Ads Service

Main Menu

 
icon_home.gif Homepage
icon_community.gif Members Zone
· ข้อมูลส่วนตัว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ข่าวสารส่วนตัว
· บริการเว็บเมล์
· กระดานข่าว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก กระดานฝากข้อความ
· รถไฟไทยแกลลอรี่
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก รายนามสมาชิก
· แบบสำรวจ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก สมุดเยี่ยม
· เกี่ยวกับสมาชิก
favoritos.gif News & Stories
· เรื่องทั้งหมด
· เนื้อหาสาระ
· เรื่องสำหรับพิมพ์
· ยอดฮิตติดอันดับ
· ค้นหาข่าวสาร
· ค้นหากระทู้เก่า
nuke.gif Contents
· กำหนดเวลาเดินรถ
· ประเภทขบวนรถโดยสาร
· ข้อมูลเส้นทางรถไฟ
· แผนที่เส้นทางรถไฟ
· อัตราค่าโดยสาร
· คำนวณค่าโดยสารรถไฟ
· รูปแบบการให้บริการรถไฟ
· หมายเลขโทรศัพท์ที่สำคัญ
· ทริปท่องเที่ยวโดยรถไฟ
· ระบบติดตามขบวนรถ
som_downloads.gif Services
· Downloads
· GoogleSearch
· Hotels Booking
· FlashGames
· Wallpaper 1
· Wallpaper 2
· Wallpaper 3
· Wallpaper 4
icon_members.gif Information
· เกี่ยวกับเรา
· นโยบายความเป็นส่วนตัว
· แผนผังเว็บไซต์ฯ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ส่งข้อแนะนำติชม
· ติดต่อลงโฆษณา
· แนะนำและบอกต่อ
· สถิติทั้งหมด
· สำหรับผู้ดูแลระบบ
 

Sponsors

 

Rotfaithai.Com

 

Visitors

 


มีผู้เข้าเยี่ยมชม
สมาชิก:311287
ทั่วไป:13269172
ทั้งหมด:13580459
คน ตั้งแต่
01-08-2004
 


Rotfaithai.Com :: View topic - รวมข่าวโครงการรถไฟทางคู่
 Forum FAQForum FAQ   SearchSearch   UsergroupsUsergroups   ProfileProfile   Log in to check your private messagesLog in to check your private messages   Log inLog in 

รวมข่าวโครงการรถไฟทางคู่
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 84, 85, 86 ... 389, 390, 391  Next
 
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับรถไฟไทย
View previous topic :: View next topic  
Author Message
nutsiwat
2nd Class Pass
2nd Class Pass


Joined: 03/03/2011
Posts: 684
Location: สถานีเรณูนคร

PostPosted: 19/07/2014 6:35 pm    Post subject: Reply with quote

หากโครงการก่อสร้างทางคู่ chord line ที่สถานีชุมทางบ้านภาชีและสถานีชุมทางแก่งคอย เสร็จเมื่อไร ผมไม่ทราบว่าทาง รฟท. จะมีแผนการเปิดเดินรถเพื่อการโดยสารเชื่อมเส้นทางสายเหนือกับสายอีสานด้วยหรือไม่ครับ เช่น สถานีนครสวรรค์ - สถานีนครราชสีมา หรือไม่ก็สถานีอุบลราชธานี ปลายทางสถานีพิษณุโลก หรือเปิดเดินรถเส้นทางสายตะวันออก คือสถานีพัทยา เชื่อมไปสู่เส้นทางสายเหนือ คือสถานีพิษณุโลก หรือไม่ก็สถานีเชียงใหม่ จัดยาว ๆ ไปเลยนะครับ
_________________
Laughing Laughing Laughing Laughing
--------------------------

สถานีต่อไป สถานีเรณูนคร
next station Renunakorn
Back to top
View user's profile Send private message Yahoo Messenger MSN Messenger
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42735
Location: NECTEC

PostPosted: 19/07/2014 10:05 pm    Post subject: Reply with quote

^^
รถไม่พอมีเดิน เลยทำไม่ได้
Mongwin wrote:
หัวหน้าคสช.แจงแผนรถไฟทางคู่ 5 เส้นทาง
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 18 กรกฎาคม 2557 21:23 น.


"บิ๊กตู่" เหยียบคันเร่งรถไฟทางคู่ 5 สาย ต่อขยายรถไฟฟ้าเปิดประมูลปีนี้
ประชาชาติธุรกิจออนไลน์
19 กรกฎาคม 2557 เวลา 15:30:20 น.


"บิ๊กตู่" เหยียบคันเร่งรถไฟทางคู่ 5 สาย ต่อขยายรถไฟฟ้าเปิดประมูลปีนี้ สั่งปรับขนาดรางใหม่เป็น 1.435 เมตร เชื่อมรถไฟจีนความเร็ว 160-180 ก.ม./ช.ม.

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวในรายการคืนความสุขให้คนในชาติ เมื่อวันที่ 18 กรกฎาคมที่ผ่านมาว่า คสช.มีนโยบายจะเร่งรัดการจัดสร้างรถไฟทางคู่ รถไฟฟ้าส่วนต่อขยาย การจัดหาหัวรถจักรใหม่ รถเมล์ใหม่ กำลังอยู่ในขั้นการทบทวนดำเนินการทั้งสิ้น ให้ได้ข้อยุติโดยเร็ว เพื่อบางอย่างนั้นจะได้เริ่มดำเนินการตั้งแต่ปี 2557 - 2558 และระยะยาวในโอกาสต่อไป

ในเรื่องของการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางด้านคมนาคมนั้น ได้มอบหมายให้หัวหน้าฝ่ายเศรษฐกิจและส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ได้เร่งพิจารณาโครงการที่สำคัญ เพื่อให้สามารถดำเนินการได้ตั้งแต่ปีงบประมาณ 2558 ส่วนใดที่มีความพร้อม ก็ให้เริ่มดำเนินการไปก่อน

