ข่าว รฟท จาก หนังสือพิมพ์

[Wisarut]

[Wisarut]

ร.ฟ.ท.เตรียมแผนซ่อมบำรุงทางรถไฟสายใต้


โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 3 พฤษภาคม 2557 10:23 น.


นายประภัสร์ จงสงวน ผู้ว่าการ การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เปิดเผยว่า จะมีการลงพื้นที่สำรวจเส้นทางรถไฟสายใต้ และหารือกับผู้รับเหมาเพื่อสรุปแผนปรับปรุงเส้นทางรถไฟสายใต้ใหม่ หลังมีการร้องเรียนจากประชาชนว่า บางช่วงของเส้นทางรถไฟมีสภาพที่แย่มาก โดยเฉพาะบริเวณ อ.ทุ่งสง จึงเตรียมที่จะปรับแผนเพื่อเร่งดำเนินการก่อน และปรับแผนซ่อมแซมให้เร็วกว่ากำหนด โดยจะมีการซ่อมเป็นช่วงๆ และระหว่างนั้นจะประสานกับหน่วยงานทหารเพื่อจัดหารถโดยสารเชื่อมต่อการเดินทาง บรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชน เนื่องจากเชื่อว่าประชาชนในพื้นที่ภาคใต้นิยมเดินทางด้วยรถไฟมากที่สุด

ทั้งนี้ เชื่อว่าระยะทางที่จะต้องซ่อมแซมครั้งนี้ สั้นกว่าเส้นทางภาคเหนือ ก็จะทำให้ใช้ระยะเวลาในการดำเนินการน้อยกว่า โดยโครงการในครั้งนี้จะใช้งบประมาณ 6,000 ล้านบาท

[Wisarut]

"ประภัสร์"เสนอรื้อโครงสร้างรถไฟแยกบริหาร 4 ภาค กระจายอำนาจวัดผลงานง่าย


โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 5 พฤษภาคม 2557 20:18 น.

ประภัสร์เสนอรื้อโครงสร้างรถไฟแยกบริหาร 4 ภาค กระจายอำนาจวัดผลงานง่าย

"ประภัสร์"เสนอรื้อโครงสร้างรถไฟใหม่ กระจายอำนาจแบ่งรองผู้ว่าฯร.ฟ.ท.คุม 4 ภาค แยกงานเดินรถ ซ่อม ระบบบัญชี ชัดเจน กระตุ้นและวัดประสิทธิภาพการทำงานของบุคลากรได้ ระบุแยกหน่วยธุรกิจไม่เวิร์ค รถไฟไม่ดีขึ้นเพราะยังรวมศูนย์อำนาจอยู่ที่ส่วนกลางมากไป เผยสหภาพฯหนุน มั่นใจไม่มีแรงต้านเพราะเป้าหมายเพื่อพัฒนารถไฟ

นายประภัสร์ จงสงวน ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เปิดเผยว่า ขณะนี้มีแนวคิดในการปรับโครงสร้างรถไฟใหม่ โดยแบ่งโครงสร้างการบริหารงานออกเป็น 4 ภาค คือ ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้ โดยมีรองผู้ว่าฯ ร.ฟ.ท.ในแต่ละภาคเป็นผู้ดูแล มีการแยกบัญชีรายได้ รายจ่าย การเดินรถ การซ่อมบำรุง ออกจากกันอย่างชัดเจน เพื่อให้แต่ะภาคได้ทำงานและบริหารจัดการได้อย่างเต็มที่ และเกิดประสิทธิภาพสูงสุด โดยแต่ละภาคจะทำแผนการใช้จ่ายเพื่อเสนอของบประมาณในแต่ละปี และมีตัวชี้วัดประสิทธิภาพการทำงาน(KPI) ของแต่ละภาค หากภาคใดบริหารจัดการดี และมีรายได้น่าพอใจก็สามารถจ่ายโบนัสให้ตัวเองได้

