ข่าวรถไฟฟ้าสายสีแดงเข้ม(บางซื่อ-รังสิต และ บางซื่อ-หัวลำโพง)

[ksomchai]

ขอบคุณพี่หนุ่มนครลำปางมาก ครับที่นำภาพความคืบหน้ามาให้ชม เห็นเสาตอม่อโฮปเวลล์ ด้านขวามือ ยังไม่มีอะไรคืบหน้า

ไม่ทราบว่าจะมีการรื้อถอนออกหรือเปล่า เพราะอยู่นอกแนวเส้นทาง
_________________

[Nakhonlampang]

ตอม่อโฮปเวลล์ที่อยู่ฝั่งตะวันออกของทางรถไฟช่วงตั้งแต่วัดเสมียนนารีจนถึงดอนเมืองคงเก็บไว้หลังสุดนะครับ เพราะอยู่นอกพื้นที่ก่อสร้าง คิดว่ายังไงแล้วก็ต้องมีการทุบทิ้งในคราวนี้แหละ คงไม่เก็บไว้ แต่ส่วนที่อยู่เหนือโค้ง สน.ดอนเมืองขึ้นไปนั้นทุบหมดแล้ว เพราะต้องใช้พื้นที่ในการก่อสร้าง และที่อยู่ใต้วัดเสมียนนารีลงมานั้นก็รื้อในส่วนที่อยู่เหนือพื้นดินเกือบหมดแล้ว

สำหรับส่วนที่อยู่ฝั่งตะวันตกของทางรถไฟนั้น วันก่อนยังมีเหลือแถวๆ กม.11 เห็นกำลังรื้อออกอยู่ ไม่รู้ว่าวันนี้หมดหรือยัง แต่ก็ยังเหลือการทำลายส่วนฐานเสาที่อยู่ใต้ดินอีกหลายจุดอยู่ครับ

อีกส่วนที่ยังไม่หมดก็คือคานส่วนที่พาดคร่อมทางรถไฟ ที่จริงก็เหลือไม่มากแล้วครับ เห็นตรงสถานีบางเขนมีอยู่ 10 ชุด กับส่วนที่อยู่ใต้วัดเสมียนนารีลงไปน่าจะมีอีกนิดหน่อยครับ

[Mongwin]

น่าจะเหลือไว้สัก 1 แห่งนะครับ ตอม่อของโฮปเวลล์ เอาไว้ให้อนุชนรุ่นหลังไว้ศึกษา
(พูดจริงจังครับ ไม่ได้ประชด )
ทำคล้าย ๆ พิพิธภัณฑ์กลางแจ้งถาวร ตามสะพานใหญ่ ๆ หลาย ๆ แห่งของญี่ปุ่น ผมเห็นเขาเอาลวดสลิง เอาภาคตัดขวางของตอม่อ ฯลฯ มาตั้งโชว์ให้ดูครับ เด็ก ๆ ชอบมาก

ภาพที่พี่หนุ่มนำมาให้ชม หลายคนดูแล้วก็ถกเถียง อภิปรายกันเยอะครับ ว่าที่วาง segment คู่กันนี้ เฉพาะเขตสถานีที่มีทางหลีกเพิ่มเติมหรือเปล่า ที่อื่นจะวาง segment เดี่ยว (แฝด) ไหม (อ้างอิงจากโครงการอื่น เช่น สายสีม่วง บางซื่อ-บางใหญ่ ที่วาง segment คู่เฉพาะตอนใกล้ถึงสถานี)

ภาพวาดแบบโครงการก็ยังเป็นแบบเดิมอยู่ น่าจะนำแบบใหม่มาขึ้นเว็บบ้างนะครับ เป็นการสร้างความรู้ความเข้าใจ เด็ก ๆ รุ่นใหม่จะได้มีแรงบันดาลใจศึกษาเรียนรู้วิศวกรรมกันมากขึ้น รวมทั้งผู้ใหญ่รุ่นเก่าแบบพวกเราด้วย

[Nakhonlampang]

จุดที่มีการติดตั้งทางวิ่งที่ผมถ่ายรูปมานี้เป็นช่วงทางวิ่งปกติครับ ไม่ใช่บริเวณสถานี และเป็นช่วงที่อยู่ระหว่างสถานีทุ่งสองห้องกับสถานีหลักสี่ ซึ่งเป็นสถานีสำหรับรถไฟชานเมืองเท่านั้น ไม่มีทางหลีกเพิ่มเติมแต่อย่างใดทั้งสองสถานี

