RailServe.Com

Main Menu

 
icon_home.gif Homepage
icon_community.gif Members Zone
· ข้อมูลส่วนตัว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ข่าวสารส่วนตัว
· บริการเว็บเมล์
· กระดานข่าว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก กระดานฝากข้อความ
· รถไฟไทยแกลลอรี่
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก รายนามสมาชิก
· แบบสำรวจ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก สมุดเยี่ยม
· เกี่ยวกับสมาชิก
favoritos.gif News & Stories
· เรื่องทั้งหมด
· เนื้อหาสาระ
· เรื่องสำหรับพิมพ์
· ยอดฮิตติดอันดับ
· ค้นหาข่าวสาร
· ค้นหากระทู้เก่า
nuke.gif Contents
· กำหนดเวลาเดินรถ
· ประเภทขบวนรถโดยสาร
· ข้อมูลเส้นทางรถไฟ
· แผนที่เส้นทางรถไฟ
· อัตราค่าโดยสาร
· คำนวณค่าโดยสารรถไฟ
· รูปแบบการให้บริการรถไฟ
· หมายเลขโทรศัพท์ที่สำคัญ
· ทริปท่องเที่ยวโดยรถไฟ
· ระบบติดตามขบวนรถ
som_downloads.gif Services
· Downloads
· GoogleSearch
· Hotels Booking
· FlashGames
· Wallpaper 1
· Wallpaper 2
· Wallpaper 3
· Wallpaper 4
icon_members.gif Information
· เกี่ยวกับเรา
· นโยบายความเป็นส่วนตัว
· แผนผังเว็บไซต์ฯ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ส่งข้อแนะนำติชม
· ติดต่อลงโฆษณา
· แนะนำและบอกต่อ
· สถิติทั้งหมด
· สำหรับผู้ดูแลระบบ
 

Sponsors

 

Rotfaithai.Com

 

Visitors

 


มีผู้เข้าเยี่ยมชม
สมาชิก:311232
ทั่วไป:13179820
ทั้งหมด:13491052
คน ตั้งแต่
01-08-2004
 


Rotfaithai.Com :: View topic - ข่าวรถไฟฟ้าสายสีแดงเข้ม(บางซื่อ-รังสิต และ บางซื่อ-หัวลำโพง)
 Forum FAQForum FAQ   SearchSearch   UsergroupsUsergroups   ProfileProfile   Log in to check your private messagesLog in to check your private messages   Log inLog in 

ข่าวรถไฟฟ้าสายสีแดงเข้ม(บางซื่อ-รังสิต และ บางซื่อ-หัวลำโพง)
Goto page Previous  1, 2, 3, 4, 5 ... 147, 148, 149  Next
 
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> โครงการระบบรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนในอนาคต
View previous topic :: View next topic  
Author Message
suraphat
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 12/02/2007
Posts: 1117
Location: ดินแดง ห้วยขวาง

PostPosted: 12/09/2012 7:32 pm    Post subject: Reply with quote

ใจเย็นๆครับ เพราะที่กระผมเข้าใจเลยก็คือ ที่พวกประท้วงเขาต้องการก็คือต้องการให้โครงการรถไฟความเร็วสูงเกิดขึ้นเร็วๆ และอยากจะให้หยุดโครงการพัฒนารถไฟขนาด 1 เมตรไว้ก่อน ดังจะเห็นได้จากตอนที่มีการประกาศยกเลิกโครงการรถไฟทางคู่นะครับ

และต้องการให้รถไฟความเร็วสูงเกิดขึ้นเร็วๆนะครับ โดยที่ไม่รู้เลยว่าแค่เริ่มโครงการนี้ก็ยากแล้ว กล่าวคือเพียงแค่โค้งดอนเมืองโค้ง ก็จะต้องมีการเวนคีนที่ดินเพิ่มเติมแล้วนะครับ นี่แค่โค้งเดียวนะครับ และหากเป็นในโค้งอื่นๆอีก ก็ต้องมีการเวนคืนที่ดินกันขนานใหณ่เลยนะครับ Wink
Back to top
View user's profile Send private message Send e-mail
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44320
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 12/09/2012 11:32 pm    Post subject: Reply with quote

ขอนำมาให้ชมเป็นข้อมูลเฉย ๆ งดวิจารณ์นะครับ

http://www.youtube.com/watch?v=V9suO4i7EuM
http://www.youtube.com/watch?v=V9N-E_N6xdo
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
kikoo
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 01/02/2010
Posts: 1667
Location: มอ.ตรัง และ สถานีตรัง

PostPosted: 13/09/2012 12:57 am    Post subject: Reply with quote

suraphat wrote:
ใจเย็นๆครับ เพราะที่กระผมเข้าใจเลยก็คือ ที่พวกประท้วงเขาต้องการก็คือต้องการให้โครงการรถไฟความเร็วสูงเกิดขึ้นเร็วๆ และอยากจะให้หยุดโครงการพัฒนารถไฟขนาด 1 เมตรไว้ก่อน ดังจะเห็นได้จากตอนที่มีการประกาศยกเลิกโครงการรถไฟทางคู่นะครับ

