View previous topic :: View next topic |
Author |
Message |
BanPong1
1st Class Pass (Air)
Joined: 07/12/2006 Posts: 2733
Location: กม.37 สายเหนือ, กม.68 สายกาญจนบุรี
|
Posted: 12/09/2010 10:23 pm Post subject: |
|
|
ฟังการให้สัมภาษณ์ของ รศ.ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์..ปัญหาของการรถไฟไทย จาก F.M.101 เมื่อ 23/10/2009 รศ.ดร.สุชัชวีร์ เคยเป็นบอร์ดการรถไฟฯมา 2 สมัยครับ
และปัจจุบันเป็นบอร์ด ARL
http://76.nationchannel.com/playvideo.php?id=61274 _________________
|
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 44335
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 13/09/2010 11:16 am Post subject: |
|
|
ขอบคุณอาจารย์วิรัตน์ครับที่แนะนำบทสัมภาษณ์มาให้ฟังกัน |
|
Back to top |
|
|
yuktanan
3rd Class Pass
Joined: 06/10/2010 Posts: 95
|
Posted: 24/10/2010 10:15 pm Post subject: |
|
|
digimontamer wrote: | - ถ้าบนรถไฟมีระบบกระจายเสียง ให้ พขร หรือ ชค ประกาศบอกผู้โดยสารได้ก็จะไม่เลวนะครับ เผื่อกรณีที่หัวจักรน้ำร้อน, หัวจักรไปไม่ไหว ก็จะได้แจ้งให้ผู้โดยสารทราบได้ว่าจะมีมาตรการแก้ไขอย่างไร เผื่อผู้โดยสารที่รีบร้อนเดินทางอาจจะสามารถตัดสินใจลงที่สถานีใกล้เคียงเพื่อใช้บริการขนส่งอื่นๆแทน
ปัจจุบันใช้ให้ พรร หรือ พหล เดินประกาศแบบชัดเจนมั่ง ไม่ชัดเจนมั่ง อย่างไรชอบกล |
ทำแบบที่เขาประกาศบนเครื่องบิน ผมกะปิตัน... ขณะนี้..เรากำลังผ่านพื้นที่ที่มีสภาพภูมิประเทศที่เลวร้าย คือมีน้ำท่วมล้อ ... ก็ดูดีอีกแบบนะครับ ทำให้ผู้โดยสารทราบสถานการณ์ตลอดเวลา แต่ถ้าเสียงในขบวนมันดังกว่าก็ คงไม่ได้ยิน ก็คงต้องทำแบบมีจอด้วยเหมือนใน แอร์พอร์ลิงค์ให้ได้อ่าน
Last edited by yuktanan on 24/10/2010 11:39 pm; edited 1 time in total |
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 44335
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 24/10/2010 11:08 pm Post subject: |
|
|
เคยนั่งรถไฟธรรมดาที่ญี่ปุ่น (ไม่ใช่รถด่วนหรือชินคันเซ็น)
คล้าย ๆ ขบวน 177 ธนบุรี-หลังสวน ที่วิ่งกลางคืนนี่แหละครับ
นั่งข้ามปี 31 ธ.ค. - 1 ม.ค.
