Ads Service

Main Menu

 
icon_home.gif Homepage
icon_community.gif Members Zone
· ข้อมูลส่วนตัว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ข่าวสารส่วนตัว
· บริการเว็บเมล์
· กระดานข่าว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก กระดานฝากข้อความ
· รถไฟไทยแกลลอรี่
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก รายนามสมาชิก
· แบบสำรวจ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก สมุดเยี่ยม
· เกี่ยวกับสมาชิก
favoritos.gif News & Stories
· เรื่องทั้งหมด
· เนื้อหาสาระ
· เรื่องสำหรับพิมพ์
· ยอดฮิตติดอันดับ
· ค้นหาข่าวสาร
· ค้นหากระทู้เก่า
nuke.gif Contents
· กำหนดเวลาเดินรถ
· ประเภทขบวนรถโดยสาร
· ข้อมูลเส้นทางรถไฟ
· แผนที่เส้นทางรถไฟ
· อัตราค่าโดยสาร
· คำนวณค่าโดยสารรถไฟ
· รูปแบบการให้บริการรถไฟ
· หมายเลขโทรศัพท์ที่สำคัญ
· ทริปท่องเที่ยวโดยรถไฟ
· ระบบติดตามขบวนรถ
som_downloads.gif Services
· Downloads
· GoogleSearch
· Hotels Booking
· FlashGames
· Wallpaper 1
· Wallpaper 2
· Wallpaper 3
· Wallpaper 4
icon_members.gif Information
· เกี่ยวกับเรา
· นโยบายความเป็นส่วนตัว
· แผนผังเว็บไซต์ฯ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ส่งข้อแนะนำติชม
· ติดต่อลงโฆษณา
· แนะนำและบอกต่อ
· สถิติทั้งหมด
· สำหรับผู้ดูแลระบบ
 

Sponsors

 

Rotfaithai.Com

 

Visitors

 


มีผู้เข้าเยี่ยมชม
สมาชิก:311287
ทั่วไป:13269464
ทั้งหมด:13580751
คน ตั้งแต่
01-08-2004
 


Rotfaithai.Com :: View topic - ระดมสมองสมาชิก.RFT.เพื่อหามาตรการลดอุบัติเหตุให้กับการรถไฟ
 Forum FAQForum FAQ   SearchSearch   UsergroupsUsergroups   ProfileProfile   Log in to check your private messagesLog in to check your private messages   Log inLog in 

ระดมสมองสมาชิก.RFT.เพื่อหามาตรการลดอุบัติเหตุให้กับการรถไฟ
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 24, 25, 26 ... 45, 46, 47  Next
 
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> อุบัติเหตุเกี่ยวกับรถไฟไทย
View previous topic :: View next topic  
Author Message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42739
Location: NECTEC

PostPosted: 27/11/2013 1:35 pm    Post subject: Reply with quote

รถไฟตกรางซ้ำซาก! เนื้อร้ายไอ้ม้าเหล็ก
หน้าคมนาคม-ลอจิสติกส์
สยามธุรกิจ
ฉบับที่ 1456 ประจำวันที่ 20-22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556




"ระทึกม้าเหล็กขบวนกรุงเทพฯ-หนองคาย เกิดพลิกตกรางพังยับ 3 โบกี้ กลางเมืองอุดรธานี ผู้โดยสารคนขับเจ็บระนาวรวม 14 ราย เผยเสียหายไม่ต่ำกว่า 70 ล้านบาท คาดหัวรถจักรพุ่งเสยแผ่นคอนกรีตที่ใช้วางพาดตามจุดตัดรางรถไฟ ที่เกิดเผยอเกยทับราง จนพลิกคว่ำ"

นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เกิดเหตุรถไฟ ตกราง! และอาจจะยังไม่ใช่ครั้งสุดท้ายด้วย!