และต้องการให้รถไฟความเร็วสูงเกิดขึ้นเร็วๆนะครับ โดยที่ไม่รู้เลยว่าแค่เริ่มโครงการนี้ก็ยากแล้ว กล่าวคือเพียงแค่โค้งดอนเมืองโค้ง ก็จะต้องมีการเวนคีนที่ดินเพิ่มเติมแล้วนะครับ นี่แค่โค้งเดียวนะครับ และหากเป็นในโค้งอื่นๆอีก ก็ต้องมีการเวนคืนที่ดินกันขนานใหณ่เลยนะครับ Wink


แต่ปัญหาคือ จากที่ผมได้พูดคุยกับผู้โดยสารรถไฟหลายๆท่าน พบว่าคนส่วนใหญ่คิดว่ารถไฟความเร็วสูง จะสามารถมาแทนที่รถไฟธรรมดาเดิมๆได้ทั้งหมด ประมาณว่าได้รถไฟความเร็วสูงมา ก็ไม่ต้องง้อหรือไม่จำเป็นต้องมีรถไฟธรรมดาอีกต่อไป อะไรทำนองนี้ โดยที่ลืมมองถึงปัญหาต่างที่มีอยู่และกำลังจะเกิดขึ้น ล่ะครับ

พูดอีกอย่างก็คือบางคนเข้าใจว่ารถไฟความเร็วสูงคือ"ทางออกของทุกปัญหา"มากกว่าจะมองว่า"เป็นทางเลือกทางหนึ่ง"ครับ

ทั้งที่ความเป็นจริงที่ปรากฎในประเทศต่างๆที่เค้ามีรถไฟความเร็วสูงใช้งานอยู่ เค้าก็ไม่ได้ล้มเลิกระบบหรือโครงการที่เกี่ยวข้องกับรถไฟเดิมๆที่ไม่ได้มีความเร็วสูง เพราะเค้ารู้ว่ารถไฟความเร็วสูง ไม่ใช่ทางออกของปัญหาระบบรางทั้งหมด และรถไฟธรรมดาก็ควรจะถีบตัวเองให้เต็มความสามารถ เพื่อให้ระบบรางมีความสมบูรณ์แบบอย่างแท้จริง และเป็นประโยชน์ต่อคนทุกระดับ รวมทั้งประเทศชาติ

สรุป คือ คนไทยไม่เข้าใจเรื่องราวพื้นฐานเกี่ยวกับระบบรางครับ
Laughing
_________________
ความคืบหน้าโครงการปรับปรุงทางช่วงที่วัง-กันตัง
http://portal.rotfaithai.com/modules.php?name=Forums&file=viewtopic&t=5618
Back to top
View user's profile Send private message Send e-mail
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44320
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 13/09/2012 12:23 pm    Post subject: Reply with quote

รางรถไฟระอุ ลุ้นรัฐเลือกขนาดยั่งยืน ไร้วาระแฝงเร้น
โพสต์ทูเดย์ Thursday, 13 September 2012 08:32

ปัญหาขนาดรางรถไฟของการรถไฟแห่งประเทศไทย(ร.ฟ.ท.) กลายเป็นประเด็นขึ้นมาอีกครั้ง หลังจากที่ พล.ต.ท.ชัจจ์ กุลดิลก รมช.คมนาคม เสนอให้มีการยกเลิกโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีแดง ช่วงบางซื่อ-รังสิตเพราะเห็นว่าซ้ำซ้อนกับแผนการก่อสร้างโครงการส่วนต่อขยายแอร์พอร์ตลิงค์ ช่วงพญาไท-ดอนเมืองซึ่งไม่คุ้มค่ากับการลงทุน และคิดว่าคงไม่มีผู้โดยสารมากมายขนาดต้องสร้างระบบขนส่งมวลชนหลายระบบเพื่อรองรับในส่วนนี้

จึงเป็นที่มาของการจัดเวิร์กช็อป โดยสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร(สนข.) ร่วมกับ ร.ฟ.ท. ทำขึ้นเพื่อกำหนดทิศทางการลงทุนระบบรางของภาครัฐในอนาคต

ขณะเดียวกันมีนักวิชาการหลายฝ่ายที่เกี่ยวข้องได้รวบรวมข้อมูลที่มาที่ไปของขนาดราง พร้อมทั้งให้เหตุผลด้วยว่า ทิศทางที่แท้จริง รัฐควรเลือกใช้ Metre Gauge (ขนาดราง 1 เมตร) หรือ Standard Gauge (ขนาดราง 1.435 เมตร)เพื่อความยั่งยืนของร.ฟ.ท. และระบบขนส่งของประเทศในอนาคตเพราะไม่ต้องการให้รัฐหลงทางกับเรื่องดังกล่าวอีก

