View previous topic :: View next topic |
Author |
Message |
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42744
Location: NECTEC
|
Posted: 28/02/2011 2:26 pm Post subject: |
|
|
^^
ถ้ามีรถสองแถวเดินจาก ตัวเมืองอุบลมาที่ วิทยาลัยเทคนิควารินทร์ก็ไม่มีปัญหาแน่ |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42744
Location: NECTEC
|
Posted: 08/03/2011 12:21 am Post subject: |
|
|
เร่งรถไฟทางคู่เชื่อมสปป.ลาว
เขียนโดย กอง บก.ฐานเศรษฐกิจ
หน้า อสังหา Real Estate - อสังหาฯ-คมนาคม
ออนไลน์เมื่อ วันศุกร์ที่ 04 มีนาคม 2011 เวลา 11:33 น.
ตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจฉบับที่ 2,615 6-9 มีนาคม พ.ศ. 2554
สนข.เล็งของบปี 55 ศึกษา-ออกแบบก่อสร้าง ขยายโครงข่ายรถไฟทางคู่เส้นทาง อ.วารินชำราบ-อุบลราชธานี-ช่องเม็ก ระยะทาง 80 กิโลเมตร ต่อเชื่อมสปป.ลาว รับการเปิดเขตเสรีการค้าอาเซียน
นางสร้อยทิพย์ ไตรสุทธิ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) เปิดเผย "ฐานเศรษฐกิจ"ว่า เตรียมขอรับการสนับสนุนงบประมาณจากรัฐบาลตามแผนปฏิบัติการในปี 2555 ที่กระทรวงคมนาคมจะเร่งขยายโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่เพิ่ม โดยสนข.อยู่ระหว่างการจัดทำแผนงบประมาณปี 2555 จำนวน 85 ล้านบาท เพื่อนำไปใช้ศึกษาความเหมาะสม และออกแบบก่อสร้างรวมถึงการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อม เส้นทางรถไฟทางคู่จากอำเภอวารินชำราบ ไปยังตัวจังหวัดอุบลราชธานี และให้เชื่อมต่อไปยังด่านช่องเม็กที่สามารถเชื่อมชายแดนสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว)ได้
ปัจจุบันเส้นทางรถไฟทางคู่ที่ต่อเชื่อมไปยังชายแดนช่องเม็กที่ติดต่อกับชายแดนสปป.ลาวยังไม่มี จะไปสิ้นสุดแค่อำเภอวารินชำราบเท่านั้น จึงต้องเร่งรัดการก่อสร้างทางคู่และขยายโครงข่ายไปทางภาคอีสานเพิ่มขึ้น เพื่อรองรับการขนส่งผู้โดยสารและขนส่งสินค้าที่แต่ละปีคิดเป็นมูลค่าสูงกว่า 5,500 ล้านบาท สินค้าส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มน้ำมันดีเซล เหล็กกล้า และส่วนประกอบรถยนต์ โดยโครงการนี้มีระยะทางประมาณ 80 กิโลเมตร มูลค่าการก่อสร้างประมาณ 10,000 ล้านบาท
"สนข.จึงเห็นว่าควรที่จะมีการก่อสร้างรถไฟทางคู่ในเส้นทางดังกล่าวโดยเร็ว เพื่อขยายเส้นทางรถไฟรองรับการค้าชายแดน และยังถือเป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการเดินทางของประชาชน โดยเฉพาะในปี 2558 ที่จะเปิดเขตการค้าเสรีอาเซียนขึ้นในภูมิภาคนี้ คาดว่าจะนำเสนอแผนไปยังกระทรวงคมนาคม สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สศช.) และคณะรัฐมนตรี(ครม.)ได้เร็วๆนี้"