แน่นอนว่า การเกิดอุบัติเหตุแต่ละครั้ง ส่งผลเสียต่อการรถไฟฯเป็นอย่างมาก เพราะรายงานจากทั่วโลกเห็นตรงกันว่า ระบบขนส่งทางราง ถือเป็นการขนส่งที่มีความปลอดภัยมากที่สุด

จะว่าไปแล้ว การเกิดอุบัติเหตุในครั้งนี้ การรถไฟฯ จะอ้างว่าเป็นเพราะรางไม่ดีไม่ได้ เพราะว่าได้ว่าจ้างให้ผู้รับเหมาทำการเปลี่ยนไม้หมอนและรางใหม่หมดแล้ว ตั้งแต่ชุมทางบัวใหญ่ถึงสถานีหนองคาย แต่ยังไม่ได้มีการรับงาน

ตรงนี้ถือเป็นโจทย์ใหญ่ของการรถไฟฯ ที่จำเป็นต้องใส่ใจ และทำงานหนักขึ้นกว่าเดิม เพราะรถไฟตกรางซ้ำซากนี้ ถือเป็น เนื้อร้ายŽ ที่อยู่คู่กับไอ้ม้าเหล็กมานานมากแล้ว

อย่างไรก็ดี ควรจะฟังเสียงของ "อำพน ทองรัตน์" ประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการรถไฟแห่งประเทศไทย (สร.ร.ฟ.ท.) บ้าง ที่เสนอให้การรถไฟฯมีพนักงานสำรวจเส้นทางรถไฟล่วงหน้า ก่อนที่ขบวนรถไฟจะวิ่งให้บริการ โดยให้มีการสำรวจเป็นประจำทุกวันหรืออย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง ซึ่งปัจจุบันไม่ได้ดำเนินการ เนื่องจากมีปัญหาบุคลากรไม่เพียงพอ จากนโยบายการจำกัดจำนวนบุคลากร โดยปัจจุบันการรถไฟมีพนักงาน 12,000 คน

อย่างที่ทุกฝ่ายรู้แก่ใจกันดีว่า ภาพรางรถไฟ หรือรถไฟฟ้าที่เห็นอยู่ในปัจจุบันไม่ว่าจะรางรถไฟธรรมดา รถไฟฟ้า ที่วิ่งให้บริการในปัจจุบันนี้ คนใช้บริการไม่มีทางรู้ได้เลยว่ามีคุณภาพแข็งแกร่งมากมายแค่ไหน???

ดังนั้น การแสวงหาเครื่องไม้เครื่องมือป้องกันและตรวจสอบสภาพรางรถไฟ หรือรถไฟฟ้า ก่อนให้บริการน่าจะเป็นการตรวจสอบที่ดีที่สุด ไม่ใช่ปล่อยให้เกิดเหตุก่อนแล้วค่อยมานั่งแก้ไข

เป็นที่เข้าใจว่า หน่วยงานที่เกี่ยว ข้องทั้งหลายก็ไม่อยากให้มีเหตุร้ายเกิดขึ้นกับประชาชนอย่างแน่นอน ดังนั้นควรที่จะต้อง "ตัดไฟตั้งแต่ต้นลม"

เท่าที่ทราบในปัจจุบันเขามีการผลิตเครื่องมือตรวจสอบระบบราง ที่เรียกกันว่า "รถเจียรราง" ทำหน้าที่ตรวจสอบสภาพรางรถไฟ หรือ รถไฟฟ้า ว่าอยู่ในมาตรฐานหรือไม่ ในต่างประเทศ อย่าง เยอรมนี ฝรั่งเศส จีน ญี่ปุ่น ฮ่องกง หรือเกาหลีใต้นั้น เขาบังคับให้ผู้ให้บริการรถไฟฟ้า หรือรถไฟใต้ดินต้องตรวจสอบระบบรางเหล่านี้กันอย่างน้อยปีละ 3 ครั้ง โดยอาศัยรถเจียริ่ง ที่ว่านี้แหละทำหน้าที่เจียรรางรถไฟ ป้องกันการเกิดรอยชำรุดบนผิวรางหรือสันราง จนนำไปสู่โศกนาฏกรรมกัน

แต่บ้านเรานั้น ไม่ค่อยแน่ใจว่ามีใช้กันแล้วหรือยัง???

