RailServe.Com

Main Menu

 
icon_home.gif Homepage
icon_community.gif Members Zone
· ข้อมูลส่วนตัว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ข่าวสารส่วนตัว
· บริการเว็บเมล์
· กระดานข่าว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก กระดานฝากข้อความ
· รถไฟไทยแกลลอรี่
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก รายนามสมาชิก
· แบบสำรวจ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก สมุดเยี่ยม
· เกี่ยวกับสมาชิก
favoritos.gif News & Stories
· เรื่องทั้งหมด
· เนื้อหาสาระ
· เรื่องสำหรับพิมพ์
· ยอดฮิตติดอันดับ
· ค้นหาข่าวสาร
· ค้นหากระทู้เก่า
nuke.gif Contents
· กำหนดเวลาเดินรถ
· ประเภทขบวนรถโดยสาร
· ข้อมูลเส้นทางรถไฟ
· แผนที่เส้นทางรถไฟ
· อัตราค่าโดยสาร
· คำนวณค่าโดยสารรถไฟ
· รูปแบบการให้บริการรถไฟ
· หมายเลขโทรศัพท์ที่สำคัญ
· ทริปท่องเที่ยวโดยรถไฟ
· ระบบติดตามขบวนรถ
som_downloads.gif Services
· Downloads
· GoogleSearch
· Hotels Booking
· FlashGames
· Wallpaper 1
· Wallpaper 2
· Wallpaper 3
· Wallpaper 4
icon_members.gif Information
· เกี่ยวกับเรา
· นโยบายความเป็นส่วนตัว
· แผนผังเว็บไซต์ฯ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ส่งข้อแนะนำติชม
· ติดต่อลงโฆษณา
· แนะนำและบอกต่อ
· สถิติทั้งหมด
· สำหรับผู้ดูแลระบบ
 

Sponsors

 

Rotfaithai Gallery in Facebook

 

Visitors

 


มีผู้เข้าเยี่ยมชม
สมาชิก:311234
ทั่วไป:13180282
ทั้งหมด:13491516
คน ตั้งแต่
01-08-2004
 


Rotfaithai.Com :: View topic - ปัญหาที่จะเกิดในอนาคตของ ARL !!!
 Forum FAQForum FAQ   SearchSearch   UsergroupsUsergroups   ProfileProfile   Log in to check your private messagesLog in to check your private messages   Log inLog in 

ปัญหาที่จะเกิดในอนาคตของ ARL !!!
Goto page Previous  1, 2, 3 ... , 34, 35, 36  Next
 
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> รถไฟฟ้าท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ARL)
View previous topic :: View next topic  
Author Message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42624
Location: NECTEC

PostPosted: 15/09/2014 3:36 am    Post subject: Reply with quote

'ประยุทธ์' เหน็บ แอร์พอร์ตลิงค์เสียบ่อย จี้รีบซ่อมด่วน
โดย ไทยรัฐออนไลน์ 12 ก.ย. 2557 15:00


พล.อ.ประยุทธ์ จี้ผู้บริหารรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงค์รีบซ่อม หลังขัดข้องบ่อย เหน็บพอคนไม่มาใช้ บอกคนใช้น้อย แต่พอใช้เยอะ กลับบอกว่ารถเสีย...

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันนี้ (12 กันยายน 2557) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้แถลงนโยบายของรัฐบาลต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) โดยใจความในตอนหนึ่งของ พล.อ.ประยุทธ์ ได้กล่าวถึงการให้บริการด้านคมนาคมแก่ประชาชน ว่า “กรณีของแอร์พอร์ตลิงค์ให้ไปรีบซ่อม วันนี้คนใช้บริการเยอะขึ้น พอคนไม่มาใช้ก็บอกว่าคนใช้น้อย แต่พอเขามาใช้เยอะก็บอกว่ารถเสีย ก็ต้องไปรีบซ่อมซะ มันน่าจะเอาคนที่รับผิดชอบมายืนบนรางรถไฟนะ”

ทั้งนี้ สืบเนื่องมาจากในช่วงที่ผ่านมา รถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงค์เกิดการขัดข้องอยู่บ่อยครั้ง จนเป็นผลให้ผู้โดยสารต้องเสียเวลารอรถนานกว่าที่ควรจะเป็น และยังตกเป็นข้อถกเถียงจากฝ่ายต่างๆ ถึงมาตรฐานความปลอดภัยในการให้บริการเดินรถไฟฟ้าอีกด้วย.
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42624
Location: NECTEC

PostPosted: 17/09/2014 7:12 pm    Post subject: Reply with quote

แอร์พอร์ตลิงก์ของไทย จะหยุดวิ่งหรือไม่?
Smart TV
วันที่ 15 กันยายน 2557 เวลา 14:14 น.


นายภากรณ์ ตั้งเจตสกาว รองผู้ว่าการด้านโครงสร้างพื้นฐาน 1 การรถไฟแห่งประเทศไทย ฐานะรักษาการกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท รถไฟฟ้า จำกัด เปิดเผยว่า ภายในสัปดาห์นี้จะมีความชัดเจนว่ารถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงก์จะต้องหยุดให้บริการหรือไม่ โดยต้องยอมรับว่าปัจจุบันรถที่มีความพร้อมสามารถนำออกให้บริการได้มีเหลือเพียง 5 ขบวน จากที่มีรถทั้งหมด 9 ขบวน และภายใน 2 เดือนนี้รถทั้ง 9 ขบวนจะวิ่งครบ 1.3 ล้านกิโลเมตร

“คงยังตอบไม่ได้ว่าจะหยุดวิ่งหรือไม่ ตอนนี้ 50:50 ต้องรอดูผลก่อนว่าจะหาซื้ออะไหล่เร่งด่วนมาเปลี่ยนรถ 5 ขบวนก่อนได้หรือไม่ ถ้าได้ก็ยังพอจะให้บริการต่อไปได้ ส่วนอุปกรณ์บางตัว เช่น ลูกยาง ต้องส่งไปทดสอบที่มาเลเซียว่าเมื่อใช้งานมาครบ 1.3 ล้านกิโลเมตรแล้วยังสามารถใช้งานต่อได้หรือไม่ ทุกอย่างต้องเป็นไปตามคู่มือปฏิบัติด้านความปลอดภัยเพราะถ้านำรถออกวิ่งแล้วเกิดปัญหาไม่คุ้ม เลือกหยุดให้บริการดีกว่า พอซ่อมบำรุงใหญ่เสร็จก็กลับมาให้บริการใหม่ได้” นายภากรณ์กล่าว

สาเหตุนี้ ต้องยอมรับว่าเป็นผลมาจากการทำงานของผู้บริหารก่อนหน้านี้ที่ไม่ตัดสินใจเรื่องของการซ่อมบำรุงในช่วงที่มีเวลา และตอนนี้ทางซีเมนส์ ซึ่งเป็นผู้ผลิตรถ ไม่มีอะไหล่ไว้สำรอง ต้องมีคำสั่งซื้อก่อนจึงจะผลิตให้ ซึ่งต้องใช้เวลา 7-8 เดือน ขณะนี้มีเพียงที่ประเทศอังกฤษเท่านั้น ที่ใช้รถรุ่นเดียวกับแอร์พอร์ตลิงก์ของไทย โดยคณะกรรมการฯ จะตรวจสอบว่าอะไหล่ดังกล่าวจะสามารถนำมาใช้ทดแทนกันได้หรือไม่ และทางอังกฤษมีอะไหล่ที่จะขายให้หรืออาจจะใช้วิธีการยืมก็ได้ แต่หากไม่สามารถหาอะไหล่จำเป็นเพื่อนำมาปรับเปลี่ยนเร่งด่วนได้ก่อน จำเป็นต้องหยุดให้บริการรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงก์เป็นการชั่วคราว ก่อนรอการซ่อมบำรุงใหญ่นี้ ซึ่งประเมินเวลาว่า อาจจะใช้เวลาซ่อมบำรุงใหญ่ไม่น้อยกว่า 1 ปีแน่นอน โดยจะต้องใช้เวลาจัดซื้อจัดจ้างประมาณ 5 เดือน เมื่อได้ผู้ชนะประมูลแล้วจะต้องสั่งซื้ออะไหล่อีก 7-8 เดือน และทำการซ่อมแซมอีก 2-4 เดือนรวมแล้วอย่างน้อย 1 ปี

หากถึงเกณฑ์ที่ต้องซ่อมบำรุงแล้วไม่ได้ซ่อม ก็จะไม่สามารถนำรถออกวิ่งได้แน่นอนเพราะไม่มีวิศวกรคนไหนกล้าเซ็นรับรอง ซึ่งในขณะนี้มีทางเลือกเดียว คือ หาอะไหล่จำเป็นเร่งด่วนให้ได้ ถ้าไม่ได้ก็คงต้องหยุดวิ่ง โดยภายในวันที่ 19 กันยายนนี้จะรู้ว่าจะต้องหยุดวิ่งหรือไม่
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42624
Location: NECTEC

PostPosted: 18/09/2014 6:28 pm    Post subject: Reply with quote

'ภากรณ์' เร่งสางปัญหา 'แอร์พอร์ตลิงก์' ลั่นไม่ปลอดภัย ห้ามวิ่ง
โดย ทีมข่าวไทยรัฐออนไลน์ 17 ก.ย. 2557 15:03


รักษาการเอ็มดีแอร์พอร์ตลิงก์ ยันรถวิ่งปกติจนถึงหลังปีใหม่ ระหว่างรอซ่อมบำรุงใหญ่ ย้ำยึดความปลอดภัยเป็นหลัก แม้ขณะนี้จะวิ่งไปซ่อมไป นำอะไหล่มาปะผุตามข้อจำกัด เร่งสางปัญหาในอดีตที่ปล่อยปละ ลุยซ่อมราง แก้เรื่องคนต่อ...