ในส่วนของโครงการรถไฟทางคู่นั้น ให้พิจารณาถึงอนาคตที่จะต้องรองรับการเชื่อมต่อกับประเทศเพื่อนบ้านในภูมิภาคอาเซียน รวมทั้งการเชื่อมต่อกับประเทศจีน ที่ต้องใช้เทคโนโลยีใหม่ ที่มีรางขนาด 1.435 เมตร เพื่อจะรองรับการวิ่งของขบวนรถที่มีความเร็วสูงถึง 160 - 180 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

รวมถึงการพัฒนาจุดเชื่อมต่อ ทางลอดต่าง ๆ เพื่อให้ขบวนรถไฟวิ่งได้อย่างต่อเนื่อง ระบบรางของไทยในปัจจุบันนั้นมีความกว้าง 1 เมตร รองรับการวิ่งของขบวนรถที่มีความเร็วประมาณไม่เกิน 90 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งในอนาคตนั้นจะมีปัญหาในเรื่องของการจัดหาอะไหล่ และการซ่อมบำรุง ที่ทั่วโลกมีแนวโน้มไปใช้งานระบบรางแบบใหม่

อย่างไรก็ตาม เพื่อเป็นการใช้งบประมาณอย่างมีประสิทธิภาพและไม่เสียโอกาสในเรื่องของการพัฒนาการค้า การขนส่งคมนาคม เราสามารถจะพัฒนาปรับปรุงให้ระบบเดิมใช้ในเรื่องของการเพิ่มปริมาณการขนส่งสินค้า การลดต้นทุนการขนส่ง

โดยในระยะแรกให้มีการวางรางขนาด 1 เมตร เพิ่มเติม ในเฉพาะเส้นทางที่มีการจราจรหนาแน่น และเป็นเส้นหลักในการขนส่งสินค้า ซึ่งปัจจุบันกระทรวงคมนาคมได้มีแผนในการก่อสร้างไว้แล้วใน 5 เส้นทาง ตามความเร่งด่วนดังนี้

เส้นแรก คือฉะเชิงเทรา - คลอง 19 - แก่งคอย
เส้นที่ 2 ลพบุรี - ปากน้ำโพ
เส้นที่ 3 มาบกะเบา - ชุมทางถนนจิระ
เส้นที่ 4 นครปฐม - ชุมทางหนองปลาดุก - หัวหิน
เส้นที่ 5 ประจวบคีรีขันธ์ - ชุมพร

ด้านนางสร้อยทิพย์ ไตรสุทธิ์ ปลัดกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า ในปลายปี 2557 นี้จะเริ่มกระบวนการขออนุมัติโครงการและประมูลก่อสร้างรถไฟทางคู่ 3 สาย คือ สายฉะเชิงเทรา-คลองสิบเก้า-แก่งคอย สายจิระ-ขอนแก่น และสายประจวบคีรีขันธ์-ชุมพร รวมถึงรถไฟฟ้าสายสีเขียวช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต เป็นต้น

เนื่องจากขณะนี้ได้มีการตั้งคณะกรรมการ (บอร์ด) สิ่งแวดล้อมแห่งชาติแล้ว โดยมีหัวหน้า คสช.นั่งเป็นประธาน จะทำให้โครงการรถไฟทางคู่ 5 สายเร่งด่วนรอการพิจารณาอนุมัติรายงานผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมหรืออีไอเอรวดเร็วขึ้น เพราะมีบางสายทางผ่านคณะกรรมการผู้ชำนาญการแล้ว รอแค่บอร์ดใหญ่อนุมัติ หลังจากนั้นจะเริ่มกระบวนการขออนุมัติโครงการและประมูลก่อสร้างได้

//------------------------------
คสช.พัฒนาโครงการรถไฟรางคู่ ความเร็วสูง 160-180 กม./ชม.
@ เสธ น้ำเงิน2
ทหารปฏิรูปประเทศไทย
วันที่ 19 กรกฎาคม 2557