นางสร้อยทิพย์ กล่าวอีกว่า ในปี 2554 ได้เร่งดำเนินการสรุปผลการศึกษาและออกแบบเบื้องต้นและผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมเบื้องต้นระบบรถไฟทางคู่ 5 เส้นทางโดยจะส่งผลให้ภายในปี 2558 ประเทศไทยจะมีทางรถไฟเพิ่มขึ้นอีกเกือบ 1,000 กิโลเมตรจากปัจจุบันมีทางรถไฟประมาณ 4,000 กิโลเมตรและตามที่คณะรัฐมนตรี(ครม.)มีมติเมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน 2552 เห็นชอบแผนพัฒนารถไฟทางคู่ 5 เส้นทางระยะเร่งด่วน (2553-2557) ระยะทาง 767 กิโลเมตร วงเงิน 66,100 ล้านบาทประกอบด้วย
1.ลพบุรี-ปากน้ำโพ ระยะทาง 118 กิโลเมตร วงเงิน 7,860 ล้านบาท
2.มาบกะเบา -ชุมทางถนนจิระ ระยะทาง 132 กิโลเมตร วงเงิน 11,640 ล้านบาท
3.ชุมทางถนนจิระ- ขอนแก่น ระยะทาง 185กิโลเมตร วงเงิน 13,000 ล้านบาท
4.นครปฐม-ชุมทางหนองปลาดุก ระยะทาง 165 กิโลเมตร วงเงิน 16,600 ล้านบาท และ
5. ประจวบศีรีขันธ์-ชุมพร ระยะทาง 167 กิโลเมตร วงเงิน 17,000 ล้านบาท
ส่วนความคืบหน้าทั้ง 5 เส้นทาง ขณะนี้ สนข.อยู่ระหว่างการศึกษาและออกแบบเบื้องต้น การศึกษาผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมเบื้องต้น ระบบรถไฟทางคู่ 3 เส้นทางเร่งด่วนระยะทางรวม 415 กิโลเมตร ประกอบด้วย
1. ช่วง มาบกะเบา - ชุมทางถนนจิระ,
2. ช่วงลพบุรี - ปากน้ำโพ,
3. ช่วงนครปฐม - ชุมทางหนองปลาดุก - หัวหิน
ส่วนอีก 2 เส้นทางคือ ช่วงชุมทางถนนจิระ - ขอนแก่น วงเงินประมาณ 150 ล้านบาท และช่วงประจวบคีรีขันธ์ - ชุมพร วงเงินประมาณ 164 ล้านบาท คาดว่ากระทรวงคมนาคมจะเห็นชอบให้เปิดขายซองประกวดราคาก่อสร้างได้ในช่วงปลายปี 2554 |
|
Back to top |
|
|
nutsiwat
2nd Class Pass
Joined: 03/03/2011 Posts: 684
Location: สถานีเรณูนคร
|
Posted: 08/03/2011 9:52 am Post subject: |
|
|
อยากจะให้ทางรถไฟของเรามีรางคู่ทั่วทั้งประเทศ แต่ในตอนนี้ก็ค่อย ๆ ขยายที่ละส่วนไปก่อน ผมอยากจะเห็นทางรถไฟสายนี้ เป็นเส้นทางรถไฟลอยน้ำเหมือนแบบสายแก่งคอย - บัวใหญ่ จัง อย่างน้อย ๆ ก้อขอเป็นเส้นทางรถไฟลอยน้ำสัก 1 - 2 กิโลเมตร ก็ดีนะครับ จะได้มีการบูมการท่องเที่ยวสายนี้ด้วยนะครับ และอีกอย่างเส้นทางจะได้ไม่อ้อมอ่างเก็บน้ำมาก เป็นการร่นระยะทางและเวลาด้วยนะครับ |
|
Back to top |
|
|
Bogieman
3rd Class Pass
Joined: 02/07/2009 Posts: 104
Location: สายอีสานใต้
|
Posted: 08/03/2011 1:39 pm Post subject: |
|
|
bigbigtee wrote: | Wisarut wrote: | ^^^
