ข่าว รฟท จาก หนังสือพิมพ์

[Wisarut]

“ปู” ย้ำพัฒนารถไฟ-จัดเรียลิตีสมาร์ทเลดี้-เพิ่มมูลค่าเที่ยวป่ากุยบุรี

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 10
10 สิงหาคม 2556 13:58 น.


“ยิ่งลักษณ์” จ้อรายการ ชูพัฒนารถไฟ เลือกสายบางซื่อ-รังสิต บูรณาการ เพิ่มมูลค่าโอทอป ชวนสตรีร่วมสมาร์ทเลดี้ เรียลลิตี้โชว์ช่องทรู ใครชนะได้นำกองทุน ไปกุยบุรีดูอุทยานฯ เพิ่มป่า แหล่งน้ำ แหล่งอาหารสัตว์ เพิ่มมูลค่าการเที่ยว

วันนี้ (10 ส.ค.) สถานีโทรทัศน์แห่งประเทศไทย ช่อง 11 ได้เผยแพร่รายการรัฐบาลยิ่งลักษณ์ พบประชาชน โดยเป็นการนำบรรยากาศการเดินทางโดยรถไฟของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมด้วยนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม และ พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ปลัดกระทรวงคมนาคม รวมถึง นายประภัสร์ จงสงวน ผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย ซึ่งได้โดยสารขบวนรถไฟเที่ยวพิเศษจากสถานีรถไฟกรุงเทพ (หัวลำโพง) ไปยังจังหวัดนครปฐม โดยมีการประชุม เชิงปฏิบัติการบนรถไฟเป็นครั้งแรก เพื่อประชุมหาแนวทางในการพัฒนารถไฟไทยแบบครบวงจร

นายกฯ กล่าวว่า การโดยสารรถไฟถือเป็นอีกหนึ่งช่องทางในการเดินทางของประชาชน ดังนั้น การพัฒนารถไฟจึงถือเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานประเทศ โดยใช้งบประมาณตามร่างพระราชบัญญัติให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อ การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของประเทศ วงเงิน 2 ล้านล้านบาท โดยหลังจากการประชุมเชิงปฏิบัติการ การพัฒนารถไฟไทย ซึ่งช่วยให้เข้าถึงความเป็นจริง และสามารถเข้าใจสภาพแวดล้อมได้มากยิ่งขึ้น โดยรัฐบาลจะเร่งเพิ่มขีดความสามารถของรถไฟและเพิ่มคุณภาพชีวิตของผู้โดยสารให้ดีขึ้นในระยะยาว ทั้งนี้จะมีการเลือกรถไฟสายสีแดง บางซื่อ-รังสิต ขึ้นมา 1 สาย เพื่อบูรณาการแบบองค์รวม โดยจะทำการศึกษาตั้งแต่ต้นทาง รวมทั้งจะยกระดับการบริหารงานและการบริการให้ดีขึ้น ซึ่งยจะต้องมีความเหมาะสมทั้งค่าโดยสารและความปลอดภัย รวมทั้งส่งเสริมการนำสินค้าโอทอปให้สามารถจำหน่ายตามสถานีรถไฟ เพื่อสร้างรายได้กลับคืนสู่ชุมชน

“ต้นทุนเป็นส่วนหนึ่งแต่สิ่งที่อยากให้มององค์รวมคือมูลค่าเศรษฐกิจและความเจริญที่เกิดขึ้นในบริเวณนั้น เพราะการที่มีการลงทุนจากภาครัฐ ก็อยากให้เห็นว่ามีผลตอบแทนทางเศรษฐกิจ นอกจากนี้ อยากให้ผู้เดินทางทางถนน หรือโหมดทางเครื่องบินมาใช้บริการรถไฟ นอกจากปลอดภัยก็ประหยัดพลังงานที่จะไปใช้กับรถยนต์ ถ้าเรามาศึกษาและทำให้ดี เชื่อว่าจะทำให้พี่น้องประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นด้วย” น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าว

ขณะเดียวกัน นายกฯ กล่าวถึงรถไฟรางคู่ว่ามีการพูดถึงเรื่องมาตรฐานว่าต้องมีมาตรฐานที่เชื่อมต่อในอนาคตถ้าเราจะเชื่อมต่อประเทศเพื่อนบ้านเราก็ต้องมีมาตรฐานนี้ ก็ต้องดูการปรับปรุงราง และเส้นทางที่รองรับต้องปลอดภัย เป็นสิ่งที่ฝากไว้ และเห็นว่าน่าจะบูรณาการกับ รฟม.ในการพัฒนาบุคลากร พัฒนาอัตรากำลังคนให้แพียงพอเพื่อรองรับการพัฒนาที่จะเกิดขึ้นในอนาคต

นายกฯ กล่าวว่า ส่วนเรื่องสินค้าโอทอป เช่น ผ้าม่านที่ใช้ในรถไฟ เรามองว่าเป็นการสร้างมูลค่าเพิ่ม ยิ่งใช้สินค้าจากพื้นฐานได้มากที่สุด คนเห็นใช้กันมากขึ้นก็จะยิ่งทำให้มีการเติบโต เป็นส่วนหนึ่งในการสร้างมูลค่าเพิ่มเข้าไป

[Wisarut]

ชง'ยิ่งลักษณ์'หนุนเช่าหัวรถจักร
โดย กอง บก.ฐานเศรษฐกิจ อสังหา REAL ESTATE -
คอลัมน์ : อสังหาฯ-คมนาคม
ออนไลน์เมื่อ วันอังคารที่ 13 สิงหาคม 2013 เวลา 13:10 น.
ตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 33 ฉบับที่ 2,870 วันที่ 15 -17 สิงหาคม พ.ศ. 255

ร.ฟ.ท.เตรียมชง "ยิ่งลักษณ์" สนับสนุนเช่าหัวรถจักรทดแทนการจัดซื้อที่ล่าช้าไม่ทันการณ์เหตุกระบวนการเยอะ "ประภัสร์" เร่งศึกษาก่อนนำข้อมูลเสนอบอร์ดและคมนาคมส่งต่อครม.ไฟเขียว

เน้นเพื่อการขนส่งสินค้าแล้วนำรายได้แบ่งมาจ่ายค่าเช่ารายเดือน เบื้องต้นอาจเช่า 5-10 หัวเล็งทั้งของใหม่และมือ 2 ด้านป่าไม้สันติหูผึ่งเตรียมทาบทามจีนร่วมสนับสนุนโครงการ คาดญี่ปุ่น-เกาหลีสนใจร่วมประมูลแน่

นายประภัสร์ จงสงวน ผู้ว่าการ การรถไฟแห่งประเทศไทย(ร.ฟ.ท.) เปิดเผย "ฐานเศรษฐกิจ" ว่าในการประชุมสัญจรทางรถไฟ ของนางสาวยิ่งลักษณ์ นายกรัฐมนตรี ทางรถไฟ จากกรุงเทพฯไป อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เมื่อเร็วๆนี้นั้น ตนได้หารือกับนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ถึงโครงการขอเช่าหัวรถจักรมาวิ่งให้บริการทดแทนการจัดซื้อเนื่องจากเห็นว่าการซื้อจะใช้เวลานานหลายปีกว่าจะได้หัวรถจักรมาใช้งาน จึงไม่ทันต่อความต้องการในปัจจุบัน

อย่างไรก็ดีทั้งนายกรัฐมนตรีและรมว.คมนาคมต่างเห็นว่าเป็นแนวคิดที่ดีสมควรสนับสนุนจึงสั่งให้ผู้เกี่ยวข้องไปศึกษาข้อมูลต่างๆ แล้วค่อยมานำเสนอรายละเอียดกันอีกครั้ง อาทิ ความคุ้มค่าด้านการลงทุน ตลอดจนเงื่อนไขเป็นอย่างไร การบำรุงรักษา มีที่ไหนเปิดให้เช่า ราคาสูงต่ำเพียงใด จะต้องใช้งบจำนวนเท่าไหร่ ในเบื้องต้นคาดว่าจะใช้งบของร.ฟ.ท.เอง หลังจากนี้ก็จะนำเสนอบอร์ดการรถไฟฯ ผู้บริหารกระทรวงคมนาคม และนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีผลักดันเข้าสู่การประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)โดยเร็วต่อไป

ต่อเรื่องนี้นายวิโรจน์ เตรียมพงศ์พันธ์ รองผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย กลุ่มยุทธศาสตร์และอำนวยการ กล่าวว่า ในเบื้องต้นจะเน้นเช่าเพื่อให้บริการขนส่งสินค้า ทดแทนการจัดซื้อตามที่ร.ฟ.ท.มีแผนจัดซื้อประมาณ 77 หัว ซึ่งคาดว่าต้องใช้เวลานานกว่าจะแล้วเสร็จ โดยเงื่อนไขในเบื้องต้นผู้ให้เช่าควรจะต้องบำรุงรักษาดูแลหัวรถจักรให้ร.ฟ.ท.ควบคู่กันไปด้วย ส่วนคนขับจะใช้ของร.ฟ.ท.ทั้งหมด

"ร.ฟ.ท.ไม่เคยดำเนินการในกรณีนี้มาก่อนจึงต้องศึกษาข้อมูลอย่างละเอียดอีกครั้ง หลังจากนั้นจะนำเสนอผู้บริหารระดับสูงอนุมัติให้ดำเนินการต่อไป ส่วนการจ่ายค่าเช่าจะทยอยจ่ายเป็นรายเดือน คาดว่าจะเช่าในระยะยาว 5-10 ปี หากได้ผลตอบรับที่ดีก็จะดำเนินการเช่าอย่างต่อเนื่องกันไปเพราะเห็นว่าน่าจะช่วยลดค่าใช้จ่ายในหลายอย่าง โดยในเบื้องต้นงบประมาณที่ใช้และจำนวนที่จะเช่ารถคงต้องไปหาข้อมูลรายละเอียดในเชิงลึกอีกครั้งว่าจะบริหารจัดการด้วยการนำรายได้จากการขนส่งสินค้าแบ่งมาใช้เพื่อการนี้ได้มากน้อยเพียงใด แต่คาดว่าจะใช้จำนวนตั้งแต่ 10 หัวขึ้นไป"