ก็คงได้แต่ฝากท่าน "ชัชชาติ สิทธิพันธุ์" และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมมือกันหามาตรการป้องกันเอาไว้ก่อน เพราะในอนาคตประเทศไทยจะมีรถไฟความเร็วสูง ยิ่งจำเป็นต้องมีความปลอดภัยที่สุดในโลก
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44611
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 12/05/2014 4:26 pm    Post subject: Reply with quote

ภาพ/ข้อมูลจากเพจทีม พีอาร์ การรถไฟแห่งประเทศไทย
12 พ.ค. 57

Click on the image for full size
Click on the image for full size

Quote:
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่ทางรถไฟสายเหนือ กม.ที่ 710/8-9 ก่อนถึงสถานีหนองหล่ม จ.ลำพูน
รถกระบะคันนี้ ได้ใช้ทางลักผ่าน (ทางลักผ่านคือ ทางที่ชาวบ้านตัดผ่านทางรถไฟกันเอง ถือเป็นทางตัดผ่านแบบผิดกฎหมาย) ปรากฏว่าท้องรถติดกับทางรถไฟ เคลื่อนที่ไม่ได้ และเป็นจังหวะเดียวกับที่ขบวนรถท้องถิ่นที่ 407 นครสวรรค์ - เชียงใหม่ ได้มาถึงพอดี
ด้วยความโชคดีที่จุดนั้นมีการเบาทางลดความเร็วเหลือ 55 กิโลเมตร/ชั่วโมง เพื่อเข้าโค้งรัศมีแคบ พนักงานขับรถจึงสามารถหยุดรถได้ทัน
และที่สำคัญ พนักงานขับรถ, ช่างเครื่อง และ ผู้โดยสาร ได้ลงมาจากรถไฟเพื่อช่วยดันรถยนต์ให้ไม่กีดขวางทางรถไฟอีกด้วย

จากเหตุการณ์ดังกล่าว เป็นข้อเตือนใจให้ตระหนักถึงการใช้ทางตัดที่ไม่ถูกต้อง ซึ่งหากขบวนรถเกิดหยุดไม่ทัน รถคันนี้อาจจะโดนรถไฟชนเข้ากลางคัน ก่อให้เกิดการสูญเสียก็เป็นได้ หรือแม้แต่การล่าช้าของขบวนรถไฟที่ต้องหยุดรถกลางทางโดยไม่มีเหตุอันควรก็ตาม

หรือแม้กระทั่ง การใช้รถใช้ถนนผ่านจุดตัดที่ไม่มีเครื่องกั้น และมีเครื่องกั้น โปรดตระหนักในความปลอดภัยของตนเอง
- ให้ปฏิบัติตามป้ายจราจรอย่างเคร่งครัด ไม่ว่าจะมีเครื่องกั้นหรือไม่ก็ตาม
- หยุดรถมองรถให้แน่ใจก่อนว่าปลอดภัย แล้วจึงข้าม
- ขณะที่เครื่องกั้นทำงาน นั่นหมายถึงระบบการป้องกันภัยได้ทำงานแล้ว โปรดปฏิบัติอย่างเคร่งครัด และไม่ควรอ้อมคานกั้นเพื่อผ่านไป
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42739
Location: NECTEC

PostPosted: 29/06/2014 11:27 am    Post subject: Reply with quote

Click on the image for full size
เรื่องน่าคิดเกี่ยวกับอุบัติเหตุรถไฟโดนกะรถที่วิ่งตัดหน้า
https://www.facebook.com/photo.php?fbid=823267037691261&set=a.103845969633375.7835.100000239177136&type=1
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44611
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 26/10/2014 2:15 pm    Post subject: Reply with quote

ปิดจุดตัดรถไฟอันตรายทั่วประเทศ
พบมีความปลอดภัยต่ำเกิดอุบัติเหตุเสียชีวิต100คนต่อเดือน
เดลินิวส์ วันอาทิตย์ 26 ตุลาคม 2557 เวลา 11:27 น.