หลังจากการตรวจสอบโดยละเอียดแล้ว พบว่า สถานีอุบลราชธานีแห่งใหม่ จะอยู่ไม่ไกลจาก วิทยาลัยการอาชีพวารินชำราบ ถนนวารินกันทรลักษณ์ (ทางหลวง 2085) หมู่ 7 ตำบลแสนสุุข อำเภอ วารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี - ไกลจาก ตัวเมือง วารินชำราบ 7 กิโลเมตร และ ไกลจาก ตัวเมือง อุบลราชธานี 10 กิโลเมตร ... ข้อนี้น่าคิด แฮะ เพราะ พอไปสำรวจตอนบน ตั้งแต่ กุดปลาขาว กุดศรีมังคละ แล้ว ถึงได้รู้ว่า เขาต้องการลดต้นทุนโดยไม่ต้องผ่านบึงและที่ลุ่มเหล่านั้น
พ้นจากถนนวารินกันทรลักษณ์ (ทางหลวง 2085) ก็เป็น ถนนเดชอุดม (ทางหลวง 24), ถนน สถลมารค (ทางไป อบต. แสนสุข) ถนน อุบล ตระการพืชผล (ทางหลวง 231), และ ตัดกับ ทางหลวงชนบทอีกหลายสาย จนมาถึง บริเวณที่จะเป็น สถานีสว่างวีรวงศ์ ที่ บ่้านโดนเต่าเต็ก - วัดโคกสมบูรณ์ บนทางหลวงชนบท 3050 ก้อนจะตัดกับ บนทางหลวงชนบท 3050 เป็นคำรบ 2 ที่ ตำบลแก่งโดม และ ตัดถัีบ ถนน สถิตย์นิมานการ (ทางหลวง 217) แถว บ้านโนนเจริญ (ไม่ไกลจากโรงสีทวีโชค) - ห่างจาก พิบูลมังสาหาร 7-8 กิโลเมตร จากนั้นต้องสร้างสะพาน ฃ้ามคลอง แถว บ้านกุดชมพู ส่วนที่ตั้งที่เหมาะสมที่สุด สำหรับสถานีสิรินธรเห็นจะได้แก่ แถววัดกว้าง ก่อนข้าม ห้วยกว้าง เพราะ มีถนน ดินลูกรังไปบ้านหินลาด ที่พอจะ ยกระดับ ให้เป็นถนนคอนกรีต ได้
จากนั้นจึงข้ามห้วยกว้าง ลำโดมน้อย ทางหลวง 2173 ค่อยลงตรงช่องเม็ก ในแผนที่ผ่าไปอยู่ทางเหือ ช่องเม็ก 10 กิโลเมตร - ไกลไป - น่าจะลงมาอีก |
ทำไม สถานีรถไฟอุบลราชธานีแห่งใหม่ ถึงอยู่ไกลจากบ้านผมจังแฮะ ทุกวันนี้บ้านผมที่วารินฯ อยู่ห่างจากสถานีรถไฟเพียง 1 กม. เท่านั้นเอง ถ้าได้ย้ายไปจริงกลัวจะได้เสียค่ารถโดยสารเพิ่มขึ้นน่ะสิ |
ถนนวารินชำราบ-หนองงูเหลือม สาย 2178 รึป่าวครับ ไม่ใช่ 2085 ถ้าทางหลวง 2085 จะเป็นสาย กันทรารมย์-กันทรลักษ์ ส่วนเรื่องรถโดยสาร ก็มีรถสายอุบล-กันทรลักษ์ ซึ่งออกทุกๆ 30 นาที ผ่านตลอดอยู่แล้ว กับสองแถวสายอะไรก็ไม่รู้ สีชมพู ที่ไปทางวัดหนองป่าพง โดยรวมแล้วก็ถือว่า เดินทางไม่ยากเท่าไรครับ กับสถานีอุบลราชธานี(ใหม่) แห่งนี้ _________________ I LOVE ROTFAITHAI |
|
Back to top |
|
|
srinopkun
1st Class Pass (Air)
Joined: 08/04/2010 Posts: 2877
Location: นครปฐม
|
Posted: 08/03/2011 1:41 pm Post subject: |
|
|
ระยะทางถนนจากอุบลไปด่านช่องเม็ก 85 กม.
ถ้ามองในจุดนี้ อืม ..... เป็นไปได้ ระยะทางไม่ไกล ใช้งบไม่มาก
แต่ .......
ตัดไปช่องเม็กทำไมล่ะ ? ไปขนส่งสินค้า, ขนส่งคน หรือทั้งสองอย่าง
..... หรือไม่ใช่ทั้งสองอย่าง
ด่านชายแดนช่องเม็กทุกวันนี้ ปริมาณการขนส่งคน - สินค้า ยังไม่มากพอที่การลงทุนระบบรางจะสามารถคุ้มค่าการลงทุนได้เลย
(ที่ด่านช่องเม็ก แม้จะมีโกดังสินค้า แต่ก็ดูเล็กน้อยซะเหลือเกิน)
อีกทั้งทาง สปป.ลาวเองจะเริ่มโครงการการรถไฟจริงจังได้ตามที่แจ้งหรือเปล่าไม่รู้
(ดูอย่้างสถานีท่านาแล้งสิ .... เงียบเหงาทุกครั้งที่ไปเยือน เฮ้อ ....)
