5 ปีผ่านไป กลับมาสำรวจครั้งใหม่ ทางรถไฟสายสงขลา (2549 - 2554)

[wiriya_aek]

[OutRun]

^
ผมใช้จักรยานในการสำรวจนะครับ จะไปกับผมด้วยหรือ.. ส่วนถนนลูกรังที่เข้าไปในสวนยางพาราที่คุณเอกเคยโพสหน่ะ วันที่สำรวจผมก็ขี่เข้าไป
แต่เห็นถนนมันไปตันที่บ้านชาวบ้านผมก็เลยกลับออกมาครับ ส่วนเรื่องสุนัขเจ้าถิ่นหน่ะ ตอนเด็ก ๆ เคยกลัวครับ แต่พอมาขี่จักรยานเป็นจริงเป็นจัง
เจอเจ้าถิ่นพวกนี้วิ่งไล่ ชักรำคาญมากกว่ากลัว ตอนนี้ถ้าเจอผมวิ่งเข้าหาเลยครับ ไม่กลัวแล้ว เบื้องต้นหยุด 5 วันเดือนพฤษภาคมนี่ ผมว่างครับ
คงรอดูสภาพดินฟ้าอากาศอย่างเดียวว่าเหมาะที่จะเอาจักรยานไปขี่สำรวจอีกรึเปล่า
_________________
นายจักรยานกับการรถไฟ ฯ

[Mongwin]

[OutRun]

ขอกลับมาเพิ่มเติมต่อนะครับ เนื่องจากเมื่อช่วงวันหยุดยาว 5 วันที่ผ่านมาผมได้มีโอกาสกลับไปสำรวจอีกครั้ง ต้องขออภัยคุณเอก wiriya_aek ด้วย
ที่ไม่ได้บอกกล่าว เนื่องจากไปแบบกระทันหันเหมือนกัน ประมาณว่าวันที่ 12 พฤษภาคม ที่ผ่านมาผมได้ขี่จักรยานไปทำงานพร้อมกับกระเป๋าเสื้อผ้า
เพื่อเตรียมเดินทาง แต่จริง ๆ แล้วยังไม่มีตั๋ว พอพักเทียงก็เข้าหัวลำโพงไปถามที่ห้องตั๋วว่าไปหาดใหญ่วันนี้ มีขบวนไหนมีที่ว่างหรือไม่ ได้รับคำตอบว่า
มีแต่ที่ชั้น 2 พัดลมของขบวน 171 เหลืออยู่ และผมก็ถามต่อว่าวันที่ 14 พฤษภาคม ขบวน 170 หรือ 172 ได้รับคำตอบว่ามีที่ชั้น 2 พัดลม ข.170 เหลืออยู่
เมื่อเห็นว่ามีตั๋วเหลือทั้งไปและกลับ การเดินทางจึงเริ่มขึ้นครับ พร้อมกับการลางานครึ่งวัน จึงเป็นเหตุให้ไม่ได้บอกกล่าวอะไรกับใครไว้เลย

กลับเข้าสู่การสำรวจกันต่อนะครับ ย้อนรอยกลับไปครั้งนี้ผมตั้งใจขี่จักรยานพุ่งตรงไปที่สะพานแผงขึ้นที่อยู่บนโพสด้านบนนะคร้บ เพื่อที่จะพยายามหาทาง
เข้าไปประชิดตัวสะพานให้ได้ และก็สำเร็จครับ ด้วยการบุกรุกเข้าไปยังสวนที่ชาวบ้านทำไว้บนคันทางรถไฟนั้นเอง ภาพนี้ถ่ายไปทางหาดใหญ่ครับ


พยายามจะหาเนมเพลทไม่เคยเจอซ้ากกกก..ที


เจอแต่เนมเพลทเนี๊ยะครับ


ภาพมุมกว้างอีกซักภาพก่อนไป

_________________
นายจักรยานกับการรถไฟ ฯ

[OutRun]

