RailServe.Com

Main Menu

 
icon_home.gif Homepage
icon_community.gif Members Zone
· ข้อมูลส่วนตัว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ข่าวสารส่วนตัว
· บริการเว็บเมล์
· กระดานข่าว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก กระดานฝากข้อความ
· รถไฟไทยแกลลอรี่
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก รายนามสมาชิก
· แบบสำรวจ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก สมุดเยี่ยม
· เกี่ยวกับสมาชิก
favoritos.gif News & Stories
· เรื่องทั้งหมด
· เนื้อหาสาระ
· เรื่องสำหรับพิมพ์
· ยอดฮิตติดอันดับ
· ค้นหาข่าวสาร
· ค้นหากระทู้เก่า
nuke.gif Contents
· กำหนดเวลาเดินรถ
· ประเภทขบวนรถโดยสาร
· ข้อมูลเส้นทางรถไฟ
· แผนที่เส้นทางรถไฟ
· อัตราค่าโดยสาร
· คำนวณค่าโดยสารรถไฟ
· รูปแบบการให้บริการรถไฟ
· หมายเลขโทรศัพท์ที่สำคัญ
· ทริปท่องเที่ยวโดยรถไฟ
· ระบบติดตามขบวนรถ
som_downloads.gif Services
· Downloads
· GoogleSearch
· Hotels Booking
· FlashGames
· Wallpaper 1
· Wallpaper 2
· Wallpaper 3
· Wallpaper 4
icon_members.gif Information
· เกี่ยวกับเรา
· นโยบายความเป็นส่วนตัว
· แผนผังเว็บไซต์ฯ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ส่งข้อแนะนำติชม
· ติดต่อลงโฆษณา
· แนะนำและบอกต่อ
· สถิติทั้งหมด
· สำหรับผู้ดูแลระบบ
 

Sponsors

 

Ads Service

 

Visitors

 


มีผู้เข้าเยี่ยมชม
สมาชิก:311283
ทั่วไป:13264963
ทั้งหมด:13576246
คน ตั้งแต่
01-08-2004
 


Rotfaithai.Com :: View topic - สภาพบุรุษจุฑาเทพตัวจริง กับ -การรถไฟ-
 Forum FAQForum FAQ   SearchSearch   UsergroupsUsergroups   ProfileProfile   Log in to check your private messagesLog in to check your private messages   Log inLog in 

สภาพบุรุษจุฑาเทพตัวจริง กับ -การรถไฟ-

 
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> สาระความรู้วิชาการรถไฟและประวัติศาสตร์รถไฟไทย
View previous topic :: View next topic  
Author Message
tamz
3rd Class Pass (Air)
3rd Class Pass (Air)


Joined: 01/10/2008
Posts: 457
Location: พัทยา

PostPosted: 04/07/2014 4:05 pm    Post subject: สภาพบุรุษจุฑาเทพตัวจริง กับ -การรถไฟ- Reply with quote

Click on the image for full size


เมื่อประมาณปี 2556 มีละครซีรี่ย์แนวพีเรียดที่โด่งดังมากๆ จนกระทั่งใครๆ ก็ติดตามกัน (รวมทั้งผม) เรื่องนั้นก็คือละครเรื่อง สภาพบุรุษจุฑาเทพ โอ้ยยยย... ติดมากมายครับ ทั้งดูในวันที่ลงจอ ทั้งดูย้อนหลังในยูทูบ ทั้งซื้อหนังสือมาอ่านยกชุด... อิอิ อิอิ

ครั้งนั้น ชาว RFT.com เราก็วิพากษ์กันใหญ่เลยครั้งเพราะเนื้อหาเป็นแนวพีเรียดย้อนยุค ว่ากันว่ารถไฟมันจะเป็นยังไง จะสมจริงมั๊ย บลาๆๆๆๆ ก็ว่ากันไปครับ.... และก็มีอยู่ตอนนึงที่พอมานึกๆ ดูแล้วก็ค้นประวัติต่างๆ ดูแล้วก็พบว่า การรถไฟฯ ก็เคยมีส่วนเกี่ยวข้องกับคุณชายจุฑาเทพเช่นกันครับ... ลองมาดูกันครับ

สุภาพบุรุษจุฑาเทพตอนดังกล่าว คือตอน คุณชายรัชชานนท์ นั่นเองครับ...

