การขนส่งรถจักร เขาทำกันอย่างไรครับ

[Aegis_XPR]

ผมดูข้อมูลในเว็บ RFT มาได้สักระยะหนึ่ง ผมก็เกิดข้อสงสัยเกี่ยวกับการขนส่งรถจักรขึ้นมา 2-3 ข้อครับ
แต่ผมหาคำตอบที่นี่ทั้งวิธีอัตโนมัติและอัตโนมือก็ไม่เจอ

ที่ผมสงสัยก็คือ
1. รถจักรดีเซลตัวเปล่า เมื่อต้องเดินทาง (เช่น ไปช่วยทำการขบวนรถต่างๆ) จะเดินทางด้วยความเร็วเท่าไหร่ครับ เพราะเท่าที่ผมเห็นนี่ เวลารถจักรดีเซลตัวเปล่าผ่านย่านสถานีทีไร มักจะเป็นการผ่านด้วยความเร็วต่ำทุกครั้ง (เห็นจะไม่เกิน 30km/h)
2. เมื่อต้องการขนส่งรถจักรเป็นระยะทางไกลๆ เขาใช้วิธีไหนขนส่งกันครับ (เช่น แขวงรถจักรหาดใหญ่ต้องการรถจักรจากแขวงธนบุรี)

แล้วขอถามเรื่องที่ไม่เกี่ยวกับรถจักรตัวเปล่าอีกสองเรื่องนะครับ
3. รถจักรดีเซลที่มีเครื่องยนต์ประธาน 2 เครื่องยนต์ จะสามารถออกตัวด้วยเครื่องยนต์เดียวไปก่อน แล้วไปสตาร์ทเครื่องยนต์ที่สองกลางทางได้หรือไม่ครับ (ผมว่าผมไม่ได้ตาฝาดนะ)
4. รถจักรดีเซลที่มีเครื่องยนต์ประธาน 2 เครื่องยนต์ สามารถใช้กำลังเครื่องไม่เท่ากันได้หรือไม่ครับ (ผมเคยเห็นที่ชุมทางบางซื่อ ติดทั้งสองเครื่อง แต่เร่งแค่เครื่องยนต์เดียว ผมว่าผมไม่ได้ตาฝาดเหมือนกันครับ)

ขอบคุณมากครับ

[conrail]

ขอตอบแบบเรียงตามลำดับเลยนะครับ

1. เมื่อรถจักรดีเซลวิ่งตัวเปล่านั้น สามารถใช้ความเร็วสูงสุดที่รถจักรรุ่นนั้นๆวิ่งได้ ซึ่งการรถไฟจะมีการกำหนดเอาไว้ว่ารถจักรรุ่นนี้ รุ่นนั้นวิ่งได้เท่าไหร่ ยกตัวอย่างเช่น รถจักรอัลสธอมในทางเทคนิคสามารถวิ่งได้ถึง 95 กม./ชม. หรือ 100 กม./ชม.( ขึ้นอยู่กับอุปกรณ์เฉพาะบางอย่าง ) แต่การรถไฟมีระเบียบให้รถจักรรุ่นนี้วิ่งได้ความเร็วสูงสุดที่ 93 กม./ชม.เท่านั้น อย่างไรก็ตาม ความเร็วในการวิ่งทำขบวนตัวเปล่านั้นไม่จำเป็นว่าจะต้องวิ่งที่ความเร็วสูงสุดเพียงอย่างเดียว ต้องดูความเหมาะสมและสภาพความปลอดภัยด้วย เนื่องจากเมื่อต้องวิ่งรถจักรตัวเปล่าแล้ว เมื่อจะทำการหยุดรถ หรือ ลดความเร็วลง จะสามารถใช้เพียงห้ามล้อรถจักรได้อย่างเดียวเท่านั้น ในขณะที่รถจักรซึ่งกำลังทำขบวน การหยุดรถหรือ ลดความเร็วจะใช้ห้ามล้อของขบวนรถเป็นหลักและให้ผลที่แน่นอนกว่า เนื่องจากมีเครื่องห้ามล้อหลายเครื่องนั่นเอง ด้วยเหตุนี้เมื่อรถจักรตัวเปล่าผ่านย่านใหญ่ๆ หรือ เขตชุมชนนั้น โดยปกติตามวิสัยทัศน์ของพขร.แล้ว จะลดความเร็วลงเพื่อความปลอดภัย อีกเรื่องนึงก็คือ เมื่อต้องวิ่งในทางที่ไม่ใช่ทางประธานแล้วเช่น วิ่งในทางหลีกตามย่านสถานี ความเร็วจะจำกัดให้วิ่งเพียงแค่ 30 กม./ชม.เท่านั้น

2.โดยปกติจะพ่วงไปกับขบวนรถสินค้า

3.การใช้เครื่องยนต์เดียวทำขบวนในขณะที่รถจักรชนิดนั้นมี 2 เครื่องยนต์สามารถทำได้ครับ ถ้าหน่วยลากจูงไม่เกินกว่าในทางตอนนั้นๆที่จะวิ่งผ่านเข้าไป ส่วนที่ได้พบมานั้น เข้าใจว่ารถจักรอาจจะมีปัญหาเกี่ยวกับเครื่องยนต์เครื่องนึง เพื่อไม่ให้เสียเวลาเพิ่มจึงออกรถไปก่อนด้วยเครื่องยนต์ที่เหลือ จากนั้นจึงทำการแก้ไขเครื่องยนต์ที่มีปัญหาจนสามารถกลับมาทำงานได้และใช้การปกติทั้ง 2 เครื่อง

4.กรณีนี้ขึ้นอยู่กับว่าระบบควบคุม หรือ ระบบป้องกันความชำรุดของอุปกรณ์ทำงานรึเปล่า เช่น ถ้าเครื่องยนต์ที่ 1 มีอาการของน้ำระบายความร้อนเครื่องยนต์สูงเกินพิกัด ระบบจะสั่งการให้รอบเครื่องยนต์ที่ 1 นี้อยู่เพียงแค่รอบเดินเบาเท่านั้น และเครื่องกำเนิดไฟฟ้าที่สัมพันธ์กับเครื่องยนต์เครื่องนี้จะไม่สามารถสร้างกระแสไฟฟ้าพื่อจ่ายให้กับมอเตอร์ลากจูงในชุดนี้ไปด้วย ถ้าอุณหภูมิน้ำของเครื่องยนต์ที่ 2 อยู่ในสภาพปกติ ก็สามารถใช้เร่งรอบและขับเครื่องกำเนิดไฟฟ้าให้กับระบบขับเคลื่อนได้ตามปกติ แต่ในกรณีนี้ก็จะทำให้เสียกำลังขับเคลื่อนไปถึงครึ่งหนึ่ง จนกว่าอุณหภูมิน้ำจะลดลงมาอยู่ในสภาพปกติจึงจะสามารถใช้งานเครื่อยนต์ที่ 1 ได้อีกครั้ง ปัญหานี้เป็นเพียงตัวอย่างในอีกหลายๆปัญหาที่ถึงแม้ว่าเครื่องยนต์ติดอยู่ แต่รอบไม่เปลี่ยน ซึ่งอาจจะเกิดเพียงเครื่องเดียว หรือ อาจจะเกิดขึ้นทั้ง 2 เครื่องก็ได้

[Aegis_XPR]

ขอบคุณมากครับ