RailServe.Com

Main Menu

 
icon_home.gif Homepage
icon_community.gif Members Zone
· ข้อมูลส่วนตัว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ข่าวสารส่วนตัว
· บริการเว็บเมล์
· กระดานข่าว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก กระดานฝากข้อความ
· รถไฟไทยแกลลอรี่
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก รายนามสมาชิก
· แบบสำรวจ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก สมุดเยี่ยม
· เกี่ยวกับสมาชิก
favoritos.gif News & Stories
· เรื่องทั้งหมด
· เนื้อหาสาระ
· เรื่องสำหรับพิมพ์
· ยอดฮิตติดอันดับ
· ค้นหาข่าวสาร
· ค้นหากระทู้เก่า
nuke.gif Contents
· กำหนดเวลาเดินรถ
· ประเภทขบวนรถโดยสาร
· ข้อมูลเส้นทางรถไฟ
· แผนที่เส้นทางรถไฟ
· อัตราค่าโดยสาร
· คำนวณค่าโดยสารรถไฟ
· รูปแบบการให้บริการรถไฟ
· หมายเลขโทรศัพท์ที่สำคัญ
· ทริปท่องเที่ยวโดยรถไฟ
· ระบบติดตามขบวนรถ
som_downloads.gif Services
· Downloads
· GoogleSearch
· Hotels Booking
· FlashGames
· Wallpaper 1
· Wallpaper 2
· Wallpaper 3
· Wallpaper 4
icon_members.gif Information
· เกี่ยวกับเรา
· นโยบายความเป็นส่วนตัว
· แผนผังเว็บไซต์ฯ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ส่งข้อแนะนำติชม
· ติดต่อลงโฆษณา
· แนะนำและบอกต่อ
· สถิติทั้งหมด
· สำหรับผู้ดูแลระบบ
 

Sponsors

 

Rotfaithai Gallery in Facebook

 

Visitors

 


มีผู้เข้าเยี่ยมชม
สมาชิก:311238
ทั่วไป:13181510
ทั้งหมด:13492748
คน ตั้งแต่
01-08-2004
 


Rotfaithai.Com :: View topic - รวมข่าวรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนในอนาคตตามนโยบายรัฐบาล
 Forum FAQForum FAQ   SearchSearch   UsergroupsUsergroups   ProfileProfile   Log in to check your private messagesLog in to check your private messages   Log inLog in 

รวมข่าวรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนในอนาคตตามนโยบายรัฐบาล
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 99, 100, 101 ... 277, 278, 279  Next
 
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> โครงการระบบรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนในอนาคต
View previous topic :: View next topic  
Author Message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42629
Location: NECTEC

PostPosted: 09/10/2014 2:37 am    Post subject: Reply with quote

คมนาคมลั่นเปิดประมูลรถไฟฟ้า3สายในปี58
ข่าวเศรษฐกิจ
ไทยโพสต์
วันพฤหัสบดีที่ 09 ตุลาคม พ.ศ. 2557- 00:00


คมนาคมเดินหน้าโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู-เหลือง-ส้ม พร้อม และแอร์พอร์ตลิงค์ส่วนต่อขยายเปิดประมูลปี 58 ด้าน รฟม.ขอทบทวนงานโยธา หวั่นขัดข้อกฎหมายก่อนเสนอบอร์ดพิจารณาอีกครั้ง

นางสร้อยทิพย์ ไตรสุทธิ์ ปลัดกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังการประชุมติดตามความคืบหน้าการดำเนินการโครงการรถไฟฟ้า โดยมี พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รมว.คมนาคม เป็นประธาน ว่า การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ได้รายงานความคืบหน้าโครงรถไฟฟ้าสายต่างๆ และขอกลับไปทบทวนโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู และสายสีเหลือง ในเรื่องของการลงทุนและงานโยธาอีกครั้ง ก่อนที่จะนำกลับมาเสนอคณะกรรมการ (บอร์ด) รฟม.อีกครั้งในวันที่ 17 ต.ค.2557 นี้ เนื่องจากพบว่าแผนการพัฒนาพื้นที่รอบศูนย์ซ่อม อาจขัดต่อกฎหมาย โดยเฉพาะในเรื่องการเวนคืน

“คาดว่าภายในต้นเดือน พ.ย.57 รฟม.จะส่งรายละเอียดมายังสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) จากนั้นจะนำเสนอเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่ออนุมัติโครงการต่อไป” นางสร้อยทิพย์กล่าว

สำหรับความคืบหน้าโครงการรถไฟฟ้าสายอื่นนั้นขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของกระทรวงคมนาคม อาทิ สายสีส้มตะวันออก ช่วงศูนย์วัฒนธรรม-มีนบุรี 2.สายสีชมพู ช่วงแคราย-มีนบุรี และ 3.สายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว-สำโรง รวมระยะทางประมาณ 120 กม. หากเป็นไปตามแผน จะสามารถประกวดราคาหาผู้รับเหมาก่อสร้างได้ภายในปี 2558 รวมถึงโครงการส่วนต่อขยายแอร์พอร์ตลิงค์ ช่วงพญาไท-ดอนเมือง ที่อยู่ในความรับผิดชอบของการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) อย่างไรก็ตาม คาดว่าภายในต้นเดือน พ.ย.57 รฟม.จะส่งรายละเอียดมายังกระทรวงคมนาคม.
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42629
Location: NECTEC

PostPosted: 13/10/2014 4:14 am    Post subject: Reply with quote

ที่ดินกระฉูดวาละ1.9ล้าน แพงทำลายสถิติ-แย่งซื้อสร้างคอนโด
ประชาชาติธุรกิจออนไลน์
11 ตุลาคม พ.ศ. 2557-เวลา 11:18:43 น.


วงการอสังหาฯช็อก ที่ดินแพงกระฉูด ทำเลใจกลางเมือง-แนวรถไฟฟ้า "สุขุมวิท-ทองหล่อ-สีลม" ซื้อขายทะลุ 1-1.9 ล้าน/วา แพงสุดทำลายสถิติเท่าที่เคยปรากฏ ส่วนต่อขยายสายสีม่วง-น้ำเงิน-เขียว ราคาพุ่งไม่หยุด "แลนด์ ฯ-คิวเฮ้าส์"บ่นแพงเว่อร์ ธนารักษ์คลอดราคาประเมินใหม่ขยับแน่ 10-15%

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แม้ภาพรวมเศรษฐกิจช่วงที่ผ่านมาจะเข้าสู่ภาวะชะลอตัว แต่ปรากฏว่าราคาที่ดินกลับแพงขึ้นมากอย่างน่าตกใจ โดยเฉพาะทำเลในเมืองและแนวรถไฟฟ้า รวมถึงแนวส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าสีต่างๆ ราคาที่ดินมีการปรับสูงขึ้นต่อเนื่อง



เปิดดีลที่แพง-สาทรเวอร์สุด

แหล่งข่าวในวงการอสังหาริมทรัพย์กล่าวย้ำประเด็นนี้ว่า ที่ฮือฮามากคือการซื้อขายที่ดินของ 3 บริษัทใหญ่ 1.บมจ.ควอลิตี้ เฮ้าส์ เนื้อที่ 3 ไร่ ติดสถานีนานา ตร.ว.ละ 1.8-1.9 ล้านบาท สูงกว่าราคาประเมินเกิน 4 เท่า เป็นการทุบสถิติเท่าที่เคยมีมา 2.ดีลของบริษัท สยามนุวัตร จำกัด ตรงข้ามตึกเอ็กซ์เชนจ์ ทาวเวอร์ แยกอโศก เนื้อที่ 2 ไร่ ตร.ว.ละ 1.6 ล้านบาท และ 3.บมจ.อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ ซื้อที่ดิน 3 ไร่ หลังสยามสมาคม ใกล้แยกอโศก ตกราคา ตร.ว.ละ 1 ล้านบาท