ทั้งนี้โครงสร้างในปัจจุบัน เป็นการรวมศูนย์อำนาจอยู่ที่ส่วนกลาง ผ่านรองผู้ว่าฯ ร.ฟ.ท.ที่มีถึง 7 คน ซึ่งเมื่อเกิดปัญหาในการทำงาน จะเป็นปัญหาของรถไฟในภาพรวม บอกสามารถบอกได้ว่าต้นเหตุที่แท้จริงของปัญหาที่เกิดขึ้นมาจากส่วนไหน บกพร่องจุดไหน ส่วนรูปแบบโครงสร้างแยกหน่วยธุรกิจ Business Unit : BU) ด้านเดินรถ ,ด้านซ่อมบำรุง,ด้านบริหารทรัพย์สินที่ใช้อยู่ในปัจจุบันนั้นพบว่า ไม่ประสบความสำเร็จ ขณะที่โครงสร้างใหม่ จะเห็นการทำงานในแต่ละส่วน ได้ชัดเจนมากขึ้น เมื่อรถไฟไม่ดีขึ้นคงต้องยกเลิกไป

โดยแนวคิดปรับโครงสร้างใหม่นี้ได้นำหารือในที่ประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด)ร.ฟ.ท.ที่มีนายบุญสม เลิศหิรัฐวงศ์ เป็นประธานแล้ว โดยบอร์ดได้สั่งให้ทำการศึกษาให้ชัดเจน ซึ่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์อยู่ระหว่างดำเนินการและใกล้เสร็จสิ้นแล้ว จากนั้นจะนำเสนอให้บอร์ดพิจารณาอีกครั้ง ก่อนส่งไปยังกระทรวงคมนาคมและ ครม.ต่อไป

"โครงสร้างแบ่งการบริหารเป็นภาคนั้น จะทำให้รองผู้ว่าฯจะเหลือ 4 คนจากปัจจุบันมี 7 คน โดยรองผู้ว่าฯ ร.ฟ.ท.ซึ่งถือเป็นผู้บริหารสูงสุดขององค์กรที่เป็นพนักงานประจำจะเป็นกำกับดูแลการทำงาน ไม่ใช่ไปหลบซ่อนอยู่ตามซอกแบบที่เป็นอยู่ รองผู้ว่าฯต้องมีความแข็งแกร่ง มีความรับผิดชอบมากขึ้น ทุกภาคจะแข่งกันทำงาน มีกำไรจะได้โบนัสเหมือนกับ รถไฟญี่ปุ่นที่แยกเป็น JR West,JR East ซึ่งกว่าจะประสบความสำเร็จกำไรต้องใช้เวลา 26 ปี สุดท้ายจะแปรรูปเป็นบริษัทมหาชนได้โดยไม่มีปัญหา รูปแบบนี้จะทำให้ทุกคนกระตือรือร้นในการทำงานมากขึ้น ยืนอยู่ได้ด้วยตัวเอง ส่วนผู้ว่าฯ ซี่งมาจากการสรรหาฯ ควรมีหน้าที่ในการวางนโยบาย ประสานงานทุกฝ่ายทั้งกับพนักงาน กับนโยบายระดับกระทรวงและรัฐบาล กำหนดเส้นทาง กำหนดค่าโดยสาร ซื้อรถเพิ่มเติมตรวจสอบการทำงานระบบบัญชี ในภาครวมไม่ควรไปยุ่งกับเรื่องปฎิบัติ” นายประภัสร์ กล่าว

นายประภัสร์ มั่นใจว่า โครงสร้างใหม่ที่นำเสนอจะไม่เกิดการต่อต้านหรือแรงกระเพื่อมภายใน เพราะเป็นการทำเพื่ออนาคตของรถไฟที่จะไม่ตกอยู่ในสภาพขาดทุนอีก โดยสิ้นปีงบประมาณ 2557 จะมีรองผู้ว่าฯทยอยเกษียณฯอายุในหลักการจะไม่ตั้งเพิ่มก่อน และได้หารือรูปแบบโครงสร้างดังกล่าวกับสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ ร.ฟ.ท.แล้ว ซึ่งสหภาพฯ แสดงความเห็นด้วย โดยระบุว่าเคยนำเสนอโครงสร้างเช่นนี้กับผู้ว่า ร.ฟ.ท.คนที่ผ่านๆ มาแล้วแต่ไม่มีใครเห็นด้วย เนื่องจากเกรงว่าจะสูญเสียอำนาจบริหารงาน ดังนั้นมั่นใจว่า ถ้าทุกคน อยากเห็นรถไฟพัฒนามากกว่านี้คงจะผลักดันให้เดินหน้าต่อไปได้ แต่กังวลว่าเมื่อตนเองครบวาระปี58 อาจจะไ่ม่มีการสานต่อ

