RailServe.Com

Main Menu

 
icon_home.gif Homepage
icon_community.gif Members Zone
· ข้อมูลส่วนตัว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ข่าวสารส่วนตัว
· บริการเว็บเมล์
· กระดานข่าว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก กระดานฝากข้อความ
· รถไฟไทยแกลลอรี่
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก รายนามสมาชิก
· แบบสำรวจ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก สมุดเยี่ยม
· เกี่ยวกับสมาชิก
favoritos.gif News & Stories
· เรื่องทั้งหมด
· เนื้อหาสาระ
· เรื่องสำหรับพิมพ์
· ยอดฮิตติดอันดับ
· ค้นหาข่าวสาร
· ค้นหากระทู้เก่า
nuke.gif Contents
· กำหนดเวลาเดินรถ
· ประเภทขบวนรถโดยสาร
· ข้อมูลเส้นทางรถไฟ
· แผนที่เส้นทางรถไฟ
· อัตราค่าโดยสาร
· คำนวณค่าโดยสารรถไฟ
· รูปแบบการให้บริการรถไฟ
· หมายเลขโทรศัพท์ที่สำคัญ
· ทริปท่องเที่ยวโดยรถไฟ
· ระบบติดตามขบวนรถ
som_downloads.gif Services
· Downloads
· GoogleSearch
· Hotels Booking
· FlashGames
· Wallpaper 1
· Wallpaper 2
· Wallpaper 3
· Wallpaper 4
icon_members.gif Information
· เกี่ยวกับเรา
· นโยบายความเป็นส่วนตัว
· แผนผังเว็บไซต์ฯ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ส่งข้อแนะนำติชม
· ติดต่อลงโฆษณา
· แนะนำและบอกต่อ
· สถิติทั้งหมด
· สำหรับผู้ดูแลระบบ
 

Sponsors

 

Ads Service

 

Visitors

 


มีผู้เข้าเยี่ยมชม
สมาชิก:311283
ทั่วไป:13264953
ทั้งหมด:13576236
คน ตั้งแต่
01-08-2004
 


Rotfaithai.Com :: View topic - ข่าวรถไฟฟ้าสีเขียวเข้ม(หมอชิต-สะพานใหม่) และเขียวอ่อน(แบริ่ง-ปากน้ำ)
 Forum FAQForum FAQ   SearchSearch   UsergroupsUsergroups   ProfileProfile   Log in to check your private messagesLog in to check your private messages   Log inLog in 

ข่าวรถไฟฟ้าสีเขียวเข้ม(หมอชิต-สะพานใหม่) และเขียวอ่อน(แบริ่ง-ปากน้ำ)
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 12, 13, 14 ... 100, 101, 102  Next
 
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> รถไฟฟ้า (BTS) และรถไฟฟ้าใต้ดิน (MRT)
View previous topic :: View next topic  
Author Message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44541
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 16/08/2014 7:30 am    Post subject: Reply with quote

รฟม. ลั่นเดินรถไฟฟ้าสายสีเขียวใต้ ปลายปี 60 - ร่วมทุนผุดอสังหาฯ
วันที่ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2557 เวลา 22:10 น. ข่าวสดออนไลน์

ข่าวสด : (15 ส.ค.) นายยงสิทธิ์ โรจน์ศรีกุล ผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย(รฟม.) เปิดเผยภายหลังพาสื่อมวลชนตรวจเยี่ยมงานก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีเขียว(ใต้) ช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ ระยะทาง12.6 กิโลเมตร ว่า สัญญาที่1งานโยธา และสัญญาที่2งานระบบรางมีความก้าวหน้าภาพรวม 35.03% เร็วกว่าแผน 3.60% สำหรับการเดินรถอยู่ระหว่างพิจารณาว่าจะดำเนินการในรูปแบบใด ซึ่งขณะนี้มี 2 แนวทางคือเดินรถเอง หรือจ้างบีทีเอสเดินรถ ซึ่งมีข้อดีข้อเสียที่แตกต่าง ซึ่งจะต้องพิจารรณาอย่างละเอียดรอบคอบ คาดว่าจะได้ข้อสรุปที่ชัดเจนภายในกลางปีนี้

“รถไฟฟ้าสายสีเขียว(ใต้)คาดว่าจะเปิดให้บริการได้ปลายปี 2560 หรือต้นปี2561 และในอนาคตจะมีแผนที่สร้างส่วนต่อขยายจากสมุทรปราการไปยังบางปู เพิ่มอีก 9 กิโลเมตร ซึ่งก่อนหน้านี้ได้มีการศึกษาออกแบบ และผ่านรายงานวิเคราะห์ผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม(อีไอเอ)แล้ว แต่อาจจะต้องทบทวนตัวเลขงบประมาณการก่อสร้างอีกครั้งให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน ส่วนสายสีเขียว(เหนือ)ช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต วงเงินค่าก่อสร้างงานโยธา 26,569 ล้านบาทนั้น ในการประชุมบอร์ด วันที่ 19ส.ค. นี้ จะเสนอ ให้บอร์ด พิจารณาอนุมัติ เพื่อให้มีการเปิดประมูลโดยเร็ว” นายยงสิทธิ์กล่าว

นายยงสิทธิ์ กล่าวว่า ขณะนี้รฟม.เตรียมที่จะพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์บริเวณแนวรถไฟฟ้าจำนวน 4 แห่ง คือ
1. บางปิ้ง จ.สมุทรปราการ ตาม แนวรถไฟฟ้าสายสีเขียว ใต้เป็นโครงการนำร่อง โดยจะร่วมลงทุนกับการเคหะแห่งชาติ วงเงินประมาณ1 หมื่นล้านบาท จัดสร้างอาคารจำนวน 5 อาคาร แบ่งออกเป็นอาคารสำนักงานให้เช่า และที่อยู่อาศัยราคาถูกให้ผู้มีรายได้น้อยเช่าอยู่อาศัยในระยะยาว คาดว่าจะเปิดให้บริการได้พร้อมรถไฟฟ้าสายสีเขียวในปลายปี 2560 เชื่อว่าโครงการที่พักอาศัยจะช่วยเพิ่มยอดผู้โดยสารให้รถไฟฟ้าสายสีเขียวใต้ประมาณ 2 หมื่นคนต่อวัน

2. ต.บางไผ่ อ.บางบัวทอง แนวรถไฟฟ้าสายสีม่วง บางซื่อ-บางใหญ่ จะสร้างอาคารสำนักงานและที่อยู่อาศัยราคาถูกให้เช่าเช่นกัน

3. ย่านห้วงขวางบนพื้นที่ประมาณ 1000 ไร่ ตามแนวรถไฟฟ้าใต้ดินเดิม และสายสีส้มตลิ่งชัน-ศูนย์ธรรม-มีนบุรี และ4.อ.มีนบุรี ตามแนวรถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย-มีนบุรี

นอกจากนี้เตรียมเสนอ ครม.ตั้งหน่วยธุรกิจขึ้นมารองรับการพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์ตามแนวรถไฟฟ้า และรองรับธุรกิจของ รฟม.ใน 5 ด้าน คือ ด้านการเดินรถ ด้านโฆษณา อสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจให้เช่าเชิงพาณิชย์ และตั๋วโดยสาร
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42709
Location: NECTEC

PostPosted: 16/08/2014 11:21 pm    Post subject: Reply with quote

Mongwin wrote:
รฟม. ลั่นเดินรถไฟฟ้าสายสีเขียวใต้ ปลายปี 60 - ร่วมทุนผุดอสังหาฯ
วันที่ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2557 เวลา 22:10 น. ข่าวสดออนไลน์



ไทยพีบีเอสก็พูดถึงเรื่องรถไฟฟ้าสายเขียวจากแบริ่งไปสมุทรปราการซ

อีก 3 ปี ชาวปากน้ำได้ใช้รถไฟฟ้า
Thai PBS - Voice TV
15 สิงหาคม 2557 เวลา 17:39 น.