เนื่องจากการล่าอาณานิคมของอังกฤษและฝรั่งเศสบริเวณเหลมอินโดจีน พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ทรงตระหนักถึงความสำคัญของการคมนาคม โดยเส้นทางรถไฟ เพราะสมัยก่อนการใช้แต่ทางเกวียน และ แม่น้ำลำคลองนั้น ไม่เพียงพอแก่การบำรุงรักษาพระราชอาณาเขต
ราษฎรที่อยู่ห่างไกลจากเมืองหลวง มีจิตใจโน้มเอียงไปทางประเทศใกล้เคียง สมควรที่จะสร้างทางรถไฟขึ้นในประเทศไทย เพื่อติดต่อกับมณฑลชายแดนก่อนอื่น ทั้งนี้เพื่อสะดวกแก่การปกครอง ตรวจตราป้องกันการรุกราน เป็นการเปิดภูมิประเทศให้ประชาชนพลเมืองเข้าบุกเบิกพื้นที่รกร้างว่างเปล่า ให้เป็นประโยชน์ทางเศรษฐกิจของประเทศ
และเป็นเส้นทางขนส่งผู้โดยสารและสินค้าไปมาถึงกันได้ง่ายยิ่งขึ้น ดังนั้น ในปี พ.ศ. 2430 จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้บริษัท ปันชาร์ด แมกทักการ์ด โลเธอร์ ดำเนินการสำรวจเพื่อสร้างทางรถไฟสายกรุงเทพ - นครราชสีมา และมีทางแยก ลพบุรี - เชียงใหม่ สายหนึ่ง , จากเมืองอุตรดิตถ์ – ตำบลท่าเดื่อ ริมฝั่งแม่น้ำโขงสายหนึ่ง และจากเมืองเชียงใหม่ไปยังเชียงราย เชียงแสนหลวง อีกสายหนึ่ง
ในวันที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2439 พระองค์ได้เสด็จฯ ทรงเปิดการเดินรถไฟ สายกรุงเทพ -นครราชสีมา เส้นทางรถไฟสายแรกของประเทศสยาม
แม้ว่าจะเปลี่ยนแปลงการปกครองหลังปี 2475 แล้ว นักการเมืองไม่เคยยอมพัฒนารางรถไฟรางคู่เลย มีเพียงยุครัฐบาลฤษี 2551 เท่านั้น ได้มีการดำเนินการประมูลสร้างรถไฟรางคู่ จากฉะเชิงเทราถึงแหลมฉบัง ระยะทาง78 กิโลเมตร ตามมาด้วยรถไฟรางคู่จากคลอง 19 ถึงชุมทางแก่งคอย และ นครปฐม ถึง หัวหิน
เหตุเพราะนักแสวงโชคการเมือง หันไปสร้างถนน หลายแสนหลายหมื่นล้านบาทมาอย่างยาวนาน เนื่องจากแต่ละคนมีบริษัทก่อสร้างถนนของตนเองในการรับงานจากรัฐ มีการทำไม่นานก็พัง แล้วก็ทำไม่อีก ซ้ำไปซ้ำมาหลายสิบรอบ ไม่รู้จบรู้สิ้น หมดเงินไปกับการทุจริตถนนของนักแสวงโชคทางการเมือง โดยไม่เคยพัฒนารถไฟรางคู่ทั่วประเทศอีกเลย
ระบบรางของไทยที่ใช้อยู่ปัจจุบันนั้น มีความกว้าง 1 เมตร รองรับการวิ่งของขบวนรถที่ความเร็วช้าประมาณไม่เกิน 90 กม./ชม. ซึ่งในอนาคตนั้น จะมีปัญหาในเรื่องการจัดหาอะไหล่ และการซ่อมบำรุงที่ทั่วโลก มีแนวโน้มไปใช้งานระบบรางแบบใหม่..เหมือนคอมพิวเตอร์ และรถตกรุ่นทำนองนั้น อะไหล่หายาก
จากรัชกาลที่ 5 เป็นต้นมาถึงปัจจุบัน 118 ปี นับเป็นครั้งแรกที่ คสช. แม้ว่าจะไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง จะเริ่มพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางด้านคมนาคม ในปี 2558 เพื่อให้สามารถดำเนินการได้ตั้งแต่ ส่วนใดที่มีความพร้อมให้เริ่มดำเนินการไปก่อน
ในระยะแรกของปีนี้ เพื่อเป็นการใช้จ่ายงบประมาณอย่างมีประสิทธิภาพ และไม่เสียโอกาสในเรื่องการพัฒนาการค้า การขนส่งคมนาคม คสช. จะพัฒนาปรับปรุงให้ระบบเดิมให้มีการวางรางขนาด 1 เมตร เพิ่มเติม เฉพาะเส้นทางที่มีการจราจรหนาแน่น และเป็นเส้นหลักในการขนส่งสินค้า เพิ่มปริมาณการขนส่งสินค้า การลดต้นทุนการขนส่ง
ในส่วนโครงการรถไฟรางคู่นั้น จะทำไปพร้อมกันเพื่อรองรับการเชื่อมต่อกับประเทศเพื่อนบ้าน ในภูมิภาคอาเซียน รวมทั้งการเชื่อมต่อกับประเทศจีน ที่ต้องใช้เทคโนโลยีใหม่ ที่มีรางขนาด 1.435 เมตร รองรับการวิ่งของขบวนรถที่ความเร็วสูงถึง 160-180 กม./ชม. การพัฒนาจุดเชื่อมต่อทางลอดต่างๆ เพื่อให้ขบวนรถไฟวิ่งได้อย่างต่อเนื่อง
ไม่ใช่รถไฟฟ้า ที่รัฐบาลเผาไทยที่แล้วจะกู้ถึง 2.2 ล้านๆ บาท หวุดหวิดจะทำให้ประเทศหนี้ทุ่วมหัวล้มละลายมาแล้ว กู้ชาตินี้ ใช้ชาติหน้า แต่รถไฟรางคู่ การลงทุนจะต่ำกว่ามาก เพราะไม่ต้องก่อสร้างใดเพิ่มเติมนัก มีวางรางที่กว้างขึ้น วิ่งสวนกันได้ ในเส้นทางหลัก ที่ดินก็เป็นของการรถไฟอยู่แล้ว ไม่มีการเวนคืนเพิ่ม
นักแสวงโชคทางการเมืองจากระบอบประชาธิปไตย เลือกตั้งขี้โกงไม่ทำ จ้องแต่จะกู้แล้วโยนหนี้มาให้ประชาชนทั้งประเทศ งั้นลองให้ คสช.จากรัฐประหาร ทำรถไฟรางคู่เพื่อประโยชน์ประชาชน โดยรวมดูบ้าง โดยใช้งบประมาณปกติของประเทศนี่แหละ


Last edited by Wisarut on 21/07/2014 7:41 am; edited 1 time in total
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42735
Location: NECTEC

PostPosted: 21/07/2014 12:27 am    Post subject: Reply with quote

ชงคสช.ประมูลทางคู่ 4.3 หมื่นล.


โดย ASTVผู้จัดการรายวัน 20 กรกฎาคม 2557 14:22 น.


ASTVผู้จัดการรายวัน-คมนาคมเสนอแผนยุทธศาสตร์โครงสร้างพื้นฐาน 8 ปี(58-65) ให้คสช.พิจารณา 22 ก.ค.นี้คาดเน้นโครงการในแผน4 ปีแรกก่อน ลุ้นดันรถไฟทางคู่2เส้นทาง ถนนจิระ-ขอน แก่น 2.6 หมื่นล้าน และประจวบฯ-ชุมพร 1.7 หมื่นล้านเริ่มได้ในปลายปี57เหตุพร้อมที่สุดรอคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมชุดใหญ่พิจารณา

นางสร้อยทิพย์ ไตรสุทธิ์ ปลัดกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ในวันที่22 กรกฎาคมจะเสนอแผนการจัดทำยุทธศาสตร์โครงสร้างพื้นฐาน ด้านการคมนาคมขนส่งของไทย ระยะเวลาดำเนินการปี 2558-2565ต่อที่ประชุมคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ซึ่งเบื้องต้นคงยังไม่สามารถระบุว่าจะมีโครงการใดและวงเงินชัดเจนเท่าไรจนกว่า คสช.จะให้ความเห็นชอบโดยในส่วนของกระทรวงคมนาคมแนวทางที่จะเสนอให้ คสช.พิจารณานั้นจะเน้นโครงการที่พร้อมดำเนินการในช่วง 4 ปีแรกก่อน