อย่างไรก็ตามการใช้โครงสร้างแบ่งการทำงานเป็น 4 ภาค และการดำเนินโครงการปรัยปรุงประสิทธิภาพรถไฟตามแผน ต้องอยู่บนเงื่อนไขว่า ครม.อนุมัติให้ ร.ฟ.ท.รับบุคลากรเพิ่ม ซึ่งขณะนี้ยังขาดกำลังคนด้านช่างกล โยธา เดินรถ ประมาณ 1 หมื่น คน เนื่องจากมติครม.ห้ามรับบุคลากรเกิน 5% จากจำนวนผู้เกษียณอายุในแต่ละปี ทำให้บุคลากรรถไฟลดลงเรื่องจาก จาก 2.6 หมื่นคนเหลือ 1.1-1.2หมื่นคนเท่านั้น

[Mongwin]

ภาพเหตุระเบิดที่โรงพักหาดใหญ่ ไม่ไกลจากสถานีรถไฟหาดใหญ่ครับ
(ไม่มีเหตุระเบิดที่สถานีรถไฟแต่อย่างใด)


ที่มา: http://pantip.com/topic/32011903

[Mongwin]

ประภัสร์ จงสงวน เพิ่มแรงฮึด ยกเครื่องใหม่การรถไฟ
ประชาชาติธุรกิจออนไลน์ 06 พ.ค. 2557 เวลา 12:12:33 น.

1 ปี 5 เดือนที่ "ประภัสร์ จงสงวน" นั่งเก้าอี้ผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) คนที่ 17 หลังรับตำแหน่งวันแรกเมื่อ 12 พฤศจิกายน 2555 ที่ผ่านมา ซึ่งจะครบวาระในวันที่ 18 พฤษภาคม 2558 นี้ แม้จะได้นั่งบริหารงานในองค์กรมีอายุร่วม 118 ปี เพียงชั่วระยะเวลาแค่ 2 ปี 7 เดือน แต่ก็เรียกได้ว่าที่ผ่านมาเพียงปีเศษ "ประภัสร์" ได้ปรับปรุงและปรับเปลี่ยนองค์กรม้าเหล็กที่ได้ชื่อว่า "แดนสนธยา" แห่งนี้ไปไม่มากก็น้อย เพื่อไปให้ถึงเป้าหมายที่เขาตั้งปณิธานไว้ในใจกับภารกิจใหญ่ กอบกู้ "การรถไฟให้กลับมาเป็นความภาคภูมิใจของประเทศอีกครั้ง"

จากการปิด ซ่อมใหญ่เส้นทางรถไฟสายเหนือเพื่อสะสางปัญหาตกรางซ้ำซากรายวัน รวมถึงการเดินหน้าโครงการรถไฟฟ้าสายสีแดง (บางซื่อ-รังสิต) จนสามารถตอกเข็มก่อสร้างได้เสียที หลังล่าช้ามากว่า 2 ปี

"ประชาชาติธุรกิจ" สัมภาษณ์ "ผู้ว่าการประภัสร์" กับช่วงเวลาอีก 13 เดือนนับจากนี้ กับสิ่งที่เขาคิดจะทำและผลักดันไปให้ถึงฝั่งฝัน

- สิ่งที่จะทำให้เสร็จก่อนหมดวาระ

จะเร่งปรับโครงสร้างองค์กรการรถไฟฯใหม่ให้เกิดความคล่องตัว ทำงานเหมือนบริษัทเอกชน จะปรับลดตำแหน่งรองผู้ว่าการจาก 7 คน เหลือ 4 คน แต่ละคนทำงานเต็มที่ ไม่ใช่ไปหลบอยู่ตรงไหนไม่รู้ จะแยกคุมงานเป็น 4 ภาค คือ ภาคเหนือ ภาคอีสาน ภาคใต้ และภาคกลางจะรวมกับภาคตะวันออก จะอยู่ภายใต้ส่วนกลางที่จะทำหน้าที่กำหนดนโยบายต่าง ๆ

แต่ละภาคจะมีทุกฝ่ายเหมือนส่วนกลาง เช่น เดินรถ บริหารทรัพย์สิน โยธาและก่อสร้าง อาณาบาล นโยบายและแผน ประชาสัมพันธ์ เป็นต้น ทุกภาคตั้งงบประมาณของตัวเองเข้ามาเสนอให้ส่วนกลางได้ ทั้ง 4 ภาคจะเหมือนหน่วยธุรกิจย่อย 4 หน่วย มีแยกบัญชีรายได้และรายรับออกจากส่วนกลางทั้งหมด ให้แต่ละภาคทำงานแข่งกัน จะมีตัวชี้วัดผลงานเป็นเคพีไอ