การก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีเขียว แบริ่ง สมุทรปราการ คืบหน้าไปแล้วกว่า 30% คาด เปิดใช้ได้ในปลายปี 2560 ซึ่งรถไฟฟ้าสายนี้ จะช่วยเชื่อมต่อคนเมือง สู่สถานที่ท่องเที่ยวย่านสมุทรปราการได้ง่ายขึ้น

การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย หรือ รฟม. ติดตามความคืบหน้าการก่อสร้างสถานีรถไฟฟ้าสายสีเขียวใต้ ช่วงแบริ่ง สมุทรปราการ โดยการก่อสร้างมีความคืบหน้าแล้ว 35.03% เร็วกว่าแผนที่กำหนดไว้ 3.60%

การก่อสร้างแบ่งออกเป็น 2 สัญญา โดยสัญญาที่ 1 งานโยธา หรืองานโครงสร้างอาคารต่างๆ คืบหน้า 34.14% โดยเริ่มก่อสร้างเดือนมีนาคม 2555 จะแล้วเสร็จในวันที่ 7 มิถุนายน 2559 งบประมาณการก่อสร้าง 14,088.6 ล้านบาท

ส่วนสัญญาที่ 2 งานระบบราง คืบหน้าแล้ว 40.94% เริ่มก่อสร้าง 26 เมษายน 2556 จะแล้วจะเสร็จ 4 มกราคม 2560 งบประมาณการก่อสร้าง 2,400 ล้านบาท

นายยงสิทธิ์ โรจน์ศรีกุล ผู้ว่าการ รฟม. คาดว่า รถไฟฟ้าสายสีเขียว แบริ่ง สมุทรปราการ จะเปิดเดินรถได้ในช่วง ปลายปี 2560 และคาดว่า บีทีเอสจะก่อสร้างส่วนต่อขยายจากเส้นทางนี้ต่อไปจนถึงบางปู อีก 9 กิโลเมตร เพื่อช่วยให้ประชาชนเดินทางเชื่อมต่อจากเขตกรุงเทพฯ ชั้นใน มายังจังหวัดสมุทรปราการได้สะดวกขึ้น

นอกจากนี้ รฟม. มีแนวคิด พัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์ หรือ Transit Oriented Development (TOD) ในพื้นที่สถานี และศูนย์ซ่อมบำรุงต่างๆ โดยจะร่วมมือกับการเคหะแห่งชาติ จัดทำโครงการที่อยู่อาศัยให้เช่า รูปแบบคล้ายคอนโด เพื่อใช้พื้นที่ใต้ดิน แทนการเวนคืน ลดผลกระทบจากการขอใช้ที่ดินจากคนในพื้นที่ก่อสร้างรถไฟฟ้า ถือเป็นสถานีแรกที่จะสร้าง TOD

รถไฟฟ้าสายสีเขียว แบริ่ง สมุทรปราการ ระยะทาง 13 กิโลเมตร เริ่มก่อสร้างตั้งแต่เดือนมีนาคม ปี 2555 และมีแผนจะแล้วเสร็จในเดือนเมษายน 2560 เป็นระบบรถไฟฟ้าขนาดใหญ่ มีทั้งหมด 9 สถานี เริ่มที่สถานีสำโรง สิ้นสุดที่สถานีบางปิ้ง บริเวณซอยเขตเทศบาลบางปู 50 ก่อสร้างโดย บริษัท ช.การช่าง จำกัด(มหาชน) และกลุ่มบริษัทที่ปรึกษา GBSC โดยสถานีสุดท้ายอยู่ห่างจากสถานตากอากาศบางปูเพียง 4 กิโลเมตร
http://www.youtube.com/watch?feature=player_embedded&v=kgljoMLoLZY

//------------
รฟม.เดินหน้าแผนพัฒนาที่ดินช่วยคนจน
ข่าวเศรษฐกิจ
เดลินิวส์
วันศุกร์ 15 สิงหาคม 2557 เวลา 20:00 น.

รฟม. เร่ง แผนพัฒนาที่ดิน 4 แปลง 5 แนวรถไฟ ประเดิมที่บางปิ้ง สมุทรปราการ สายสีเขียว ที่แรก คาดเสร็จปลายปี 60 พร้อมดึงสรรพากร ที่ดิน ไปรษณีย์เข้าเปิดบริการ กระตุ้นคนใช้รถไฟฟ้า

นายยงสิทธิ์ โรจน์ศรีกุล ผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย(รฟม.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าโครงการพัฒนาพื้นที่ตามแนวรถไฟฟ้าให้เป็นที่พักอาศัยสำหรับผู้มีรายได้น้อยว่า ขณะนี้ โครงการฯยังเดินหน้าต่อและอยู่ระหว่างที่การเคหะแห่งชาติ กำลังออกแบบก่อสร้างเพื่อรอขออนุมัติโครงการจาก ครม. โดยมีแผนพัฒนาที่ดิน 4 แปลง ใน 5 เส้นทางรถไฟฟ้า ได้แก่ พื้นที่ อ.บางปิ้ง อยู่เส้นทางรถไฟฟ้าสายสีเขียวใต้ จ.สมุทรปราการ 18 ไร่ พื้นที่ศูนย์บางไผ่ ของรถไฟฟ้าสายสีม่วง บางซื่อ-บางใหญ่ โดยเน้นเป็นอาคารสำนักงาน พื้นที่ย่านห้วงขวาง ใกล้รถไฟฟ้าใต้ดิน และรถไฟฟ้าสายสีส้ม ตลิ่งชัน-ศูนย์วัฒนธรรม-มีนบุรี พื้นที่ขนาด 1,000 ไร่ และบริเวณพื้นที่แถบมีนบุรี ใกล้รถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย-มีนบุรี

ทั้งนี้คาดว่าบริเวณพื้นที่บางปิ้ง จ.สมุทรปราการ ของรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ จะเริ่มก่อนเป็นแห่งแรก โดยมีการทยอยก่อสร้างเป็นที่อยู่อาศัยทั้งหมด 5 อาคาร พร้อมอาคารออฟฟิศสำนักงาน ซึ่งใช้เงินลงทุนไม่ต่ำกว่า 1 หมื่นล้านบาท สำหรับก่อสร้างเป็นที่อยู่อาศัยให้ผู้มีรายได้น้อยได้เช่าระยะยาว โดยคาดจะเปิดโครงการได้พร้อมกับรถไฟฟ้าในปลายปี 60 โดยทั้งโครงการจะมีผู้อยู่อาศัยประมาณ 2 หมื่นคน ซึ่งจะเป็นผลดีช่วยเพิ่มจำนวนผู้โดยสารที่ใช้บริการรถไฟฟ้าสายสีเขียวให้คึกคักขึ้นด้วย



“โครงการพัฒนาพื้นที่แนวรถไฟฟ้าให้เป็นที่พักอาศัยสำหรับผู้มีรายได้น้อย เป็นโครงการร่วมมือกันระหว่าง รฟม. กับการเคหะแห่งชาติ โดย รฟม.เป็นเจ้าของที่ดิน และการเคหะฯ มาลงทุนพัฒนาเพื่อเปิดให้เช่าในระยะยาว ซึ่งจะช่วยเพิ่มโอกาสให้ผู้มีรายได้น้อยได้มีโอกาสใช้ประโยชน์ในแนวรถไฟฟ้ามากขึ้น ต่างจากเดิมที่ปล่อยให้เอกชนเข้ามาเก็งกำไรและมีแต่คนรายได้สูงได้ใช้ประโยชน์เท่านั้น นอกจากนี้ยังจะหารือร่วมกับหน่วยงานราชการ เช่น กรมสรรพากร สำนักงานที่ดิน สำนักงานไปรษณีย์ รวมถึงหน่วยงานให้บริการด้านอื่นๆ เข้ามาเปิดบริการในพื้นที่เหล่านี้ด้วย เพื่อกระตุ้นให้คนที่ใช้บริการ หันมาเดินทางโดยรถไฟฟ้ามากขึ้น เพราะลำพังแค่ยอดการประเมินการใช้ผู้โดยสารสายสีเขียวใต้แค่ 1.8-1.9 แสนต่อวัน จะยังไม่มีกำไรให้ รฟม.”