เมื่อวันที่ 17 ก.ย. นายภากรณ์ ตั้งเจตสกาว รองผู้ว่า การรถไฟแห่งประเทศไทย ในฐานะรักษาการกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด เปิดเผย"ไทยรัฐออนไลน์" ยืนยันรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงก์เปิดวิ่งตามปกติจนถึงหลังปีใหม่ โดยไม่หยุดวิ่งหลังมีกระแสข่าวในโซเชียลเน็ตเวิร์ก ซึ่งการให้บริการจะคำนึงเรื่องความปลอดภัยเป็นหลัก จนกว่าจะได้ผู้รับเหมาในการซ่อมบำรุงใหญ่ โดยใช้รถ Express Line และ City Line ที่มีอยู่รวมทั้งหมด 5 ขบวนรองรับผู้โดยสารที่มีเฉลี่ยวันละ 4 -5 หมื่นคน ทั้งนี้ จะพยายามปรับเรื่องความถี่ในการเดินรถไป-กลับให้เร็วขึ้นจาก 1 ชม. พร้อมจัดระเบียบผู้โดยสารไม่ให้กระจุกในการรอขึ้นรถ

อย่างไรก็ตาม ยอมรับเพิ่งมาทำหน้าที่และพบปัญหาที่ค้างคาจำนวนมาก จึงต้องเร่งสะสาง โดยขณะนี้แก้ปัญหาเฉพาะหน้านำอะไหล่ที่อยู่ในสต๊อกระหว่างรอการจัดซื้อลอตใหม่ และนำชิ้นส่วนอะไหล่ที่สำคัญจากรถที่จอดแช่มาซ่อมรถที่วิ่งให้บริการตามแผนประเมินความปลอดภัยที่เราสามารถทำได้ในขณะนี้ ซึ่งในความเป็นจริงการซ่อมบำรุงใหญ่ต้องเริ่มตั้งแต่ครึ่งปีที่แล้ว เนื่องจากรถวิ่งใกล้ครบกำหนด 1.3 ล้านกิโลเมตร ดังนั้นการที่ตนเองออกมาระบุว่ารถจะสามารถวิ่งได้จนถึงหลังปีใหม่ แต่ไม่กล้ารับปากว่าจะวิ่งได้จนถึงช่วงเวลาใดนั้น เพราะต้องรอจนกว่าจะได้ผู้รับเหมาในการซ่อมบำรุงใหญ่ และที่สำคัญต้องคำนึงเรื่องความปลอดภัยเป็นหลัก หากไม่ปลอดภัยจะไม่ให้วิ่งบริการ

"รถ 2 ขบวนจะใช้เวลาซ่อม 2 เดือน เพราะฉะนั้น รถที่มีอยู่ก็วิ่งไปซ่อมไปตามข้อจำกัด มีการนำอะไหล่เก่ามาซ่อมปะผุ มีการทำงานกับผู้เชี่ยวชาญโดยตลอด และต้องดึงคนจากการรถไฟฯ มาช่วย เพราะฝ่ายเทคนิคของแอร์พอร์ตลิงก์บางส่วนได้ลาออกไป ทำให้มีปัญหาเรื่องคน ตรงนี้ผมต้องเข้ามาแก้ไข ถามว่าที่ผ่านมาเป็นความผิดของใคร ที่สร้างปัญหาทิ้งไว้ เมื่อผมเข้ามาต้องมาแก้ปัญหาทีละเรื่อง ดูว่าทำไมคนทำงานในอดีตถึงได้ปล่อยปละละเลย ก็เป็นอย่างที่ ดร.สามารถ ราชพลสิทธิ์ ได้พูดท้วงติงมาก็ถูก"

นอกจากนั้น ในเรื่องของคนที่จะเข้ามาแก้ปัญหาแล้ว แผนต่อไปจะเข้ามาซ่อมรางที่เหลืออีก 6 จุด โดยพบว่าติดปัญหาบริษัทจากเยอรมนีไม่ยอมมาซ่อมต่อ ซึ่งที่ผ่านมาไม่ได้มีการทำสัญญา แต่เป็นการว่าจ้างในลักษณะใบสั่งงาน ซึ่งทางแอร์พอร์ตลิงก์ไม่ได้จ่ายเงินที่ค้างไว้อีกประมาณ 2 ล้านบาท ดังนั้นจะทำเรื่องไปยังกรรมการจัดซื้อจัดจ้างพัสดุของการรถไฟฯ เพื่อขอเบิกจ่ายเงินจำนวนดังกล่าวให้กับบริษัทที่ซ่อมบำรุงราง คาดว่าใช้เวลา 2-3 เดือนในการดำเนินการ รวมถึงซ่อมรางให้แล้วเสร็จต่อไป.
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42624
Location: NECTEC

PostPosted: 22/09/2014 1:47 am    Post subject: Reply with quote

บอร์ดร.ฟ.ท.หารือแก้ปัญหาแอร์พอร์ตลิงค์
ข่าวค่ำ ตรงประเด็น
Now TV
วันที่ 16 กันยายน 2557

หลังจากก่อสร้างเสร็จ และเปิดให้บริการ ก็มีปัญหาเกิดขึ้นเป็นระยะ ๆ อย่างต่อเนื่องตลอดตั้งแต่ปี 2553 จนถึงปัจจุบัน นับครั้งไม่ถ้วน บอร์ดการรถไฟแห่งประเทศไทย ในฐานะบริษัทแม่ของ บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด ผู้ให้บริการรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตเรลลิงค์ ได้มีการหารือตั้งแต่ช่วงบ่ายในการแก้ปัญหาของแอร์พอร์ตลิงค์

แอร์พอร์ตลิงค์ซึ่งมีขบวนรถวิ่งอยู่ 9 ขบวน ต้องหยุดวิ่ง 4 ขบวนเพื่อซ่อมบำรุง รอเปลี่ยนอาหลั่ย ใช้เวลาซ่อมบำรุง 16 วัน/ขบวน ปัจจุบันวิ่งบริการ 5 ขบวน เฉลี่ยรอนาน 20 นาที/ขบวน โดยคาดว่ารถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงค์ทุกขบวนจะกลับมาวิ่งได้ตามปกติในเดือน ม.ค. ปี 2558

สำหรับจำนวนผู้โดยสารรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิ้งค์ ในวันเสาร์- อาทิตย์ เฉลี่ยอยู่ที่ 3.5-4 หมื่นคนต่อวัน ซึ่งไม่มีปัญหาผู้โดยสารตกค้างบนสถานี ส่วนวันปกติผู้โดยสารเฉลี่ยอยู่ที่ 5.3-5.4 หมื่นคนต่อวัน
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42624
Location: NECTEC

PostPosted: 22/09/2014 1:54 am    Post subject: Reply with quote

ย้อนรอยปัญหารถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงค์
Thai PBS
วันพุธที่ 17 กันยายน 2557


นอกจากปัญหาซ่อมบำรุงขบวนรถไฟฟ้า “แอร์พอร์ตลิงค์” ที่อยู่ระหว่างการหาทางออกในเวลานี้ หากย้อนไปตั้งแต่เริ่มก่อสร้างหลายปีก่อนก็จะพบว่า มีอีกหลายเรื่องด้วยกัน

ก่อสร้างยืดเยื้อ...เชื่อมต่อได้แค่สุวรรณภูมิ-มักกะสัน
การก่อสร้างตามแผนจะแล้วเสร็จในปี 2550 แต่ต้องขยายเวลาก่อนสร้างออกไป 2 ครั้ง หรือหลังจากกำหนดเดิม 3 ปี เจตนารมย์เดิมที่ต้องการใช้เป็นการอำนวยความสะดวกผู้โดยสารที่ต้องต่อเครื่องบิน 2 สนามบิน คือ สนามบินสุวรรณภูมิ และสนามบินดอนเมือง ก็ทำได้เพียงเชื่อมสุวรรณภูมิกับเขตเมืองย่านมักกะสัน

การเดินรถไม่เป็นไปตามแผน
รถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงค์ สาย Express Line แต่เดิมที่ไม่ต้องแวะจอด เป็นสายหลัก และมีขบวนรถออกจากสถานีทุก 15 นาที ส่วนสาย City Line บริการ 24 ชั่วโมง แต่ต่อมาทำได้เพียงให้ Express Line ออกทุก 1 ชั่วโมง ขณะที่ปัจจุบัน Express Line ต้องยุติให้บริการชั่วคราว และ City Line เปิดให้บริการ 06.00 - 24.00 น.