ภาคไหนทำผลงานดีมีกำไรจะได้ รับโบนัส ทำให้รู้ปัญหาที่แท้จริง จากเดิมดูเป็นภาพรวม กำลังให้มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ศึกษารายละเอียด รวมถึงการเพิ่มกำลังคนที่ขาดอีก 1 หมื่นคนด้วย จากเดิมมี 2 หมื่นกว่าคน ปัจจุบันเหลืออยู่ 1 หมื่นคน ในเร็ว ๆ นี้จะนำเสนอรูปแบบโครงสร้างใหม่นี้ให้คณะกรรมการ (บอร์ด) พิจารณาและเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถ้าสำเร็จจะไปสู่เป้าหมายบริษัทมหาชนเหมือนบริษัทเจอาร์เวสต์ของประเทศ ญี่ปุ่น

นอกจากนี้จะสร้างขวัญกำลังใจให้พนักงาน เร่งเคลียร์ภาระหนี้ของการรถไฟฯให้จบโดยเร็ว จะนำที่ดิน 2 แปลงย่านมักกะสัน และสถานีแม่น้ำ ยกให้กระทรวงการคลังพัฒนาระยะยาว 99 ปี แลกหนี้กว่า 1 แสนล้านบาท ล่าสุดอยู่ระหว่างประเมินมูลค่าร่วมกับกรมธนารักษ์ หากสำเร็จจะทำให้เกิดความคล่องตัวในการกู้เงินมาพัฒนาโครงการใหม่ได้ เหมือนบริษัทเอกชนที่ไปกู้เงินมาลงทุน

- การก่อสร้างรถไฟสายใหม่

จะ เร่งเดินหน้าประมูลโครงการตกค้างในแผนลงทุน 1.76 แสนล้านบาทให้เสร็จปีหน้า ทั้งรถไฟทางคู่ 5 สายที่อยู่ระหว่างการพิจารณาอีไอเอ (รายงานผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม) งานปรับปรุงทางให้ปลอดภัย ทั้งหมดก่อนหน้านี้อยู่ในร่าง พ.ร.บ.เงินกู้ 2 ล้านล้าน แต่เมื่อเงินกู้ไม่มี การรถไฟฯจะนำโครงการทั้งหมดเสนอรัฐบาลใหม่พิจารณาเพราะอยู่ในแผนเดิมที่ ครม.เคยอนุมัติไว้แล้ว

ขณะเดียวกันจะเร่งก่อสร้างรถไฟสาย ใหม่ 3 สาย คือ สายเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ ระยะทาง 326 กิโลเมตร สายบ้านไผ่-นครพนม ระยะทาง 347 กิโลเมตร และสายบ้านภาชี-อำเภอนครหลวง ระยะทาง 23 กิโลเมตร เปิดพื้นที่ใหม่ในการเดินทางและการขนส่ง จากปัจจุบันรถไฟมีเส้นทางพาดผ่านแค่ 47 จังหวัดเท่านั้น ส่วนรถไฟความเร็วสูงกำลังศึกษารายละเอียดโครงการ ใกล้จะเสร็จแล้ว คาดว่าจะขออนุมัติอีไอเอเร็ว ๆ นี้

- จะเร่งผลักดันยังไง

น่าเสียดายที่เงินกู้ 2 ล้านล้านไม่ผ่าน ซึ่งในนั้นมีเงินเพื่อมาพัฒนาระบบรางกว่า 1.6 ล้านล้านบาท แต่โครงการยังอยู่และพร้อมนำเสนอให้รัฐบาลใหม่พิจารณาเพื่อหาเงินมาลงทุน จะเป็นงบประมาณหรือเงินกู้อื่นอยู่ที่รัฐบาลจะเร่งโครงการไหนก่อน แต่ทุกโครงการมีความสำคัญหมดต่อการพัฒนาประเทศ