"เมื่อวันที่ 20 ก.ค.ได้มีการประชุมร่วมกับพลอากาศเอกประจิน จั่นตอง หัวหน้าด้านเศรษฐกิจคสช.เพื่อเตรียมพร้อมรายละเอียดแผนการจัดทำยุทธศาสตร์โครงสร้างพื้นฐาน ด้านการคมนาคมขนส่งของไทย ระยะ 8 ปีก่อนเสนอคสช. ซึ่งทำให้เห็นภาพรวมทุกโครงการและมีข้อมูลเพียงพอที่จะสามารถตัดสินใจได้ว่าโครงการไหนมีความพร้อมและสามารถลงมือทำได้ในปี58โดยจะเน้นไปที่แผน4ปีแรกก่อนเพื่อให้เห็นผลที่เป็นรูปธรรม ส่วนที่เหลือก็ค่อยทยอยพิจารณาไป” นางสร้อยทิพย์ กล่าว

รายงานข่าวแจ้งว่า ตามแผนยุทธศาสตร์ที่กระทรวงคมนาคมจัดทำไว้ในระยะ 8 ปี จะแบ่งการดำเนินโครงการเป็น 3 เฟส โดยเฟสแรกคือโครงการที่มีความพร้อมมากสุดซึ่งส่วนใหญ่ได้บรรจุอยู่ในแผนเสนอของบประมาณปี 2558 เพื่อเริ่มดำเนิน การเวนคืนที่ดิน เช่น โครงการก่อสร้างรถไฟฟ้า 3 สายทาง ประกอบด้วย สายสีชมพู แคราย-มีนบุรี สายสีส้มเฟสแรก ช่วงศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย-สุวินทวงศ์ และสายสีเขียว หมอชิต-สะพานใหม่-คูคต

โครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ระยะเร่งด่วน 5 เส้นทาง วงเงินรวม 1.16 แสนล้านบาท คือ

1.ลพบุรี-ปากน้ำโพ ระยะทาง 148 กม.วงเงิน 2.4 หมื่นล้านบาท
2.มาบกะเบา-นครราชสีมา (ถนนจิระ) ระยะทาง 132 กม. วงเงิน 2.9 หมื่นล้านบาท
3.ถนนจิระ-ขอนแก่น ระยะทาง 185 กม. วงเงิน 2.6 หมื่นล้านบาท
4.นครปฐม-หัวหิน ระยะทาง 165 กม.วงเงิน 2 หมื่นล้านบาท และ
5.ประจวบคีรีขันธ์-ชุมพร ระยะทาง 167 กม. วงเงิน 1.7 หมื่นล้านบาท

สำหรับโครงการรถไฟทงคู่นั้นนางสร้อยทิพย์ กล่าวว่า เบื้องต้นรถไฟทางคู่ทั้ง5เส้นทางไม่อยู่ในแผนงบประมาณปี2558 เพราะยังติดเรื่องที่ยังไม่ผ่านการพิจารณาผลกระสิ่งแวดล้อม (EIA) ซึ่งล่าสุดคณะกรรมการสิ่งแวด้อมแห่งชาติ ได้ตั้งประธานแล้วโดยทางพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชาหัวหน้าคสช.เป็นประธานเองคาดว่าเร็วๆนี้น่่าจะพิจารณาซึ่งหากโครงการใดพร้อมสามารถนำมาบรรจึและดำเนินการในปีงบประมาณ2558 ได้ไม่มีปัญหา

โดย 2 โครงการแรกที่จะเริ่มดำเนินการได้ปลายปี 57 คือ รถไฟทางตรลาสายถนนจิระ-ขอนแก่น และสายประจวบคีรีขันธ์-ชุมพร เนื่องจากผ่านการพิจารณา EIA จากคณะกรรมการผู้ชำนาญการแล้ว เหลือเพียงนำส่งให้คณะกรรมการด้านสิ่งแวดล้อมแห่งชาติชุดใหญ่พิจารณาเท่านั้น โดยกระทรวงคมนาคมจะมีการประสานกับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอย่างใกล้ชิด เพื่อให้โครงการผ่านการพิจารณาอนุมัติ EIA เร็วที่สุด

อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้แหล่งข่าวจากกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า กระทรวงการคลังเคยเสนอความเห็นไปแล้วว่า หาก คสช.จะดำเนินโครงการทุกโครงการตามแผนจัดทำยุทธศาสตร์โครงสร้างพื้นฐาน ด้านการคมนาคมขนส่งของไทย ระยะเวลาดำเนินการปี 2558-2565 วงเงินรวมเบื้องต้น 3 ล้านล้านบาทตามกระทรวงคมนาคมนำเสนอก็สามารถกระทำได้ เพราะมีแหล่งเงินลงทุนเพียงพอจากการกู้สถาบันการเงิน

ที่กระทรวงการคลังพิจารณาแล้วว่าจะไม่เกินเพดานหนี้สาธารณะ แต่ขอให้ คสช.รีบตัดสินใจเพราะในขณะนี้ อัตราดอกเบี้ยในตลาดการเงินอยู่ในระดับต่ำ
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44608
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 22/07/2014 8:29 am    Post subject: Reply with quote

ประกาศฝ่ายโครงการพิเศษและก่อสร้าง
การรถไฟแห่งประเทศไทย
เรื่อง เลื่อนกำหนดการแจ้งผลผู้มีสิทธิ์เสนอราคา
- - - - - - - - - - - - - - -
เลขที่ กส.7/ปก./2557
http://www.railway.co.th/auction/system/Declaration.asp?NumDC=21539

ตามที่ การรถไฟแห่งประเทศไทย โดยฝ่ายโครงการพิเศษและก่อสร้าง ได้ประกาศประกวดราคาจ้าง โครงการก่อสร้างทางคู่ในเส้นทางรถไฟสายชายฝั่งตะวันออก ช่วงฉะเชิงเทรา-คลองสิบเก้า-แก่งคอย สัญญาที่ 2 งานก่อสร้างทางรถไฟทางคู่ช่วงวิหารแดง-บุใหญ่ พร้อมอุโมงค์รถไฟ ด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ ดังประกาศเลขที่กส.2/ปก./2557 ลงวันที่ 8 พฤษภาคม 2557 โดยมีกำหนดดังนี้.-