Click on the image for full size
_________________
ผู้โดยสารโปรดทราบ  ที่นี่สถานีพัทยา
Back to top
View user's profile Send private message
tamz
3rd Class Pass (Air)
3rd Class Pass (Air)


Joined: 01/10/2008
Posts: 457
Location: พัทยา

PostPosted: 04/07/2014 4:14 pm    Post subject: Reply with quote

เรื่องย่อ...
เมื่อ ม.ร.ว.รัชชานนท์ จุฑาเทพ หรือคุณชายเล็ก หนีการดูตัวที่หม่อมย่าเอียดต้องการจับคู่กับ ม.ล.ศินีนุช เทวพรหม เพื่อทำตามพระประสงค์ของหม่อมเจ้าวิชชากรที่ต้องการดองกับเทวพรหมให้จงได้ รัชชานนท์จึงร่วมวางแผนกับรณพีร์ น้องชายคู่หูคู่เที่ยว หนีการดูตัวกับศินีนุชได้อย่างเฉียดฉิว โดยรีบหนีไปรับตำแหน่งเจ้าหน้าที่วิศวกรรมโยธาประจำที่จังหวัดหนองคายและออกเดินทางไปโดยไม่บอกใคร การไปของรัชชานนท์ทำให้ทุกคนที่วังจุฑาเทพวุ่นวายกันไปหมด


ที่หนองคายรัชชานนท์ได้ช่วยจันทา สาวบ้านป่าลูกสาวของพรานเจ้ยจากการข่มเหงของทหารเวียงพูคำ รัชชานนท์เป็นขาลุยชอบเดินป่าถ่ายรูปจึงขอให้พรานเจ้ยนำทางเที่ยวในป่า โดยมีจันทาร่วมเดินทางไปด้วย ซึ่งไม่ได้รู้เลยว่าการเดินทางเข้าป่าครั้งนี้ทำให้ชีวิตของรัชชานนท์เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง เมื่อต้องเจอกับกลุ่มทหารเวียงพูคำตามมาแก้แค้น ทั้งจันทาและรัชชานนท์ถูกยิงบาดเจ็บ ส่วนพรานเจ้ยปกป้องลูกสาวจนตัวตาย แต่ก่อนหน้านั้นได้ให้สร้อยรูปพระจันทร์แก่จันทาไว้ตามหาพ่อแม่ที่แท้จริงของเธอรัชชานนท์และจันทารอดชีวิตเพราะได้สร้อยสาวบ้านป่าลึกลับและ จ่อย เพื่อนคู่หูได้ช่วยไว้

สร้อยกับจ่อยช่วยกันพารัชชานนท์กับจันทาเข้ามารักษาตัวอยู่ที่หมู่บ้านวลาหก ซึ่งเป็นหมู่บ้านลี้ภัยของชาวเวียงพูคำ สร้อยค้นพบว่ารัชชานนท์คือคนในคำทำนายของแม่เฒ่าที่จะมาทำลายมนต์หมอกที่ปกป้องหมู่บ้านวลาหกให้เสื่อมคลาย จึงพยายามจะกำจัดรัชชานนท์ออกไปแต่ก็ไม่สำเร็จ อีกทั้งพ่อใหญ่ พ่อของสร้อยและเป็นผู้นำหมู่บ้านได้สั่งไว้ให้ดูแลรัชชานนท์จนกว่าจะถึงเวลา เพราะรัชชานนท์จะเป็นผู้นำของสำคัญกลับมาสู่ชาวเวียงพูคำ สร้อยทำอะไรไม่ได้เพราะไกรสรและแฮรี่มือขวาของพ่อใหญ่ต่างเห็นชอบในทางเดียวกัน....

.......................... (ย่อไว้ก่อนครับ ตามไปอ่านในลิงค์นะครับ...) ......................
http://drama.kapook.com/view50187.html

.......พอดีรัชชานนท์ได้อ่านข่าวหนังสือพิมพ์เกี่ยวกับการประท้วงครั้งใหญ่ของราชอาณาจักรเวียงพูคำที่มีนายพลเซกองกุมอำนาจปกครองอยู่ และปกครองแบบเอารัดเอาเปรียบจนชาวบ้านต้องการฟื้นฟูระบอบเดิมที่เคยมีเจ้าหลวงสุริยวงศ์ปกครอง เซกองจึงบุกไปที่หมู่บ้านจับตัวเจ้าหลวงสุริยวงศ์มาขังไว้ที่เวียงพูคำ ทำให้รัชชานนท์ตกใจเพราะเมื่อเห็นภาพของเจ้าหลวงสุริยวงศ์เป็นคนเดียวกับพ่อใหญ่ ดังนั้นสร้อยจึงต้องเป็นเจ้าหญิงสร้อยฟ้าแห่งราชอาณาจักรเวียงพูคำที่เขาเคยได้ยินชื่อนั่นเอง แต่เขาก็ปิดเป็นความลับเพราะเกรงว่าสร้อยจะวู่วามหนีกลับไปช่วยพ่อเสียก่อน

