View previous topic :: View next topic |
Author |
Message |
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42709
Location: NECTEC
|
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42709
Location: NECTEC
|
Posted: 02/09/2014 5:14 pm Post subject: |
|
|
กคช.จับมือ รฟม.ผุดโครงการที่อยู่อาศัย พุ่งเป้ารอบสถานี จ.นนทบุรี-สมุทรปราการ
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 29 สิงหาคม 2557 17:54 น.
กคช.จับมือ รฟม.ผุดโครงการที่อยู่อาศัย พุ่งเป้ารอบสถานี จ.นนทบุรี-สมุทรปราการ
แฟ้มภาพ
กคช.จับมือกับ รฟม.เร่งพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยตามโครงข่ายคมนาคมโครงสร้างพื้นฐาน พร้อมจ้าง ม.ธรรมศาสตร์ ทำการศึกษารูปแบบบริเวณสถานีสายสีเขียว จ.สมุทรปราการ และสายสีม่วง จ.นนทุบรี
การเคหะแห่งชาติ (กคช.) ได้ร่วมกับการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ในการประชุมคณะกรรมการโครงการพัฒนาการอยู่อาศัยตามโครงข่ายคมนาคมโครงสร้างพื้นฐาน ครั้งที่ 2/2557 โดยมีนายกฤษดา รักษากุล ผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ เป็นประธานการประชุม ร่วมด้วยนายรณชิต แย้มสะอาด รองผู้ว่าการ (ปฏิบัติการ) การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย ภายหลังเสร็จสิ้นการประชุมดังกล่าว นายกฤษดา รักษากุล ผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ กล่าวถึงความก้าวหน้าของโครงการพัฒนาที่อยู่อาศัยบริเวณสถานีบางปิ้ง (สายสีเขียว จังหวัดสมุทรปราการ) และสถานีคลองบางไผ่ (สายสีม่วง จังหวัดนนทบุรี) ว่า การเคหะแห่งชาติได้มอบหมายให้สถาบันวิจัยและให้คำปรึกษาแห่งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ทำการศึกษาความเป็นไปได้ในการพัฒนาที่อยู่อาศัยบริเวณทั้ง 2 สถานี ไม่ว่าจะเป็นแนวคิดการออกแบบ (Conceptual Design) การวิเคราะห์ความเป็นไปได้ด้านการตลาด การเงิน การลงทุน และการบริหารจัดการ
ซึ่งคณะกรรมการ กคช.พิจารณาให้ความเห็นชอบตามกรอบแนวคิดการพัฒนาที่อยู่อาศัยฯ เรียบร้อยแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างการประสานรายละเอียดของโครงการฯ เพิ่มเติม กับ รฟม. เพื่อนำเสนอต่อสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และคณะรัฐมนตรีพิจารณาอนุมัติต่อไป หากได้รับความเห็นชอบแล้วโครงการดังกล่าวจะเกิดขึ้นอย่างแน่นอน
ด้านนายรณชิต แย้มสะอาด รองผู้ว่าการ (ปฏิบัติการ) การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย กล่าวเพิ่มเติมว่า ทั้ง 2 หน่วยงานจะร่วมผลักดันให้โครงการดังกล่าวสำเร็จได้ในไม่ช้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งโครงการสายสีม่วงที่จะเปิดเดินรถไฟฟ้าในช่วงปลายปี 2559 ซึ่งเรากำลังประสานงานกันว่า รฟม.จะต้องเตรียมผลักดันเรื่องอะไรบ้าง ขณะนี้เรากำลังดำเนินการขอแก้ไขกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เช่น กฎหมายการเวนคืนที่ดิน และพระราชบัญญัติจัดตั้ง รฟม. เพื่อให้มีอำนาจเต็มในทางกฎหมายอันจะเป็นประโยชน์ต่อประชาชน และการพัฒนาโครงการของ รฟม. และการเคหะแห่งชาติในอนาคตต่อไป