ยอดผู้โดยสารไม่ตามเป้าหมาย-เกิดปัญหาภายในองค์กร
และเมื่อผ่านไป 5 ปี จำนวนผู้โดยสารมีจำนวนไม่ถึงครึ่งของเป้าหมาย ซึ่งส่งผลถึงรายได้ และความไม่ตรงเวลา ความไม่สะดวกของทางขึ้นลงก็เป็นปัญหาที่ทำให้ไม่ได้รับความนิยม นอกจากนี้ ยังมีปัญหาภายในของการบริหารระหว่างบริษัทแม่และลูก เป็นเหตุให้เกิดปัญหางบประมาณ และพนักงานขาดขวัญกำลังใจ
http://www.youtube.com/watch?v=o9-y6pn5Oqc

//----------------------------

อุปสรรคในการบริหารแอร์พอร์ตลิงค์
Thai PBS
วันศุกร์ที่ 19 กันยายน 2557


การบริหารแอร์พอร์ตลิงค์ที่ดำเนินการล่าช้าในหลายเรื่อง สาเหตุหนึ่งน่าจะมาจากโครงสร้างที่อยู่ภายใต้การกำกับของการรถไฟแห่งประเทศไทย ที่ไม่มีแผนล่วงหน้าในการจัดซื้ออะไหล่และซ่อมบำรุงตามวงรอบ ทำให้ขบวนรถไฟที่มีอยู่ 9 ขบวน สามารถให้บริการได้แค่ 5 ขบวน


นายออมสิน ชีวะพฤกษ์ ประธานบอร์ดการรถไฟแห่งประเทศไทย ระบุว่าการแก้ปัญหาแอร์พอร์ตลิงค์ในขณะนี้คือนำอะไหล่จากรถคันอื่นมาใช้ระหว่างรอการจัดซื้อจัดจ้าง ซึ่งอะไหล่จะทยอยมาถึงจนครบในไตรมาสแรกของปี 2560 แต่จะให้ความสำคัญกับความปลอดภัยการเดินรถ นอกจากนี้แอร์พอร์ตลิงค์ยังมีปัญหาการดูแลระบบราง ขบวนรถ ระบบสื่อสัญญาณ ซึ่งนายพีรกันต์ แก้ววงศ์วัฒนา อดีตกรรมการผู้อำนวยการใหญ่แอร์พอร์ตลิงค์ เห็นว่าหากดำเนินแผนซ่อมตามกำหนดเวลาจะไม่เกิดปัญหา

การบริหารแอร์พอร์ตลิงค์ ที่ดำเนินการล่าช้าในหลายเรื่อง ประธานบอร์ดการรถไฟแห่งประเทศไทย เห็นว่าอาจให้แอร์พอร์ตลิงค์แยกออกจากการรถไฟ ทั้งนี้ ปัจจุบันแอร์พอร์ตลิงค์ให้บริการอยู่ 5 ขบวน จาก 9 ขบวน และใช้การปรับการเดินรถในชั่วโมงเร่งด่วนเป็น 15 นาที ต่อขบวน ส่วนช่วงธรรมดาเป็น 20 นาที ต่อขบวน เพื่อรองรับผู้โดยสาร ที่ผ่านมาแอร์พอร์ตลิงค์มีผู้ใช้บริการวันละ 54,000 คน มีรายได้ปีละประมาณ 500 ล้านบาท แต่มีรายจ่ายปีละ 1,000 ล้านบาท ล่าสุดที่ประชุมคณะกรรมการการรถไฟ อนุมัติซื้อแอร์พอร์ตลิงค์อีก 7 ขบวน วงเงิน 48,000 ล้านบาท ซึ่งบอร์ดการรถไฟมั่นใจว่าจะทำให้สถานการณ์การขาดทุนของแอร์พอร์ตลิงค์จะดีขึ้น

สอดคล้องกับความเห็นของอดีตกรรมการผู้อำนวยการใหญ่แอร์พอร์ตลิงค์ ที่ระบุว่าการเพิ่มขบวนรถจะรองรับประชาชนได้มากขึ้่นวันละ 150,000 คน พร้อมยืนยันว่าแอร์พอร์ตลิงค์ เป็นระบบคมนาคมที่ตอบโจทย์การเดินทางของประชาชนจากฝั่งทางตะวันออกเข้ามาในเมือง แต่ปัญหาสำคัญคือการบริหารจัดการที่ยังล่าช้าและอยู่ภายใต้บริหารและตัดสินใจของการรถไฟแห่งประเทศไทย ซึ่งสิ่งสำคัญคือควรปรับโครงสร้างการบริหาร
http://www.youtube.com/watch?v=qNStWqdoOgE
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42624
Location: NECTEC

PostPosted: 24/09/2014 1:32 am    Post subject: Reply with quote

แอร์พอร์ตลิ้งค์ชงคมนาคมเคาะแยกบริหาร ชี้ร.ฟ.ท.ถ่วงจัดซื้อจัดจ้างล่าช้ากระทบบริการ


โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 23 กันยายน 2557 18:45 น.



แอร์พอร์ตลิ้งค์ เตรียมชง”ประจิน”ขอแยกอำนาจบริหาร ทรัพย์สิน หนี้สิน ออกจาก ร.ฟ.ท. แก้ปัญหาเบ็ดเสร็จ เผยร.ฟ.ท.รวบอำนาจทำจัดซื้อจัดจ้างล่าช้ากระทบการเดินรถ ระบุร.ฟ.ท.ยังคงถือหุ้น 100% “ธวัชชัย”เผยหารือ “สร้อยทิพย์-ออมสิน”แล้วเห็นด้วย แถมปิ๊งไอเดีย ขอเปลี่ยนซื้อรถใหม่ 7 ขบวนเป็นเช่าแทน ชี้ให้เอกชนลงทุนลดภาระภาครัฐกว่า 4.8 พันล. แถมคุมห้ามรถเสียได้ด้วย

พล.อ.ธวัชชัย สมุทรสาคร ประธานคณะกรรมการ (บอร์ด) บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัดผู้ให้บริการรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิ้งค์ เปิดเผยว่า ที่ประชุมบอร์ดแอร์พอร์ตลิ้งค์เมื่อวันที่ 22 กันยายนที่ผ่านมา ได้มีมติที่จะเสนอขอแยกการบริหารงานและการจัดเก็บรายได้ของบริษัท ออกจากการรถไฟแห่งประเทศไทย(ร.ฟ.ท.) ซึ่งเป็นบริษัทแม่ โดยร.ฟ.ท.ยังคงถือหุ้น 100 % โดยขออำนาจในเรื่องงบประมาณ การจัดซื้อจัดจ้าง บุคลากร เพื่อทำให้แอร์พอร์ตลิ้งค์มีความคล่องตัวในการบริหารงาน การจัดซื้อจัดจ้างไม่ล่าช้าและเกิดปัญหากระทบต่อการเดินรถเหมือนในปัจจุบัน โดยหากมีกำไรจะนำส่งร.ฟ.ท.ตามปกติ แต่หากขาดทุน แอร์พอร์ตลิ้งค์ต้องรับผิอชอบเอง

โดยเรื่องนี้ได้หารือร่วมกับนายออมสิน ชีวะพฤกษ์ ประธานบอร์ดร.ฟ.ท. และนางสร้อยทิพย์ ไตรสุทธิ์ ปลัดกระทรวงคมนาคมแล้ว ซึ่งเห็นด้วย ดังนั้นในขณะนี้จึงเร่งทำแผนเพื่อนำเสนอตามขั้นตอน คือ บอร์ดร.ฟ.ท. หากเห็นชอบจะเสนอไปยัง พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมเพื่อพิจารณาและเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาอนุมัติต่อไป

“ตอนนี้ พยายามแก้ปัญหาเฉพาะหน้าโดยมอบอำนาจให้แอร์พอร์ตลิ้งค์จัดซื้ออะไหล่เร่งด่วนได้เลย ซึ่งไม่สามารถแก้ปัญหาได้เบ็ดเสร็จและในอนาคตจะเกิดปัญหาซ้ำแบบเดิมอีก ดังนั้น หากแยกอำนาจการบริหารให้ชัดเจนจะเป็นผลดีต่อแอร์พอร์ตลิ้งค์ในระยะยาวมากกว่า”พล.อ.ธวัชชัยกล่าว

นอกจากนี้ บอร์ดได้รับทราบรายงานความคืบหน้าการแก้ปัญหาการให้บริการรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิ้งค์ ซึ่งยืนยันว่า จะไม่มีการหยุดเดินรถ โดยการซ่อมบำรุงบางส่วน (Partial Overhaul) ระหว่างรอการซ่อมบำรุงใหญ่ ( Overhaul) สามารถดำเนินการได้ตามแผนและมีรถสำหรับวิ่งให้บริการ 4 ขบวนและเพิ่มอีก 2 ขบวนในชั่วโมงเร่งด่วนรวมเป็น 6 ขบวน

พล.อ.ธวัชชัยกล่าวว่า แนวทางในการบริหารแอร์พอร์ตลิ้งค์หลังจากนี้ เห็นว่างานส่วนใหญ่รวมถึงการเดินรถควรจะจ้างแรงงานภายนอก (Outsource) เข้ามาเพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายของภาครัฐ เช่น การจัดซื้อรถไฟฟ้าใหม่ 7 ขบวน ขบวนละ 4 ตู้ วงเงินรวม 4,855 ล้านบาท ด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์นั้น อาจจะต้องเสนอกลับไปที่ร.ฟ.ท.ใหม่เพื่อขอปรับเปลี่ยนวิธีจากซื้อเป็นเช่าแทนเพื่อลดภาระ โดยสามารถให้เอกชนเป็นผู้ลงทุนจัดหาขบวนรถเข้ามาวิ่งให้บริการพร้อมรับผิดชอบค่าบำรุงรักษา ภายใต้สัญญาเช่าใช้รางที่รัฐเป็นเจ้าของ และหากไม่สามารถให้บริการเดินรถได้ตามสัญญาก็จะต้องถูกปรับ ซึ่งนอกจากประหยัดงบประมาณได้กว่า 4,800 ล้านบาทแล้ว ยังมีความมั่นใจในเรื่องการเดินรถด้วย เพราะรัฐเป็นเจ้าของรางและมีสัญญาควบคุมการให้บริการ

นอกจากจากนี้ ยังมีแนวคิดว่าควรให้เอกชนเข้ามาลงทุนก่อสร้างโครงการแอร์พอร์ตลิ้งค์ส่วนต่อขยาย ทั้งโครงการระบบขนส่งทางรถไฟเชื่อมท่าอากาศยานกรุงเทพ (ดอนเมือง)- ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ช่วงพญาไท-บางซื่อ-ดอนเมือง (แอร์พอร์ตลิ้งค์ส่วนต่อขยาย) ระยะทาง 21.8 กม. วงเงิน 3.1 หมื่นล้านบาท และส่วนต่อขยายจากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ-ชลบุรี-พัทยา ไปถึง ระยอง แต่คงจะต้องมีการหารือกับร.ฟ.ท.และกระทรวงคมนาคมก่อน โดยเบื้องต้น จะเดินตามแผนเดิมไปก่อน