ถ้าดูภาพที่ผมถ่ายจากสะพานลอยหน้าสถานีตำรวจนครบาลทุ่งสองห้อง ซึ่งสามารถมองเห็นด้านบนของคาน จะเห็นมีเหล็กโผล่ขึ้นมาสั้นๆ 4 จุด ต่อคาน 1 อัน ซึ่งจะเป็นส่วนที่ใช้สร้างฐานรองรับ segment box จำนวน 2 แถวเช่นกัน ซึ่งบริเวณนี้ก็เป็นทางวิ่งปกติเช่นกันครับ

[Mongwin]

ขอบคุณมากครับพี่หนุ่ม ที่ช่วยอธิบายอย่างชัดเจน

ผมติดตามดูเว็บทางการของโครงการ
http://www.bangsue-rangsitredline.com/

ไม่ค่อยอัพเดทเลยครับ ข้อมูลล่าสุดยังแค่ พ.ค. 57
และที่สำคัญคือ ยังไม่มีรูปแบบ segment สำหรับ 4 ทางให้ดูเลย

[Wisarut]

สปริงนิวส์เล่าข่าวรถไฟฟ้าสายแดง
http://www.youtube.com/watch?feature=player_embedded&v=tvOvrDhImZQ

เอ็มเอชฯประมูลสายแดงแพงเว่อร์

30 กรกฎาคม 2557


นายภากรณ์ ตั้งเจตสกาว รองผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เปิดเผยว่า เมื่อ วันที่ 29 กรกฎาคม ร.ฟ.ท.ได้เปิดซองประกวดราคาโครงการก่อสร้างรถไฟชานเมืองสายสีแดง สัญญาที่ 3 งานระบบไฟฟ้าและเครื่องกล รวมตู้รถไฟฟ้า ช่วงบางซื่อ-รังสิต และช่วงบางซื่อ-ตลิ่งชัน โดยผลการเปิดซองบริษัทที่ผ่านคุณสมบัติเพียงรายเดียว คือ กิจการร่วมค้าเอ็มเอชเอสซี ประกอบด้วยบริษัท มิตซูบิชิ เฮฟวี่อินดัสเทรียล จำกัด บริษัท ฮิตาชิ และบริษัท ซูมิโตโม คอร์ปอเรชั่น โดยเสนอราคารวม 49,600 ล้านบาท

ทั้งนี้ ราคาที่เอกชนเสนอสูงกว่าราคาประเมินที่ได้มีการศึกษาไว้ที่มูลค่า 28,899 ล้านบาท โดยหลังจากนี้ฝ่ายบริหารงานก่อสร้างของ ร.ฟ.ท.จะลงไปตรวจสอบรายละเอียดของราคางานเป็นรายกรณี เพื่อพิจารณาว่าราคาที่เอกชนเสนอเข้ามามีความเหมาะสมหรือไม่ หากราคาที่เสนอสูงเกินไป ร.ฟ.ท.ก็สามารถยกเลิกการประกวดราคาครั้งนี้

นายภากรณ์กล่าวว่า การตรวจสอบราคาจะใช้เวลาประมาณ 1 เดือน และเมื่อตรวจสอบแล้ว หากราคาดังกล่าวเหมาะสมแล้วจะเสนอให้คณะกรรมการ (บอร์ด) ร.ฟ.ท.พิจารณาอนุมัติ พร้อมรายงานให้องค์การความร่วมมือระหว่างประเทศแห่งประเทศญี่ปุ่น (ไจก้า) พิจารณา หากไจก้าอนุมัติจะนำเข้าสู่บอร์ด ร.ฟ.ท.ก่อนเสนอกระทรวงคมนาคม และคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) พิจารณาต่อไป โดยขั้นตอนทั้งหมดจะใช้เวลาดำเนินการประมาณ 6 เดือน

