ข่าวและภาพรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน

[Mongwin]

จ่ายแล้วค่ารื้อต้นไม้แนวรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน เขตฯได้ค่าทดแทนกว่า 8 ล้าน
เดลินิวส์ วันอังคาร 2 กันยายน 2557 เวลา 12:51 น.

รื้อเกาะกลางทางเท้าทำรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ย้ายต้นไม้เรียบวุธ ผู้รับเหมาจ่ายค่าชดเชยให้กทม. กว่า 8.8ล้านบาท

นายเฉลิมพล โชตินุชิต ผู้อำนวยการเขตภาษีเจริญกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยว่า ในปี พ.ศ.2555 ที่ผ่านมาการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย(รฟม.)โดยบริษัท ซิโน –ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน)ได้ดำเนินการรื้อย้ายต้นไม้ซึ่งอยู่ในความครอบครองดูแลของกรุงเทพมหานครตามแนวก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายสายสีน้ำเงินช่วงแยกท่าพระถึงหลักสองเป็นเหตุให้กรุงเทพมหานครถูกกระทำละเมิดจากบริษัทฯจนได้รับความเสียหายเขตภาษีเจริญจึงดำเนินการเรียกค่าสินไหมทดแทนกับบริษัทฯบัดนี้ บริษัทฯยินยอมจ่ายค่าสินไหมทดแทนเป็นจำนวนเงิน8,889,000 บาทให้กับกรุงเทพมหานครโดยเขตภาษีเจริญแล้ว เมื่อวันที่29 กรกฎาคม2557จึงขอประชาสัมพันธ์ให้ผู้ประกอบการและประชาชนทราบหากจะดำเนินการตัดต้นไม้ในที่สาธารณะกรุณาติดต่อ ฝ่ายรักษาความสะอาดและสวนสาธารณะเพื่อรับทราบคำแนะนำ โทร.02413 0565 ต่อ 6624- 6625

[Mongwin]

มุดอุโมงค์ลอดเจ้าพระยาแห่งแรก ดูรถไฟฟ้า "ช.การช่าง" สายสีน้ำเงิน
ประชาชาติธุรกิจออนไลน์ 03 ก.ย. 2557 เวลา 11:35:23 น.
คอลัมน์ เวนคืนอัพเดต



นับเป็นอีเวนต์ใหญ่แห่งปีเลยทีเดียว สำหรับยักษ์รับเหมา "ช.การช่าง" ที่เปิดไซต์ก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินต่อขยายช่วง "สนามไชย-ท่าพระ" งานก่อสร้าง สัญญาที่ 2 อุโมงค์ใต้ดินลอดแม่น้ำเจ้าพระยา ระยะทาง 2.5 กิโลเมตร พร้อมสถานี 2 แห่ง ได้แก่ สถานีสนามไชย กับสถานีอิสรภาพโดยมี "ปลิว ตรีวิศวเวทย์" บอสใหญ่ค่าย ช.การช่าง นำทีมพาสื่อมุดดูอุโมงค์ใต้ดินที่ขุดเจาะลึกระดับ 32-38 เมตร คำนวณเท่ากับตึกสูง 4-5 ชั้น

อุโมงค์ลอดเจ้าพระยาแห่งแรก

"จุดไฮไลต์ของไซต์นี้คืออุโมงค์ที่เราสร้างเป็นอุโมงค์ลอดแม่น้ำเจ้าพระยาแห่งแรกของประเทศไทยเท่าที่เคยสร้างมาใช้หัวขุดเจาะที่นำเข้าจากประเทศญี่ปุ่นมาดำเนินการ โดยจะเป็นอุโมงค์คู่รางเดี่ยว มีเส้นผ่านศูนย์กลางภายใน 5.7 เมตร และภายนอก 6.3 เมตร ความยาว 200 เมตร ไปเชื่อมอุโมงค์ของอิตาเลียนไทยฯ ที่ได้งานสัญญาที่ 1 ฝั่งพระนคร คาดว่าอีก 2 เดือนจะเจาะข้ามไปยังอีกฝั่งได้"

งานนี้ "บิ๊ก ช.การช่าง" ยอมรับว่า แม้ก่อสร้างค่อนข้างยากลำบากเพราะเป็นอุโมงค์ขนาดใหญ่ลอดแม่น้ำเจ้าพระยาใช้รองรับการวิ่งของรถไฟฟ้า แต่งานก่อสร้างโดยรวมก็เป็นไปตามแผนเป้าหมาย กล่าวคือภาพรวมงานก่อสร้างคืบหน้าแล้วกว่า 60% คาดว่าจะแล้วเสร็จตามแผนงานในปี"59

ขณะที่งาน "ระบบราง" หรืองานสัญญาที่ 5 "ช.การช่าง" ดำเนินการทั้งโครงการ รวม 27 กิโลเมตร ผลงานล่าสุดคืบหน้าแล้ว 56.4% คาดว่าจะแล้วเสร็จในปี"59 เช่นกัน

สำหรับความคืบหน้าทั้งโครงการใน 6 สัญญา ภาพรวมคืบหน้า 52.8% ล่าช้าอยู่ 3.40% โดยสัญญาที่ 1 งานก่อสร้างอุโมงค์ใต้ดินช่วง "หัวลำโพง-สนามไชย" ของ "บมจ.อิตาเลียนไทย" คืบหน้า 59.80% ล่าช้าจากแผน 2.05%

สัญญาที่ 2 งานก่อสร้างอุโมงค์ใต้ดินช่วง "สนามไชย-ท่าพระ" ของ "บมจ.ช.การช่าง" คืบหน้า 62.57% ล่าช้าจากแผน 2.70% สัญญาที่ 3 งานก่อสร้างโครงสร้างทางวิ่งยกระดับช่วง "เตาปูน-ท่าพระ" ของ "กลุ่มยูนิคฯ" คืบหน้า 41.60% ล่าช้าจากแผน 11.06% สัญญาที่ 4 งานก่อสร้างโครงสร้างทางวิ่งยกระดับช่วง "ท่าพระ-บางแค" ของ "บมจ.ซิโน-ไทย เอ็นจิเนียริ่งฯ" คืบหน้า 42.94% เร็วกว่าแผน 1.84%