กำหนดยื่นเอกสารประกวดราคาฯ วันที่ 19 มิถุนายน 2557 ตั้งแต่เวลา 10.00 น.ถึง 12.00 น. ณ ห้องประชุมฝ่ายโครงการพิเศษและก่อสร้าง ชั้น 3 ตึกพัสดุ การรถไฟฯ และจะแจ้งผลผู้มีสิทธิ์เสนอราคาได้ในวันที่ 22 กรกฎาคม 2557 นั้น

แต่เนื่องจากคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้เห็นชอบให้กระทรวงการคลังดำเนินการพิจารณากลั่นกรองโครงการจัดซื้อจัดจ้างของรัฐวิสาหกิจที่มีมูลค่าตั้งแต่ 100 ล้านบาทขึ้นไป และได้เริ่มกระบวนการจัดซื้อ จัดจ้างแล้ว แต่ยังมิได้มีการผูกพันกับบุคคลภายนอก และสำนักคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) โดยได้รับมอบหมายจากกระทรวงการคลัง ขอให้การรถไฟแห่งประเทศไทยดำเนินการจัดส่งข้อมูลรายละเอียดพร้อมทั้งทำสรุปข้อมูลจัดซื้อจัดจ้างดังกล่าวให้ สคร. พิจารณาถึงประโยชน์และความเหมาะสมอีกครั้งหนึ่งก่อน การรถไฟ ฯ ได้จัดส่งข้อมูลและรายละเอียดให้กับ สคร. เพื่อพิจารณาเรียบร้อยแล้ว แต่เนื่องจากยังไม่ผ่านการพิจารณาจาก คสช. จึงไม่สามารถดำเนินการในขั้นตอนต่อไปได้ การรถไฟฯจึงมีความจำเป็นต้องขอเลื่อนการประกาศผลออกไปไม่มีกำหนด โดยหากผลการพิจารณาเสร็จเรียบร้อยแล้วจะประกาศแจ้งให้ทราบโดยทั่วกันอีกครั้งหนึ่ง

ประกาศ ณ วันที่ 18 เดือน กรกฎาคม พ.ศ. 2557

( ลงนาม ) ประเสริฐ อัตตะนันทน์
( นายประเสริฐ อัตตะนันทน์ )
หัวหน้าหน่วยธุรกิจการบริหารทรัพย์สิน
รักษาการในตำแหน่งผู้ว่าการรถไฟฯ

สำเนาถูกต้อง
( นายธีระ รุ่งโรจน์สุวรรณ )
วิศวกรกำกับการกองมาตรฐานงานวิศวกรรมโยธา
21/07/2557 14:16:41
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44608
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 22/07/2014 5:34 pm    Post subject: Reply with quote

คมนาคมวัดใจสผ.ไฟเขียวอีไอเอ 2 โครงการ
ฐานเศรษฐกิจ วันอังคารที่ 22 กรกฏาคม 2014 เวลา 16:56 น.

คมนาคมวัดใจสผ.ไฟเขียวอีไอเอ 2 โครงการรถไฟทางคู่ 1 มอเตอร์เวย์ และถนนเส้นทาง 304 ส่วนแผนยุทธศาสตร์โครงสร้างพื้นฐานคมนาคม 5 ด้านเลื่อนพิจารณาเป็นวันที่ 29 ก.ค. นี้ ล่าสุดคสช. เห็นชอบกรอบวงเงินภาษีมูลค่าเพิ่มของรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงบางใหญ่ – บางซื่อ วงเงิน 687 ล้าน และเห็นชอบกู้เงิน ขสมก. ชำระค่าน้ำมัน-ค่าซ่อมวงเงินกว่า 4.4 พันล้าน

นางสร้อยทิพย์ ไตรสุทธิ์ ปลัดกระทรวงคมนาคม ปฏิบัติการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมเปิดเผยว่าในวันที่ 23 กรกฎาคม นี้จะมีการประชุมคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ(สผ.)เป็นครั้งแรกที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเพื่อพิจารณาผลกระทบสิ่งแวดล้อมโครงการต่างๆที่อยู่ในรอการพิจารณาซึ่งปลัดกระทรวงคมนาคมทำหน้าที่คณะกรรมการโดยตำแหน่ง

โดยมีโครงการสำคัญของกระทรวงคมนาคมที่ได้นำเข้าสู่การพิจารณาครั้งนี้ ประกอบด้วย
1.โครงการรถไฟทางคู่ เส้นทางชุมทางถนนจิระ-ขอนแก่น
2.เส้นทางลพบุรี-ปากน้ำโพ ของการรถไฟแห่งประเทศไทย(ร.ฟ.ท.)

3.ทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง(มอเตอร์เวย์)เส้นทางพัทยา-มาบตาพุด และ
4.ถนนเส้นทางกบินทร์บุรี-ปักธงชัย ในเส้นทาง 304 ของกรมทางหลวง(ทล.)

ปลัดกระทรวงคมนาคมยังกล่าวถึงผลการประชุม คสช. เมื่อวันที่ 22 กรกฎาคมที่ผ่านมาว่า คสช. ได้เลื่อนการพิจารณาแผนยุทธศาสตร์โครงสร้างพื้นฐานคมนาคม 5 ด้านไปเป็นวันอังคารที่ 29 ก.ค. นี้และหากผ่านการเห็นชอบ จะเห็นแผนงานโครงการได้อย่างชัดเจนให้แต่ละหน่วยงานเร่งดำเนินการโดยเร็วต่อไป

นอกจากนั้นที่ประชุม คสช. ยังได้พิจารณาเห็นชอบ 2 เรื่อง ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ คือ 1.การขออนุมัติปรับกรอบวงเงินโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงบางใหญ่ – บางซื่อ สำหรับเป็นค่าภาษีมูลค่าเพิ่มที่เกิดขึ้นจากการเปลี่ยนแหล่งเงินกู้จากต่างประเทศ เป็นเงินกู้ในประเทศของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย(รฟม.) เพื่อให้เป็นไปตามกฎหมาย และหลักการที่กำหนดไว้ วงเงิน 687 ล้านบาท แบ่งเป็นด้านการโยธา 672 ล้านบาท และด้านที่ปรึกษา 15 ล้านบาท และ
2. การขออนุมัติกู้เงิน เพื่อนำไปชำระค่าน้ำมันเชื้อเพลิง และค่าเหมาซ่อมปีงบประมาณ 2558 ขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ หรือขสมก.) โดยที่ประชุม คสช. อนุมัติกู้เงินดังกล่าว วงเงิน 4,401 แบ่งเป็น ค่าน้ำมันเชื้อเพลิง 2,807 ล้านบาท และค่าเหมาซ่อม 1,531 ล้านบาท ทั้งนี้ ขสมก. จะต้องนำไปชำระในเดือนพฤศจิกายนนี้

