View previous topic :: View next topic |
Author |
Message |
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42697
Location: NECTEC
|
Posted: 23/09/2010 1:23 pm Post subject: |
|
|
พัทยาเดินหน้าสร้างรถไฟฟ้า
ข่าวสดรายวัน หน้า 29
ปีที่ 20 ฉบับที่ 7238 วันที่ 23 กันยายน พ.ศ. 2553
นายสุนทร รัตนวราหะ ปลัดเมืองพัทยา กล่าวในการสัมมนาเพื่อประชาสัมพันธ์ความคิดเห็นโครงการว่าจ้างที่ปรึกษาเพื่อออกแบบระบบรถไฟฟ้าเบื้องต้นเมืองพัทยาครั้งที่ 2 กับผู้นำชุมชนนักธุรกิจและประชาชนทั้ง 33 ชุมชนทั่วเขตเมืองพัทยาว่า เพื่อการมีส่วนร่วมของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องเพื่อให้เกิดกระบวนการและเปลี่ยนข้อมูลและความคิดเห็นในการพัฒนาโครงการอย่างเหมาะสมและเกิดประโยชน์สูงสุดต่อทุกฝ่าย
นายสุนทรกล่าวต่อว่า เมืองพัทยาได้มอบหมายให้บริษัทเอกชนเป็นที่ปรึกษาดำเนินโครงการ เพื่อศึกษาความเป็นไปได้ในการก่อสร้าง และแก้ปัญหาจราจรและพัฒนาระบบการขนส่งและการจราจรให้เชื่อมโยงอย่างบูรณาการ ตลอดจนส่งเสริมการท่องเที่ยว โดยมีขอบเขตการศึกษาและวิเคราะห์แผนแม่บทที่มีความยาวไม่น้อยกว่า 25 กิโลเมตร นำเสนอระบบรถไฟฟ้าที่เหมาะสมสำหรับโครงการนำร่องที่มีระยะทางไม่น้อยกว่า 6 กิโลเมตร งานสำรวจและออกแบบเบื้องต้นทางวิศวกรรม และงานศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อมและการมีส่วนร่วมของประชาชน
ด้านนายสุรัตน์ เมฆะวรากุล ประธานสภาวัฒนธรรมอำเภอบางละมุง พร้อมประชาชนกว่า 100 คนได้ประท้วงโครงการนี้ว่า หากดำเนินโครงการนี้เกิดขึ้นจะส่งผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมทั้งทางเสียง และการบดบังทัศนียภาพของเมืองพัทยา อีกทั้งทำให้ผู้ประกอบการบาร์เบียร์สูญเสียเม็ดเงินด้านการท่องเที่ยวจากชาวต่างชาติที่มาเดินตามชายหาด |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42697
Location: NECTEC
|
Posted: 30/09/2010 11:37 am Post subject: |
|
|
รถไฟฟ้ารางเดี่ยวเมืองพัทยา อภิมหาโปรเจกท์ยักษ์ 4 พันล้าน
โดย ธนทรัพย์ น้อยสะอาด
หน้า ภูมิภาค-ประชาคมท้องถิ่น
คมชัดลึก อังคาร 28 กันยายน 2553
คมชัดลึก : เมืองพัทยานับเป็นแหล่งท่องเที่ยวอันดับต้นๆ ของประเทศไทย แต่ละปีมีชาวต่างชาติเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวหลายล้านคน ระบบสาธารณูปโภคจึงเป็นสิ่งสำคัญและได้รับการพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง ก่อนหน้านี้ "อิทธิพล คุณปลื้ม" ในฐานะหัวหน้าทีมเรารักษ์พัทยา ได้เสนอนโยบายสำคัญหวังได้เสียงสนับสนุนจากประชาชนชาวเมืองพัทยา หนึ่งในนั้นคือโครงการ รถไฟฟ้ารางเดี่ยว หรือ โมโนเรล
ในที่สุดโครงการดังกล่าวกำลังเดินหน้า ด้วยการผลักดันเข้าสู่ที่ประชุมสภาพร้อมจัดจ้างบริษัท โชติจินดา มูเชล คอนซัลแตนท์ จำกัด และบริษัท เทสโก้ จำกัด เป็นบริษัทที่ปรึกษา ภายใต้งบประมาณกว่า 4,000 ล้านบาท
รถไฟฟ้ารางเดี่ยว หรือ โมโนเรล จะมี 2 เส้นทาง ประกอบด้วย สายแรก เริ่มจากสถานีหน้าศาลาว่าการเมืองพัทยา พัทยาเหนือ ถึงท่าเรือแหลมบาลีฮาย พัทยาใต้ ใช้เส้นทางถนนพัทยาสายสอง มีจุดสถานีจอด 5 สถานี คือ 1.สถานีศาลาว่าการเมืองพัทยา 2.สถานีเซ็นทรัล เซ็นเตอร์ (บิ๊กซีพัทยาเหนือ) 3.สถานีพัทยากลาง บริเวณศูนย์การค้าเซ็นทรัล เฟสติวัล พัทยา บีช 4.สถานีพัทยาใต้ บริเวณวัดชัยมงคล และ 5.สถานีท่าเทียบเรือท่องเที่ยวแหลมบาลีฮายพัทยาใต้
ส่วนเส้นทางที่ 2 เริ่มต้นจากสถานีศาลาว่าการเมืองพัทยาไปตามเส้นทางพัทยาเหนือขึ้นถนนสุขุมวิทสิ้นสุดที่ซอยชัยวิถี หรือซอยหนองปรือ โดยมีสถานีจอด 4 สถานีหลัก คือ 1.สถานีศาลาว่าการเมืองพัทยา 2.สถานีรถโดยสารรุ่งเรือง 3.สถานีบริเวณโรงพยาบาลกรุงเทพพัทยา และ 4.ไปสิ้นสุดที่สถานีซ่อมบำรุงรถไฟฟ้า ภายในซอยชัยพรวิถี รวมระยะทาง 2 เส้นทางนำร่อง 10.6 กิโลเมตร