ด้านแหล่งข่าวระดับสูงบริษัทป่าไม้สันติ จำกัด ผู้ได้รับการเซ็นสัญญาจัดซื้อ 20 หัวรถจักรของจีนให้กับร.ฟ.ท.กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า น่าจะเป็นการหาตลาดค่อนข้างยากเนื่องจากกระบวนการผลิตรถใหม่จะต้องใช้เวลานานไม่น้อยกว่า 1 ปี อีกครั้งบริษัทใหญ่ๆ ในจีน เกาหลี ญี่ปุ่น จะเน้นการผลิตตามออร์เดอร์เท่านั้น ส่วนหากจะต้องการใช้รถมือ 2 ก็ต้องลุ้นกันอีกว่าขณะนี้จะมีให้เช่ามากน้อยเพียงใด และไม่มองข้ามความคุ้มค่าด้านค่าเช่าและค่าซ่อมบำรุง ซึ่งหากการรถไฟฯเปิดให้เช่าจริงๆ คาดว่าผู้นำการผลิตหัวรถจักรขนาดใหญ่ของโลกอย่างจีน เกาหลี ญี่ปุ่น น่าจะตอบรับการแข่งขันอย่างแน่นอน

[Wisarut]

ดีเลย์ครึ่งชั่วโมง! 'ชัชชาติ' ลองของ ขึ้นรถไฟชั้น3
หน้าการเมือง
โดย: ไทยรัฐออนไลน์
16 สิงหาคม 2556, 09:36 น.


"ชัชชาติ" ลองของ นั่งรถไฟชั้น 3 ต้องรอช้ากว่ากำหนดครึ่งชั่วโมง พร้อมสอบถามปัญหาพนักงานขับรถ เพื่อเตรียมวางนโยบาย

เมื่อเวลาประมาณ 08.00 น. วันที่ 16 ส.ค. มีรายงานว่า นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รมว.คมนาคม ได้เดินทางไปทดลองขึ้นรถไฟ ชั้น 3 จากสถานีบางซื่อ โดยพบว่ารถไฟมาช้ากว่ากำหนดครึ่งชั่วโมง หลังจากรถไฟมาถึง ได้มีการพูดคุยกับพนักงานขับรถ พร้อมสอบถามปัญหาที่เกิดขึ้นด้วย

ทั้งนี้ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวของนายชัชชาติ ได้โพสต์ข้อความระบุว่า

"กำลังรอรถไฟชั้น 3 จากสถานีบางซื่อ เพื่อไปเข้าพื้นที่ตรวจงานที่จังหวัดสุรินทร์ ท่านฝากขอโทษที่ไม่ได้แจ้งให้ทราบล่วงหน้า แต่ได้เจอประสบการณ์จริง รถไฟตอนนี้ช้ากว่ากำหนดไปแล้วครึ่งชั่วโมงครับ"

จากนั้นได้โพสต์อีก 1 ข้อความคือ "วันนี้ขึ้นรถไฟ ก็เลยได้มานั่งคุยกับพนักงานขับรถไฟและตำรวจรถไฟ เรื่องกระบวนการเดินรถ การสื่อสารภายในรถหากเกิดปัญหาขึ้น และการพัฒนาตัวรถไฟ สอบถามความเห็นของเจ้าหน้าที่เพื่อใช้ในการวางนโยบายต่อไปครับ"

โดยมีการลงชื่อผู้โพสต์ว่าเป็น "ทีมงาน"

[Mongwin]

ภาพจากเฟสบุ๊คครับ
https://www.facebook.com/photo.php?fbid=549598651767658&set=a.536355946425262.1073741826.532747176786139

[hermit]

คลังยึดทำเลทองรถไฟ"มักกะสัน-สถานีแม่น้ำ" ดึง"ธนารักษ์"เช่า99ปีผุดคอมเพล็กซ์ริมน้ำปั้นรายได้โละหนี้แสนล.


updated: 15 ส.ค. 2556 เวลา 19:11:30 น.
ประชาชาติธุรกิจออนไลน์

คลัง เร่งแก้หนี้รถไฟ ยึดที่ดินทำเลทอง "มักกะสัน-แม่น้ำ" แลกหนี้กว่า 4.2 หมื่นล้าน ให้ธนารักษ์เช่ายาว 99 ปี พัฒนาร่วมกับเอกชน ผุดคอมเพล็กซ์-ท่องเที่ยวริมน้ำ ฟื้นรถไฟสายเก่า "เพลินจิต-ถ.เชื้อเพลิง"รองรับ ตีกลับแผนยุบ "แอร์พอร์ตลิงก์" เป็นหน่วยธุรกิจ ลั่นต้องแยกเป็นบริษัทและโอนทรัพย์สินแปลงหนี้เป็นทุน ดันเป็นโมเดลนำร่องพัฒนารถไฟ

นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า การแก้ภาระหนี้ของการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ต้องนำที่ดินที่มูลค่าสูงมาพัฒนาให้เกิดประโยชน์สูงสุด เพื่อลดภาระหนี้สะสมประมาณ 1 แสนล้านบาท โดยกระทรวงการคลังจะให้บริษัท ธนารักษ์พัฒนาสินทรัพย์ จำกัด (ธพส.) รัฐวิสาหกิจกระทรวงการคลังมีกรมธนารักษ์กำกับดูแลมาบริหารจัดการและประมูลหาเอกชนมาร่วมลงทุนเช่าจัดหาประโยชน์ระยะยาว

คลังขอที่มักกะสัน-แม่น้ำแลกหนี้

และนำรายได้ส่งกลับคืนเป็นผลตอบแทนให้กับ ร.ฟ.ท. จะเป็นในรูปแบบไหนอยู่ที่การพิจารณา ทั้งรูปแบบเงินสด ผลตอบแทนระยะยาว และการลดหนี้ที่มีอยู่ก็ได้ จะนำร่องที่ดินมักกะสัน พื้นที่ 497 ไร่ และสถานีแม่น้ำ พื้นที่ 277 ไร่

"ร.ฟ.ท.มีหน้าที่เดินรถโดยสารและขนส่งสินค้า ไม่ต้องมาพะวงเรื่องพัฒนาที่ดิน คลังจะเข้าไปช่วยคิดและบริหารจัดการให้ เพราะมีส่วนราชการหรือรัฐวิสาหกิจที่มีความเข้าใจเรื่องนี้ดี ยังไง ร.ฟ.ท.ยังมีสิทธิในที่ดินและรายได้ คลังขอเช่าระยะยาวเพื่อจัดหารายได้ ทำให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อ ร.ฟ.ท.ในการแก้หนี้เท่านั้น"

สำหรับการพัฒนาที่ดิน ทาง ร.ฟ.ท.มีการศึกษาโครงการอยู่แล้ว จะดูรายละเอียดอย่างรอบคอบและเร่งดำเนินการให้เร็วที่สุด ซึ่ง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้มอบนโยบายให้กระทรวงการคลังและกระทรวงคมนาคม เมื่อวันที่ 8 สิงหาคมที่ผ่านมา ให้สรุปแผนพัฒนาระบบรถไฟภายใน 1 เดือนนี้

ผุดคอมเพล็กซ์-ท่องเที่ยวริมน้ำ

"ที่ดินมักกะสันบางส่วนทำเป็นคอมเพล็กซ์ เช่น ศูนย์การค้า โรงแรม ที่อยู่อาศัย ให้สอดรับกับรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงก์ จะทำสวนสาธารณะบางส่วนตามนโยบายของนายกรัฐมนตรี"

ส่วนที่ดินสถานีแม่น้ำบริเวณถนนเชื้อเพลิงเป็นทำเลที่ดีมาก เป็นโค้งที่สวยงามที่สุดของแม่น้ำเจ้าพระยา และเป็นบริเวณที่สำคัญของเมือง ต้องใช้ประโยชน์ให้มีทางเลือกที่หลากหลาย อาจจะพัฒนาเชิง

ท่องเที่ยวริมน้ำ จะขอความคิดเห็นจาก ร.ฟ.ท. กระทรวงคมนาคม และบริษัทที่ปรึกษา จะพัฒนาแบบไหนให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อเศรษฐกิจของประเทศด้วย

"และอยากให้ ร.ฟ.ท.ช่วยดูที่ดินแนวรถไฟสายสีแดงด้วย หลังคลังย้ายคุกคลองเปรมแล้ว และจะนำที่ดินกว่า 400 ไร่ให้เอกชนมาร่วมพัฒนาโครงการรองรับกับรถไฟฟ้า เพราะทำเลมีศักยภาพใกล้สถานีบางเขน จะมีทั้งพาณิชยกรรมและสวนสาธารณะ"

แยกแอร์พอร์ตลิงก์เป็นบริษัท

ขณะที่ทิศทางของโครงการรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงก์ นายกิตติรัตน์กล่าวว่า เบื้องต้นจะคงเป็นบริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด และมี ร.ฟ.ท.ถือหุ้น 100% เหมือนเดิม ตามที่นายกรัฐมนตรีมีนโยบาย จะไม่กลับเข้าไปอยู่ในหน่วยธุรกิจตามที่นายประภัสร์ จงสงวน ผู้ว่าการ ร.ฟ.ท.ได้เสนอแนวคิด โดยจะให้ ร.ฟ.ท.โอนทรัพย์สินของแอร์พอร์ตลิงก์ทั้งหมดมาอยู่ที่บริษัทนี้ และแปลงหนี้กว่า 3 หมื่นล้านบาทเป็นทุน จะทำให้มีความคล่องตัวมากขึ้น ส่วนโครงสร้างการถือหุ้นในอนาคตอาจจะมีใครถือหุ้นเพิ่ม เช่น กระทรวงการคลัง