"เมื่อผู้ประกอบการต้องซื้อที่ดินแพง หลังพัฒนาเป็นคอนโดฯแล้วก็ต้องขายแพงตามต้นทุนที่สูงขึ้นเฉลี่ย ตร.ม.ละ 1.6-2.3 แสนบาท แน่นอนว่ากระทบผู้บริโภค เพราะรายได้ไม่ขยับสูงตามสินค้า การซื้อขายห้องชุดจึงชะลอตัวไปด้วย ส่วนการปรับตัวมีผู้ประกอบการบางรายต้องใช้วิธีรีดีไซน์ห้องชุดให้เล็กลง หรือยอมเฉือนกำไรขั้นต้นลง จากเดิมไม่ต่ำกว่า 35% เพื่อคุมราคาต่อยูนิตไม่ให้ขยับขึ้นมาก" แหล่งข่าวกล่าวและว่า

ส่วนราคาที่ดินที่กำลังสร้างเซอร์ไพรส์ในขณะนี้คือ แปลงที่ดินสถานทูตฝรั่งเศส ขนาด 3 ไร่ ริมถนนสาทร ตั้งราคาขายถึง ตร.ว.ละ 1.9 ล้านบาท ปรับขึ้น 90-100% ในเวลาเพียง 2 ปี เป็นสถิติที่น่าจับตา และเป็นที่ดินแปลงเดียวกับที่กลุ่มโรงแรมสุโขทัย นักลงทุนจากฮ่องกงเคยประมูลซื้อไปในราคา 1,600 ล้านบาท เฉลี่ย ตร.ว.ละ 1 ล้านบาท และขายต่อเมื่อปีที่ผ่านมา

ส่วนต่อขยายราคาพุ่งไม่หยุด

นายวสันต์ คงจันทร์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท โมเดิร์น พร็อพเพอร์ตี้ คอนซัลแตนท์ จำกัด เปิดเผยว่า ช่วง 1 ปีที่ผ่านมา ราคาที่ดินที่ขยับขึ้นเร็วมาก ๆ โดยเฉพาะแนวรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายที่กำลังก่อสร้างและจะเริ่มสร้างในอนาคตอันใกล้ โดยปรับขึ้นกว่า 30%อาทิ 1.สายสีม่วง บางซื่อ-บางใหญ่ โซนรัตนาธิเบศร์ บางบัวทอง ได้รับอานิสงส์จากห้างเซ็นทรัลเวสท์เกต ทำให้ราคาที่ดินขยับขึ้นจากปีที่ผ่านมา 30% จาก ตร.ว.ละ 1 แสนต้น ๆ เป็น 2 แสนบาท 2.สายสีน้ำเงิน (บางซื่อ-ท่าพระ และหัวลำโพง-บางแค) ที่ดินบนถนนจรัญสนิทวงศ์และเพชรเกษมปรับขึ้นจากปีที่ผ่านมา 30% จาก ตร.ว.ละเกือบ 1.6-2 แสนบาท เป็น 2-3 แสนบาท ขณะที่ 3 ปีก่อน ราคาที่ดินเดิมประกาศขายที่ ตร.ว.ละ 1 แสนต้น ๆ

3.สายสีเขียว (แบริ่ง-สมุทรปราการ) ปรับขึ้นจากปีก่อน 20% ได้แก่ แยกบางนา จาก ตร.ว.ละ 2.5-3 แสนบาท เป็น 3-4 แสนบาท ช่วงแบริ่ง จาก 1.5 แสนบาท เป็น 2 แสนบาท และสมุทรปราการ จาก 4-6 หมื่นบาท เป็น 5-7 หมื่นบาท 4.สายสีแดง (บางซื่อ-รังสิต) ช่วงหลักสี่ ปรับขึ้นจากปีก่อน 10% จาก ตร.ว.ละ 9 หมื่น-1.3 แสนบาท เป็น 1 แสน-1.5 แสนบาท ย่านตลาดรังสิต ปรับขึ้น 15% จาก 4 หมื่นบาทต้น ๆ เป็น 5-6 หมื่นบาท 5.สายสีเขียว (หมอชิต-คูคต) ช่วงจตุจักร-แยกลาดพร้าว ปรับขึ้นจากปีก่อน 20% จาก ตร.ว.ละเกือบ 3 แสนบาท เป็น 3-3.5 แสนบาท และ 6.สายสีชมพู โซนแคราย-ปากเกร็ด ปรับขึ้นจากปีที่ผ่านมา 10% จาก ตร.ว.ละ 1.4-1.8 แสนบาท เป็น 1.5-2 แสนบาท

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ บจ.เซ็นจูรี่ 21 (ประเทศไทย) เปิดโพยว่า ราคาที่ดิน 4 ทำเลยอดนิยมปรับขึ้นจากปีก่อนเฉลี่ย 30-40% ได้แก่ 1) ทองหล่อ-เอกมัย ซื้อขายอยู่ที่ ตร.ว.ละ 1.2-1.8 ล้านบาท 2) พญาไท-พหลโยธิน-สนามเป้า-สะพานควาย ปีที่แล้วซื้อขาย ตร.ว.ละ 5.5 แสนบาท ปีนี้อยู่ที่ 7.5-8.5 แสนบาท 3) สาทร-ศาลาแดง-สวนพลู จากปีที่ผ่านมาซื้อขาย ตร.ว.ละ 6-7 แสนบาท ปีนี้อยู่ที่ 8 แสน-1 ล้านบาท 4) ห้าแยกลาดพร้าว-แยกรัชดาฯ-ลาดพร้าว จากปีที่ผ่านมาซื้อขาย ตร.ว.ละ 2.5-5 แสนบาท ปีนี้ขยับขึ้นเป็น 3.5-5.5 แสนบาท

แลนด์ฯชี้ราคาที่ดินแพงเว่อร์

นายนพร สุนทรจิตต์เจริญ กรรมการผู้จัดการ บมจ.แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ เปิดเผย"ประชาชาติธุรกิจ" ว่า ราคาที่ดินช่วงหลายปีที่ผ่านมาแพงขึ้นรวดเร็วมาก โดยเฉพาะที่ดินในเมืองหากเป็นทำเลติดถนนสุขุมวิท นับจากชิดลมจนถึงปากซอยทองหล่อ หรือสุขุมวิท 55 ปัจจุบันไม่มีที่ดินเสนอขายราคาต่ำกว่า ตร.ว.ละ 1 ล้านบาทแล้ว ปัจจุบันการพัฒนาโครงการในทำเลดี ๆ ที่เป็นไพรมแอเรียจึงยากขึ้น เพราะโครงสร้างต้นทุนเปลี่ยน หากซื้อที่ดินราคา ตร.ว.ละ 1.2-1.5 ล้านบาท จะต้องสร้างคอนโดฯขายไม่ต่ำกว่า ตร.ม.ละ 2 แสนบาท"ราคาที่ดินในเมืองตอนนี้เว่อร์มากจริง ๆ ถึงสถานการณ์เศรษฐกิจช่วงครึ่งปีแรกชะลอตัวจนบางคนบอกว่าเป็นวิกฤต แต่ไม่เหมือนปีཤ ซึ่งตอนนั้นเจ้าของที่ดินเป็นหนี้แบงก์ ทำให้ราคาที่ดินลดลงแบบสุดโต่ง แต่ปัจจุบันสถานการณ์ต่างกัน เจ้าของที่ดินไม่ได้เป็นหนี้แบงก์ ไม่มีแรงกดดันให้รีบขาย จึงขายในราคาที่พอใจเท่านั้น" นายนพรกล่าว

