ลองคิดกันเล่นๆว่า ทางคู่ช่วงลพบุรี-บ้านหมี่ จะสร้างอย่างไร

[nutsiwat]

ในความคิดของผม ผมคิดว่าหากจะทำเส้นทางทางคู่ตั้งแต่ จ.ลพบุรี ไปจนถึง จ.นครสวรรค์ อุปสรรคที่สำคัญก็คือ เส้นทางตั้งแต่สถานีลพบุรีที่่ต้องผ่านหน้าศาลพระกาฬ ซึ่งเป็นมีพื้นที่ที่แคบพอสมควร ด้านซ้ายหากมุ่งหน้าไปทางภาคเหนือก็จะเป็นศาลพระกาฬ สำหรับด้านขวาของเส้นทางทางรถไฟจะเป็น ถ.ราชมนู และบ่อน้ำพุ โดยส่วนตัวของผม อยากจะให้ขยายเส้นทางรถไฟด้านขวาของเส้นทางรถไฟที่มุ่งไปสู่ภาคเหนือ ก็คือฝังที่ติดกับ ถ.ราชมนู เนื่องจากไม่ต้องการให้เส้นทางรถไฟเข้าไปใกล้ชิดกับศาลพระกาฬมากเกินไป เวลาที่รถไฟวิ่งผ่านด้านหน้า หากจะก่อสร้างเส้นทางรถไฟรางคู่ อาจจะขอพื้นที่บางส่วนของ ถ.ราชมนู รวมทั้งมีการรื้อน้ำพุด้านหน้าทางเข้าค่ายสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ออกไป เพื่อให้ได้พื้นที่ในการก่อสร้างเส้นทาง หากการเดินรถบางขบวนที่ไม่มีการจอดที่สถานีลพบุรี ขบวนรถที่วิ่งมาก็ยังทำความเร็วได้ ถึงจะไม่มากก็ตาม เป็นอะไรที่วิศวกรต้องคิดหาวิธีทางวิศวกรรม บางทีสิ่งที่พวกเราคิดกันไว้ อาจจะไม่ใช่หรือเหมือนอย่างที่วิศวกรคิดก็ได้นะครับ ขอบคุณครับ

[digimontamer]

เห็นด้วยครับผม
ถ้าขอคืนพื้นที่จากถนนราชมณูได้ ก็จะทำให้มีพื้นที่กว้างสองข้างทางเพียงพอจะเว้นระยะห่างจากศาลพระกาฬ และพระปรางค์สามยอดได้มากขึ้นครับ เป็นกันชนระหว่างทางไปด้วยเลย

[Nakhonlampang]

^
ทั้ง 2 ท่านเข้าใจอะไรคลาดเคลื่อนไปหรือเปล่าครับ

ศาลพระกาฬกับพระปรางค์สามยอดอยู่คนละฝั่งของทางรถไฟนะครับ

ถ้าจะบอกว่าไม่ให้ขยับเข้าใกล้พระปรางค์สามยอดมากขึ้น แต่ใช้พื้นที่ถนนราชมนูแทน
ก็แปลว่าใช้รางปัจจุบันเป็นทางขึ้น แล้วสร้างรางใหม่ทางฝั่งถนนราชมนู ปัญหาก็คือ
1.ถนนราชมนูจะไม่สามารถใช้สัญจรได้ ดังนั้นมีความชอบธรรมอะไรที่จะใช้เป็นข้ออ้างในการใช้พื้นที่ถนนราชมนู
2.รางใหม่จะอยู่ใกล้ศาลพระกาฬมาก ชนิดที่ว่าแทบจะติดรั้วปิดหน้าประตูศาลพระกาฬเลยนะครับ แถมยังมีวัดนครโกษาที่อยู่ใต้ศาลพระกาฬลงมาอีก 1 แห่งด้วยครับ

ถ้าลองกลับไปอ่านแนวคิดของผมให้ดี จะเห็นว่าทางคู่ตามแนวคิดของผมจะไม่กระทบการใช้พื้นที่ของใคร ไม่ต้องเวณคืน ไม่มีใครเดือดร้อน
อย่าลืมว่าปัญหาที่ดินไม่ใช่เรื่องที่จะผ่านได้ง่ายๆ ขนาดที่ของรถไฟเอง แล้วมีคนมาบุกรุก เวลารถไฟต้องการจะใช้งานยังลำบากเลย
(ดูตัวอย่างล่าสุดจากโครงการรถไฟฟ้าสายสีแดงช่วงตลิ่งชัน-ศิริราชก็ได้)

ประเด็นหลักที่ทำให้ได้มีการลับสมองเล่นๆในที่นี้ ก็คือประเด็นเรื่องความสั่นสะเทือนกับโบราณสถานนั่นแหละครับ
ถ้าจะสร้างทางคู่ผ่านลพบุรีตามแนวเส้นทางปัจจุบัน มันเป็นไปไม่ได้อยู่แล้วที่จะสร้างโดยไม่ทำให้ทางรถไฟขยับเข้าใกล้โบราณสถานใดๆมากขึ้น
ถ้าไม่ให้เข้าใกล้แห่งนี้ ก็ต้องไปเข้าใกล้แห่งนั้น แถมยังกระทบกระเทือนเดือดร้อนชาวบ้านอีก
ผมถึงได้เสนอการนำเทคโนโลยีเข้ามาแก้ไขเรื่องความสั่นสะเทือน ซึ่งเทคโนโลยีมันมีอยู่แล้ว เพียงแต่ราคามันสูงกว่าการสร้างรางแบบธรรมดาเท่านั้นเอง
แต่ถ้าเป็นสิ่งที่จำเป็น มันก็คุ้มค่าที่จะทำอยู่แล้วครับ


ฝากปิดท้ายอีกนิดว่าอย่าไปซีเรียสตรงนี้กันให้มากนะครับ กระทู้นี้ก็แค่มาลับสมองกัน เพราะถึงเวลาทำกันจริงๆ เราไม่ได้เป็นคนตัดสินใจครับ

[Wisarut]

4.ลพบุรี-ปากน้ำโพ ระยะทาง 118 กิโลเมตร วงเงิน 10,938 ล้านบาท - งานนี้ได้ทำทางคู่เลี่ยงเมือง ลพบุรี ตั้งแต่กม. 131 + 275.857 ถึง กม. 163 + 788.482 ระยะทาง 32.512 กิโลเมตร มีเขตทาง 60 เมตร ทำให้ต้องสร้างสถานีบนทางเลี่ยงเมืองลพบุรี คือ สถานี ลพบุรีใหม่ และสถานีท่าวุ้ง และ ทำทางคู่ของแท้จาก สถานีท่าแค ที่กม. 136+500 ถึง สถานีปากน้ำโพ กม. 252+109.973 มีเขตทาง 80 เมตร หมายใจว่าจะเสร็จปลายปี 2561 ต่อปี 2562