ปรากฏว่า พขร.ประกาศสวัสดีปีใหม่กับผู้โดยสาร ตอนเที่ยงคืนด้วย
ประทับใจมากครับ |
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 44335
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 06/11/2010 11:37 am Post subject: |
|
|
นักวิชาการแนะ รฟท.พัฒนายุทธศาสตร์รองรับระบบราง
กรุงเทพฯ 5 พ.ย.53 ในช่วงเช้าที่ผ่านมาการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) จัดประชุมระดมสมอง เพื่อรับฟังความคิดเห็นของพนักงานรถไฟถึงการปรับยุทธศาสตร์ของ รฟท.ในอนาคต ซึ่งมีพนักงาน ผู้บริหารสหภาพฯ รฟท. เข้าร่วม โดยนายก้องกิตติ พูสวัสดิ์ หัวหน้าโครงการจัดทำแผนบริหารจัดการกิจการรถไฟไทย มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กล่าวว่า หลังจากที่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ทำการศึกษาแผนการพัฒนายุทธศาสตร์ของ รฟท. ซึ่งตามโครงการจะดำเนินการศึกษาระยะเวลา 1 ปี และแล้วเสร็จในเดือนตุลาคม 2554 โดยจะเน้นแนวทางการพัฒนาและปรับยุทธศาสตร์ให้สอดคล้องกับการพัฒนาระบบรางของประเทศตามนโยบายรัฐบาลที่ได้เตรียมจัดสรรงบประมาณ 176,000 ล้านบาท พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของระบบรางใน 5 ปีข้างหน้า
สำหรับการศึกษาเบื้องต้นพบว่า รฟท.มีปัญหาเร่งด่วนสำคัญที่ต้องได้รับการแก้ไข ทั้งหัวรถจักร และโครงสร้างระบบรางต่าง ๆ อยู่ในสภาพเก่าและทรุดโทรม รวมถึงความจำเป็นต้องปรับโครงสร้างบริหารจัดการให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยยอมรับว่าแนวทางที่กระทรวงคมนาคมดำเนินการขณะนี้ถือเป็นแนวทางที่ถูกต้อง ทั้งการจัดซื้อหัวรถจักร การพัฒนาอุปกรณ์ต่าง ๆ รวมถึงการปรับเปลี่ยนการบริหารจัดการองค์กร แยกการบริหารออกเป็นแต่ละส่วนงาน เช่น การบริหารการเดินรถ การขนส่งสินค้า ซึ่งการปรับเปลี่ยนการบริหารเช่นนี้เป็นแนวทางนำมาใช้ระบบสากล และประสบความสำเร็จมาแล้วหลายประเทศ เช่น ไต้หวัน สโลวิเนีย ฟินแลนด์ ซึ่งจะช่วยให้การบริหารจัดการเกิดประสิทธิภาพมากขึ้น นอกจากนี้ การเพิ่มรายได้ของกิจการรถไฟ จากงานด้านต่าง ๆ ทั้งการขนส่งสินค้า ที่ดินและทรัพย์สิน ถือเป็นหัวใจสำคัญที่จะนำรายได้กลับมาสู่ รฟท.เพิ่มขึ้น
ส่วนการบริหารจัดการที่ก่อนหน้านี้เกิดปัญหาความขัดแย้งระหว่างผู้บริหารและแกนนำสหภาพฯ เห็นว่า โดยข้อเท็จจริงทั้งฝ่ายบริหารและสหภาพฯ ต่างมีความรักและหวังดีต่อองค์กร รวมทั้งมองเห็นปัญหาเช่นเดียวกันว่าหากประเทศจะพัฒนาทางด้านเศรษฐกิจในอนาคต การพัฒนาโครงสร้างระบบรางก็ถือว่า มีความจำเป็นที่ทุกฝ่ายต้องร่วมมือกัน.-สำนักข่าวไทย
------------------
รฟท.ตั้งเป้าปี 54 มีรายได้จากการบริหารที่ดินไม่ต่ำกว่า 2,700 ล้านบาท
