View previous topic :: View next topic |
Author |
Message |
tuie
1st Class Pass (Air)
Joined: 09/07/2006 Posts: 12156
Location: สถานีบ้านตุ้ย
|
Posted: 15/06/2011 9:19 pm Post subject: |
|
|
milkonline wrote: | น้ำหนักสุดยอดเลยครับ ดูจากล้อกำลังของการัตต์เราก็น่าจะไม่น้อยกว่าร้อยตันเลยทีเดียว |
ดูข้อมูลจากหนังสือรถจักรและรถพ่วงประวัติศาสตร์หน้า ๖๔-๖๕ แล้ว การัตต์ที่เราสั่งมาใช้เป็นล้อแบบ ๒-๘-๒ + ๒-๘-๒ ล้อน้อยกว่าการัตต์คันสีเทาในพิพิธภัณฑ์นี้ ๔ ล้อ(๒ เพลา) แต่ล้อกำลังยังแคร่ละ ๘ ล้อ(๔ เพลา) เท่ากัน ในหนังสือไม่ระบุข้อมูลน้ำหนักไว้แต่คาดว่าน่าจะเบากว่าเล็กน้อยเพราะล้อ/เพลาน้อยกว่า และยังใช้สำหรับทางแคบกว่านะครับ _________________ นสน.าย./อ.ตุ้ย/อ.หลวงอัคคีเทพอาณัติ/
http//:www.facebook.com/VISIT-RAILWAY-MUSEUMS-1521959098131925/
|
|
Back to top |
|
|
tuie
1st Class Pass (Air)
Joined: 09/07/2006 Posts: 12156
Location: สถานีบ้านตุ้ย
|
Posted: 15/06/2011 9:38 pm Post subject: |
|
|
ความที่เจ้า การัตต์ มีล้อเยอะเหลือเกินอยากจะเก็บภาพในมุมที่เห็นล้อเรียงกันเป็นตับแต่มุมก็ไม่เอื้ออำนวยเลย
ในที่สุดต้องแบ่งถ่ายเป็นสองภาพต่อกันถึงจะได้ครบ ๑๔ ล้อ ๗ เพลา ของหนึ่งแคร่ด้านท้ายรถจักรครับ
อันที่จริงอีกด้านหนึ่งของ การัตต์ ก็ทำเป็นทางเดินไม้กว้างพอจะเดินชมและถ่ายภาพได้ถนัด แต่น่าเสียดายที่มีกองกล่องใส่อาหาร เครื่องดื่ม วัสดุอุปกรณ์ซึ่งน่าจะเตรียมไว้ใช้ในกิจกรรมการแสดงวางระเกะระกะ
_________________ นสน.าย./อ.ตุ้ย/อ.หลวงอัคคีเทพอาณัติ/
http//:www.facebook.com/VISIT-RAILWAY-MUSEUMS-1521959098131925/
|
|
Back to top |
|
|
black_express
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/03/2006 Posts: 10060
Location: อุตรดิตถ์ - กรุงเทพฯ
|
Posted: 15/06/2011 10:16 pm Post subject: |
|
|
เห็นชัดเจนมากๆ เลยครับว่า การจัดพิพิธภัณฑ์นั้น เขาทำกันอย่างไร มิใช้เพียงนำมาวาง ปล่อยให้ฝุ่นจับหนาเตอะ สนิมกินแดงทั้งคันเท่านั้น
เผลอๆ อุปกรณ์ชำร่วยต่างๆ ตามตัวรถ ยังโดนมือลึกลับถอดเอาไปขายอีกด้วยสิ |
|
Back to top |
|
|
tuie
1st Class Pass (Air)
Joined: 09/07/2006 Posts: 12156
Location: สถานีบ้านตุ้ย
|
Posted: 15/06/2011 10:32 pm Post subject: |
|
|
black_express wrote: | เห็นชัดเจนมากๆ เลยครับว่า การจัดพิพิธภัณฑ์นั้น เขาทำกันอย่างไร มิใช้เพียงนำมาวาง ปล่อยให้ฝุ่นจับหนาเตอะ สนิมกินแดงทั้งคันเท่านั้น |
พิพิธภัณฑ์รถไฟที่ไหนหนอปล่อยให้ฝุ่นจับ สนิมกินรถไฟเยี่ยงนี้ หรือว่าจะเป็นป่าช้า/สุสานรถไฟมิใช่พิพิธภัณฑ์รถไฟ(ของแท้)
สงสัยจริงๆ สงสัยจริงๆ ครับพี่ตึ๋ง
-------------------------------------------------------------------------------
ย้อนกลับไปชมบรรยากาศบริเวณส่วนจัดแสดงรถไฟในมุมสูง(พอประมาณ)สักหน่อยครับ
อาคารจัดแสดงหลังนี้น่าจะเคยเป็นโรงซ่อมบำรุงรถจักร/รถพ่วงมาก่อน พอใช้ทำพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ฯก็ยังคงทางรถไฟเดิมให้รถจักร รถพ่วงเข้ามาจอดโชว์ได้