นายยงสิทธิ์ กล่าวว่า เตรียมเสนอ ครม. อนุมัติแผนการจัดตั้งหน่วยธุรกิจ ขึ้นมารองรับการเติบโตของธุรกิจ รฟม. และการพัฒนาพื้นที่ตามแนวรถไฟฟ้า ใน 5 หน่วยธุรกิจ ได้แก่ หน่วยธุรกิจด้านการเดินรถ เพื่อสนับสนุนการเดินรถของ รฟม. หน่วยธุรกิจด้านโฆษณา เพื่อดูแลการจัดเก็บรายได้จากโฆษณาในสถานี และขบวนรถไฟฟ้า หน่วยธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์ เพื่อดูแลการพัฒนาพื้นที่ของ รฟม.ตามแนวรถไฟฟ้า หน่วยธุรกิจให้เช่าพื้นที่เชิงพาณิชย์ และหน่วยธุรกิจดูแลตั๋วโดยสาร เพื่อรองรับการเปิดบริการตั๋วร่วมในอนาคต
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42709
Location: NECTEC

PostPosted: 17/08/2014 11:14 pm    Post subject: Reply with quote

ลุ้นรถไฟสีเขียวให้บริการหลังสายม่วง ปลายปี 60 ช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ รอเจรจาบีทีเอสหรือรายใหม่บริหาร
ประชาชาติธุรกิจออนไลน์
วันที่ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2557 เวลา 12:50:59 น.


นายยงสิทธิ์ โรจน์ศรีกุล ผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เปิดเผยในระหว่างตรวจเยี่ยมโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ ระยะทางประมาณ 12.6 กิโลเมตร เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม ว่างานก่อสร้างมีความคืบหน้าต่อเนื่องประมาณ 35.03% เร็วกว่าแผนที่กำหนด 3.60% คาดพร้อมเปิดให้บริการประมาณปลายปี 2560 หรือไม่เกินต้นปี 2561 ได้

"เป็นสายที่ 2 ที่ขยายไปจังหวัดปริมณฑลที่จะเปิดให้บริการได้ในเร็วๆ นี้ รองจากรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงบางใหญ่-บางซื่อ ที่จะเปิดให้บริการปี 2559" นายยงสิทธิ์กล่าว และว่า กำลังพิจารณาว่าการเดินรถจะเป็นรูปแบบไหน เบื้องต้นอาจต้องเชื่อมต่อการเดินรถกับรถไฟฟ้าบีทีเอสเพื่อให้ประชาชนมีความ สะดวกในการใช้บริการ แต่ต้องพิจารณาข้อดีข้อเสียให้รอบคอบ เพราะรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายมีผู้ใช้บริการประมาณ 1.5-1.8 แสนคนต่อวัน ขณะที่รถไฟฟ้าบริการในกรุงเทพฯมีผู้โดยสารถึง 8-9 แสนคนต่อวัน ดังนั้น หากไม่คุ้มค่าอาจพิจารณาเปิดให้รายอื่นหรือรฟม.เดินรถเอง โดยผู้โดยสารเปลี่ยนขบวนรถที่สถานีสำโรง คาดว่าจะได้ข้อสรุปกลางปี 2558

นายยงสิทธิ์กล่าวถึงส่วนต่อขยายช่วงสมุทรปราการ-บางปู ว่าได้มีการศึกษาออกแบบและผ่านรายงานวิเคราะห์ผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม (อีไอเอ) นานแล้ว จึงอาจต้องทบทวนผลการศึกษารวมถึงงบประมาณที่ใช้ในการก่อสร้างให้มีความทัน สมัยอีกครั้งด้วย ส่วนจะสามารถก่อสร้างได้เมื่อไหร่เป็นเรื่องระดับนโยบายจะพิจารณา ส่วนช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต วงเงิน 2.65 หมื่นล้านบาท จะนำเสนอบอร์ดพิจารณาในวันที่ 19 สิงหาคมนี้ เพื่อเปิดประกวดราคาในเดือนกันยายนนี้

นายยงสิทธิ์กล่าวว่า สำหรับการพัฒนาพื้นที่พักอาศัยตามแนวรถไฟฟ้าจะเริ่มที่ย่านบางปิ้งของ รถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ เป็นแห่งแรก มีทั้งหมด 5 อาคาร ทั้งออฟฟิศสำนักงาน และที่อยู่อาศัยสำหรับผู้มีรายได้น้อย ใช้เงินลงทุนประมาณ 1 หมื่นล้านบาท เปิดให้บริการพร้อมรถไฟฟ้าในปลายปี 2560 คาดว่าจะเพิ่มผู้โดยสารให้รถไฟฟ้าสายนี้อีกประมาณ 2 หมื่นคนต่อวัน และมีแผนพัฒนาพื้นที่ของสายสีต่างๆ ด้วย รวมถึงจะเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) ตั้งหน่วยธุรกิจรองรับการพัฒนาพื้นที่ตามแนวรถไฟฟ้า และรองรับธุรกิจของ รฟม.ใน 5 ด้าน คือการเดินรถ โฆษณา อสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจให้เช่าเชิงพาณิชย์ และตั๋วโดยสาร
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44541
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 18/08/2014 12:55 am    Post subject: Reply with quote

^^^
สายสมุทรปราการ-บางปู เกิดยากครับ คงต้องเอาเงินไปพัฒนารถไฟฟ้าในเขตเมืองก่อน
เขตชานเมือง สายสีแดงหัวลำโพง-มหาชัย น่าจะมีผู้โดยสารมากกว่า
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42709
Location: NECTEC

PostPosted: 18/08/2014 2:23 am    Post subject: Reply with quote

งานก่อสร้างรถไฟฟ้าสีเขียวใต้เร็วกว่าแผน เปิดแน่ไม่เกินต้นปี 61


โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 16 สิงหาคม 2557 17:31 น.