ย้อนไปถึงทางรถไฟสายแรกในประเทศไทย เป็น Standard Gauge เนื่องจากเป็นยุคสมัยการล่าอาณานิคม ซึ่งประเทศเพื่อนบ้านที่เป็นเมืองขึ้นฝรั่งเศสและอังกฤษล้วนใช้ทางรถไฟ Metre Gauge พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระราชดำริที่จะทรงสร้างทางรถไฟที่แตกต่างจากประเทศเพื่อนบ้านเพื่อป้องกันไม่ให้ฝรั่งต่อทางรถไฟเข้ามาแล้วยึดประเทศไทย จึงโปรดฯ ให้สร้างทางรถไฟเป็น Standard Gauge แต่เมื่อรัฐบาลจะก่อสร้างทางรถไฟสายใต้ จึงไปกู้ยืมเงินจากรัฐบาลอังกฤษ ภายใต้เงื่อนไขให้ไทยสร้างทางรถไฟเป็นแบบMetre Gauge โดยมีสถานีต้นทางอยู่ที่สถานีธนบุรี

ดังนั้น ประเทศไทยในอดีตจึงมีทางรถไฟสองแบบอยู่ในประเทศคือทางรถไฟที่อยู่ทางฝั่งทิศตะวันออกของแม่น้ำเจ้าพระยา ที่สร้างเพิ่มขึ้นในภายหลังเป็นทางรถไฟStandard Gauge ส่วนทางรถไฟด้านทิศตะวันตกของแม่น้ำเจ้าพระยา เป็นทางรถไฟ Metre Gauge ต่อมาปลายสมัยรัชกาลที่ 6 มีพระราชดำริให้สร้างสะพานรถไฟข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาเพื่อเชื่อมทางรถไฟสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาเข้าด้วยกัน รัฐบาลสมัยนั้นจึงตัดสินใจยุบความกว้างทางรถไฟด้านตะวันออกของแม่น้ำเจ้าพระยาลงเหลือ 1 เมตร เท่ากันทั้งประเทศ โดยพิจารณาทั้งเหตุผลด้านเศรษฐกิจและการเมือง

ผู้เชี่ยวชาญด้านกิจการรถไฟยังเห็นว่าทุกครั้งที่มีการเปลี่ยนรัฐบาล มักมีการหยิบยกเรื่องการเปลี่ยนแปลงขนาดรางมาเป็นประเด็น โดยเห็นว่ารถไฟวิ่งช้าเพราะรางไม่ได้มาตรฐาน ถ้าใช้ราง Standard Gauge แล้วจะซื้อของได้ถูกลง เป็นต้น แต่แท้จริงแล้วนั่นไม่ใช่ประเด็นหลักเพราะสิ่งที่เป็นเรื่องสำคัญก็คือรถไฟปัจจุบันส่วนใหญ่เป็นรางเดี่ยว ระบบอาณัติสัญญาณล้าหลัง มีถนนตัดผ่านทางรถไฟเป็นต้น ซึ่งข้อเท็จจริงก็คือ รถไฟฯ ไม่ได้รับงบประมาณที่เพียงพอ เพื่อมาพัฒนาและเพิ่มประสิทธิภาพมาเป็นเวลานาน

อีกทั้งการเปลี่ยนขนาดรางต้องใช้งบประมาณจำนวนมาก ใช้เวลาก่อสร้างนาน การเดินรถเชื่อมโยงกับประเทศเพื่อนบ้านที่ใช้Metre Gauge ก็ยังทำไม่ได้ ระบบการเดินรถในระหว่างเปลี่ยนผ่านถูกแบ่งแยกไม่สอดคล้องกับแผนการจัดการโลจิสติกส์ ดังนั้นจึงต้องการให้รัฐนำงบประมาณมาปรับปรุงระบบ Metre Gauge ให้รถไฟได้ทำหน้าที่ขนส่ง อย่างที่ควรจะเป็นจะดีกว่า

"ถ้าไทยไม่มีรถไฟอยู่เลย การเลือก Standard Gauge ย่อมต้องดีกว่า Metre Gauge ซึ่งไม่ใช่เรื่องของวันนี้ ดังนั้นจึงเป็นเหตุให้เราต้องบำรุงรักษาสิ่งที่มีให้ใช้งานได้"ผู้เชี่ยวชาญด้านกิจการรถไฟ กล่าว

นอกจากนี้ ในอนาคตหากต้องการทำให้รถไฟวิ่งเร็วเกินกว่า160-170 กม/ชม. ก็สามารถพัฒนาทางรถไฟ Metre Gauge ให้วิ่งได้เร็วได้ อีกทั้งยังใช้เงินน้อยกว่า แต่หากรัฐบาลตัดสินใจจะสร้างรถไฟความเร็วสูงที่วิ่งเร็วกว่า 200 กม/ชม. คงต้องเปลี่ยนแนวคิดใหม่ทั้งหมดโดยปรับเปลี่ยนขนาดรางเป็น Standard Gauge อย่างแน่นอน
อย่างไรก็ตาม จากแนวคิดของนักวิชาการและผู้เชี่ยวชาญด้านกิจการรถไฟฯ สอดคล้องกับรัฐมนตรีกระทรวงคมนาคม ที่ระบุว่า หากต้องการสร้างทางรถไฟใหม่ คงต้องใช้ Standard Gauge เพื่อรองรับการเชื่อมโยงโครงข่ายระหว่างประเทศเพื่อนบ้านที่ใช้รางขนาด 1.435 เมตร หรือจีนซึ่งมุ่งมั่นจะสร้างรถไฟความเร็วสูงเชื่อมไทยขณะเดียวกันยังต้องใช้รางขนาด 1 เมตร เพื่อเชื่อมกับเพื่อนบ้านโดยเฉพาะกลุ่มประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ทั้งมาเลเซีย พม่า คาดว่าการจัดเวิร์กช็อปของ สนข.และ ร.ฟ.ท. คงจะตอบโจทย์ครั้งนี้ได้ว่า ต่อไปไทยควรใช้รางขนาดใดจึงเหมาะสมและยั่งยืน