พื้นที่บางส่วนก็ยังใช้ซ่อมบำรุงรถจักร รถพ่วงที่นำมาจัดแสดงในพิพิธภัณฑ์ฯ
_________________ นสน.าย./อ.ตุ้ย/อ.หลวงอัคคีเทพอาณัติ/
http//:www.facebook.com/VISIT-RAILWAY-MUSEUMS-1521959098131925/
|
|
Back to top |
|
|
conrail
1st Class Pass (Air)
Joined: 28/03/2006 Posts: 1271
Location: Bangplad , Bangkok
|
Posted: 15/06/2011 10:33 pm Post subject: |
|
|
tuie wrote: | milkonline wrote: | น้ำหนักสุดยอดเลยครับ ดูจากล้อกำลังของการัตต์เราก็น่าจะไม่น้อยกว่าร้อยตันเลยทีเดียว |
ดูข้อมูลจากหนังสือรถจักรและรถพ่วงประวัติศาสตร์หน้า ๖๔-๖๕ แล้ว การัตต์ที่เราสั่งมาใช้เป็นล้อแบบ ๒-๘-๒ + ๒-๘-๒ ล้อน้อยกว่าการัตต์คันสีเทาในพิพิธภัณฑ์นี้ ๔ ล้อ(๒ เพลา) แต่ล้อกำลังยังแคร่ละ ๘ ล้อ(๔ เพลา) เท่ากัน ในหนังสือไม่ระบุข้อมูลน้ำหนักไว้แต่คาดว่าน่าจะเบากว่าเล็กน้อยเพราะล้อ/เพลาน้อยกว่า และยังใช้สำหรับทางแคบกว่านะครับ |
รถจักรการัตต์ของประเทศไทยรุ่นแรกน้ำหนักรวมประมาณ 117 ตัน ส่วนรุ่นสองน้ำหนักรวมประมาณ 121 ตัน. ในขณะที่น้ำหนักเฉลี่ยของรถจักรไอน้ำทั่วไปอยู่ที่ 80-90 ตันครับ |
|
Back to top |
|
|
tuie
1st Class Pass (Air)
Joined: 09/07/2006 Posts: 12156
Location: สถานีบ้านตุ้ย
|
Posted: 16/06/2011 8:39 pm Post subject: |
|
|
^
ขอบคุณสำหรับข้อมูลครับคุณก้อง
----------------------------------------------------------------
เข้าไปชมรถจักรรถพ่วงประวัติศาสตร์ที่จัดแสดงกันใกล้ๆเลยครับ รถพ่วงคันนี้ คือ Great Central Freight Wagon สร้างเมื่อประมาณปี ค.ศ.1882 ใช้สำหรับบรรทุกวัตถุขนาดใหญ่ เช่น ม้วนสายเคเบิลขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางราวๆ ๓ เมตร
รถคันนี้ คือ Novelty Locomotive คันดั้งเดิมสร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ.1829 พิพิธภัณฑ์ฯนำชิ้นส่วนมาซ่อมแซมแล้วประกอบขึ้นมาใหม่เป็นรถจักรไอน้ำคันนี้ รถจักรไอน้ำรุ่นนี้เป็นหนึ่งในรถจักรไอน้ำคันแรกๆที่นักวิทยาศาสตร์ยุคเกือบ ๒๐๐ ปีก่อนแข่งขันกันประดิษฐ์ขึ้นมาในยุคกำเนิดรถไฟแต่ไม่ประสบความสำเร็จ ต้องพ่ายแพ้ให้กับรถจักรไอน้ำ Rocket ซึ่งใช้งานได้ดีกว่าและได้รับการยกย่องว่าเป็นรถจักรไอน้ำคันแรกของโลก
มองเข้าไปด้านในยังมีรถโดยสารชั้นหนึ่งยุคปี ค.ศ.๑๘๔๐ อีกคันหนึ่งครับ ตามข้อมูลระบุว่าใช้สำหรับทางกว้าง ๔ ฟุต ๘ นิ้วครึ่ง (๑.๔๔ เมตร) ซึ่งกว้างกว่าทางขนาดมาตรฐาน ๑.๔๓๕ เมตรในยุคปัจจุบันอีกเล็กน้อย
_________________ นสน.าย./อ.ตุ้ย/อ.หลวงอัคคีเทพอาณัติ/
http//:www.facebook.com/VISIT-RAILWAY-MUSEUMS-1521959098131925/
|
|
Back to top |
|
|
tuie
1st Class Pass (Air)
Joined: 09/07/2006 Posts: 12156
Location: สถานีบ้านตุ้ย
|
Posted: 16/06/2011 9:33 pm Post subject: |
|
|
บริเวณกลางห้องจัดแสดงรถไฟมีส่วนหัวซึ่งเป็นห้องขับของ EM1 (Class 76) หมายเลข 76039 มีนามรถจักรว่า Hectorความเร็วสูงสุด 65 ไมล์ต่อชั่วโมง หรือประมาณ 104.6 ก.ม./ช.ม. สร้างโดย British Rail Locomotive Works Gorton เมื่อปีค.ศ. 1954 เสียดายที่ไม่มีให้ชมทั้งคันนะครับ