โดยยุทธศาสตร์ของ ประเทศไทยอยู่ตรงกลาง ทุกคนคาดหวังจะขนส่งสินค้าจากประเทศเราไปยังประเทศเพื่อนบ้าน เช่น สิงคโปร์ เพราะต้นทุนการขนส่งทางรางจะถูกกว่าถนนและทางน้ำ ผมกำลังมีแนวคิดจะเพิ่มการขนส่งสินค้าทางรถไฟตามชายแดน จะนำหัวรถจักรจากประเทศเพื่อนบ้านมาลากสินค้าที่ชายแดนต่อไปยังประเทศอื่น ๆ จะเพิ่มช่องทางการขนสินค้า ประเทศไทยจะได้ไม่เสียโอกาสตรงนี้ไปเมื่อเปิดเออีซี (ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน) ปี 2558

- การเพิ่มรายได้จากการขนส่งสินค้า

เร่ง จัดซื้อหัวรถจักรใหม่มาลากจูงรถขนส่งสินค้าอีก 50 คัน วงเงินกว่า 5,000 ล้านบาท จะประมูลเร็ว ๆ นี้ จากเดิมจัดซื้อไปแล้ว 20 คันเมื่อปีที่แล้ว จากบริษัท ป่าไม้สันติ จำกัด วงเงิน 1,900 ล้านบาท สั่งผลิตมาจากประเทศจีน มีน้ำหนัก 20 ตันต่อเพลา ภายในเดือนกรกฎาคมนี้จะมีหัวรถจักรใหม่ 2 คันมาลากจูงตู้ขบวนรถสำหรับขนส่งสินค้าจะทำให้ปริมาณการขนส่งสินค้าเพิ่ม ขึ้นกว่าเดิม อีกทั้งจะทำให้ผู้ประกอบการด้านขนส่งกลับมาให้ความมั่นใจใน

การ บริการขนส่งสินค้าทางรถไฟมากขึ้น ทั้งหมดจะทยอยนำเข้ามาจนครบประมาณต้นปี 2558 หัวรถจักรที่ใช้ลากจูงปัจจุบันจะนำไปลากจูงรถโดยสารแทน ปัจจุบันการรถไฟฯมีหัวรถจักรที่ใช้งานได้ประมาณ 160-170 คัน ต้องเร่งจัดซื้อคันใหม่มารองรับการบริการให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นในอนาคต

ส่วน รถโดยสารใหม่ 115 คัน จะซื้ออีก 4,981 ล้านบาท ได้บริษัทที่จะจัดซื้อแล้ว อยู่ระหว่างให้ทางอัยการตรวจสอบร่างสัญญา จากนั้นจะนำเสนอให้ ครม.ใหม่พิจารณา นอกจากนี้ยังมีจัดหารถโบกี้บรรทุกตู้สินค้าอีก 308 คัน วงเงิน 770 ล้านบาท ทั้งหมดเป็นสิ่งที่ผมอยากจะทำให้เสร็จในปีหน้า

สิ่ง ที่จะทำควบคู่ไป คือจะใช้วิธีการเช่าแทนการซื้อหัวรถจักรใหม่ ซึ่งการเช่าจะใช้เวลาอย่างต่ำ 15 ปี ทุกประเทศก็ทำรูปแบบนี้กันหมดแล้ว จะทำให้การรถไฟฯไม่ต้องรับผิดชอบเรื่องค่าซ่อม จะเสียเฉพาะค่าเช่าวันละ 40,000 บาทต่อคัน มีหลายประเทศแสดงความสนใจ เช่น อเมริกา จีน เกาหลีใต้

- ปัญหาสัญญา 3 งานระบบ และรถไฟฟ้าสายสีแดง

อยาก ให้จบและเซ็นสัญญาโดยเร็ว มีมูลค่างานกว่า 2.6 หมื่นล้านบาท แต่ล่าช้ามาเกือบ 3 ปีแล้ว เพื่อให้ทันเปิดบริการในปี 2560 ซึ่งงานก่อสร้างก็เดินหน้าไปมากแล้วกว่า 10% แม้จะยังล่าช้าอยู่ บ้างเพราะต้องรอรัฐบาลใหม่อนุมัติแบบและขยายวงเงินก่อสร้างที่เพิ่ม 1 หมื่นล้านบาท จะต้องเดินหน้าเปิดซองราคาต่อ ตอนนี้เหลือรายเดียวที่ผ่านคุณสมบัติ เป็น