ทั้งนี้ พล.ต.ท.ชัจจ์ รมช.คมนาคม กล่าวว่า ได้เสนอในที่ประชุมคณะกรรมการกำกับนโยบายด้านรัฐวิสาหกิจ (กนร.) ที่มี กิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกฯและ รมว.คลัง เป็นประธาน เมื่อวันที่ 12 ก.ย. ว่า การสร้างรถไฟฟ้าสายสีแดงบางซื่อ-รังสิตที่มีแผนก่อสร้างเป็นรางขนาด 1 เมตรนั้นไม่เหมาะสม แต่ควรเปลี่ยนเป็นรางมาตรฐาน 1.435 เมตร
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
black_express
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/03/2006
Posts: 10060
Location: อุตรดิตถ์ - กรุงเทพฯ

PostPosted: 13/09/2012 12:57 pm    Post subject: Reply with quote

ยังดื้อได้ใจอีกแฮะ Sad
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42624
Location: NECTEC

PostPosted: 13/09/2012 4:44 pm    Post subject: Reply with quote

นี่คือความรู้สึกประชาชน หลังจากที่ได้ข่าวบิ๊กชัจจ์และ มะเขือเทศระดมพล 3 พันบีบให้แก้ราง ไม้งั้นจะเผากระทรวงทิ้ง ดังนี้

nb2 wrote:
แรกๆ ก็เข้าใจว่าไอ้แก่ เพียงแต่โง่อวดฉลาด แต่ไปๆมาๆ รู้สึกทะแม่งๆ เหมือนมีนัยยะซ่อนเร้น
เรื่องผลประโยชน์ อย่างที่หลายคนวิเคราะห์จริงๆ ซะแล้ว เพราะไอ้แก่มันค้านหัวชนฝาต้องล้มให้ได้
ถ้าไม่ได้ก็ต้องตายกันไปข้างหนึ่ง เมื่อเถียงด้วยเหตุผลไม่ได้ ก็ใช้สูตรเดิมที่นิยมกันสำหรับการล้มล้างอะไรๆ
ทีตัวเองไม่ต้องการ
- แจ้งความ ข้อหา....ตามมาตรา....
- สร้างกระแสข่าวลือ ว่ามีการทุจริต
- ใช้มวลชน สร้างกฎหมู่ ก่อม็อบ สร้างกระแสกดดัน

เวรกรรมของประเทศไทยจริงๆ ที่มีนักการเมืองแบบนี้
แก่ไม่อยู่ส่วนแก่..ถ้าส่งไปอยู่บ้านบางแค ก็คงไปทำเขาเดือดร้อนอีก
ต้องก่อม็อบสู้ม็อบ กันรึเปล่าเนี่ย ให้มันรู้เช่นเห็นชาติ กันไปเลยจะดีมั้ย
ตอนนี้ไม่สนเรื่องพรรค เรื่องสีแล้ว ช่วยกันรุมด่าไอ้แก่นี่ให้สะใจก่อนก็แล้วกัน


Chuanchun wrote:
ผมว่า เดี๋ยวก็อ้าง 15 ล้านเสียงเลือกเค้ามา เค้าจะข่มขืนปู้ยี้ปู้ยำประเทศนี้ยังไงก็ได้ แต่ คุณจารุพงศ์ กับ ดร.ชัชชาติ ก็ พรรคเพื่อไทยไม่ใช่เหรอ ทั้งสองคนยังเข้าใจปํญหาระบบรางในประเทศไทยเลย นี่ขนาดราง 1 เมตร วิ่งแค่ 90กม/ชม ยังมีอุบัติเหตุอยู่บ่อยๆเลย ขนาดราง1.435 ไม่ใช่ไม่ดี แต่ ประเทศไทยตอนนี้แค่ทำราง1เมตรให้เป็นรางคู่ทั่วประเทศ ยังชาติหน้าตอนบ่ายๆ 1.435ค่อยทีหลังก็ได้ แล้วดันมาใช้สายสีแดงเป็นแพะซะอีก พี่น้อง ปทุม รังสิต เมืองเอก ดอนเมือง สรงประภา หลักสี่ เมืองทอง บางเขน งามวงศ์วาน ประชานิเวศน์ อย่าไปยอมมันครับเอาไงก็เอากัน กูไม่ยอมให้พวกไร้เหตุผลพวกนี้มาขืนใจพวกเราอีกต่อไป เครียด วะ


sawatsri wrote:
เริ่มออกลายกันแล้วครับว่านี่เป็น "การเมืองภายใน" อย่างชัดเจน ผมเองก็บ้าระห่ำไปในช่วงแรก แต่หากตรองดูแล้วก็ควรจัดวางเหตุผลในการให้ข้อมูลแก่คนทั่วไปให้ดี เพื่อให้คนทั่วไปได้รับรู้ความจริงเกี่ยวกับรถไฟในปัจจุบัน ขณะเดียวกันก็ไม่อยู่ในวงขัดแย้งของคนที่ต้องการผลประโยชน์