โครงการอภิมหาโปรเจกท์ที่ใช้งบประมาณมหาศาลนี้ ย่อมมีผู้ที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย โดย นางรัตนา อ่องสมบัติ ตัวแทนชาวบ้าน กลับมองว่า โครงการดังกล่าวไม่เกิดประโยชน์ต่อภาพรวมด้านการท่องเที่ยวของเมืองพัทยา และไม่คุ้มกับการลงทุน เพราะต้องใช้งบประมาณจำนวนมหาศาล อีกทั้งยังเป็นการทำลายสภาพภูมิทัศน์ด้านการท่องเที่ยว และสภาพเศรษฐกิจโดยรวม ที่สำคัญยังสร้างปัญหามลพิษในเรื่องของฝุ่นละอองและทำลายอาชีพทำกินของผู้ประกอบการรถโดยสารสาธารณะอีกด้วย
เช่นเดียวกับ นายสุรัตน์ เมฆะวรากุล ประธานสภาวัฒนธรรมอำเภอบางละมุง ในฐานะตัวแทนนักธุรกิจเมืองพัทยา มองว่า โครงการรถไฟฟ้ารางเดี่ยวไม่สามารถแก้ไขปัญหาด้านการจราจร และระบบขนส่งมวลชนเมืองพัทยาได้ และไม่คุ้มค่ากับการลงทุน เนื่องจากเมืองพัทยามีพื้นที่จำกัดระยะทางไม่ถึง 10 กิโลเมตร
"สิ่งที่ควรดำเนินการคือการแก้ไขระบบขนส่งมวลชนที่มีอยู่ให้มีประสิทธิภาพมากกว่าทั้งรถสหกรณ์สองแถว หรือรถจักรยานยนต์รับจ้าง และพัฒนาโครงการอื่นๆ ที่ส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างจริงจัง เช่น การพัฒนาพื้นที่ชายหาด ระบบสาธารณูปโภค การปรับปรุงสภาพสิ่งแวดล้อม หรือการสร้างแหล่งท่องเที่ยวใหม่ๆ" นายสุรัตน์ กล่าว
ด้าน นางพจนารถ แก้วผลึก ส.ส.ชลบุรี พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ที่ผ่านมาเมืองพัทยามีปัญหาหลายอย่างที่ได้รับการร้องเรียน ทั้งเรื่องการเข้ามาของ อพท.หรือองค์การพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยว รวมทั้งโครงการใหญ่อย่างรถไฟฟ้ารางเดี่ยว ซึ่งหลายคนมองว่าไม่มีความโปร่งใส ในเรื่องของการรับฟังความคิดเห็น หรือประชาพิจารณ์จากประชาชน ล่าสุดชาวบ้านจำนวนหนึ่งเข้าพบนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เพื่อให้ตรวจสอบเกี่ยวกับโครงการดังกล่าว
"เรื่องนี้นายกฯ ได้สั่งการผ่านทางกลุ่ม ส.ส.ชลบุรี ให้มาสำรวจข้อเท็จจริงและความต้องการของประชาชน หากเห็นด้วยก็ไม่คัดค้าน แต่หากไม่เห็นชอบก็คงต้องดำเนินการต่อไป เพราะโครงการนี้ใช้งบประมาณหลายพันล้าน" นางพจนารถ กล่าว
ขณะที่ นายสุนทร รัตนวราหะ ปลัดเมืองพัทยา กล่าวว่า การรับฟังความคิดเห็นเพื่อนำเอาข้อมูลทั้งผู้เห็นด้วยและไม่เห็นด้วยไปประเมินก่อนจะมีการสรุปผลครั้งใหญ่ ส่วนความเห็นที่ต่างออกไปเป็นเรื่องดี แต่ไม่ได้หมายความว่าประชาชนในเมืองพัทยาเกิดความแตกแยกกัน
"โครงการดังกล่าวเป็นโครงการที่คณะผู้บริหารเมืองพัทยาชุดปัจจุบันได้สัญญาไว้กับประชาชน และเป็น 1 ใน 14 นโยบายเร่งด่วน และเมื่อได้รับความไว้วางใจจากประชาชนแล้ว ก็จำเป็นต้องรักษาสัญญา เพราะเชื่อแน่ว่าผู้บริหารเมืองพัทยาชุดนี้อยากเห็นความเจริญของเมืองพัทยาอย่างแท้จริง" นายสุนทร กล่าว
อภิมหาโปรเจกท์ รถไฟฟ้ารางเดี่ยว หรือโมโนเรล นับเป็นสัญญาประชาคมของ "อิทธิพล คุณปลื้ม" ที่ใช้ในขณะหาเสียง แต่จะเดินหน้าได้จริงหรือไม่ต้องจับตากันต่อไป
//----------------------------------------------------------------------
อินเตอร์เน็ตโพล ของเมืองพัทยาเกี่ยวกับ Monorail ดูได้ที่นี่ครับ
http://www.pattayamonorail.com/index.php?option=com_poll&id=15:2010-09-06-05-27-36
ขณะนี้ชาว Nettizen บอกว่าจะเอา Pataya Monorail ราวๆ
2 ใน 3 |
|
Back to top |
|
|
siriwadhna
3rd Class Pass
Joined: 05/10/2009 Posts: 126
|
Posted: 22/10/2010 2:24 pm Post subject: |
|
|
ทัศนะจากผู้อ่าน กรุงเทพธุรกิจ โดยคุณพรรษิษฐ์ ต่อสุวรรณ
22 ตุลาคม 2553
http://www.bangkokbiznews.com/home/detail/politics/opinion/reader-opinion/20101022/358925/โครงการรถไฟโมโนเรลพัทยา-:-แนวทางการพัฒนาเมืองแบบไทยๆ.html
โครงการรถไฟโมโนเรลพัทยา : แนวทางการพัฒนาเมืองแบบไทยๆ
ดูเหมือนว่าโครงการรถไฟฟ้ารางเดี่ยว หรือ รถไฟฟ้าโมโนเรล จะกลายเป็นโครงการยอดนิยมสำหรับแนวทางการพัฒนาของเมืองสำคัญๆ ในบ้านเมืองเราไปแล้ว