รฟม.เผยงานก่อสร้างรถไฟฟ้าสีเขียว (สำโรง-สมุทรปราการ) เร็วกว่าแผนเกือบ 4% คาดเปิดให้บริการได้ไม่เกินต้นปี 61 ยังไม่ตัดสินใจเจรจาจ้างบีทีเอสเดินรถ ชี้ข้อดีประชาชนสะดวกไม่ต้องต่อรถ แต่ไม่คุ้มค่าในการลงทุน พร้อมเตรียมขยายสถานีออกไปถึงบางปูอีก 7-9 กม. ซึ่งได้มีการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อมไว้แล้ว

นายยงสิทธิ์ โรจน์ศรีกุล ผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าการก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายสายสีเขียวใต้ช่วงสำโรง-สมุทรปราการ ระยะทางทั้งหมด 23 กิโลเมตรว่า ขณะนี้การก่อสร้างความคืบหน้าในภาพรวม 35.03% โดยแผนงานที่กำหนด 30.15% เร็วกว่าแผนงาน 3.99% โดยคาดว่าจะสามารถเปิดให้บริการได้ในประมาณปลายปี 2560 หรือต้นปี 2561 อย่างไรก็ตาม ในอนาคต รฟม.ยังมีแผนที่จะขยายสถานีออกไปถึงบริเวณบางปูอีกประมาณ 7-9 กิโลเมตร ซึ่งได้มีการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) ไว้แล้ว แต่หากจะก่อสร้างจริงจะต้องทำการศึกษารายละเอียดใหม่เพื่อพิจารณาอีกครั้ง คาดว่าอาจจะต้องใช้เวลานานถึง 10 ปี เนื่องจากตามนโยบายของรัฐบาลต้องการให้ก่อสร้างรถไฟฟ้าในเขตเมืองที่มีปริมาณการจราจรหนาแน่นก่อน

สำหรับสถานีซ่อมบำรุงขณะนี้มีความคืบหน้าแล้ว 47% นอกจากนี้ รฟม.ยังมีแนวคิดที่จะก่อสร้างที่อยู่อาศัยตามแนวรถไฟฟ้าที่บริเวณสถานีเคหะสมุทรปราการสำหรับประชาชนที่มีรายได้น้อย โดยการดำเนินการจะมอบให้การเคหะแห่งชาติเป็นผู้ดำเนินการ

สำหรับแนวทางในการเดินรถสายสีเขียวใต้จะมีการพิจารณา 2 รูปแบบ กรณีแรกคือเจรจาให้บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (บีทีเอส) เป็นผู้เดินรถ ซึ่งวิธีนี้ประชาชนจะได้รับความสะดวก แต่ รฟม.จะไม่มีความคุ้มค่าในการลงทุน โดยคาดว่าหากเปิดให้บริการ รฟม.จะมีคนใช้บริการประมาณ 1.5-1.8 แสนคนต่อวัน ในขณะนี้บีทีเอสมีประชาชนใช้บริการ 1 ล้านคนต่อวัน ดังนั้น รฟม.เห็นว่าไม่คุ้มทุนจึงต้องพิจารณาอีกครั้ง

ส่วนวิธีที่สองคือ รฟม.จะลงทุนจัดหาบริษัทเอกชนเข้ามารับจ้างเดินรถเอง ซึ่งวิธีนี้มีข้อเสียคือ ประชาชนอาจจะต้องเปลี่ยนถ่ายรถที่บริเวณสถานีสำโรง ซึ่งได้วางแผนทำชานชาลาอยู่บริเวณตรงกลางมีรูปแบบคล้ายๆ สถานีสยามฯ เพื่อให้ประชาชนเดินไปขึ้นรถประมาณ 30 เมตร อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าจะเลือกการเดินรถรูปแบบใดก็สามารถดำเนินการได้ทั้งสิ้น เนื่องจากระบบโยธาได้ออกแบบมาเพื่อรองรับไว้แล้ว และหากดำเนินการก่อสร้างด้านโยธาแล้วเสร็จจะต้องเร่งหาวิธีการเดินรถ ซึ่ง รฟม.จะไม่ใช้วิธีสัมปทานรูปแบบ PPP-Gross Cost เนื่องจากมีความล่าช้า
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42709
Location: NECTEC

PostPosted: 19/08/2014 3:58 pm    Post subject: Reply with quote

สปริงนิวส์ รายงานความก้าวหน้าการสร้างทางรถไฟฟ้าไปปากน้ำ - เสร็จแล้ว 35%
https://www.facebook.com/photo.php?v=264717380396374
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44541
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 19/08/2014 4:59 pm    Post subject: Reply with quote

ต้องรอดูครับ ว่าช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการจะเชื่อมต่อกับช่วง BTS เดิมได้หรือไม่ หรือว่าต้องลงเปลี่ยนขบวนรถ ทั้ง ๆ ที่เป็นรถไฟสายเดียวกัน Wink
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42709
Location: NECTEC

PostPosted: 19/08/2014 5:16 pm    Post subject: Reply with quote

บอร์ดรฟม.ไฟเขียวไม่ต้องปรับแก้TORสายสีเขียวช่วงหมอชิต-คูคต/19ส.ค.ยื่นซอง
วันอังคารที่ 19 สิงหาคม 2557 เวลา 16:45 น.
โดย คเณ มหายศ
ข่าวรายวัน - คอลัมน์ : ข่าวในประเทศ
ฐานเศรษฐกิจ

พล.อ.ดร.ยอดยุทธ บุญญาธิการ ประธานกรรมการ(บอร์ด) การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทสไทย(รฟม.) เปิดเผยภายหลังการประชุมบอร์ดรฟม.ว่าได้เห็นชอบให้ไม่ต้องปรับแก้ร่างเอกสารประกวดราคา(ทีโออาร์)ของรถไฟฟ้าสายสีเขียว ส่วนเหนือ ช่วงหมอชิต-คูคต ตามที่มีการร้องเรียน และให้เร่งดำเนินการต่อไป ดังนั้นวันที่ 19 สิงหาคมนี้จะให้ผู้ซื้อซองเอกสารประกวดราคาทั้ง 31 รายยื่นซองต่อรฟม.

โดยบอร์ดเห็นว่าโครงการรถไฟฟ้าหลายเส้นทางล่าช้ามานาน สมควรเร่งรัด เช่นเดียวกับกรณีสายสีเขียวส่วนเหนือในการเสนอให้มีการปรับแก้ไขร่างทีอาร์ ซึ่งบอร์ดได้พิจารณาอย่างรอบคอบ ยึดถือผลประโยชน์ส่วนรวมเป็นหลัก เห็นสมควรว่าไม่น่าจะต้องไปปรับแก้ไขทีโออาร์ดังกล่าวเนื่องจากต้องการตั้งเกณฑ์ให้สูงไว้ก่อนเพื่อให้มั่นใจว่าบริษัทที่ประมูลได้ไม่มีปัญหาทิ้งงานให้เดือดร้อน

“เดือนกันยายนนี้น่าจะเปิดซองได้แล้ว โดยจะให้ผู้ซื้อซองเอกสารประกวดาราครทั้ง 31 รายเข้ามายื่นซองในวันที่ 19 กันยายนนี้ อีกทั้งเรื่องนี้ไม่ต้องนำเข้าเสนอคณะรัฐมนตรี(ครม.)อีกจึงเร่งดำเนินการต่อไปได้”

ในส่วนรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ ปัจจุบันอยู่ระหว่างการก่อสร้าง คาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2560 โดยการประชุมในวันที่เห็นชอบให้รูปแบบการเดินรถแบบ PSC หมายถึงให้รฟม.เดินรถเอง มากกว่าจะว่าจ้างให้เอกชนเดินรถเช่นสายต่างๆที่ผ่านมาที่ใช้รูปแบบการลงทุนแบบPPPs คือร่วมลงทุน เพราะเห็นว่าต่อนี้ไปรฟม.น่าจะเข้ามาบทบาทการเดินรถไฟฟ้าของตนเองมากขึ้น จึงเร่งเตรียมความพร้อมบุคลากรตั้งแต่วันนี้ ซึ่งนายยงสิทธิ์ โรจน์ศรีกุล ผู้ว่ารฟม.ได้เสนอแผนงานให้บอร์ดทราบแล้ว