อนึ่ง เมื่อเร็วๆ นี้ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้เห็นชอบเกี่ยวกับงบลงทุนให้แก่ กคช.เป็นวงเงินประมาณ 30,000 ล้านบาท เพื่อดำเนินการโครงการบ้านเอื้ออาทร ในการสนับสนุนให้ผู้มีรายได้น้อยมีที่อยู่อาศัย |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42709
Location: NECTEC
|
Posted: 17/09/2014 3:51 am Post subject: |
|
|
งานนี้ คอนโดที่ฝั่งตะวันออกของแม่น้ำเจ้าพระยาตามทางสายม่วง (เตา่ปูน - สะพานพระนั่งเกล้า) กับ ทาวน์เฮาส์และ บ้านเดี่ยว ฝั่งตะวันตกของแม่น้ำเจ้าพระยาตามทางสายม่วง (ไทรม้า - คลองบ้างไผ่) ท่าจะไปได้สวยทีเดียวเช่ียวหละ
http://www.pattayamail.com/997/property.shtml |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42709
Location: NECTEC
|
Posted: 23/09/2014 11:30 pm Post subject: |
|
|
รถไฟฟ้ารุ่น Sustina เพื่อการส่งออกรายแรก
Railway Gazette
23 กันยายน 2014
J-Trec ที่เป็นบริษัทลูกของ East Japan Railway train (JR East) ได้รับคำสั่งซื้อรถไฟฟ้า รุ่น Sustina แบบ 3 ตู้ จำนวน 21 ชุดเพื่อเอาไปใช้กะรถไฟฟ้ามหานครกรุงเทพ สายสีม่วง ที่จะเปิดการเดินรถ ปี 2016 โดยรถดังกล่าวจะออกมาจากโรงงานที่โยโกฮามา และ JR East จะตั้งบริษัทเพื่อรับซ่อมบำรุงรถไฟฟ้าเป็นเวลา 10 ปี
รถไฟฟ้ารุ่น Sustina เป็นผลผลิตที่ได้จากการวิจัยและพัฒนาและทดสอบ ต้นแบบ เมื่อปี 2012-3 โดยใช้การเชื่อมตัวถังและโครงประธานรถที่ทำจากเหล็กกล้าไร้สนิมด้วยแสงเลเซอร์ โดยมี Roll Bar ที่หลังคาเพื่อเสริมความมั่นคง แม้จะมีการชนกันด้านข้าง โดยรถรุ่น Sustina มีใช้ใน JR East แทนรถรุ่นเก่าด้วย
นี่ครับข้อมูลรถ Sustina ที JR East เอามาขายให้ MRTA
https://www.j-trec.co.jp/sustina/
https://www.j-trec.co.jp/eng/sustina/index.html |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42709
Location: NECTEC
|
Posted: 09/10/2014 2:35 am Post subject: |
|
|
คมนาคม เผยความคืบหน้ารถไฟฟ้า
ข่าวเศรษฐกิจ
บ้านเมือง
วันที่ 8 ตุลาคม พ.ศ. 2557 เวลา 17:57 น.
นางสร้อยทิพย์ ไตรสุทธิ์ ปลัดกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังการประชุมความคืบหน้าโครงการรถไฟฟ้า ที่มี พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ว่าในส่วนของความคืบหน้าโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย-มีนบุรี รถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันออก ช่วงศูนย์วัฒนธรรม-มีนบุรี และสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว-สำโรงนั้น คาดว่าจะสามารถเสนอต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อขออนุมัติก่อสร้างโครงการได้ภายในปี 2557 นอกจากนี้ สำหรับความคืบหน้ารถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงบางใหญ่-บางซื่อ ว่าขณะนี้งานโยธามีความคืบหน้า 98-99 % ทั้งนี้ คาดว่าประมาณปี 2558 จะสามารถทดสอบเดินรถได้ก่อนจะเปิดให้บริการเชิงพาณิชย์ได้ประมาณกลางปี 2559 |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42709
Location: NECTEC
|
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42709
Location: NECTEC
|
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42709
Location: NECTEC
|
Posted: 28/10/2014 3:08 pm Post subject: |
|
|
เดินหน้าสายสีม่วงผ่ากลางกรุงเสนอครม.อนุมัติเวนคืนต้นปีหน้า
ข่าวกทม.