เริ่มตั้งแต่กรุงเทพมหานครได้ประกาศจะสร้างโครงการรถไฟฟ้าโมโนเรลสามเฟส สามแห่งในพื้นที่กรุงเทพฯ โดยตั้งงบลงทุนสูงถึงประมาณพันล้านบาท โดยมีวัตถุประสงค์หลักในการแก้ไขปัญหาจราจรโดยจะใช้เป็นระบบเสริมระบบหลักที่มีอยู่แล้วอย่างรถไฟลอยฟ้า BTS และรถไฟใต้ดิน MRT
ผู้เขียนได้เคยเขียนวิเคราะห์ถึงความเหมาะสมของโครงการโมโนเรลของกรุงเทพมหานครเฟสแรกสยามฯ-จุฬาฯ-สามย่าน ไปแล้วในบทความที่มีชื่อว่า "รถไฟฟ้าโมโนเรลจุฬาฯ-สยาม : โครงการเอารัดเอาเปรียบของคนกลางเมือง?" โดยผู้เขียนได้ตั้งข้อสังเกตถึงความคุ้มทุน ความคุ้มค่าของการลงทุน 2 พันล้านบาท กับโครงการรถไฟฟ้าโมโนเรลระยะทางเพียง 1.5 กิโลเมตร ซึ่งเส้นทางนี้ก็ไม่ได้ผ่านชุมชนอะไร แถมยังเป็นเส้นทางซ้ำซ้อนกับระบบขนส่งของ BTS ที่มีอยู่เดิมอีกด้วย นอกจากนี้ ยังได้ชี้ให้เห็นถึงนัยทางการเมืองเกี่ยวกับโครงการประเภทนี้ ซึ่งจะสังเกตได้ว่าการนำเสนอโครงการของฝ่ายบริหารมักจะอยู่บนฐานประโยชน์ทางการเมืองเป็นหลักเท่านั้น
ในเวลาใกล้เคียงกันกับการประกาศสร้างโครงการรถไฟโมโนเรลของกรุงเทพฯ ก็มีโครงการรถไฟโมโนเรลของเมืองพัทยาคลอดออกมา โดยเป็นเหตุผลเกี่ยวกับการส่งเสริมเรื่องการท่องเที่ยว เนื่องจากพัทยาเป็นเมืองท่องเที่ยวสำคัญของประเทศ โดยมีจุดเด่น คือ ชายหาดที่ทอดยาวประมาณ 3 กิโลเมตร และด้วยลักษณะของชายหาดที่เป็นโค้งเว้าหลายส่วน มีเกาะล้านทอดตัวอยู่ห่างออกไปไม่ไกล ประกอบกับที่ตั้งของพัทยาซึ่งอยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ มากนัก ทำให้พัทยากลายเป็นที่รู้จักกันในระดับนานาชาติมาเป็นเวลาช้านาน
เมืองพัทยาตั้งอยู่ในจังหวัดชลบุรี เป็นเขตปกครองท้องถิ่นแบบพิเศษคล้ายกับของกรุงเทพมหานคร ซึ่งผู้บริหารสูงสุดทั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพฯ และนายกเมืองพัทยาจะมาจากการเลือกตั้งโดยตรง เป็นโครงสร้างการปกครองท้องถิ่นที่มีเพียงสองแห่งในประเทศ วัตถุประสงค์ก็เพื่อสร้างความคล่องตัวในการบริหารจัดการ สำหรับเมืองพัทยานั้นจะเห็นได้ว่าหลายทศวรรษที่ผ่านมา เมืองท่องเที่ยวแห่งนี้ก็เจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งเศรษฐกิจของพัทยา ซึ่งส่วนใหญ่จะอิงอยู่กับอุตสาหกรรมท่องเที่ยวเป็นหลัก ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจโรงแรมและธุรกิจด้านบริการอื่นๆ ไปจนถึงธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งส่วนใหญ่จะมีกลุ่มลูกค้าชาวต่างชาติเป็นแรงผลักดันสำคัญที่สุด
สภาพการจราจรของเมืองพัทยาเคยเป็นปัญหาในบางช่วง ในฤดูท่องเที่ยวของชาวต่างประเทศ หรือในช่วงเทศกาลวันหยุดของไทย เนื่องจากมีนักท่องเที่ยวเข้ามาในพื้นที่เป็นจำนวนมาก ทำให้มีการจราจรคับคั่งในบริเวณถนนเลียบชายหาด แต่ทางเมืองพัทยาก็ดำเนินการแก้ปัญหาจราจรโดยการตัดถนนพัทยาสาย 2 และสาย 3 ตามลำดับ ขนานไปกับถนนเลียบชายหาดและถนนสุขุมวิท นอกเหนือจากการตัดถนนเพิ่มมีลักษณะเป็นโครงข่ายแล้ว ยังมีการก่อสร้างสะพานยกระดับบริเวณทางแยกที่มีปัญหาหลายจุด ทำให้ปัญหาการจราจรในเมืองพัทยาได้รับการแก้ไขไปโดยสิ้นเชิง
การนำเสนอโครงการรถไฟรางเดี่ยวในเขตเมืองพัทยา ดำเนินการโดยองค์การพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (อพท.) จึงมีวัตถุประสงค์เดียว ก็คือ เรื่องการส่งเสริมการท่องเที่ยวเท่านั้น โครงการรถไฟโมโนเรลพัทยานี้ จะใช้งบลงทุนสูงถึงประมาณ 4 หมื่นล้านบาท ซึ่งจะมีทั้งหมด 8 สายทั่วทั้งเมืองพัทยา ทำหน้าที่เชื่อมโยงเขตเทศบาลต่างๆ โดยสายแรกที่จะเริ่มก่อสร้างจะอยู่บนถนนพัทยาสาย 2 อย่างไรก็ตาม โครงการนี้ก็จำเป็นต้องมีการทำประชาพิจารณ์ ผ่านขั้นตอนการรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนในพื้นที่เสียก่อนถึงจะเข้ากระบวนการขั้นตอนต่อๆ ไป ซึ่งทางเมืองพัทยาก็ได้มีการจัดให้มีการประชาสัมพันธ์โครงการ และการรับฟังความคิดเห็นไปแล้วเป็นครั้งที่สอง ในวันที่ 20 กันยายนที่ผ่านมา