แหล่งข่าวจาก บมจ.ควอลิตี้ เฮ้าส์ เปิดเผยว่า ที่ขยับขึ้นเร็วมาก แค่มีข่าวจะสร้างรถไฟฟ้าราคาก็ไปแล้ว เช่น งามวงศ์วาน แนวสายสีชมพู-สีม่วง ปี 2555 ราคาที่ตร.ว.ละ 1.2 แสนบาท ปัจจุบัน 2 แสนบาท หรือปรับขึ้น 65% ใน 2 ปี จากที่เคยพัฒนาคอนโดฯราคาเริ่มต้น 1.29 ล้านบาท หากซื้อที่ดินพัฒนาปีนี้จะต้องขายราคา 2 ล้านบาท ผลกระทบก็จะตกอยู่กับผู้บริโภคต้องซื้อบ้าน-คอนโดฯราคาแพงขึ้น

บีทีเอสวงเวียนใหญ่แพงเท่าตัว

แหล่งข่าวจากบริษัทพัฒนาที่ดินในตลาดหลักทรัพย์รายหนึ่งเปิดเผยว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้บริษัทเพิ่งโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินใกล้กับสถานีบีทีเอสวงเวียนใหญ่ ซึ่งเจรจาไว้ตั้งแต่ปีที่ผ่านมา ราคา ตร.ว.ละกว่า 3 แสนบาท ที่น่าตกใจคือปีที่ผ่านมาราคาที่ดินบางแปลงในบริเวณใกล้เคียงกัน เจ้าของตั้งราคา ตร.ว.ละ 4-5 แสนบาท ปัจจุบันขึ้นเท่าตัวเป็น ตร.ว.ละ 5-8 แสนบาท หากได้ที่ดินในราคานี้จะต้องสร้างคอนโดฯขายราคาไม่ต่ำกว่า ตร.ม.ละ 1.5 แสนบาท ไม่แน่ใจว่าผู้บริโภคจะซื้อไหวหรือไม่

"ล่าสุดเพิ่งไปเจรจากับเจ้าของที่ดินแปลงหนึ่งติดซอยทองหล่อ ราคาที่ตั้งไว้ ตร.ว.ละ 1.2 ล้านบาท ไม่มีการต่อรอง คิดว่าราคาไม่น่าจะสูงขนาดนี้ จากประสบการณ์ตอนนี้ราคาที่ดินแพงจนน่าตกใจ ที่เคยเจอคือภายในเดือนเดียวขึ้นราคาถึง 3 ครั้ง

"จ่อปรับราคาประเมิน 10-15%

แหล่งข่าวจากกรมธนารักษ์ เปิดเผยว่า กำลังเก็บข้อมูลราคาซื้อขายที่ดินพื้นที่กรุงเทพฯ นำมาเป็นฐานข้อมูลประกอบการปรับราคาประเมินรอบบัญชีใหม่ปี 2559-2562 คาดว่ามีแนวโน้มจะปรับเพิ่มขึ้นไม่เกินรอบบัญชีปัจจุบัน (2555-2558) อยู่ที่ 10-15% เนื่องจากมีการปรับเพิ่มไปแล้วก่อนหน้านี้ ทำให้ราคาประเมินใหม่ที่จะประกาศใช้จะไม่ร้อนแรงมากนัก เนื่องจากรถไฟฟ้าที่สร้างใหม่ยังไม่แล้วเสร็จที่คาดว่าราคาสูงสุดยังอยู่แนวรถไฟฟ้าบีทีเอส เช่น ถนนสีลม รอบนี้คาดว่าจะเกินกว่า 900,000 บาท/ตร.ว. ราชดำริ-เพลินจิต คาดว่าจะเฉียด 900,000 บาท เป็นต้น
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42629
Location: NECTEC

PostPosted: 13/10/2014 5:46 pm    Post subject: Reply with quote

อัพเดตรถไฟฟ้าหลากสี เร่ง "สีม่วง" เปิดปี"58 จ่อประมูลใหม่ 4 สาย
ประชาชาติธุรกิจออนไลน์
13 ตุลาคม พ.ศ. 2557 เวลา 15:43:39 น.


หลังนั่งเก้าอี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมเต็มตัว เพื่อให้ผลงานเข้าตาประชาชน ล่าสุด "บิ๊กจิน-พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง" ลุยจัดทัพโปรเจ็กต์รถไฟฟ้าหลากสีแบบเต็มสตรีมหวังให้เป็นผลงานสร้าง ชื่อให้ "รัฐบาลประยุทธ์ 1" ในช่วง 1 ปีนี้ มีทั้งเร่งปรับแผนการก่อสร้างโครงการเดิมและเร่งประมูลสายทางใหม่ออกมาเพิ่ม เติม

กลางปี"58 ทดสอบเดินรถสีม่วง

เริ่มจากสาย "สีม่วง" ช่วงบางซื่อ-บางใหญ่ ระยะทาง 23 กิโลเมตรที่ "บิ๊กจิน" อยากจะตัดริบบิ้นให้ทันรัฐบาลชุดนี้ ล่าสุดได้ปรับกรอบเวลาการเปิดทดลองเดินรถเร็วขึ้น 6 เดือนจากธันวาคมเป็นกลางปี 2558 จากนั้นเดือนกันยายน ปี"58 จะทดลองการเดินรถเสมือนจริงที่มีผู้โดยสารด้วย ปัจจุบันงานก่อสร้างคืบหน้า 99% ส่วนการเปิดบริการเชิงพาณิชย์จะเป็นวันที่ 12 สิงหาคม 2559

สาย "ต่อขยายสีน้ำเงิน" ช่างบางซื่อ-ท่าพระและหัวลำโพง-บางแค ระยะทาง 27 กิโลเมตร ที่จะเสริมโครงข่ายสายสีน้ำเงินเดิมเป็นวงกลมต่อเชื่อมกันครบสมบูรณ์ ขณะนี้งานก่อสร้างคืบหน้า 52% ล่าช้า 0.14% เพราะติดปัญหาพื้นที่ทับซ้อนกับอุโมงค์แยกไฟฉายและบางพลัดของ "กทม.-กรุงเทพมหานคร" จึงทำให้ผลงานดีเลย์ไปมากพอสมควร

ขณะที่การ เดินรถยังไม่สรุปจะเจรจา "บีเอ็มซีแอล-บมจ.รถไฟฟ้ากรุงเทพ" ผู้รับสัมปทานเดิม มาเดินรถให้หรือเป็นรายใหม่ แต่แนวโน้มน่าจะหนีไม่พ้นรายเดิม เพื่อให้ตรงกับเจตนารมณ์ของ "บิ๊กคมนาคม" ที่ต้องการให้การเดินรถต่อเนื่อง หากเป็นรายเดิมอย่างที่คาดไว้ มีเสียงยืนยันมาจาก "ปลิว ตรีวิศวเวทย์" แล้ว การเปิดบริการรถไฟฟ้าสายนี้อาจจะเปิดได้ตามกำหนดในปี 2560

สีแดง "บางซื่อ-รังสิต" เลื่อนเปิด

ด้าน สายสีแดง "ช่วงบางซื่อ-รังสิต" ระยะทาง 26 กิโลเมตร ของ "ร.ฟ.ท.-การรถไฟแห่งประเทศไทย" ยังทำผลงานล่าช้าอยู่ร่วม 30% ปัจจุบันคืบหน้าประมาณ 16% ทั้งที่เริ่มตอกเข็มตั้งแต่มีนาคม 2556 ซึ่งระหว่างทางมีสารพัดปัญหาที่ทำให้รถไฟฟ้าสายนี้ล่าช้า