แมนเชสเตอร์เป็นเมืองอุตสาหกรรมอันสำคัญของอังกฤษมาช้านาน การผลิตรถจักรก็เป็นอุตสาหกรรมหนึ่งที่มีผู้ผลิตตั้งโรงงานอยู่ในเขตเมืองแมนเชสเตอร์อยู่หลายรายดังปรากฏชื่อใน Engine Plates ซึ่งนำมาโชว์ไว้ที่บอร์ดนี้ครับ
_________________ นสน.าย./อ.ตุ้ย/อ.หลวงอัคคีเทพอาณัติ/
http//:www.facebook.com/VISIT-RAILWAY-MUSEUMS-1521959098131925/
|
|
Back to top |
|
|
black_express
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/03/2006 Posts: 10060
Location: อุตรดิตถ์ - กรุงเทพฯ
|
Posted: 16/06/2011 10:00 pm Post subject: |
|
|
tuie wrote: | มองเข้าไปด้านในยังมีรถโดยสารชั้นหนึ่งยุคปี ค.ศ.๑๘๔๐ อีกคันหนึ่งครับ ตามข้อมูลระบุว่าใช้สำหรับทางกว้าง ๔ ฟุต ๘ นิ้วครึ่ง (๑.๔๔ เมตร) ซึ่งกว้างกว่าทางขนาดมาตรฐาน ๑.๔๓๕ เมตรในยุคปัจจุบันอีกเล็กน้อย |
ขนาดทางกว้างแบบนี้ เคยมีในเกาะอังกฤษครับ โดยการริเริ่มของ Isambard Kingdom Brunel วิศวกรโยธาผู้โด่งดังของอังกฤษและเป็นเจ้าของบริษัท Great Western Railway ในสมัยนั้น โดยให้เหตุผลว่ามีความมั่นคง และรถไฟทำความเร็วได้ดีกว่า จนกระทั่งเส้นทางรถไฟทั้งสองขนาดได้มาบรรจบกันและเกิดปัญหาทั้งการขนถ่ายสินค้าและผู้โดยสารต้องลงเพื่อเปลี่ยนถ่ายขบวนรถ กลายเป็นประเด็นร้อนเข้าไปถกกันในรัฐสภาอังกฤษ ทำให้มี พรบ.มาตรฐานรางรถไฟ ออกมาบังคับใช้เมื่อปี ค.ศ.1846 (พ.ศ.2389) ซึ่งความกว้างรางตามมาตรฐาน เป็นขนาดรางที่ถูกต้องตามกฎหมาย
ระบบรถไฟรางกว้างจึงได้หายไปจากเกาะอังกฤษ |
|
Back to top |
|
|
tuie
1st Class Pass (Air)
Joined: 09/07/2006 Posts: 12156
Location: สถานีบ้านตุ้ย
|
Posted: 16/06/2011 10:39 pm Post subject: |
|
|
^
ขอบคุณสำหรับข้อมูลครับพี่ตึ๋ง ถ้าไม่ยกเลิกรางขนาดกว้าง ๑.๔๔ เมตร การเชื่อต่อเส้นทางสายที่มีทางกว้างต่างขนาดกันคงวุ่นวายน่าดูเลยนะครับ
--------------------------------------------------------------------
พอเสร็จสิ้นกิจกรรมรอบๆรถจักรไอน้ำ ผ่าซีก ผู้คนสลายตัวไปหมดแล้วผมก็รีบเข้าไปชมรถจักรไอน้ำคันนี้ในระยะใกล้ทันที
ตามป้ายแสดงข้อมูลระบุว่าเป็นรถจักรไอน้ำสำหรับทางแคบขนาดความกว้าง ๓ ฟุต หรือ ๙๐ ซ.ม. สร้างโดย Beyer, Peacock Locomotive เมื่อปี ค.ศ. 1873 ความเร็วสูงสุด 30 ไมล์/ช.ม. หรือ 48 ก.ม./ช.ม.
ถ้าจะชมรถจักรคันนี้แบบไม่เปลือย เอ๊ย! ไม่ผ่าซีกต้องเดินอ้อมมาอีกฝั่งหนึ่งครับ
_________________ นสน.าย./อ.ตุ้ย/อ.หลวงอัคคีเทพอาณัติ/
http//:www.facebook.com/VISIT-RAILWAY-MUSEUMS-1521959098131925/
|
|
Back to top |
|
|
black_express
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/03/2006 Posts: 10060
Location: อุตรดิตถ์ - กรุงเทพฯ
|
Posted: 17/06/2011 9:38 pm Post subject: |
|
|
ถ้าจะให้วุ่นวายจริงๆ เกี่ยวกับเรื่องขนาดความกว้างราง เห็นจะไม่มีประเทศไหนเกินออสเตรเลียหรอกครับ อ.ตุ้ย |
|
Back to top |
|
|
|