สำหรับการเสนอโครงการโมโนเรลพัทยานี้ ได้มีการถกเถียงกันอยู่บ้างในพื้นที่ แต่ไม่ค่อยจะได้รับการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารในวงกว้างมากนัก โดยฝ่ายสนับสนุนที่จะให้มีโครงการก็จะอ้างถึงความจำเป็นในการสร้างระบบขนส่งที่เชื่อมโยงพื้นที่ในเขตเทศบาลต่างๆ ของเมือง และที่สำคัญ ก็คือ การแก้ไขปัญหาการจราจร ซึ่งล้วนเป็นปัจจัยสำคัญในการส่งเสริมเรื่องการท่องเที่ยวของเมืองพัทยา ส่วนฝ่ายที่ต่อต้านโครงการก็จะอ้างถึงความไม่เหมาะสมของโครงสร้างโมโนเรล ซึ่งจะทำลายทัศนียภาพของเมืองชายทะเล และที่สำคัญ ก็คือ การตั้งข้อสังเกตในประเด็นที่เกี่ยวกับความโปร่งใส ซึ่งจะเห็นได้ว่าบรรดาเหตุผลหลักๆ ของทั้งฝ่ายสนับสนุนและฝ่ายต่อต้านจะเป็นคนละเรื่องกัน ซึ่งผู้เขียนจะขอตั้งข้อสังเกตในแง่ความจำเป็นความเหมาะสมของโครงการ ผลกระทบต่อชุมชน ตลอดจนประเด็นเรื่องการเมือง และความโปร่งใสดังต่อไปนี้
ประเด็นแรก ในแง่ความจำเป็น หรือความเหมาะสมของโครงการรถไฟโมโนเรลในเมืองพัทยา ซึ่งเหตุผลของโครงการ ก็คือ การสร้างระบบขนส่งสาธารณะเชื่อมโยงพื้นที่ในเขตเทศบาลต่างๆ เพื่อสนับสนุนเรื่องการท่องเที่ยว ซึ่งก็เป็นเหตุผลที่อาจมีความสำคัญ แต่การลงทุนอันมหาศาลในโครงสร้างพื้นฐาน และค่าใช้จ่ายสำหรับการบริหารจัดการระบบโมโนเรล จะมีความเหมาะสมสำหรับเมืองพัทยาหรือไม่ จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องอาศัยผู้เชี่ยวชาญทำการศึกษาอย่างละเอียด ตั้งแต่เรื่องของสภาพการจราจรของเมืองพัทยาว่าเป็นปัญหาจริงหรือไม่ นอกจากนี้ ก็ยังจะต้องศึกษาถึงปริมาณผู้สัญจรของแต่ละและระหว่างพื้นที่ นักท่องเที่ยวมีความต้องการที่จะเดินทางข้ามไปมาระหว่างเทศบาลมากขนาดนั้นจริงหรือไม่ ซึ่งปัจจัยนี้จะสัมพันธ์กับเรื่องรายได้กับรายจ่ายสำหรับการดำเนินการโครงการโมโนเรลนี้ในระยะยาว ตลอดจนความคุ้มค่าในเชิงธุรกิจ เพราะเพียงการเก็บค่าโดยสารนั้นก็ดูเหมือนว่าจะไม่มีหนทางที่จะสร้างความคุ้มทุนได้เลย ดังนั้น จึงจำเป็นต้องมองหาความเป็นไปได้ในการระดมทุนแบบอื่นๆ ในอนาคตด้วย
การอาศัยโครงการรถไฟโมโนเรลในการกระตุ้นตลาดในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของการกำหนดตำแหน่งของสถานีและจุดขึ้นลงสถานีรถไฟ ซึ่งจะส่งผลทำให้ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์มีความเฟื่องฟูเหมือนกับที่เกิดขึ้นในกรุงเทพมหานครได้จริงหรือไม่นั้นก็ยากจะพิสูจน์ เพราะวิถีของเมืองพัทยาและกรุงเทพฯ แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง คนกรุงเทพฯ นั้น ได้รับความทุกข์ทรมานกับสภาพการจราจรติดขัดอย่างวิกฤติมานานหลายทศวรรษ การเกิดขึ้นของรถไฟลอยฟ้า BTS จึงเป็นทางเลือกใหม่ ที่น่าสนสำหรับชาวกรุงเทพฯ ส่วนใหญ่ โครงการรถไฟฟ้าจึงนำมาซึ่งโอกาสของการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ประเภทที่อยู่อาศัยตามแนวเส้นทางของรถไฟฟ้า ซึ่งก็ประสบผลสำเร็จทางการตลาดเป็นอย่างมากในเกือบทุกๆ โครงการ ในขณะที่เมืองพัทยานั้นไม่ได้มีวิกฤติด้านการจราจร จึงยังเป็นที่สงสัยอยู่ว่าคนพัทยาทั้งคนท้องถิ่น นักท่องเที่ยวชาวไทย ตลอดจนนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติมีความจำเป็นหรือความต้องการที่จะครอบครองอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งอยู่ติดหรือใกล้เส้นทางรถไฟโมโนเรลเพื่อเอื้อประโยชน์ในการเดินทางระหว่างเขตเทศบาลใกล้เคียงมากจริงหรือไม่ หรือผู้ที่ต้องการจะครอบครองอสังหาริมทรัพย์ในพัทยาจะอยากอาศัยอยู่ติดชายหาดริมทะเล หรือแม้กระทั่งมองเห็นทะเลแม้แต่ระยะไกลเป็นหลักมากกว่าอยู่ติดเส้นทางรถไฟโมโนเรล