กรุงเทพฯ 5 พ.ย.53 - นายสุพจน์ ทรัพย์ล้อม ปลัดกระทรวงคมนาคม กล่าวในการเปิดประชุมระดมสมอง เพื่อรับฟังความคิดเห็น กับพนักงานการรถไฟถึงแนวทางการปรับยุทธศาสตร์ของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.)โดยมีพนักงาน รฟท. และผู้แทนจากสหภาพ รฟท. กว่า 100 คน ร่วมจัดทำแผนบริหารกิจการรถไฟฯ เพื่อนำข้อมูลไปประกอบการจัดทำแผนยุทธศาสตร์การบริหารจัดการกิจการรถไฟ รวมทั้งกำหนดแนวทางการผลักดันยุทธศาสตร์ให้บรรลุผลและรองรับการลงทุน ภายใน5 ปีว่า รัฐบาลได้ตัดสินใจอนุมัติงบประมาณเพื่อปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานของรถไฟเป็นเงิน 1.76 แสนล้านบาท เพื่อปรับปรุงระบบการขนส่งทางรางให้ได้มาตรฐานสากล ด้วยการติดตั้งอาณัติสัญญาณและโทรคมนาคมทั่วประเทศ รวมทั้งการซ่อมแซมเปลี่ยนหัวรถจักร ล้อเลื่อนให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน และก่อสร้างรถไฟรางคู่ ซึ่งทั้งหมดต้องให้แล้วเสร็จในปี 57
นายสุพจน์ กล่าวอีกว่า จากการรับฟังจากพนักงาน พบว่าทุกฝ่ายเห็นไปในทิศทางเดียวกัน ที่ต้องการให้รถไฟเติบโตไปในทิศทางที่ดีขึ้น โดยเฉพาะเรื่องของ 3 หน่วยธุรกิจ ที่ประกอบด้วย หน่วยการเดินรถ หน่วยการซ่อมบำรุง และหน่วยการบริหารสินทรัพย์ โดยทุกฝ่ายเห็นว่าต่อจากนี้ไป รฟท.จะต้องเป็นองค์กรที่ดูแลตนเองได้ ลดภาระหนี้ การขาดทุน โดยภารกิจที่ รฟท. จะมุ่งดำเนินการในปี 54 ก็คือการหารายได้จากที่ดินที่มีอยู่ทั่วประเทศ โดยเฉพาะที่ดินในเขตกรุงเทพ ซึ่งมีกว่า 1,000 ไร่ และส่วนใหญ่จะเป็นที่ดินที่อยู่ในเขตเศรษฐกิจที่มีศักยภาพ และในการดำเนินการนั้นจะให้เอกชนที่สนใจทำแผนเสนอเข้ามาเพื่อพัฒนาพื้นที่ในเชิงพาณิชย์ โดยต้องเสนอรายได้ให้กับ รฟท. ในอัตราที่เป็นไปตามอัตราที่เป็นปัจจุบัน โดยอย่างน้อยในปี 54 รฟท. จะต้องมีรายได้จากการบริหารทรัพย์สินในส่วนของที่ดินไม่ต่ำกว่า 2,700 ล้านบาท ซึ่งจะเพียงพอกับการจ่ายเงินเดือนให้กับพนักงานที่เกษียณอายุราชการโดยที่ รฟท. ไม่ต้องกู้เงินมาเพื่อจ่ายให้กับพนักงานต่อไป
นายสุพจน์ กล่าวต่อว่า ในส่วนของการพัฒนาพื้นที่บริเวณสถานีมักกะสัน ที่มีการเสนอให้คณะกรรมการรถไฟฯ พิจารณาเห็นชอบกรอบการลงทุนนั้น คณะกรรมการได้ให้ความเห็นว่ารถไฟควรให้เอกชนรายเดียวเป็นผู้ดำเนินการมากกว่าเปิดให้เอกชนหลายรายดำเนินการ เพื่อให้การพัฒนาเป็นไปในทางเดียวกัน รวมทั้งไม่ควรกำหนดรูปแบบการพัฒนาพื้นที่แต่ควรให้เอกชนเสนอรูปแบบการพัฒนามา ขณะที่รถไฟมีหน้าที่เพียงพิจารณารายได้ที่คุ้มค่าที่องค์กรจะได้รับ
"อยากให้การใช้ประโยชน์ที่ดินมีความหลากหลาย ซึ่งเอกชนจะเป็นผู้เสนอรูปแบบการลงทุน และผลตอบแทนที่คุ้มค่าให้กับรถไฟ เพราะรถไฟไม่มีศักยภาพในการพัฒนาพื้นที่เอง แต่หากเอกชนเข้ามาบริหารก็จะให้ทำให้รถไฟมีรายได้ เพราะไม่มีรัฐวิสาหกิจใดที่มีที่ดินในกรุงเทพฯ มากขนาดนี้ หากมีการบริหารจัดที่ดีนก็จะทำให้รถไฟมีรายได้เข้ามาเลี้ยงตนเอง เพราะแค่ที่ดินบริเวณสามเหลี่ยมพหลโยธินเพียง 46 ไร่ ก็สามารถทำรายได้ต่อปีให้รถไฟต่อปีถึง1,000 ล้านบาท" นายสุพจน์ กล่าว