ทั้งรอ "ครม.-คณะรัฐมนตรี" ไฟเขียวเงินค่าก่อสร้าง 8,140 ล้านบาท เป็นค่าแบบก่อสร้างที่ปรับใหม่ คาดว่าการประชุม ครม.นัดวันที่ 14 ตุลาคมนี้จะมีเรื่องนี้ให้ "นายกฯตู่" พิจารณา อีกทั้งยังต้องรอผลการต่อรองราคาสัญญาที่ 3 งานติดตั้งระบบรถไฟฟ้าที่ผู้รับเหมายังเสนอราคามาเกินจากกรอบวงเงินอยู่เท่า ตัว ต้องจับตาว่าหลังรถไฟฟ้าสายนี้ได้เงินอัดฉีดแล้ว "ร.ฟ.ท." จะเร่งงานก่อสร้างให้เสร็จตามกำหนดเดือนเมษายน 2560 หรือไม่ เพราะตอนนี้เริ่มเห็นเค้าลางแล้วว่าการเปิดให้บริการอาจจะล่าช้าไปถึงปี 2562

จับตา BTS กินรวบสายสีเขียว

ขณะที่ "สายสีเขียว" ช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ ระยะทาง 12.8 กิโลเมตร ที่เริ่มงานก่อสร้างเมื่อเดือนมีนาคม 2555 ผลงานก้าวหน้า 39.66% เร็วกว่าแผนอยู่กว่า 3% มีกำหนดแล้วเสร็จปี 2560 ซึ่งรถไฟฟ้าสายนี้ "รฟม.-การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย" กำลังวิตกสัมปทานเดินรถ ที่จะเชื่อมกับบีทีเอส ที่มี "กทม." คุมสัมปทานอยู่

เพราะเมื่อทิศ ทางลมการเมืองเปลี่ยนแล้ว ไม่รู้ "กทม." จะมีแผนใต้ดินขอบริหารจัดการเองหรือไม่ เพราะเริ่มเปรยผ่านสื่ออยากจะได้สาย "หมอชิต-สะพานใหม่-คูคต" ระยะทาง 18.4 กิโลเมตร ที่ "รฟม." กำลังจะตอกเข็มเดือนเมษายน 2558 ไปบริหารจัดการเอง หลังเปิดให้บริการในปี 2561

งานนี้รอลุ้นหลัง "บิ๊กจิน" สั่งเปิดโต๊ะเจรจากัน 3 ฝ่าย "กทม.-รฟม.-บีทีเอส" แต่จากการมาเยือนกระทรวงคมนาคมเมื่อเร็ว ๆ นี้ของ "เสี่ยคีรี กาญจนพาสน์" ล่าสุด ว่ากันว่ารถไฟฟ้าต่อขยายบีทีเอสทั้ง 2 สายที่อยู่ใต้ปีก "รฟม." ไม่น่าพ้นบีทีเอสเจ้าเดิม

ชง "บิ๊กตู่" อนุมัติ 4 สาย

สำหรับ โครงการใหม่ที่จะเสนอให้ ครม.อนุมัติ ล่าสุด "สร้อยทิพย์ ไตรสุทธิ์" ปลัดกระทรวงคมนาคม ย้ำว่า ภายในสิ้นปี 2557 นี้ มีทั้งหมด 4 สายทาง เงินลงทุนรวม 245,875 ล้านบาท ได้แก่ สายสีชมพู (แคราย-มีนบุรี) ระยะทาง 36 กิโลเมตร วงเงิน 58,264 ล้านบาท สายสีส้ม (ศูนย์วัฒนธรรม-มีนบุรี) ระยะทาง 20 กิโลเมตร วงเงิน 100,523 ล้านบาท

สายสีเหลือง (ลาดพร้าว-สำโรง) ระยะทาง 30.4 กิโลเมตร วงเงิน 55,986 ล้านบาท และสายต่อขยายแอร์พอร์ตลิงก์ (พญาไท-ดอนเมือง) ระยะทาง 21.8 กิโลเมตร เงินลงทุน 31,102 ล้านบาท และจะเปิดประมูลก่อสร้างต้นปี 2558 เป็นต้นไป ส่วนที่เหลือจากนี้ อาจจะต้องรอรัฐบาลหน้า
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42629
Location: NECTEC

PostPosted: 14/10/2014 4:49 pm    Post subject: Reply with quote

บอร์ดรฟม.เตรียมอนุมัติสร้างรถไฟฟ้าอีก2สาย
มติชน
วันที่ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2557 เวลา 12:51:10 น.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันที่ 14 ตุลาคม เวลา 14.00 น. คณะกรรมการ(บอร์ด) การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย(รฟม.) ที่มีพลเอกยอดยุทธ บุญญาธิการเป็นประธาน จะมีการประชุมโดยคาดว่าที่ประชุมจะมีการพิจารณาการก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพูช่วงแคลาย-มีนบุรี ระยะทาง 34.5 กม. โดยจะมี 30 สถานี วงเงินที่คาดว่าจะใช้ในการก่อสร้างประมาณ 58,303.5 ล้านบาท

รวมทั้งจะมีการพิจารณาอนุมัติให้มีการก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลืองช่วงลาดพร้าว-สำโรง ระยะทาง 30 กิโลเมตร มี 23 สถานี วงเงินที่จะใช้ในการก่อสร้าง 56,110.45 ล้านบาท โดยทั้ง2โครงการเป็นระบบขนส่งมวลชนประเภทรถไฟฟ้ารางเดี่ยว (Straddle Monorail) มีลักษณะเป็นโครงสร้างยกระดับตลอดแนวเส้นทาง เพื่อเชื่อมกับเส้นทางรถไฟฟ้าสายหลัก เช่น รถไฟฟ้าสายสีม่วง สายสีน้ำเงินและสายสีเขียวโดยคาดว่าจะสามารถเริ่มก่อสร้างทั้ง 2 โครงการได้ภายในปี 2558 แล้วเสร็จและสามารถเปิดใช้บริการได้ในปี 2563
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42629
Location: NECTEC

PostPosted: 15/10/2014 12:51 am    Post subject: Reply with quote

บอร์ดรฟม.ไฟเขียวหั่นงบเดปโป้สีชมพู-เหลือง 2.5พันล.ล้มแผนพัฒนาTOD
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 14 ตุลาคม 2557 19:43 น.

บอร์ดรฟม.เห็นชอบลดขนาดฐานรากศูนย์ซ่อม รถไฟฟ้าสายสีเหลือและสีชมพู ล้มแผนพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เหนือเดปโป้ (TOD) ประหยัดงบกว่า 2.5 พันล. เผยเหตุติดข้อกม.ไม่ชัดหวั่นฉุดโครงการล่าช้า เตรียมชงรถไฟฟ้าสีส้ม(ตะวันออก) สีชมพูและสีเหลือง มูลค่ากว่า 2 แสนล. เข้าครม.เห็นชอบประมูล


พล.อ.ยอดยุทธ บุญญาธิการ ประธานคณะกรรมการ (บอร์ด) การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เปืดเผยภายหลังการประชุมบอร์ด รฟม.วานนี้(14 ต.ค.) ว่า ที่ประชุมเห็นชอบการปรับลดขนาดฐานรากการก่อสร้างงานโยธาส่วนของอู่จอดและศูนย์ซ่อมบำรุง (เดปโป้) โครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู (แคราย-มีนบุรี) ที่ บริเวณมีนบุรีและโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง (ลาดพร้าว-สำโรง)ที่บริเวณวัดศรีเอี่ยม พื้นที่ประมาณ 112 ไร่ ในส่วนที่จะรองรับการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ (TOD) ในอนาคตออก รวมวงเงินที่ปรับลดลงแห่งละประมาณ 1,200-1,300 ล้านบาทรวม 2 แห่งประมาณ 2,500-2,600 ล้านบาท โดยเดปโป้สายสีเหลืองจะลดลงจาก 4,561 ล้านบาทเหลือ 3,291 ล้านบาท