“ตอนนี้ พยายามแก้ปัญหาเฉพาะหน้าโดยมอบอำนาจให้แอร์พอร์ตลิ้งค์จัดซื้ออะไหล่เร่งด่วนได้เลย ซึ่งไม่สามารถแก้ปัญหาได้เบ็ดเสร็จและในอนาคตจะเกิดปัญหาซ้ำแบบเดิมอีก ดังนั้น หากแยกอำนาจการบริหารให้ชัดเจนจะเป็นผลดีต่อแอร์พอร์ตลิ้งค์ในระยะยาวมากกว่า หลักการง่ายๆ ในการแก้ปัญหาแอร์พอร์ตลิ้งค์คือ ต้องทำให้ประชาชนผู้ใช้บริการพึงพอใจ และมีความตรงต่อเวลา ส่วนกำไรไม่ใช่เรื่องสำคัญ แต่ควรมีรายได้ที่พอเพียงกับค่าใช้จ่ายและการลงทุนในด้านการให้บริการ”พล.อ.ธวัชชัยกล่าว

อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ สถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจศศินทร์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยได้เคยศึกษาแผนการแยก ทรัพย์สินและหนี้สินแอร์พอร์ตลิ้งค์ออกจากกัน และทำแผนธุรกิจ (Business Plan) ประมาณการณ์จำนวนผู้โดยสารไว้แล้ว ซึ่งเป็นแผนที่ดี ดังนั้นจะนำผลศึกษาดังกล่าวมาทบทวนปรับปรุงให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบันและวางเป็นแผนอนาคต โดยจะมีแอร์พอร์ตลิ้งค์จะมีโครงข่ายเชื่อม 3 สนามบิน คือ ดอนเมือง สุวรรรภูมิ และอู่ตะเภา ในขณะที่จะต้องมีการใส่เงินทุนบริษัทที่เหลืออีก 1,860 ล้านบาท ตามมติครม. เข้ามาเพิ่ม ซึ่งเชื่อว่า แอร์พอร์ตลิ้งค์จะเริ่มมีกำไรในปีที่ 5-6 หลังจากเดินตามแผนธุรกิจดังกล่าว
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42624
Location: NECTEC

PostPosted: 24/09/2014 8:14 pm    Post subject: Reply with quote

"บิ๊กจิน"สั่งถกกู้ซากแอร์พอร์ตลิงก์27ก.ย.นี้ งัดแผนซ่อม-เข็นวิ่งบริการถึงต้นปีหน้า
ประชาชาติธุรกิจออนไลน์
updated: 24 ก.ย. 2557 เวลา 17:19:05 น.


"แอร์พอร์ตลิงก์" หวิดเดี้ยง ปรับแผนซ่อมรถ 9 ขบวนอุตลุดใช้งานได้ถึงปีใหม่ ยืนยันไม่หยุดวิ่งบริการระหว่างรอซ่อมใหญ่ ปัดฝุ่นแผนกู้ซาก เร่งซื้อรถใหม่เพิ่ม 7 ขบวน แบ่งแยกทรัพย์สินกับ ร.ฟ.ท. ชงเพิ่มทุน 1,860 ล้านบาทเป็นเงินทุนหมุนเวียน จับตาแปลงหนี้เป็นทุน-ดึงคลังถือหุ้นปลดแอกหนี้ 3 หมื่นล้าน บิ๊กจินเรียกถกปัญหา 27 ก.ย.นี้


นายภากรณ์ ตั้งเจตสกาว รองผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) และรักษาการกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด ผู้ให้บริการรถไฟฟ้าเชื่อมสนามบินสุวรรณภูมิ หรือ แอร์พอร์ตเรลลิงก์ เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า ปัญหาโดยรวมของแอร์พอร์ตลิงก์ตลอด 4 ปีที่ผ่านมาได้รับการปรับปรุงบ้างแล้ว โดยเฉพาะการเร่งซ่อมอะไหล่ที่จำเป็น (Partial Overhual) เพื่อให้รถไฟฟ้าวิ่งบริการผู้โดยสารต่อไปได้จนกว่าการซ่อมบำรุงใหญ่ตามวาระ (Overhual) จะแล้วเสร็จ





ปรับแผนวิ่งรถยาวถึงปีใหม่

อย่างไรก็ตาม ปัญหาเฉพาะหน้าคือรถ 9 ขบวนที่มีกำหนดถึงคิวต้องซ่อมใหญ่เพราะวิ่งครบ 1.32 ล้านกิโลเมตรในเดือนพฤศจิกายนนี้จะเร่งซ่อมบำรุงเพื่อให้สามารถวิ่งบริการประชาชนต่อไปได้จนถึงช่วงหลังปีใหม่

"สรุปว่าจะซ่อมอะไหล่หลักที่จำเป็นเช่น ระบบล้อเลื่อนช่วงล่างที่เกี่ยวกับความปลอดภัยให้ใช้งานได้ 100% จนกว่าการซ่อมใหญ่จะเสร็จ ตอนนี้อะไหล่ที่สั่งซื้อไปเมื่อ 8-9 เดือนก่อนขนส่งมาถึงแล้ว คาดว่าก่อนปีใหม่จะมีรถวิ่งบริการ 7 ขบวน อีก 2 ขบวนรอเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ปีหน้า จากปัจจุบันมีรถวิ่งบริการ 5 ขบวน เพราะมี 4 ขบวนที่วิ่งครบ 1.32 ล้านกิโลเมตร จำเป็นต้องจอดไว้และนำอะไหล่บางตัวที่ยังใช้งานได้มาเสริมให้กับขบวนอื่น เช่น เหล็กกันโครงตัวรถ"

นายภากรณ์กล่าวอีกว่า เพื่อให้การใช้งานของรถยืดอายุไปได้มากขึ้น จะปรับปรุงความเร็วการวิ่งบริการจากเดิม 160 กิโลเมตร/ชั่วโมง เหลือ 100-120 กิโลเมตร/ชั่วโมง ปรับความถี่การปล่อยรถจากเดิมชั่วโมงเร่งด่วนทุก 12 นาที เป็นทุก 15 นาที และช่วงเวลาปกติจาก 15 นาที เป็น 20 นาที ฯลฯ



รอซ่อมใหญ่-ซื้อรถเพิ่ม

อย่างไรก็ตาม ยังมีอีกหลายเรื่องที่ต้องเร่งดำเนินการเพื่อให้แอร์พอร์ตลิงก์มีการบริหารงานที่รุดหน้า หลังจากคณะกรรมการ (บอร์ด) ร.ฟ.ท.ให้อำนาจบริษัทสามารถจัดซื้อจัดจ้างได้เองแล้ว จากเดิมต้องผ่านการอนุมัติจาก ร.ฟ.ท. ทำให้การดำเนินการต่างๆ ล่าช้า

เริ่มจากเร่งประมูลคัดเลือกบริษัทเอกชนมาซ่อมใหญ่รถทั้ง 9 ขบวน จำนวน 17 รายการ วงเงิน 385 ล้านบาท ตามแผนจะลงนามสัญญาเดือนเมษายน 2558 ใช้เวลาจัดซื้ออะไหล่กับซ่อมประมาณ 14 เดือน คาดว่าแล้วเสร็จประมาณมิถุนายน 2559

"ก่อนหน้านี้บริษัทจะจัดจ้างวิธีพิเศษกับบริษัท ซีเมนส์ จำกัด แต่บอร์ดเปลี่ยนมติใหม่ให้เปิดประมูลแบบอีออกชั่น จึงต้องเริ่มกระบวนการใหม่ ใช้เวลาประมูลประมาณ 4 เดือน"

รวมถึงเร่งซื้อรถใหม่ 7 ขบวน วงเงิน 4,800 ล้านบาท ซึ่งผ่านความเห็นชอบจากมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) นานแล้ว แต่ติดปัญหาการยกร่างทีโออาร์ ล่าสุดบอร์ด ร.ฟ.ท.ให้ปรับปรุงรายละเอียดทีโออาร์ใหม่ เปิดกว้างมีบริษัทหลายรายเข้ามาเสนอราคามากขึ้น คาดว่าใช้เวลา 2 ปีจนกว่าจะมีรถใหม่วิ่งบริการ ตามแผนลงนามสัญญาเมษายน 2558 และรถใหม่วิ่งบริการได้ต้นปี 2560



ขอ 1.8 พันล้านต่อลมหายใจ

นายภากรณ์กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ จะเร่งแบ่งแยกทรัพย์สินกับ ร.ฟ.ท.ให้ชัดเจน เพื่อขออนุมัติเพิ่มทุนจากกระทรวงการคลังอีก 1,860 ล้านบาท สำหรับเพิ่มสภาพคล่องบริษัท ปัจจุบันเงินทุนมีอยู่ 140 ล้านบาทนำมาใช้จ่ายเป็นเงินหมุนเวียนหมดแล้ว เนื่องจากที่ผ่านมาบริษัทแอร์พอร์ตลิงก์ไม่สามารถจัดเก็บรายได้เอง ได้รับเฉพาะค่าจ้างเดินรถจาก ร.ฟ.ท.เป็นรายเดือนเฉลี่ย 14.5 ล้านบาท/เดือน ล่าสุดเพิ่งปรับค่าจ้างเป็นรายปี 215 ล้านบาท ส่วนรายได้ค่าโดยสารที่จัดเก็บได้ปีละ 500 ล้านบาท เป็นของ ร.ฟ.ท.ทั้งหมด