สนับสนุนให้พวกเราเปิดเผยข้อเท็จจริงอย่างสุภาพชนครับ


http://www.skyscrapercity.com/showthread.php?t=904602&page=96
Back to top
View user's profile Send private message
srinopkun
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 08/04/2010
Posts: 2877
Location: นครปฐม

PostPosted: 13/09/2012 5:38 pm    Post subject: Reply with quote

เวลาพวกเขาเหลือน้อยแล้วครับ

เราจึงเห็นเขาดิ้นรนต่างๆนาๆ ในรูปแบบที่ "ไม่น่าเชื่อ" ---> ไปจนถึงขั้น "เหลือเชื่อ"

เรื่อง "ไม่น่าเชื่อ" เช่น จะทำรถไฟความเร็วสูง ก่อนจะแก้ไขปัญหารถไฟปกติและโครงข่ายรถไฟฟ้ารอบๆเมืองหลวงให้แล้วเสร็จ

เรื่อง "เหลือเชื่อ" เช่น จะเปลี่ยนรางเป็น Standard Guage ทั้งหมด

ก็ได้แต่ดูและจำไว้นะครับ อย่าไปลืมพวกเขาง่ายๆ

ฮ่า ๆ ๆ
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44320
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 13/09/2012 5:39 pm    Post subject: Reply with quote

จ่อชงสายสีแดงบางซื่อ-รังสิต"ปู"ตัดสินสัปดาห์หน้า
บ้านเมือง วันที่ 13/09/2555 เวลา 17:10 น

นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รัฐมนตรีว่ากระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังประชุมร่วมหน่วยงานที่เกี่ยวเพื่อประชุมเชิงปฏิบัติการ หรือการทำWorkshop เพื่อหาข้อสรุปวางแผนอนาคตโครงการรถไฟฟ้าสีแดง และโครงการรถไฟทางคู่ โดยมีพล.ต.ท.ชัจจ์ กุลดิลก และนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกะทรวงคมนาคม ร่วมประชุม อย่างไรก็ตาม ที่ประชุมมีข้อสรุปว่าจะต้องรวบรวมข้อดี และข้อเสียของทั้ง 2 โครงการ เพื่อเสนอต่อนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ภายในสัปดาห์หน้า เพื่อพิจารณารายละเอียดอีกครั้ง

“รถไฟชานเมืองสายสีแดงสัญญา 1 นั้น ผมยืนยันว่าเดินหน้าเซ็นสัญญาแน่นอน ส่วนรถไฟชานเมืองส่วนบางซื่อ-ตลิ่งชันนั้น ตอนนี้ก็ก่อสร้างแล้วเสร็จแล้วก็เดินหน้าทดสอบและคาดว่าจะเปิดให้บริการประมาณปลายปี 2555นี้ ส่วนที่กรณีที่พล.ต.ท.ชัจจ์ ติง เรื่องสายสีแดงบางซื่อ-รังสิตนั้น ว่าระบบรางจะสามารถเชื่อมต่อกับรถไฟแอร์พอร์ตลิงค์ได้หรือไม่นั้น ก็ต้องศึกษาด้วย ส่วนกรณีรถไฟทางคู่นั้น ที่ผ่านมาการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ได้วิเคราะห์แล้วว่าจะต้องทำรถไฟทางคู่ทั้ง 6 จุด เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ และตั้งเป้าหมายลดต้นทุนขนส่งลด 2 % ซึ่งทั้งหมดต้องทำรายละเอียดเสนอนายกรัฐมนตรีในสัปดาห์หน้าทั้งหมด” นายจารุพงศ์ กล่าว

------------

“คมนาคม”ชง”ปู”เคลียร์เกาเหลารถไฟสีแดง “จารุพงศ์””ยันเดินหน้าเซ็นสัญญาผู้รับเหมา
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 13 กันยายน 2555 20:48 น.

“จารุพงศ์”ชง”นายกฯ”ยุติปัญหารถไฟสีแดง,ทางคู่ สัปดาห์หน้า ชี้ต้องเซ็นสัญญาสายสีแดงเพราะประมูลแล้ว ยันไม่ขัดแย้ง”ชัจจ์”แค่ความเห็นต่างกันเท่านั้น ด้าน”ชัจจ์”ค้านชนฝา ล้มประมูลสัญญา 2 สีแดง ใช้ราง 1.345 เมตรของแอร์พอร์ตลิ้งค์ แทน ร.ฟ.ท.เผยแก้สัญญาหรือล้มประมูลถูกผู้รับเหมาฟ้องแน่ และเสียโอกาส อีก 12 ปีถึงได้ใช้รถไฟฟ้า