Click on the image for full size

นายสฤษฏ์พงษ์ บริบูรณ์สุขผู้อำนวยการสำนักแผนความปลอดภัย สำนักงานนโยบายและแผนขนส่งและจราจร(สนข.)เปิดเผยว่า กระทรวงคมนาคมได้มีข้อสั่งการให้ สนข.ดำเนินการจัดทำแผนแก้ไขปัญหาจุดตัดทางรถไฟภายใน 6 สัปดาห์เพื่อแก้ไขปัญหาอุบัติเหตุทีมักจะเกิดขึ้นอยู่เป็นประจำ โดยจากการสำรวจพบว่าทั่วประเทศไทยมีจุดตัดรถไฟประมาณ2,500 แห่งซึ่งจากการสำรวจพบว่าจุดตัดทางรถไฟในประเทศไทยถือว่ายังมีความปลอดภัยต่ำส่งผลให้เกิดอุบัติเหตุมีผู้เสียชีวิตประมาณ100 คนต่อเดือนทั่วประเทศไทย ทั้งนี้เป็นจุดตัดที่อยู่ในความดูแลของของกรมทางหลวงชนบท(ทช.)25แห่ง กรมทางหลวง(ทล.)82 แห่ง ทั้งสองหน่วยงานก็มีแนวคิดที่จะทำสะพานข้ามทางรถไฟโดยพิจารณาจากจุดที่มีปริมาณรถผ่านเป็นจำนวนมากก่อนเพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุ อย่างไรก็ตามจากการสำรวจพบว่ามีจุดตัดที่เป็นเส้นทางลัดอีก500แห่งที่ยังไม่มีเครื่องกั้นสัญญาณไฟแจ้งเตือนที่ชัดเจนซึ่งสนข.มีแผนการแก้ไขปัญหาจุดตัดทางรถไฟที่เป็นเส้นทางลัดโดยจะมีพิจารณาปิดเส้นทางลัดที่พบว่ามีความอันตรายเนื่องจากไม่มีเจ้าหน้าที่ดูแลความปอดภัย

นายสฤษฏ์พงษ์กล่าวต่อว่า สำหรับในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑลการเกิดอุบัติเหตุมักจะพบไม่มากเพราะมีเจ้าหน้าที่คอยกั้นขณะที่รถไฟวิ่งผ่านจุดตัดรวมทั้งยังมีเครื่องหมายและสัญญาณที่ชัดเจน อย่างไรก็ตามในการแก้ไขปัญหาจุดตัดทางรถไฟแต่ละจุดถือว่ามีความยากในการดำเนินการเนื่องจากติดปัญหาด้านกายภาพที่แตกต่างกันดังนั้นสิ่งที่จะสามารถดำเนินการได้โดยเร่งด่วนคือทุกแห่งจะต้องมีป้ายเตือนทำลูกระนาดก่อนถึงทางรถไฟ มีสัญญาณไฟและไม้กั้นเพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาเบื้องต้นไปก่อนซึ่งสนข.ได้มีการประสานงานไปยังท้องที่ที่รับไปแล้วเพื่อเป็นการป้องกันเบื้องต้น.
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42739
Location: NECTEC

PostPosted: 30/10/2014 5:33 pm    Post subject: Reply with quote

รฟท.วอนผู้ขับขี่หยุดที่ทางตัดขณะรถไฟผ่าน
โพสต์ทูเดย์
30 ตุลาคม 2557 เวลา 14:35 น.


ร.ฟ.ท.เตรียมชง คค.ทำเครื่องป้องกันอุบัติเหตุจุดตัดรถไฟ


โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 30 ตุลาคม 2557 15:44 น.