"บริษัทแอร์พอร์ตลิงก์อาจจะเป็นโมเดลที่รัฐบาลจะนำมาเป็นแนวทางการพัฒนารถไฟ ในการเดินรถไฟฟ้าและสร้างรายได้จากโครงการ ทั้งเชิงพาณิชย์ในสถานีและที่ดินตลอดเส้นทาง เหมือนที่ต่างประเทศ"

นายกิตติรัตน์กล่าวว่า ปัจจุบันทรัพย์สินของแอร์พอร์ตลิงก์ก็เป็นของ ร.ฟ.ท. ที่บริษัททำหน้าที่บริหารการเดินรถเท่านั้น ต่อไปจะต้องโอนไปอยู่ในนิติบุคคลในรูปของบริษัท น่าจะเป็นทางออกที่ดีที่สุด เพื่อแยกหนี้สินและลดภาระหนี้ของ ร.ฟ.ท. ทำให้เห็นชัดว่าทรัพย์สินที่ใช้บริการเพื่อการเดินรถไฟฟ้านี้มีเท่าไหร่จะได้มีการบริหารจัดการ และวัดผลได้ดีขึ้น ซึ่ง ร.ฟ.ท.ยังเป็นเจ้าของเต็มที่ จะมีคณะกรรมการและฝ่ายบริหารจัดการร่วมกันไป ทั้ง ร.ฟ.ท.และกระทรวงคมนาคม รวมถึงให้กระทรวงการคลังเข้าไปนั่งอยู่ในบอร์ดเพื่อช่วยคิดเรื่องการเงินก็น่าจะเกิดประโยชน์

"ร.ฟ.ท.เป็นองค์กรที่แข็งแรง ถึงมีหนี้ แต่ว่ามีทรัพย์สินที่มีมูลค่าสูงกว่านั้นมาก มองไปรอบ ๆ จะเห็นที่ดินมักกะสัน ที่ริมแม่น้ำตรงถนนเชื้อเพลิง หาก ร.ฟ.ท.ทำงานร่วมกับคมนาคมและคลัง ทำให้เกิดรายได้ขึ้นมาในทรัพย์สินเหล่านี้ การจะดูแลหนี้ของ ร.ฟ.ท.ไม่ยากอะไรเลย"

แหล่งข่าวจาก ร.ฟ.ท.กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีให้เวลา ร.ฟ.ท. 1 เดือน กลับไปทำรายละเอียดข้อมูลเพิ่มหลายเรื่อง เพื่อกำหนดทิศทางและภารกิจหลักขององค์กร หลังมีโครงการลงทุน 2 ล้านล้านบาทเกิดขึ้น อาทิ 1.โครงสร้างองค์กรใหม่ ทางผู้ว่าการเสนอให้มีหน่วยระบบรถไฟฟ้ามารองรับรถไฟสายสีแดง แอร์พอร์ตลิงก์ และรถไฟความเร็วสูง พร้อมเพิ่มคนประมาณ 10,000 คน ทางนายกรัฐมนตรีให้ทำรายละเอียดมาเสนอใหม่ให้ชัดเจน จะรับสาขาไหนและจำนวนเท่าไหร่

2.ให้หารูปแบบบริหารจัดการที่ดินร่วมกับกระทรวงการคลังและระบุให้ชัดว่า ร.ฟ.ท.จะพัฒนาบริเวณไหน หลังกระทรวงการคลังจะนำที่ดินมักกะสัน 497 ไร่ และสถานีแม่น้ำ 277 ไร่ มาพัฒนาแลกหนี้เดิมกว่า 4.2 หมื่นล้านบาท (ยังไม่รวมดอกเบี้ย) โดยให้กรมธนารักษ์เช่าจัดหาประโยชน์99 ปี ซึ่ง ร.ฟ.ท.จะประเมินมูลค่าที่ดินทั้ง 2 แปลงนี้ว่าปัจจุบันอยู่ที่เท่าไหร่ รวมถึงผลตอบแทนที่ได้จากกรมธนารักษ์ ซึ่งเดิม ร.ฟ.ท.เคยประเมินไว้ทั้ง 2 แปลงรวมกันมีมูลค่าประมาณ 66,229 ล้านบาท แยกเป็นย่านมักกะสันอยู่ที่ 55,816 ล้านบาท และสถานีแม่น้ำ 10,413 ล้านบาท

ร.ฟ.ท.พัฒนาแค่ที่ดินแปลงเล็ก

"การพัฒนาที่ดิน ฟังจากที่ประชุมแล้ว ร.ฟ.ท.จะพัฒนาเฉพาะแปลงไม่ใหญ่มาก เช่น สถานีรถไฟ ส่วนแปลงใหญ่ต้องให้

ผู้เชี่ยวชาญอย่างกรมธนารักษ์เป็นผู้ดำเนินการแทน อีกทั้งให้ ร.ฟ.ท.ไปดูการพัฒนาที่ดินแนวรถไฟสายสีแดง ทั้งช่วงบางซื่อ-รังสิต และช่วงบางซื่อ-ตลิ่งชัน เพื่อเพิ่มมูลค่า" แหล่งข่าวกล่าวและว่า

3.ให้เร่งปรับปรุงสถานีและขบวนรถไฟ 2 สายทาง คือ สายกรุงเทพฯ-อยุธยา และสายกรุงเทพฯ-หัวหิน ให้เสร็จใน 2 สัปดาห์นี้ 4.ให้พิจารณาข้อเสนอแนะของนายกิตติรัตน์ที่ให้ฟื้นรถไฟสายเพลินจิต-ถนนเชื้อเพลิง เพื่อรองรับการท่องเที่ยวริมน้ำ

5.ให้การบริหารจัดการรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงก์เป็นโมเดลพัฒนาระบบรถไฟ ส่วนปัญหาต่าง ๆ ระหว่าง ร.ฟ.ท.และกระทรวงการคลังเร่งเคลียร์ให้จบ เนื่องจากผู้ว่าการร.ฟ.ท.จะดึงบริษัทแอร์พอร์ตลิงก์ไปอยู่ภายใต้หน่วยธุรกิจระบบรถไฟฟ้าตามโครงสร้างองค์กรใหม่ ขณะที่นายกิตติรัตน์จะแยกบริษัทออกมาเพื่อให้เกิดความคล่องตัวและแปลงหนี้สินเป็นทุน และตั้งบริษัทใหม่รูปแบบรัฐวิสาหกิจโดยกระทรวงการคลังถือหุ้น 75% ตามที่ศศินทร์ฯเสนอ

ติดตามข่าวสาร ผ่านแฟนเพจเฟซบุ๊ค ประชาชาติธุรกิจออนไลน์

http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1376568764
_________________
ทางเตียนเวียนลงนรก ทางรกวกขึ้นสวรรค์

[Wisarut]

[Mongwin]

"ชัชชาติ"ระทึก! เข้าห้องน้ำรถไฟไม่มีล็อค มือจับประตูแน่น ลั่นเงินกู้ 2.2 ล้านล.นำมาปรับปรุงทั้งระบบ
วันที่ 17 สิงหาคม พ.ศ. 2556 เวลา 15:01:17 น.

ผู้สื่อข่าวรายงานภาระกิจการทดลองขึ้นนั่นรถไฟชั้น3 ของนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รมว.คมนาคม โดยนั่งรถไฟขบวนรถเร็ว 135 ออกจาก สถานีรถไฟบางซื่อ กรุงเทพฯ-อุบลราชธานี ในเวลา 07.40 น. และมีกำหนดถึงสุรินทร์เวลา 15.07 น. แต่ปรากฏว่า รถไฟขบวนรถเร็วดังกล่าวเสียเวลาจากต้นทางไปกว่าครึ่งชั่วโมง ทำให้ต้องโดยสารมากับรถไฟรถเร็ว 135 กรุงเทพฯ-อุบลราชธานี มาถึงสถานีรถไฟสุรินทร์ ในเวลา 17.30 น. ซึ่งล่าช้ากว่ากำหนดถึง 2 ชั่วโมง

นายชัชชาติ ให้สัมภาษณ์เมื่อวันที่ 17 สิงหาคม เล่าประสบการณ์ในการเดินทางด้วยรถไฟอันทรหดว่า เมื่อเช้านี้ได้เดินทางออกจากกรุงเทพฯแต่เช้า แต่รถไฟเสียเวลาไปกว่า 30 นาที และมาถึงสุรินทร์ ก็เสียเวลาไปถึง 2 ชั่วโมงเศษๆ แต่ก็ได้ย้อนเวลากลับไปในอดีตที่ผ่านมาที่ไม่ได้นั่งรถไฟมานานตั้งแต่สมัยเป็นนักเรียน การเดินทางครั้งนี้เพื่อหาข้อมูลเพิ่มเติมหลังจากมีการขอขึ้นราคาค่าโดยสารรถไฟชั้น 3 ซึ่งจากการสังเกตระหว่างเดินทางช่วงกรุงเทพฯถึงนคราชสีมารถไฟจะวิ่งได้ช้า แต่พอผ่านโคราชมาถึงสุรินทร์รถวิ่งได้เร็ว ซึ่งส่วนตัวเห็นว่า การเดินทางไปยังต่างจังหวัดระยะไกลใช้รถไฟถือว่าเป็นทางออกที่ดีมาก แต่ก็มีบางช่วงที่ทางรถไฟมีต้นไม้กีดขวางบดบังทางรถไฟ

อย่างไรก็ตาม ก็ยังติดขัดที่รางรถไฟเป็นรางเดี่ยวอยู่ ทางรัฐบาลก็จะได้จัดสรรงบประมาณ 2.2 ล้านล้านบาท เพื่อพัฒนาให้เป็นรถไฟรางคู่ ซึ่งเชื่อว่า จะทำให้ระยะเวลาการเดินทางจากกรุงเทพฯถึงอุบลราชธานีเร็วขึ้น ส่วนปัญหาอีกอย่างสภาพรถไฟที่ยังเก่าอยู่ ซึ่งจำเป็นต้องปรับปรุงอย่างเร่งด่วนก่อนที่จะปรับปรุงราง และอีกหนึ่งปัญหาที่พบ คือ พนักงานรถไฟไม่เพียงพอ ซึ่งจากข้อมูลทราบว่า เดิมพนักงานรถไฟมี 30,000 คน ตอนนี้เหลือ 10,000 คน