เมื่อวันที่ 13 กันยายน นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมพร้อมด้วยพล.ต.ท.ชัจจ์ กุลดิลกและนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ได้ร่วมประชุมประชุมเชิงปฏิบัติการ (Workshop) อนาคตโครงการรถไฟฟ้าสายสีแดงและโครงการทางคู่ เพื่อหาข้อสรุปในการก่อสร้างและการปรับขนาดรางจาก1 เมตร (Meter Gauge) เป็นขนาด 1.345 เมตร (Standard Gauge) โดยมีสำนักนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) และการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) รายงานการศึกษา โดยนายจารุพงศ์ เปิดเผยว่า เบื้องต้นรถไฟสายสีแดงช่วง บางซื่อ-รังสิต สัญญา 1 (สถานีกลางบางซื่อ) จะต้องเซ็นสัญญากับกิจการร่วมค้า SU แน่นอน ส่วนสัญญา 2 (งานโยธาสำหรับทางรถไฟ) เปิดซองราคาไปแล้วและส่วนต่อไปมหาชัย ซึ่งใช้ราง1 เมตรจะปรับเป็น 1.435 เมตร และใช้ร่วมกับแอร์พอร์ตลิ้งค์ได้อย่างไร จะต้องประชุมในรายละเอียดอีกครั้ง

ส่วนรถไฟทางคู่ 6 เส้นทาง 873 กม.วงเงิน 7.7 หมื่นล้านบาทนั้น จำเป็นต้องเดินหน้าต่อไปเพราะเป้าหมายเมื่อโครงการแล้วเสร็จจะเพิ่มประสิทธิภาพการขนส่งสินค้าและลดต้นทุนด้านโลจิสติกส์ได้ 2 % ตามแผน ส่วนข้อเสนอพล.ต.ท.ชัจจ์ที่ให้เลือกก่อสร้างเป็นช่วงๆ เฉพาะจุดที่มีปัญหารอหลีกเพื่อประหยัดค่าก่อสร้างและนำเงินไปลงทุนรถไฟความเร็วสูงนั้นจะต้องศึกษาเพิ่มเติม โดยให้ร.ฟ.ท.ทำข้อมูลแต่ละแนวทางและข้อดีข้อเสียเพื่อ รายงานนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และประชุมหาข้อสรุปในสัปดาห์หน้าซึ่งเชื่อว่าจะได้ข้อยุติที่ชัดเจน

”นายกฯ ให้รมต.คมนาคมทั้ง 3 คนร่วมกันหาคำตอบให้ชัดเจนว่า อนาคตของรถไฟฟ้าสีแดงและรถไฟทางคู่จะเป็นอย่างไร จะมีหรือไม่มี วิเคราะห์ข้อดีข้อเสียและเงินลงทุนที่ต้องใช้เพิ่มที่ประชุมไม่ได้ขัดแย้งกัน เพราะความเห็นแตกต่างกันได้ ซึ่งข้อเสนอและเรื่องที่พล.ต.ท.ชัจจ์เป็นห่วงให้ร.ฟ.ท.นำไปปรับปรุงแก้ไขและจะอยู่ในรายงานนี้ด้วย"นายจารุพงศ์กล่าว

พล.ต.ท.ชัจจ์กล่าวว่า ยังยืนยันความคิดที่ควรยกเลิกรถไฟสีแดงสัญญา 2 ซึ่งบมจ.อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ ชนะประมูล เพราะการวางรางขนาด 1 เมตร แนวเส้นทางซ้อนกับแอร์พอร์ตลิ้งค์ซ้อนที่มีทั้งขบวนรถด่วน(Express Line)และรถธรรมดา (City Line) โดยสามารถต่อขยายจากดอนเมืองไปถึงรังสิตได้ สีแดงจึงไม่จำเป็นต้องสร้าง ส่วนรถไฟทางคู่ 6 เส้นทางควรก่อสร้างเฉพาะช่วงรอหลักเพื่อประหยัดเงินลงทุนเอาไปใช้โครงการรถไฟความเร็วสูงที่เป็นศักดิ์ศรีของประเทศดีกว่า และไม่เห็นด้วยกับรายงานของร.ฟ.ท.ที่จัดทำมาเพราะมีหลายข้อไม่ตรงกับข้อเท็จจริง

ด้านนายชัชชาติ กล่าวว่า รถไฟสีแดงจะเชื่อมการเดินทาง 2 ระบบทั้งรถไฟฟ้า รถไฟทางไกล ยกระดับทำให้ไม่มีปัญหาจุดตัดกับถนนส่วนราง 1 เมตรนั้น หากเห็นว่าไม่เหมาะสมสามารถปรับเป็น 1.435 เมตรได้ หรืออาจจะปรับลดจำนวนราง1 เมตรที่ตัวสถานีกลางบางซื่อได้ หลักการคือต้องดูว่าโครงสร้างไหนใช้ร่วมกันได้บ้างเพื่อประหยัดเงินลงทุน สำหรับรถไฟทางคู่นั้น จะต้องนำแผนรถไฟความเร็วสูงมาพิจารณาร่วมและปรับให้เหมาะสมในแต่ละเส้นทาง เป็นต้น