รอทุบโต๊ะสัญญาจ้างเดินรถ

สัญญาที่ 5 งานระบบรางของ "ช.การช่าง"คืบหน้า 68.14% ยังล่าช้าอยู่ 4.63% และสัญญาที่ 6 งานเดินรถ ยังไม่ได้คัดเลือกเอกชน อยู่ระหว่างพิจารณาของคณะกรรมการมาตรา 13 ตาม พ.ร.บ.ร่วมทุน โดยจะเจรจากับรายเดิม "BMCL-บมจ.รถไฟฟ้ากรุงเทพ" ในเครือ ช.การช่าง ที่รับสัมปทานเดินรถไฟฟ้าใต้ดินสายปัจจุบัน ถ้าไม่เจรจาก็หมายความว่าจะต้องเปิดประมูลใหม่

นาทีนี้แม้ยังไม่รู้ว่า "รฟม.-การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย" จะใช้แนวทางไหน แต่ "บิ๊ก ช.การช่าง" ก็แสดงเจตจำนงชัดเจนแล้วว่า...หากเลือก "บีเอ็มซีแอล" เป็นผู้เดินรถทั้งช่วง 1 กิโลเมตรจากสถานีบางซื่อ-เตาปูน และส่วนต่อขยายสายสีน้ำเงินที่กำลังดำเนินการ จะทำให้การเดินทางของประชาชนสะดวกขึ้นเพราะรถไฟฟ้าสายนี้วิ่งเป็นวงกลม เท่ากับคนใช้บริการไม่ต้องขึ้น-ลงเพื่อต่อรถ แถมหยอดมาด้วยว่าสามารถเร่งผลักดันเปิดให้บริการได้ในปลายปี"60 หรือต้นปี"61

ออกตัวแรงขนาดนี้ ไม่รู้ "พลเอก ดร.ยอดยุทธ บุญญาธิการ" ประธานบอร์ดจะรับลูกสานต่อหรือไม่ แต่ผลประชุมบอร์ด รฟม.นัดล่าสุด ดูเหมือนเปิดใจให้แล้วครึ่งหนึ่ง มีมติให้ รฟม.พิจารณาเดินรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินให้เชื่อมโยงทั้งระบบ

[Mongwin]

20.03 น. อลหม่าน!!รถไฟใต้ดินเสีย 20 นาที-ขณะใช้ได้ปกติแล้ว
TNews 2014-09-04 20:02:25

วันนี้(04 ก.ย. 57)ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เกิดเหตุรถไฟใต้ดินเสีย 20 นาที โดยขณะนี้ใช้ได้ปกติแล้ว พร้อมกับมีขบวนหนึ่งจอดเสียที่สถานีสุขุมวิท ขบวนอื่นที่มุ่งหน้าบางซื่อไม่สามารถไปได้

[Mongwin]

รฟม.เล็งเจรจาตรง BMCL
กรุงเทพธุรกิจ 10 ก.ย. 57

[Wisarut]

บอร์ดรฟม.รอผลศึกษาข้อดีข้อเสียของการประมูล-เจรจาตรงเดินรถสีน้ำเงินก่อนประชุมกก.มาตรา 13


ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 17 กันยายน 2557 17:15:21 น.
พล.อ.ยอดยุทธ บุญญาธิการ ประธานคณะกรรมการ การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เปิดเผยภายหลังการประชุมว่า การเดินรถส่วนต่อขยาย สายสีน้ำเงิน (หัวลำโพง-บางแค และบางซื่อ-ท่าพระ) ระยะทาง 27 กม. นั้น บอร์ดได้มีมติชัดเจนแล้วว่าให้พิจารณาเรื่องการเดินรถต่อเนื่องเพื่อประโยชน์สูงสุดของประชาชน ซึ่งขึ้นอยู่กับการพิจารณาของคณะกรรมการตามมาตรา 13 แห่งพระราชบัญญัติการให้เอกชนเข้าร่วมงานหรือดำเนินงานในกิจการของรัฐ พ.ศ. 2535 (พ.ร.บ.ร่วมทุนฯ 35) ว่าจะตัดสินใจอย่างไร และถือความเห็นของกก.มาตรา 13 เป็นที่สิ้นสุด



ด้านนายพีระยุทธ สิงห์พัฒนากุล รองผู้ว่า (วิศวกรรมและก่อสร้าง) รฟม. ในฐานะประธานคณะกรรมการตามมาตรา 13 พ.ร.บ.ร่วมทุนฯ35 ในการคัดเลือกเอกชนดำเนินการเดินรถโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย (หัวลำโพง-บางแค และ บางซื่อ-ท่าพระ) ระยะทาง 27 กิโลเมตร กล่าวว่า ขณะนี้กก.มาตรา 13 ยังไม่สามารถประชุมได้ เนื่องจากต้องรอผลการศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมจากที่ปรึกษาโครงการก่อน ในเรื่องข้อดี ข้อเสีย ระหว่างการประกวดราคากับการเจรจาตรงกับบมจ.รถไฟฟ้า (BMCL) ซึ่งเป็นผู้ให้บริการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ช่วงหัวลำโพง-บางซื่อ ที่เป็นเส้นทางปัจจุบัน

ทั้งนี้ หลักในการพิจารณา คือ ต้องเดินรถต่อเนื่องตามมติบอร์ดรฟม. และยึดตามพ.ร.บ. ซึ่งเป็นไปได้ทั้งการประกวดราคาและการเจรจาตรง โดยคาดสรุปผลศึกษาได้ใน 1-2 สัปดาห์นี้จากนั้นจะเรียกประชุมกก.มาตรา 13 ได้

โดยประเด็นที่ กก.มาตรา 13 จะพิจารณาเปรียบเทียบระหว่างวิธีประกวดราคากับการเจรจาตรง จะเป็นเรื่องความปลอดภัย ความสะดวกของผู้โดยสาร ค่าใช้จ่าย ระยะเวลา ข้อกฎหมายและความเป็นธรรมหากเปิดประกวดราคา ภายใต้เงื่อนไขการเดินรถต่อเนื่องตามความเห็นบอร์ดรฟม. ซึ่งการประกวดราคาอาจจะถูกมองว่า BMCL ได้เปรียบรายอื่นกรณีที่กำหนดให้ต้องเดินรถต่อเนื่องด้วย