“งานโยธาคืบหน้าไปมากแล้ว ส่วนการจัดหารถและการบริหารจัดการเดินรถรฟม.จะต้องสามารถดำเนินการเองได้ โดยขั้นตอนแรกจะเร่งจัดหารถรองรับเอาไว้ก่อน ส่วนในการปฏิบัติหากมีความพร้อมก็ให้เร่งดำเนินการ แต่หากยังไม่พร้อมก็จะให้ว่าจ้างเอกชนเดินรถก็สามารถทำได้เช่นกัน เช่นกรณีกรุงเทพมหานครมอบหมายให้บริษัทกรุงเทพธนาคม จำกัดว่าจ้างให้บีทีเอสเดินรถไฟฟ้าบีทีเอสปัจจุบันนี้นั่นเอง อีกทั้งยังมีเวลาเตรียมการนานถึง 2 ปีจึงเตรียมแผนงานเดินรถของรฟม.เอง ซึ่งรฟม.อยู่ระหว่างการเร่งผลักดันหน่วยธุรกิจการเดินรถอยู่แล้ว”

ด้านนายยงสิทธิ์ โรจน์ศรีกุล ผู้ว่ารฟม.กล่าวว่าสำหรับการจัดหารถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ และจัดทำระบบการเดินรถใช้งบประมาณราว 9,000 ล้านบาท เนื่องจากระยะทางประมาณ 13 กิโลเมตร ใช้ขบวนรถจำนวน 39 ตู้(โบกี้) ซึ่งนับเป็นครึ่งหนึ่งของรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงบางใหญ่-เตาปูน ในส่วนสายสีเขียวช่วงหมอชิต-คูคต ใช้งบประมาณ 2 หมื่นล้านบาท

ในส่วนสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย ช่วงหัวลำโพง-บางแค และบางซื่อ-ท่าพระ คณะกรรมการตามมาตรา 13 อยู่ระหว่างการพิจารณาว่าจะเสนออให้มีการประกวดราคาและการเจรจาตรงกับบีเอ็มซีแอล ขณะนี้บอร์ดอยู่ระหว่างการพิจารณาแนวทางว่าจะใช้วิธีการเดินรถให้ต่อเนื่อง เชื่อมต่อกันได้อย่างสะดวก ดังนั้นจึงต้องทำทีโออาร์ให้สอดคล้องกับแนวทางของบอร์ดรฟม.

“ในเบื้องต้นคณะกรรมการมาตรา 13 ยังยืนยันจะใช้การประกวดราคาเพื่อหาผู้เดินรถและบริหารจัดการเดินรถมากกว่าจะเจรจาตรงกับบีเอ็มซีแอลที่จะเกิดความโปร่งใสและเปิดการแข่งขันโดยเสรีมากกว่า ทั้งนี้คณะกรรมการตามมาตรา 13 จะมีการประชุมอีกครั้งเพื่อสรุปรายละเอียดนำเสนอในเร็วๆนี้ ซึ่งบอร์ดก็เห็นว่ากรณีการเจรจาตรงนั้นขั้นตอนการเจรจาจะเร็วกว่าและการเซ็นสัญญาจะทำได้เร็วเช่นกัน ประการสำคัญหากให้บีเอ็มซีแอลเดินรถจะประหยัดงบประมาณได้อีกกว่า 1,700 ล้านบาทในการไม่ต้องใช้งานด้านระบบบางประเภทที่ศูนย์ซ่อมบำรุงที่หลักสอง และงานโยธาอีกราว 400 ล้านบาท”

//--------------------------------------------------------------------------

รฟม.เร่งยิกประมูลรถไฟฟ้าสายสีเขียว "หมอชิต-คูคต" 2.9 หมื่นล้าน ดีเดย์ 30 ก.ย. เปิดยื่นซองราคา
ประชาชาติธุรกิจออนไลน์
19 สิงหาคม 2557 เวลา 16:10:51 น.


รฟม.เร่งยิกประมูลรถไฟฟ้าสายสีเขียว "หมอชิต-คูคต" 4 สัญญา 2.9 หมื่นล้าน ดีเดย์ 30 ก.ย. เปิดยื่นซองราคา เซ็นสัญญาสิ้นปีนี้

แหล่งข่าวจากการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 19 สิงหาคมที่ผ่านมา ที่ประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) เห็นชอบให้ รฟม.เดินหน้าประมูลก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต ระยะทาง 18.7 กิโลเมตร วงเงินก่อสร้างกว่า 2.9 หมื่นล้านบาท โดย รฟม.จะให้ผู้รับเหมามาซื้อเอกสารทั้ง 31 ราย มายื่นซองราคาวันที่ 30 กันยายนนี้ และคาดว่าจะได้ผู้รับเหมาก่อสร้างปลายปีนี้และเริ่มก่อสร้างได้ต้นปี 2558 เป็นต้นไป คาดว่าจะแล้วเสร็จและเปิดบริการได้ประมาณปี 2561 หรือย่างช้าปี 2562

สำหรับการประมูล แบ่งเป็น 4 สัญญา ได้แก่
สัญญาที่ 1 งานโยธา ช่วงหมอชิต-สะพานใหม่ มูลค่างาน 14,021 ล้านบาท
สัญญาที่ 2 งานโยธา ช่วงสะพานใหม่-คูคต มูลค่างาน 6,126 ล้านบาท
สัญญาที่ 3 ก่อสร้างงานโยธา ศูนย์ซ่อมบำรุงรักษาและอาคารจอดรถ มูลค่างาน 3,709 ล้านบาทและ
สัญญาที่ 4 งานออกแบบ จัดหาและติดตั้ง งานระบบรางรถไฟฟ้า มูลค่างาน 2,609 ล้านบาท

โดยจะมีสถานีทั้งหมด 16 สถานี ประกอบด้วย
1.สถานีห้าแยกลาดพร้าว
2.สถานีพหลโยธิน 24
3.สถานีรัชโยธิน
4.สถานีเสนานิคม
5.สถานีมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
6.สถานีกรมป่าไม้
7.สถานีบางบัว
8.สถานีกรมทหารราบที่ 11
9.สถานีวัดพระศรีมหาธาตุ
10.สถานีอนุสาวรีย์หลักสี่เชื่อมกับรถไฟฟ้าสายสีชมพู
11.สถานีสายหยุด
12.สถานีสะพานใหม่
13.สถานีโรงพยาบาลภูมิพลอดุลยเดช
14.สถานีพิพิธภัณฑ์กองทัพอากาศ
15.สถานี ก.ม.25 และ
16.สถานีคูคต
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42709
Location: NECTEC

PostPosted: 29/08/2014 10:52 am    Post subject: Reply with quote

ผุดสวนน้ำ 300 ไร่ กม.25 พหลฯ

กอง บก.ฐานเศรษฐกิจ อสังหา REAL ESTATE -
คอลัมน์ : อสังหาฯ REAL ESTATE
ออนไลน์เมื่อ วันอังคารที่ 26 สิงหาคม 2014 เวลา 13:41 น.
ตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 34 ฉบับที่ 2,978 วันที่ 28 - 30 สิงหาคม พ.ศ. 2557

บริษัท ศรีศุภราชฯ ทุ่มกว่า 1,000 ล้านสร้างสวนน้ำกว่า 300 ไร่ย่านกม.25 พหลโยธิน รับรถไฟฟ้าสายสีเขียว หมอชิต-สะพานใหม่-คูคต เล็งดึงกลุ่มทุนสิงคโปร์สนับสนุนบิ๊กรฟม.หวั่นเจอข้อหาเอื้อเอกชนเล็งเจรจาซื้อที่ดินผ่าแนวเส้นทางผ่านประตูกรุงเทพฯ เลี่ยงจุดคดเคี้ยวช่วงสนามกีฬาธูปะเตมีย์ แนะพัฒนาพื้นที่โดยรอบสถานีได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ดีเดย์ยื่นซองเอกสารประกวดราคาทั้ง 31 ราย 19 กันยายนนี้

นายวิเชียร กลิ่นสุคนธ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ศรีศุภราช จำกัด เจ้าของอาคารศรีศุภราชอาเขตย่านสะพานควาย และเจ้าของที่ดินประตูกรุงเทพฯ ย่านกม.25 ถนนพหลโยธินกว่า 1,000 ไร่ เปิดเผย "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า มีแนวคิดสร้างสวนน้ำขนาดใหญ่บนพื้นที่กว่า 300 ไร่ในพื้นที่โครงการประตูกรุงเทพฯ คาดว่าจะลงทุนไม่น้อยกว่า 1,000 ล้านบาทเพื่อรองรับโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต ของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย(รฟม.)