ทั้งนี้ ทางกระทรวงคมนาคมได้หารือมายังรฟม. หลังจากพิจารณาแล้วเห็นว่า การพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในขณะนี้ยังไม่มีความจำเป็นและอาจจะทำให้การก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าล่าช้าออกไป เนื่องจากการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์นั้นมีขั้นตอนค่อนข้างยุ่งยาก
และยังมีประเด็นข้อกฎหมายเวนคืนที่ดินที่ยังไม่ชัดเจนในขณะที่รัฐบาลต้องการเร่งรัดการก่อสร้างรถไฟฟ้าให้เป็นไปตามแผน จึงตัดเนื้องานส่วนนี้ออกเพื่อความรวดเร็ว โดยหลังจากนี้ รฟม.จะเร่งเสนอเรื่องกลับไปยังกระทรวงคมนาคมเพื่อนำเสนอขออนุมัติโครงการต่อคณะรัฐมนตรี(ครม.) ต่อไป โดยขณะนี้ มีรถไฟฟ้า 3 สายที่พร้อมที่จะดำเนินโครงการคือ สายสีชมพู ระยะทาง 36 กม.วงเงิน 56,691 ล้านบาท สายสีเหลือง ระยะทาง 30.4 กม. วงเงิน 54,644 ล้านบาทและสายสีส้ม ตะวันออก (ศูนย์วัฒนธรรม-มีนบุรี) ระยะทาง 20 กม. วงเงิน 95,108 ล้านบาท

นอกจากนี้ บอร์ดเห็นชอบนายยงสิทธิ์ โรจน์ศรีกุล ลาออกจากตำแหน่งผู้ว่าฯรฟม.โดยมีผลวันที่ 20 ตุลาคม 2557 ตามสัญญาว่าจ้างที่ต้องแจ้งล่วงหน้า 30 วัน ส่วนการสรรหาผู้ว่าฯรฟม.คนใหม่จะต้องรอหลังวันที่ 20 ตุลาคมก่อน

ส่วนความคืบหน้าการประกวดราคาโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวเหนือ (หมอชิต-สะพานใหม่-คูคต) อยู่ระหว่างการพิจารณาข้อเสนอด้านคุณสมบัติและเทคนิคคาดว่าจะพิจารณาข้อเสนอด้านราคาแล้วเสร็จในเดือนกุมภาพันธ์ 2558 ส่วนการเดืนรถสายสีเขียวใต้(แบริ่ง-สมุทรปราการ) นั้น จะยึดประโยชน์ของประชาชนมากที่สุด โดยประสานงานกับกระทรวงคมนาคมและกรุวเทพมหานคร (กทม.) เพื่อหาจุดร่วมและได้หารือนอกรอบกันแล้ว

ส่วนการเดินรถสายสีน้ำเงิน ส่วนต่อขยาย(บางซื่อ-ท่าพระและหัวลำโพง-บางแค) นั่น ล่าสุดเมื่อวันที่ 14 ตุลาคม ทางคณะกรรมการติดตามและตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณของภาครัฐ (คตร.) ได้เรียกรฟม.ไปชี้แจงเป็นครั้งที่ 2 แล้วซึ่งประเด็นที่คตร.สอบถามจะเป็นเรื่องที่ เกี่ยวข้องการพิจารณาและการลงมติของคณะกรรมการมาตรา13 แห่ง พ.ร.บ.ร่วมทุนฯ2535ว่าเป็นไปตามระเบียบและอำนาจที่มีหรือไม่ ทังนี้ เพื่อความมั่นใจว่าเป็นไปตามกรอบกฎหมายและโปร่งใส รวดเร็ว ตรวจสอบได้ คุ้มค่า โดยคาดว่าภายในเดือนตุลาคมนี้จะมีข้อสรุปจากคตร. และคณะกรรมการมาตรา 13 จะเริ่มเดินหน้าพิจารณาตามขั้นตอนต่อไปได้หลังจากต้องชะลอการหารือมาเกือบ2 เดือนแล้ว

"เป้าหมายของบอร์ดในการเดินรถสีน้ำเงินส่วนต่อขยายคือ ความต่อเนื่อง ประชาชนได้รับความสะดวกมากที่สุด ส่วนจะเป็นวิธีการใดนั้นขึ้นกับกรรมการมาตรา 13 ส่วนการเดืนรถสีเขียวใต้ ให้รฟม.เดินรถเอง ส่วนรูปแบบการให้บริการ เป็นไปได้ทั้งเปิดประมูลหาผู้รับจ้างเดินรถ หรือเจรจากับบีทีเอส โดยเลือกวิธีที่เดินรุต่อเนื่อง ประชาชนสะดวกไม่ต้องลงต่อรถ"พล.อ.ยอดยุทธกล่าวว่า
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42629
Location: NECTEC

PostPosted: 15/10/2014 6:26 pm    Post subject: Reply with quote

คนรายได้น้อยเฮ! "กคช." เตรียมสร้างบ้านเอื้ออาทรแนวรถไฟฟ้า
ประชาชาติธุรกิจออนไลน์
15 ตุลาคม 2557 เวลา 13:40:58 น.


นายกฤษดา รักษากุล ผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ (กคช.) รัฐวิสาหกิจในสังกัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) กล่าวว่า กคช.เตรียมทำโครงการพัฒนาที่อยู่อาศัยตามโครงข่ายคมนาคมโครงสร้างพื้นฐาน (ทีโอดี) เพื่อให้ประชาชนที่มีรายได้ต่ำและรายได้ปานกลางได้มีที่อยู่อาศัยใกล้เส้นทางคมนาคมที่มีประสิทธิภาพ และเพื่อให้เส้นทางคมนาคมมีประโยชน์ต่อสังคมมากที่สุด ซึ่งเราศึกษาแผนแม่บทแบ่งเป็น 3 ระดับ ได้แก่ 1.กคช.จะร่วมกับการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ด้วยการพัฒนาที่อยู่อาศัยบนที่ดินของ รฟม. ตามเส้นทางโครงข่ายรถไฟขนส่งมวลชนในกรุงเทพมหานคร และปริมณฑล 3 โครงการ ได้แก่ สถานีคลองบางไผ่ (สายสีม่วง จ.นนทบุรี), สถานีบางปึ้ง (สายสีเขียว จ.สมุทรปราการ) และสถานีมีนบุรี (สายสีชมพู จ.กรุงเทพฯ) 2.กคช.พัฒนาโครงการบนที่ดินของตัวเอง 4 พื้นที่ ได้แก่ รังสิตลำลูกกาคลอง 2 (สายสีเขียวเข้ม), ร่มเกล้า (สายสีส้ม), ประชานิเวศน์ (สายสีชมพู) และบางปู 2 จ.สมุทรปราการ (สายสีเขียว-ต่อขยายบางปึ้ง-บางปู สวางนิเวศน์) และ 3.กคช.กำลังศึกษาพื้นที่ส่วนราชการ อาทิ กรมธนารักษ์ เอกชนที่สนใจร่วมโครงการ อย่างไรก็ตามได้ศึกษาแผนแม่บทโครงการนี้เสร็จสิ้นแล้ว จากนี้จะเป็นขั้นตอนการเสนอเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาต่อไป

นายกฤษดากล่าวว่า นอกจากนี้ กคช.กำลังคิดทำโครงการอาคารเช่าผู้มีรายได้น้อย โดยพบว่าปัจจุบันมีประชาชนอยู่กลุ่มหนึ่งที่ไม่มีความสามารถจะซื้อที่อยู่อาศัยเป็นของตัวเองได้ อาทิ ประชาชนกลุ่มเพิ่มจบการศึกษาและเพิ่งเริ่มสู่ตลาดแรงงาน คนกลุ่มนี้ยังมีรายได้ไม่มากนัก ไม่สามารถหาซื้อที่อยู่อาศัยได้ จะต้องมาอาศัยที่อยู่อาศัยแบบเช่า ซึ่งขณะนี้อย่างตลอดบ้านเช่าก็คาดแคลนเยอะในรายที่มีราคาถูกและเหมาะสม จึงคิดจะทำอาคารเช่ารวม 10,000 หน่วย ในอัตรา 2,500 บาท ในกรุงเทพฯและปริมณฑล รองรับผู้มีรายได้ 15,301-22,900 บาท และอัตรา 1,500 บาท ตามภูมิภาค รองรับผู้มีรายได้ 8,801-13,500 บาท