นายทนงศักดิ์ พงษ์ประเสริฐ ผู้อำนวยการฝ่ายการเดินรถ การรถไฟแห่งประเทศไทย หรือ ร.ฟ.ท. กล่าวว่า อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นระหว่างจุดตัดรถไฟกับถนน เกิดขึ้นบ่อยครั้งในช่วงนี้ ร.ฟ.ท.จึงมีแนวคิดเสนอกระทรวงคมนาคม ประสานกระทรวงมหาดไทยให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ส่งบุคลากรมาอบรม และใช้งบประมาณท้องถิ่นทำเครื่องกั้นลากจูง ที่มีเจ้าหน้าที่คอยดูแล ที่ผ่านมา ร.ฟ.ท.พยายามไม่ให้มีทางลัดตัดระหว่างถนนกับทางรถไฟมากขึ้น จากปัจจุบันมีอยู่ 745 จุดตามหลักเกณฑ์การอนุญาต แต่ที่ผ่านมามีการตัดทางลัดนอกเหนือจากหลักเกณฑ์ ซึ่งมีการประสานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นติดป้ายจราจรเตือนผู้ขับรถ

[youtube[http://www.youtube.com/v/GRflDTl0Dqs[/youtube]
กรณี คนขับมอเตอร์ไซค์แหก ที่กั้นทาง ทำให้ ติดตั้งที่กั้นทางท่าจะไร้ประโยชน์
http://www.youtube.com/watch?v=GRflDTl0Dqs
Back to top
View user's profile Send private message
mirage_II
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 05/01/2011
Posts: 2591

PostPosted: 31/10/2014 12:27 am    Post subject: Reply with quote

เรื่องนี้ การรถไฟหนีปัญหาไปไม่ได้ แม้คนขับขี่รถยนต์จะทำผิด พรบ.จราจรทางบกก็ตาม เปรียบเหมือนเราขับรถระวังไม่ชนเขา แต่คนอื่นก็อาจชนเราได้ เช่นกันครับ แต่ทางออกมันมี

เริ่มจาก การรถไฟเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ที่ดินรอบๆ ทางรถไฟอยู่แล้ว การที่มีการตัดถนน หรือทำทางมาข้ามทางรถไฟก็ถือว่า รุกล้ำที่อยู่แล้ว การรถไฟสามารถสร้างรั้วกั้นมิให้รถผ่านได้ แต่ทางปฎิบัติ เพื่อความเจริญเติบโตของเมือง และไม่ง่ายที่จะขัดขวางได้ จึงควรจัดให้มีเครื่องกั้นทุกแห่งที่ถนนผ่านได้ โดยผู้จัดสร้างก็คือ การรถไฟ เพราะใครจะมาเข้าใจ และจัดการเรื่องนี้ได้ดีเท่าการรถไฟ หากแต่ ค่าใช้จ่ายในการสร้างต้องเป็นของ หน่วยราชการท้องถิ่น ไม่พอแค่นั้น ค่าใช้จ่ายในการจ้าง จนท.มาคอยปิด-เปิดเครื่องกั้น หน่วยราชการท้องถิ่นก็ต้องเป็นผู้รับผิดชอบ ตลอดจน ค่าบำรุงรักษารายเดือนอีก (ถ้าใช้เครื่องกั้นอัตโนมัติได้ ก็ไม่ต้องมี คนมาคอยเปิด-ปิด แต่ยามใดที่เครื่องกั้นอัตโนมัติเสีย ก็ต้องมี จนท.มาคอยเปิด-ปิดอีกอยู่ดี ซึ่ง ผู้รับผิดชอบก็คือหน่วยงานท้องถิ่นนั่นเอง