กลุ่มบริษัทจากประเทศญี่ปุ่นล้วน คือกลุ่มกิจการร่วมค้า MHSC (บริษัท มิตซูบิชิ เฮฟวี่-บริษัท ฮิตาชิ และบริษัท ซูมิโตโม)หลัง กลุ่มกิจการร่วมค้า MIR (บริษัท มารุบินี-บมจ.อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์และบริษัท ฮุนไดโรเทม) ถูกปรับตก เพราะบริษัทมารุบินีมีปัญหาการรับงานที่ประเทศอินโดนีเซีย

ล่าสุด ทางไจก้า (องค์การความร่วมมือระหว่างประเทศแห่งประเทศญี่ปุ่น) เห็นชอบแล้ว ภายในเดือนพฤษภาคมนี้จะนำเสนอให้บอร์ดอนุมัติเปิดซองเทคนิคและราคาต่อไป

[Wisarut]

3 วัน 2 คืน สาวอินดี้แบกเป้ นั่งรถไฟไปสังขละบุรี
http://pantip.com/topic/31935354
http://www.manager.co.th/Daily/ViewNews.aspx?NewsID=9570000051441

[Wisarut]

Asia Rail Summit in BKK on 25-27 มิถุนายน 2557
http://www.railwaypro.com/wp/?p=14302

[Mongwin]

ขุดสัมปทานไอซีดีลาดกระบังการรถไฟ-คลังเร่งมือสรุปทีโออาร์ เปิดทางเอกชนรายใหม่บริหารตู้สินค้า
โพสต์ทูเดย์ ฉบับวันที่ 19 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

การรถไฟฯ จับมือคลังเร่งทำทีโออาร์ หาเอกชนใหม่รับสัมปทาน"ไอซีดีลาดกระบัง" คาดเดือน ก.ย.นี้รู้ผล

นายจุฬา สุขมานพ ผู้อำนวยการสำนักนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร(สนข.) ในฐานะกรรมการการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ร.ฟ.ท.กำลังจัดทำร่างทีโออาร์เพื่อใช้ประกวดราคาหาเอกชนรายใหม่เข้ามารับสัมปทานบริหารสถานีบรรจุและแยกสินค้ากล่องลาดกระบัง (ไอซีดีลาดกระบัง)ให้ทันภายในเดือน ก.ย.นี้ หลังจากหมดสัญญาสัมปทานมานาน 3 ปี โดยผู้เข้ารับสัมปทานจะต้องคิดค่าจ้างบริหารจัดการกับผู้ที่เข้ามาใช้บริการในราคาต่ำ และต้องเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดการ เพื่อดึงดูดให้มีผู้เข้ามาใช้บริการมากขึ้น

อย่างไรก็ตาม ประเด็นที่ยังไม่สามารถสรุปได้ในขณะนี้ คือ ผู้เข้ารับสัมปทานจะต้องจ่ายค่าตอบแทนให้ ร.ฟ.ท.เท่าไหร่ และระยะเวลาสัมปทานครั้งนี้ควรนานแค่ไหนเนื่องจากเอกชนที่เข้ารับสัมปทานจะต้องมา ร.ฟ.ท.มีรายได้เฉพาะค่าขนส่งตู้คอนเทนเนอร์เพื่อส่งไปยังท่าเรือแหลมฉบังปีละไม่น้อยกว่า 500 ล้านบาท มีรายได้จากค่าสัมปทานอีกปีละ 400 ล้านบาท ขณะที่ปัจจุบันพื้นที่ไอซีดีลาดกระบังมีปริมาณการขนส่งสินค้าทางรางประมาณ 1.4 ล้านทีอียูและน่าจะเพิ่มเป็น 2 ล้านทีอียู ในปี 2558-2559 เมื่อรัฐบาลสนับสนุนโครงการขนส่งสินค้าทางรางมากขึ้น

ก่อนหน้านี้ มีเอกชน 6 ราย เป็นผู้รับสัมปทาน แต่หมดอายุปี 2554 ประกอบด้วยบริษัท สยามชอร์ไซด์ เซอร์วิส บริษัท อีสเทิร์นซี แหลมฉบัง เทอร์มินัล บริษัท เอเวอร์กรีน คอนเทนเนอร์ เทอร์มินัล บริษัท ทิฟฟ่าไอซีดี บริษัท ไทยฮันจิน โลจิสติกส์ และบริษัท เอ็น.วาย.เค. ดิสทริบิวชั่น เซอร์วิส

[Wisarut]

กรมรถไฟลาว ร่วมประชุมและดูงานโครงการปรับปรุงทาง, Container Yard
ทีม พีอาร์ การรถไฟแห่งประเทศไทย
21 พฤษภาคม 2557