ทั้งนี้ ยังมีผู้โดยสารร้องเรียนมากเกี่ยวกับการบริการของรถไฟ อาทิ การดื่มสุราบนรถไฟ ยังมีทะเลาะกันต่อยกันให้เห็น คนขายของบนรถไฟซึ่งมีการรายงานว่ามีมิจฉาชีพแฝงเข้ามาด้วย ดังนั้นต้องมีการวางมาตรการตรวจสอบ ต้องกำหนดนโยบายออกมาชัดเจน ต้องออกใบอนุญาตมียูนิฟอร์มเรื่องค่าโดยสารเห็นว่าไม่แพงมากนัก อย่างกรุงเทพ-มาสุรินทร์ 170 บาท แต่ถ้าเป็นรถโดยสารรถร้อน 270 บาท แต่เรื่องขึ้นค่าบริการผู้โดยสารไม่กังวลแต่อยากให้จัดการเรื่องบริการให้ดี

"ผมเองประสบปัญหาในการเดินทางด้วยรถไฟเที่ยวนี้ คือ ห้องน้ำ ห้องน้ำไม่มีกลอนล็อคห้อง นั่งห้องน้ำไปด้วยมือต้องกดไปด้วย ในเทศกาลวันหยุดรถไฟไม่เพียงพอต้องจัดหาให้เพียงพอ ปัญหาเรื่องรถล่าช้าต้องรีบแก้ไขเช่นกัน โดยต้องปรับปรุง เรื่องนโยบายจากบนสู่ผู้ปฏิบัติ ซึ่งรถไฟมี 4 หน่วยงานใหญ่ ที่ต้องรับผิดชอบคือ หน่วยเดินรถ หน่วยเครื่องกล หน่วยสื่อสาร หน่วยโยธา และก่อสร้าง ทุกหน่วยต้องมาร่วมมือกันทำงาน ไม่ใช่ต่างคนต่างทำ และต้องกำหนดเป็นยุทธศาสตร์ในการดำเนินงานร่วมกัน รถไฟรางคู่ถือเป็นภารกิจต้องเร่งทำเป็นอย่างแรกในโครงการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐาน 2.2 ล้านล้านบาท" นายชัชชาติ กล่าว

[Mongwin]

"พันศักดิ์ วิญญรัตน์" : "ถ้า พ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้านไม่ผ่าน ก็จดชื่อคนค้านไว้ในบัญชีหนังหมา"
มติชนออนไลน์ วันที่ 17 สิงหาคม พ.ศ. 2556 เวลา 20:00:00 น.



ค้นมูลค่าแท้จริงรถไฟไทย อะไรคือความคุ้มทุน? "หวานเย็น"- "ความเร็วสูง" เชื่อมต่ออนาคตในภูมิภาค

สัมภาษณ์โดย ฟ้ารุ่ง ศรีขาว

เมื่อช่วงสัปดาห์ที่แล้ว(8 สิงหาคม) รถไฟขบวนพิเศษเคลื่อนจากหัวลำโพง โดยมี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี นั่งเป็นประธานการประชุมเชิงปฏิบัติการการพัฒนารถไฟไทย บนโบกี้เดียวกันมี ดร.พันศักดิ์ วิญญรัตน์ ประธานที่ปรึกษานโยบายของนายกรัฐมนตรี ร่วมประชุมโดยนั่งอยู่ฝั่งขวามือของนายกรัฐมนตรี

สัปดาห์นี้ ดร.พันศักดิ์ ให้สัมภาษณ์มติชนทีวี เกี่ยวกับโครงการรถไฟความเร็วสูง ซึ่งมีข้อถกเถียงถึงความคุ้มทุน และข้อกังวลถึงหนี้สาธาณะ ในขณะที่ พ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้าน ยังอยู่ระหว่างการพิจารณาในสภา นอกจากนั้น ยังมีข้อแนะนำจาก ดร.พันศักดิ์ถึงการเพิ่มพูนรายได้จากสินทรัพย์ของรถไฟไทย

@ก่อนสร้างรถไฟความเร็วสูง จำเป็นต้องรอการสร้างรถไฟรางคู่ ก่อนหรือไม่

เวลามีคนบอกว่า โครงการ 2.2 ล้านล้านบาท ซึ่งความจริงแล้วมัน 2.1 ล้านล้านบาทนั้น อาจจะมีปัญหา ดังนั้น ควรทำ “รถไฟรางคู่” ก่อนรถไฟความเร็วสูง... เรื่องนี้ ผมฟังแล้วก็อึดอัดมานานแล้ว เพราะเป็นความเข้าใจไขว้เขวมาเกือบ 2 ปี แล้วการอธิบายก็ยังไม่ทำให้ประชาชนเข้าใจในเรื่องรถไฟรางคู่ หรือรางเดี่ยวเป็นอย่างไร

จนปัจจุบันก็ยังพูดรถไฟรางคู่ ประหนึ่งว่า ที่เรียกว่า รถไฟความเร็วสูงนั้นมีรางเดียว ซึ่งมันเป็นความเข้าใจที่ผิดพลาดอย่างมหันต์ แล้วคนอธิบายส่วนใหญ่ก็อธิบายไม่เป็น ผมจึงขอลองอธิบายบ้างว่า เรื่องทั้งหมดเป็นอย่างนี้

รถไฟรางความกว้าง 1 เมตร ของเรา ที่ใช้มา 108 ปี เป็นราง 1 เมตร ที่เป็นรางเดี่ยวมาเป็นเวลานานมาก แม้จะมีมติคณะรัฐมนตรี (ครม.)ในอดีต ตั้งแต่สมัยผมเองยังไม่แก่นัก ได้อนุมัติให้พัฒนารางรถไฟ 1 เมตร ให้สามารถวิ่งสวนกลับได้ นั่นก็คือ “รางคู่” เวลาผ่านไป กระทั่ง ครม.ชุดปัจจุบัน บอกว่า ทำ “รางคู่” สักที เพราะที่ผ่านมาก็ได้แต่เก็บของเก่าไว้ ของขาดทุนมหาศาลต่อให้พนักงานมีประสิทธิภาพสูงมากอย่างไรก็ตาม เพราะรถไฟมันวิ่งสวนกันไม่ได้ เนื่องจากเป็นรางเดียวกัน เพราะฉะนั้น จึงให้ทำเป็น 2 ราง คือ รางไป – รางกลับ เพื่อให้เสี่ยงตายน้อยลง หรือ ชนควายน้อยลง เมื่อเป็นเช่นนี้ เรียก “รถไฟรางคู่”

@ ถ้ามีรถไฟรางคู่ ประเภทราง 1 เมตร แล้วเป็นความเปลี่ยนแปลง ที่เพียงพอต่ออนาคต หรือไม่

รถไฟราง 1 เมตร ที่ผมเรียกว่า “รถไฟสมัยพระเจ้าเหา” มันไปวิ่งต่อกับอนาคตไม่ได้ แต่มันจะหยุดตามอำเภอต่างๆ แบบรถไฟหวานเย็น ซึ่งในต่างประเทศก็มีรถไฟหวานเย็น หยุดตามอำเภอนั้น หยุดตามอำเภอนี้ หยุดไปได้เรื่อยๆ ส่วนกลางคืนก็ทำหน้าที่ ขนถ่านหินหนักๆ วิ่งที่ 60-70 กม./ชม. หรือขนซีเมนต์ ขนอ้อย วิ่งไปเรื่อยๆ สบายๆ แต่เมื่อการพัฒนาเกิดขึ้น สปีดก็จะดีขึ้นอย่างน้อย 2 เท่าตัว ซึ่งปัจจุบันประมาณการสปีดที่ใช้ปัจจุบัน 45 กม./ชม. ถ้ารถไม่เสียกลางทาง

ความจริงแล้วรถหวานเย็น วิ่งได้สปีดสูงสุด 120 กม./ชม. แต่เป็นเพราะต้องจอดทุกอำเภอ ทำให้ช้าลง ไม่เกิน 60 กม./ ชม. เพราะ รถไฟต้องเบรค 2 กม. ก่อนถึงสถานี ส่วนรถไฟความเร็วสูง ต้องเบรค 6 กม. ก่อนหยุดรถ

@รถไฟความเร็วสูงที่รัฐบาลผลักดัน จะวิ่งด้วยสปีดสูงสุดเท่าที่มีอยู่ในโลก หรือไม่

รถไฟความเร็วสูง ที่ชอบพูดกัน จริงๆ แล้ว คือ “รถไฟความเร็วปานกลาง” เพราะ รถไฟความเร็วสูงจริงๆ ในโลก วิ่งเกือบ 500 กม./ชม. ของเราต่อให้วิ่งทางเรียบ มองไปไกลได้ ก็เร่งสปีดความเร็ว ได้ไม่เกิน 250 กม./ ชม. แต่รถไฟสปีดปานกลาง ถ้ามีรางเดียว ก็ชนกันตาย
ฉะนั้น รถไฟไม่ว่าสปีดรถหวานเย็น หรือ สปีดปานกลาง ที่เรียกกันว่ารถไฟความเร็วสูง ซึ่งควรจะมี 2 ราง คือ รางไป - รางกลับ เป็นเรื่องปกติ ไม่ใช่เรื่องน่าตื่นเต้น เขาเป็นอย่างนั้นกันทั้งโลก แม้แต่ประเทศด้อยพัฒนาก็เป็นอย่างนั้น ของเราพิเรนทร์ เพราะไม่ลงทุนมา 108 ปี จึงพิเรนทร์ มาอย่างนี้อยู่ ขอให้ทำความเข้าใจอันนี้ก่อน