จากนั้นผมก็มุ่งตรงไปยังป้ายหยุดรถบ้านกลางนาครับ แต่ก่อนจะเข้าไปผมขอแวะร้านขายของชำที่คุณเอก เคยมาแวะถามป้าเจ้าของร้านดูบ้าง เผื่อจะได้ข้อมูล
อะไรดี ๆ เพิ่ม แต่ดูเหมือนจะไม่ค่อยได้ข้อมูลสักเท่าไหร่ครับ เนื่องจากป้าแกพูดแต่ภาษาปักษ์ใต้ ทำเอาผมรู้เรื่องมั่ง ไม่รู้มั่ง แต่เผอิญมีผู้หญิงวัยกลางคน
เข้ามาซื้อของที่ร้านป้าแกพอดี เลยให้พี่เขาช่วยเป็นล่ามให้หน่อย แต่ก็ยังคงไม่ได้ข้อมูลอะไรมากมายอยู่ดี เนื่องจากป้าแกบอกว่ามันนานมากแล้ว
ผมได้ข้อมูลจากแกเพียงถนนลูกรังที่เข้าสวนยางข้าง ๆ บ้านแกนั่นแหละ ที่แกบอกว่าเป็นทางไปที่หยุดรถบ้านกลางนา ซึ่งผมขี่เข้าไปแล้วปรากฎว่าเป็นถนนเส้นเดียวกัน
กับที่ผมมาสำรวจเมื่อเดือนก่อน แต่ครั้งนี้ผมมาเข้าอีกทางเท่านั้นเอง

ที่นี้มาดูสิ่งที่ผมสงสัยกันครับ ก็คือเสาโทรเลขที่อยู่บริเวณใกล้ ๆ กับที่หยุดรถบ้านกลางนา ที่ผมสงสัยว่าจะเป็นตำแหน่งของที่หยุดรถบ้านกลางนาหรือเปล่า
ครั้งก่อนอาจารย์เอกเคยบอกไว้ว่าน่าจะเป็นเพียงฐานเสาโทรเลขใช่ไหมครับ วันนี้ผมถ่ายฐานเสาโทรเลขมาให้วิเคราะห์กันอีกครั้งครับ

จากภาพนี้เห็นฐานปูนที่เป็นฐานเสาโทรเลขอยู่ทางด้านขวาใช่ไหมครับ แต่แปลกตรงที่รางที่อยู่ด้านซ้ายซึ่งน่าจะเป็นรางที่ค้ำยันเสาโทรเลขไม่ให้ล้มนั้น
มันกลับตั้งเบนหนีฐานปูนนี่สิครับ เพราะถ้ารางเหล็กทางซ้ายทีว่ามันค้ำเสาโทรเลขที่อยู่ในฐานปูน รางเหล็กน่าจะตั้งเบนเฉียงเข้าหาฐานปูนนะครับ ส่วนไกล ๆ
ข้างต้นกล้วยนั่น ทางรถไฟนะครับ ยังมีรางอยู่เห็นกันรึเปล่า


ประเด็นที่ 2 คือรางเหล็กที่ตั้งอยู่เหมือนไม่ได้มีร่องรอยการโดนตัดครับ



ซึ่งผิดกับเสาโทรเลขที่อยู่ในฐานปูน ที่มีร่องรอยการโดนตัดแบบแปลก ๆ


เดี๋ยวไว้ว่าง ๆ จะมาโพสต่อนะครับ ตั้งแต่หลังวันหยุดยาว 5 วันมานี่ งานกองพะเนินเทินถึกเลยครับ..
_________________
นายจักรยานกับการรถไฟ ฯ

[Mongwin]

อืมม
ปริศนาลึกลับจริง ๆ ครับคุณตั้ม

-----------------

เกี่ยวกับสะพานแผงขึ้นแห่งนี้ ลองดูที่กระทู้นี้ครับ
http://gimyong.com/talung/index.php/topic,8650.0.html

รางบนสะพาน หายไปไหน ใครเอาไป

[kapukluk09]

แบบนี้ เรามีทางร้องเรียนหน่วยงานอย่าง ป.ป.ช.หรือ ป.ป.ง. ให้เข้ามาตรวจสอบได้หรือไม่ครับว่า

- การที่การรถไฟปล่อยให้มีผู้บุกรุก และไม่มีการดำเนินการใด ๆ จะเข้าข่ายเป็นเจ้าพนักงานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่หรือไม่

- หรือถ้าจะปล่อยให้มีผู้อื่นเข้ามาใช้ประโยชน์ในพื้นที่ แต่เหตุใดจึงไม่เข้ามาจัดการเรื่องผลประโยชน์, ค่าเช่าพื้นที่

- สุดท้าย ปล่อยให้ทรัพย์สินของทางราชการ ชำรุด, สูญหาย

ซึ่งประการหนึ่งก็ต้องโทษเจ้าของพื้นที่คือการรถไฟ ที่ไม่ดูแลรักษาทรัพย์สมบัติของตัวเอง ซึ่งเป็นสมบัติของทางราชการ

และอีกประการ ก็ต้องโษผู้ที่เข้ามาใช้พื้นที่ โดยไม่ได้รับอนุญาต และเข้ามาใช้พื้นที่แล้ว ก็ไม่ได้ช่วยรักษาทรัพย์สมบัติของชาติ
มีแต่จะเอาแต่ประโยชน์ส่วนตน