“สำหรับความคืบหน้าการก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงบางใหญ่ – บางซื่อนั้น ในขณะนี้มีความคืบหน้างานก่อสร้างแล้วกว่า 90% อย่างไรก็ตามหากมีการส่งมอบรถไฟฟ้าในช่วงกลางปี 2558 และเดินหน้าทดสอบระบบหลังจากได้รับมอบรถไฟฟ้า 6 เดือน คาดว่าในช่วงกลางปี 2558 หรือต้นปี 2559 จะสามารถเปิดให้ใช้บริการได้”
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44608
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 23/07/2014 10:36 am    Post subject: Reply with quote

"ธีระชัย" ติงรื้อรางรถไฟเป็น 1.43 เมตร อาจไม่คุ้ม
ฐานเศรษฐกิจ วันพุธที่ 23 กรกฏาคม 2014 เวลา 10:16 น.

เช้าวันนี้ (23 กรกฎาคม 2557) นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ค ระบุว่า "ข่าวว่า คสช อาจจะลงมติเปลี่ยนรางรถไฟจากปัจจุบัน 1 เมตร เป็น standard guage 1.43 เมตร เพื่อเชื่อมโยงกับต่างประเทศ

เมื่อวานผมได้พบเพื่อนที่เรียนวิศวกรรมจากยุโรป และมีประสบการณ์ด้านขนส่งทางราง พบโดยบังเอิญเนื่องจากเขาจะไปร่วมสัมมนารถไฟความเร็วสูงที่ลำปาง เขาให้ข้อคิดดังนี้
1 ไม่มีประเทศอาเซียนเพื่อนบ้าน ที่ใช้ราง 1.43 เมตร เพื่อนบ้านเขาใช้ 1 เมตรกันหมด ดังนั้น ราง 1.43 เมตร จึงต้องเล็งเชื่อมกับจีนเท่านั้น แต่ก็ไม่ไกลกว่าจีน เพราะรัสเซียใช้ 1.52 เมตร อินเดียใช้ 1.67 เมตร

2. การเปลี่ยนรางเป็น 1.43 เมตร เท่ากับลงทุนระบบรถไฟใหม่ เพราะต้องเปลี่ยนหัวรถจักร และโบกี้โดยสารด้วย จึงคาดว่าจะไม่มีเพื่อนบ้านที่เปลี่ยนตามไทย พื้นที่วางรางก็ต้องกว้างขึ้นอีก 50 เปอร์เซนต์ รวมทั้งต้องรื้อเลื่อนชานชลาสถานีตลอดทางด้วย

3. ราง 1 เมตรปัจจุบัน สามารถวิ่งได้เร็วถึง 160 กม ต่อ ชม ได้อยู่แล้ว แต่ต้องใช้หัวรถจักรที่ดีขึ้น หรือเปลี่ยนไปใข้ระบบไฟฟ้า และวางรางคู่ทั่วประเทศ

4. ราง 1.43 เมตรจะลงทุนสูงมากในบริเวณภูเขาเพราะการตีวงเลี้ยวต้องใช้รัศมีกว้างขึ้นมาก การวางรางเลาะตามไหล่เขาจะทำได้ยากกว่าเดิม หลายจุดต้องทำสะพานข้ามไหล่เขา หรือเจาะอุโมงค์

5. ราง 1 เมตรสามารถส่งสินค้าข้ามประเทศได้ ในอนาคต จะมีสินค้าส่งข้ามประเทศมาก (ก) จากไทยไปอาเซียน (ข) จากอาเซียนผ่านไทยไปจีน (ค) จากอินเดียมาขึ้นท่าเรือทวายผ่านไทยไปจีน และ (ง) แร่ธาตุจากอัฟริกามาถลุงเป็นแท่งที่ทวาย ผ่านไทยไปจีน

การขนส่ง สามารถใช้ระบบรางคู่ 1 เมตร ไปจนถึง container yard ที่พรมแดนไทย แล้วยกตู้คอนเทนเนอร์ ย้ายจากรถไฟไทย ไปตั้งบนรถไฟจีนได้

6. การลงทุนรถไฟความเร็วปานกลางหรือสูง 200 กม ต่อ ชม ขึ้นไป โดยใช้ราง 1.43 เมตร ควรใช้วิธีให้สัมปทานจีน ให้เขาออกเงิน และเสี่ยงทางธุรกิจเอง เนื่องจากรางต้องเสถียรมาก ฐานพื้นสำหรับวางรางจึงต้องแข็งแรง และส่วนใดที่เป็นดินอ่อน อาจจะต้องตอกเข็มหล่อคาน ค่าใช้จ่ายจะสูง"
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44608
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 23/07/2014 4:07 pm    Post subject: Reply with quote

สผ.ไฟเขียวอีไอเอรถไฟทางคู่จิระ-ขอนแก่น เตรียมชงครม.ตั้งงบ
ฐานเศรษฐกิจ วันพุธที่ 23 กรกฏาคม 2014 เวลา 15:49 น.