"ราคาที่กิจการร่วมค้าเอ็มเอชเอสซีเสนอมาจะต้องรายงานให้ คสช.รับทราบความคืบหน้า พร้อมรายงานบอร์ด ร.ฟ.ท.ด้วย ส่วนความคืบหน้าช่วงบางซื่อ-รังสิต พบว่างานก่อสร้างล่าช้ากว่าแผน 10% ยอมรับว่าความล่าช้าของสัญญา 3 จะทำให้งานก่อสร้างล่าช้าไปอีก เนื่องจากตามแผนงานเดิมการประมูลหาผู้ก่อสร้างสัญญาที่ 3 จะต้องได้เอกชนผู้ดำเนินงานไม่เกิน 9-10 เดือน หลังจากการประกวดราคาสัญญา 1-2 เพื่อให้เปิดบริการปี 2560 แต่คงล่าช้าไปถึงปี 2561" นายภากรณ์กล่าว

รายงานข่าวแจ้งว่า ในการพิจารณาคุณสมบัติของผู้เข้าประกวดราคาก่อนหน้านี้มีปัญหาผู้ยื่นเสนอราคา 2 กลุ่ม มีกรรมการอิสระซ้อนกัน จึงเกรงว่าจะเข้าข่ายฮั้วประมูล จึงต้องส่งหนังสือสอบถามไปยัง ไจก้า ต่อมา ไจก้ายืนยันว่าไม่เข้าข่ายการฮั้วประมูล ทาง ร.ฟ.ท.จึงได้เปิดให้ประกวดราคา โดยสัญญา 3 จะรวมการพัฒนาระบบช่วงบางซื่อ-ตลิ่งชัน ที่ก่อสร้างแล้วเสร็จตั้งแต่กลางปี 2555 แต่ยังไม่สามารถเดินรถได้ เพราะต้องรองานระบบไฟฟ้า เครื่องกล และตู้รถไฟฟ้า พร้อมช่วงบางซื่อ-รังสิต

[Wisarut]

ร.ฟ.ท.เริ่มงานก่อสร้างหัวลำโพงแห่งใหม่
โพสต์ทูเดย์
6 สิงหาคม 2557 เวลา 12:15 น.
ร.ฟ.ท.ปรับปรุงพื้นที่สถานีรถไฟบางซื่อเป็นหัวลำโพง2ส่วนหัวโพงเดิมจะแปรสภาพเป็นพิพิธภัณฑ์ ร.ฟ.ท.

ร.ฟ.ท. เตรียมย้ายสถานีรถไฟหัวลำโพงไปสถานีบางซื่อ ก่อนปรับปรุงครั้งใหญ่เพื่อทำเป็นพิพิธภัณฑ์และให้บริการอีกเพียง 4-5 ปี การย้ายสถานีรถไฟจากหัวลำโพง(เดิม)ไปสถานีรถไฟบางซื่อ จะสามารถเชื่อมโยงโครงข่ายการคมนาคมได้ครบวงจรทั้งระบบรถไฟฟ้าใต้ดิน รถไฟฟ้าบีทีเอส โครงข่ายรถไฟชานเมืองสายสีแดง ช่วงบางซื่อ-รังสิต ที่เริ่มก่อสร้างสถานีบางซื่อ เพื่อให้เชื่อมโยงกับสายสีแดง ช่วงบางซื่อ-ตลิ่งชันแล้ว นอกจากนี้จะจัดสรรพื้นที่บางส่วนสำหรับที่ตั้งสำนักงานใหญ่การรถไฟฯและกระทรวงคมนาคมแห่งใหม่ แทนสถานที่ปัจจุบันที่คับแคบและแออัด

[Mongwin]

คค. สั่ง ร.ฟ.ท. แจงงบรถไฟฟ้าสายสีแดง
INN News ข่าวเศรษฐกิจ วันพฤหัสบดีที่ 21 สิงหาคม พ.ศ.2557 7:57น.