"สาเหตุที่ขออนุมัติเงินเพิ่มทุนไม่ได้ เพราะคลังยังมองไม่เห็นว่าอะไรคือทรัพย์สินของแอร์พอร์ตลิงก์ที่จะแยกมาจากการรถไฟฯ เพราะจะได้รู้ว่าต่อไปในอนาคตบริษัทจะอยู่ยังไง ต้องนำผลการศึกษาของศศินทร์มาพิจารณาอีกครั้ง" นายภากรณ์กล่าวและว่า

ก่อนหน้านี้ ทางกระทรวงการคลังต้องการให้บริษัทรับภาระหนี้โครงสร้างพื้นฐานในส่วนระบบรถไฟฟ้า 9 ขบวน 4,623 ล้านบาท เมื่อรวมกับภาระหนี้ที่บริษัทจะต้องรับผิดชอบอีก 7,035 ล้านบาท เช่น ระบบอาณัติสัญญาณ ทำให้มีภาระหนี้กว่า 11,700 ล้านบาท เป็นภาระหนี้จำนวนมากที่ส่งผลกระทบต่อแผนธุรกิจของบริษัทที่วางแผนจะมีกำไรในปีที่ 5 ประมาณปีละ 600 ล้านบาท



ศศินทร์เชียร์ให้คลังถือหุ้น

"ที่ผ่านมาไม่คืบหน้าเพราะบริษัทจะรับเฉพาะหนี้ 4 พันกว่าล้านจากงานระบบรถไฟฟ้า ที่เหลือไม่ยอมรับ ทำให้การแบ่งทรัพย์สินกับ ร.ฟ.ท.ยังคาราคาซัง ต้องมาสรุปให้ชัดกับกระทรวงคมนาคมและ ร.ฟ.ท." นายภากรณ์กล่าวและว่าสำหรับโมเดลแก้ปัญหาแอร์พอร์ตลิงก์ในอนาคต ตามผลศึกษาของศศินทร์ถ้าไม่ให้บริษัทมีหนี้สิน ทางกระทรวงการคลังต้องเข้ามาถือหุ้นบางส่วนโดยแปลงหนี้เป็นทุน ไม่ว่าจะเป็นการซื้อรถใหม่ 7 ขบวน จะต้องให้กระทรวงการคลังเป็นผู้กู้แล้วให้บริษัทกู้ต่อ หรือแลกสิทธิ์การพัฒนาที่ดินมักกะสันเพื่อแลกหนี้กับ ร.ฟ.ท. ซึ่งจะทำให้บริษัทไม่มีหนี้ สามารถเริ่มต้นได้ใหม่ ทั้งนี้ ขึ้นกับนโยบายรัฐบาลจะเลือกวิธีการไหน



บิ๊กจินถกปัญหา 27 ก.ย.นี้

นางสร้อยทิพย์ ไตรสุทธิ์ ปลัดกระทรวงคมนาคมกล่าวว่า การจัดทำแผนฟื้นฟู ร.ฟ.ท.จะเกี่ยวข้องกับการแบ่งแยกทรัพย์สินแอร์พอร์ตลิงก์ที่เป็นบริษัทลูกด้วย โดยสั่งการให้ ร.ฟ.ท.เร่งดำเนินการแบ่งแยกทรัพย์สินให้ชัดเจน เนื่องจากต่อไป ร.ฟ.ท.บทบาทจะเปลี่ยนไปหลังจากมีการจัดตั้งกรมการขนส่งทางราง (กรมราง) ทำหน้าที่กำกับดูแลความปลอดภัยและราคา ขณะที่การเดินรถไฟฟ้าให้บริษัทลูกดำเนินการ เรื่องนี้จะนำเสนอซูเปอร์บอร์ดพิจารณาต่อไป พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมกล่าวว่า ในวันที่ 27 กันยายนนี้จะหารือร่วมกับ ร.ฟ.ท. และบริษัทแอร์พอร์ตลิงก์ว่าปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นมีอะไรบ้างที่เป็นอุปสรรคต่อการดำเนินการโครงการ บริษัทสามารถแก้ไขได้หรือไม่ ส่วนจะให้กระทรวงการคลังมาถือหุ้นด้วยหรือไม่นั้นต้องรอฟังรายละเอียดปัญหาจากบริษัทก่อน
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42624
Location: NECTEC

PostPosted: 25/09/2014 2:57 pm    Post subject: Reply with quote

นับถอยหลังแอร์พอร์ตลิงก์ โครงการเพื่อ“ซิโนไทย-บีกริม”


โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 19 กันยายน 2557 21:05 น.


โครงการแอร์พอร์ตลิงค์ หรือ ชื่ออย่างเป็นทางการ “โครงการระบบขนส่งมวลชนทางรถไฟเชื่อมท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และสถานีรับส่งผุ้โดยสารอากาศยาน กรุงเทพมหานคร” ให้บริการมาครบสี่ปีเต็ม เมื่อไม่กี่วันมานี้เอง ( เริ่มเดินรถอย่างเป็นทางการ วันที่ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2553)

สี่ปีของแอร์พอร์ตลิงก์มีแต่ปัญหา โดยเฉพาะปัญหาการให้บริการ ขบวนรถที่ไม่เพียงพอต่อจำนวนผู้ใช้บริการที่เพิ่มมากขึ้น การไม่ตรงต่อเวลา ตู้โดยสารที่คับแคบ สกปรก ประตูปิดเสียงดังมาก สถานีไม่มีลิฟต์ บันไดเลื่อน ป้ายบอกทาง และเข้าถึงยาก ปัญหาเลวร้ายลงเรื่อยๆ เพราะไม่ได้รับการแก้ไข มีแต่การแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า

สองสัปดาห์ที่ผ่านมา ผู้ใช้บริการแอร์พอร์ตลิงก์โดยเฉพาะช่วงชั่วโมงเร่งด่วนในตอนเช้า และตอนเย็น ต้องรอคอยรถนานกว่าปกติ จากที่เคยใช้เวลาประมาณ 15 นาที ต้องรอนานขึ้นถึงครึ่งชั่วโมง เมื่อรถมาถึงสถานีแล้วไม่สามารถเข้าไปในตู้โดยสารได้ เนื่องจากมีผู้โดยสารจำนวนมากที่เบียดเสียดยัดเยียดกันอยู่ในตู้โดยสารอยู่แล้ว และที่ยืนรออยู่ที่สถานีอีกจำนวนมาก ต้องรอรถขบวนต่อไป หรือ เปลี่ยนไปนั่งรถแท็กซี่ รถเมล์ แทน

แอร์พอร์ตลิงก์มาถึงจุดวิกฤติแล้ว

สาเหตุที่ขบวนรถล่าช้า เพราะแอร์พอร์ตลิงก์ เหลือขบวนรถเพียง 5 ขบวนเท่านั้น จากที่มีอยู่ 9 ขบวน อีก 4 ขบวนจอดไว้เฉยๆ เพราะถึงเวลาซ่อมใหญ่ แต่ไม่มีงบประมาณ และใช้เป็นรถอะไหล่ มาซ่อมรถ 5 ขบวนที่ยังวิ่งอยู่ เพราะบริษัทรถไฟฟ้า รฟท. ซึ่งเป็นบริษัทลูกของการรถไฟแห่งประเทศไทย ที่ตั้งขึ้นมาบริหารโครงการแอร์พอร์ตลิงก์ไม่มีงบประมาณในการซื้ออะไหล่ มาสำรองไว้ล่วงหน้า หากมีชิ้นส่วน อะไหล่ รถขบวนใดขบวนหนึ่งเสีย ต้องใช้วิธีถอดอะไหล่จากรถขบวนที่จอดอยู่เฉยๆ มาเปลี่ยน ซึ่งเป็นอะไหล่เก่า ไม่ใช่อะไหล่ใหม่

นอกจากผู้ใช้บริการแอร์พอร์ตลิงก์จะต้องรอรถนาน ขึ้นรถไม่ได้ อันเนื่องมาจากปัญหาขบวนรถไม่เพียงพอ จากสาเหตุข้างต้นแล้ว ความเสี่ยง หรือภัยเงียบที่รออยู่ คือ ทั้งระบบราง และขบวนรถของแอร์พอรตลิงก์ทั้งหมด เลยเวลาที่จะต้องซ่อมบำรุงแล้ว แต่ยังใม่ได้ทำ ในส่วนของระบบราง ผู้เชียวชาญเรื่องระบบกาจราจรอย่างนายสามารถ ราชพลสิทธิ์ อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ร่วมกับทีมช่างของแอร์พอร์ตลิงก์เอง ได้ลงพื้นที่สำรวจสภาพราง พบรางที่ชำรุด เสียหายหลายจุด ที่อาจเป็นอันตรายต่อการดเดินรถได้ มีการถ่ายภาพมาเป็นหลักฐาน แต่ผู้บริหารแอร์พอร์ตลิงก์ปฏิเสธว่าไม่เป็นความจริง

คงจะต้องรอให้เกิดโศกนาฏกรรมขึ้นมาเสียก่อนกระมัง

สำหรับขบวนรถไฟ 5 ขบวน ซึ่งถึงเวลาซ่อมบำรุงรักษาเช่นกัน ก็ใช้วิธีเอาอะไหล่เก่าจากรถ 4 ขบวนที่จอดแช่อยู่มาเปลี่ยน

กระบวนการซ่อมบำรุงทั้งระบบราง และตู้รถไฟจะต้องใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 1 ปี แต่จนบัดนี้ แอร์พอร์ตลิงก์ยังไม่ได้ทำอะไรเลย