นายพีระยุทธ กล่าวว่า เมื่อมีข้อมูลครบถ้วนเพียงพอ กก.มาตรา 13 ที่มีผู้แทนจากหน่วยงานสำคัญ ทั้งอัยการ กฤษฎีกา กระทรวงการคลัง ฯลฯ จะพิจารณาในทุกแง่มุมได้อย่างรอบคอบ ซึ่งต้องเร่งสรุปเนื่องจากตามกรอบเวลางานโยธาจะก่อสร้างแล้วเสร็จในกลางปี 2560 และเปิดเดินรถในเดือนมีนาคม 2561 ซึ่งขณะนี้ถือว่าล่าช้ามาจากเดิมที่จะเปิดในปี 2560 ดังนั้น การคัดเลือกผู้เดินรถจะต้องแล้วเสร็จในต้นปี 2558 เพื่อให้เวลาในการจัดหาระบบประมาณ 36-40 เดือน แต่หากเลือกวิธีการประกวดราคานั้นจะไม่ทันตามกรอบเวลานี้แน่นอน

อย่างไรก็ตาม หากสรุปว่าจะประมูลก็เดินหน้าไปได้เลย เพราะเป็นมติเกิมของกก.มาตรา 13 แต่ถ้า เห็นว่าควรเจรจาตรงกับ BMCL จะต้องเสนอไปที่กระทรวงการคลังและสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หากไม่เห็นด้วยก็ต้องกลับมาใช้วิธีประมูล แต่หากทั้งสองหน่วยเห็นด้วยก็เสนอครม.ทบทวนมติเดิม ซึ่งเชื่อว่ารัฐบาลจะผลักดันให้รวดเร็วได้

นอกจากนี้ ที่ประชุมยืนยันการประกวดราคาโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีเขียวเหนือ ช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต วงเงินค่าก่อสร้างงานโยธา 26,569 ล้านบาทซึ่งกำหนดให้ผู้ที่ซื้อซองเอกสารทั้ง 31 รายยื่นข้อเสนอประกวดราคาในวันที่ 30 กันยายนนี้ แม้ว่าจะมีเอกชนร้องเรียน ในประเด็นเงื่อนไข TOR โดยยืนยันว่าจะไม่มีการปรับปรุงเงื่อนไขการประกวดราคา (TOR) หรือขยายเวลาใดๆ

อีกทั้ง ที่ประชุมเห็นชอบแต่งตั้งนายธีรพันธ์ เตชะศิรินุกูล ผู้ช่วยผู้ว่าฯ เป็นรองผู้ว่าฯรฟม. และนายสัจจพงศ์ สนั่นเสียง ผู้ช่วยผู้ว่าฯ เป็นรองผู้ว่าฯ แทนผู้เกษียณอายุ

[Wisarut]

ประจินถก27กย.ปรับค่าโดยสารทั้งระบบ-สายสีม่วงใช้ปี59
ข่าวเศรษฐกิจ
INN News
วันอาทิตย์ที่ 21 กันยายน พ.ศ.2557 12:04น.

'พล.อ.อ.ประจิน' ลงพื้นที่ ตรวจเยื่ยมการก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน และสายสีม่วง เผยคืบหน้าเป็นไปตามแผน เตรียมประชุมหารือปรับราคาค่าโดยสารทั้งระบบ 27 ก.ย.นี้ ยันรถไฟฟ้าสายสีม่วง เปิดใช้ในQ1ปี59

พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้ลงพื้นที่ร่วมพิธีบวงสรวงสิ่งศักดิ์สิทธิ์ และทำบุญในการเจาะอุโมงค์รถไฟฟ้า โครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน สัญญาที่ 2 ช่วงสถานีสนามไชย สถานีท่าพระ ณ สถานีก่อสร้างอิสระภาพ

โดยมีปลัดกระทรวงคมนาคม ประธานกรรมการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย ให้การต้อนรับและเยี่ยมชมการขุดเจาะอุโมงค์ผ่านแม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณช่วงวัดกัลยาณมิตร วรมหาวิหาร จากนั้นได้เดินทางเยี่ยมชมสถานีรถไฟฟ้าเตาปูน ในส่วนของโครงการสายสีม่วง ช่วงเตาปูน-บางใหญ่ ซึ่งเป็นจุดเชื่อมต่อสายสีน้ำเงินด้วย ซึ่งยืนยันว่าความคืบหน้าโครงการต่าง ๆ เป็นไปตามแผนที่วางไว้


ประจิน เตรียมถกปรับค่าโดยสารทั้งระบบ 27 ก.ย. นี้

พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า ในวันที่ 27 กันยายนนี้ จะจัดการประชุม Workshop เพื่อหารือการตามปรับราคาค่าโดยสารทั้งระบบและเรียกให้ผู้ให้บริการรถไฟฟ้า MRT เข้าหารือ เพื่อขอยืดอายุการปรับขึ้นราคาค่าโดยสารรถไฟฟ้าใต้ดิน โดย MRT ระยะ 1-2 บาท ไปจนถึงเดือนธันวาคม เพื่อเป็นการคืนความสุขให้กับประชาชน ซึ่งก่อนหน้านี้ทางกระทรวงคมนาคมได้ขอความร่วมมือกับบริษัท BMCL ซึ่งเป็นผู้ให้บริการรถ MRT ขยายเวลาในการขึ้นค่าโดยสารออกไปเป็นระยะเวลา 3 เดือน ตั้งแต่วันที่ 3 กรกฎาคมที่ผ่านมา จนถึงวันที่ 2 ตุลาคม ปี 2557 อย่างไรก็ตาม หากผู้ประกอบการไม่เห็นด้วยจะพยายามเจรจาให้ได้การปรับค่าโดยสารลดลงให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้



พล.อ.อ.ประจิน ยันรถไฟฟ้าสายสีม่วงเปิดบริการได้ใน Q1/59

พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า ความคืบหน้าโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ขณะนี้มีความคืบหน้าในการก่อสร้างร้อยละ 63.74 ถือว่าเร็วกว่าแผนร้อยละ 0.59 แต่เนื่องจากสายสีน้ำเงินจะต้องมีการก่อสร้างอุโมงค์ลอดแม่น้ำเจ้าพระยา ดังนั้น การเร่งรัดดำเนินการให้เร็วกว่าแผนในปี 2560 จึง ทำได้ยาก

อย่างไรก็ตาม ในส่วนของโครงการรรถไฟฟ้าสายสีม่วงช่วงบางใหญ่-เตาปูน ซึ่งเป็นจุดเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินมีความคืบหน้าทั้งงานโครงสร้างและระบบรางถึงร้อยละ 99.75 คาดว่าจะสามารถเปิดให้บริการได้ในไตรมาสที่ 1 ของปี 2559 ทั้งนี้ จากการเปิดเดินทั้ง 2 เส้นทาง คาดว่าจะสามารถรองรับผู้โดยสารได้ประมาณ 1 ล้านคนต่อวัน

//-----------------------

รมว.คค.บวงสรวงสิ่งศักดิ์สิทธิ์การก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน


โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 21 กันยายน 2557 12:51 น.


พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม และรองหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นประธานในพิธีบวงสรวงสิ่งศักดิ์สิทธิ์ และทำบุญหัวเจาะอุโมงค์รถไฟฟ้า โครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน สัญญา 2 ช่วงสถานีสนามชัย ถึงสถานีท่าพระ ณ สถานที่ก่อสร้งสถานีอิสรภาพ พร้อมด้วยปลัดกระทรวงคมนาคม ผู้บริหารกระทรวง และผู้แทนบริษัทรับเหมาก่อสร้าง ร่วมในพิธี
ทั้งนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้ร่วมพิธีบวงสรวง ประกอบพิธีสงฆ์ และเดินตรวจเยี่ยมการก่อสร้างในพื้นที่ก่อสร้างสถานีอิสรภาพ หลังจากนั้นได้เดินทางไปยังวัดกัลยาณมิตร เพื่อกราบสักการะหลวงพ่อโต สิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำวัด และเยี่ยมชมหัวขุดเจาะอุโมงค์รถไฟฟ้า ที่พื้นที่ก่อสร้าง บริเวณใกล้เคียงวัดดังกล่าวด้วย
สำหรับโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน สัญญา 2 มีความคืบหน้าประจำเดือนสิงหาคม กว่าร้อยละ 63.74 ซึ่งเร็วกว่าที่กำหนดไว้ ร้อยละ 0.59 โดยคาดว่าจะแล้วเสร็จทั้ง 5 สัญญา ภายในปี 2560

//---------------------

บวงสรวงขุดอุโมงค์ลอดเจ้าพระยารอบที่3
ข่าวค่ำ ตรงประเด็น
Now TV
วันที่ 21 กันยายน 2557

"ประจิน" จ่อคุยปรับค่าโดยสารรถสาธารณะ 27 กย.
พล.อ.อ. ประจิน จั่นตอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยถึงกรณีผู้ประกอบการขนส่งสาธารณะเรียกร้องขอขึ้นค่าโดยสาร หลังได้รับผลกระทบจากการปรับโครงสร้างราคาพลังงาน ทำให้น้ำมันดีเซล แอลพีจี และเอ็นจีวีปรับสูงขึ้น โดยกระทรวงคมนาคมเชิญผู้ประกอบการขนส่งทางบกทุกประเภท พร้อมหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้อง เช่น ขสมก. บขส. รฟท. ร่วมชี้แจงปัญหา อุปสรรคในการทำงานและหารือร่วมกับภาคเอกชนถึงโครงสร้างราคาที่เหมาะสม นอกจากนี้กระทรวงคมนาคมยังเชิญผู้ประกอบการขนส่งทางอากาศและทางน้ำ พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมหารือและชี้แจงปัญหาในวันที่ 4 ตุลาคมและ 11 ตุลาคมตามลำดับ

พล.อ.อ.ประจิน ระบุว่า กรณีค่าโดยสารของรถไฟฟ้าใต้ดินที่ตรึงราคามาจะครบกำหนดในสิ้นเดือนกันยายนนี้ ก็จะมีการหารือกันในวันที่ 27 กันยายนนี้ด้วย โดยเบื้องต้นกระทรวงคมนาคมต้องการให้ยืดเวลาการขยับขึ้นราคาออกไปให้นานที่สุด หรืออย่างน้อยภายในสิ้นปี 2557 โดยหากไม่สามารถยืดระยะเวลาการขึ้นค่าโดยสารได้ ก็จะต้องขยับขึ้นให้น้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้

//-----------------

"พล.อ.อ.ประจิน" ตรวจความคืบหน้าโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน มั่นใจเสร็จปี 2562 ตามแผน
มติชน
วันที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2557 เวลา 21:21:40 น.



พลอากาศเอก ประจิน จั่นตอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม พร้อมผู้บริหารการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทยหรือ รฟม.และผู้บริหารบริษัท ช.การช่าง จำกัดมหาชนได้ร่วมพิธีบวงสรวงสิ่งศักดิ์สิทธิ์ และทำบุญ หัวเจาะอุโมงค์รถไฟฟ้าโครงการสายสีน้ำเงิน สัญญาที่ 2 ช่วงสถานีสนามชัยถึงสถานีท่าพระ โดยโครงการดังกล่าวเป็นการเจาะอุโมงค์ลอดผ่านแม่น้ำเจ้าพระยา ช่วงวัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหาร


ซึ่งภายหลังร่วมงานดังกล่าว พลอากาศเอก ประจิน พร้อมคณะได้เดินทางไปตรวจความคืบหน้าที่สถานีเตาปูน โดย รมว.คมนาคม กล่าวถึงโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินว่ามีความคืบหน้าร้อยละ 63.74 ถือว่าเร็วกว่าแผนร้อยละ 0.59 แต่เนื่องจากโครงการดังกล่าวมีการก่อสร้างอุโมงค์ลอดแม่น้ำเจ้าพระยาจึงอาจจะล่าข้าไปบ้างแต่ยืนยันว่าจะสามารถก่อสร้างเสร็จตามแผนในปี2562

ส่วนโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วงช่วงบางใหญ่-บางซื่อ ขณะนี้ความคืบหน้ามีถึงร้อยละ 99.75 คาดว่าจะสามารถเปิดให้บริการได้ภายในไตรมาสแรกของปี 2559 นอกจากนี้ ในวันที่ 27 กันยายน จะมีการทำเวิร์คช็อปเพื่อพิจารณาราคาค่าโดยสารรถไฟฟ้าทั้งระบบเนื่องจากขณะนี้มีผู้ประกอบการขอขึ้นค่าโดยสารซึ่งเรื่องดังกล่าวต้องมีการพิจารณาร่วมกัน

[Wisarut]

คนกรุงเตรียมเฮ! “ประจิน” จ่อเจรจาชะลอขึ้นค่าโดยสารรถไฟฟ้าใต้ดินออกไปอีกถึงสิ้นปี
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 21 กันยายน 2557 17:48 น.