นายกฤษดากล่าวว่า เบื้องต้นเรามีพื้นที่เป้าหมายที่ กคช.เป็นเจ้าของอยู่แล้ว 5 พื้นที่ ได้แก่ โครงการเคหะชุมชนร่มเกล้า จ.กรุงเทพฯ, โครงการเมืองใหม่บางพลี จ.สมุทรปราการ, โครงการชุมชนฉะเชิงเทรา จ.ฉะเชิงเทรา, โครงการเคหะชุมชนแหลมฉบัง จ.ชลบุรี และโครงการเคหะชุมชนมาบตาพุด จ.ระยอง อย่างไรก็ตาม เราจะเสนอไปทาง ครม.และสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ให้พิจารณา ซึ่งหากเห็นชอบในเร็ววันก็สามารถเริ่มดำเนินการก่อสร้างภายใน 2 ปี (2558-2559)
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44333
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 16/10/2014 7:42 pm    Post subject: Reply with quote

ปรับโฉม"ท่าเรือ"เทียบชั้นสนามบิน คมนาคมทุ่มงบ"รีโนเวต"-มีทางเชื่อมถึงรถไฟฟ้า
วันที่ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2557 เวลา 12:23 น. ข่าวสดออนไลน์

คมนาคมสั่งปรับโฉม 19 ท่าเรือทั้งกทม.-ปริมณฑล เน้นสะดวก-ทันสมัยเทียบเท่าสนามบิน มีร้านค้า-จอภาพบอกข้อมูลเรือและที่นั่ง ล็อตแรก 3 ท่า ที่นนทบุรี สาทร และปิ่นเกล้า เสร็จสงกรานต์ปีหน้า พร้อมทำทางเชื่อมรถไฟฟ้า-รถเมล์ด้วย

นาย อาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมช.คมนาคม กล่าวว่าให้นโยบายกรมเจ้าท่าและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งปรับปรุงระบบขนส่ง ทางน้ำครั้งใหญ่ เพื่อกระตุ้นให้ประชาชนหันมาโดยสารทางเรือเพิ่มขึ้นจากวันละ 2.5 แสนคน เป็น 3 แสนคน เพื่อช่วยบรรเทาปัญหารถติดในเมือง

เร่งให้ปรับปรุง ท่าเรือริมแม่น้ำเจ้าพระยา 19 แห่ง จากทั้งหมด 39 แห่ง ให้เป็นท่าเรือสมัยใหม่มีระบบอำนวยความสะดวกคล้ายสนามบิน ทั้งจุดพักผู้โดยสารที่แยกจากโป๊ะเรือ ภายในให้มีร้านค้า จอภาพบอกข้อมูลเกี่ยวกับรอบเรือ จำนวนผู้โดยสารที่ว่างอยู่ ทั้งนี้คาดนำร่องสร้างได้ก่อน 3 แห่งที่ ท่านนทบุรี สาทร และปิ่นเกล้า เสร็จในเดือน เม.ย.2558 เป็นของขวัญวันสงกรานต์อีก 6 แห่งเสร็จภายในปี2559 รวมงบประมาณ 70 ล้านบาท

ส่วนที่เหลืออีก 10 แห่ง จะทยอยทำเสร็จในปี2560 -61 สำหรับท่าเรือที่อยู่ในแผนปรับปรุง ได้แก่ ท่าปากเกร็ด ท่าพระนั่งเกล้า ท่านนทบุรี ท่าพระราม 5 ท่าพระราม 7 ท่าบางโพ ท่าเกียกกาย ท่าพายัพ ท่ากรุงธน ท่าเทเวศร์ ท่าพระอาทิตย์ ท่าพระปิ่นเกล้า ท่าพรานนก ท่าช้าง ท่าเตียน ท่าราชินี ท่าราชวงศ์ ท่าสี่พระยา และท่าสาทร

"มี แผนพัฒนาบริเวณท่าเรือต่างๆ ให้เชื่อมโยงกับการเดินทางรถไฟฟ้า และรถเมล์เพิ่มขึ้น โดยจะหารือกับกรุงเทพมหานครเพื่อขอให้เพิ่มป้ายรถเมล์บริเวณท่าเรือทุกแห่ง เพื่ออำนวยความสะดวก รวมถึงจะพัฒนาเส้นทางท่าเรือ 4 แห่ง ให้เชื่อมโยงกับรถไฟฟ้า ได้แก่ ท่าปากเกร็ดเชื่อมโยงกับรถไฟฟ้าสีชมพู ท่านั่งเกล้ากับรถไฟฟ้าสาย สีม่วง ท่าบางโพกับรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน และท่าสาทรกับรถไฟฟ้าบีทีเอส

ตลอดจนจะพัฒนาให้นำตั๋วโดยสาร เรือ มาใช้ร่วมกับตั๋วรถไฟฟ้า และรถเมล์ได้ ในรูปแบบตั๋วร่วมอิเล็กทรอนิกส์ หรืออี-ทิกเก็ตส์ นอกจากนี้ ยังมีนโยบายให้นำพื้นที่ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา และลำน้ำอื่นๆ มาปรับปรุงเป็นพื้นที่สาธารณะสำหรับเป็นแหล่งออกกำลังกาย จุดพักผ่อนให้ชาวเมือง พร้อมกับมีการทำแนวเขื่อนป้องกันตลิ่งป้องกันปัญหาน้ำท่วม

ขณะนี้เทศบาลปากเกร็ดมีแผนใช้งบประมาณก่อสร้างเองและได้ออกแบบเสร็จแล้ว เพื่อสร้างเป็นแนวเขื่อนสูง 2.5 เมตร ความยาว 446 เมตร
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42629
Location: NECTEC

PostPosted: 19/10/2014 8:02 am    Post subject: Reply with quote

คมนาคมหาทางลัดผุดเมกะโปรเจ็กต์2แสนล. ประมูลเทิร์นคีย์เร่งมอเตอร์เวย์ไปโคราช-รถไฟฟ้า2สี
ประชาชาติธุรกิจออนไลน์
17 ตุลาคม 2557 เวลา 12:48:11 น.


คมนาคม เร่งเครื่องลงทุนเมกะโปรเจ็กต์ เล็งดึงเอกชนประมูลเทิร์นคีย์เฉียด 2 แสนล้านบาท นำร่องมอเตอร์เวย์ "บางปะอิน-โคราช" 84,600 ล้านบาท รถไฟฟ้าโมโนเรล 2 สี "ชมพู-เหลือง" ร่วม 1.14 แสนล้าน ลัดคิวเปิดเคาะราคาเร็วขึ้นหลังงบประมาณมีจำกัด แหล่งเงินก่อสร้างยังไม่ชัดเจน

นางสร้อยทิพย์ ไตรสุทธิ์ ปลัดกระทรวงคมนาคม เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า ขณะนี้ให้กรมทางหลวง (ทล.) ไปพิจารณารูปแบบลงทุนก่อสร้างโครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองหรือมอเตอร์ เวย์สายที่พร้อมดำเนินการด้วยวิธีการจ้างเหมาเบ็ดเสร็จหรือเทิร์นคีย์ โดยให้เอกชนก่อสร้างก่อนแล้วรัฐบาลผ่อนชำระคืนภายหลังพร้อมดอกเบี้ย