แต่ถ้าหากหน่วยงานท้องถิ่นไม่ยอมรับข้อเสนอนี้ ผมอยากให้ ทางการรถไฟตั้งด่านเก็บเงินค่าผ่านทาง เพื่อนำเงินนี้ไปเป็นค่าใช้จ่ายในการสร้าง จ้างจนท.เปิด-ปิด และ บำรุงรักษา อาจคิดคันละ 2 - 5 บาทต่อครั้ง ก็ได้ เพราะถึงอย่างไรก็มีเครื่องกั้นอยู่แล้ว ไม่จ่ายก็ไม่เปิดให้ผ่าน แต่กว่าจะถึงขั้นนี้ ก็อาจต้องผ่านกฏหมาย หรือ การรถไฟต้องแจ้งเตือนล่วงหน้าให้หน่วยงานท้องถิ่นทราบก่อน และจะเริ่มสร้างเครื่องกั้น และเก็บค่าผ่านทาง ไปจนกว่า หน่วยงานท้องถิ่นจะมีงบประมาณมาให้กับการรถไฟ แต่ถึงอย่างไร ก็มีข้อผ่อนปรนให้คือ จุดตัดใดที่มีเครื่องกั้นอยู่แล้ว และอยู่ในความรับผิดชอบของการรถไฟ จุดนั้นก็จะไม่คิดเงินค่าผ่านทางให้ เป็นทางเลือกให้ประชาชนได้ตัดสินใจว่า จะเร่งรีบผ่านทางเส้นนี้ หรือไม่ก็ขับรถอ้อมไปข้ามจุดที่ไม่เสียเงินแทน เหมือนกรณีทางด่วน ซึ่ง ใครผ่าน ใครต้องการความสะดวก ก็ต้องจ่าย จะดูยุติธรรมดี

อนึ่ง จุดที่รถไฟไม่ค่อยมีผ่านในบางเส้นทาง อายุการใช้งานเครื่องกั้น และ เวลาที่จนท.มาควบคุมเครื่องกั้นน้อยกว่า ก็อาจจะมีการเก็บเงินค่าผ่านทางในบางเวลา


สำหรับความคิดผม เรื่องค่าใช้จ่ายในการสร้างเครื่องกั้นนี้ สามารถใช้งบประมาณแผ่นดินส่วนกลางสร้างได้เหมือนโครงการต่างๆ ของรัฐบาล หากแต่ค่าบำรุงรักษา จัดจ้างคนมาคอยปิดเปิดเครื่องกั้นนี้ ทาง อบต. อบจ. ท้องถิ่นต้องหางบมาเอง ซึ่งไม่มาก แต่ต่อเนื่องตลอดทั้งปีครับ
Back to top
View user's profile Send private message
subin
3rd Class Pass
3rd Class Pass


Joined: 12/09/2007
Posts: 1

PostPosted: 31/10/2014 10:03 am    Post subject: Reply with quote

1.คนไทยต้องมีจิตสำนึกสาธารณะถึงความปลอดภัยต่อตนเอง และผู้อื่น
2.แก้กฎหมายที่เข้มงวดกับผู้ขับขี่ และพนักงานรถไฟ
3.ไม่อนุญาตสร้างทางตัด หากไม่มีงบสร้างที่กั้น
4.ล้อมรั้วตลอดแนวทางรถไฟ
5.เพิ่มลูกระนาด ป้ายเตือน กล้องวงจรปิด
6.ปรับปรุงทัศนียภาพ เช่น ต้นไม้ใหญ่ เนินดินสูงที่กีดกันการมองรถไฟก่อนข้าม

ปล.หากจะทุ่มงบสร้างระบบทื่กั้นให้ครบทุกจุด แต่ก็ยังมีคนฝ่าฝืนลักข้าม ก็ไร้ประโยชน์
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42739
Location: NECTEC

PostPosted: 31/10/2014 10:56 am    Post subject: Reply with quote

3 วันอุบัติเหตุรถไฟชนรถยนต์ ตาย 6 เจ็บเกือบ 50
by วาสนา ปิยะบวรนันท์
Voice TV
30 ตุลาคม 2557 เวลา 17:49 น.