นายก้องกิตติ พูสวัสดิ์ อาจารย์ประจำภาควิชา มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ในฐานะหัวหน้าโครงการจัดทำแผนบริหารจัดการกิจการรถไฟไทย กล่าวว่า คาดว่า แผนดังกล่าวจะแล้วเสร็จในเดือน ต.ค. 2554 โดยขอบเขตการทำงานเป็นการผลักดันรถไฟให้เดินหน้าเพราะอีก 5 ปี รัฐบาลมีแผนลงทุนระบบราง ระบบอาณัติสัญญาณ หัวรถจักร และการใช้ระบบรางในการขนส่ง เพราะปัจจุบันการขนส่งนิยมการขนส่งทางถนนมากกว่าระบบอื่น ทำให้ต้นทุนการขนส่งสูง
สำหรับปัญหาของรถไฟ นั้น ส่วนใหญ่เกิดจากโครงสร้างที่เป็นฮาร์ดแวร์ ไม่ได้รับการพัฒนาถึงร้อยละ 60 ดังนั้นจึงเห็นการขนส่งทางรถยนต์มากกว่าทางราง รัฐบาลจึงเห็นควรให้มีการปรับปรุงหัวรถจักร และเน้นเรื่องความปลอดภัย โดยเฉพาะจุดตัด หากไม่ได้รับการแก้ไขก็จะทำให้รถไฟขาดความน่าเชื่อถือจากผู้ที่ใช้บริการ ส่วนอีกร้อยละ 40 เป็นปัญหาการปรับปรุงด้านบุคลากร เพราะหากรถไฟมุ่งเน้นการแก้ไขปัญหาเฉพาะฮาร์ดแวร์ จะทำให้อีกร้อยละ 40 มีปัญหา จึงต้องมีการแก้ไขโดยการปรับโครงสร้างการบริหารเป็นหน่วยและก็ได้รับความร่วมมือจากทุกฝ่ายในการเดินหน้าแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ร่วมกันของรถไฟ -สำนักข่าวไทย |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42631
Location: NECTEC
|
|
Back to top |
|
|
nathapong
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/03/2006 Posts: 3515
Location: Ayuthaya - Lamlukka - Navanakhon - Silom
|
Posted: 07/11/2010 1:30 pm Post subject: |
|
|
อยู่ที่มุมการนำเสนอ มั้งเฮีย
แต่ข่าวนึงที่เกี่ยวกับการก่อสร้างสนามกีฬา (ฟุตซอล) ที่มักกะสัน (แต่หาไม่เจอหนะ)
เป็นโครงการของ กทม กับ กกท เสนอจัดฟุตซอลโลกที่บ้านเราเนี่ยแหละ
จะใช้พื้นที่ ที่จะก่อสร้างมักกะสันคอมเพลก
แบบนี้ การจัดการสาระพัน มันไม่ยุ่งเป็น....พันกันเลยเหรอ
ปล.รฟท จะยกที่ให้ฟรีอีกหรือไม่เนี่ย ตามข่าวกันเองเด้อ ถ้าฟรี ก็ล้มการแบ่งหน่วยธุรกิจที่จะแก้ปัญหาด้านการเงินไปเหอะ คริคริ |
|
Back to top |
|
|
pak_nampho
1st Class Pass (Air)
Joined: 25/06/2007 Posts: 2371
Location: คนสี่แควพลัดถิ่น ทำมาหากิน ที่เกาะภูเก็ต
|
Posted: 07/11/2010 2:39 pm Post subject: |
|
|
ที่ดินรถไฟให้ฟรีไม่มีแล้วครับ....
สี่ห้าวันก่อนรถไฟบริจาคเงินช่วยน้ำท่วมกับ รมต. 1 ล้านบาทเลยนะ _________________ +++++++++++++++++ ๑๑๖ ปี รถไฟไทยก้าวไกล....จากรถจักรไอน้ำ +++++++++++++++++
....................บุตร ครฟ. พขร.ตรี แขวงรถพ่วงปากน้ำโพ ................... |
|
Back to top |
|
|
nathapong
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/03/2006 Posts: 3515
Location: Ayuthaya - Lamlukka - Navanakhon - Silom
|
Posted: 07/11/2010 2:59 pm Post subject: |
|
|
pak_nampho wrote: |
สี่ห้าวันก่อนรถไฟบริจาคเงินช่วยน้ำท่วมกับ รมต. 1 ล้านบาทเลยนะ |
คำตอบที่เป็นปุจฉา ผมโพสไว้ที่กระทู้นี้ อะพี่
http://www.portal.rotfaithai.com/modules.php?name=Forums&file=viewtopic&t=3977
ตามอ่าน ตั้งแต่ โพสแรก ถึงตอนนี้