ตรึงค่าโดยสารรถใต้ดินถึงสิ้นปี “ประจิน”สั่งสรุปเดินรถสีน้ำเงินต.ค.
โดย ASTVผู้จัดการรายวัน 21 กันยายน 2557 21:37 น.


คนกรุงเตรียมเฮ! “ประจิน” จ่อเจรจาชะลอขึ้นค่าโดยสารรถไฟฟ้าใต้ดินออกไปอีกถึงสิ้นปี
พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม และพล.อ.ยอดยุทธ บุญญาธิการ ประธานคณะกรรมการ (บอร์ด) การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่วประเทศไทย (รฟม.) รวมในพิธีบวงสรวงสิ่งศักดิ์สิทธิ์และทำบุญหัวเจาะอุโมงค์รถไฟฟ้า โครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน สัญญาที่ 2 ช่วงสนามไชย-ท่าพระ บริเวณสถานที่ก่อสร้างสถานีอิสรภาพเมื่อวันที่ 21 กันยายน



“ประจิน” คืนความสุข เตรียมเจรจา BMCL ตรึงค่าโดยสารรถไฟฟ้าใต้ดินต่อถึงสิ้นปี 57 ขีดเส้น ต.ค.สรุปเจรจาหรือประมูลเดินรถส่วนต่อขยายสายสีน้ำเงิน ยอมรับ คตร.ตรวจสอบเพื่อความโปร่งใส ยันเลือกวิธีที่ประชาชนได้ประโยชน์ ถูกกฎกติกาและหลักธรรมาภิบาล ลือ “ยงสิทธิ์” จ่อไขก๊อก หลังถูกร้องเรียนหลายเรื่อง เตรียมประชุม Workshop การขนส่งทางบก, อากาศ, น้ำ แก้ปัญหาทุกมิติ

พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังเป็นประธานพิธีบวงสรวงสิ่งศักดิ์สิทธิ์และทำบุญหัวเจาะอุโมงค์รถไฟฟ้า โครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน สัญญาที่ 2 ช่วงสนามไชย-ท่าพระ บริเวณสถานที่ก่อสร้างสถานีอิสรภาพซึ่งมีความคืบหน้า 63.74% เร็วกว่าแผน 0.59% วันนี้ (21 ก.ย.) ว่า บริเวณนี้เป็นจุดลอดแม่น้ำเจ้าพระยาที่มีความสำคัญและใช้เทคนิคในการก่อสร้างด้านการคำนวณเวลาและการเคลื่อนหัวเจาะกับการก่อสร้างกำแพงคอนกรีตที่มีความแข็งแรงจึงเร่งรัดงานไม่ได้ แต่จะแล้วเสร็จในปี 2559 นอกจากนี้ได้ตรวจเยี่ยมสถานีเตาปูน ซึ่งเป็นสถานีหลักในการเชื่อมต่อกับสายสีน้ำเงินใต้ดิน และสีน้ำเงินส่วนต่อขยายและสายสีม่วง (บางใหญ่-บางซื่อ) เพื่อเตรียมความพร้อมรองรับให้ผู้โดยสารใช้บริการและเปลี่ยนรถได้สะดวกสบาย

ทั้งนี้ ในการพิจารณาคัดเลือกเอกชนเดินรถสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยายนั้น พล.อ.อ.ประจินกล่าวว่า รฟม.จะต้องเร่งรัดพิจารณาวิธีการว่าจะเจรจาหรือประมูลโดยจะต้องสรุปภายในเดือนตุลาคมนี้เพื่อให้สอดคล้องกับงานโยธาที่จะก่อสร้าง แล้วเสร็จในปี 2559 ซึ่งทราบว่าคณะกรรมการติดตามและตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐ (คตร.) ได้เข้ามาตรวจสอบเรื่องนี้สองครั้งแล้ว และได้สรุปผลการตรวจสอบเมื่อวันที่ 19 กันยายนที่ผ่านมา ซึ่ง คตร.มีความเป็นกลาง โดยจะรายงานผลการตรวจสอบต่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้า คสช.และนายกรัฐมนตรี จากนั้นจะให้ข้อมูลต่อมาที่ตนในฐานรองหัวหน้า คสช.ถึงแนวทางที่เหมาะสม หรือจะมีการศึกษาเพิ่มเติมอย่างไร

“หากตรวจสอบแล้วทำให้ รฟม.ดำเนินงานมีความชัดเจนโปร่งใส แล้วโครงการอาจล่าช้าออกไปบ้างก็สามารถรับได้ โดยขณะนี้ขั้นตอนการพิจารณาอยู่ในอำนาจของคณะกรรมการตามมาตรา 13 แห่งพระราชบัญญัติการให้เอกชนเข้าร่วมงานหรือดำเนินงานในกิจการของรัฐ พ.ศ. 2535 (พ.ร.บ.ร่วมทุนฯ 35) ซึ่งต้องให้คณะกรรมการทำหน้าที่เต็มที่ก่อน เมื่อสรุปได้ ขั้นต่อไปคือทางกระทรวงจะรับลูกต่อ ซึ่งกรณีเจรจาแล้วทำให้เอกชน คือบริษัท รถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BMCL ได้เปรียบนั้น ในการพิจารณาจะเน้นที่ประชาชนได้เปรียบ คือ เดินทางสะดวกปลอดภัย ได้รับบริการตามมาตรฐานสากล โดยต้องพิจารณากฎกติกา ถูกหลักธรรมาภิบาล การมีส่วนร่วม หลักเหตุผลและโปร่งใสมากที่สุด ส่วน รฟม.จะต้องไม่เอื้อประโยชน์ให้บริษัทใดบริษัทหนึ่ง ผมจะทำทุกอย่างให้ดีที่สุด” พล.อ.อ.ประจินกล่าว