วันอังคาร 28 ตุลาคม 2557 เวลา 09:17 น.
สร้างแน่รถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้ ช่วงเตาปูน ราษฎร์บูรณะ เตรียมจ่อครม.ของอนุมัติโครงการ พร้อมออกพรฎเวนคืนปี ต้นปี 58นี้
รายงานข่าวจากการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย(รฟม.)แจ้งว่าเมื่อวันที่ 26ต.ค.2557รฟม.ได้จัดงานสัมมนาเพื่อรับฟังความคิดเห็นประชาชนในพื้นที่แนวเส้นทางโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วงส่วนใต้ช่วงเตาปูน ราษฎร์บูรณะ (วงแหวนกาญจนาภิเษก)โดยได้มีการนำเสนอข้อมูลแนวเส้นทางของโครงการ ที่ตั้งสถานี รายละเอียดของโครงการ และผลการวิเคราะห์ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมที่มีต่อประชาชนในพื้นที่ ซึ่งรฟม.จะผลการสัมมนาไปศึกษาเพื่อหาแนวทางในการดำเนินการก่อสร้างโครงการเพื่อให้เกิดผลกระทบต่อประชาชนน้อยที่สุด โดยเฉพาะปัญหาด้านการจราจรติดขัดในขณะที่มีการก่อสร้างอีกทั้งจะเร่งวางแผนการเยียวยาผู้ที่อาจได้รับผลกระทบทั้งตรงและทางอ้อมซึ่งการสัมมนาพบว่าประชาชนส่วนใหญ่มีความวิตกกังวลในการถูกเวนคืนที่ดิน ซึ่งก็เป็นที่น่าเห็นใจเพราะหากครอบครัวก็อยู่ในพื้นที่นั้นๆมาเป็นเวลานานแล้วอีกทั้งการก่อสร้างสถานีรถไฟฟ้าต้องใช้พื้นที่จำนวนมาก โครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วงช่วงเตาปูน ราษฎร์บูรณะมีระยะทางทั้งสิ้น 23.6กิโลเมตรโดยเป็นโครงสร้างทางวิ่งยกระดับ11 กิโลเมตรและโครงสร้างทางวิ่งใต้ดิน12.6กิโลเมตรมี 17สถานี
เป็นสถานีใต้ดิน10สถานีคือ
1.สถานีรัฐสภา
2.ศรีย่าน
3.สามเสน
4.หอสมุดแห่งชาติ
5.บางขุนพรหม
6.ผ่านฟ้า
7.วังบูรพา
8.สะพานพุทธ
9.วงเวียนใหญ่
10.สำเหร่ และ
เป็นสถานียกระดับ7สถานีคือ
1.สถานีจอมทอง
2.ดาวคะนอง
3.บางปะกอก
4.ประชาอุทิศ
5.ราษฎร์บูรณะ
6.พระประแดง
7.สถานีครุใน
อาคารจอดแล้วจร2แห่งได้แก่
1.อาคารจอดรถบางปะกอกและ
2.อาคารจอดรถสถานีราษฎร์บูรณะ
โดยมีงบประมาณในการดำเนินโครงการทั้งสิ้นประมาณ100,000ล้านบาทในจำนวนนี้เป็นค่าเวนคืนที่ดินประมาณ4,200ล้านบาท
อย่างไรก็ตามโครงการดังกล่าวถือเป็นหนึ่งในโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมปี2558-2565ซึ่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)ได้มีมติเห็นชอบตั้งแต่เมื่อวันที่29ก.ค.2557ที่ผ่านมาซึ่งคาดว่าจะสามารถเสนอต่อบอร์ดรฟม.ได้ในต้นปี2558เพื่อนำเสนอเข้าครม.ขอการอนุมัติโครงการและออกพระราชกฤษฎีกาเวนคืนที่ดินโดยคาดว่าจะเริ่มก่อสร้างโครงการได้ในปี2559และเปิดให้บริการได้ในปี2563. |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42709
Location: NECTEC
|
Posted: 28/10/2014 6:22 pm Post subject: |
|
|
คมนาคมชง "ครม.ตู่" เคาะจ้าง BMCL เดินรถไฟฟ้าสายสีม่วงเพิ่ม 1 สถานี "บางซื่อ-เตาปูน"
ประชาชาติธุรกิจออนไลน์
28 ตุลาคม 2557 เวลา 09:20:06 น.