[OutRun]

อ้าว..มีคนเข้าประชิดถึงตัวสะพานแล้วหรอกหรือครับ...ไม่ยักรู้แฮะ

------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

มาดูสภาพทางทั่วไปแถวใกล้ ๆ ที่หยุดรถบ้านกลางนากันครับ เพราะผมยังคงฟันธงไม่ได้ว่าตำแหน่งที่หยุดรถบ้านกลางนาอยู่ตรงไหนกันแน่
แต่ไม่น่าจะเกิน 100 เมตรจากบริเวณนี้ อ้อ..ระหว่างผมขี่รถกลับออกมาได้สวนกับจักรยานยนต์คันนึงมีชาวบ้านเป็นผู้หญิง 2 คนดูอายุแล้วน่าจะเกิน 40 แน่นอน
ผมเลยกลับรถไล่ขี่ตามไปถามข้อมูลว่าตำแหน่งที่หยุดรถบ้านกลางนา น่าจะอยู่ตรงไหน แกบอกแบบไม่ค่อยมั่นใจสักเท่าไหร่ว่า
"น่าจะอยู่ตรงบริเวณที่ถนนเลี้ยวขวาแยกออกจากทางรถไฟ" (ตรงบริเวณที่ผมถ่ายภาพมานั่นแหละ) สาเหตุที่แกไม่ค่อยแน่ใจก็เนื่องมาจาก
บ้านแกไม่ได้อยู่บริเวณนี้ แกแนะนำต่อว่าให้ไปถามบ้านที่อยู่ตรงบริเวณที่ผมถ่ายภาพเสาโทรเลขมา เพราะบ้านนั้นเขาอยู่ตรงนี้มาตั้งแต่สมัยรถไฟยังวิ่งอยู่
แต่เผอิญวันที่ผมไปไม่มีใครอยู่แฮะ เลยไม่ได้ข้อมูลมา แต่ในใจผมคิดว่าบริเวณที่ผมเจอเสาโทรเลขไม่น่าจะใช่ตำแหน่งที่ตั้งที่หยุดรถบ้านกลางนา
เนื่องจากเมื่อกลับมาดูภาพถ่ายทางอากาศที่อาจารย์เอกนำมาลงแล้ว จะเห็นว่าตำแหน่งที่หยุดรถฯ ไม่ได้อยู่ใกล้กับจุดที่ถนนเลี้ยวขวาแยกออกจากทางรถไฟไป
แต่น่าอยู่ห่างจากเสาโทรเลขที่ว่าไม่กี่สิบเมตร



_________________
นายจักรยานกับการรถไฟ ฯ

[OutRun]

3 ภาพข้างบนถ่ายกลับไปทางหาดใหญ่ ส่วน 2 ภาพนี้ถ่ายไปทางสงขลาครับ


_________________
นายจักรยานกับการรถไฟ ฯ

[OutRun]

ออกมาจากบ้านกลางนา ผมก็มายังทางหลวง 408 ครับ จากจุดตัดตรงนี้เราจะเลี้ยวขวาไปทางที่หยุดรถน้ำกระจายกันครับ หรือเลี้ยวขวากลับไปทางหาดใหญ่กัน


แต่ผมของดสำรวจบริเวณที่หยุดรถน้ำกระจายนะครับ เนื่องจากอาจารย์เอกได้เคยเข้าไปเก็บรายละเอียดมาให้ชมกันไปแล้ว ขออนุญาตขี่รถเลยที่หยุดรถน้ำกระจาย
ไปทางช่องน้ำคลาสสิคที่ผมเคยมาสำรวจเมื่อเดือนที่แล้วแทน แต่ก็ขอเลยช่องน้ำคลาสสิคไปอีก เพราะสำรวจเมื่อเดือนที่แล้วเวลาค่อนข้างจำกัด
เลยขี่จักรยานเข้าไปไม่ลึก มาวันนี้ขอเข้าไปลึกกว่านั้นหน่อย พอขี่เลยช่องน้ำคลาสสิคไปได้ประมาณ 100 - 200 เมตร ถนนก็ตัดข้ามทางรถไฟแล้วแยก
ออกห่างจากทางรถไฟไป แต่บริเวณนี้ทางตัดนี้ผมเจออะไรบางอย่างตามนี้ครับ
น่าจะเป็นป้ายแบ่งเขตบำรุงทางแบบเดียวกับที่ผมเจอในสายสุพรรณบุรี


ถัดไป 20 - 30 เมตรมีไอ้นี้ซ่อนตัวอยู่ครับ ไม่กล้าขึ้นไปหล่ะครับ


_________________
นายจักรยานกับการรถไฟ ฯ