ในช่วง 3 วันที่ผ่านมา เกิดอุบัติเหตุรถไฟชนกับรถยนต์ถึง 2 ครั้ง คือที่จังหวัดเพชรบุรีและขอนแก่น ทั้ง 2 เหตุการณ์เกิดขึ้นในจุดตัดรถ ที่ไม่มีเครื่องกั้นรางรถไฟทั้ง 2 แห่ง และทำให้มีผู้เสียชีวิตถึง 6 ราย บาดเจ็บเกือบ 50 คน


การรถไฟแห่งประเทศไทยและจังหวัดขอนแก่น เร่งกู้ทางรถไฟ บริเวณจุดตัดทางรถไฟบ้านหนองกรุง ตำบลศิลา อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น หลังช่วงเช้าที่ผ่านมา เกิดอุบัติเหตุรถบรรทุก 10 ล้อชนกับ ขบวนรถท้องถิ่นที่ 415 วิ่งระหว่างจังหวัดนครราชสีมา ถึงหนองคาย

อุบัติเหตุครั้งนี้ ทำให้มีผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ 4 ราย คือ นายเพชร แพนดี พนักงานขับรถไฟ นายดำริ โกสาวาท ช่างเครื่องประจำขบวนรถ นายณรงค์ เดชมา ผู้โดยสารรถไฟ และพระภิกษุ 1 รูปไม่ทราบชื่อ และมีผู้บาดเจ็บ 43 คน ในจำนวนนี้บาดเจ็บสาหัส 8 คน ส่วนคนขับรถบรรทุก คือนายภัทรผล พะระสี ได้รับบาดเจ็บ และยังพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลศรีนครินทร์

ส่วนเมื่อ 2 วันก่อน ก็เกิดเหตุขบวนรถ 261 วิ่งระหว่างกรุงเทพฯ- หัวหิน ชนกับรถยนต์นั่งส่วนบุคคล บริเวณจุดตัดรถไร่กล้วย ตำบลต้นมะม่วง อำเภอเมือง จังหวัดเพชรบุรี มีผู้ เสียชีวิต 2 ราย คือนายวิทยา และนางรจนวรรณ รัตนะ คู่สามีภรรยาที่อยู่ภายในรถยนต์นั่งส่วนบุคคล ซึ่งการรถไฟแห่งประเทศไทย ได้มอบให้เจ้าหน้าที่ไปแจ้งความไว้ที่สถานีตำรวจภูธรเมืองเพชรบุรี เพื่อเรียกร้องค่าเสียหายแล้ว เนื่องจากหัวรถจักร ตัวรถภายนอก เครื่องยนต์และสปีดมิเตอร์ได้รับความเสียรวมมูลค่ากว่า 1ล้านบาท ขณะที่สถิติการเกิดอุบัติในลักษณะนี้ ตลอดปีงบประมาณ 2557 พบว่ามีถึง 127 ครั้ง มีผู้เสียชีวิต 27 ราย บาดเจ็บ 91 คน

นายทนงศักดิ์ พงษ์ประเสริฐ รองผู้อำนวยการฝ่ายการเดินรถ การรถไฟแห่งประเทศไทย กล่าวถึงอุบัติเหตุรถไฟในช่วงนี้ว่า ส่วนหนึ่งมาจากปัญหาขาดเครื่องกั้นรางรถไฟ ในจุดที่เป็นปัญหาและเป็นจุดเสี่ยง
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42739
Location: NECTEC

PostPosted: 31/10/2014 5:58 pm    Post subject: Reply with quote

“บิ๊กจิน”สั่งประสานท้องถิ่นแก้จุดตัดรถไฟ 584 แห่ง


โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 31 ตุลาคม 2557 16:47 น.