คมนาคม สั่ง ร.ฟ.ท. ชี้แจง งบก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีแดง ช่วงบางซื่อ-รังสิต ก่อนเสนอ คสช. สิ้นเดือนนี้

นางสร้อยทิพย์ ไตรสุทธิ์ ปลัดกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้สั่งให้การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) กลับไปทำรายละเอียดเกี่ยวกับการจัดสรรวงเงินงบประมาณเพิ่มในการก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีแดง ช่วงบางซื่อ-รังสิต ซึ่งการรถไฟฯ ได้เสนอขอเพิ่มวงเงินจำนวนประมาณ 8,000 ล้านบาท ในการพัฒนาเพิ่มโครงสร้างรางและส่วนอื่นๆ แต่ไม่ได้ระบุรายละเอียดว่า จะมีการพัฒนาส่วนใด และต้องใช้เงินค่าก่อสร้างเพิ่มเท่าใด ดังนั้น การรถไฟฯ จึงต้องกลับไปทำรายละเอียดมานำเสนอใหม่ทั้งหมด ก่อนจะเสนอให้ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ พิจารณาภายในเดือน ส.ค.นี้

อย่างไรก็ตาม นางสร้อยทิพย์ กล่าวอีกว่า ในการปรับเพิ่มกรอบวงเงินดังกล่าว เป็นการปรับในส่วนของสถานีกลางบางซื่อ เพื่อรองรับระบบรถไฟฟ้าในอนาคต โดยตัวสถานีกลางบางซื่อ ในแบบเดิมมีทางวิ่งเพียง 3 ทางวิ่ง แต่ในอนาคตต้องเพิ่มอีก 1 ทางวิ่ง เพื่อรองรับรถไฟความเร็วสูงในอนาคต และไม่ต้องรอการสับหลีกขบวน

[Wisarut]

“ประจิน”ดอดตรวจสถานีกลางบางซื่อ ก่อนชงครม.เพิ่มค่างานหลังปรับแบบ


โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 3 กันยายน 2557 22:01 น.


“ประจิน” ตรวจสถานีกลางบางซื่อ ก่อนชงครม.ปรับแบบ เพิ่มค่าก่อสร้างอีกกว่า 8 พันล้าน ด้านร.ฟ.ท.เรียกกลุ่ม MHSC เจรจาต่อรองราคารถไฟสีแดง บางซื่อ-รังสิต สัญญา 3 (งานระบบและรถไฟฟ้า) เอกชนขอ 7 วันไปหารือแนวทางปรับลดราคา

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าวันนี้ (3 ก.ย.) พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมได้เดินทางไปตรวจพื้นที่ย่านสถานีกลางบางซื่อเป็นการส่วนตัว โดยมีนายทนงศักดิ์ พงษ์ประเสริฐ ผู้อำนวยการฝ่ายการเดินรถ การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) นำเยี่ยมชม เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวอยู่ในงานก่อสร้างรถไฟชานเมืองสายสีแดง ช่วงบางซื่อ-รังสิต ซึ่งต้องมีการปรับแบบสถานีกลางบางซื่อ เพื่อรองรับระบบรางอื่นๆในอนาคต ซึ่งส่งผลให้ค่าก่อสร้างเพิ่มขึ้นอีกประมาณ 8,140 ล้านบาท โดยขณะนี้อยู่ระหว่างรอรมว.คมนาคมพิจารณาลงนามเพื่อนำเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อพิจารณาอนุมัติเท่านั้น

ด้านนายภากรณ์ ตั้งเจตสกาว รองผู้ว่าฯ ร.ฟ.ท. ในฐานะประธานคณะกรรมการประกวดราคาโครงการก่อสร้างรถไฟชานเมืองสายสีแดง ช่วงบางซื่อ-รังสิต สัญญาที่ 3 งานระบบไฟฟ้าและเครื่องกล รวมตู้รถไฟฟ้าบางซื่อ-รังสิต และบางซื่อ-ตลิ่งชัน มูลค่า 27,926 ล้านบาท กล่าวว่า วันนี้ (3 ก.ย.) ได้เชิญกลุ่มกิจการร่วมค้า MHSC Consortium (บริษัท MITSUBISHI Heavy Industrial Ltd บริษัท Hitachi และ บริษัท Sumitomo Corporation) มาเจรจารอบแรก หลังเปิดข้อเสนอราคาเมื่อวันที่ 29 กรกฎาคมที่ผ่านมา โดยกลุ่ม MHSC เสนอมาสูงกว่าราคากลาง อยู่ที่ 49,000 ล้านบาท