ต่อมาได้มีการจัดเลี้ยงต้อนรับคณะกรรมการยูเนสโกเพื่อหาทางแก้ปัญหากรณีประท้วงของราชอาณาจักรเวียงพูคำ รัชชานนท์พยายามปิดบังเรื่องนี้กับสร้อยแต่ไม่สำเร็จ สร้อยจึงร่วมอยู่ด้วยในฐานะพลเมืองของเวียงพูคำ ในงานเลี้ยงนี้เองสร้อยก็ทำให้ทุกคนทึ่งในความสามารถจากความคิดว่าเธอเป็นเพียงสาวชาวป่าไร้การศึกษา แต่เธอกลับต้อนรับพูดคุยกับคณะกรรมการระดับรัฐมนตรีต่างประเทศด้วยภาษาอังกฤษ และภาษาอื่น ๆ อีกหลายภาษา สร้อยซักถามการเมืองเกี่ยวกับประเทศของเธอและรู้ว่าจะมีการเดินทางไปเจรจาในเร็ว ๆ นี้เพื่อคลี่คลายด้วย สร้อยดีใจมาก

แต่แล้วเรื่องราวไม่คาดคิดก็เกิดขึ้นอีกเมื่อความจริงเปิดเผยว่า ม.ล.ชัชวีร์ เทวพรหม แท้จริงแล้วเป็นเจ้าชายรังสิมันตุ์ที่หายสาบสูญไปเมื่อ 18 ปีก่อน หลังจากเจ้าส่องดาวถูกไล่ล่าจึงนำโอรสมาฝากไว้กับ ม.ร.ว.อนุพันธ์ ที่เป็นพระสหาย จึงเลี้ยงรับไว้เป็นลูกอีกคน เมื่อเรื่องราวกระจ่างทำให้ ม.ล.ชัชวีร์ สำนึกในหน้าที่ที่ต้องกลับไปกู้บัลลังก์และช่วยพระบิดาที่ถูกจับไว้ด้วย เมื่อเรื่องมาถึงขั้นนี้แล้วคุณชายรัชชานนท์จึงเปิดเผยเรื่องที่ตนเองรู้ว่าสร้อยก็คือเจ้าหญิงสร้อยฟ้าพระขนิษฐาของเจ้าชายรังสิมันตุ์ ซึ่งสร้อยเองก็ไม่เคยรู้ฐานะตัวเองมาก่อนทำให้สองพี่น้องได้พบหน้ากันเป็นครั้งแรก

คุณชายทั้งสามยกเว้นคุณชายปวรรุจที่ไม่อยู่จึงตกลงใจที่ร่วมกันช่วย ม.ล.ชัชวีร์ กู้บัลลังก์คืนมาให้ได้ ทั้งหมดจึงเดินทางไปที่เวียงหูคำพร้อมกับคณะยูเนสโก แต่ปรากฏว่าถึงสนามบินถูกทหารดักจับตัวทุกคนไป ยกเว้นเจ้าหน้าที่ยูเนสโกเท่านั้น ทำให้รัชชานนท์ใช้โอกาสอันน้อยนิดสารภาพรักกับเจ้าหญิงสร้อยฟ้า เพราะไม่รู้ว่าจะมีชีวิตอยู่ได้นานแค่ไหน และทั้งคู่ก็ยอมรับในความรักที่มีต่อกันอย่างเปิดเผยเป็นครั้งแรก.........


นี่คือเจ้ารังสิมันต์ หรือ หม่อมหลวงชัชวีร์ เทวพรหม เพื่อนของเหล่าคุณชายจุฑาเทพครับ...