ผู้สื่อข่าว "ประชาชาติธุรกิจ" รายงานว่าในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 28 ตุลาคมนี้ พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม จะนำโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงบางซื่อ-บางใหญ่ สัญญาที่ 5 งานเดินรถ 1 สถานีจากสถานีบางซื่อ-เตาปูนให้ครม.อนุมัติในหลักการ
โดยให้การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ใช้วิธีการเจรจากับบริษัท รถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือบีเอ็มซีแอลผู้รับสัมปทานเดินรถไฟฟ้าใต้ดินสายปัจจุบันและผู้รับสัมปทานเดินรถสายสีม่วง (เตาปูน-บางใหญ่) มาเดินรถไฟฟ้าช่วง 1 สถานีนี้โดยไม่ต้องเปิดประกวดราคา เพื่อให้การเดินรถไฟฟ้าใต้ดินและสายสีม่วงต่อเชื่อมกันได้
แหล่งข่าวจาก รฟม.กล่าวว่า หลัง ครม.อนุมัติแล้ว ทาง รฟม.จะเจรจากับบีเอ็มซีแอลต่อไป โดยมีแนวโน้มสูงที่ รฟม.จะจ้างบีเอ็มซีแอลเดินรถเป็นรายปี แต่ทำสัญญาจ้างระยะยาวเท่ากับอายุสัมปทานเดินรถไฟฟ้าใต้ดินที่ยังเหลืออยู่ประมาณ 15 ปี เหมือนกับกรณีที่กรุงเทพมหานคร (กทม.) จ้างบริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือบีทีเอส มาเดินไฟฟ้าบีทีเอสส่วนต่อขยายให้ในปัจจุบัน |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42709
Location: NECTEC
|
Posted: 30/10/2014 10:02 am Post subject: |
|
|
"ประจิน"เร่งสรุปเดินรถสีน้ำเงิน
โดย ASTVผู้จัดการรายวัน 29 ตุลาคม 2557 23:57 น.
ASTVผู้จัดการรายวัน-"ประจิน"สั่งทบทวนมติคัดเลือกเอกชนเดินรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยายให้รอบคอบ จี้บอร์ด รฟม. และคณะกรรมการมาตรา 13 หาข้อสรุปโดยเร็ว ยันรอตั้งบอร์ด รฟม. เพิ่มอีก 1 คน ก่อนพิจารณาเดินหน้าหาข้อสรุป ด้านประธานกรรมการมาตรา 13 รับลูกเตรียมวิเคราะห์ประโยชน์ในการเจรจาตรง พร้อมข้อดี ข้อเสีย ยันต้องการให้เกิดการเดินรถต่อเนื่อง และประชาชนได้ประโยชน์สูงสุด
พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยถึงความคืบหน้าคัดเลือกเอกชนเดินรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย (หัวลำโพง-บางแค และบางซื่อ-ท่าพระ) ระยะทาง 27 กิโลเมตร ว่า ขณะนี้ยังมีความเห็นต่างกันเรื่องเปิดประกวดราคาหรือเจรจาตรงกับบริษัท รถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BMCL เนื่องจากในมติของคณะกรรมการมาตรา 13 แห่งพ.ร.บ.เข้าร่วมงานหรือดำเนินงานในกิจการของรัฐ พ.ศ.2535 (พ.ร.บ.