รอให้ทางโน้นเค้าถมดินทำคันทางมาถึงวังเต่าซะก่อน เราค่อยถมดิน อัดหิน วางรางไปหายังได้
(ปากเซ - วังเต่า 45 กม. / อุบล - ช่องเม็ก 85 กม.)
ถนนเส้นใหม่ ลัดจากปากเซไปจำปาสัก ยังไม่รู้ว่าปี 2554 เนี่ย จะได้วิ่งหรือเปล่าเลย
ผมไปเรื่อยแหละ ฝั่งโน้นน่ะ
ข้ามด่านทุกด่านชายแดนแล้ว
ฮิ ฮิ |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42744
Location: NECTEC
|
Posted: 08/03/2011 3:56 pm Post subject: |
|
|
^^^
นั่นแหละ อาการของโรค The Field of Dream Syndrome => built & They'll come. |
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 44620
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 08/03/2011 5:37 pm Post subject: |
|
|
The Field of Dream Syndrome ที่ว่านี้
เห็นได้ชัดมาก กับท่าเรือต่าง ๆ ที่สร้างขึ้นในยุคหนึ่ง
และที่จะสร้างในยุคต่อไปครับ
นอกจากแหลมฉบังกับคลองเตยแล้ว ยังไม่เห็นท่าเรือไหนใช้งานได้จริงเลยครับ |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42744
Location: NECTEC
|
Posted: 19/04/2011 11:59 am Post subject: |
|
|
สนข.เล็งขอ700ล.จ้างทำแผนโครงข่ายฯ
โดย กอง บก.ฐานเศรษฐกิจ
หน้า อสังหาฯ Real Estate
ออนไลน์เมื่อ วันอังคารที่ 12 เมษายน 2011 เวลา 11:34 น.
ตีพิมพ์ใน หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจฉบับที่ 2,627 17-20 เมษายน พ.ศ. 2554
พีระพล ถาวรสุภเจริญสนข.ชงของบปี 2555 กว่า 700 ล้านบาท จ้างศึกษาและจัดทำแผนแม่บทโครงข่ายคมนาคมทั้งในพื้นที่กทม.และต่างจังหวัด จับตางบรถไฟรางคู่ 2 เส้นทางมูลค่ากว่า 150 ล้านบาท ส่วนเส้นทางรถไฟอุบลราชธานี-ช่องเม็กมีลุ้นขอรับงบ 15 ล้านบาทเพื่อการศึกษา ด้านภาพรวมงบประมาณปี 2555 คาดว่าจะได้รับมากกว่าปี 2554 ส่วนใหญ่เป็นงบผูกพันปี 2554-2556
แหล่งข่าวระดับสูงจากสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร(สนข.) เปิดเผย "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า ได้เตรียมนำเสนอของบประมาณปี 2555 ภายใต้กรอบวงเงินจำนวน 757 ล้านบาท เพื่อเป็นค่าจ้างศึกษาและพัฒนาระบบโครงข่ายคมนาคมในพื้นที่กรุงเทพมหานคร(กทม.)-ปริมณฑลและต่างจังหวัด คาดว่าจะได้รับประมาณ 451 ล้านบาท ส่วนในปี 2554 ที่ผ่านมาได้รับอนุมัติงบเพียง 408 ล้านบาท โดยจัดเป็นงบว่าจ้างที่ปรึกษาสูงถึง 272 ล้านบาท
"ในปีนี้ส่วนใหญ่ยังเป็นงบผูกพัน ทั้งของหน่วยงานกรมทางหลวง กรมทางหลวงชนบท กรมการบินพลเรือน การรถไฟฯ เป็นต้น โดยคาดว่าจะใช้งบว่าจ้างที่ปรึกษาประมาณ 316 ล้านบาท ซึ่งการเร่งพัฒนาเพื่อรองรับการเปิดเสรีอาเซียน จึงต้องเร่งบูรณาการในทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องไปพร้อม ๆ กัน โดยเฉพาะการแก้ไขปัญหาจราจรในเมืองใหญ่ การใช้เทคโนโลยี ตลอดจนการปฏิบัติตามกฎการใช้คาร์บอนคาร์บิเนต ซึ่งตามนโยบายของผู้บริหาร สนข.เมื่อหน่วยงานนั้น ๆ มีความเข้มแข็งก็จะปล่อยให้ปฏิบัติงานด้วยตนเอง เช่น การก่อตั้งสำนักงานพัฒนาระบบตั๋วร่วมที่อยู่ระหว่างการผลักดันหากสามารถยืนหยัดอยู่ได้ก็จะไปริเริ่มดำเนินการในส่วนอื่นต่อไป"