นอกจากประเด็นความคุ้มค่าทางธุรกิจแล้ว การสร้างรถไฟลอยฟ้าโมโนเรล จะสร้างภาพลักษณ์ของเมืองหรือเป็นจุดขายของเมืองพัทยาได้จริงหรือไม่ ก่อนอื่นน่าจะต้องหาทิศทางการพัฒนาของเมืองให้เจอก่อน เมืองพัทยาจะเป็นเมืองอะไร จะเป็นเมืองท่องเที่ยวในแบบธรรมชาติชายทะเลหรือจะเป็นเมืองธุรกิจขนาดใหญ่ เพราะโครงสร้างของรถไฟโมโนเรลจะสร้างภาพลักษณ์ความทันสมัยสำหรับเมืองธุรกิจขนาดใหญ่ แต่โครงสร้างอันอลังการของมันก็จะทำลายทัศนียภาพของเมืองชายหาดในแบบธรรมชาติ ถ้าโมโนเรลจะถูกสร้างเพื่อสนับสนุนเรื่องการท่องเที่ยวเมืองพัทยาแล้ว จำเป็นจะต้องทำการสำรวจว่านักท่องเที่ยวต้องการโดยสารรถไฟฟ้ายกระดับในการชื่นชมทัศนียภาพของเมืองพัทยา หรือจะชอบสัมผัสกับหาดทราย น้ำทะเลทอดวิวไปตามเกาะต่างๆ หรือจะนอนอาบแดดอยู่ริมชายหาดมากกว่า สิ่งเหล่านี้น่าจะต้องทำการศึกษาโดยนักวิชาการและผู้เชี่ยวชาญและนำมาสู่การถกเถียงกันในประชาคมเมืองพัทยาต่อไป
ประเด็นที่สอง เกี่ยวกับผลกระทบต่อชุมชนในมิติต่างๆ นั้น มักจะไม่ได้ถูกกล่าวถึงมากนัก เพราะโครงการรถไฟโมโนเรลได้ถูกสร้างภาพว่าเป็นตัวกระตุ้นเศรษฐกิจของเมือง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในธุรกิจการค้า ในความเป็นจริงแล้วโครงการรถไฟโมโนเรล ก็อาจจะส่งเสริมธุรกิจการท่องเที่ยวอยู่บ้าง แต่ผู้ที่จะได้ประโยชน์ก็มักจะเป็นกลุ่มทุนการค้าขนาดใหญ่ เพราะโครงการประเภทนี้ มักจะมีการกำหนดสถานีไว้ตรงตำแหน่งที่มีศูนย์การค้าเหล่านั้นตั้งอยู่เป็นส่วนใหญ่ ดังนั้น โครงสร้างของโมโนเรลก็จะข้ามผ่านหรือบายพาสธุรกิจการค้าชุมชนที่ตั้งเรียงรายอยู่ด้านล่าง ทำให้การค้าชุมชนถูกทำลายโอกาสทางการค้าไปในแง่มุมหนึ่ง ต่อไปก็อาจจะดำรงอยู่ได้โดยเพียงอาศัยการพึ่งพากันเองในชุมชนเท่านั้น
นอกจากนี้ โครงการโมโนเรลอาจจะบ่อนทำลายอาชีพรถรับจ้างและบริการรถสาธารณะของชุมชน ตั้งแต่กลุ่มมอเตอร์ไซค์รับจ้าง รถสองแถวสาธารณะ ไปจนถึงธุรกิจรถเช่า ซึ่งอาจได้รับผลกระทบกันบ้างมากน้อยต่างกันออกไป
ประเด็นที่สาม คือ ประเด็นทางการเมืองและความโปร่งใส ซึ่งถือเป็นประเด็นที่จะต้องจับตามองมากที่สุด เนื่องจากการนำเสนอโครงการประเภทนี้มักจะมีนัยทางการเมืองเป็นสำคัญทุกครั้ง นัยทางการเมืองในที่นี้หมายถึงผู้กำหนดนโยบาย ซึ่งชอบที่จะอาศัยรูปธรรมของโครงการสำหรับการสื่อประชาสัมพันธ์ผลงานตัวเอง โดยหวังผลคะแนนนิยมทางการเมืองของตนเองเป็นสำคัญ การใช้โครงการขนส่งมวลชนขนาดใหญ่ ย่อมจะได้รับความสนใจมากเป็นพิเศษจากสื่อมวลชน เพราะโครงสร้างอันอลังการของมันจะสามารถสร้างภาพลักษณ์เป็นความสำเร็จของผลงานให้ได้เห็นกันเป็นรูปธรรมจับต้องได้ง่าย ก่อกระแสความนิยมได้อย่างมีประสิทธิภาพ ดังนั้น จึงสังเกตได้ว่าการจัดทำโครงการเหล่านี้มักจะถูกดำเนินการอย่างรีบเร่งมากที่สุด เพื่อให้ทันกับจังหวะเวลาของการเลือกตั้งเป็นสำคัญ
นอกเหนือจากการอาศัยโครงการฯให้เป็นเครื่องมือทางการเมืองแล้ว ยังมีประเด็นใหญ่อย่างที่คนในพื้นที่ได้เคยมีการตั้งข้อสงสัยกันว่าโครงการขนาดใหญ่ประเภทนี้ น่าจะสร้างโอกาสในการแสวงหาส่วนต่างทางเศรษฐกิจเพื่อเป็นปัจจัยสำหรับการต่อสู้ทางการเมืองต่อไปได้อย่างมากมายมหาศาลอีกด้วย ไม่ใช่แต่เพียงผลประโยชน์ตอบแทนจากการให้สัมปทานรับเหมาก่อสร้าง การจัดซื้อจัดจ้างต่างๆ อย่างที่ขบวนการฉ้อราษฎร์บังหลวงแบบดั้งเดิมนิยมทำกันเท่านั้น สำหรับโครงการขนส่งมวลชนแบบรางประเภทนี้ เพียงการกำหนดเส้นทางเดินรถ ตำแหน่งของสถานี ตลอดจนจุดขึ้นลงสถานีก็สามารถสร้างผลตอบแทนให้แก่ผู้มีดำเนินการได้แล้ว เพราะปราศจากฐานข้อมูลในทางวิชาการสนับสนุน ดังนั้น การรับผลประโยชน์ของฝ่ายการเมือง และฝ่ายราชการจากบรรดากลุ่มทุนขนาดใหญ่ เพื่ออาศัยโครงการโมโนเรลของรัฐเพื่อการสาธารณะในการสร้างความได้เปรียบทางธุรกิจในลักษณะนี้ จะตรวจสอบได้ยากมาก
โดยเฉพาะอย่างยิ่งการตั้งข้อสังเกตของภาคประชาชนในเมืองพัทยาเกี่ยวกับการดำเนินงานเกี่ยวกับโครงการโมโนเรลนี้อย่างเร่งรีบโดยองค์การพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (อพท.) ซึ่งเป็นหน่วยงานที่สามารถเสนอของบประมาณได้โดยตรง ทำให้เกิดความระแวงสงสัยถึงการแอบแฝงเกี่ยวกับเรื่องผลประโยชน์ ดังเช่นที่เคยเกิดปัญหาไปแล้วที่เกาะช้าง จังหวัดตราด และโครงการไนท์ซาฟารี ที่จังหวัดเชียงใหม่
