RailServe.Com

Main Menu

 
icon_home.gif Homepage
icon_community.gif Members Zone
· ข้อมูลส่วนตัว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ข่าวสารส่วนตัว
· บริการเว็บเมล์
· กระดานข่าว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก กระดานฝากข้อความ
· รถไฟไทยแกลลอรี่
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก รายนามสมาชิก
· แบบสำรวจ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก สมุดเยี่ยม
· เกี่ยวกับสมาชิก
favoritos.gif News & Stories
· เรื่องทั้งหมด
· เนื้อหาสาระ
· เรื่องสำหรับพิมพ์
· ยอดฮิตติดอันดับ
· ค้นหาข่าวสาร
· ค้นหากระทู้เก่า
nuke.gif Contents
· กำหนดเวลาเดินรถ
· ประเภทขบวนรถโดยสาร
· ข้อมูลเส้นทางรถไฟ
· แผนที่เส้นทางรถไฟ
· อัตราค่าโดยสาร
· คำนวณค่าโดยสารรถไฟ
· รูปแบบการให้บริการรถไฟ
· หมายเลขโทรศัพท์ที่สำคัญ
· ทริปท่องเที่ยวโดยรถไฟ
· ระบบติดตามขบวนรถ
som_downloads.gif Services
· Downloads
· GoogleSearch
· Hotels Booking
· FlashGames
· Wallpaper 1
· Wallpaper 2
· Wallpaper 3
· Wallpaper 4
icon_members.gif Information
· เกี่ยวกับเรา
· นโยบายความเป็นส่วนตัว
· แผนผังเว็บไซต์ฯ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ส่งข้อแนะนำติชม
· ติดต่อลงโฆษณา
· แนะนำและบอกต่อ
· สถิติทั้งหมด
· สำหรับผู้ดูแลระบบ
 

Sponsors

 

Ads Service

 

Visitors

 


มีผู้เข้าเยี่ยมชม
สมาชิก:311283
ทั่วไป:13263397
ทั้งหมด:13574680
คน ตั้งแต่
01-08-2004
 


Rotfaithai.Com :: View topic - เรื่องนารู้ : ประวัติการรถไฟหลวง
 Forum FAQForum FAQ   SearchSearch   UsergroupsUsergroups   ProfileProfile   Log in to check your private messagesLog in to check your private messages   Log inLog in 

เรื่องนารู้ : ประวัติการรถไฟหลวง
Goto page Previous  1, 2
 
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> สาระความรู้วิชาการรถไฟและประวัติศาสตร์รถไฟไทย
View previous topic :: View next topic  
Author Message
black_express
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/03/2006
Posts: 10060
Location: อุตรดิตถ์ - กรุงเทพฯ

PostPosted: 12/08/2013 9:45 pm    Post subject: Reply with quote

คงอยู่ระหว่างหารูปเหมาะๆ มาประกอบบทความครับ เท่าที่มีในหนังสือไม่พอประกอบเรื่องราวเลย Razz

เห็นด้วยกับ อ.ตุ้ย ครับ แต่สมัยโน้น เรื่องรถไฟมีผู้สนใจทุกระดับ เพราะเป็นพาหนะทางไกลที่รวดเร็วที่สุดในสมัยนั้น

แถมมีผู้บัญชาการที่มีความสามารถ และอยู่ใกล้พระมหากษัตริย์อีกด้วย (กรมพระกำแพงเพชรอัครโยธิน) งานทั้งปวงเลยก้าวหน้ากว่าที่คิด
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44522
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 13/08/2013 8:37 am    Post subject: Reply with quote

จากภาพสะพานที่ถูกระเบิด ที่พี่ตึ๋งนำมาให้ชม
เป็น"สะพานโค้งข้ามแม่น้ำตาปี" ที่ภายหลังนำมาใช้กับสะพานข้ามคลองยัน สายคีรีรัฐนิคมใช่ไหมครับ

แล้วสร้างสะพานข้ามแม่น้ำตาปีขึ้นใหม่ ตั้งชื่อว่าสะพานจุลจอมเกล้า
(หมายถึงว่า สะพานจุลจอมเกล้า ไม่เคยโดนระเบิดเสียหาย) Wink

ไม่ทราบว่าผมเข้าใจถูกต้องไหมครับ
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42709
Location: NECTEC

PostPosted: 13/08/2013 9:21 am    Post subject: Reply with quote

^^^
ออ สะพานที่โดนระเบิดนี่ นักบินอเมริกันที่ทิ้งระเบิดบันทึกตามชื่อตำบลว่า "สะพานท่าข้าม"
Back to top
View user's profile Send private message
black_express
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/03/2006
Posts: 10060
Location: อุตรดิตถ์ - กรุงเทพฯ

PostPosted: 13/08/2013 12:03 pm    Post subject: Reply with quote

ใช่แล้วครับ อ.หม่อง แต่เรื่องชื่อสะพานผมไม่แน่ใจ

เฮียวิศเข้ามายืนยันแล้วไง Razz ขอบคุณมากครับ
Back to top
View user's profile Send private message
Nakhonlampang
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 29/03/2006
Posts: 3292
Location: เสนานิคม1-คลองหลวง

PostPosted: 13/08/2013 8:39 pm    Post subject: Reply with quote

น่าจะเป็นอย่างที่ อ.เอกเข้าใจนะครับ เคยผ่านตามาว่าชื่อสะพานจุลจอมเกล้านั้น เป็นชื่อที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลปัจจุบันพระราชทานให้เป็นชื่อสะพานที่สร้างขึ้นมาใหม่ แสดงว่าสะพานเดิมที่โดนระเบิดทำลายไปนั้นยังมิได้ใช้ชื่อสะพานจุลจอมเกล้าเป็นชื่อสะพานแต่อย่างใด
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44522
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 13/08/2013 10:13 pm    Post subject: Reply with quote