Click on the image for full size
_________________
ผู้โดยสารโปรดทราบ  ที่นี่สถานีพัทยา
Back to top
View user's profile Send private message
tamz
3rd Class Pass (Air)
3rd Class Pass (Air)


Joined: 01/10/2008
Posts: 457
Location: พัทยา

PostPosted: 15/07/2014 5:20 pm    Post subject: Reply with quote

ขอโทษที่หายไปนานครับ... Embarassed Embarassed Embarassed

ช่วงนี้เป็นช่วงวิกฤติสำหรับพี่น้องรถไฟและคนที่ชื่นชอบระบบรางจริงๆ หวังว่า ครฟ.ทุกท่าน จะอดทนและสู้กับงานเพื่อบริการประชาชนอย่างไม่ย่อท้อนะครับ www.rotfaithai.com ชุมชนคนรักรถไฟ ขอเป็นกำลังใจให้ครับ...
emot125 emot125 emot125

ดูละครแล้วย้อนมาดูตัว... ภาษิตนี้ยังใช้ได้อยู่เสมอ กงล้อประวัติศาสตร์ย่อมจะย้อนกลับมาที่เดิมไม่วันใดก็วันหนึ่ง... จากละครเรื่องสุภาพบุรุษจุฑาเทพนี้ก็เช่นกัน แรงบันดาลใจก็มาจากเรื่องจริงที่มีความคล้ายคลึงกันอย่างนี้แหล่ะครับ...

สุภาพบุรุษจุฑาเทพท่านนี้ก็คือ พลเอกไสว ไสวแสนยากร เอกบุรุษผู้เคยดำรงตำแหน่งหลายหลากมาแล้วนั่นเองครับ...

ขออภัยนะครับ ภาพท่านเล็กไปหน่อย... ภาพสมัยยังหนุ่มครับ...

Click on the image for full size
_________________
ผู้โดยสารโปรดทราบ  ที่นี่สถานีพัทยา
Back to top
View user's profile Send private message
tamz
3rd Class Pass (Air)
3rd Class Pass (Air)


Joined: 01/10/2008
Posts: 457
Location: พัทยา

PostPosted: 17/07/2014 4:24 pm    Post subject: Reply with quote

พลเอกไสว ไสวแสนยากร หรือพลตำรวจเอกไสว ไสวแสนยากร หรือราชทินนามของท่าน ก่อนที่จะยกเลิกและเวณคืนการใช้บรรดาศักดิ์ก็คือ ขุนไสวแสนยากร

คุณลุงเจียวต้าย... นักประวัติศาสตร์ นักคิด นักเขียนและกวีชื่อดังได้กล่าวถึงท่านไสวฯ ไว้ว่า
สมัยที่ท่านไสวฯ ดำรงตำแหน่งจเรทหารสื่อสารอยู่นั้น ขณะนั้นเป็นช่วงเวลาที่ทหารสื่อสารเพิ่งจะแยกเหล่าออกมาจากเหล่าทหารช่าง จึงต้องเร่งพัฒนาการสื่อสารของทหารไทยให้ทันกับความเจริญของเหล่าทหารสื่อสารของกองทัพบกชาติอื่นๆ ท่านยังมองการณ์ไกลไปอีกว่า บ้านเมืองไทยนั้นทหารกับประชาชนแยกกันไม่ออก นอกจากจะแยกกันไม่ออกแล้ว ทหารยังมีความจำเป็นที่จะช่วยรัฐโดยนำเอาประชาชนมาเป็นพวกเดียวกับรัฐ ไม่แยกไปจากรัฐ วิธีการที่จะทำได้วิธีหนึ่งก็คือ การประชาสัมพันธ์ให้ถึงประชาชน อย่างน้อยก็ประชาชนที่ทำงานร่วมกับทหาร ประชาชนที่อยู่ใกล้ทหาร ให้มีความเข้าใจรัฐ ฉะนั้นท่านจึงได้ดำริตั้งสถานีวิทยุการะจายเสียงสำหรับกองทัพบกขึ้น เป็นครั้งแรกในวงการทหารไทย ซึ่งตั้งชื่อว่า สถานีวิทยุ จส. ขึ้นอยู่ในกรมการทหารสื่อสาร