ร่วมทุนฯ 35) ชุดเก่า ที่มีนายรณชิต แย้มสอาด รองผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เป็นประธานนั้น มีกรรมการมาตรา 13 จำนวน 2 คน ไม่ได้อยู่ในที่ประชุม จึงมีการตีความว่า กรณีมติเห็นชอบให้ประกวดราคาคัดเลือกนั้น ถูกต้องตามกติกาและข้อกฎหมายหรือไม่ และล่าสุดคณะกรรมการมาตรา 13 ชุดที่มีนายพีระยุทธ สิงห์พัฒนากุล รองผู้ว่าฯรฟม. (ฝ่ายวิศวกรรมและก่อสร้าง) ได้ขอคำปรึกษามาที่บอร์ด รฟม. ในประเด็นดังกล่าวอีกด้วย
ทั้งนี้ ในส่วนของนโยบายเห็นว่า หากบอร์ด รฟม. จะให้คำปรึกษา ควรมีการแต่งตั้งบอร์ดให้ครบถ้วนก่อน ซึ่งขณะนี้กระทรวงคมนาคมอยู่ระหว่างนำเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) แต่งตั้งบอร์ด รฟม. เพิ่มเติม 1 คน คือ นายจุฬา สุขมานพ อธิบดีกรมเจ้าท่า (จท.) เป็นบอร์ด รฟม. ในส่วนของกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ และเมื่อตั้งบอร์ด รฟม. เพิ่มเติมแล้ว จะสามารถให้ความเห็นได้อย่างเต็มที่ ซึ่งยืนยันว่า แม้กรรมการมาตรา13 จะมีอำนาจเต็มในการพิจารณา ตามพ.ร.บ.ร่วมทุนฯ 35 แต่เมื่อได้มีการปรึกษามา บอร์ด รฟม. สามารถให้ความเห็นได้ตามขั้นตอน โดยบอร์ด รฟม. มีอำนาจหน้าที่ในการกำกับดูแลเชิงยุทธศาสตร์และการบริหาร เพื่อให้ฝ่ายบริหารได้ทำงานให้เป็นไปตามเป้าหมายที่กำหนด ส่วนคณะกรรมการมาตรา 13 มีอำนาจดูแลในการจัดซื้อจัดจ้างในประเด็นที่ได้รับมอบหมาย
"ตอนนี้ มติของคณะกรรมการมาตรา 13 ชุดเดิม ไม่เป็นที่ยอมรับ เพราะมีกรรมการ 2 ท่าน ไม่ได้อยู่ในที่ประชุม ผมไม่อยากให้เรื่องค้างคาใจกัน เพราะจะทำงานกันต่อไม่ได้ ในขณะที่อยากให้เรื่องนี้ได้ข้อสรุปโดยเร็ว ซึ่งมีบอร์ดครบแล้ว ก็จะทำหน้าที่ให้ความเห็นได้เลยว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป"พล.อ.อ.ประจินกล่าว
นายพีระยุทธ สิงห์พัฒนากุล รองผู้ว่า (วิศวกรรมและก่อสร้าง) รฟม. ในฐานะประธานคณะกรรมการตามมาตรา 13 พ.ร.บ.ร่วมทุนฯ35 ในการคัดเลือกเอกชนดำเนินการเดินรถโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย กล่าวว่า ได้เตรียมข้อมูลเปรียบเทียบ ข้อดี ข้อเสีย ระหว่างการประกวดราคากับการเจรจาตรงกับ BMCL ไว้แล้ว โดยรอความเห็นจากบอร์ด รฟม.ก่อน จากนั้น จะเรียกประชุมคณะกรรมการมาตรา13 เพื่อพิจารณาร่วมกัน ซึ่งในหลักการจะต้องนำข้อมูลในทุกด้านมาวิเคราะห์ประกอบการก่อนตัดสินใจ ซึ่งจะเร่งดำเนินการให้เร็วที่สุด โดยหลักในการพิจารณาของกรรมการมาตรา 13 ยังเหมือนเดิม คือ ยึดตามความเห็นของบอร์ด รฟม. ที่ต้องการให้มีการเดินรถที่ต่อเนื่อง ซึ่งจะทำให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับประชาชน
อย่างไรก็ตาม ประเด็นที่คณะกรรมการมาตรา 13 จะพิจารณาเปรียบเทียบระหว่างวิธีประกวดราคากับการเจรจาตรง จะเป็นเรื่องความปลอดภัย ความสะดวกของผู้โดยสาร ค่าใช้จ่าย ระยะเวลา ข้อกฎหมายและความเป็นธรรม ซึ่งเชื่อว่าเมื่อมีข้อมูลครบถ้วนเพียงพอ คณะกรรมการฯ ที่มีผู้แทนจากหน่วยงานสำคัญ ทั้งอัยการ กฤษฎีกา คลัง จะพิจารณาในทุกแง่มุมได้อย่างรอบคอบ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เป็นที่น่าสังเกตว่าโครงการต่างๆ ที่สำคัญเหล่านี้ ยังล่าช้า เพราะเบื้องหลังมีกลุ่มผู้บริหารใน รฟม. และ รฟท. ยังคงดำเนินการในรูปแบบเดิมๆ หวังผลประโยชน์จากการจัดซื้อจัดจ้าง ไม่ได้มองว่าการเร่งรัดงานจะส่งผลดีต่อส่วนรวมอย่างไรบ้าง ซึ่งโครงการที่มีปัญหามากที่สุดในขณะนี้ คือ การคัดเลือกเอกชนให้บริการโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ส่วนต่อขยาย ช่วงหัวลำโพง-บางแค และบางซื่อ-ท่าพระ ที่แม้ ครม. มีมติเห็นชอบให้เจรจาตรงกับ BMCL สำหรับช่วงเตาปูน-บางซื่อ 1 กิโลเมตรแล้ว แต่ส่วนที่เหลืออีก 27 กิโลเมตรยังไม่มีความชัดเจน และโครงการ Airport Link ที่ปัจจุบันมีปัญหาการดำเนินการ ยังไม่มีแนวทางการแก้ไขอย่างเป็นรูปธรรม
สำหรับการบริหารงานของผู้บริหาร รฟม. และ รฟท. จะทำให้มีผลกระทบกับเศรษฐกิจของประเทศ โดยเฉพาะประชาชนที่ได้รับผลกระทบโดยตรงจากการไม่มีรถไฟฟ้าใช้ ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ที่ไปพัฒนาพื้นที่ตามแนวรถไฟฟ้าต่างๆ ก็ได้รับผลกระทบจากการที่ลงทุนดำเนินการไปแล้ว แต่รถไฟฟ้ายังไม่สามารถเปิดดำเนินการได้ตามแผน อาจเกิดภาวะฟองสบู่ และผู้ประกอบการก่อสร้างและผู้ผลิตวัสดุก่อสร้างต่างๆ ก็ยิ่งได้รับผลจากการดำเนินการล่าช้านี้อีกด้วย
อย่างไรก็ตาม เป็นที่น่าจับตาว่า รัฐบาลและกระทรวงคมนาคมจะเร่งรัดดำเนินการอย่างไร ซึ่ง รฟม. และ รฟท. ยังไม่มีผู้ว่าการฝ่ายบริหาร และยังมีปัญหา มีขบวนการใต้ดินคอยหาผลประโยชน์ หากรัฐบาลดำเนินการล่าช้าจะมีผลกระทบตามมามากเพราะแต่ละโครงการต้องใช้เวลาในการคัดเลือกเอกชนผู้ให้บริการนาน ซึ่งหากอีก 6 เดือน ยังไม่มีความคืบหน้า ก็จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจชัดเจน ทำให้นักลงทุนเกิดความไม่เชื่อมั่นและส่งผลต่อเศรษฐกิจไทย เพราะโครงการต่างๆ ส่อแววที่จะล่าช้าไม่เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ |
|
Back to top |
|
|
|