ผู้เขียนไม่อยากจะฟันธงว่าโครงการรถไฟโมโนเรลในเมืองพัทยาไม่เหมาะสม เพียงแต่รู้สึกเศร้าใจที่เห็นการพัฒนาของเมืองขนาดใหญ่ในประเทศไทย มักจะเป็นไปโดยผู้กำหนดนโยบายเพียงไม่กี่คนนั่งเทียนเขียนโครงการอันโก้หรู เพื่อเน้นแต่การประชาสัมพันธ์เท่านั้น มักไม่ค่อยจะมีการกำหนดทิศทางในการพัฒนาเมือง ไม่มีการศึกษาและนำเสนอแนวทางโดยผู้ชำนาญการและนักวิชาการเท่าที่ควร และที่สำคัญ ก็คือ ปราศจากการให้ข้อมูลที่เป็นจริง ขาดมีส่วนร่วมของประชาคมเมืองโดยสิ้นเชิง การทำประชาพิจารณ์ก็ไม่เป็นเวทีสาธารณะที่แท้จริง มักจะเป็นเพียงการจัดตั้งเพื่อให้เป็นไปตามกฎหมายบัญญัติไว้เท่านั้น
ถ้าเราจะลองมองย้อนมาดูเมืองของเราในสภาพที่เป็นอยู่ ไม่ว่าจะเป็นเมืองพัทยา หรือกรุงเทพฯ ตลอดจนเมืองใหญ่อื่นๆ จะเห็นว่าแม้แต่กายภาพพื้นฐานอย่างถนน ทางเดินเท้าบนพื้นดินก็ยังไม่สามารถจะจัดสร้างให้มีคุณภาพอย่างที่ควรจะเป็นได้เลย ประชาชนจะต้องทนลำบากกับการเดินบนทางเท้าที่ขรุขระเช่นเดียวกับรถยนต์ที่ต้องวิ่งบนถนนที่เป็นหลุมเป็นบ่อ คนพิการซึ่งใช้รถเข็นไม่มีทางที่จะสัญจรบนทางเท้าในเมืองไทยได้เลย เพราะนอกจากถนนหลายสายไม่มีการจัดทางเท้าแล้ว ถนนสายที่มีทางเท้าส่วนใหญ่สภาพพื้นผิวก็จะไม่เรียบ และไม่มีการจัดทางลาดให้โดยสิ้นเชิง สมควรที่ผู้บริหารเมืองทั้งหลายน่าจะหันมาเอาใจใส่บ้าง
ผู้เขียนเห็นด้วยว่าในการพัฒนาเมืองพัทยานั้น โครงการขนาดใหญ่ย่อมมีความสำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งโครงการเกี่ยวกับบริการสาธารณะ ซึ่งภาครัฐจะต้องเป็นผู้ดำเนินการ แต่ก่อนจะนำเสนออภิมหาโครงการเช่นนี้ ผู้บริหารเมืองพัทยาน่าจะต้องตอบให้ได้ก่อนว่ามีวิสัยทัศน์ที่จะพัฒนาให้เมืองพัทยาเป็นเมืองอะไร เมืองท่องเที่ยวชายทะเลเชิงธรรมชาติ เมืองท่องเที่ยวตากอากาศแบบไมอามี เมืองท่องเที่ยวแบบวันเดอร์แลนด์อย่างลาสเวกัส หรือจะพัฒนาให้เป็นเมืองศูนย์กลางธุรกิจขนาดใหญ่ |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42697
Location: NECTEC
|
Posted: 26/10/2010 11:55 pm Post subject: |
|
|
ระดมพลคนพัทยาร่วมค้าน รถไฟฟ้าโมโนเรล พัทยา
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 26 ตุลาคม 2553 14:42 น.
นางรัตนา อ่องสมบัติ ประชาชนคนพัทยา กล่าวถึงการรวมตัวคัดค้านโครงการรถไฟฟ้าโมโนเรล ในวันพุธที่ 27 ต.ค.53 นี้เวลา 14.00 น. บริเวณสี่แยกใต้สะพานลอย ที่ไปแหลมบาลีฮาย เนื่องจากที่ผ่านมามีประชาชนจำนวนมากออกมาคัดค้านแล้วและไม่เห็นด้วยกับโครงการนี้ แต่ทางคณะผู้บริหารเมืองพัทยา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ยังมีการเคลื่อนไหวเพื่อให้โครงการนี้เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ดังนั้น เพื่อเป็นการแสดงพลังของประชาชนในพื้นที่ เพื่อไม่ต้องการให้โครงการนี้เกิดขึ้นเป็นรูปธรรม จึงขอเชิญชวนประชาชนออกมารวมตัวครั้งนี้ให้เป็นจำนวนมาก โดยเห็นว่าประชาชนส่วนใหญ่ไม่ต้องการให้โครงการนี้เกิดขึ้น
ในความเป็นจริงแล้วโครงการรถไฟฟ้าโมโนเรล ยังไม่สมควรเกิดขึ้นที่เมืองพัทยา เพราะหากเกิดขึ้นแล้ว 1.จะไปบดบังทัศนียภาพความเป็นเมืองตากอากาศแบบธรรมชาติ, เสียภูมิทัศน์ 2.มลพิษฝุ่นละออง ที่จะเกิดขึ้นในระหว่างการก่อสร้าง ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อประชาชนและนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางมาท่องเที่ยวและพักผ่อน
นางรัตนากล่าวต่อไปว่า นอกจากนั้นตอม่อทางขึ้น-ลงอยู่บริเวณบ้านใคร บ้านหลังนั้นจะทำอะไรไม่ได้เลย ที่สำคัญเสียงเครื่องจักรในการก่อสร้างจะส่งเสียงรบกวนสร้างความรำคาญต่อประชาชนอย่างมาก และโครงการนี้จะต้องใช้ระยะเวลาการก่อสร้างนานถึง 3 ปี และในช่วงนี้หากไม่มีนักท่องเที่ยวเข้ามาท่องเที่ยวและพักผ่อนใครจะรับผิดชอบ เพราะผู้ประกอบการทุกๆ ด้านจะได้รับผลกระทบ เช่น พ่อค้า แม่ค้า มอเตอร์ไซค์รับจ้าง สปา บาร์ ร้านอาหาร ฯลฯ |