ขอบคุณพี่ตึ๋ง คุณวิศรุตและพี่หนุ่มที่ช่วยยืนยันและเพิ่มเติมข้อมูลครับ

ในหนังสือ"หลายเรื่องเมืองสุราษฎร์" เขียนโดยคุณทศพล งานไพโรจน์ หน้า 86-87 ได้กล่าวว่า
Quote:
...หลังสงครามสงบ รัฐบาลได้ทำการรื้อถอนสะพานที่ถูกทำลาย ออกมาวางไว้บริเวณสถานีรถไฟสุราษฎร์ธานี แล้วนำไปก่อสร้างเป็นสะพานรถไฟข้ามคลองยัน ที่อำเภอคีรีรัฐนิคมเท่าทุกวันนี้ สำหรับสะพานใหม่นั้น รัฐบาลได้ว่าจ้างบริษัท Cormanlong Co.Ltd. ประเทศอังกฤษมาทำการซ่อมแซม

ระหว่างรื้อถอนซากสะพาน ได้พบลูกระเบิดที่ตกค้างจำนวน ๑ ลูก และได้กู้ขึ้นมานำไปทิ้งกลางทะเล การสร้างสะพานใช้ตอม่อเดิม แต่เปลี่ยนรูปทรงลักษณะใหม่ ไม่เป็นรูปโค้งเหมือนเช่นเดิม โดยแบ่งแต่ละช่วงออกเป็น ๓ ช่วง มีทางรถไฟ ทางคนเดิน และช่องกลางเว้นไว้สำหรับรองรับผิวจราจรทางรถยนต์ ใช้เวลาซ่อมสร้างประมาณ ๖ ปี จึงแล้วเสร็จ ทำพิธีเปิดให้รถไฟแล่นผ่านได้ เมื่อวันที่ ๑๖ กุมภาพันธ์ ๒๔๙๖

คุณสมศักดิ์ นันทรักษ์ชัยกุล อดีตนายช่างแขวงการทางสุราษฎร์ธานี ได้อนุเคราะห์สืบค้นข้อมูลให้ผมได้ทราบและบันทึกไว้ว่า นามสะพานแห่งนี้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๙ ได้พระราชทานนามว่า"สะพานจุลจอมเกล้า" เมื่อวันที่ ๒๖ เมษายน ๒๔๙๔

สำหรับในวันที่ทำพิธีเปิดนั้น ทางราชการได้ตั้งปะรำประกอบพิธีสงฆ์ตอนเช้า ที่บริเวณถนนราษฎร์บำรุงซอย ๑๓ ในปัจจุบัน สมัยนั้นยังเป็นที่ลุ่มและดงป่าพง ต้นทองหลาง ข้าราชการหรือชาวบ้านที่มาร่วมงานถ้าไม่มาทางเรือก็ต้องเดินแหวกหญ้าคาป่าพงเข้ามา โดยมีหลวงเสรีเรืองฤทธิ์ ผู้ว่าการรถไฟมาเป็นประธานในพิธีเปิด...
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
black_express
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/03/2006
Posts: 10060
Location: อุตรดิตถ์ - กรุงเทพฯ

PostPosted: 13/08/2013 10:44 pm    Post subject: Reply with quote

ขอบคุณ อ.หม่องมากๆ ครับ สำหรับที่มาของชื่อสะพาน
Back to top
View user's profile Send private message
Noomrattana
3rd Class Pass
3rd Class Pass


Joined: 24/06/2013
Posts: 53

PostPosted: 13/10/2013 1:37 pm    Post subject: Reply with quote

จากบันทึกฟื้นความหลัง โดยเสถียรโกเสศ

สถานีรถไฟกรุงเทพ สถานีเดิมอยู่ถัดจากสะพานนพวงศ์ไม่ไกลนัก ปัจจุบันเป็นทางรถไฟไปแล้ว

ตัวสถานีรถไฟเป็นเรือนไม้ชั้นเดียว ทาสีเหลือง ๆ มอ ๆ รูปทรงเป็นเรือนหลังคาปั้นหยา มีระเบียงดูเหมือนรอบตัว ถ้าผิดก็เป็นระเบียงสองด้านหน้าหลังเท่านั้น ส่วนระยะพื้นเรือนลงมาจนพื้นดิน ซึ่งเรียกว่า ล่องถุนมีระยะสูงมากกว่าเรือนธรรมดาเล็กน้อย เดินลอดเข้าออกได้สะดวก

ห้องขายตั๋วรถไฟ เข้าใจว่าอยู๋ในบริเวณนี้ด้วย พื้นทั้งหมดปูอิฐหรือลาดซิเมนต์ สมัยนั้นเรียก "สเตชั่นรถไฟ" คนสามัญเรียกว่า "สเตแท่นรถไฟ" หรือเรียกสั้น ๆ ว่า "สเตแท่น" ก็เข้าใจกันดี
Back to top
View user's profile Send private message
Display posts from previous:   
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> สาระความรู้วิชาการรถไฟและประวัติศาสตร์รถไฟไทย All times are GMT + 7 Hours
Goto page Previous  1, 2
Page 2 of 2

 

Share |

Jump to:  
You cannot post new topics in this forum
You cannot reply to topics in this forum
You cannot edit your posts in this forum
You cannot delete your posts in this forum
You cannot vote in polls in this forum

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group


Forums ©