ภายหลังเมื่อได้ทดลองกิจการกระจายเสียงแห่งนี้ ว่าเป็นผลดีตามที่คิดไว้ ท่านก็คิดไกลออกไปอีกว่า กิจการโทรทัศน์เป็นสื่อมวลชนที่มีคุณค่ายิ่งอันหนึ่ง จึงเสนอเรื่องต่อท่านผู้บัญชาการทหารบก (จอมพล สฤษดิ์ ธนะรัชต์) ซึ่งท่านผู้บัญชาการทหารบกก็ได้ให้ความเห็นชอบและสนับสนุนด้วยดี ท่านจึงได้รีบดำเนินการและเปิดสถานีโทรทัศน์กองทัพบก ช่อง ๗ (ขาวดำ) ออกอากาศเป็นครั้งแรกที่สวนอัมพรในวันที่ ๒๕ มกราคม พ.ศ.๒๕๐๑ และดำเนินการเรื่อยมา ได้เปลี่ยนเป็นสถานีโทรทัศน์สีกองทัพบก ช่อง ๕ ในเวลาต่อมา

กิจการด้านวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์ของกองทัพบกทั้ง ๒ แห่งนี้ เป็นสื่อมวลชนที่ทำประโยชน์เอนกประการแก่กิจการทหารตั้งแต่นั้นมาจนปัจจุบัน"

ที่มา : http://www.bloggang.com/viewblog.php?id=pn2474&date=21-04-2010&group=29&gblog=24

Click on the image for full size Click on the image for full size


แหม่... คิดนอกกรอบและพัฒนาสุดๆ เลยนะครับ...
_________________
ผู้โดยสารโปรดทราบ  ที่นี่สถานีพัทยา
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42709
Location: NECTEC

PostPosted: 17/07/2014 4:45 pm    Post subject: Reply with quote

พลเอกไสว ไสวแสนยากร เคยเป็นผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทยด้วยนะครับ ตอนเปิดการเดินรถไฟลำนารายณ์หนะครับ Embarassed
Back to top
View user's profile Send private message
tamz
3rd Class Pass (Air)
3rd Class Pass (Air)


Joined: 01/10/2008
Posts: 457
Location: พัทยา

PostPosted: 18/07/2014 1:15 pm    Post subject: Reply with quote

Wisarut wrote:
พลเอกไสว ไสวแสนยากร เคยเป็นผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทยด้วยนะครับ ตอนเปิดการเดินรถไฟลำนารายณ์หนะครับ Embarassed


emot111 emot111 emot111

ขอบคุณพี่หมีวิซซี่มากครับ... สมกับเป็น หจช. ผู้ทรงความรู้ของเว็บฯ ชั้นเลิศของเราครับ...

มาต่อกันครับ...
นอกจากจะเป็นนักการทหารผู้มีวิสัยทัศน์ยาวไกลแล้ว ท่านไสวฯ ก็ยังเคยได้รับความไว้วางใจให้ไปดำรงตำแหน่งในฝ่ายพลเรือนระดับสูงอีกด้วย...

เรื่องของเรื่องก็คือ เมื่อ พ.ศ.๒๔๘๓ เมื่อเกิดกรณีพิพาทเขตแดนระหว่างประเทศไทยกับอินโดจีนฝรั่งเศส นายจันทา ราษฎรไทยได้ถูกตำรวจฝ่ายฝรั่งยิงตายที่เวียงจันทน์เมื่อ ๒๖ กันยายน ๒๔๘๓ และเหตุการณ์ได้ขยายตัว รุนแรง จนมีการสู้รบกันทั้งทางบกเรือและอากาศ

ต่อมาวันหนึ่ง พันเอกหลวงเสรีเริงฤทธิ์ หัวหน้าเหล่าทหารสื่อสาร และอธิบดีกรมรถไฟในขณะนั้น ได้ปรารภว่า พลตรีหลวงพิบูลสงคราม กลุ้มใจในการหาคนสักคนหนึ่งที่เป็นเชื้อพระวงศ์ทางหลวงพระบางหรือเวียงจันทน์ เพื่อจะมอบให้ไปทำงานเฉพาะที่ชายแดนกับประเทศลาว ได้มีผู้เสนอชื่อคุณหลวงท่านหนึ่ง แต่คุณหลวงพิบูลไม่ชอบ บอกว่าคุณหลวงคนนั้นขี้เมา แสงพอจะรู้จักใครบ้างไหม ผมก็เลยเรียนท่านไปว่า ผู้กองไสวนี่แหละครับ ไม่ต้องไปหาใครที่ไหนอีกแล้ว คุณหลวงเสรีฯ ท่านถามว่าจริงหรือ