@เป็นไปได้หรือไม่ ที่จะมี “รางคู่” ทั้งรถไฟหวานเย็นและรถไฟความเร็วสูง(สปีดปานกลาง) ส่วนการใช้งานจะเชื่อมโยงกันอย่างไร

ถามว่าเป็นไปได้หรือไม่ที่จะทำรถไฟรางคู่2ชนิดคือชนิดสปีดหวานเย็นกับชนิดสปีดปานกลางก็เป็นไปได้เพราะ รถหวานเย็น สามารถหยุดตามอำเภอต่างๆ ได้ และก็จะมาต่อ กับรถสปีดปานกลาง

รถไฟที่สปีดปานกลาง มันย่นเวลาการเดินทาง และ สามารถสู้กับเครื่องบินไอพ่นได้ ในระยะไม่เกิน 1,000 กิโลเมตร ของการเดินทาง ทีนี้ คำว่า การเดินทาง ผมไม่ได้พูดถึงมนุษย์อย่างเดียว แต่หมายถึงการเดินทางของสินค้าและผลผลิตที่เร็วขึ้น มากกว่าครึ่งเท่าหรือ 1 เท่าตัว เมื่อเทียบกับการขนใส่รถ 10 ล้อ หรือ 8 ล้อ ความมีปัญหาก็น้อยลง เราเป็นประเทศกสิกรรม และเราผลิตชิ้นส่วนของเครื่องใช้สมัยใหม่ น้ำหนักเบา เป็นกล่อง ก็ขึ้นขนส่งทางรถไฟสปีดปานกลางได้

บางที คนไม่เข้าใจ รู้ไหมรถหวานเย็นที่จะต้องทำรางใหม่ ต้องใช้เงินเท่าไหร่ คำตอบคือ กว่า4 แสนล้านบาท เพราะฉะนั้นรถหวานเย็น เฉพาะราง 4 แสนล้านบาท ก็ยังไม่จบ ต้องซื้อหัวรถจักร ตามงบประมาณปกติอีก เพราะ หัวรถจักรเก่า ที่เดินทางไปกับท่านนายกฯ ผมไปลงที่นครปฐม ก็เสียวไส้อยู่ว่า หัวรถจักรจะเสียครึ่งทาง แต่ถ้าเสียครี่งทางก็ไม่เป็นไร เพราะวิวสวยดี วิวมีคุณค่าทางเศรษฐกิจ กับ Cash flow ของการรถไฟ

@อาจารย์นั่งรถไฟขบวนเดียวกับนายกฯ เป็นอย่างไรบ้าง

โบกี้ที่ท่านนายกฯ นั่งไปซึ่งผมได้รับความกรุณาให้นั่งไปด้วยนั้น ญี่ปุ่น ปลดระวางมาให้ฟรี ด้วยความเวทนา เพราะญี่ปุ่นใช้มาแล้วประมาณ เกือบ 40 ปี จึงปลดระวาง ซึ่งท่านผู้ว่าการรถไฟ เป็นคนรายงานเรื่องนี้ ให้ท่านนายกฯ ทราบ ทีนี้ เมื่อเป็นรถปลดระวาง แต่ยังใช้ได้ การนั่งประชุม รถที่ปลดระวาง เวลานั่งประชุมเสร็จ คนแก่อย่างผมอายุจะ 70 ปี เวลาลุกขึ้นยืนก็เวียนหัวเพราะนั่งโยกมา แม้โบกี้ ที่เรานั่งไป การรถไฟพยายามตกแต่งให้พอจะนั่งได้ มีส้วมนั่งแทนที่จะนั่งยอง แม้จะโยกไปมา ยังไม่สะดวกเท่าไหร่ แต่ก็ไม่เลวนะ

พอถึงเขตซึ่ง ทางการรถไฟใส่รางใหม่ ก็นุ่มขึ้น แต่ก็ยังเวียนหัว เมื่อนุ่มขึ้น วิ่งได้เร็วขึ้น เสียงยิ่งกว่า จั๊กจั่น อยู่ข้างหูคุณหนึ่ง แสนตัว การประชุมก็ฟังไม่รู้เรื่อง ฉะนั้น จึงบอกว่า รถไฟรางคู่วิ่งแบบหวานเย็นนั้นมีกำไรไหม คำตอบคือ ไม่มีกำไร พออยู่ได้ เพราะ ถ้าชาร์ต ค่าระวาง จริงๆ เวลาขนถ่านหิน ขนเหล็ก ขนอ้อย ก็ยินดีจ่ายกัน แต่เวลาพูดถึงรถไฟ ต้องบอกว่าผลกระทบต่อรายได้ของประชาชน มีมากกว่าเงินที่รัฐบาลจะลงไปช่วยในการบริหารจัดการโครงสร้างต่อเศรษฐกิจไทยแน่ๆ และ ผลกระทบกลับมาคือ ภาษีที่รัฐบาลจะได้มากขึ้น

@อาจารย์ได้แนวคิดอะไรใหม่ จากการนั่งรถไฟไปกับนายกฯ ขบวนนี้

ผมไม่ได้นั่งรถไฟไทยมาประมาณ เกือบ 30 ปีแล้วนะ ถูกไฟท์บังคับ เขาสั่งให้ไปนั่งประชุมด้วยกับท่านนายกฯ ผมก็ไปนั่ง พอรถออกได้แป๊บเดียว เห็นตรงสลัมข้างๆ ชาวบ้านปลูกกล้วยดูแล้วไม่เลว เราออกรถตอนเช้า แสงอาทิตย์ ส่องผ่านความเขียวพิเศษของใบกล้วย สวยมาก วิวแบบนี้ ความเป็นธรรมชาติ ที่ไม่ใช่สวนกระแดะ สวนธรรมชาติที่เลอะๆ เพราะ เขียวไม่เท่ากัน เวลาแสงพระทิตย์ส่องมา แล้วทำไมฝรั่งจะไม่คิดว่าสวย

เวลาผมไปหัวลำโพง ฝรั่งรวยๆ จากเขตแดนทวีปยุโรปที่ไม่เจ๊ง คือ Danish, Norway, Swedish พวกนี้ backpack พ่อแม่ลูก ไปเที่ยวกัน เพราะวิวแบบนี้ เพราะ ที่เมืองนอกไม่มี เมืองนอกชีวิตมีแต่ระเบียบ ต้นหญ้าก็ขึ้นตามระเบียบ ขึ้นไม่เป็นระเบียบถูกทำโทษ ทีนี้ชีวิตคุณอยู่กับระเบียบทั้งวันทั้งคืน 24 ชั่วโมง แล้วอากาศหนาวอีก มันเครียด มนุษย์มันเครียด เขาถึงมาประเทศไทยกัน แล้วยอมขึ้นรถไฟซังกะบ๊วย 108 ปี ของเรา เพราะวิว และความน่ารักของพนักงาน

@รถไฟไทย ยังมีสินทรัพย์ที่ขายได้

ผมถึงบอกสงสารรถไฟกันบ้าง อย่าไปกระทืบรถไฟกันนัก บ่นกันอยู่นั่น ขนาดเป็นแบบนี้ ลูกค้ายังมี แล้วคิดดู ลองทำระบบให้ดีขึ้น ให้เครื่องไม้เครื่องมือรถไฟทำงาน ให้เงินเดือนถูกต้องยุติธรรม ตามงานของเขา แล้วคุณคิดว่า รถไฟไทย จะงี่เง่าเหมือนเดิมได้ยังไง เขาก็ดีขึ้นสิ เขาก็ภูมิใจขึ้นด้วยสิ

หัวลำโพง มีตึกข้างๆ ชานชลา1 มีโรงแรมเก่าที่หรูที่สุดในประเทศไทยเมื่อตอนสร้างสถานีนี้ ผมอยากบอกพวกบริษัทรับเหมาก่อสร้างทั้งหลาย ให้ไปดูหัวลำโพง เขาสร้างร้อยกว่าปี ของเขายังไม่เห็นพัง ตอนนี้เป็นออฟฟิศโทรมๆ ของการรถไฟ แม้มีอิฐเน่าบางส่วน แต่ก็แก้ไขได้ ส่วนกระเบื้องยังดีสุดยอด ไปเห็นกระเบื้องขนาดไม่มีการรักษา แต่แสดงให้เห็นว่า การเผากระเบื้องของอิตาลีสมัยเก่าสุดยอดมาก แข็งจริง กระทืบมา 100 กว่าปียังไม่พัง

@ภาพลักษณ์รถไฟไทย ที่ดูโบราณ มีแต่หนี้

ผมจะบอกอะไรให้ รถไฟไทย มีสินทรัพย์เก่า ซึ่งถูกกลั่นแกล้งให้กลายเป็นหนี้ โดยสังคมกลั่นแกล้ง เบียดเบียน รถไฟไทยผู้ซึ่งมีสินทรัพย์มากที่สุดในประเทศไทยองค์กรหนึ่งให้กลายเป็นหนี้

อันนี้ เป็นความตั้งใจหรือไม่ ก็ต้องให้นักเรียนประวัติศาสตร์ ค้นประวัติศาสตร์เศรษฐกิจไทยดู ผมยังอยากได้สัมปทานทำโรงแรมรถไฟอันนี้ ออกแบบให้มีห้องนอนแค่ 30 ห้องพอ โอ้โห หรูสุดๆ โรงแรมยาว ไม่ได้กว้างมาก แต่สวยมาก ทำให้มีที่นั่งข้างนอกได้ นั่งดูรถไฟเข้าออก กินเบียร์ไปด้วย หรู... กินหอยแครงอย่างดีจานละ 1,500 บาทก็ขายไปสิ