เจรจา BMCL ตรึงขึ้นค่าโดยสารรถไฟฟ้าใต้ดินถึงสิ้นปี 57

ส่วนการปรับขึ้นค่าโดยสารรถไฟฟ้าใต้ดินสายเฉลิมรัชมงคลที่จะครบกำหนดในวันที่ 3 ตุลาคม 2557 นั้น พล.อ.อ.ประจินกล่าวว่า ในหลักของสัญญาสัมปทานร่วมกับเอกชนนั้นต้องทำตามกติกา ซึ่งในเดือนตุลาคมจะปรับขึ้นค่าโดยสารเพิ่มเฉลี่ยสถานีละ 1 บาท บางสถานีจะปรับ 1-2 บาท นโยบายในขณะนี้คือจะขอให้เอกชนชะลอการปรับขึ้นค่าโดยสารออกไปก่อน โดยในวันที่ 27 กันยายนนี้จะเชิญทาง BMCL มาเจรจาเพื่อขอความร่วมมือให้ตรึงการปรับค่าโดยสารออกไปถึงสิ้นเดือนธันวาคมนี้ หรือถ้าไม่ได้อย่างน้อยขอให้ทยอยการปรับขึ้นเพื่อให้เหมาะสมกับภาวะเศรษฐกิจและช่วยแบ่งเบาภาระของประชาชน โดยอัตราค่าโดยสารปัจจุบันเริ่มต้นที่ 16 บาท สูงสุด 40 บาท

ส่วนการเปิดเดินรถสายสีม่วง (บางใหญ่-บางซื่อ) นั้น ทาง BMCL แจ้งว่าขบวนรถจะเข้ามาในปลายปี 2558 แน่นอนและเริ่มทดสองระบบทันที ซึ่งได้ขอให้ BMCL พิจารณาเปิดเดินรถในไตรมาส 1/2559 ได้หรือไม่ โดยล่าสุดทางบริษัทจะเร่งเปิดเดินรถให้เร็วขึ้น 6 เดือนหรือกลางปี 2559 จากแผนจะเปิดเดินรถปลายปี 2559

อย่างไรก็ตาม ในวันที่ 27 กันยายนนี้กระทรวงคมนาคมจะจัดประชุมเชิงปฏิบัติการ (Workshop) สำหรับงานด้านขนส่งทางบก โดยให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมดชี้แจงปัญหา อุปสรรค และทางออกในการทำงาน ตลอดจนข้อร้องเรียน หรือความต้องการของประชาชนเพื่อหาทางออกร่วมกันในการแก้ปัญหาต่างๆ

นอกจากนี้ ในวันที่ 4 ตุลาคมจะจัด Workshop สำหรับหน่วยงานด้านอากาศในทุกมิติ เช่น การท่าอากาศยานฯ วิทยุการบินฯ เป็นต้น เพื่อติดตามงานและแก้ปัญหาอุปสรรคต่างๆ ส่วนการขยายท่าอากาศยานสุวรรณภูมิยังอยู่ในแผนงานของรัฐบาล แต่ระยะเวลาและรายละเอียดอื่นขอเวลาศึกษาและพิจารณารายละเอียดอีกครั้ง ส่วนวันที่ 11 ตุลาคมจะจัด Workshop หน่วยงานด้านน้ำในทุกมิติ เพื่อให้ครบวงจรงานของกระทรวงคมนาคม

“ยงสิทธิ์”“ป่วยกะทันหัน ลือเตรียมยื่นลาออก

รายงานข่าวแจ้งว่า นายยงสิทธิ์ โรจน์ศรีกุล ผู้ว่าการ รฟม. ไม่ได้มาร่วมพิธีและตรวจงานในครั้งนี้ด้วย ซึ่งการสอบถาม พล.อ.ยอดยุทธ บุญญาธิการ ประธานบอร์ด รฟม. แจ้งว่า นายยงสิทธิ์แจ้งลาป่วยกะทันหัน ขณะที่มีอีกกระแสข่าวหนึ่งระบุว่า นายยงสิทธิ์เตรียมยื่นใบลาออกจากผู้ว่าการ รฟม. เนื่องจากมีปัญหาการทำงานหลายเรื่อง ซึ่ง พล.อ.อ.ประจินกล่าวเพียงสั้นๆ ว่า กรณีผู้ว่าฯ รฟม.ลาออกนั้นขอให้เป็นเรื่องของประธานบอร์ด รฟม.ก่อน อย่างไรก็ตาม ล่าสุดนายยงสิทธิ์ถูกร้องเรียนทั้งเรื่องการประมูลก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีเขียวช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต และการพิจารณาคัดเลือกเอกชนเดินรถสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย และในการประชุมบอร์ด รฟม.วันที่ 30 กันยายนนี้ จะมีวาระการประเมินผลการทำงานของนายยงสิทธิ์อีกด้วย

BMCL เดินรถประชาชนได้ประโยชน์

รายงานข่าวจากกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่าการพิจารณาของคณะกรรมการมีความเห็นว่าการเดินรถต่อเนื่อง ของบริษัท BMCL นั้นจะทำให้ประชาชนสามารถเดินทางได้สะดวกและมีความปลอดภัยที่สุด นอกจากนี้การบริหารจัดการในการเดินรถและการบำรุงรักษาจะมีประสิทธิภาพสูงสุด ซึ่งจะทำให้รัฐบาลสามารถกำหนดระยะเวลาการเปิดให้บริการได้อย่างรวดเร็ว และเป็นประโยชน์กับประชาชนสูงสุด ซึ่งเป็นไปตามแผนงาน ดังนั้นการที่ รฟม.เห็นชอบและมีนโยบายในเรื่องการดำเนินการเดินรถต่อเนื่องนั้น จึงเป็นเรื่องที่เป็นประโยชน์กับประชาชนโดยเฉพาะ ไม่มีการเอื้อประโยชน์ให้กับ MBCL แต่อย่างไร