|
Back to top |
|
|
yuktanan
3rd Class Pass
Joined: 06/10/2010 Posts: 95
|
Posted: 28/10/2010 1:59 pm Post subject: |
|
|
พวกที่ออกมาต่อต้าน ก็พวกที่คอยหารายได้จากผู้โดยสาร ออกนอกเส้นทางหน่อยก็ ไม่ยอมกดมิเตอร์ ให้เหมาอย่างเดียว
Last edited by yuktanan on 28/10/2010 4:09 pm; edited 2 times in total |
|
Back to top |
|
|
black_express
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/03/2006 Posts: 10060
Location: อุตรดิตถ์ - กรุงเทพฯ
|
Posted: 28/10/2010 3:39 pm Post subject: |
|
|
^
^
ไม่เข้าใจความหมายครับ ? ...ให้เหมาะอย่างเดียว... |
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 44497
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 28/10/2010 4:01 pm Post subject: |
|
|
คุณ yuktanan พิมพ์กระทู้ พยายามตรวจสอบสะกดการันต์หน่อยครับ เพื่ออนุรักษ์ภาษาไทยครับ
ให้"เหมา"อย่างเดียวครับ |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42697
Location: NECTEC
|
Posted: 03/11/2010 10:39 pm Post subject: |
|
|
นายกเมืองพัทยายันทำโครงการรถไฟฟ้าด้วยความโปร่งใส
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 3 พฤศจิกายน 2553 11:35 น.
นายอิทธิพล คุณปลื้ม นายกเมืองพัทยา เปิดเผยว่า สำหรับโครงการรถไฟฟ้ารางเดี่ยว หรือโมโนเรล เป็นนโยบายที่ทางเมืองพัทยาได้ดำเนินการเพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาจราจรซึ่งดำเนินการควบคู่กันไปทั้งในเรื่องของการกวดขันวินัยจราจร การทาสีตีเส้น การสำรวจพื้นที่ที่ห้ามจอด และการลดจุดตัดทางแยก
โดยในส่วนของโครงการระบบขนส่งระบบราง หรือรถไฟฟ้าที่ได้ดำเนินการไปนั้นเป็นการ ศึกษาความเหมาะสมเบื้องต้น ซึ่งเป็นขั้นตอนของทางราชการที่จะต้องดำเนินการศึกษาว่ามีความเหมาะสมแค่ไหน เส้นทางควรจะเป็นอย่างไร ซึ่งขั้นตอนนี้เมืองพัทยาก็ได้ว่าจ้างบริษัทที่ปรึกษาเข้ามาดำเนินการและได้ทำการศึกษาเบื้องต้นเสร็จสิ้นไปแล้วซึ่งก็พบว่ามีทั้งข้อดีและข้อเสีย
ในส่วนของการแสดงความคิดเห็นก็เป็นเรื่องปกติเมืองพัทยาเองก็เปิดรับความคิดเห็นอย่างเต็มที่ ก็มีความเคลื่อนไหวของประชาชนที่อาจจะมีความกังวลว่าอาจจะเป็นการบดบังทัศนียภาพหรืออาจจะกลัวเรื่องสิ่งแวดล้อมเป็นต้น ซึ่งก็ต้องขอแจ้งว่าตรงนี้เป็นแค่การศึกษาความเหมาะสมเบื้องต้นเท่านั้น และก็ต้องทำประชาพิจารณ์ซึ่งก็จะเป็นการสอบถามประชาชนที่อยู่ในเมืองพัทยาและก็ในส่วนของผู้ที่ได้รับผลกระทบ ผลดี-ผลเสียทั้งหมดอีกหลายครั้ง ไม่ได้ฟันธงว่าถ้ามีผู้เห็นด้วยมากกว่าผู้ไม่เห็นด้วยในการศึกษาครั้งนี้แล้วเมืองพัทยาจะดำเนินการลงมือก่อสร้าง ถือว่าขบวนการดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของการศึกษาเบื้องต้น
ส่วนระยะเวลาในการศึกษารายละเอียดต่างๆ อาจต้องใช้เวลาอย่างเร็วที่สุดประมาณ 8 เดือน หรืออย่างช้าเคยทำกันมาถึง 2 ปี จึงขอให้สบายใจได้ว่าเราจะไม่ดำเนินการใดๆโดยพละการ เพราะหากประชาชนยังมีข้อสงสัยอยู่เราก็จะไม่ดำเนินการ เพื่อป้องกันการเข้าใจผิดหรือความขัดแย้งแตกแยกซึ่งในเมืองพัทยาเราไม่อยากให้เกิดบรรยากาศเหล่านี้ ซึ่งการจะติดป้ายประท้วงหรือล่ารายชื่อต่างๆ สิ่งเหล่านี้จะทำให้บรรยากาศการท่องเที่ยวเสียหายได้ |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42697
Location: NECTEC
|
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 44497
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 10/01/2011 1:20 am Post subject: |
|
|
การทำโครงการขนาดใหญ่ในชุมชนจะเกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมแน่นอน
คมชัดลึก 10 ม.ค. 54