ถ้าพัฒนาหัวลำโพง ผมขอใส่ cargo ที่มีแอร์คอนดิชั่น เป็นตู้เย็น ไม่ใช่ตู้แข็ง ขนปลาพิเศษ จากปักษ์ใต้ เวลาปลาจะเข้า นักท่องเที่ยวสามารถจองไว้ว่าจะกินปลาอะไร พอปลาเข้าก็ลุกไปดูปลาดิ้นได้ ชาร์ตเงินได้ แล้วคุณมีปัญหาอะไรนักหนา

ในอดีต ก็ทิ้งกัน ไม่ทำให้สินทรัพย์มีชีวิต คุณทิ้งมัน เหมือนคุณเป็นเศรษฐีกระแดะ มีบ้านหรูๆ คุณปิดเอาไว้เฉยๆ คุณว่าบ้านพังไหม

ถ้าทำใหม่ ก็ทำให้เฮฮา 24 ชั่วโมงไปเลย ชานชลา ห้องโถงตรงกลางทำดีๆ เท่ๆ ทำที่กินส้มตำกับพื้นยังได้ มีเสื่อให้นั่ง

@ที่ผ่านมา มีแต่การคิดเรื่องขายตั๋ว แต่ไม่ได้ขายวิว หรือการบริการ

ถูกต้อง ... คืออย่างนี้ มันไม่ใช่หน้าที่ของพนักงานรถไฟ มันเป็นหน้าที่ของผู้บริหารประเทศที่จะทราบว่า อะไรคือสินทรัพย์ของประเทศ ที่จะเพิ่มพูน “ภาษี” ได้ เพราะสำหรับประชาชน จะมองว่าอะไรคือสินทรัพย์ ที่จะเพิ่มพูน “รายได้” ได้

ถ้ารัฐบาลดันมีรายได้มาก เดี๋ยวประชาชนก็จะตบให้ รัฐบาลต้องมีรายได้ภาษี เพื่อเอาภาษีกลับมาช่วยประชาชนให้มีรายได้เพิ่มแค่นั้น

เรื่องนี้ อยู่ที่ perspective อย่างเช่น รถไฟที่คิวชู เขาได้ข่าวลือมาว่า ชาวบ้านจะขายไร่ตรงทางเลี้ยวที่สวยมากตรงทุ่งนา ทีนี้ การรถไฟก็ตัดสินใจวิ่งเข้าหาชาวนาเลย บอกชาวนาว่าอย่าขาย และบอกว่าถ้ามีผลผลิต ก็ซื้อหมดเลย ซื้อล่วงหน้าก็ได้ แต่อย่าขาย เพราะวิวมันสวย ก็เขาขายตั๋วเพื่อท่องเที่ยว มีรถไฟหวานเย็นพิเศษ วิ่งช้าๆ ให้ดูวิว ขายวิว ไม่ได้ขายตั๋ว ตีราคาค่าวิวในตั๋วแล้ว ถ้าชาวไร่ชาวนาไปสร้างบ้านสร้างอะไรขึ้นมา สินทรัพย์ ที่เรียกว่าวิว ก็มูลค่าตก

แล้วสถานีใหญ่ ของเกาะคิวชู ฮากาตะสเตชั่น มีร้านขายข้าวหน้าไข่เจียว 21 ชนิด เพราะ ไปรับซื้อไข่จากชาวไร่ชาวนา ออกมาเท่าไหร่ ซื้อหมดเลย ผู้บริหารรถไฟ ก็ไปจ้างคนคิดสูตรทำไข่เจียว 20 กว่าชนิด ขายที่สถานีใหญ่ สุดยอด... เขาเรียกว่า คิดให้จบ ไม่ใช่คิดครึ่งๆ กลางๆ เมื่อคิดให้จบแบบนี้ ชาวไร่ชาวนา ก็แฮปปี้ คนต้องจากบ้านไป คุณคิดว่าสนุกหรือ

การตีราคาสินทรัพย์ เพราะ ไม่เข้าใจ มูลค่าที่แท้จริง ของสินทรัพย์ ในประเทศไทย มีเต็มไปหมด

รถไฟเกาะเคียวชู เป็นตัวอย่างที่ขายตั๋วแล้วเจ๊ง แต่พอเปลี่ยน business model เอาสินทรัพย์ ทั้งหมดมาจัดการให้มีรายได้ ขายมันทุกอย่าง แม้แต่ร้านยาเพราะเป็นการบริการประชาชน อยู่ได้โดยไม่ต้องเอาเงินรัฐมาช่วย แล้วให้บริการประชาชนด้วย ทำยังไง ก็เอาสินทรัพย์ มาทำให้เกิด Cash flow สิ ต้องมีหัวกบาลคิด

@กว่าจะเป็นที่รู้จักขนาดนั้น อาจต้องใช้เวลานาน

จำได้ไหม รถไฟฟ้าบีทีเอส ใน 4 บีแรก มีมดขึ้นมากกว่าคนขึ้นอีก ตรงนั้นเอกชนแบกภาระ แล้วถึงตอนนี้คนขึ้นรถยัดทะนาน คล้ายๆ โตเกียว ตอนเช้าๆ กับตอนบ่าย ฉะนั้น การจะมองอะไร มองแบบช่างภาพ ต้องมี perspective เหมือนถ่ายรูปต้องมี perspective ต้องมองระยะให้ได้คำตอบมันง่าย

@อาจารย์บอกว่ารถไฟหวานเย็นวิ่งไปกับอนาคตไม่ได้ แล้วรถไฟความเร็วสูงสามารถวิ่งไปกับอนาคตอย่างไร

รางสำคัญกว่าสปีด รถไฟสปีดปานกลางที่เราไปเรียกว่ารถไฟความเร็วสูง แต่ที่สำคัญคือรางขนาด 1.4 เมตร ของรถไฟความเร็วปานกลาง สามารถต่อรางกับประเทศมาเลเซียและประเทศสิงคโปร์ ที่เขากำลังลงทุน แล้วเขาประกาศว่าจะมีเศรษฐีใหญ่ ในสิงคโปร์กับมาเลเซีย ร่วมลงทุนสร้างเมืองใหม่ เพื่อรองรับรถไฟความเร็วปานกลาง รางขนาด 1.4 เมตร ที่วิ่งสิงคโปร์ - กัวลาลัมเปอร์

แล้วเราจะต่อราง 1.4 เมตร กับจีน ซึ่งจีน ได้ก่อให้เกิดสแตนดาร์ด เพราะใช้สแตนดาร์ดราง 1.4 เมตร จากยุโรปตะวันตก มาใส่ทั้งทวีปจีน และทวีปจีนจะเป็นหัวรถจักร ที่จะฉุดกระชากเศรษฐกิจโลกไปอย่างน้อยอีก 10-30 ปี เมื่อเป็นแบบนี้ จะใส่รางรถอะไร รางหวานเย็น หรือ รางสแตนด์ดาร์ด

เมื่อเป็นเช่นนี้ โอกาสของ เอสเอ็มอี โอทอป โรงงานเล็กโรงงานน้อยของไทยที่มีประสิทธิภาพ ก็สามารถขายของเข้าไปในแผ่นดินจีน ในราคาขนส่งที่ไม่แพง และ ส่งให้ลูกค้าโดยตรงได้เลย ไม่ต้องผ่านดีลเลอร์

จีนคือ อนาคตของเศรษฐกิจโลก เราขอส่วนแบ่งค้าขายโดยการเดินทางที่ใกล้ที่สุด โดยไม่ต้องเดินทางด้วยเรือ ผ่าน 3 จังหวัดตะวันตกเฉียงใต้ของจีนเป็นลูกค้า แล้วยังไม่พอหรือ

เรามีรถไฟความเร็วสูง สปีดเดลิเวอรี่ ไม่ว่าจะเป็นมนุษย์ หรือสิ่งของ มีชีวิต หรือไม่มีชีวิต เพราะสปีดก่อให้เกิดรายได้ และรายได้ก่อให้เกิดรายได้ภาษีต่อรัฐบาล

[Mongwin]

@ การลงทุนขนาดใหญ่ ไปกับรถไฟทั้งหวานเย็น และความเร็วปานกลาง จะคุ้มทุนหรือไม่

ต่อให้ทำสำเร็จ ก็ไม่ใช่กิจการเหมือนขายยาม้ายาบ้าที่ต้องมามีกำไร เพราะโดยโครงสร้างทางเศรษฐกิจเหล่านี้ รัฐวิสาหกิจแบบนี้ จะช่วยให้ประชาชนทำมาหากินได้ และในที่สุดเสียภาษีเพิ่มให้กับรัฐ เป็นลำดับแบบนี้

ภาษาเศรษฐศาสตร์ ถึงมีคำว่า “โครงสร้างพื้นฐาน” คำนวณกำไรด้วยตัวของมันเองไม่ได้ แต่จะคำนวณกำไร-ขาดทุน จากเศรษฐกิจส่วนใหญ่ เช่น เราลงทุนถนน คุณเก็บตังค์ค่าใช้ถนนหรือเปล่า เราสร้างถนน เป็นล้านล้านล้านบาท ไม่เก็บค่าอะไรเลย ค่าซ่อมถนนกับสร้างถนน 10ปีที่ผ่านมา เกือบ 5 แสนล้าน นี่ยังไม่นับ ถนน อบต. อบจ. ที่ใช้งบประมาณของเขาเอง ถนนหลวงเราสร้างและซ่อมไม่เคยเก็บตังค์ใครเลย แล้วอยู่ได้ยังไง อยู่ได้ เพราะ ทำให้รถ 10 ล้อ วิ่งได้ เอาของไปคลองเตย แหลมฉบัง ทำให้คนงานในโรงงานมีงานทำ ถ้าไม่มีถนนจะขนยังไง

คำว่า ไม่คุ้มทุน ผมเข้าใจว่า นักเศรษฐศาสตร์ แก่ๆ บางคน และบางคนก็อายุน้อยกว่าผมที่ผมได้ยินเขาพูดแบบนี้ เขานึกว่า โปรเจค ต้องขายตั๋วให้คุ้มทุน พอขายตั๋วเสร็จ คุ้มทุน ถึงเรียกว่าคุ้มทุน ปัดโธ่เอ๊ย!!!