ทั้งนี้ หาก รฟม. มีการดำเนินการเองหรือเปิดให้เอกชนรายอื่นเข้ามาดำเนินการ ก็ต้องมีการกำหนดแผนงานให้มีการเดินรถต่อเนื่องเช่นกัน ซึ่งจะเป็นได้ว่าจะต้องมีบุคลากรเพิ่มขึ้น ทำให้ต้องมีการแบกรับต้นทุนในการบริหารจัดการเพิ่มขึ้น ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบข้อดีและข้อเสียแล้ว การมีนโยบายให้เจรจาากับ BMCL เพื่อให้เดินรถต่อเนื่องนั้นจะเป็นประโยชน์สูงสุดกับประชาชนมากที่สุด และรัฐเองได้ประโยชน์สูงสุดปีะหยัดค่าใช้จ่ายได้กว่า 10,000 ล้านบาท โดยเฉพาะสังคมส่วนรวมจะได้ประโยชน์เพราะสามารถเปิดได้เร็วขึ้นกว่า 1 ปีครึ่ง

"ทางบริษัทBMCL พร้อมที่จะเจรจา และให้การสนับสนุนกับทางรัฐบาล เพื่อต้องการให้ประชาชนได้ใช้ประโยชน์จากรถไฟฟ้า ซึ่งขณะนี้ความพร้อมของสถานีที่ก่อสร้างนั้นก่อสร้างแล้วเสร็จ รอเพียงนำขบวนรถไฟฟ้ามาก็สามารถให้บริการได้ ซึ่งหากยิ่งล่าช้าออกไปขั้นตอนการสั่งซื้อรถไฟฟ้าก็ต้องใช้เวลานานออกไป เพราะรถต้องสั่งผลิตใช้เวลาเป็นปีจึงเปิดให้บริการได้ ดังนั้นจึงอยากจะตัดสินให้จบภายในเดือนตุลาคมนี้ "แหล่งข่าวจากกระทรวงคมนาคมกล่าว.
http://www.youtube.com/watch?feature=player_embedded&v=LbDPiyiuT-s

[Mongwin]

ด่วน! "ยงสิทธิ์ โรนจ์ศรีกุล" ยื่นลาออก ผู้ว่าการรฟม.แล้ว มีผลทันที ไม่ระบุเหตุผล
มติชนออนไลน์ วันที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2557 เวลา 16:32:06 น.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 20 กันยายน นายยงสิทธิ์ โรจน์ศรีกุล ผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย หรือ รฟม. ได้ยื่นหนังสือลาออกจาก ตำแหน่งผู้ว่าการ ต่อบอร์ด รฟม.แล้ว โดยไม่ได้ระบุเหตุผลที่ขอลาออก มีผลทันที

[Mongwin]

'ประจิน' เร่ง รฟม.สรุปเดินรถสีน้ำเงินส่วนต่อขยายภายใน ต.ค.
โดย ทีมข่าวไทยรัฐออนไลน์ 22 ก.ย. 2557 16:20

"ประจิน" เร่ง รฟม.สรุปเดินรถสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยายภายในเดือน ต.ค.นี้ ย้ำต้องโปร่งใส ขณะที่บีเอ็มซีแอล คาดขาดทุนปีนี้น้อยลงจากปีที่แล้ว เหตุผู้โดยสารเพิ่มขึ้น ดันรายได้โต 10% เชื่อเปิดสายสีม่วงปี 59 จะเริ่มมีกำไร...

เมื่อวันที่ 22 ก.ย. พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ระบุการพิจารณาคัดเลือกเอกชน เดินรถสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย ว่า รฟม.จะต้องเร่งรัดพิจารณาวิธีการว่าจะเจรจาหรือประมูล โดยจะต้องสรุปภายในเดือนต.ค.นี้ เพื่อให้สอดคล้องกับงานโยธาที่จะก่อสร้าง แล้วเสร็จในปี 2559 ซึ่งทราบว่าคณะกรรมการติดตามและตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐ (คตร.) ได้เข้ามาตรวจสอบเรื่องนี้ 2 ครั้งแล้ว และได้สรุปผลการตรวจสอบเมื่อวันที่ 19 ก.ย.ที่ผ่านมา ซึ่ง คตร.มีความเป็นกลาง โดยจะรายงานผลการตรวจสอบต่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคสช.และนายกรัฐมนตรี ก่อนเสนอแนวทางที่เหมาะสมหรือการศึกษาเพิ่มเติมมายังตนอีกครั้งหนึ่ง

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ขั้นตอนการพิจารณาอยู่ในอำนาจของคณะกรรมการตามมาตรา 13 แห่ง พ.ร.บ.การให้เอกชนเข้าร่วมงานหรือดำเนินงานในกิจการของรัฐ พ.ศ. 2535 (พ.ร.บ.ร่วมทุนฯ 35) ซึ่งต้องให้คณะกรรมการทำหน้าที่เต็มที่ก่อน เพื่อให้ได้ข้อสรุป ส่วนขั้นต่อไปคือทางกระทรวงจะรับลูกต่อ ซึ่งในการพิจารณาจะเน้นที่ประชาชนได้เปรียบ คือ เดินทางสะดวกปลอดภัย ได้รับบริการตามมาตรฐานสากล โดยต้องพิจารณากฎกติกา ถูกหลักธรรมาภิบาล การมีส่วนร่วม หลักเหตุผลและโปร่งใสมากที่สุด ส่วน รฟม.จะต้องไม่เอื้อประโยชน์ให้บริษัทใดบริษัทหนึ่ง

ด้านนายสมบัติ กิจจาลักษณ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท รถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BMCL เปิดเผยว่า แนวโน้มการดำเนินงานของบริษัทในปี 57 ว่า คาดว่าในภาพรวมจะขาดทุนลดลงจากปีก่อนไม่ต่ำกว่า 20% โดยปี 2556 ขาดทุนประมาณ 800 ล้านบาทเนื่องจากในปีนี้ภาพรวมจำนวนผู้โดยสารเติบโตจากปีก่อนประมาณ 5-6% โดยผู้โดยสารเฉลี่ยอยู่ที่ 2.7-2.8 แสนคนต่อวัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 4-5% ทำให้รายได้เติบโตที่ประมาณ 10% ขณะที่ค่าใช้จ่ายเท่าเดิมและมีต้นทุนทางการเงินในเรื่องดอกเบี้ยลดลง

ทั้งนี้ สาเหตุหนึ่งที่ทำให้รายได้เพิ่มถึง 10% เนื่องจากผู้โดยสารเดินทางระยะทางไกลขึ้น ส่วนรายได้จากกิจกรรมเชิงพาณิชย์ในปีนี้จะเพิ่มขึ้น 10% จากปีก่อนที่มีรายได้ 400 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม เมื่อรถไฟฟ้าสายสีม่วง (บางใหญ่-บางซื่อ) เปิดให้บริการช่วงปี 2559 ก่อน เชื่อว่าจะเริ่มมีกำไร.

