View previous topic :: View next topic |
Author |
Message |
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 44318
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 13/08/2013 5:41 pm Post subject: |
|
|
เรื่องปี ค.ศ.กับ พ.ศ. ในยุคเก่านี่ สร้างปัญหาจริง ๆ ครับ
แม้แต่เรื่องเปิดเดินรถไฟสายสงขลา 1 ม.ค. 2456 ก็เคยทำให้สับสนมาแล้ว ว่าจะครบ 100 ปีเมื่อไหร่
เดี๋ยวผมรอให้หนังสือเล่มจริงจากอาจารย์ถนอมนวลมาถึงก่อน แล้วจะอ่านดูด้วยครับ |
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 44318
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 15/08/2013 9:13 pm Post subject: |
|
|
วันนี้ได้รับหนังสือจาก ศ.ถนอมนวล เรียบร้อยแล้วครับ
|
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 44318
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 18/10/2013 5:37 pm Post subject: |
|
|
สมุดภาพพระยาพหลพลพยุหเสนา ภาค ๑ (พิมพ์ปี 2556)
ธงชัย ลิขิตพรสวรรค์: บรรณาธิการ
สำนักพิมพ์ต้นฉบับ ราคาเล่มละ 700 บาท หนา208 หน้า
ISBN 978-616-7176-16-1
ขายอยู่ในงานมหกรรมหนังสือระดับชาติ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ลด 20% ครับ บูธสำนักพิมพ์ต้นฉบับ
ท่านใดชอบภาพประวัติศาสตร์ ก็ซื้อได้ครับ (ไม่เกี่ยวกับรถไฟ แต่มีภาพรถไฟอยู่ 2-3 ภาพครับ)
|
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 44318
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 29/10/2013 5:45 pm Post subject: |
|
|
นิตยสารศิลปวัฒนธรรม ปีที่ 34 ฉบับที่ 12 เดือนตุลาคม 2556
ปกน้ำตาลขาว ภาพอนุสาวรีย์ปราบกบฏ
มีบทความเรื่อง พระปกเกล้าฯ กับ "กบฏบวรเดช": 80 ปีของการก่อกบฏต่อต้านระบอบประชาธิปไตย โดย ณัฐพล ใจจริง สาขาวิชาการปกครองท้องถิ่น ม.ราชภัฏสวนสุนันทา
มีภาพเกี่ยวกับรถไฟเก่า ๆ หลายภาพครับ |
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 44318
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 23/01/2014 8:48 am Post subject: |
|
|
นิตยสารศิลปวัฒนธรรม ปีที่ 35 ฉบับที่ 3 มกราคม 2557
ปกสีน้ำเงิน
มีบทความเรื่อง ๑๑๐ ปีสถานีรถไฟคลองสาน โดยคุณโมน สวัสดิ์ศรี สมาชิกรถไฟไทยดอทคอมครับ
|
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 44318
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 25/02/2014 2:27 pm Post subject: |
|
|
อาจารย์ Ichiro Kakizaki ออกหนังสือเล่มใหม่ เกี่ยวกับนโยบายการเมืองของขนส่งมวลชนในกรุงเทพ ปี 1886-2012 ครับ หนา 500 กว่าหน้า
都市交通のポリティクス: バンコク1886~2012年
ISBN: 978-4876983773
ราคา 7,000 เยน เร็ว ๆ นี้คงจะมีฉบับภาษาอังกฤษตามมาครับ
|
|
Back to top |
|
|
Nakhonlampang
1st Class Pass (Air)
Joined: 29/03/2006 Posts: 3291
Location: เสนานิคม1-คลองหลวง
|
Posted: 16/04/2014 11:22 pm Post subject: |
|
|
นิตยสาร ศิลปวัฒนธรรม ปีที่ 35 ฉบับที่ 6 เมษายน 2557
มีบทความเรื่อง
ตะลึง!
Blueprint ยุครัชกาลที่ 5
โครงการช้างทางรถไฟสยามสู่จีน
มีจริงหรือ? ใครอยู่เบื้องหลัง?