นายวรวุฒิ มาลา ผู้อำนวยการฝ่ายการพาณิชย์ ร.ฟ.ท. กล่าวว่า การศึกษาข้อมูลในการดำเนินโครงการรถไฟชานเมืองสายสีแดง บางซื่อ-รังสิตพบว่า หากลงนามในสัญญากับผู้รับเหมาในขณะนี้จะสามารถดำเนินโครงการได้ทันที ไม่เกิดความสูญเปล่ารวมถึงสายสีแดงช่วงบางซื่อ-ตลิ่งชัน ที่ก่อสร้างเสร็จแล้วก็จะสามารถเชื่อมต่อกับระบบขนส่งมวลชนรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน และสายสีม่วงที่สถานีบางซื่อได้ภายใน5 ปี แต่หากมีการแก้ไขปรับเปลี่ยนแผนการดำเนินงานใหม่ จะต้องใช้เวลาอีกประมาณ 3-5ปี ในการออกแบบรายละเอียด เงินกู้ต่างๆใหม่ และหากมีการยกเลิกโครงการเพิ่มเริ่มใหม่จะต้องใช้เวลา 8-12 ปี จึงจะสามารถใช้บริการได้

แต่หากแก้ไขแผนโดยทำสัญญาปลายเปิดเพื่อเปลี่ยนขนาดรางจาก 1 เมตรเป็น 1.435 เมตรได้ นอกจากสูญเสียงบประมาณสีแดงช่วงตลิ่งชันแล้วยังอาจถูกฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายจากบริษัทผู้ชนะการประกวดราคาเพราะถือเป็นการแก้ไข TOR ในสาระสำคัญ และยังเสียโอกาสในการพัฒนาระบบรถไฟฟ้าทางไกลจากทั่วประเทศ ที่จะเข้าสู่ศูนย์กลางที่บางซื่อ


Last edited by Mongwin on 14/09/2012 6:56 am; edited 1 time in total
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
kikoo
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 01/02/2010
Posts: 1667
Location: มอ.ตรัง และ สถานีตรัง

PostPosted: 14/09/2012 1:32 am    Post subject: Reply with quote

สรุปคือ...

มีปัญหา(?)เฉพาะเรื่องความกว้างของรางของสายสีแดงบางซื่อ-รังสิต เพราะความที่ผู้ใหญ่บางท่าน อยากให้เอาARLกับHSTมาร่วมทางเดียวกันกับสายสีแดงได้ จึงอยากถ่างรางสายนั้นเป็น1.435เมตร

แต่ไปๆมาๆ ผู้ใหญ่ท่านนั้นดันทำเรื่องให้ลุกลาม ไปเป็นเรื่องการแก้ความกว้างของรางทั่วประเทศ ? Question
_________________
ความคืบหน้าโครงการปรับปรุงทางช่วงที่วัง-กันตัง
http://portal.rotfaithai.com/modules.php?name=Forums&file=viewtopic&t=5618
Back to top
View user's profile Send private message Send e-mail
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44320
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 14/09/2012 2:18 pm    Post subject: Reply with quote

จารุพงศ์สั่งร.ฟ.ท.เตรียมข้อมูลให้นายกฯ เคาะตัดสินสร้างรถไฟสายสีแดง
สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 14 กันยายน 2555 09:22:42 น.

นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รมว.คมนาคม ยืนยันว่า กระทรวงคมนาคมจะยังคงเดินหน้าโครงการรถไฟสายสีแดง ช่วงบางซื่อ-รังสิต เนื่องจากมีงานก่อสร้างสถานีบางซื่อ ซึ่งจะเป็นสถานีกลางของระบบรถไฟฟ้าต่างๆ ส่วนโครงการรถไฟทางคู่ 6 เส้นทางก็ยังคงให้เดินหน้าต่อไปเช่นกัน โดยเฉพาะโครงการก่อสร้างฉะเชิงเทรา-คลองสิบเก้า-แก่งคอย ระยะทาง 106 กม. ซึ่งที่ผ่านมาคณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติดำเนินงานแล้ว

ทั้งนี้ ได้มอบหมายให้การรถไฟแห่งประเทศไทย(ร.ฟ.ท.) ไปทำการศึกษาเพิ่มเติมกรณีข้อสังเกตของ พล.ต.ท.ชัจจ์ กุลดิลก รมช.คมนาคม ถึงข้อดีข้อเสียและรวบรวมข้อมูลทั้งหมดเสนอให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้พิจารณาภายในสัปดาห์หน้า ซึ่งระหว่างนี้จะยังไม่มีการลงนามสัญญาจ้างสัญญา 1 โครงการรถไฟสายสีแดง เพราะต้องการขอความเห็นจากนายกรัฐมนตรีก่อน

อนึ่ง ก่อนหน้านี้ พล.ต.ท.ชัชจ์ ให้ความเห็นส่วนตัวว่าไม่ควรก่อสร้างรถไฟสายสีแดง ช่วงบางซื่อ-รังสิต เนื่องจากรัฐบาลมีแผนก่อสร้างรถไฟแอร์พอร์ตลิงค์เพื่อเชื่อมต่อสุวรรณภูมิ-พญาไท-ดอนเมืองอยู่แล้ว ผู้โดยสารที่จะมาใช้บริการไม่ได้แยกว่าเป็นประชาชนหรือนักท่องเที่ยว เพราะสามารถใช้บริการเอ็กซ์เพรสและซิตี้ไลน์จึงไม่ควรทำให้เกิดความซ้ำซ้อน

-----------

เดินหน้ารถไฟฟ้าสายสีแดง บางซื่อ-รังสิต เสนอนายกฯ สัปดาห์หน้า
มติชนออนไลน์ วันที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2555 เวลา 14:10:30 น.