ทั้งนี้ ในการเจรจาเบื้องต้นยังไม่มีการต่อรองเพื่อปรับลดราคา แต่ ร.ฟ.ท.ได้แจ้งให้กลุ่ม MHSC รับทราบ ว่าราคาที่เสนอมานั้น สูงกว่าราคากลางที่ ร.ฟ.ท.ตั้งไว้อย่างมาก ขณะที่องค์การความร่วมมือระหว่างประเทศแห่งประเทศญี่ปุ่น (JICA) ได้เห็นชอบให้ ร.ฟ.ท.สามารถเจรจาปรับลดมูลค่างานแต่ละรายการลงได้ ซึ่งกลุ่ม MHSC ขอเวลา 7 วัน เพื่อนำเรื่องดังกล่าวไปหารือที่สำนักงานกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น นอกจากนี้ ร.ฟ.ท.และกลุ่ม MHSC ได้ส่งตัวแทนมาร่วมเป็นคณะ ทำงานเพื่อประสานงานระหว่างกัน ไม่ให้เกิดความล่าช้า ก่อนส่งเรื่องเข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมการประกวดราคาโครงการฯ

นอกจากนี้ ร.ฟ.ท.ยังแจ้งให้กลุ่ม MHSC รับทราบแนวทางด้วยว่า หากไม่สามารถเจรจาปรับลดราคา ลงมาได้ตามกรอบที่ ร.ฟ.ท.ต้องการ ก็คงต้องตัดสินใจเปิดประกวดราคาใหม่ แม้จะไม่อยากใช้ทางเลือกนี้ก็ตาม ซึ่งกลุ่ม MHSC ระบุว่าเข้าใจ และพร้อมที่จะให้ความร่วมมือกับ ร.ฟ.ท.ในการปรับราคาให้เหมาะสม

//-----------------------------

ร.ฟ.ท.คาดต่อรองเอกชน ลดราคาสายสีแดงหมื่นล.


โดย ASTVผู้จัดการรายวัน 4 กันยายน 2557 00:24 น.


ASTVผู้จัดการรายวัน -ร.ฟ.ท.เทียบเชิญเอกชนต่อรองราคารถไฟสายสีแดง สัญญา 3 วันนี้ ประธานกรรมการ เผยเบื้องต้นสามารถลดได้อีก 10,000 ล้านบาทแน่นอน พร้อมตั้งเป้าดั๊มวงเงินรวมให้อยู่ในกรอบ 30,000 ล้านบาท คาด 1 เดือนได้ข้อยุติ

นายภากรณ์ ตั้งเจตน์สกาว รองผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ในฐานะประธานคณะกรรมการประกวดรา คาโครงการก่อสร้างรถไฟชานเมืองสายสีแดง ช่วงบางซื่อ-รังสิต เปิดเผยถึงความคืบหน้าการประกวดราคาสัญญาที่ 3 งานระบบไฟฟ้าและเครื่องกล รวมตู้รถไฟฟ้าบางซื่อ-รังสิต และบางซื่อ-ตลิ่งชัน มูลค่า 27,926 ล้านบาทว่า ล่าสุดเมื่อวันที่ 29 สิงหาคมที่ผ่านมา องค์การความร่วมมือระหว่างประเทศแห่งประเทศญี่ปุ่น (JICA) ได้ส่งหนังสือตอบกลับมายัง ร.ฟ.ท.แล้วว่ารับทราบการเปิดข้อเสนอราคาของกลุ่มกิจการร่วมค้า MHSC Consortium (บริษัท MITSUBISHI Heavy Industrial Ltd บริษัท Hitachi และ บริษัทSumitomo Corporation) ที่เสนอราคามา 49,000 ล้านบาท

อย่างไรก็ตามในวันนี้ (3 ก.ย.) คณะกรรมการประกวดราคาได้เชิญกลุ่มกิจการร่วมค้า MHSC มาเจรจาเพื่อพิจารณาต่อรองราคาแบบรายการ เพื่อไม่ให้ขัดกับระเบียบของ JICA ที่ห้ามต่อรองราคาแบบวงเงินรวมทั้งโครงการ ซึ่งจากการตรวจ สอบเบื้องต้นพบว่ามี 2 รายการที่จะสามารถปรับลดลงได้แน่นอนรวมประมาณ 10,000 ล้านบาท โดยรายการแรกคือ ภาษีนำ เข้า ที่กลุ่มกิจการร่วมค้า MHSC คิดรวมมาในวงเงินค่าจ้างด้วยทั้งที่การกู้เงินจาก JICA จะได้รับการยกเว้นภาษีดังกล่าวอยู่ แล้ว ดังนั้นรายการนี้จะถูกตัดออกไปแน่นอนประมาณ 5,000 ล้านบาท