ด้านนายพีระพล ถาวรสุภเจริญ ผู้อำนวยการสำนักแผนงาน สนข.กล่าวว่า การใช้งบประมาณปี 2555 ของสนข.นั้นมี 3 ส่วนหลักๆ คือค่าวัสดุครุภัณฑ์ ค่าที่ดินและสิ่งก่อสร้าง และค่าจ้างที่ปรึกษา โดยเฉพาะงบประมาณเพื่อการจ้างที่ปรึกษานั้นพบว่าปี 2555 มีจำนวนมากถึง 316,788,800 บาท โดยโครงการที่น่าสนใจได้แก่งบเพื่อการศึกษาระบบรถไฟทางคู่ 2 เส้นทาง และการออกแบบทางรถไฟสายใหม่ในพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานี การบูรณาการโครงข่ายถนน สะพานข้ามแม่น้ำพื้นที่กทม.-ปริมณฑล ค่าพัฒนาระบบการเดินทางเชื่อมต่อบริเวณศูนย์คมนาคมพหลโยธิน
สำหรับรายละเอียดตามแผนงานสนข.ปี 2555 ประกอบไปด้วย
1.ค่าจ้างศึกษาและจัดทำแผนแม่บทบูรณาการด้านการจัดระบบการจราจรในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล 28 ล้านบาท
2.ค่าจ้างศึกษาและพัฒนาเส้นทางอัจฉริยะเข้า-ออกกรุงเทพมหานคร(ITC) และการปรับปรุง บำรุงรักษา ระบบบูรณาการข้อมูลด้านการจราจรและขนส่งอัจฉริยะ 37 ล้านบาท
3.ค่าจ้างศึกษาแก้ไขปัญหาการจัดการจราจรระยะสั้นเร่งด่วนแบบเบ็ดเสร็จในพื้นที่จังหวัดชลบุรี ขอนแก่น และนครราชสีมา 15 ล้านบาท
4. ค่าจ้างศึกษาและออกแบบทางรถไฟสายใหม่ เส้นทางอุบลราชธานี-ช่องเม็ก 71 ล้านบาท
5. ค่าจ้างศึกษาการเชื่อมต่อการเดินทางของผู้โดยสารจากระบบขนส่งมวลชนบริเวณคูคต 3 ล้านบาท
6. ค่าจ้างศึกษาประเมินศักยภาพและการเตรียมความพร้อมด้านโครงสร้างพื้นฐานและบริการระบบขนส่งของไทยสำหรับการเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน 13 ล้านบาท
7. ค่าจ้างศึกษาพัฒนาระบบการเชื่อมต่อการเดินทางบริเวณศูนย์คมนาคมพหลโยธิน 15 ล้านบาท
8. ค่าจ้างศึกษาจัดทำแผนเร่งด่วนในการปรับปรุงเบ็ดเสร็จบนถนนสายหลัก 9 ล้านบาท
9.ค่าจ้างศึกษาสำรวจการจัดทำฐานข้อมูลเพื่อพัฒนาระบบโครงข่ายด้านขนส่งและจราจรในเขตพื้นที่กลุ่มยุทธศาสตร์ชายแดนจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ตอนบน 1(จ.อุดรธานี หนองบัวลำภู หนองคาย และเลย) 9 ล้านบาท
10.ค่าจ้างศึกษาพัฒนาปรับปรุง บำรุงรักษาฐานข้อมูลข้อสนเทศและแบบจำลองเพื่อบูรณาการขนส่งและจราจร การขนส่งต่อเนื่องหลายรูปแบบและระบบโลจิสติกส์ 15 ล้านบาท
11. ค่าจ้างศึกษาจัดทำแผนแม่บทการพัฒนาและบูรณาการโครงข่ายถนน สะพานข้ามแม่น้ำและการจราจรในเขตกรุงเทพมหานคร-ปริมณฑล 10 ล้านบาท