"มอเตอร์ เวย์ใช้เงินลงทุนค่อนข้างสูงจะต้องให้เอกชนเข้ามาช่วยลงทุนเพื่อให้โครงการ เกิดขึ้นได้เร็วขึ้น เนื่องจากงบประมาณภาครัฐมีจำกัด ต้องหารูปแบบวิธีการอื่น ๆ มาเป็นทางเลือกเพิ่ม" นางสร้อยทิพย์กล่าว

ประมูลเทิร์นคีย์มอเตอร์เวย์

นาย ชูศักดิ์ เกวี อธิบดีกรมทางหลวง กล่าวเพิ่มเติมว่า แนวคิดปลัดกระทรวงคมนาคมตรงกับแนวคิดของตนที่จะนำระบบเทิร์นคีย์มาลงทุนก่อ สร้างมอเตอร์เวย์ โดยนำร่องสายบางปะอิน-สระบุรี-นครราชสีมา ระยะทาง 196 กิโลเมตร เงินลงทุน 84,600 ล้านบาท แยกเป็นค่าเวนคืนที่ดิน 6,600 ล้านบาท ค่าก่อสร้าง 77,000 ล้านบาท เนื่องจากมีความพร้อมทั้งแบบรายละเอียดโครงการและ พ.ร.ฎ.เวนคืนที่ดินที่ได้มีการออกประกาศบังคับใช้และเริ่มสำรวจพื้นที่จริง เพื่อสรุปยอดผู้ที่ถูกเวนคืนแล้ว

ทั้งนี้ หากได้รับการอนุมัติจากกระทรวงคมนาคมและคณะรัฐมนตรี (ครม.) สามารถเปิดประมูลก่อสร้างได้ทันที คาดว่าใช้เวลาก่อสร้างประมาณ 4 ปี ส่วนการเก็บค่าผ่านทาง กรมทางหลวงจะเป็นผู้จัดเก็บเองเหมือนกับมอเตอร์เวย์สายกรุงเทพฯ-ชลบุรี และถนนวงแหวนรอบนอก ซึ่งก่อนหน้านี้กรมเคยดำเนินการรูปแบบนี้มาแล้วกับโครงการวงแหวนด้านใต้ เมื่อหลายปีก่อน

"รูปแบบเทิร์นคีย์ที่กรมเสนอจะไม่ใช่เทิร์น คีย์ 100% ซึ่งเป็นรูปแบบที่เอกชนจะต้องออกแบบและก่อสร้างไปพร้อมกัน โดยกรมใช้แบบก่อสร้างที่ออกแบบเสร็จแล้วแต่จัดจ้างเอกชนก่อสร้าง โดยเอกชนเป็นผู้หาแหล่งเงินมาลงทุนก่อสร้างให้ จากนั้นกรมจะชำระคืนภายหลัง วิธีนี้ทำให้การก่อสร้างโครงการรวดเร็วขึ้นเมื่อเทียบกับการให้เอกชนเข้ามา ร่วมลงทุนตาม พ.ร.บ.ร่วมทุนฯ ในรูปแบบ PPP เพราะต้องใช้เวลาอย่างน้อย 1 ปีกว่าจะได้ตัวเอกชนมาดำเนินการก่อสร้าง"

นายชูศักดิ์กล่าว อีกว่า สำหรับการประมูลก่อสร้างเพื่อให้รวดเร็วขึ้น จึงมีความเป็นไปได้สูงที่จะแบ่งการก่อสร้างออกเป็นหลายสัญญา อีกทั้งเป็นการกระจายงานก่อสร้างให้มีผู้รับเหมาหลายสัญญา ทำให้เกิดการแข่งขันมากขึ้นบิ๊กจินแบไต๋ใช้กับรถไฟฟ้า

แหล่งข่าวจากกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า นอกจากกระทรวงมีนโยบายจะใช้รูปแบบเทิร์นคีย์มาก่อสร้างมอเตอร์เวย์แล้ว ล่าสุด พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้เปรยในที่ประชุมเชิงปฏิบัติการ (เวิร์กช็อป) ด้านคมนาคมขนส่งทางบก ให้การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) พิจารณาถึงความเป็นไปได้นำรูปแบบวิธีก่อสร้างแบบเทิร์นคีย์มาใช้กับรถไฟฟ้า 2 สายทาง เงินลงทุนรวม 114,250 ล้านบาท ได้แก่ สายสีชมพู (แคราย-มีนบุรี) 36 กิโลเมตร ลงทุน 58,264 ล้านบาท สายสีเหลือง (ลาดพร้าว-พัฒนาการ-สำโรง) 30.4 กิโลเมตร 55,986 ล้านบาท

โดยผู้รับเหมาก่อสร้าง คนออกแบบ และผู้ผลิตรถไฟฟ้าเป็นกลุ่มเดียวกัน เพื่อให้การก่อสร้างรวดเร็วขึ้น เนื่องจากทั้ง 2 โครงการนี้เป็นระบบโมโนเรลหรือรถไฟฟ้าขนาดเบา โดยงานโยธากับจัดหาระบบรถจะต้องสอดรับกัน

"รถไฟฟ้า 2 สายนี้รัฐบาลพยายามเร่งรัดการลงทุน แต่งบประมาณปี 2558 ได้แค่ค่าสำรวจอสังหาริมทรัพย์เพื่อเวนคืนที่ดินเท่านั้น ยังไม่มีวงเงินมาให้ จำเป็นต้องหาวิธีการที่จะทำให้การก่อสร้างเกิดขึ้นได้เร็วขึ้น รูปแบบเทิร์นคีย์ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งเพราะเอกชนที่เข้าประมูลจะต้องหา เงินมาก่อสร้างให้ จะทำให้โครงการเดินหน้าได้เร็วขึ้น ซึ่งทั้ง 2 สายนี้ได้ปรับแผนเปิดให้บริการจากเดิมในปี 2562 เป็นปี 2563"

นายรณ ชิต แย้มสอาด รองผู้ว่าการฝ่ายปฎิบัติการและรักษาการผู้ว่าการ การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นเพียงแนวคิด ยังไม่ได้มีนโยบายชัดเจน ก่อนหน้านี้คณะกรรมการ (บอร์ด) รฟม.ให้ดำเนินการในรูปแบบที่รัฐดำเนินการเองหรือ PSC (Public Sector Comparator) คือให้ รฟม.ลงทุนงานโยธา ระบบรถไฟฟ้า จัดหาขบวนรถไฟฟ้าเองทั้งหมด โดยระบบรถไฟฟ้าทั้งสายสีชมพู และสีเหลืองให้เป็นระบบเดียวกัน และให้ รฟม.บูรณาการบริหารจัดการก่อสร้างทั้งโครงสร้างงานโยธา งานระบบรถไฟฟ้า งานเดินรถและบำรุงรักษาทั้งระบบไส้ในรถไฟฟ้าเหลือง-ชมพู

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า สำหรับเงินลงทุนรถไฟฟ้าสายสีชมพู 58,264 ล้านบาท แยกเป็น ค่าเวนคืนที่ดิน 6,847 ล้านบาท ค่างานโยธา 16,772 ล้านบาท ศูนย์ซ่อมบำรุงและอาคารจอดแล้วจร 3,310 ล้านบาท งานลิฟต์และบันไดเลื่อน 1,306 ล้านบาท ระบบตรวจตั๋วอัตโนมัติ 1,448 ล้านบาท ระบบรถไฟฟ้า 13,830 ล้านบาท ค่าขบวนรถไฟฟ้า 6,568 ล้านบาท ค่าที่ปรึกษาโครงการ 1,566 ล้านบาท และค่าเผื่อเหลือเผื่อขาด 6,617 ล้านบาท

ส่วนสายสีเหลือง เงินลงทุน 55,986 ล้านบาท แยกเป็น ค่าเวนคืนที่ดิน 6,013 ล้านบาท ออกแบบรายละเอียดงานโยธา 286 ล้านบาท ก่อสร้างงานโยธา 16,496 ล้านบาท ศูนย์ซ่อมบำรุง 4,561 ล้านบาท ระบบรถไฟฟ้า 12,552 ล้านบาท ขบวนรถไฟฟ้า 6,439 ล้านบาท งานลิฟต์และบันไดเลื่อน 1,258 ล้านบาท ระบบตรวจตั๋วอัตโนมัติ 738 ล้านบาท ค่าที่ปรึกษาโครงการ 1,479 ล้านบาท และค่าเผื่อเหลือเผื่อขาด 6,164 ล้านบาท
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44333
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 20/10/2014 9:14 pm    Post subject: Reply with quote

ผุด 3 สถานีท่าเรือ เชื่อมรถไฟฟ้า 3 สาย
ประชาชาติธุรกิจออนไลน์ 20 ต.ค. 2557 เวลา 19:46:07 น.