ส่วนรายการที่ 2 คือ ระบบอาณัติสัญญาณที่ ร.ฟ.ท.เห็นว่าเอกชนตั้งราคาไว้สูงมาก เนื่องจากสายสีแดงมีสเปกที่แตกต่างจากระบบรางทั่วโลก คือต้องเป็นระบบที่สามารถรองรับ และเชื่อมต่อการเดินทางได้ทั้งรถไฟฟ้าและรถไฟธรรมดา เพราะสถานีกลางบางซื่อต้องรองรับการเดินทางแบบ 2 ระบบ ซึ่งเข้าใจว่าเอกชนอาจไม่เคยเจอกับเงื่อนไขลักษณะนี้จึงต้องใช้ระบบที่มีความเสถียรสูงสุดและมีความปลอดภัยแบบสูงสุดไว้ก่อนโดยเสนอราคามาเกือบ 8,000 ล้านบาท ขณะที่ ร.ฟ.ท. คำนวณราคาไว้ที่ 3,000 ล้านบาทเท่านั้น จึงเป็นไปได้ว่ารายการนี้จะสามารถปรับลดลงได้อีก 5,000 ล้านบาท

“ตอนนี้มี 2 รายการหลักๆที่เราเชื่อว่าราคาจะปรับลดลงได้แน่นอน คือ ตัวภาษีนำเข้า ที่การกู้จาก JICA มีข้อ กำหนดว่าจะได้รับการยกเว้นภาษีตัวนี้ แต่เอกชนอาจไม่รู้เขาจึงคิดภาษีบวกเข้ามาในมูลค่างานด้วย ซึ่งรายภาษีจะลดลงได้แน่นอน 5,000 ล้านบาท ส่วนอีกรายการคือระบบอาณัติสัญญาณที่เขาตั้งราคามาสูงมาก เพราะสเปกของเราคือต้องใช้ได้ทั้งรถไฟฟ้าและรถไฟธรรมดา ยอมรับว่าทั่วโลกไม่มีใครทำแบบนี้ เขาเองก็ไม่เคยเจอ จึงต้องใช้ระบบสูงที่สุด ดีที่สุด แพงที่สุดไว้ก่อน เพื่อความเสถียร แต่เรามองว่าคงไม่ต้องใช้ถึงขนาดนั้น ก็น่าจะลดลงได้อีก 5,000 ล้านบาท” นายภากรณ์ กล่าว

ขณะนี้คณะกรรมการประกวดราคาฯยังตั้งเป้าว่าจะสามารถเจรจาให้กลุ่มกิจการร่วมค้าMHSC ลดราคาลงมาได้ตามที่ ร.ฟ.ท.ต้องการ ซึ่งเบื้องต้นมีความเป็นไปได้ว่า ร.ฟ.ท.อาจยอมปรับราคาขึ้นอีกเล็กน้อยจากวงเงิน 27,926 ล้านบาท เป็นไม่เกิน 30,000 ล้านบาท แต่รวมสายสีแดงทั้ง 3 สัญญาแล้วจะไม่เกินกรอบวงเงินที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) เคยอนุมัติไว้ และหากเอกชนยอมลดราคาให้อยู่ในกรอบดังกล่าว ก็ถือว่าได้ข้อยุติ แต่หากเอกชนไม่ยินยอมก็อาจต้องเปิดประกวดราคาใหม่ ซึ่งยอมรับว่าจะมีความยุ่งยากมากขึ้น โดยคาดว่าการต่อรองราคาจะได้ข้อสรุปภายใน 1 เดือนจากนี้