โดยคุณไกรฤกษ์ นานา
เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับโครงการสร้างทางรถไฟจากพม่าผ่านประเทศไทยโดยมีจุดหมายอยู่ที่ดินแดนสิบสองปันนาของจีน ซึ่งดำเนินการโดยอังกฤษ ตรงกับสมัยรัชกาลที่ 5 ครับ
แต่เนื้อหาในฉบับนี้ส่วนใหญ่จะเป็นการปูพื้นเกี่ยวกับความสัมพันธ์ทางการทูตในยุคล่าอาณานิคม รวมถึงความสัมพันธ์ระหว่างสยามกับอังกฤษที่ทำให้สยามรู้จักรถไฟเป็นครั้งแรกผ่านคณะฑูต ส่วนประเด็นหลักเกี่ยวกับตัวโครงการทางรถไฟมีอยู่เล็กน้อยช่วงท้ายบทความ โดยจะมีต่อตอนที่ 2 ในฉบับถัดไป |
|
Back to top |
|
|
black_express
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/03/2006 Posts: 10060
Location: อุตรดิตถ์ - กรุงเทพฯ
|
Posted: 17/04/2014 9:31 am Post subject: |
|
|
เรื่องของเรื่องคือทางอังกฤษต้องการก่อสร้างเส้นทางรถไฟสำหรับขนไม้ซุงและแร่ธาตุต่างๆ จากจีนและอาณาจักรล้านนามายังเมืองมะละแหม่ง แทนที่ขบวนคาราวานวัวต่างหรือฬ่อต่างมาตามแม่น้ำสาละวิน และแน่นอนแหละครับ ต้องมีผลประโยชน์อยู่สองข้างทางและยังจูงใจให้ขยายอิทธิพลของอังกฤษเองตลอดสองข้างทางรถไฟหากก่อสร้างเสร็จด้วย เช่น จีนในปัจจุบัน ยื่นข้อเสนอกับ สปป.ลาว เพื่อขอทำประโยชน์สองข้างทางรถไฟความไวสูงข้างละ 1 ก.ม.เป็นเวลา 50 ปี โดยอ้างว่า ใช้ต้นทุนการก่อสร้าง แรงงานจากบริษัทชาวจีนทั้งหมด และเทคโนโลยีสูงมาก
สมัยโน้น เชียงใหม่ยังอยู่ในฐานะประเทศราชของสยาม หากหันเหความสนใจไปทางอังกฤษเมื่อใด อาจกลายเป็นรัฐในอารักขาก็ไม่รู้ นั่นเป็นสิ่งที่รัฐบาลสยามปฏิเสธโครงการก่อสร้างทางรถไฟของอังกฤษดังกล่าว โดยให้เหตุผลว่า ผลประโยชน์ไม่ตกมาถึงสยาม แต่อังกฤษเป็นฝ่ายได้อย่างเดียว
และติดตามมาถึงแนวทางรถไฟสายเหนือที่แต่เดิมจะไปถึงเมืองเชียงแสนหลวง ต้องเบนแนวไปยังเชียงใหม่ และมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับเจ้าเมืองเชียงใหม่มากขึ้นในฐานะ "เขยหลวง" โดยทรงมีพระชายา คือ เจ้าดารารัศมี นั่นไงครับ |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42623
Location: NECTEC
|
Posted: 17/04/2014 11:07 am Post subject: |
|
|
Mongwin wrote: | วันนี้ได้รับหนังสือจาก ศ.ถนอมนวล เรียบร้อยแล้วครับ |
เล่มนี้ผมซื้อแล้ว ในงานสัปดาห์หนังสือ - ต้องตัดส่วนแปลงเป็นพ.ศ. ออกไปเลย และ รู้สึกว่าส่วนที่เป็นศีศะดงก็จะหายไปด้วย
Nakhonlampang wrote: | นิตยสาร ศิลปวัฒนธรรม ปีที่ 35 ฉบับที่ 6 เมษายน 2557
มีบทความเรื่อง
ตะลึง!
Blueprint ยุครัชกาลที่ 5
โครงการช้างทางรถไฟสยามสู่จีน
มีจริงหรือ? ใครอยู่เบื้องหลัง?
