้อง ร.ฟ.ท.เผยสายใต้รับ 4 ลบ.

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 28 กรกฎาคม 2553 10:07 น.


วันนี้ (28 ก.ค.) ประชาชนในพื้นที่ภาคใต้ทยอยเดินทางกลับถึงภูมิลำเนาหลังจากที่ออกไปท่องเที่ยวและกลับบ้านตามจังหวัดต่างในช่วงวันหยุดยาว 4 วันตลอดช่วงเทศกาลเข้าพรรษา โดยบรรยากาศที่สถานีรถไฟหาดใหญ่รถไฟขาล่องกรุงเทพฯ-หาดใหญ่-3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ต้องเสียเวลาอย่างน้อย 2 ชั่วโมงต่อขบวน เนื่องจากจำนวนผู้โดยสารที่เพิ่มขึ้นกว่าช่วงปกติ

โดยรถไฟสายยาวขบวนแรกที่เข้าสู่สถานีหาดใหญ่ คือ รถเร็ว 171 กรุงเทพฯ-สุไหงโก-ลก เวลาประมาณ 09.00 น. จากเวลาปกติที่จะถึงสถานีหาดใหญ่เวลาประมาณ 05.30 น.และมีผู้โดยสารแน่นทั้งขบวนเนื่องจากเป็นขบวนที่พ่วงตู้รถไฟฟรี

ด้าน นายทนงศักดิ์ พงษ์ประเสริฐ ผู้อำนวยการศูนย์ภาคใต้ฝ่ายการเดินรถ เปิดเผยว่า การเดินทางด้วยรถไฟตลอดวันหยุดยาว 4 วันของเทศกาลเข้าพรรษา ในส่วนของภาคใต้มีรายได้จากการให้บริการรถไฟทั้งระบบประมาณ 4 ล้านบาท เฉลี่ยวันละ 1 ล้านบาท ซึ่งตัวเลขของรายได้และผู้โดยสารใกล้เคียงกับเทศกาลเข้าพรรษาปีที่ผ่านมา และไม่มีปัญหาผู้โดยสารตกค้างแต่อย่างใด
Back to top
View user's profile Send private message
Display posts from previous:   
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับรถไฟไทย All times are GMT + 7 Hours
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 98, 99, 100 ... 471, 472, 473  Next
Page 99 of 473

 

Share |

Jump to:  
You cannot post new topics in this forum
You cannot reply to topics in this forum
You cannot edit your posts in this forum
You cannot delete your posts in this forum
You cannot vote in polls in this forum

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group


Forums ©