พันเอกแสง จุละจาริตต์ ได้เล่าเรื่องนี้ย้อนหลังไปว่า เมื่อ พ.ศ.๒๔๗๙ ท่านรับราชการและมีบ้านพักอยู่ในบริเวณกองโรงเรียนทหารสื่อสาร สะพานแดง (กรมการทหารสื่อสารในปัจจุบัน) ขุนไสวฯ และท่านมีบ้านพักใกล้กันวันหนึ่งเมื่อท่านกลับจากการฝึกจะเข้าบ้านพัก ขุนไสวได้เรียกเข้าไปคุยและถามว่า เรื่องสัมพันธภาพระหว่างสยามกับฝรั่งเศส ที่ผมเขียนลงวาสารทหารบกต่อเนื่องกันมาเป็นเวลาหลายเดือนทำไมจึงหายไป ท่านก็บอกว่าทางกองทัพบกขอให้ระงับไว้ก่อน เพราะอาจจะกระทบกระเทือนสัมพันธไมตรีกับฝรั่งเศสได้

ขุนไสวฯ จึงถามว่า คุณแสงเขียนมาถึงประเทศลาวและมีกล่าวถึงเจ้าอุ่นคำด้วย คุณแสงใช้หลักฐานมาจากหนังสืออะไร ท่านก็บอกว่าได้สั่งหนังสือมาจากประเทศฝรั่งเศส โดยสั่งที่ร้านหนังสือกรุงเทพบรรณาคาร (พันเอกแสงสำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนอัสสัมชัญ แผนกฝรั่งเศส) และบอกว่ามีภาพเจ้าอุ่นคำในหนังสือนั้นด้วย ขุนไสวได้สนใจขอดูหนังสือนั้น ท่านจึงได้ข้ามถนนไปหยิบหนังสือเล่มดังกล่าวจากบ้านพัก มาเปิดตรงหน้าที่มีภาพเจ้าอุ่นคำให้ดู ขุนไสวดูอย่างพินิจพิเคราะห์แล้วน้ำตาก็ไหลและบอกว่า คุณแสงอย่าบอกให้ใครรู้นะ เจ้าอุ่นคำตามภาพนี้เป็นปู่ของผมเอง.......


เพิ่มเติมของผมเองนะครับ...

Click on the image for full size
พระเจ้ามหินทรเทพนิภาธร (เจ้าอุ่นคํา) พระมหากษัตริย์องค์ที่ 11 แห่งราชอาณาจักรล้านช้างหลวงพระบาง เสด็จพระราชสมภพ ณ นครหลวงพระบาง เมื่อประมาณปี พ.ศ. 2354 เจ้าปู่ของท่านไสวฯ ครองราชย์ ระหว่าง 15 ธันวาคม พ.ศ.2415 - 25 มีนาคม พ.ศ.2431 รวมระยะครองราชย์ 15 ปี ทรงเคยร่วมทำศึกกับพันเอกเจ้าหมื่นไวยวรนาท (เจ้าพระยาสุรศักดิ์มนตรี เจิม แสง-ชูโต) ในการป้องกันพระราชอาณาเขตกับจีนฮ่อด้วยครับ
ที่มา : http://th.wikipedia.org/wiki
_________________
ผู้โดยสารโปรดทราบ  ที่นี่สถานีพัทยา
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42709
Location: NECTEC

PostPosted: 18/07/2014 3:53 pm    Post subject: Reply with quote

^^^
แถมพกอีกหนึ่งตอนที่ พลเอกไสว ไสวแสนยากร ยังคุมแม่ทัพภาค 2 ที่โคราชก็เชิญนักข่าวกินลาบเลือด เหล้าสาโท และอาหารอีสานอื่นๆ รู้แต่ว่ามื้อนักข่าวพากัน เมาจนเอาขาชี้ฟ้าไปตามๆกัน
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44541
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 19/07/2014 8:16 am    Post subject: Reply with quote

ตอนเปิดรถไฟสายสุพรรณบุรี ปี 2506 อยู่ในยุคผู้ว่าฯ พลเอกไสว ด้วยหรือเปล่าครับ Rolling Eyes
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42709
Location: NECTEC

PostPosted: 19/07/2014 11:32 am    Post subject: Reply with quote

^^^
ใช่แล้วครับ
Back to top
View user's profile Send private message
Display posts from previous:   
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> สาระความรู้วิชาการรถไฟและประวัติศาสตร์รถไฟไทย All times are GMT + 7 Hours
Page 1 of 1

 

Share |

Jump to:  
You cannot post new topics in this forum
You cannot reply to topics in this forum
You cannot edit your posts in this forum
You cannot delete your posts in this forum
You cannot vote in polls in this forum

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group


Forums ©