โดยคุณไกรฤกษ์ นานา |
ออ น่าจะเป็นกรณีสร้างทางรถไฟจากเชียงใหม่ไปตามลำน้ำปิง แล้วไปออกมะละแหม่ง และ ชวนให้รัฐบาลไทยสร้างทางรถไฟตามลำน้ำปิงด้วย ได้ทางจากเชียงใหม่ค่อยทำทางไปออกเชียงแสนหลวงเข้าพม่า ก่อนออกไปจีนหงะ |
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 44318
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 17/04/2014 1:35 pm Post subject: |
|
|
ตะลึง! Blueprint ยุครัชกาลที่ 5 โครงการช้างทางรถไฟสยามสู่จีน มีจริงหรือ? ใครอยู่เบื้องหลัง?
มติชนออนไลน์ วันที่ 17 เมษายน พ.ศ. 2557 เวลา 12:40:25 น.
ไกรฤกษ์ นานา นักวิชาการทางประวัติศาสตร์
( ตัดบางตอนมาจากต้นฉบับ รัฐบาลสมัยรัชกาลที่ ๕ กับโครงการช้างทางรถไฟจากสยามสู่จีน ศิลปวัฒนธรรม เมษายน ๒๕๗๗)
ปี ค.ศ. ๑๘๘๖ (พ.ศ. ๒๔๒๙) ในยุคที่สยามยังไม่มีรถไฟเป็นของตนเอง แต่รัฐบาลกลับสนใจที่จะสำรวจเส้นทางรถไฟนานาชาติสายหนึ่ง อีก ๑๒๘ ปีต่อมา บริษัทประมูลยักษ์ใหญ่ของอังกฤษได้นำผลสำรวจโครงการนี้ออกประมูลขายในราคาแพงลิบลิ่ว โดยโฆษณาว่าเป็นข้อมูลลับของทางการไทยที่ไม่เคยเปิดเผยสู่ประชาชน แต่ผู้รับเหมาอังกฤษก็ได้รับพระบรมราชานุญาตจากรัชกาลที่ ๕ ให้สำรวจและตีราคาในทางลับหลังค้นพบเส้นทางใหม่จากสยามไปจีน ทว่า โครงการนี้กลับสาบสูญหายไปอย่างไร้ร่องรอย และไม่มีใครพูดถึงอีกเลยจนตลอดรัชกาล ท่ามกลางการหลีกเลี่ยง ที่จะกล่าวถึงโดยนักประวัติศาสตร์สมัยหลัง และเป็นข้อมูลที่ถูกถอดออกไปจากประวัติการรถไฟไทยของทางราชการอย่างมีปริศนา
ความคิดที่จะสร้างทางรถไฟจากอาณานิคมของอังกฤษคือพม่าตรงไปยังจีนมีมาตั้งแต่ทศวรรษ ๑๘๘๐ เพื่อขยายอิทธิพลของอังกฤษเข้าไปยังศูนย์กลางและแหล่งทรัพยากรอันมั่งคั่งของจีนที่เรียกว่ามณฑลยูนนานและมณฑลกวางสี โครงการรถไฟไปจีนถูกร่างขึ้นเพื่อสนองนโยบายต่างประเทศและแผนพัฒนาเศรษฐกิจในอาณานิคมโพ้นทะเล ซึ่งแข่งขันกันในเชิงระหว่างคู่แข่งอื่นๆ เช่น ฝรั่งเศสและรัสเซีย ซึ่งต้องการจัดสรรดินแดนแหล่งทรัพยากรและเมืองท่าที่เต็มไปด้วยศักยภาพของจีนเพื่อผูกขาดการค้าและพัฒนาฐานเศรษฐกิจในอาณานิคมของตนโดยแข่งกันแบบใครมาก่อนได้ก่อน
ทีมงานสำรวจของอังกฤษนำโดยอดีตเจ้าหน้าที่สำนักข้าหลวงใหญ่อังกฤษประจำพม่า ชื่อนายคอลคุฮอน (A. R. Colquhoun) และหัวหน้าฝ่ายวิศวกรรมของสำนักข้าหลวงใหญ่อังกฤษประจำอินเดียชื่อนายฮาเล็ต (H. Hallett) เริ่มดำเนินการออกสำรวจพื้นที่ครั้งแรกในปี ค.ศ. ๑๘๘๒ จากเมืองกวางตุ้งลงมาถึงกรุงร่างกุ้ง นายคอลคุฮอน หัวหน้าคณะเดินทางกลับไปอังกฤษ และรวบรวมข้อมูลที่ได้เสนอต่อสมาพันธ์หอการค้าอังกฤษเพื่อขอความเห็น