"โดยทางประตูกรุงเทพฯ ยินดีสนับสนุนที่ดินประมาณ 3-5 ไร่ด้านหน้าประตูที่ติดกับถนนพหลโยธินให้รฟม.เพื่อก่อสร้างสถานี กม.25 ซึ่งจุดดังกล่าวยังจะสร้างอาคารที่จอดรถไว้รองรับประชาชนที่จะเข้ามาใช้รถไฟฟ้าอีกด้วย ปัจจุบันอยู่ระหว่างการออกแบบให้สอดคล้องกับพื้นที่ อีกทั้งยังมีแนวคิดที่จะดึงแหล่งทุนผู้ประกอบการสวนน้ำขนาดใหญ่ของสิงคโปร์เข้ามาร่วมสนับสนุนโครงการ ขณะนี้รอเพียงรฟม.มีความชัดเจนงานก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าเส้นทางดังกล่าวเท่านั้นเนื่องจากล่าช้ามานานหลายปี"
สำหรับที่ดินบริเวณดังกล่าว เมื่อหลายปีก่อนบริษัทมีแผนจะนำที่ดิน จำนวน 250 ไร่ บริเวณแยกลำลูกกา -พหลโยธิน ซึ่งอยู่บริเวณโครงการประตูกรุงเทพพลาซ่าพัฒนาเป็นโครงการคอมเพล็กซ์ขนาดใหญ่ครบวงจร ประกอบด้วยศูนย์การค้า โรงแรม ปั๊มน้ำมัน ตลาดซื้อ-ขายสินค้า ซึ่งจะเป็นศูนย์รวมของสินค้าพื้นเมืองของทุกภาค ซึ่งมูลค่าการลงทุนกว่า 20,000 ล้านบาท
ด้านนายยงสิทธิ์ โรจน์ศรีกุล ผู้ว่าการ รฟม.กล่าวโดยเกรงว่าการใช้พื้นที่ย่านประตูกรุงเทพฯ จะเป็นข้อครหาว่าเอื้อเอกชนแม้ว่าจะได้รับการสนับสนุนพื้นที่เป็นอย่างดีก็ตาม ทาง รฟม.ยังมีแนวคิดที่จะเจรจาขอซื้อที่ดินช่วงแนวผ่ากลางโครงการเพื่อไปทะลุคูคต เนื่องจากหากใช้แนวผ่านสนามกีฬาธูปะเตมีย์จะมีความคดเคี้ยวมากและพื้นที่คับแคบต้องเวนคืนบ้านเรือนประชาชนในช่วงโค้งหลายหลังคาเรือน
"การเจรจาขอซื้อที่ดินช่วงผ่าแนวกลางโครงการน่าจะเป็นการแก้ไขปัญหาอย่างยุติธรรมกับหลายฝ่าย ส่วนภาคเอกชนจะได้โอกาสในการพัฒนาพื้นที่โดยรอบสถานี เนื่องจากประตูกรุงเทพฯ ถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวอีกแห่งหนึ่งของพื้นที่โซนเหนือของกรุงเทพมหานคร ก่อนที่จะเข้าสู่พื้นที่แนวเกาะรัตนโกสินทร์ คาดว่าจะใช้พื้นที่ตลอดแนวประมาณ 1 กิโลเมตร ซึ่งขณะนี้รอให้ผู้บริหารประตูกรุงเทพฯ เปิดให้รฟม.เข้าเจรจาเท่านั้น"
สำหรับความคืบหน้าการประมูลก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคตนั้น กำหนดให้ผู้ซื้อซองเอกสารประกวดราคาทั้ง 31 รายยื่นซองได้ในวันที่ 19 กันยายนนี้และจะเปิดซองในวันที่ 21 กันยายนทันที คาดว่าจะนำเสนอคณะรัฐมนตรี(ครม.)เพื่อเซ็นสัญญาผู้รับจ้างได้ในปลายปีนี้และเริ่มก่อสร้างในปี 2558 ต่อไป
ทั้งนี้โครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต มีระยะทางประมาณ 19 กม. เป็นทางวิ่งยกระดับทั้งหมด มี 16 สถานี มูลค่าก่อสร้าง 5.2 หมื่นล้านบาท กำหนดเปิดให้บริการปี 2562 ศูนย์ซ่อมบำรุงอยู่ที่คูคต บนพื้นที่ประมาณ 120 ไร่ ในแนวเส้นทางมีอาคารจอดรถ 2 แห่ง คือ บริเวณ กม.25 พหลโยธิน จำนวน 1,042 คัน และใกล้สภ.คูคต รองรับได้ประมาณ 700 คัน สามารถเชื่อมโยงกับรถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย-มีนบุรีที่แยกวงเวียนรัฐธรรมนูญ(หลักสี่)
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42709
Location: NECTEC

PostPosted: 01/09/2014 11:21 am    Post subject: Reply with quote

ส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าสายสีเขียวเข้ม...ให้มากกว่าความสะดวกในการเดินทาง:EIC
โดย บมจ.ธนาคารไทยพาณิชย์
คอลัมน์ : ข่าวรายวัน - ข่าวในประเทศ
ฐานเศรษฐกิจ
วันพฤหัสบดีที่ 28 สิงหาคม 2014 เวลา 15:43 น.


ส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าสายสีเขียวเข้ม...ให้มากกว่าความสะดวกในการเดินทาง:EIC

ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ บมจ.ธนาคารไทยพาณิชย์หรือEICออกบทวิเคราะห์"ส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าสายสีเขียวเข้ม...ให้มากกว่าความสะดวกในการเดินทาง"

ไฮไลท์:ส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าสายสีเขียวเข้มช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต นอกจากจะอำนวยความสะดวกในการเดินทางต่อผู้อยู่อาศัยในย่านที่รถไฟฟ้าพาดผ่านแล้ว ยังเพิ่มโอกาสให้ 2 ธุรกิจที่สำคัญ ได้แก่ การพัฒนาอสังหาริมทรัพย์และธุรกิจค้าปลีกอีกด้วย ทั้งนี้ อีไอซีประเมินว่าธุรกิจทั้งสองยังไม่อยู่ในภาวะ oversupply และยังมีโอกาสที่จะเติบโตได้อย่างต่อเนื่องในอนาคต