ไม่น่าเชื่อว่า เรื่องแบบนี้ จะเกิดขึ้นกับโครงการขนส่งมวลชนที่ใช้เงินไปเกือบ 30,000 ล้านบาทในการก่อสร้าง และเพิ่งจะมีอายุใช้งานเพียง 4 ปีเท่านั้น แต่ถ้าย้อนกลับไปดูที่มาของโครงการนี้ ก็จะเข้าใจว่า แอร์พอร์ตลิงก์เป็นตัวอย่างของโครงการจัดซื้อจัดจ้าง ที่นักการเมือง กลุ่มธุรกิจ และข้าราชการประจำ จับมือกันสร้างขึ้นมา โดยมีเป้าหมายที่แท้จริงคืองบประมาณในการก่อสร้าง การจัดซื้อขบวนรถและระบบอาณัติสัญญาณ ส่วนเป้าหมายในเรื่องการให้บริการระบบขนส่งมวลชนระบบรางที่มีประสิทธิภาพและมีกำไรนั้น เป็นเพียงข้ออ้างเท่านั้น

โครงการแอร์พอร์ตลิงก์ได้รับอนุมัติจากคณะรัฐมนตรีรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เมื่อวันที 1 มิถุนายน พ.ศ. 2547 และใช้เวลาเพียง 3 เดือนหลังจากนั้นในการประมูลคัดเลือกผู้ก่อสร้าง ผู้ที่ได้รับงานมูลค่า 26,000 ล้านบาทไป คือ กลุ่มซิโนทัย เอนจิเนียริ่ง คอนสตรัคชั่น ของ นายชวรัตน์ และนายอนุทิน ชาญวีรกุล ซึ่งใกล้ชิดกับนายเนวิน ชิดชอบ ที่ขณะนั้นยังเป็นขุนพลข้างกาย พ.ต.ท.ทักษิณ ได้งานโยธามูลค่า 12,000 กว่าล้านบาทไป และกลุ่มบีกริม–ซีเมนส์ ได้งานระบบและจัดหาขบวนรถมูลค่า 13,000 ล้านบาทไป

การทำโครงกาโดยคำนึงถึงแต่ผลประโยชน์ค่าก่อสร้าง รัฐบาลและกระทรวงคมนาคม ที่มีนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจซึ่งกำกับดูแลการรถไฟ จึงไม่ได้สนใจว่า เมื่อก่อสร้างเสร็จแล้ว จะบริหารจัดการการเดินรถอย่างไรให้มีประสิทธิภาพ ส่วนการรถไฟแห่งประเทศไทยนั้น ก็ถูกใช้ชื่อเป็นเจ้าของโครงการ เป็นเจ้าของที่ดินในการสร้างโครงการเท่านั้น ไม่ได้เป็นผู้คิดและผลักดันโครงการเอง จึงไม่มีบทบาทในการวางแผนบริหารโครงการ

แอร์พอร์ตลิงก์จึงเป็นโครงการที่ไม่มีผู้รับผิดชอบ มีแต่ผู้รับผลประโยชน์ คือ นักการเมือง บริษัทซิโนไทย และบีกรีม เมื่อการก่อสร้างเสร็จสมบูรณ์ การรถไฟฯ รับมอบงาน ผู้รับเหมาก่อสร้างรับเงินไปเรียบร้อยแล้ว ก็ถือว่า โครงการบรรลุเป้าหมายแล้ว หน้าที่ ในการบริหารจัดการ เป็นของการรถไฟฯ ซึ่งตั้งบริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. ขึ้นมาบริหารโครงการแบบฉุกละหุก ไม่มีทั้งบุคลากรที่มีประสบการณ์ ไม่มีเงิน โดยที่รัฐบาล ทั้งรัฐบาลทักษิณ รัฐบาลอภิสิทธิ์ ซึ่งพรรคภูมิใจไทยของนายเนวินคุมกระทรวงคมนาคม และรัฐบาลยิ่งลักษณ์ก็ไม่ได้จัดสรรงบประมาณใ นการดำเนินการ รวมทั้งการจัดซื้ออะไหล่ ซื้อขบวนรถเพิ่มเติม ให้การรถไฟฯ เลย จะให้ก็แต่เงินช่วยเหลือเฉพาะหน้า เมื่อแอร์พอร์ตลิงก์เกิดปัญหาสภาพคล่อง เพราะปริมาณผู้โดยสารน้อยกว่าที่อ้างไว้ในแผนการศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการมาก

หากรัฐบาลยิ่งลักษณ์ยังมีอำนาจอยู่ และผลักดันโครงการรถไฟความเร็วสูง 2.2 ล้านบาท และโครงการบริหารจัดการน้ำ 3.5 แสนล้านได้สำเร็จ ชะตากรรมของทั้งสองโครงการนี้ ก็คงไม่ต่างจากโครงการแอร์พอร์ตลิงก์ ในวันนี้ คือ เป็นสิ่งก่อสร้างที่ใข้งานไม่ได้ เพราะเป็นโครงการที่เกิดขึ้นมาตอบสนองผลประโยชน์ของกลุ่มทุนที่เป็นเครือข่ายบริวาร ไม่ใช่เพื่อเป็นโครงสร้างพื้นฐานที่เป็นประโยชน์ของส่วนรวมแต่อย่างใด
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42624
Location: NECTEC

PostPosted: 17/11/2014 7:46 pm    Post subject: Reply with quote

แอร์พอร์ตลิงก์ได้ฤกษ์! ซื้อรถ 7 ขบวนจ่อเคาะราคา ม.ค. 58 “ประจิน” ลุยโรงซ่อม-สถานีมักกะสันแก้ปัญหา


โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 17 พฤศจิกายน 2557 17:59 น.

แอร์พอร์ตลิงก์ประกาศ TOR ซื้อรถ 7 ขบวน 4.8 พันล้าน คาดเปิดเคาะราคา ม.ค.นี้ ส่งมอบใน 2 ปี โดยรวมงานระบบอาณัติสัญญาณให้ผู้ชนะประมูลเจรจาซื้อจากซีเมนส์เบ็ดเสร็จ เผยเร่งซ่อมรถเสร็จแล้ว 3 ขบวน คาดครบ 9 ขบวนใน มี.ค. 58 ยันไม่หยุดบริการ “ประจิน” ตรวจโรงซ่อมและมักกะสัน จี้แก้ปัญหาบริการ


นายออมสิน ชีวะพฤกษ์ ประธานคณะกรรมการ (บอร์ด) การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าการจัดซื้อรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงก์ 7 ขบวนว่า ร.ฟ.ท.ได้ประกาศร่างขอบเขตเงื่อนไขจัดซื้อรถไฟฟ้าธรรมดา (City Line Airport Rail Link) สำหรับใช้ในโครงการระบบขนส่งทางรถไฟเชื่อมท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และสถานีรับส่งผู้โดยสารอากาศยานในเมือง (Suvarnabhumi Airport Rail Link and City Air Terminal Project) จำนวน 7 ขบวน ขบวนละ 4 ตู้ พร้อมเครื่องอะไหล่ วงเงิน 4,854.41 ล้านบาท ด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ (e-Auction) ลงเว็บไซต์ ตามระเบียบการแข่งขันราคาทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ ตั้งแต่วันที่ 5 พฤศจิกายน-19 พฤศจิกายน 2557 (สิ้นสุดรับฟังคำวิจารณ์) โดยคาดว่าจะเปิดให้ยื่นข้อเสนอราคาได้ในเดือนมกราคม 2558

โดยตามเงื่อนไข TOR กำหนดราคากลางที่ 4,413.1 ล้านบาท กำหนดคุณสมบัติผู้เสนอต้องมีเอกสารหลักฐานของผู้ผลิต (Manufacturer) ที่มีผลงานอย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอในการออกแบบ ผลิต และจำหน่าย รถไฟฟ้าที่มีความเร็วสูงสุดไม่น้อยกว่า 160 กิโลเมตรต่อชั่วโมง จำนวนไม่น้อยกว่า 500 ตู้ ภายในระยะเวลา 10 ปี ระยะเวลาส่งมอบไม่เกิน 24 เดือน นับถัดจากวันลงนามในสัญญาซื้อขาย ส่วนงานระบบอาณัติสัญญาณนั้นรวมอยู่ในการจัดซื้อรถ 7 ขบวน โดยผู้ชนะประมูลจะต้องเจรจาซื้อจากบริษัท ซีเมนส์ จำกัด เจ้าของระบบเดิม เนื่องจากสะดวกกว่าการแยกประมูล

ด้าน พล.อ.ธวัชชัย สมุทรสาคร ประธานบอร์ด บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด (แอร์พอร์ตลิงก์) กล่าวว่า ปัจจุบันได้ซ่อมบำรุงบางส่วน หรือ Partial Overhaul รถไฟฟ้าธรรมดา (City Line) เสร็จแล้ว 3 ขบวน จากรถที่มีทั้งหมด 9 ขบวน โดยขบวน City line อีก 2 ขบวนที่เหลือจะซ่อมบำรุงบางส่วนเสร็จภายใน 31 มกราคม 2558 จากนั้นจะเร่งซ่อมบำรุงในส่วนของรถด่วน (Express Line) อีก 4 ขบวน คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 3 เดือน หรือแล้วเสร็จภายในเดือนมีนาคม 2558 การซ่อมบำรุงบางส่วนจะเสร็จครบทั้งหมด โดยจะวิ่งให้บริการ 8 ขบวน อีก 1 ขบวนจะต้องรอการซ่อมบำรุงใหญ่ เนื่องจากเป็นขบวนที่ได้นำชิ้นส่วน อะไหล่มาใช้ซ่อมบำรุงให้กับขบวนอื่นๆ ซึ่งจะทำให้การให้บริการจะอยู่ที่ประมาณ 20 นาทีต่อขบวน โดยยึดหลักการราคาเหมาะสม ตรงเวลา ปลอดภัย