โดยในครั้งแรก คณะสำรวจได้เสนอให้วางเส้นทางเดินรถไฟพาดผ่านรัฐอิสระทางภาคเหนือของพม่า ได้แก่ รัฐฉานและแคว้นสิบสองปันนาซึ่งคั่นกลางอยู่ระหว่างพม่ากับจีนด้วยงบประมาณคร่าวๆ เป็นเงิน ๗ ล้านปอนด์สเตอร์ลิง เงินทุนจากงบประมาณนี้ครึ่งหนึ่งมาจากเงินสนับสนุนของหอการค้าอังกฤษ และอีกครึ่งหนึ่งมาจากงบประมาณแผ่นดินของรัฐบาลกลางที่ลอนดอน
ผลสำรวจและการคาดการณ์ผลกำไรสำหรับอนาคตได้รับการยอมรับและลงมติเห็นชอบอย่างท่วมท้นโดยหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนอังกฤษในเบื้องต้น ถึงขนาดที่หอการค้าอังกฤษยินดีสำรองจ่ายเงินล่วงหน้าให้ครึ่งหนึ่งก่อนเพื่อศึกษาความเป็นไปได้เชิงรายละเอียดเพื่อจะได้เห็นสภาพรอบด้าน
ข้อมูลเชิงลึกรายงานอุปสรรคมากมาย ที่ผู้รับเหมาต้องประสบจากภูมิประเทศซึ่งเป็นเทือกเขาสูงชันหนาทึบเป็นแนวยาวตลอดพรมแดนพม่า-จีน แต่ทางคณะสำรวจก็ยังค้นพบทางเลือกเส้นทางสำรองจากมะละแหม่งลัดผ่านเข้าไปในเขตแดนสยามแล้วพุ่งตรงขึ้นไปทางเมืองเชียงแสนผ่านเชียงแขง สิบสองปันนาเข้าสู่ยูนนาน ย่อมจะทำได้ง่ายกว่า และรวดเร็วกว่าเส้นทางเดิมผ่านรัฐฉานของพม่าซึ่งเต็มไปด้วยความทุรกันดาร
เส้นทางสำรองได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากรัฐบาลสยามซึ่งตื่นเต้นที่จะได้ลืมตาอ้าปาก และยกระดับความสำคัญของสยามรัฐขึ้นไปเป็นภาพลักษณ์ชั้นแนวหน้าของประชาคมเอเชีย แต่สยามก็ตั้งเงื่อนไขว่าเส้นทางนี้จะมีศักยภาพเพิ่มขึ้นหากได้ผนวกลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำท่าจีน และแม่กลองอันมั่งคั่งของสยามเข้าไว้ด้วย โดยมีกรุงเทพฯ เป็นเมืองท่าใหญ่รองรับสินค้าที่จะบรรทุกลงมา และยังมีศักยภาพเกินความคาดหมายในวันหนึ่งข้างหน้า จะได้เชื่อมต่อทางรถไฟลงไปจนถึงอาณานิคมอันยิ่งใหญ่ของอังกฤษที่สิงคโปร์และมลายู
สูตรสำเร็จของแผนงานระยะสุดท้ายลงเอยที่เส้นทางรถไฟสาย Pan Asia สายแรก เริ่มต้นจากกรุงเทพฯ พาดผ่านสยาม-พม่า-จีน ความยาวนับพันกิโลเมตร ด้วยความเห็นชอบของทุกฝ่ายเป็นเอกฉันท์ ในปี ค.ศ. ๑๘๘๖ เส้นทางรถไฟแห่งความหวังนี้จะเกิดขึ้นหรือไม่ เป็นเรื่องที่จะได้นำเสนอในตอนต่อไป |
|
Back to top |
|
|
|