ปัจจุบันกรุงเทพมหานครและปริมณฑลมีรถไฟฟ้าให้บริการจำนวน 4 สาย และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 9 สายในอีกประมาณ 10 ปีข้างหน้า ซึ่งจะครอบคลุมพื้นที่บริการมากขึ้นประมาณ 2 เท่าตัว ทั้งนี้ รถไฟฟ้าที่ดำเนินการให้บริการในปัจจุบันทั้ง 4 สาย ได้แก่ 1) รถไฟฟ้าสายสีเขียวเข้มเส้นทางหมอชิต-แบริ่ง 2) สายสีเขียวอ่อน เส้นทางสนามกีฬา-บางหว้า 3) โครงการรถไฟฟ้ามหานคร สายเฉลิมรัชมงคล เส้นทางหัวลำโพง-พระราม4-บางซื่อ และ 4) รถไฟฟ้าเชื่อมท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (Airport Rail Link) เส้นทางพญาไท-สนามบินสุวรรณภูมิ โดยในปัจจุบันรถไฟฟ้าทั้ง 4 สายนี้ สามารถครอบคลุมพื้นที่ได้เพียง 537 ตารางกิโลเมตร ซึ่งในอนาคตหากรถไฟฟ้าทั้ง 9 สายแล้วเสร็จ ทางอีไอซีประเมินว่าระบบรถไฟฟ้าจะสามารถครอบคลุมพื้นที่ได้ถึง 1,640 ตารางกิโลเมตร (รูปที่ 1)

สำหรับเส้นทางที่กำลังจะก่อสร้างในระยะต่อไปคือ รถไฟฟ้าสายสีเขียวเข้มส่วนต่อขยายจากหมอชิตไปยังสะพานใหม่และคูคต จะสร้างความเจริญให้กับย่านพหลโยธินตอนบนซึ่งมีแหล่งชุมชนและส่วนราชการหลายแห่ง โดยขณะนี้โครงการได้รับอนุมัติการก่อสร้างเรียบร้อยแล้วและอยู่ในระหว่างรอการประมูลงานก่อสร้าง โดยเส้นทางนี้เป็นส่วนต่อจากรถไฟฟ้าสายสีเขียวเข้มในปัจจุบันที่สิ้นสุดที่สถานีหมอชิต ซึ่งจะต่อขยายเส้นทางเพิ่มเติมจากสถานีหมอชิตไปทางทิศเหนือของกรุงเทพฯ ตามแนวถนนพหลโยธิน (เขตบางเขน-เขตสายไหม) ไปสิ้นสุดที่ ต.คูคต อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี ผ่านสถานที่สำคัญต่างๆ มากมาย อาทิ ห้างสรรพสินค้า, ที่อยู่อาศัย, มหาวิทยาลัย, โรงพยาบาล, ท่าอากาศยานดอนเมือง และส่วนราชการ เช่น กรมป่าไม้ กรมทหารบกและทหารอากาศ รวมระยะทางทั้งสิ้นราว 18 กิโลเมตร (รูปที่ 2)

แน่นอนว่าเมื่อรถไฟฟ้าเส้นทางนี้แล้วเสร็จจะเพิ่มความสะดวกในการเดินทางเข้าสู่ใจกลางกรุงเทพฯ ของผู้อยู่อาศัยย่านสะพานใหม่-คูคต อ.ลำลูกกา และบริเวณใกล้เคียง โดยปัจจุบันมีผู้อยู่อาศัยบริเวณย่านดังกล่าวประมาณ 12 ล้านคน โดยในจำนวนนี้เป็นนักเรียนถึงราว 2.5 ล้านคน ซึ่งอีไอซีคาดว่าหากผู้อยู่อาศัยย่านดังกล่าวมีความต้องการเดินทางเข้าสู่กรุงเทพฯ ชั้นในโดยรถยนต์ส่วนบุคคลจะใช้เวลาประมาณ 2-3 ชั่วโมง แต่ถ้าหากเปลี่ยนมาใช้ระบบรถไฟฟ้าเดินทางจากสถานีคูคตถึงสถานีอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิจะใช้เวลาเพียง 35 นาที และเสียค่าเดินทางราว 50 บาทเท่านั้น

นอกจากนี้แล้วรถไฟฟ้าเส้นนี้ยังสามารถพัฒนาให้เชื่อมต่อกับท่าอากาศยานดอนเมืองเพื่อเพิ่มความสะดวกให้กับผู้โดยสารในการเข้าสู่ใจกลางกรุงเทพฯ อีกด้วย จำนวนผู้โดยสารที่ใช้สนามบินดอนเมืองมีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยจำนวนผู้โดยสารที่ใช้บริการเพิ่มขึ้นสูงถึงเกือบ 16 ล้านคน หรือประมาณ 4.5 เท่าตัวในปี 2013 จากเดิมที่มีจำนวนผู้โดยสารโดยเฉลี่ยระหว่างปี 2007 ถึง 2012 (รูปที่ 3) เนื่องจากท่าอากาศยานดอนเมืองถือว่าเป็น hub ของสายการบินต้นทุนต่ำ รวมถึงหากมีการย้ายฐานปฏิบัติการสายการบินไทยสไมล์ จากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิมายังท่าอากาศยานดอนเมืองในเดือนสิงหาคม 2014 ก็ยิ่งทำให้การจราจรในการเดินทางทั้งขาเข้าและขาออกสนามบินดอนเมืองมีความคับคั่งมากยิ่งขึ้น

อีไอซี เห็นว่าหากการท่าอากาศยานมีการจัดสรรรถบัสเพื่อขนส่งผู้โดยสารระหว่างท่าอากาศยานดอนเมืองมายังสถานีรถไฟฟ้าสายสีเขียวเข้มที่สถานีอนุสาวรีย์หลักสี่หรือสถานีสะพานใหม่ เพื่อเพิ่มความสะดวกให้กับผู้โดยสารในการเดินทางเชื่อมต่อกับระบบรถไฟฟ้า จะช่วยย่นระยะเวลาเดินทางเข้าและออกจากสนามบินดอนเมืองสู่กรุงเทพฯ ชั้นในได้ และยังลดการจราจรที่ติดขัดบริเวณย่านสนามบินดอนเมืองอีกด้วย โดยประเมินว่ารถไฟฟ้าเส้นนี้จะสามารถรองรับปริมาณผู้โดยสารได้ถึง 60,000-80,000 คนต่อวัน ซึ่งเพียงพอต่อความต้องการของทั้งผู้อยู่อาศัยในย่านดังกล่าวและผู้โดยสารที่ใช้บริการท่าอากาศยานดอนเมือง ทั้งนี้ ส่วนต่อขยายสายสีเขียวเข้มจะสามารถเปิดให้บริการได้ก่อนที่ส่วนต่อขยาย Airport Rail Link (พญาไท-บางซื่อ-ดอนเมือง) แล้วเสร็จถึง 4 ปี