ส่วนการแยกการบริหารของแอร์พอร์ตลิงก์จาก ร.ฟ.ท.นั้น ทาง พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้อนุมัติในหลักการแล้ว โดยให้ทั้ง 2 หน่วยงานหารือในรายละเอียดร่วมกัน โดยมีเป้าหมายให้แอร์พอร์ตลิงก์มีอิสระในการบริหาร โดย ร.ฟ.ท.ยังคงถือหุ้น 100%

อย่างไรก็ตาม ในวันที่ 20 พฤศจิกายนนี้ พล.อ.อ.ประจินมีกำหนดการตรวจเยี่ยมโครงการแอร์พอร์ตลิงก์ที่โรงซ่อมบำรุง ซอยศูนย์วิจัย เพื่อติดตามการแก้ปัญหาการให้บริการและการซ่อมบำรุงบางส่วนระหว่างรอการซ่อมบำรุงใหญ่ (Overhaul) พร้อมทั้งตรวจเยี่ยมการให้บริการที่สถานีมักกะสัน ซึ่งปัจจุบันได้มีการยกเลิกให้บริการเช็กอินผู้โดยสารไปแล้ว หลังจากมีการงดให้บริการรถไฟฟ้าด่วน Express Line (มักกะสัน-สุวรรณภูมิ-มักกะสัน) ชั่วคราว เพื่อนำขบวนรถ Express Line มาวิ่งให้บริการแบบ City Line ในช่วงที่ขบวนรถมีไม่เพียงพอ ซึ่งแม้จะยกเลิกบริการเช็กอินไปแต่ภายในอาคารสถานีมักกะสันนั้นยังคงมีระบบสายพานลำเลียงกระเป๋าที่สามารถนำกลับมาให้บริการเช็กอินได้อีกครั้งเมื่อมีการซื้อขบวนรถใหม่เข้ามาและนำขบวน Express Line กลับมาให้บริการได้ตามปกติ
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42624
Location: NECTEC

PostPosted: 16/12/2017 10:59 pm    Post subject: Reply with quote

แอร์พอร์ตลิงก์วุ่นๆ ทุจริต แออัด ขาดทุนยับ!!??
โดย: MGR Online
เผยแพร่: 16 ธันวาคม 2560 06:24:00





ผู้จัดการสุดสัปดาห์ - คงไม่เกินเลยไปนักหากจะบอกว่า การบริหารธุรกิจสไตล์รถไฟไทยยังไม่พัฒนาไปถึงไหน ไม่ว่าจะเป็นรางเดี่ยว รางคู่หรือว่าไฮสปรีดเทรน แต่ที่ดูย่ำแย่ที่สุดเห็นจะไม่มีขบวนไหนเกิน “แอร์พอร์ตลิงก์” ที่อื้อฉาวด้วยข่าวคราวทุจริตตลอดศก ทั้งยังบริหารได้เละเทะระดับตำนาน ขนาดที่ว่าผู้โดยสารแออัดยัดเยียดจวนเจียนจะเหยียบเท้ากันยืน แต่ผลประกอบการยังขาดทุนยับเยินแบบเหลือเชื่อ แต่ก็นั่นแหละคือสไตล์ ร.ฟ.ท.ของแท้ ไม่ว่าองค์กรตัวแม่หรือบริษัทลูก

หากจะอัพเดทเรื่องทุจริตที่อยู่คู่แอร์พอร์ตลิงก์นับแต่ก่อกำเนิดจนบัดนี้ ล่าสุดที่เพิ่งเกิดขึ้น คือ การร้องเรียนกรณี บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด ซึ่งเป็นผู้ให้บริการรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตเรลลิงก์ บริษัทลูกของการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) กระทำการทุจริตการจัดซื้อผ้าเบรกของรถไฟฟ้าจำนวน 1,200 ชุด และหลีกเลี่ยงการปฏิบัติตามพ.ร.บ.การจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ.2560 ซึ่งผู้ร้องเรียน คือ นายอารัมย์ รมยานนท์ ได้ทำหนังสือไปยังศูนย์อำนวยการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ (ศอตช.) เมื่อวันที่ 1 พ.ย. 2560 ที่ผ่านมา และขณะนี้ ศอตช.ส่งเรื่องให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) ดำเนินการตรวจสอบตามอำนาจหน้าที่

ข้อร้องเรียนจัดซื้อผ้าเบรกคราวนี้ก็คือ มีการลงวันที่ย้อนหลังในเอกสารจัดซื้อ เป็นการหลีกเลี่ยงไม่ต้องปฏิบัติตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการพ.ร.บ.จัดซื้อฯ 2560 และการสืบราคาจากบริษัทตัวแทนเพื่อตั้งเป็นราคากลาง เจตนาเอื้อประโยชน์ให้บริษัทใดบริษัทหนึ่ง

รายละเอียดเอกสารร้องเรียน ระบุปัญหากรณีการกำหนดราคากลางว่า เริ่มต้นรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงก์ติดตั้งระบบห้ามล้อและผ้าเบรก ที่เป็นผลิตภัณฑ์ของ Knoor Bremse AG. (คนอร์) จากประเทศเยอรมนี (ผู้แทนจำหน่ายในประเทศไทย คือ บจ.วิสุทธิ์เกษม (ประเทศไทย) โดยคนอร์ได้ว่าจ้างให้ Federal-Mogul Friction Products GmbH (OEM) ยี่ห้อ Ferodo ประเทศเยอรมนี เป็นผู้ผลิตให้ได้ตามเสปกของคนอร์ (เจ้าของลิขสิทธิ์) ซึ่งมี U4S Co.,Ltd. (ยูโฟร์เอส) เป็นผู้แทนจำหน่ายในประเทศไทย และที่ผ่านมา แอร์พอร์ตลิงก์ได้เคยจัดซื้อจาก บจ.ยูโฟร์เอสมาใช้งานครั้งหนึ่ง ซึ่งการประมูลครั้งนี้ ได้ขอทราบราคาจาก บจ.วิสุทธิ์เกษม เพียงบริษัทเดียว แต่มีการออกหนังสือเชิญประมูลวิธีพิเศษ 2 บริษัท คือ บจ.วิสุทธิ์เกษม และยูโฟร์เอส

ดังนั้น จึงมีข้อพิรุธว่า เป็นการเอื้อประโยชน์ให้ บจ. ยูโฟร์เอส ทราบราคาประเมินล่วงหน้าของ บจ.วิสุทธิ์เกษม และเสนอราคาได้ต่ำกว่า เกิดความได้เปรียบเสียเปรียบกัน ใช่หรือไม่ มีอะไรมาจูงใจให้คณะกรรมการจัดซื้อจัดจ้างต้องทำเรื่องที่สุ่มเสี่ยงต่อการทำผิดกฎหมายเช่นนั้น

แต่ที่พิสดารยิ่งกว่า ก็คือ ยังมีการประกาศราคากลางย้อนหลังจากที่ประกาศTOR และออกหนังสือเชิญเข้ายื่นราคาแล้ว โดยผู้ร้องเรียนค้นพบว่า คณะกรรมการฯ ได้ออกเอกสารจัดซื้อ ผ้าเบรก (Brake Pad) ของรถไฟฟ้าจำนวน 1,200 ชุด โดยวิธีพิเศษ เอกสาร เลขที่ รฟท.พ./600153 ลงวันที่ 22 ส.ค.2560 ก่อน พ.ร.บ.จัดซื้อฯ 2560 มีผลบังคับใช้ในวันที่ 23 ส.ค.2560 เพียงวันเดียว เร่งรีบน่าผิดสังเกตยิ่งนัก

และในวันเดียวกัน (22 ส.ค. 2560) ได้ออกหนังสือเชิญ บจ.วิสุทธิ์เกษม และยูโฟร์เอส ให้ยื่นข้อเสนอด้านเทคนิคและราคา และในวันที่ 22 ส.ค.2560 คณะกรรมการกำหนดราคากลาง ได้ทำหนังสือขออนุมัติราคากลาง โดยได้รับอนุมัติจากรองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ กลุ่มสายงานปฏิบัติการและซ่อมบำรุง ในวันที่ 14 ก.ย. 2560 หลังประกาศเชิญชวนไปแล้ว

นี่ใช่ถือเป็นการกระทำย้อนหลัง เพื่อหลีกเลี่ยงปฏิบัติตามพ.ร.บ.จัดซื้อฯ 2560 อย่างชัดเจน หรือไม่

ข้อร้องเรียนข้างต้น เป็นกรณีส่อทุจริตล่าสุดที่ปูดออกมาในรายการจัดซื้อผ้าเบรกของแอร์พอร์ตลิงก์ ขณะที่ก่อนหน้าไม่นานก็มีรายการตรวจสอบการทุจริตจัดซื้อจัดจ้างของแอร์พอร์ตลิงก์ เป็นบัญชีหางว่าวจากสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.)