เมื่อวันที่ 14 พฤษถาคม 2557 ที่ผ่านมา กรมรถไฟลาว ได้พาคณะผู้ปฏิบัติงาน นำโดย นายสอนสัก นอ-ยานซะนะ รองผู้อำนวยการกรมรถไฟลาว เข้าร่วมประชุมแลกเปลี่ยนในด้านความสัมพันธ์ของ 2 ประเทศ ซึ่งในการนี้ นายประภัสร์ จงสงวน ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย ได้เป็นประธานในการประชุมครั้งนี้ โดยเนื้อหาในการประชุมนั้น สรุปโดยคร่าวๆ ดังนี้

การรถไฟแห่งประเทศไทย นำเสนอการปรับปรุงทางรถไฟระยะที่ 5 และ 6 (แก่งคอย-บัวใหญ่, ถนนจิระ-บัวใหญ่ และ บัวใหญ่-หนองคาย) และ นำเสนอโครงการทางรถไฟสายใหม่ 2 เส้นทางที่เชื่อมต่อกับลาวในอนาคต คือ

1.เด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ (รออนุมัติงบประมาณ)
2.บ้านหนองแวงไร่(บ้านไผ่) - มหาสารคาม - มุกดาหาร - นครพนม (รายงานแบบแผนมีกำหนดเสร็จสิ้นในปลายปี และรออนุมัติงบประมาณ)

โครงการทางคู่ 5 เส้นทาง คือ
1. ลพบุรี - ปากน้ำโพ
2. มาบกะเบา - นครราชสีมา (มีการเปลี่ยนแนวทางรถไฟไม่ต้องอ้อมเขา ทำให้ระยะเวลาการเดินทางน้อยลง 1 - 1.30ชม. ในช่วงแก่งคอย - นครราชสีมา)
3. นครปฐม - หัวหิน
4. นครราชสีมา - ขอนแก่น
5. ประจวบคีรีขันธ์ - ชุมพร

การดำเนินการก่อสร้างทางคู่ในปีงบประมาณ 2557 เส้นทางฉะเชิงเทรา - องครักษ์ - แก่งคอย เพื่อรองรับการขนส่งสินค้าสู่ท่าเรือน้ำลึกแหลมฉบัง

นำเสนอรถจักรใหม่ 20 คัน จากประเทศจีน (ควบคุมการผลิตโดย G.E. สหรัฐอเมริกา) ซึ่ง 2 คันแรก จะส่งมอบในเดือนมิถุนายน - กรกฎาคม 2557 นี้

การฟื้นทางรถไฟจากอรัญประเทศ - คลองลึก - ปอยเปต เพื่อเชื่อมต่อกับรถไฟของกัมพูชาที่ปิดการเดินรถไปครั้งกรณีพิพาทอินโดจีน


กรมรถไฟลาว นำเสนอโครงการ Container Yard ที่สถานีท่านาแล้ง ซึ่งได้รับเงินกู้จากประเทศไทย รวมถึงโครงการส่วนต่อขยายทางรถไฟจากสถานีท่านาแล้ง - เวียงจันทน์ ซึ่งจะเป็นเงินกู้จากประเทศไทยด้วย

การรถไฟลาวได้ชะลอโครงการรถไฟความเร็วสูงที่จีนจะลงทุนสร้างให้ โดยให้จีนกลับไปทบทวนแผนดังกล่าวอีกครั้ง เนื่องจากลาวได้รับผลประโยชน์จากรถไฟความเร็วสูงสายนี้เพียง 5% เท่านั้น ในขณะที่ลาวจะทบทวนศึกษาข้อเสนออื่นๆที่ทางรัฐบาลจีนจะลงทุนให้อีกครั้งว่ามีผลเสียหรือผลดีมากกว่ากัน

ขอสนับสนุนการสร้างสะพานรถไฟข้ามแม่น้ำโขงแยกออกจากสะพานมิตรภาพไทยลาวแห่งที่ 1 จ.หนองคาย เนื่องจากเมื่อมีการเดินรถไฟจะทำให้การจราจรบนสะพานมิตรภาพไทย-ลาว ติดขัด โดยสะพานที่สร้างนั้นจะขอทบทวนลักษณะโครงสร้าง และจำนวนรางอีกครั้ง