โครงการก่อสร้างรถไฟฟ้ารางเดี่ยว (รถไฟฟ้าโมโนเรล) ยังคงเป็นประเด็นที่ถกเถียง ในกลุ่มผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยว และประชาชนในพื้นที่ โครงการนี้มีที่มาจาก อิทธิพล คุณปลื้ม นายกเมืองพัทยา จ.ชลบุรี ที่มีนโยบายแก้ไขปัญหาด้านจราจรในพื้นที่ โดยเห็นว่า หากแก้ไขได้จะส่งผลดีต่อภาพลักษณ์ด้านการท่องเที่ยวของเมืองพัทยา เพราะการมีเครือข่ายเชื่อมโยงการขนส่งที่ได้มาตรฐานสูง ทั้งนี้คาดว่าจะต้องใช้งบประมาณเพื่อการนี้กว่า 4,000 ล้านบาท อย่างไรก็ดียังมีมุมมมองอีกด้านที่ไม่เห็นด้วยกับแผนงานในส่วนนี้ โดยตั้งข้อสังเกตถึงปัญหาสิ่งแวดล้อม และความคุ้มค่ากับงบประมาณลงทุน ท่าทีดังกล่าวนี้รวมไปถึง พจนารถ แก้วผลึก ส.ส.ชลบุรี พรรคประชาธิปัตย์ ที่สะท้อนความเห็นในเรื่องนี้
มองอย่างไรกับโครงการรถไฟฟ้ารางเดี่ยวเมืองพัทยา
พจนารถ : ความรู้สึกส่วนตัวแล้วไม่เห็นด้วยแน่นอน และเท่าที่สัมผัสความรู้สึกของประชาชนก็สะท้อนออกมาว่า ด้วยงบประมาณลงทุนที่สูง ซึ่งมาจากภาษีประชาชน ควรจะเอาไปทำอะไรให้เกิดประโยชน์มากกว่านี้ เมืองพัทยาน่าจะเอางบประมาณอันนี้ มาดูแลคุณภาพชีวิตประชาชน ขณะนี้คุณภาพการศึกษาของเยาวชนนับว่าน่าเป็นห่วงมาก เป็นไปได้ไหมที่จะเอางบลงทุนในโครงการนี้มาทำในสิ่งที่จะเป็นประโยชน์มากกว่า
ความจำเป็นกับการมีระบบขนส่งที่ได้มาตรฐาน
พจนารถ : พัทยาเป็นเมืองท่องเที่ยวมีสิ่งแวดล้อมที่สวยงาม น่าจะรักษาคุณสมบัติในส่วนนี้เอาไว้ หากเมืองพัทยาไปทำรถไฟฟ้าขึ้น ลองนึกถึงสภาพแล้วกันว่าจะมีผลกระทบต่อธรรมชาติอย่างไรบ้าง ทั้งเสา หรือตอม่อก็จะขึ้นเต็มไปหมด การที่จะทำโครงการขนาดใหญ่ในชุมชน จะเกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอย่างแน่นอน สิ่งที่เมืองพัทยาควรดำเนินการแก้ไขและให้ความสำคัญก็คือ ปัญหาน้ำท่วม โดยเฉพาะปัญหาน้ำท่วมในเขตเมือง ปัญหาเหล่านี้ควรได้รับการแก้ไขเป็นอันดับต้นๆ
เท่าที่ได้รับเสียงสะท้อนจากผู้ที่ไม่เห็นด้วยออกมาในรูปใด
พจนารถ : ที่ชัดเจนก็คือสถานีจอดจะไปอยู่ที่ห้างสรรพสินค้า คำถามก็คือ คนทั่วไปจะได้อะไรบ้าง แต่ถ้าเป็นโครงการรถไฟความเร็วสูง เชื่อมจากกรุงเทพฯ สนามบินสุวรรณภูมิ มาที่ ชลบุรี พัทยา ระยอง โครงการอย่างนี้เมืองพัทยาควรทำ แม้ต้องใช้งบประมาณภาษีอากรก็ควรทำ เพราะเป็นการรับนักท่องเที่ยวมายังพื้นที่โดยตรง ไม่ใช่ทำรถไฟฟ้าขึ้นมาเพียงแค่ระยะทาง 5 กิโลเมตร ที่ไม่ได้เอื้อประโยชน์ต่อประชาชนในท้องถิ่นโดยตรง เมื่อประชาชนทราบว่าเมืองพัทยากำลังเดินหน้าจะทำโครงการนี้ให้ได้ ก็ยิ่งทำให้เกิดความรู้สึกต่อต้าน ได้นำตัวแทนประชาชนเข้าพบกับนายกรัฐมนตรี เพื่อสะท้อนท่าทีในเรื่องนี้ และนายกรัฐมนตรีก็ได้ประสานมาที่เมืองพัทยา เพื่อขอให้ดูรายละเอียดในเรื่องนี้
งบประมาณเมืองพัทยา และงบประมาณขององค์การบริหารส่วนจังหวัด ( อบจ.) ชลบุรี มีเป็นจำนวนมากควรใช้ให้เกิดประโยชน์มากที่สุด
ข้อเสนอแนะต่อผู้บริหารเมืองพัทยา
พจนารถ - สิ่งที่ผู้บริหารเมืองพัทยาควรตระหนักก็คือ อะไรที่คิดจะทำแล้ว ถ้าหากประชาชนเห็นด้วยก็ควรทำ แต่ถ้าอันไหนที่ประชาชนไม่เห็นด้วยก็ควรจะฟังเสียงจากประชาชนให้มาก อย่างเช่น ปัญหาเรื่องรถสองแถวไม่เป็นระเบียบ รถจักรยานยนต์รับจ้างเก็บค่าโดยสารแพงเกินความจริงอย่างนี้ ป้ายรถประจำทาง เมืองพัทยาก็ยังไม่มี กลับมีแต่ป้ายโฆษณากลางเกาะถนนเต็มไปหมดเสียอีก ซึ่งเมืองพัทยาควรเข้าไปจัดระเบียบสิ่งเหล่านี้ให้ได้เสียก่อน ณ วันนี้ นโยบายของฝ่ายบริหารมีประชาชนต่อต้าน ดังนั้นควรจะคิดริเริ่มใหม่ อยากให้ทบทวนว่า การนำโครงการขนาดใหญ่มาลงที่เมืองพัทยานั้น สิ่งไหนที่มีประโยชน์ต่อประชาชนอย่างแท้จริงก็ควรทำ แต่ถ้าสิ่งไหนทำแล้วไม่เกิดประโยชน์ก็ควรที่จะหยุด และควรหันมามองในเรื่องคุณภาพชีวิตของประชาชน มากกว่าที่จะมุ่งเน้นไปที่เรื่องของวัตถุ
บายไลน์ คัมภีร์ อาบสุวรรณ์ - ศุภกร อรรคนันท์ |
|
Back to top |
|
|
|