“เบื้องต้นตั้งเป้าว่าจะเจรจาลดลงมาให้อยู่ในกรอบ 30,000 ล้านบาท คือยอมเพิ่มจากวงเงินเดิมอีกเล็กน้อย แต่ไม่เกินกรอบที่ครม.เคยอนุมัติไว้แน่นอน หากเอกชนยอมเราก็เดินหน้าต่อ แต่ถ้าไม่ยอมคงต้องมาดูเรื่องเปิดประมูลใหม่ ซึ่งเราก็ไม่อยากใช้วิธีนี้เพราะโครงการล่าช้ามา 4-5 ปีแล้ว ถ้าประมูลใหม่ราคาก็จะเพิ่มขึ้น และเรื่องที่ยากที่สุดคือต้องไปคุยกับ JICA ให้เขายินยอม” นายภากรณ์ กล่าว

[Mongwin]

รถไฟฟ้าสายสีแดงหนุนอสังหาฯ โซนพหลโยธิน-คลองหลวงรุ่ง
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 8 กันยายน 2557 14:33 น.

ทำเลคลองหลวง ตั้งแต่คลอง 1-4 ยังแรงไม่ตก ทั้งแหล่งงาน สถาบันการศึกษา และมีหอพักจำนวนมาก ส่งผลโครงการอสังหาริมทรัพย์ทุกประเภทเกิดขึ้น ชี้หากการก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีแดง บางซื่อ-รังสิต แล้วเสร็จ จะผลักดันโครงการอสังหาฯ เชิงพาณิชย์ตามแนวถนนพหลโยธินได้อีก

อำเภอคลองหลวง เป็นพื้นที่ซึ่งเริ่มมีแนวโน้มการเติบโตของที่อยู่อาศัยมากขึ้น โดยเฉพาะบริเวณถนนพหลโยธินและถนนคลองหลวง (ทางหลวง 3214) ช่วงคลอง 1-4 ซึ่งแยกออกจากถนนพหลโยธิน มีที่อยู่อาศัยบริเวณนี้หลายโครงการ เนื่องจากสามารถเดินทางได้สะดวก โดยมีถนนกาญจนาภิเษก (ช่วงคลอง 4) ที่สามารถเชื่อมต่อไปยังพื้นที่อื่นๆ อีกทั้งยังมีสถานศึกษาที่มีชื่อเสียง เช่น มหาวิทยาลัยกรุงเทพ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และสถานพยาบาลขนาดใหญ่ เช่น โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ รวมทั้งยังมีตลาดไทซึ่งเป็นตลาดขายส่งขนาดใหญ่ที่สำคัญ

นายสัมมา คีตสิน ผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ เปิดเผยว่า ถนนพหลโยธินตั้งแต่ตำบลคลองหนึ่ง อำเภอคลองหลวง ไปจนถึงถนนคลองหลวง (คลอง 1-4) นอกจากจะมีหอพักจำนวนมากรองรับนักศึกษาของสถาบันอุดมศึกษาที่อยู่ใกล้เคียงและหอพักสำหรับแรงงานและผู้ประกอบการในย่านตลาดไท โรงพยาบาล และนิคมอุตสาหกรรมแล้ว ยังมีโครงการที่อยู่อาศัยประเภทอาคารชุดและโครงการบ้านจัดสรร ได้แก่ บ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์เฮาส์/ทาวน์โฮม และอาคารพาณิชย์ ที่อยู่ระหว่างการขายทั้งสิ้น 34 โครงการ รวมหน่วยในผังประมาณ 11,300 หน่วย เป็นโครงการที่ก่อสร้างแล้วเสร็จ 9 โครงการ รวมหน่วยในผังประมาณ 2,900 หน่วย เป็นโครงการที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง 23 โครงการ รวมหน่วยในผังประมาณ 6,900 หน่วย ที่เหลือเป็นโครงการที่ยังไม่ได้เริ่มก่อสร้าง 2 โครงการ รวมหน่วยในผังประมาณ 1,500 หน่วย โดยคาดว่าจะสร้างแล้วเสร็จทุกโครงการภายในปี 2559

โครงการบ้านเดี่ยวและบ้านแฝด มีทั้งสิ้น 8 โครงการ ส่วนใหญ่เป็นโครงการซึ่งเปิดขายมาแล้วประมาณ 4-5 ปีและมีการเปิดเฟสใหม่เพิ่มเติม มีหน่วยในผังรวมทั้งหมดประมาณ 1,200 หน่วย เฉลี่ยประมาณ 150 หน่วยต่อโครงการ มียอดจองหรือขายแล้วร้อยละ 90 ของหน่วยในผังทั้งหมด ราคาตั้งแต่ 2.6-5 ล้านบาท ส่วนใหญ่จะเป็นของผู้ประกอบการในพื้นที่ซึ่งไม่ใช่บริษัทจดทะเบียน โดยมีส่วนแบ่งตลาดร้อยละ 95 ของหน่วยในผังทั้งหมด