นับจากนี้ถึงปี 2558 การให้บริการเรือโดยสารจะสะดวกสบายมากขึ้น เมื่อการเชื่อมโยง 3 โหมด "บก-ราง-น้ำ" จะเกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม หลังรถไฟฟ้า 3 สายทาง ทั้งสายสีม่วง (บางซื่อ-บางใหญ่) สีน้ำเงิน (บางซื่อ-ท่าพระ และหัวลำโพง-บางแค) และส่วนต่อขยายบีทีเอส (ตากสิน-บางหว้า) เชื่อมโยงการเดินทางจากชานเมืองย่านจังหวัดนนทบุรี-ปทุมธานีเข้าเมืองรวด เร็วมากขึ้น

"อาคม เติมพิทยาไพสิฐ" รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคมกล่าวว่า ปี 2558-2559 กระทรวงคมนาคมให้ความสำคัญการพัฒนาท่าเรือให้เชื่อมโยงการเดินทางกับรถเมล์ และรถไฟฟ้า มี 4 แห่งจะเชื่อมกับรถไฟฟ้า ได้แก่
1.ท่าเรือปากเกร็ด เชื่อมกับรถไฟฟ้าสายสีชมพู (แคราย-มีนบุรี) โดยทางเทศบาลนครปากเกร็ดจะเป็นผู้ดำเนินการ จะพัฒนาริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ระยะทางกว่า 400 เมตร มีทั้งท่าเรือและลานกิจกรรม

2.ท่าเรือพระนั่งเกล้า เชื่อมรถไฟฟ้าสายสีม่วง (บางซื่อ-บางใหญ่) ซึ่งการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) จะเป็นผู้ดำเนินการ และ

3.ท่าเรือบางโพ เชื่อมกับรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน (บางซื่อ- ท่าพระ และหัวลำโพง-บางแค) และ

4.ท่าเรือสาทร เชื่อมกับรถไฟฟ้าบีทีเอส ที่สถานีตากสิน

นายอาคมกล่าวอีกว่า เพื่อให้การบริการสะดวกมากขึ้น กรมเจ้าท่ามีแผนจะพัฒนาท่าเรือ 19 แห่งให้ทันสมัย ปลอดภัย และอำนวยความสะดวกการเดินทางของประชาชน จะใช้เงินลงทุน 450 ล้านบาท จะนำร่อง 9 แห่งในปี 2558-2559 เงินลงทุน 70 ล้านบาท ได้แก่ ท่าเรือนนทบุรี พระราม 7 บางโพ เทเวศร์ พระปิ่นเกล้า พรานนก ราชวงศ์ สี่พระยา และสาทร จากนั้นปี 2560-2561 จะพัฒนาอีก 10 แห่ง ได้แก่ ปากเกร็ด พระนั่งเกล้า พระราม 5 เกียกกาย พายัพ กรุงธน (ซังฮี้) ท่าพระอาทิตย์ ท่าช้าง ท่าเตียน และท่าราชินี

"ที่จะเป็นโมเดลนำร่องก่อน คือ ท่านนทบุรี พระปิ่นเกล้า และสาทร เพราะเป็นท่าที่ผู้ใช้บริการมาก แนวทางพัฒนารัฐบาลจะพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของท่าเรือและให้เอกชนมาพัฒนาระบบ ซอฟต์แวร์ต่าง ๆ โดยจะได้สิทธิ์การพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์ระยะยาว เช่น 10 ปี 20 ปี เพื่อพัฒนาท่าเรือให้เป็นเหมือนสนามบินหรือสถานีรถไฟฟ้า เพราะต่อไปจะมีระบบตั๋วร่วมมาเชื่อมการเดินทางได้ทั้งรถเมล์ รถไฟฟ้า และเรือ"

ด้าน "จุฬา สุขมานพ" อธิบดีกรมเจ้าท่ากล่าวว่า ท่าเรือที่จะพัฒนามี 3 ขนาด ได้แก่ ไซซ์ L พื้นที่ 250 ตารางเมตรขึ้นไป รองรับได้ 50 คน ไซซ์ M พื้นที่ 150-250 ตารางเมตร รองรับได้ 35-50 คนและไซซ์ S พื้นที่ต่ำกว่า 150 ตารางเมตร รองรับได้น้อยกว่า 35 คน

สำหรับ แนวทางการพัฒนาจะให้เอกชนที่เป็นผู้ประกอบการเรือเข้ามาร่วมพัฒนา เช่น ระบบเทคโนโลยี ระบบตั๋ว และจะให้สิทธิ์การพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์ให้ประมาณ 30% ของพื้นที่ท่าเรือแต่ละสถานี ซึ่งในเดือนเมษายน 2558 นี้จะแล้วเสร็จ สำหรับโครงการนำร่องมีท่านนทบุรีและพระนั่งเกล้า ซึ่งทางเรือด่วนเจ้าพระยาจะดำเนินการให้

ขณะที่ "ปริญญา รักวาทิน" กรรมการผู้จัดการ บริษัท เรือด่วนเจ้าพระยา จำกัดกล่าวว่า บริษัทจะยื่นข้อเสนอให้กรมเจ้าท่าพิจารณาการพัฒนาท่าเรือ 19-22 แห่ง จะใช้เงินลงทุนประมาณ 80 กว่าล้านบาท และขอสัมปทานการพัฒนา 20 ปี

ทั้ง นี้ บริษัทจะเร่งพัฒนาท่าเรือนำร่อง 2 แห่ง ที่ท่านนทบุรีและท่าปิ่นเกล้า เพื่อรองรับกับรถไฟฟ้าสายสีม่วงและสีน้ำเงินที่จะแล้วเสร็จในปี 2558-2560 โดยบริษัทจะเข้าไปพัฒนาระบบฐานข้อมูลให้บริเวณท่าเรือ ส่วนการปรับกายภาพท่าเรือจะเป็นการลงทุนของกรมเจ้าท่า

ออกแรงแข็งขันกันขนาดนี้ เป้าหมายที่ "รัฐบาลประยุทธ์" จะดึงคนหันมาใช้บริการทางน้ำมากขึ้น ไม่น่าจะไกลเกินเอื้อม
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42629
Location: NECTEC

PostPosted: 21/10/2014 1:11 pm    Post subject: Reply with quote

รฟม.คาดธ.ค.รถไฟฟ้าสีเหลืองชมพู ส้ม เข้าครม.
มัลติมีเดีย
INN News
วันอังคารที่ 21 ตุลาคม พ.ศ.2557 10:34น.
http://www.innnews.co.th/videos/news/2014/63/573775-01.mp4
Back to top
View user's profile Send private message
Display posts from previous:   
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> โครงการระบบรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนในอนาคต All times are GMT + 7 Hours
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 99, 100, 101 ... 277, 278, 279  Next
Page 100 of 279

 

Share |

Jump to:  
You cannot post new topics in this forum
You cannot reply to topics in this forum
You cannot edit your posts in this forum
You cannot delete your posts in this forum
You cannot vote in polls in this forum

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group


Forums ©