เรามีนักเศรษฐศาสตร์ บางคนที่พูดแบบนี้ ว่าไม่คุ้มทุน เป็นนักเศรษฐศาสตร์เรียนจบมาจากญี่ปุ่นด้วยนะ แล้วท่านก็ลืมนึกไปว่า รถไฟความเร็วสูงจากญี่ปุ่นส่วนใหญ่ ยังไม่ถึงจุดคุ้มทุนเลย เขาขาดทุน แต่กำไร ใน 2 ลักษณะ กำไรจากใช้ประโยชน์จากสถานี หารายได้ ขายก๋วยเตี๋ยว ข้าวผัดราดหน้า ตั้งดีพาร์ทเมนท์สโตร์ ร้านทำผม ขายทุกอย่าง แล้วคนเดินผ่าน อย่างที่โตเกียว วันละ 17 ล้านคน ขนาดสถานนีเล็ก คนเดินผ่านเป็นแสน ส่วนสถานีเราเราจะใช้อีกกี่ปี 108 ปีใช่ไหม(หัวเราะ)

คุณรู้ไหม รายได้จากการเดินรถไฟความเร็วสูง มาจากธุรกิจรอบข้าง ที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับการใช้บริการของคนบนรถไฟ มี 38 ธุรกิจ

ผมถึงบอกว่า เราไม่ได้ขายตั๋วรถไฟ เราขายประสบการณ์ที่ดี ให้กับท่าน

@ต่อให้ขายตั๋วขาดทุน ก็ไม่ใช่ปัญหา

ไม่ใช่ปัญหา เพราะ ปัญหาคือ total business model คืออะไร total - effect ผลกระทบทางเศรษฐกิจ ต่อเศรษฐกิจ มหภาคส่วนใหญ่ คืออะไร และในที่สุด ผลกระทบ ต่อการเก็บภาษีของรัฐบาลนั้น คืออะไร

@ไม่ต้องกลัวเรื่องเป็นหนี้ อย่างที่ฝ่ายค้านบอกว่า อาจจะเป็นหนี้ไปหลายช่วงคน

นี่ไง คุณซ่อมถนน สร้างถนน ไม่เห็นได้ประโยชน์อะไรกลับมาจากกรมทางหลวงเลยเนี่ยนะ แค่ 10 ปี คุณจ่ายเงินไป 5 แสนล้านบาท กับการเป็นหนี้ แล้วมีการสร้างสินทรัพย์ที่ก่อให้เกิดธุรกิจเพิ่มเติม คุณว่าอันไหนดีกว่ากัน

พวกเศรษฐศาสตร์ ก็รู้กัน คุณมากู้เงินผม ผมมีเงินให้ คุณเอาใบหนี้ของคุณมาให้ผมถือ ผมมีสินทรัพย์ เรียกว่าพันธบัตรรัฐบาล คุณก็เอาเงินไปซื้อเหล็ก รางรถไฟความเร็วสูง เอามาวาง แล้วก็เรียก อาเฮีย อาแปะ ใครอยากเช่าราง จ่ายมาค่าเช่าราง คุณก็ได้สินทรัพย์ แล้วเก็บเงิน เอามาจ่ายดอกผม

คุณมีปัญหาอะไร นอกจากคุณออกพันธบัตร แล้วเอาไปเผาเล่น หรือ เอาไปซื้อยาม้ายาบ้าเพื่อเสพ

ญี่ปุ่นมีหนี้ มากกว่า 200 เปอร์เซ็นต์ต่อจีดีพี คุณว่าญี่ปุ่นมีเครดิตเรตติ้ง เป็นเท่าไหร่ ญี่ปุ่นมีหนี้สาธารณะมากกว่าไทย หลายร้อยเท่า แต่มีเครดิตเรตติ้งเป็นทริปเปิ้ลเอ พี่ไทยกระจอกมีหนี้สาธารณะ 40 กว่าเปอร์เซ็นต์ต่อจีดีพี ญี่ปุ่นมีหนี้ 200 กว่าเปอร์เซ็นต์ต่อจีดีพี ทำหน้าเชิดๆ อยู่ได้ไง แต่ฝรั่งบอกญี่ปุ่น ชั้น1 ให้เครดิตเรตติ้ง ทริปเปิ้ลเอ

เพราะคนเขาไม่ได้ดูแค่หนี้อย่างเดียวนะ เขาดูจากประสิทธิภาพการเพิ่มพูนรายได้ จากพื้นฐานของการมีสินทรัพย์ ที่มีประสิทธิภาพ เช่น รถไฟซินกาเซง

@มีการตั้งข้อสังเกตว่า รถไฟความเร็วสูง(ปานกลาง) จะจอดบ่อยไม่ได้ เพราะต้องวิ่งด้วยความเร็ว ฉะนั้น จะเข้าถึงประชาชนได้อย่างไร

ผมถึงบอกต้องมีรถไฟหวานเย็น ผมได้เรียนท่านนายกฯ ไปแล้วว่า สถานีรถไฟความเร็วสูง ต้องมีองค์ประกอบซึ่งจะมีผลทางเศรษฐกิจ ควรจะมีองค์ประกอบอะไรบ้าง เมื่อมีสถานีแล้ว จังหวัดข้างเคียงต้องวางยุทธศาสตร์ที่จะใช้ประโยชน์ จากสถานีนี้ มี 2 ชนิด 1) โรงงานยุคใหม่ ประเภท กรีนอินดัสทรี ที่หนีน้ำท่วมไปตั้ง 2) สถานที่ท่องเที่ยวที่ดี

ญี่ปุ่น เอาแผนที่น้ำร้อนแบบออนเซนในประเทศไทยมาให้ผมดู มันมีทั่วทั้งประเทศไทย แล้ววางทาบสถานี ที่อ้างว่าจะมีสถานี กับแหล่งน้ำออนเซน บวกกับสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ ในจังหวัด แล้วจังหวัดข้างเคียง ทำถนนที่ดี พุ่งเข้าสถานีนี้ เพื่อได้ประโยชน์ด้วย

บางสถานี ถ้าไปหยุดตามจังหวัดที่มีสินค้าที่เน่าเสียได้แต่ราคาแพง ก็จะต้องเป็นสถานีผู้โดยสารและสถานีขนส่งของขนาดเบา(Light Cargo) กล่องละ 30 กิโล

ผมขอความกรุณาให้กระทรวงรถไฟญี่ปุ่นทำวิจัย และผมก็ทำเองด้วย รวมถึงกระทรวงการคลังกำลังจ้างบริษัทคอนซัลแทนท์ทำด้วย ทำวิจัยออกมาจาก 3 ฝ่าย ดูว่า ตัวเลขจะเหมือนกันไหม

ญี่ปุ่นทำออกมาแล้ว ขนอะไรก็ได้ที่เป็น Light Cargo กล่องเบา 30 กิโล ที่กิโลละ 200 บาท คุณรู้ไหม ผลผลิตทั้งอาหาร ผลไม้ ชิ้นส่วนอีคอมเมอร์ซ ที่เด็กทำขายกันเอง มากกว่า 200 บาท มีกี่พันอย่าง เพราะฉะนั้น มันเปิดโอกาสให้มีผลผลิตที่เรียกว่า 3เอ ขายได้แน่ในจีน

ส่วนจังหวัดใกล้เคียงกับสถานีรถไฟความเร็วสูง ถึงอย่างไรเมืองไทยก็ต้องสร้างถนนต่อจนกระทั่งโลกสลาย เพราะ คนที่ใช้ถนนและได้ประโยชน์จากการสร้างถนนมีเยอะ ก็สร้างถนนจากจังหวัดข้างเคียงวิ่งตรงเข้าสถานีรถไฟความเร็วสูงไปเลยเพราะรถไฟความเร็วสูงจะไปหยุดทุกๆ ที่ก็ไม่ได้อยู่แล้ว เช่นเดียวกับรถหวานเย็นจะไปวิ่ง 500 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้อย่างไร แล้วรางหวานเย็น 1 เมตร ไปต่อกับรางจีน 1.4 เมตร ก็ไม่ได้อยู่แล้ว

ผู้ว่าราชการจังหวัดท่านหนึ่งเคยพูดว่า อยากให้สร้างรถไฟความเร็วสูง เพราะ คนเก่งๆ ในกรุงเทพฯ จะได้กระจายตัวไปทำงานต่างจังหวัดช่วยต่างจังหวัดแล้วนั่งรถไฟความเร็วสูงกลับมาอยู่กับลูกกับเมียตอนกลางคืนเพราะคนเก่งๆไม่ค่อยอยากไปทำงานต่างจังหวัด

รถไฟต้องปลอดภัยตรงต่อเวลามีบริการที่ดีไม่ว่าจะหวานเย็นหรือปานกลาง หรือความเร็วสูง ฉะนั้น ระหว่างเส้นทางรถไฟความเร็วปานกลางของเรา ต้องมีกี่โรงพยาบาล แต่ละโรงพยาบาล จะจะมี full service ทุกอย่าง กระดูก ปอด หัวสมอง ก็เป็นไปไม่ได้

แต่ถ้าสมมุติ พิษณุโลก มีหมอเก่งเรื่องกระดูก เชียงใหม่มีหมอเก่งเรื่องหัวใจ ก็สับเปลี่ยนคนไข้ง่ายมาก ด้วยรถไฟความเร็วสูง เพราะ ทุกโรงพยาบาลไม่มีหมอสเปเชียลลิสต์ ถ้าเป็นเศรษฐี ก็ขึ้นเฮลิคปเตอร์ส่วนตัว ต้องดูแลเร็วๆ ภายใน 4 ชม. แต่ถ้าเป็นคนจนจะทำอย่างไร ขึ้นรถไฟความเร็วสูงส่งได้