12. ค่าจ้างศึกษาการพัฒนาปรับปรุงรักษาศูนย์เทคโนโลยีและการสื่อสารเพื่อการบูรณาการข้อมูลด้านการจราจรและขนส่งอัจฉริยะ การจัดทำแผนแม่บทการพัฒนาระบบการจราจรและขนส่งอัจฉริยะปี 2555-2560 จำนวน13 ล้านบาท
13.ค่าจ้างศึกษาความเหมาะสมและออกแบบระบบรถไฟทางคู่เพื่อการขนส่งและการจัดการโลจิสติกส์(ระยะเร่งด่วน ช่วงชุมทางจิระ-ขอนแก่น) 84 ล้านบาท
14. ค่าจ้างศึกษาความเหมาะสมและออกแบบระบบรถไฟทางคู่เพื่อการขนส่งและการจัดการโลจิสติกส์(ระยะเร่งด่วน ช่วงประจวบคีรีขันธ์-ชุมพร) 76 ล้านบาท
15. ค่าจ้างศึกษาสำรวจการจัดทำฐานข้อมูลเพื่อพัฒนาระบบโครงข่ายด้านการขนส่งและจราจรในเขตพื้นที่กลุ่มยุทธศาสตร์ชายแดนจังหวัดภาคเหนือตอนบน 2(จังหวัดเชียงราย พะเยา แพร่ และน่าน) 5 ล้านบาท
16. ค่าจ้างศึกษาพัฒนาห่วงโซ่คุณค่าในเส้นทางการขนส่งโลจิสติกส์ในแนวระเบียงเศรษฐกิจเหนือ-ใต้ และตะวันออก-ตะวันตก ระหว่างประเทศไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน 9 ล้านบาท
17. ค่าจ้างศึกษาเพื่อจัดทำแผนแม่บทในการพัฒนาระบบการขนส่งที่ยั่งยืนและลดปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และ
18. ค่าจ้างศึกษาและพัฒนาระบบงานบริหารสำนักงานอัตโนมัติของ สนข. 3 ล้านบาท |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42744
Location: NECTEC
|
Posted: 22/08/2011 10:55 am Post subject: |
|
|
'ชัจจ์' ดันรถไฟเข้าเขมร-สปป.ลาว
โดย กอง บก.ฐานเศรษฐกิจ
หน้า อสังหา Real Estate - อสังหาฯ Real Estate
ออนไลน์เมื่อ วันศุกร์ที่ 19 สิงหาคม 2011 เวลา 12:49 น.
ตีพิมพ์ใน หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจฉบับที่ 2,663 21- 24 สิงหาคม พ.ศ. 2554
"ชัจจ์" หนุนรถไฟทางคู่เชื่อมชายแดนกัมพูชา-สปป.ลาว ขนาดรางมาตรฐาน 1.435 เมตรให้สอดรับกับระบบรางประเทศเพื่อนบ้าน เล็งเลิกรางขนาด 1 เมตรทีละโซน ส่วนสนข.เตรียมเสนอของบปี 2555 จำนวน 85 ล้านบาท
เพื่อศึกษาความเหมาะสมและออกแบบรายละเอียดโครงการขยายโครงข่ายรถไฟทางคู่เริ่มจาก "วารินชำราบ-อุบลฯ-ช่องเม็ก" ระยะทาง 80 กิโลเมตร รองรับการขนส่งจากสปป.ลาว เพิ่มจาก 5 เส้นทางที่นำเสนอไปแล้ว
พล.ต.ท.ชัจจ์ กุลดิลก รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผย "ฐานเศรษฐกิจ" ว่าพร้อมให้การสนับสนุนโครงการรถไฟทางคู่เชื่อมชายแดนประเทศเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะกัมพูชาและสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว(สปป.ลาว) ที่ปัจจุบันมีแนวเส้นทางอยู่แล้ว แต่เป็นรางเดี่ยวขนาดรางเป็นระบบมิเตอร์เกจ 1 เมตร โดยจะปรับเปลี่ยนให้เป็นขนาดสแตนดาร์ดเกจมาตรฐานราง 1.435 เมตรที่สอดคล้องกับระบบรางของประเทศเพื่อนบ้าน อีกทั้งยังมีแนวคิดที่จะรื้อระบบรางขนาด 1 เมตรออกไปจากระบบการรถไฟทั้งหมด โดยจะค่อย ๆ ดำเนินการทีละโซน เนื่องจากเห็นว่าล้าสมัยเกินไป นอกจากนั้นยังต้องการให้มีการผลิตโบกี้และอุปกรณ์อื่น ๆ ขึ้นเองภายในประเทศ เพื่อประหยัดงบประมาณและสร้างองค์ความรู้ขึ้นภายในประเทศมากกว่าจะซื้อจากต่างประเทศเพียงอย่างเดียว ซึ่งสูญเสียงบประมาณแผ่นดินแต่ละปีจำนวนมหาศาล