[Wisarut]

"บิ๊กจิน" สั่งตรึงค่าโดยสารรถไฟใต้ดินถึง ธ.ค.นี้ เร่ง รฟม.เปิดหวูดสายสีม่วง-สีน้ำเงินเร็วขึ้นกว่าแผน
ประชาชาติธุรกิจออนไลน์
22 กันยายน 2557 เวลา 09:30:51 น.


พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า เพื่อเป็นการลดค่าครองชีพของคนกรุงเทพฯ ในวันที่ 27 กันยายนนี้จะเชิญทุกภาคส่วนมาหารือ รวมถึงบริษัท รถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือบีเอ็มซีแอล ผู้รับสัมปทานเดินรถไฟฟ้าใต้ดินมาหารือเรื่องการตรึงค่าโดยสารใหม่ที่บริษัทครบกำหนดจะจัดเก็บ 16-42 บาท ออกไปอีกถึงสิ้นเดือนธันวาคมนี้ เพื่อเป็นการคืนความสุขให้คนกรุงเทพฯ

"บริษัทขยายมาให้ 3 เดือนจะครบวันที่ 2 ตุลาคมนี้ เป็นสิทธิของบริษัทที่จะปรับค่าโดยสารตามสัญญา แต่ก็อยากจะให้ขยายออกไปอีกอย่างน้อยถึงเดือนธันวาคมนี้ หากบริษัทไม่เห็นด้วยจะเจรจาให้ลดราคาให้ได้มากที่สุดจากเดิมจะปรับขึ้นเฉลี่ย 1-2 บาทต่อสถานี"

พล.อ.อ.ประจินกล่าวอีกว่า สำหรับความคืบหน้าการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน (บางซื่อ-ท่าพระและหัวลำโพง-บางแค) โดยภาพรวมงานก่อสร้างเดินหน้าไปด้วยดี งานโยธาจะแล้วเสร็จในปี 2559 ส่วนการเดินรถทางการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) อยู่ระหว่างดำเนินการพิจารณาโดยคณะกรรมการมาตรา 13 จะเจรจากับบริษัทบีเอ็มซีแอลรายเดิมหรือจะเปิดประมูลใหม่ จะเร่งให้ได้ข้อสรุปปลายเดือนกันยายน-ตุลาคมนี้ เพื่อเร่งการเปิดใช้บริการเป็นไปตามแผนในปี 2560

ส่วนสายสีม่วง (บางซื่อ-บางใหญ่) การก่อสร้างใกล้จะเสร็จ 100% เหลือการเดินรถไฟฟ้าที่บริษัทบีเอ็มซีแอลกำลังเร่งรัดการผลิตรถเพื่อให้นำมาทดลองวิ่งบริการปลายปี 2558 คาดว่าพร้อมเปิดให้บริการเต็มรูปแบบได้เร็วขึ้น 6 เดือนจากปลายปีเป็นกลางปี 2559

//------------------------------------------------------------------

BMCL พร้อมชงบอร์ดพิจารณาข้อเสนอ “บิ๊กจิน” ชะลอปรับขึ้นค่ารถไฟฟ้าใต้ดิน
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 22 กันยายน 2557 11:46 น.

BMCL รอฟังข้อเสนอคมนาคมชะลอปรับค่าโดยสารรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT เผยปี 57 ก่อนชงบอร์ดพิจารณา เผยผลประกอบการปี 57 แนวโน้มขาดทุนลดลงไม่ต่ำกว่า 20% เหตุจำนวนผู้โดยสารเพิ่ม 5-6% รายได้เชิงพาณิชย์เพิ่ม ดันรายได้รวมโต 10%

นายสมบัติ กิจจาลักษณ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท รถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BMCL เปิดเผยว่า ยังไม่ทราบเรื่องที่กระทรวงคมนาคมจะเจรจาเพื่อขอให้ตรึงค่าโดยสารรถไฟฟ้าใต้ดินออกไปถึงสิ้นปีนี้ ซึ่งคงต้องรอการเจรจาเป็นทางการก่อนและต้องเสนอที่ประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) บริษัทพิจารณาด้วย จึงยังตอบไม่ได้ ซึ่งในส่วนของบริษัทได้ให้ความร่วมมือกับทาง คสช.ที่ขอให้ชะลอการปรับขึ้นค่าโดยสารตามสัญญามาแล้วครั้งหนึ่ง

ส่วนแนวโน้มการดำเนินงานของบริษัทในปี 2557 (ม.ค.-ธ.ค.) คาดว่าในภาพรวมจะขาดทุนลดลงจากปีก่อนไม่ต่ำกว่า 20% โดยปี 2556 ขาดทุนประมาณ 800 ล้านบาท เนื่องจากในปีนี้ภาพรวมจำนวนผู้โดยสารเติบโตจากปีก่อนประมาณ 5-6% โดยผู้โดยสารเฉลี่ยอยู่ที่ 2.7-2.8 แสนคนต่อวัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 4-5% ทำให้รายได้เติบโตที่ประมาณ 10% ขณะที่ค่าใช้จ่ายเท่าเดิมและมีต้นทุนทางการเงินในเรื่องดอกเบี้ยลดลง

ทั้งนี้ สาเหตุหนึ่งที่ทำให้รายได้เพิ่มถึง 10% เนื่องจากผู้โดยสารเดินทางระยะทางไกลขึ้น ส่วนรายได้จากกิจกรรมเชิงพาณิชย์ในปีนี้จะเพิ่มขึ้น 10% จากปีก่อนที่มีรายได้ 400 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม เมื่อรถไฟฟ้าสายสีม่วง (บางใหญ่-บางซื่อ) เปิดให้บริการช่วงปี 2559 เชื่อว่าจะเริ่มมีกำไร