สผ.ไฟเขียวอีไอเอรถไฟทางคู่จิระ-ขอนแก่น เตรียมชงเข้า ครม.ตั้งงบประมาณ ก่อนเดินหน้าก่อสร้างโครงการ ขณะที่ทางคู่ลพบุรี-ปากน้ำโพ ผ่าน IEE ทำเอกสารเพื่อขอ EIA ต่อไป ด้านทล.มีเฮมอเตอร์เวย์พัทยา-มาบตาพุด และทางหลวง 304 สายกบินทร์บุรี - ปักธงชัย อีก 2 โครงการผ่าน EIA เช่นกัน

พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย ผู้บัญชาการทหารเรือ รองคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) หัวหน้าฝ่ายสังคมและจิตวิทยา ในฐานะประธานการประชุมคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ครั้งที่ 1/2557 เปิดเผยหลังการประชุมว่า ที่ประชุมมีวาระการพิจารณาเรื่องสำคัญ 24 เรื่อง โดยเฉพาะเรื่องที่มีผลกระทบต่อการก่อสร้างด้านโครงสร้างพื้นฐาน

โดยโครงการที่ผ่านการพิจารณาการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม หรืออีไอเอ(EIA) ได้แก่ โครงการระบบรถไฟทางคู่เพื่อการขนส่ง และการจัดการโลจิสติกส์ระยะเร่งด่วน ช่วงชุมทางถนนจิระ - ขอนแก่น ระยะทาง 185 กิโลเมตร วงเงิน 2.6 หมื่นล้านบาท ของการรถไฟแห่งประเทศไทย(ร.ฟ.ท.) โดยหลังจากนี้สามารถนำเรื่องเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี หรือ ครม. เพื่อจัดตั้งงบประมาณ และเดินหน้าโครงการประกวดราคาต่อ

ในส่วนโครงการรถไฟทางคู่เพื่อการขนส่ง และการจัดการโลจิสติกส์ระยะที่ 1 เส้นทางลพบุรี - ปากน้ำโพ ระยะทาง 148 กิโลเมตร วงเงิน 2.4 หมื่นล้านบาทนั้นที่ประชุมพิจารณาเห็นชอบให้ผ่านการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมเบื้องต้น(IEE) หลังจากนี้สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.)จะต้องไปคัดเลือกแนวเส้นทางที่เหมาะสม เพื่อนำเสนอให้พิจารณา EIA ต่อไป

สำหรับโครงการรถไฟทางคู่อีก 3 เส้นทาง คือ
1.เส้นทางมาบกะเบา - นครราชสีมา ระยะทาง 132 กิโลเมตร วงเงิน 2.9 หมื่นล้านบาท
2.เส้นทางนครปฐม - หัวหิน ระยะทาง 165 กิโลเมตร วงเงิน 2 หมื่นล้านบาท และ
3.เส้นทางประจวบคีรีขันธ์ - ชุมพร ระยะทาง 167 กิโลเมตร วงเงิน 1.7 หมื่นล้านบาท
อยู่ในขั้นตอนของคณะกรรมการผู้ชำนาญการ(คชก.) เพื่อพิจารณาแก้ไข ก่อนส่งเข้าที่ประชุมคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ(กก.วล.)ชุดใหญ่พิจารณาต่อไป ซึ่งคาดว่าจะมีการประชุมทุกเดือน

นอกจากนี้โครงการของกรมทางหลวง(ทล.) ประกอบด้วย โครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (มอเตอร์เวย์) สายพัทยา - มาบตาพุด โครงการทางเชื่อมผืนป่ามรดกโลกบนทางหลวงหมายเลข 304 สายอ.กบินทร์บุรี - ปักธงชัย และโครงการก่อสร้างทาง 4 ช่องจราจร ทางหลวงหมายเลข 304 ตอนอ.กบินทร์บุรี - ปักธงชัย (ช่วง กม. 26-29 และกม.42-กม.57) ที่ประชุมได้พิจารณาผ่านการเห็นชอบ EIA ด้วยเช่นกัน โดยการพิจารณาเส้นทางหมายเลข 304 ที่จะขยายเป็น 4 ช่องจราจรนั้น ผ่านพื้นที่ป่าดงพญาเย็น และอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ โดยทล.จะต้องก่อสร้างเป็นทางยกระดับ หรืออุโมงค์เป็นช่วงๆ เพื่อลดผลกระทบต่อสัตว์ป่าที่จะได้ไม่ต้องเดินผ่านถนนสายดังกล่าว

----

สผ.ไฟเขียวผล EIA รถไฟทางคู่-มอเตอร์เวย์ รับเหมาคึกคัก”คมนาคม”คาดเริ่มประมูลต้นปี 58
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 23 กรกฎาคม 2557 17:47 น.

ผู้รับเหมาคึกคัก คณะกรรมการสิ่งแวดล้อมฯชุดใหญ่ อนุมัติผลศึกษา EIA 6 โครงการรวด วงเงินรวมกว่า 7.2 หมื่นล. “คมนาคม”เผยเตรียมเสนอ คสช.อนุมัติขั้นสุดท้าย คาดทยอยเปิดประมูลต้นปี 58 ทั้ง รถไฟทางคู่ 2 สาย มอเตอร์เวย์ สายพัทยา-มาบตาพุด

นางสร้อยทิพย์ ไตรสุทธิ์ ปลัดกระทรวงคมนาคมเปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ (สผ.) ที่มีพลเรือเอกณรงค์ พิพัฒนาศัย หัวหน้าฝ่ายสังคมจิตวิทยา คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ทำหน้าที่ประธานที่ประชุม วันนี้ (23 ก.ค.) ได้มีมติเห็นชอบผลศึกษาผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม (EIA) โครงการก่อสร้างที่อยู่ในความรับผิดชอบของกระทรวงคมนาคมรวม 6 โครงการ วงเงินรวมกว่า 7.2 หมื่นล้านบาท โดยขั้นตอนหลังจากนี้แต่ละหน่วยงานที่รับผิดชอบแต่ละโครงการต้องจัดเตรียมรายละเอียดให้เรียบร้อยเพื่อเสนอให้ คสช. พิจารณา หากได้รับการอนุมัติ จะสามารถเริ่มดำเนินการประกวดราคาได้ทันทีโดยกระบวนการในการจัดทำเอกสารประกวดราคาจะใช้เวลาประมาณ 6 เดือน ซึ่งมั่นใจว่าจะสามารถดำเนินงานได้ตามแผน และจะเริ่มต้นการเปิดประกวดราคาได้ช่วงต้นปี 2558