"เชื่อว่าหากให้บริการที่ทันสมัยมีคุณภาพมาก จะมีผู้ใช้บริการจำนวนมากขึ้น เพราะสามารถเดินทางเชื่อมโยงไปยังกัมพูชา เวียดนาม สปป.ลาวตลอดจนประเทศอื่นๆในภูมิภาคนี้ได้สะดวก รวดเร็วมากขึ้น สิ่งสำคัญ การขนส่งสินค้า ก็จะสะดวกมากขึ้นตามไปด้วย ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญต่อการพัฒนาเศรษฐกิจที่จะลดต้นทุนการขนส่งลงไปได้อีกมาก เพราะปัจจุบันไทยมีรางรถไฟไปยังจังหวัดปราจีนบุรีเชื่อมชายแดนกัมพูชา และสปป.ลาว ที่จังหวัดหนองคาย เชื่อมท่านาแล้งรองรับไว้แล้ว แต่ต้องปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐาน เช่น ราง แคร่ขนสินค้าเท่านั้น ก็จะให้บริการได้ทันที โดยรัฐพร้อมส่งเสริมด้านโครงสร้างพื้นฐาน และเปิดให้เอกชนให้บริการเดินรถ ซึ่งจะต้องมีการหารือกับส่วนที่เกี่ยวข้องอีกครั้ง หากสามารถทำได้เร็วเท่าใดก็จะเกิดผลดีมากขึ้นเท่านั้น"
ด้านนางสร้อยทิพย์ ไตรสุทธิ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) กล่าวว่า ตามแผนนั้น สนข.อยู่ระหว่างการเร่งผลักดันให้เดินหน้าขยายโครงการการก่อสร้างรถไฟทางคู่เพิ่มขึ้นในปี 2555 หลังจากที่ในปี 2554 ได้สรุปผลการศึกษาออกแบบและผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมเบื้องต้นในระบบรถไฟทางคู่ 5 เส้นทาง ส่งผลให้ภายในปี 2558 ประเทศไทยจะมีทางรถไฟเพิ่มขึ้นอีกเกือบ 1,000 กิโลเมตรจากปัจจุบันมีทางรถไฟประมาณ 4,000 กิโลเมตร
ทั้งนี้เพื่อรองรับการเติบโตทางด้านการค้า การขนส่งที่ปัจจุบันมีการนำเข้า-ส่งออกผ่านพื้นที่ชายแดนที่ด่านช่องเม็ก อำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี ไม่ต่ำกว่า 5,500 ล้านบาทต่อปี รวมถึงรองรับนักท่องเที่ยวที่มีปริมาณเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
"ขณะนี้สนข.ได้จัดทำแผนงบประมาณปี 2555 จำนวน 85 ล้านบาท เพื่อใช้ในการศึกษาความเหมาะสมและออกแบบรายละเอียดโครงการ รวมถึงการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อมเส้นทางรถไฟทางคู่จากอำเภอวารินชำราบ ไปยังตัวจังหวัดอุบลราชธานี และด่านช่องเม็กเชื่อมชายแดนสปป.ลาวระยะทางประมาณ 80 กิโลเมตร มูลค่าการก่อสร้างราว 10,000 ล้านบาท เพื่อขยายเส้นทางรถไฟรองรับการค้าชายแดน และเป็นอีกทางเลือกในการเดินทางของประชาชน และเตรียมความพร้อมรองรับการเปิดเขตการค้าเสรีอาเซียนซึ่งจะนำเสนอกระทรวงคมนาคมและคณะรัฐมนตรี(ครม.)ในรัฐบาลชุดใหม่เร็วๆ นี้"