มีปุจฉา ในใจมากมาย ในเรื่องการจัดการและกระบวนการ "ขนของที่จะช่วยเหลือต่อผู้ประสบภัย"
ผมไม่แปลกใจเลยว่า เหตุใด ต้นทุนโลจิสติกส์ ของประเทศไทย ทำไมถึงสูงมากมาย
เพราะการจัดการที่ไม่ประสานในแนวทางเดียวกัน ทั้งรัฐและเอกชน ต่างคนต่างคิด (และการคิดที่อยู่บนผลประโยชน์ที่ต่างกัน) = (นานาสังวาส)
อย่างแรก มีข่าวที่ รฟท ช่วยผู้ประสบภัย ในรูปตัวเงิน แต่ เหตุใด การรถไฟ มีขบวนรถไฟที่ผ่านพื้นที่บางแห่งมีการเดินรถพอผ่านไปได้
เหตุใดไม่มีการแบ่งเบาภาระ จากส่วนงานอื่น เช่น บ.เอกชัย ดิส...ที่จัดการระบบโลจิสติกส์ให้ (ห้างโลตัส) หรือ สายการบินโลว์คอส เช่นน้องนก แอร์เอเซีย (แต่ไม่มีข่าวของ สายการบินแห่งชาติเลย อะอะ)
และช่วยกันปรับปรับวิธีการการประสาน กับหน่วยงานในพื้นที่ ที่ได้รับความเดือดร้อน รับความช่วยเหลือ ได้มากขึ้นทั่วถึงขึ้น
แต่ที่เกี่ยวกับรถไฟ
ในพื้นที่ที่มีระบบรางสามารถเข้าถึงได้ในตอนนี้ โดยเฉพาะเส้นทางสายใต้ กับ อิสานใต้
แค่เพิ่มคอกหมูหรือรถขนเงิน เพิ่มเข้าไป ขบวนละ 1-2 ตู้ต่อเที่ยว เที่ยวนึงขนได้สัก 10 ตัน สายใต้มีกี่ขบวนในรอบหนึ่งวัน อย่างน้อย ก็ลดภาระการขนส่งทางถนน และให้รถยนต์ รับช่วงเข้าไปจุดที่ได้รับความเดือนร้อน ก็สามารถทำได้อยู่ แต่ไม่เคยได้ข่าวใด ๆ
บางอย่าง การช่วยเงินช่วยของ ก็ตาม แต่คนที่จะขนส่งไม่มี อันนี้พอเข้าใจได้ แต่มีเครื่องมือแล้วไม่ใช้ ให้เป็นประโยชน์ ..... แล้วจะมีเครื่องมือที่ว่าไว้เพื่ออะไรหนอ |
|
Back to top |
|
|
pak_nampho
1st Class Pass (Air)
Joined: 25/06/2007 Posts: 2371
Location: คนสี่แควพลัดถิ่น ทำมาหากิน ที่เกาะภูเก็ต
|
Posted: 07/11/2010 5:05 pm Post subject: |
|
|
ผลตอบแทนจากการบริจาคต่างกันครับป๋า
1. ช่วยด้วยเงิน ได้ชื่อเสียง,หน้าตา, เพื่อนฝูงและเจ้ากระทรวงให้การยอมรับ...จับต้องได้หมด...
2. ช่วยขนส่ง ไม่ได้อย่างข้อ 1 เลย.....
ทำอย่างป๋าบอกที่เครื่องบินทำก็ วิน วิน
(นก+(แอร์)+เอเซีย) บินไปหาดใญ่ได้ผู้โดยสาร(งิน) ใต้ท้องว่างก็โหลดเอาของบริจาคไปไม่ให้เสียเที่ยวค่าใช้จ่ายก็ไม่เพิ่มแถมยังได้บุญอีก
ระบบรางก็ทำได้ถ้าคิดทำ.......
ระบบรางเปิดเดินรถโดยสารถึงชุมพร พ่วงคอกหมูบรรทุกของบริจาคแค่ชุมพร ที่เหลือหน่วยงานเกี่ยวข้องประสานต่อไป...
ระบบรางเปิดเดินรถโดยสารถึงสุราษฎร์ เพิ่มบชส บรรทุกของบริจาคแค่สุราษฏร์ ที่เหลือหน่วยงานเกี่ยวข้องประสานต่อไป...
ระบบรางเปิดเดินรถโดยสารถึงทุ่งสง เพิ่มบชส บรรทุกของบริจาคแค่ทุ่งสง ที่เหลือหน่วยงานเกี่ยวข้องประสานต่อไป...
ระบบรางเปิดเดินรถโดยสารถึงหาดใหญ่ เพิ่มบชส บรรทุกของบริจาคแค่หาดใหญ่ ที่เหลือหน่วยงานเกี่ยวข้องประสานต่อไป...
แค่นี้ระบบรางก็ได้ช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วมได้เหมือนกันกับเครื่องบินแล้ว.... _________________ +++++++++++++++++ ๑๑๖ ปี รถไฟไทยก้าวไกล....จากรถจักรไอน้ำ +++++++++++++++++
....................บุตร ครฟ. พขร.ตรี แขวงรถพ่วงปากน้ำโพ ................... |
|
Back to top |
|
|
|