ทั้งนี้โครงการที่ผ่าน การพิจารณา EIA ครั้งนี้ ประกอบด้วย โครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ของการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) 2 เส้นทาง คือ สายชุมทางถนนจิระ-ขอนแก่น ระยะทาง 187 กิโลเมตร วงเงินรวม 29,341 ล้านบาท โดยแผนงานจะใช้งบประมาณปี 2558 จำนวน 314.64 ล้านบาท แบ่งเป็นงบเวนคืน 304.67ล้านบาท และงบจัดประกวดราคา 10 ล้านบาทและ รถไฟทางคู่สายลพบุรี-ปากน้ำโพ ระยะทาง 148 กิโลเมตร วงเงินรวม 16,291 ล้านบาท โดยใช้งบประมาณปี 2558 จำนวน49 ล้านบาท แบ่งเป็นงบเวนคืน 39 ล้านบาท และงบจัดประกวดราคาพร้อมจ้างที่ปรึกษา 10 ล้านบาท

โครงการของกรมทางหลวง(ทล.) 3โครงการ ประกอบด้วย โครงการก่อสร้างทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (มอเตอร์เวย์) สายชลบุรี-พัทยา-มาบตาพุด ระยะทาง 89 กิโลเมตร วงเงิน 22,850 ล้านบาท แบ่งเป็น ค่าก่อสร้าง 14,200ล้านบาท ค่าจัดกรรมสิทธิ์ที่ดิน 2,500 ล้านบาท โดยจะได้รับงบประมาณปี 2558 เพื่อเริ่มงานเวนคืนก่อน 1,440 ล้านบาท ซึ่งมอเตอร์เวย์สายทางนี้ถือว่ามีความพร้อมสุด เนื่องจากกรมทางหลวงมีแผนใช้เงินจากกองทุนมอเตอร์เวย์ที่มีอยู่กว่า 10,000ล้านบาทมาดำเนินการก่อสร้าง จึงไม่ต้องหาแหล่งเงินลงทุนเพิ่ม

โครงการก่อสร้างทาง 4 ช่องจราจร ทางหลวงหมายเลข 304 ตอน อ.กบินทร์บุรี-ปักธงชัย (ช่วง กม. 42+000- กม.57+000) วงเงินค่าก่อสร้าง 1,600 ล้านบาท แบ่งเป็นงบประมาณปี 2558 จำนวน 160 ล้านบาท ปี 2559 จำนวน 720 ล้านบาท และปี 2560 จำนวน 720 ล้านบาท ระยะเวลาก่อสร้าง 30 เดือน

โครงการก่อสร้างทางเชื่อมผืนป่ามรดกโลกบนทางหลวงหมายเลข 304 สายอ.กบินทร์บุรี–ปักธงชัย วงเงินก่อสร้าง 1,397.5 ล้านบาท แบ่งเป็นงบประมาณปี 2558 จำนวน 139.75 ล้านบาท ปี 2559 628.85 ล้านบาท ปี 2560 จำนวน 628.85 ล้านบาท ซึ่งทั้ง 2โครงการดังกล่าว กรมทางหลวงคาดว่าหากผ่านการพิจารณา EIA แล้ว จะสามารถประกวดราคาเสร็จสิ้นภายใน เดือนกันยายน-พฤศจิกายน 2558 ลงนามว่าจ้างในเดือนธันวาคม 2558 เริ่มก่อสร้างต้นปี 2559

โครงการป้องกันการกัดเซาะชายฝั่งบริเวณตำบลเกาะเปริด อ.แหลมสิงห์ ถึง ต.บางชัน อ.ขลุง จ.จันทบุรี ของกรมเจ้าท่า ระยะทาง 15 กิโลเมตร วงเงิน 500 ล้านบาท ระยะเวลาก่อสร้าง 2 ปี ซึ่งเบื้องต้นกรมเจ้าท่าระบุว่าอาจต้องมีการปรับขึ้นราคา เพราะเป็นราคาที่กำหนดไว้ 3-4 ปีแล้ว

สำหรับโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ สายประจวบคีรีขันธ์-ชุมพร ระยะทาง 167 กิโลเมตร วงเงิน 17,803 ล้านบาท ของร.ฟ.ท.นั้นคาดว่าจะเสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการ สผ.ครั้งต่อไปในเดือนสิงหาคมนี้ได้
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42735
Location: NECTEC

PostPosted: 23/07/2014 7:43 pm    Post subject: Reply with quote

Mongwin wrote:
"ธีระชัย" ติงรื้อรางรถไฟเป็น 1.43 เมตร อาจไม่คุ้ม
ฐานเศรษฐกิจ วันพุธที่ 23 กรกฏาคม 2014 เวลา 10:16 น.


เวอร์ชัน ASTV ดูที่นี่
อดีตขุนคลังติง คสช.เปลี่ยนรางรถไฟเป็น 1.43 ม.ไม่เวิร์ก
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 23 กรกฎาคม 2557 11:36 น.
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44608
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 23/07/2014 10:26 pm    Post subject: Reply with quote

ทางคู่ลพบุรี-ปากน้ำโพนี้ สิ่งที่น่าสนใจคือ จะต้องสร้างทางเลี่ยงเมืองด้วยครับ
Arrow http://www.railway.co.th/resultproject/5dbtrack/

Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
milkonline
2nd Class Pass (Air)
2nd Class Pass (Air)


Joined: 02/07/2009
Posts: 810
Location: อ.เมือง จ.ลพบุรี

PostPosted: 24/07/2014 9:39 am    Post subject: Reply with quote

แนวทางอันนี้ เหมือนจะใช้ตามแผนเดิมนะครับ ออกไปทางท่าวุ้ง ที่เป็นพื้นที่โล่งกว้างทุ่งนา

เคยมีการคัดค้านด้วย สมัยที่โครงการดำเนินการในสมัยรัฐบาลพรรคการเมืองสีฟ้าๆครับ
_________________
N-Scale model train lovers.
Back to top
View user's profile Send private message
Display posts from previous:   
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับรถไฟไทย All times are GMT + 7 Hours
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 84, 85, 86 ... 389, 390, 391  Next
Page 85 of 391

 

Share |

Jump to:  
You cannot post new topics in this forum
You cannot reply to topics in this forum
You cannot edit your posts in this forum
You cannot delete your posts in this forum
You cannot vote in polls in this forum

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group


Forums ©