ผอ.สนข.กล่าวอีกว่า พื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ตามแผนได้มีการผลักดันโครงการรถไฟทางคู่ และการขยายโครงข่ายที่จะไปสู่พื้นที่นี้มากขึ้นกว่าในอดีตที่ผ่านมา โดยเฉพาะการเชื่อมโยงเพื่อไปช่องเม็ก และรองรับภาคการขนส่งที่มีมูลค่ากว่า 5,500 ล้านบาทต่อปี โดยสินค้าส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มน้ำมันดีเซล เหล็กกล้า และส่วนประกอบรถยนต์ ส่วนมูลค่าการนำเข้าสินค้าประมาณ 994 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มสินค้าไม้แปรรูป ผักผลไม้ และเสื้อผ้าสำเร็จรูปซึ่งได้รับการส่งเสริมในกลุ่มเศรษฐกิจลุ่มน้ำโขงในปัจจุบันอยู่แล้ว
ก่อนหน้านี้ ครม.มีมติเมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน 2552 เห็นชอบแผนพัฒนารถไฟทางคู่ 5 เส้นทาง ระยะเร่งด่วน (2553-2557) วงเงิน 66,100 ล้านบาท ระยะทาง 767 กิโลเมตร ประกอบด้วย
1.ลพบุรี-ปากน้ำโพ ระยะทาง 118 กิโลเมตร วงเงิน 7,860 ล้านบาท
2.มาบกะเบา -ชุมทางถนนจิระ ระยะทาง 132 กิโลเมตร วงเงิน 11,640 ล้านบาท
3.ชุมทางถนนจิระ- ขอนแก่น ระยะทาง 185 กิโลเมตร วงเงิน 13,000 ล้านบาท
4.นครปฐม-ชุมทางหนองปลาดุก ระยะทาง 165 กิโลเมตร วงเงิน 16,600 ล้านบาท
และ 5. ประจวบศีรีขันธ์-ชุมพร ระยะทาง 167 กิโลเมตร วงเงิน 17,000 ล้านบาท
สำหรับความคืบหน้าของโครงการดังกล่าว ขณะนี้อยู่ระหว่างการรถไฟแห่งประเทศไทยขออนุมัติงบประมาณเพื่อการศึกษา ออกแบบและผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมเบื้องต้นรถไฟทางคู่ 3 เส้นทางเร่งด่วน ระยะทางรวม 415 กิโลเมตร วงเงินรวม 355 ล้านบาท ประกอบด้วย ช่วง มาบกะเบา -ชุมทางถนนจิระ วงเงิน 135 ล้านบาท, ช่วงนครปฐม-ชุมทางหนองปลาดุก-หัวหิน วงเงิน 130 ล้านบาท และช่วงลพบุรี-ปากน้ำโพ วงเงิน 90 ล้านบาทที่ต้องขออนุมัติงบประมาณปี 2555 ต่อไป
ส่วนอีก 2 เส้นทางที่ สนข.ว่าจ้างออกแบบรายละเอียดก่อสร้างไปแล้ว คือ ช่วงชุมทางถนนจิระ - ขอนแก่น วงเงินประมาณ 150 ล้านบาท และช่วงประจวบคีรีขันธ์ - ชุมพร วงเงินประมาณ 164 ล้านบาท |
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 44620
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 21/09/2012 9:15 pm Post subject: |
|
|
หอการค้าอุบลฯเสนอขยายรถไฟทางคู่ถึงชายแดน
สำนักข่าวไทย วันศุกร์ ที่ 21 ก.ย. 2555
นิมิต สิทธิไตรย์ ประธานหอการค้า จ.อุบลราชธานี ได้เสนอขยายถนนเชื่อมช่องเม็กเป็น 4 ช่องจราจร ระยะทาง 200 กม.รวมทั้งขยายรถไฟทางคู่ไปถึงชายแดน เพื่อกระตุ้นการค้าชายแดน และเสนอให้พัฒนาท่าอากาศยานอุบลราชธานี เป็นท่าอากาศยานนานาชาติ โดย ก.คมนาคมจะนำความคิดเห็นต่างๆ กลับมาพิจารณาแผนลงทุนขั้นต่อไป |
|
Back to top |
|
|
|