เมื่อวันที่ 13 กันยายน นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้ประชุมเชิงปฏิบัติการ (เวิร์กช็อป) ร่วมกับ พล.ต.ท.ชัจจ์ กุลดิลก และนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เรื่อง อนาคตโครงการรถไฟฟ้าสายสีแดง และโครงการรถไฟทางคู่

นายจารุพงศ์กล่าวว่า ที่ประชุมมีความเห็นสอดคล้องกันเกี่ยวกับการดำเนินโครงการรถไฟชานเมืองสายสีแดง ช่วงบางซื่อ-รังสิต โดยการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) จะลงนามสัญญา 1 งานก่อสร้างสถานีกลางบางซื่อและศูนย์ซ่อมบำรุงกับกิจการร่วมค้าเอสยู เพื่อให้เริ่มการก่อสร้างอย่างแน่นอน ส่วนช่วงบางซื่อ-ตลิ่งชัน ก็ให้เดินรถบริการกับประชาชน ขณะที่รถไฟทางคู่ ที่อยู่ระหว่างการดำเนินโครงการ 6 เส้นทาง ก็ให้เดินหน้าต่อไป โดยจะนำข้อมูลทั้งหมดที่ได้หารือร่วมกันเสนอให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี รับทราบในสัปดาห์หน้า

“การหารือร่วมกันในครั้งนี้เป็นการยืนยันว่าไม่มีความขัดแย้งกันเกิดขึ้นระหว่างผมกับ พล.ต.ท.ชัจจ์ เพราะ พล.ต.ท.ชัจจ์ก็เข้าใจ ส่วนประเด็นข้อสงสัยและเป็นกังวลของ พล.ต.ท.ชัจจ์ ที่นำเสนอโดยเฉพาะเรื่องของการพัฒนาเป็นรางสแตนดาร์ดเกจ หรือขนาด 1.435 เมตร แทนที่จะเป็นมิเตอร์เกจ หรือขนาด 1 เมตร ก็ได้มีการพิจารณาด้วยเช่นเดียวกัน แต่คงเป็นการพัฒนาควบคู่กันไป เพื่อเป็นรางที่จะใช้งานในอนาคต ส่วนรางมิเตอร์เกจ ก็ต้องดำเนินการเพื่อรองรับปริมาณการขนส่งสินค้าให้มากยิ่งขึ้น ซึ่งภายหลังนำเสนอข้อมูลกับนายกรัฐมนตรีแล้ว จะต้องจัดเวิร์กช็อปเพื่อพิจารณารายละเอียดร่วมกันอีกครั้ง”

นายวรวุฒิ มาลา ผู้อำนวยการฝ่ายการพาณิชย์ ร.ฟ.ท. กล่าวว่า ร.ฟ.ท.ได้มีการศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับการดำเนินโครงการรถไฟชานเมืองสายสีแดง บางซื่อ-รังสิต แล้วพบว่า หากลงนามในสัญญาในขณะนี้จะสามารถดำเนินโครงการได้ทันที ไม่เกิดความสูญเปล่าของช่วงบางซื่อ-ตลิ่งชัน ที่ดำเนินการเสร็จแล้ว สามารถเชื่อมต่อกับระบบขนส่งมวลชนรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน และสายสีม่วงที่สถานีบางซื่อได้ภายใน 5 ปี แต่หากมีการแก้ไขปรับเปลี่ยนแผนการดำเนินงานใหม่ จะต้องใช้เวลาอีกประมาณ 3-5 ปี ในการออกแบบรายละเอียด เงินกู้ต่างๆ ใหม่ และหากมีการยกเลิกโครงการเพื่อเริ่มใหม่จะต้องใช้เวลา 8-12 ปี จึงจะสามารถใช้บริการได้ ทั้งนี้ หากมีการแก้ไขแผนการดำเนินงานใหม่ก็อาจจะถูกฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายจากบริษัทผู้ชนะการประกวดราคา และยังเสียโอกาสในการพัฒนาระบบรถไฟฟ้าทางไกลจากทั่วประเทศ ที่จะเข้าสู่ศูนย์กลางที่บางซื่อ
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Display posts from previous:   
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> โครงการระบบรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนในอนาคต All times are GMT + 7 Hours
Goto page Previous  1, 2, 3, 4, 5 ... 147, 148, 149  Next
Page 4 of 149

 

Share |

Jump to:  
You cannot post new topics in this forum
You cannot reply to topics in this forum
You cannot edit your posts in this forum
You cannot delete your posts in this forum
You cannot vote in polls in this forum

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group


Forums ©