นอกจากความสะดวกในการเดินทางแล้ว ภาคอสังหาริมทรัพย์ยังเป็นอีกธุรกิจหนึ่งที่ได้รับปัจจัยบวกจากรถไฟฟ้าเส้นทางนี้โดยตรง ทั้งนี้ ยังมีความต้องการทั้งโครงการบ้านเดี่ยว ทาวเฮ้าส์ และคอนโดมิเนียมที่แตกต่างกันในย่านต่างๆ เช่น ในย่านลำลูกกาและสายไหมจะเน้นบ้านเดี่ยวและทาวน์เฮาส์เพื่อตอบสนองลูกค้าที่มีครอบครัวและต้องการความเป็นส่วนตัวเป็นหลัก โดยระหว่างปี 2011-2013 มีการเปิดตัวบ้านเดียวในช่วงราคา 3-5 ล้านบาทประมาณ 1,200 ยูนิต ขณะที่การเปิดตัวบ้านโครงการที่อยู่อาศัยในย่านสะพานใหม่และรัชโยธิน เน้นคอนโดมิเนียมเพื่อตอบสนองลูกค้ากลุ่มนักศึกษาและวัยเริ่มทำงาน เนื่องจากมีมหาวิทยาลัยตั้งอยู่ถึง 3 แห่ง ได้แก่ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีปทุม และมหาวิทยาลัยเกริก รวมถึงสถานศึกษาอื่นๆ อีกด้วย โดยระหว่างปี 2011-2013 ย่านสะพานใหม่มีการเปิดตัวคอนโดมิเนียมในช่วงราคา 0.5-2 ล้านบาทถึงราว 800 ยูนิต ทั้งนี้ อีไอซีประเมินว่าการเติบโตด้านอสังหาริมทรัพย์ยังคงไม่เข้าสู่ภาวะ oversupply ซึ่งเห็นได้จากคอนโดมิเนียมช่วงรัชโยธิน ซอยเสนา 2 ถึงมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ที่ก่อสร้างเสร็จแล้ว มีคนเข้าพักถึง 78% สะท้อนให้เห็นถึงความต้องการที่ยังมีอยู่และไม่มีปัญหาการซื้อ-ขายและการโอน

แต่คาดว่าราคาของอสังหาริมทรัพย์จะปรับตัวขึ้นอย่างชัดเจนเมื่อส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าสายสีเขียวนี้แล้วเสร็จ อีไอซี ประเมินว่าอสังหาริมทรัพย์ประเภทคอนโดมิเนียมที่ขึ้นใหม่จะมีราคาสูงขึ้นประมาณ 25-45% นับจากเมื่อโครงการรถไฟฟ้าเริ่มประมูลจนก่อสร้างแล้วเสร็จ โดยช่วงการประมูลโครงการรถไฟฟ้า คอนโดมิเนียมที่ขึ้นใหม่คาดว่าจะมีราคา 55,000 บาทต่อตารางเมตร จากนั้นจะปรับขึ้นเป็น 60,000- 65,000 บาทต่อตารางเมตร ในช่วงก่อสร้างรถไฟฟ้าและ 70,000-80,000 บาทต่อตารางเมตร เมื่อโครงการโครงการรถไฟฟ้าแล้วเสร็จ ซึ่งเป็นอัตราที่ใกล้เคียงกับราคาที่ปรับขึ้นของส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าสีเขียวช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ ทั้งนี้ รวมถึงที่ดินซึ่งเป็นต้นทุนของนักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่คาดว่าหลังจากที่รถไฟฟ้าก่อสร่างแล้วเสร็จราคาจะปรับตัวสูงขึ้นราว 10%-15%

อีไอซีมองว่าธุรกิจค้าปลีกโดยเฉพาะ grocery store ขนาดเล็กจะเป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่ได้รับอานิสงส์ตามมาจากการที่มีรถไฟฟ้า เนื่องมาจากการขยายตัวของเมืองและพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลง การเพิ่มขึ้นของที่อยู่อาศัยตามแนวรถไฟฟ้าก่อให้เกิดความต้องการสินค้าอุปโภคบริโภคตามมา รวมถึงโครงสร้างประชากรและพฤติกรรมการใช้จ่ายของประชากรในกรุงเทพฯ ซึ่งมีการเพิ่มจำนวนของครอบครัวขนาดเล็กและส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มวัยทำงานที่ต้องการความสะดวกและรวดเร็วในการจับจ่ายสินค้า โดยจะซื้อสินค้าจำนวนไม่มากนักในแต่ละครั้ง แต่จะซื้อสินค้าถี่ขึ้นและนิยมซื้อสินค้าใกล้บ้าน ทำให้ธุรกิจ grocery store ขนาดเล็กสามารถตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคย่านที่รถไฟฟ้าพาดผ่านได้อย่างลงตัว

ถึงแม้ว่า grocery store ขนาดเล็กจะมีการเปิดสาขาอย่างต่อเนื่องในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา แต่จำนวนสาขาในย่านบางเขน-สายไหมก็ยังอยู่ในระดับต่ำ และยังสามารถเพิ่มจำนวนได้อีก ทั้งนี้ จำนวนร้านค้าปลีกขนาดเล็กในย่านดังกล่าวยังอยู่ที่ 11 สาขาต่อประชากร 1 ล้านคน ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ยโดยทั่วไปในกรุงเทพฯ ซึ่งอยู่ที่ 20 สาขาต่อประชากร 1 ล้านคน ประกอบกับความหนาแน่นของผู้อยู่อาศัยที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นในอนาคตจากคอนโดมิเนียม ซึ่งส่วนใหญ่มีสมาชิกครอบครัวประมาณ 1-3 คน ทำให้ธุรกิจค้าปลีกถือเป็นอีกธุรกิจหนึ่งที่มีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง


implication

เพื่อรองรับจำนวนผู้โดยสารสนามบินดอนเมืองที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ผู้ประกอบการด้านการบินและการท่าอากาศยานควรเตรียมตัวให้พร้อมเพื่ออำนวยความสะดวกในการเดินทางเข้าสู่ระบบรถไฟฟ้าและเริ่มต้นทำการประชาสัมพันธ์ก่อนที่รถไฟฟ้าเส้นทางนี้จะก่อสร้างแล้วเสร็จ โดยในระหว่างที่รถไฟฟ้ากำลังทำการก่อสร้าง ผู้ให้บริการด้านการบินควรร่วมมือกับทางการท่าอากาศยานเพื่อศึกษารูปแบบและวางแผนการขนส่งผู้โดยสารจากท่าอากาศยานดอนเมืองมายังสถานีรถไฟฟ้า เพื่อให้ได้รับประโยชน์จากระบบขนส่งมวลชนรถไฟฟ้าสูงสุด

อสังหาริมทรัพย์ย่านรัชโยธินและสะพานใหม่เป็นทำเลที่น่าจับตามอง โดยเฉพาะคอนโดมิเนียมที่มีแนวโน้มราคาพุ่งขึ้น จากอานิสงส์ของโครงการส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าสายสีเขียวเข้ม ประกอบกับปัจจัยด้านความต้องการด้านอสังหาริมทรัพย์ที่ยังคงไม่เข้าสู่ภาวะ oversupply

หากนักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ต้องการพัฒนาที่ดินย่านดังกล่าวเป็นที่อยู่อาศัย ควรรีบเข้าไปหาทำเล เพื่อเตรียมพร้อมในการขยายธุรกิจก่อนที่ราคาจะดีดตัวเมื่อรถไฟฟ้าจะสร้างแล้วเสร็จ โดยปัจจุบันพื้นที่ย่านสะพานใหม่-คูคต ยังถือว่าเป็นบริเวณที่มีประชากรอาศัยหนาแน่นน้อย โดยมีประชากรอาศัยเฉลี่ย 8,000 คนต่อตารางกิโลเมตร ขณะที่พื้นที่ที่จัดว่าเป็นบริเวณที่มีประชากรอาศัยหนาแน่นมาก มีประชากรอาศัยเฉลี่ย 50,000 คนต่อตารางกิโลเมตร แสดงให้เห็นถึงโอกาสที่ยังสามารถพัฒนาต่อไปได้อีกมาก
Back to top
View user's profile Send private message
Display posts from previous:   
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> รถไฟฟ้า (BTS) และรถไฟฟ้าใต้ดิน (MRT) All times are GMT + 7 Hours
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 12, 13, 14 ... 100, 101, 102  Next
Page 13 of 102

 

Share |

Jump to:  
You cannot post new topics in this forum
You cannot reply to topics in this forum
You cannot edit your posts in this forum
You cannot delete your posts in this forum
You cannot vote in polls in this forum

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group


Forums ©