ตอนนี้ไปรษณีย์ไทยก็รับงานจากกระทรวงสาธารณสุขในการส่งของทางการแพทย์ถ้าเผื่อเขาได้พึ่งรถไฟความเร็วสูงชีวิตคนจนการจัดการชีวิตคนจนเวลาไปโรงพยาบาลการส่งระหว่างจังหวัดจะดีขึ้นไหม

@ มติ ครม. ที่อนุมัติให้ทำ “รางคู่” ตั้งแต่สมัยอาจารย์ยังหนุ่ม แต่ทำไมเพิ่งจะเริ่มทำจริงๆ ในสมัยรัฐบาลนี้

ผมเข้าใจว่า ทั้งสังคมไทยไม่เห็นความสำคัญ ตอนนั้นกำลังเฮฮา ซื้อรถยนต์ใหม่ ซื้อ 6 ล้อ 10 ล้อ กำลังเฮฮา เศรษฐกิจกำลังบูม ตอนนั้น บูมแหลก จนกระทั่งต้มยำกุ้ง (วิกฤตเศรษฐกิจ 2540) ทีนี้ ตอนเกิดต้มยำกุ้ง คนก็ไม่ได้คิดว่า เป็นเพราะไม่มีรถไฟใช้ แต่ไปคิดว่า เล่นเงินกันมากไป ก็ไม่ได้สนใจรถไฟ แต่ตอน ครม.อนุมัติ ให้ทำรางคู่นั้น น้ำมันยังราคา 25-30 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล แต่ตอนนี้ น้ำมัน เกือบ 110 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล

ที่อเมริกาก็เหมือนกัน อย่าตื่นเต้นนะคุณ สหรัฐอเมริกา บริการรถไฟ พอๆ กับไทย วิ่งสปีดสูงสุด 80กม./ชม. สหรัฐอเมริกาก็ลืม โคตรเหง้าของตัวเอง ว่าตัวเอง เป็นประเทศที่ยิ่งใหญ่ขึ้นมาได้ เพราะรางรถไฟที่บุกเบิก จากฝั่งตะวันออกของทวีป ไปฝั่งตะวันตก แล้วไปไล่ฆ่าอินเดียนแดง

ต่อมาอเมริกา ก็บ้าสร้างถนนมาหลายร้อยปี ส่วนรถไฟยังวิ่งได้สปีดสูงสุด 80 กม./ ชม. ดีกว่าหวานเย็นของไทยนิดๆ และที่สำคัญ ชอบล้อหลุดกลางทาง

เพื่อนผม เดินทางจากบอสตัน ไปชิคาโก ด้วยรถไฟ ไปไม่ถึงครึ่งทาง จอดในที่มืด ผ่านไป 2 ชั่วโมงถึงไปถาม ก็เลยทราบว่าล้อหลุด รวมทั้งหมด 6 ชั่วโมงอยู่กลางป่า มีน้ำให้กินเท่านั้น เพราะ ถ้าไม่ถึงเวลาเปิดห้องอาหาร เขาก็ไม่ยอมให้กิน

@อาจารย์อยากให้มีการดูแล การรถไฟแห่งประเทศไทยอย่างไร เพราะอะไร

สิ่งที่ผมให้คำปรึกษารัฐบาลไทย ไม่ใช่ของใหม่ ผมไม่ได้เอาอะไรจากดวงจันทร์ หรือดาวอังคาร แต่รถไฟไทยมีครัวทำผักบุ้งลอยฟ้า ต้มยำกุ้งได้ และปูเตียงเก่งกว่ารถไฟอเมริกัน ผ้าสะอาดกว่ารถไฟอเมริกัน รถเสียก็มาบอกอย่างเป็นมิตร บริการสุดประทับใจ แต่ เครื่องไม้เครื่องมือ มัน 108 ปี ไม่มีการลงทุนใหม่ ขาดทุน พนักงานก็เซ็ง ดูไม่มีอนาคต

ผมจะบอกให้ รถไฟความเร็วสูง จะมีสิ่งที่เรียกว่า ขนส่งสินค้าขนาดเบา 30 กิโล ต่อกล่อง นี่คืออนาคตรายได้ ของกลุ่มแม่บ้านสหภาพ ถ้าคุณทำอาหารอร่อย ถ้าคุณปลูกผักไร้สารพิษที่งามจริง อย่าลืม สหภาพ มีสมาชิกอยู่ทั่วประเทศไทย ภรรยาของเจ้าหน้าที่สหภาพ หรือสามีของเจ้าหน้าที่สหภาพรวมตัวกัน ทำผักออแกนิค ทำผลไม้อย่างดี ตอนนี้ สยามซีเมนต์ทำกล่องใส่ผลไม้ที่เน่าเสียช้าออกมาขายแล้ว ครอบครัวสหภาพจะมีอนาคตจากรถไฟสปีดปานกลางที่จะมีสิ่งที่ผมเรียกว่า Light Cargo ด้วย

SME ที่ต้องส่งชิ้นส่วนให้ทันเวลา มีอนาคต โดยใช้ Light Cargo ของไฮสปีดเทรนด์ เถ้าแก่จ้างช่างเทคนิคน้อยลง เพราะส่งช่างเทคนิค ไปตามสาขา และกลับมานอนบ้านได้ด้วย

ถามว่ารถไฟความเร็วปานกลาง จะเพิ่มพูนภาษีให้รัฐบาลไหม ต้องคิดให้ดีๆ เพิ่มพูนมาก อย่างที่ผมเล่าให้ฟัง เราไม่ได้คิดอะไรใหม่หรอก บริการเบสิคของการรถไฟไทย ผมจะบอกให้ วิธีคิดเรื่องการบริการ กิริยามารยาทของวัฒนธรรมไทยในการบริการมันมีมูลค่าทางเศรษฐกิจ ปีหนึ่ง เป็นแสนล้าน

คุณเปลี่ยนเครื่องไม้เครื่องมือให้เขา คุณเปลี่ยนระบบให้เขา ผมเชื่อว่ารถไฟ จะทำ generate cash income ให้ กับประเทศไทยมากกว่าบางบริษัทของประเทศไทย ที่มีหนี้มากกว่ารถไฟ ผมไม่เอ่ยชื่อบริษัทนั้นนะ

@ กรณีคุณสมชาย วงศ์สวัสดิ์ เคยบอกว่า ถ้า พ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้านบาท โหวตไม่ผ่าน รัฐบาลอาจจะยุบสภาก็ได้

อันนั้น ไม่ทราบ ผมไม่ได้ติดตามการเมือง ... แต่ถ้า พ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้าน ไม่ผ่าน ก็ต้องฟ้องประชาชน เราก็จดชื่อในบัญชีหนังหมาเอาไว้ ใครบ้างไม่ให้ผ่าน ทำอะไรเพื่อประชาชนมันไม่ง่าย

แล้วถ้าใครจะไปฟ้องศาลรัฐธรรมนูญ ก็ไม่แน่ ประชาชน อาจจะฟ้องบ้างแล้วห้ามศาลรัฐธรรมนูญ ไม่ให้มาดูวิวรถไฟก็ได้นะ

[Wisarut]

"ชัชชาติ" เผย 10 ชม.แห่งความประทับใจบนรถไฟ ได้คุยผู้คนหลากหลาย ลั่นจะนำไปทำระบบรางให้ดีขึ้น
มติชน
วันที่ 17 สิงหาคม พ.ศ. 2556 เวลา 11:19:48 น.

นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก เมื่อเวลา 21.00 น. เล่าเรื่องราว 10 ชั่วโมงบนรถไฟ ซึ่งยืนยันว่าข้อมูลที่ได้รับทั้งหมดจะนำไปปรับปรุงการขนส่งระบบราง

"วันนี้เดินทางมาถึงสุรินทร์เรียบร้อยดีครับ เต็มไปด้วยความประทับใจบนรถไฟ ถึงแม้ว่าจะใช้เวลาประมาณ 10 ชั่วโมง แต่ก็เป็น 10 ชั่วโมงที่มีประโยชน์ ไม่เบื่อ และได้ความรู้ ข้อมูล ข้อแนะนำดีๆ เยอะเลยครับ


ระหว่างที่อยู่บนรถไฟได้คุยกับพนักงานขับรถที่ขับมา 30 ปี ตำรวจรถไฟที่ใกล้เกษียณ พนักงานเดินรถ นายสถานี พ่อครัว คนทำความสะอาด นายช่างโยธา ผู้โดยสาร คุณแม่กับลูกชายวัย 1 ขวบ ที่เดินทางมาจากสุราษฎร์ธานีเพื่อไปศรีสะเกษทางรถไฟ คุณลุงอายุ 70 อดีตแชมป์มวยทหารโลก อาจารย์ นักเรียน หรือ แม้กระทั่งคนเมาที่มาคุยด้วย
ทุกคนร่วมกันแบ่งปันความเห็น ข้อแนะนำ ปัญหาต่างๆ จากประสบการณ์ และชีวิตของคนใช้รถไฟจริงๆ ถึงแม้ว่ารถไฟยังมีปัญหาต่างๆ ที่รอให้ต้องแก้ไขอีกมาก ผมเชื่อมั่นว่ารถไฟจะกลับมาเป็นทางเลือกของการเดินทางสำหรับคนไทยได้อย่างแน่นอน ถ้าเรามุ่งมั่นพัฒนาแก้ไขปัญหาต่างๆ อย่างจริงจังครับ


ไม่อยากให้ทุกท่านหมดหวังกับรถไฟไทยครับ ปัญหาต่างๆที่มีอยู่ในปัจจุบันหลายๆอันเป็นปัญหาในระดับโครงสร้าง จากปัญหาการจัดการที่สะสมมานาน


ข้อมูลต่างๆที่ได้ในวันนี้ จะนำไปใช้ในการปรับปรุง พัฒนา รถไฟไทยให้ดีขึ้น ในปัจจุบันรัฐบาลมีโครงการต่างๆที่ให้ความสำคัญการขนส่งระบบรางอีกครั้ง


อาจต้องใช้เวลาในการดำเนินการ แต่ผมมั่นใจว่าเราทำได้ครับ"