โครงการทาวน์เฮาส์/ทาวน์โฮม มีทั้งสิ้น 10 โครงการ ส่วนใหญ่เป็นโครงการซึ่งเปิดขายมาแล้วประมาณ 4-5 ปีและมีการเปิดเฟสใหม่เพิ่มเติม มีหน่วยในผังรวมทั้งหมดประมาณ 5,800 หน่วย เฉลี่ยประมาณ 580 หน่วยต่อโครงการ และมียอดจองหรือขายแล้วร้อยละ 72 ของหน่วยในผังทั้งหมด ราคาเฉลี่ยประมาณ 1-2 ล้านบาท ผู้ประกอบการในพื้นที่ซึ่งไม่ใช่บริษัทจดทะเบียน มีส่วนแบ่งตลาดร้อยละ 70 ของหน่วยในผังทั้งหมด

โครงการอาคารพาณิชย์และโฮมออฟฟิศมีทั้งสิ้น 6 โครงการ ส่วนใหญ่เป็นโครงการใหม่ มีหน่วยในผังรวมทั้งหมดประมาณ 400 หน่วย เฉลี่ยประมาณ 70 หน่วยต่อโครงการ และมียอดจองหรือขายแล้วร้อยละ 54 ของหน่วยในผังรวมทั้งหมด ราคาเฉลี่ยประมาณ 4-11 ล้านบาท โดยผู้ประกอบการในพื้นที่ซึ่งไม่ใช่บริษัทจดทะเบียนมีส่วนแบ่งตลาดร้อยละ 88 ของหน่วยในผังทั้งหมด

สำหรับโครงการอาคารชุด มีทั้งสิ้น 10 โครงการ ส่วนใหญ่เป็นโครงการที่เปิดตัวในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา และเน้นตลาดนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์และมหาวิทยาลัยกรุงเทพ โดยมีหน่วยในผังรวมทั้งหมดประมาณ 3,900 หน่วย เฉลี่ยประมาณ 390 หน่วยต่อโครงการ และมียอดจองหรือขายแล้วร้อยละ 76 ของหน่วยในผังทั้งหมด โดยราคาขายอยู่ระหว่าง 22,000-60,000 บาทต่อตารางเมตร โดยโครงการที่ขายดีส่วนใหญ่เป็นของผู้ประกอบการที่เป็นบริษัทจดทะเบียน มีส่วนแบ่งตลาดร้อยละ 83 ของหน่วยในผังทั้งหมด

ราคาที่ดินประเมินราชการตามแนวถนนพหลโยธิน อำเภอคลองหลวง อยู่ที่ประมาณ 50,000-75,000 บาทต่อตารางวา และราคาประกาศขายอยู่ที่ 65,000-90,000 บาทต่อตารางวา และช่วงถนนคลองหลวง ราคาประเมินราชการอยู่ที่ 15,000-40,000 บาทต่อตารางวา และราคาประกาศขายอยู่ที่ 16,000-50,000 บาทต่อตารางวา บริเวณถนนไอยรา ใกล้วัดพระธรรมกาย ราคาประเมินราชการอยู่ที่ 6,500-8,000 บาทต่อตารางวา ราคาประกาศขายอยู่ที่ 10,000-20,000 บาทต่อตารางวา

โดยตลาดที่อยู่อาศัยบริเวณตั้งแต่ตำบลคลองหนึ่ง (รวมถนนพหลโยธิน) อำเภอคลองหลวง ไปจนถึงถนนคลองหลวง (คลอง 1-4) มีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง พื้นที่นี้ยังสามารถรองรับการเติบโตของที่อยู่อาศัยได้อีกมาก และหากการก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีแดง บางซื่อ-รังสิต แล้วเสร็จ จะทำให้การเดินทางคมนาคมสะดวก และจะเกิดโครงการอสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์ตามแนวถนนพหลโยธินได้อีก.