ทางรถไฟสายอื่นๆของลาวที่จีนลงทุนให้นั้น ทางลาวได้ขอศึกษาอย่างละเอียดอีกครั้ง เนื่องจากทางรัฐบาลจีนได้กำหนดให้ใช้ทางขนาด 1.435 เมตร ในขณะที่ประเทศเพื่อนบ้านซึ่ง สปป.ลาวต้องติดต่อทางด้าน Logistic ที่สำคัญเช่น พม่า ไทย เวียดนาม และกัมพูชา ใช้ทางกว้างขนาด 1.000 เมตร ทั้งสิ้น

จากนั้นคณะของกรมรถไฟลาว และ การรถไฟแห่งประเทศไทย ได้เดินทางไปยังสถานีท่าพระ อ.เมืองขอนแก่น จ.ขอนแก่น เพื่อพินิจการดำเนินงานของลานขนส่งคอนเทนเนอร์ (Container Yard) ซึ่งทางลาวกำลังดำเนินการก่อสร้างที่สถานีท่านาแล้ง รวมถึงศึกษาดูโครงการปรับปรุงทางระยะที่ 6 ที่สถานีขอนแก่น, บ้านแฮด อีกด้วย

[Wisarut]

ทหารบุรีรัมย์ตรวจคุมเข้ม 4 จุดสำคัญ ป้องกันก่อเหตุไม่สงบ ปชช.ให้กำลังใจ


โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 24 พฤษภาคม 2557 12:26 น.


บุรีรัมย์ - จทบ.บุรีรัมย์ ร่วม ร.23 พัน 4 จัดกำลังทหารตรวจคุมเข้ม 4 จุดสำคัญ ทั้งศาลากลาง โรงไฟฟ้าย่อย สถานีรถไฟ สถานีผู้โดยสาร ป้องกันก่อเหตุไม่สงบ ทั้งสกัดขนมวลชน อาวุธสงครามป่วนกรุงหลังรัฐประหาร ขณะ ปชช.นำเครื่องดื่ม อาหารมอบให้กำลังใจทหารต่อเนื่อง

วันนี้ (24 พ.ค.) จังหวัดทหารบกบุรีรัมย์ ร่วมกับกองพันทหารราบที่ 4 กรมทหารราบที่ 23 (ร.23 พัน 4) ค่ายสมเด็จเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึก ยังจัดกำลังเจ้าหน้าที่ทหารดูแลรักษาปลอดภัยเข้ม 4 จุดสำคัญ ทั้งที่บริเวณศาลากลางจังหวัดบุรีรัมย์ โรงผลิตไฟฟ้าย่อย สถานีรถไฟ และสถานีขนส่งผู้โดยสาร เพื่อป้องกันกลุ่มผู้ไม่หวังดีสร้างความปั่นป่วน หรือก่อเหตุความไม่สงบ ภายหลัง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) พร้อมคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ประกาศการควบคุมอำนาจการปกครองประเทศ ตั้งแต่วันที่ 22 พ.ค. ที่ผ่านมา

โดยเฉพาะที่สถานีรถบุรีรัมย์ และสถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดบุรีรัมย์ เจ้าหน้าที่ทหารมีการตรวจตราอย่างเข้มงวดทั้งสิ่งของสัมภาระ และบุคคลต้องสงสัย โดยเฉพาะขบวนรถที่มุ่งหน้าสู่กรุงเทพมหานคร เพื่อสกัดกั้นป้องกันการขนมวลชน หรืออาวุธสงครามเข้าไปก่อเหตุรุนแรง หรือสร้างสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่กรุงเทพมหานคร โดยจัดกำลังทหารตรวจตราดูแลจุดละ 12 นาย ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันตลอด 24 ชั่วโมง

อย่างไรก็ตาม จากการตรวจตราดูแลตามจุดสำคัญต่างๆ ยังไม่พบความผิดปกติ ทั้งการขนมวลชน หรืออาวุธสงครามเพื่อก่อเหตุความไม่สงบแต่อย่างใด

ขณะเดียวกัน ได้มีประชาชน และผู้โดยสารที่มาใช้บริการทั้งที่สถานีรถไฟ สถานีขนส่งผู้โดยสาร นำสิ่งของอาหาร เครื่องดื่ม มามอบให้พร้อมจับมือทักทายกล่าวให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ทหารที่ปฏิบัติหน้าที่ดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยอย่างต่อเนื่องด้วยเช่นกัน