ที่ผ่านมา สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ได้ทำหนังสือถึงกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท รถไฟฟ้าร.ฟ.ท. ไม่น้อยกว่า 4 เรื่อง ได้แก่ หนังสือ สตง. ลงวันที่ 27 ก.ค.2560 กรณีการจัดซื้ออะไหล่สำหรับซ่อมบำรุงรถไฟฟ้า (Overation Spare Part) ชุดปรับอากาศ (HVAC) จำนวน 2 รายการกับบริษัท บี.กริม เทรดดิ้ง คอร์เปอร์เรชั่น จำกัด วงเงิน 24.95 ล้านบาท สัญญาลงวันที่ 28 เม.ย.2560 โดยขอให้จัดส่งเอกสารจัดซื้อที่เกี่ยวข้องทั้งหมด , สำเนาซื้อขาย , สำเนาที่บริษัท บี.กริม ได้รับแต่งตั้งเป็นตัวแทนเพียงผู้เดียว ระยะเวลาเริ่มต้นและสิ้นสุดเมื่อใด

หนังสือ สตง. ลงวันที่ 13 ก.ย.2560 กรณีการประมูลจ้างจัดหาและติดตั้งประตูกั้นชานชาลาแบบสูงครึ่งบาน (half height) ที่ 7 สถานี ด้วยวิธีทางอิเล็กทรอนิกส์ (e-Auction) ซึ่งอาจมีการพิจารณาไม่เป็นไปตามข้อกำหนดของเอกสารประกวดราคาข้อ 2.10 ซึ่งเป็นการกำหนดคุณสมบัติของผู้เสนอราคาจะต้องแสดงหนังสือรับรองว่าสามารถดำเนินการ ออกแบบ ติดตั้ง และทดสอบระบบประตูกั้นชานชาลาแบบสูงครึ่งบานให้เป็นไปตามเกณฑ์ค่าความปลอดภัยที่ระดับ SIL3 ตามมาตรฐานสากลที่ยอมรับทั่วไป โดย สตง. ขอให้ทบทวนขั้นตอนการคัดเลือกคุณสมบัติของผู้เสนอราคาให้เป็นไปตามข้อกำหนด

หนังสือ สตง.ลงวันที่ 25 ต.ค.2560 ตรวจสอบกรณีจัดซื้อรถปฏิบัติการซ่อมบำรุงสมรรถนะสูง (Rail&Road Vehicle) สำหรับใช้เคลื่อนที่บนรางและบนถนน จำนวน 1 ชุดด้วยด้วยวิธีทางอิเล็กทรอนิกส์ (e-Auction) โดยขอให้ส่งเอกสาร เหตุผลความจำเป็น วัตถุประสงค์ ราคากลาง , ผลการประมูล , การจัดซื้อก่อนหน้านี้มีหรือไม่ อย่างไร และรถปฏิบัติการซ่อมบำรุงสมรรถนะสูง ที่อยู่ระหว่างใช้งานมีกี่คัน และหลักฐานในการนำรถที่จัดซื้อครั้งนี้ใช้ในภารกิจการซ่อมบำรุงรางรถไฟฟ้าอย่างไร

อีกทั้งยังมีหนังสือ สตง. ลงวันที่ 18 ต.ค.2560 ขอให้ตรวจสอบระบบรักษาความปลอดภัยประจำสถานี สืบเนื่องจากกรณีเหตุการณ์ผู้โดยสารหญิงตกชานชาลาได้รับบาดเจ็บที่สถานีพญาไท เมื่อวันที่ 29 มี.ค.2560

นอกจากนี้ การจัดซื้อปฏิบัติการซ่อมบำรุงสมรรถนะสูง เมื่อวันที่ 5 ม.ค.2560 อาจะเข้าข่ายทุจริต โดยใช้นิติกรรมอำพรางทางเอกสาร เนื่องจากข้อเท็จจริงแล้ว รถแบบดังกล่าว คือ ยี่ห้อ Mercedec Benz UNIMOG แต่ TOR ไม่ระบุยี่ห้อ และเปลี่ยนชื่อรถปฏิบัติการซ่อมบำรุงสมรรถนะสูง เพื่อหลีกเลี่ยงการสอบราคากลางจากเบนซ์

ที่สำคัญแอร์พอร์ตลิงก์ ไม่มีความจำเป็นต้องใช้รถดังกล่าว เพราะเป็นรถล้อยางที่ออกแบบใช้สำหรับพื้นราบ รถไฟพื้นราบที่มีคันทางที่ล้อยางจะสามารถขึ้นลงจากด้านไหนก็ได้ หลังปฏิบัติภารกิจเสร็จสิ้นนำรถลงได้ทันที ขณะที่ความเร็วรถ หากบนพื้นราบสูงสุดที่ 80กม./ชม. กรณีวิ่งบนรางไปข้างหน้า ความเร็วสูงสุด 45 กม./ชม. วิ่งถอยหลังจะเหลือ 25 กม./ชม. การสั่งซื้อมาใช้งานกับรถไฟฟ้า ที่เป็นรางลอยฟ้า ทำให้ขึ้นลงได้จุดเดียว คือ โรงซ่อมศูนย์วิจัย การวิ่งใช้ความเร็วได้ต่ำ จึงต้องเผื่อเวลากลับด้วย ทำให้ใช้งานด้านซ่อมบำรุงได้น้อย

ยังมีเรื่องการกำหนดสเป็กใช้น้ำมันดีเซล EURO 6 ซึ่ง ปตท. ไม่มีจำหน่ายในปัจจุบัน หากใช้ EURO 5 เครื่องยนต์จะเสียหาย และไม่สามารถเรียกเคลมประกันได้ เพราะเป็นความผิดของผู้ใช้ เรื่องนี้อาจเป็นการใช้งบประมาณที่ไม่ถูกต้องหรือไม่

ฉะนี้แล้ว อย่าได้แปลกใจที่แอร์พอร์ตลิงก์ จะมีปัญหาหนักหนาสาหัสมาโดยตลอด ทั้งด้านการบริการ ซึ่งมีปัญหานับแต่ขบวนรถไม่เพียงพอต่อผู้ใช้บริการ ไม่ตรงเวลา สถานีเข้าถึงยาก ไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวก ในด้านการซ่อมบำรุง ยิ่งเป็นปัญหาใหญ่ทั้งระบบรางและขบวนรถที่ออกอาการน่าเป็นห่วงจนมีเสียงท้วงติงมาจากผู้เชี่ยวชาญที่เฝ้าติดตามตรวจสอบมาเป็นระยะๆ แต่ทุกอย่างก็ดูเหมือนจะวนๆ แบบย่ำอยู่ที่เดิม

ทุกวันนี้แอร์พอร์ตลิงก์ มีผู้โดยสารเพิ่มมากขึ้นเฉลี่ยบางวันสูงถึง 6 หมื่นคนต่อวันและเคยสูงสุดอยู่ที่ 8.5 หมื่นคนต่อวัน จากจำนวนผู้โดยสารจากชานเมืองตะวันออกนิยมใช้บริการมากขึ้นแม้จะมีการปรับรถด่วนเอ็กซ์เพรสวิ่งช่วยบริการในส่วนของซิตี้ไลน์แล้วก็ตามแต่ยังไม่เพียงพอต่อการให้บริการ ที่น่าอัศจรรย์ใจอย่างยิ่งก็คือ จำนวนผู้โดยสารที่เพิ่มขึ้นมากขนาดนี้ แต่องค์กรก็ยังประสบปัญหาขาดทุนประมาณ 300 ล้านบาทต่อปี ซึ่งเป็นตัวเลขที่นายพิชิต อัคราทิตย์ อดีตรมช.คมนาคม เปิดเผยตอนที่ไปตรวจเยี่ยมและมอบนโยบายให้บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. เมื่อเดือน เม.ย. 2560

ขณะที่ปัจจุบันรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงค์วิ่งให้บริการ 9 ขบวน แต่ใช้งานเพียง 7 ขบวน ส่วนอีก 2 ขบวนรอการซ่อมใหญ่ การเดินรถจะเข้าสถานีทุก 10 นาที หากวันใดเกิดอุบัติเหตุก็ย่ำแย่รอกันทั้งนานทั้งแน่น

ปัญหาผู้โดยสารแออัดยัดทะนานที่เกิดขึ้น ทางบริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด ได้เปิดประมูลจัดหารถไฟฟ้าใหม่อีก 7 ขบวน ขบวนละ 4 ตู้ วงเงินรวม 4,855 ล้านบาท ด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ (e-Auction) แต่สุดท้ายต้องล้มประมูลไปตามระเบียบเพราะถูกครหาล็อกสเปก เพื่อเอื้อประโยชน์เอกชนบางราย เข้าอีหรอบเดิมๆ

ตอนนี้ กำลังมีการตั้งเรื่องจะเปิดประมูลกันใหม่ แต่ยังไม่รู้ว่าบอร์ด ร.ฟ.ท. เอาแบบไหน จะซื้อรถขบวนใหม่ตามแผนเดิม หรือจะปรับปรุงขบวนรถตู้สัมภาระเพิ่มพื้นที่รองรับผู้โดยสาร หรือจะรอเอกชนผู้ลงทุนรถไฟฟ้าเชื่อม 3 สนามบินตามแผนอีอีซีตัดสินใจซื้อขบวนรถในอนาคตไปเลยหรือไม่เพราะเป็นเส้นทางเดียวกัน

ถึงแม้โอกาสธุรกิจจะมาแล้ว จำนวนผู้โดยสารเพิ่มขึ้นมากมายเกือบเท่าตัวแล้ว ทั้งยังมีเมกะโปรเจกต์อีอีซีมาจ่อรออยู่แล้ว แต่แอร์พอร์ตลิงก์ก็ยังอยู่ในวังวนแปรโอกาสเป็นวิกฤต และส่อทุจริตกันเป็นนิจศีลตามสไตล์รถไฟไทย
Back to top
View user's profile Send private message
Display posts from previous:   
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> รถไฟฟ้าท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ARL) All times are GMT + 7 Hours
Goto page Previous  1, 2, 3 ... , 34, 35, 36  Next
Page 35 of 36

 

Share |

Jump to:  
You cannot post new topics in this forum
You cannot reply to topics in this forum
You cannot edit your posts in this forum
You cannot delete your posts in this forum
You cannot vote in polls in this forum

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group


Forums ©