“ประจิน”จี้สรุปแก้ปัญหาจุดตัดรถไฟที่เสี่ยงเกิดอุบัติเหตุ สั่งประสานองค์กรท้องถิ่นร่วมมือติดตั้งเครื่องกั้นหรือสัญญาณแจ้งเตือน ตั้งเป้า ทางลักผ่าน 584 แห่ง ต้องมีระบบเตือนครบใน 2 ปี

พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังประชุมหัวหน้าหน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคมวันนี้ (31 ต.ค.) ว่า ได้ติดตามการแก้ปัญหาจุดตัดทางรถไฟกับถนนซึ่งจากการตรวจสอบพบว่า มีจำนวน2,517 แห่งทั่วประเทศ โดยเป็นจุดตัดที่เป็นทางผ่านที่ได้รับอนุญาต จากการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เกือบ 2,000 แห่ง และอีก 584 แห่งเป็นจุดตัดที่ไม่ได้รับอนุญาต (ทางลักผ่าน) ซึ่งจะต้องเร่งแก้ปัญหา เนื่องจากเกิดอุบัติเหตุค่อนข้างบ่อย ซึ่งส่วนใหญ่จะอยู่ในเส้นทางสายใต้ถึง 456 แห่ง รองลงมาคือสายตะวันออกเฉียงเหนือและสายเหนือ โดยตั้งเป้าหมายเร่งดำเนินการให้แล้วเสร็จในปี 2558 จำนวน 1 ใน 3 ที่เหลือจะแล้วเสร็จในปี 2559 และหากได้รับงบกลางหรือทางท้องถิ่นเข้ามาช่วยลงทุน คาดว่าจะเสร็จได้เร็วขึ้น

ทั้งนี้ กระทรวงคมนาคมจะร่วมมือกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ในการเร่งสร้างเครื่องกั้นถาวรหรือติดตั้งสัญญาณแจ้งเตือนก่อนถึงจุดตัดรถไฟ เพื่อให้เป็นมาตรฐานด้านความปลอดภัยเดียวกัน ซึ่งในการแจ้งเตือนผู้ขับรถให้รับทราบว่า ข้างหน้าจะมีจุดตัดกับรถไฟในระยะอย่างน้อย 30 เมตร และในอีก 15 เมตร จะเตือนด้วยลูกระนาด และอีก 5 เมตรก่อนถึงจุดตัดทางรถไฟ จะมีสัญญาณไฟ หรือสัญญาณเสียงเตือนอีกครั้ง ซึ่งทำได้ทั้งแบบ Manual หรือแบบอัตโนมัติ หรืออาจจะเป็นการติดเซ็นเซอร์ก่อนที่รถไฟจะวิ่งถึงจุดตัด 1 กม. โดยใช้แรงสั่นสะเทือนกรณีที่มีรถไฟวิ่งมา จะส่งสัญญาไปที่จุดตัดเพื่อส่งเป็นสัญญาณไฟ หรือเสียงเตือน เมื่อรถวิ่งผ่านไปแล้ว 200 เมตร สัญญาณเตือนจึงดับ เป็นต้น

พล.อ.อ.ประจินกล่าวว่า เมื่อมีการทำแผนร่วมกัน จะถือเป็นความรับผิดชอบร่วมกัน และในอนาคตจุดตัดที่อนุญาตถูกต้องนั้น ได้มีแผนการติดตั้งระบบป้องกัน โดยร.ฟ.ท.ร่วมมือกับ กรมทางหลวง กรมทางหลวงชนบท ติดตั้งแบบถาวร คือ สะพานข้ามหรือทางลอด กรณีปริมาณจราจรผ่านเกิน 1 แสนเที่ยวต่อวัน โดยต้องมีการวางแผนล่วงหน้า 1-2 ปี , การสร้างเครื่องกั้น แบบอัตโนมัติและแบบธรรมดา (Manual) , ปรับปรุงเครื่องกั้นเดิมเช่น เป็นแบบธรรมดาปรับเป็นอัตโนมัติ จากที่เป็นระบบอัตโนมัติแล้ว มีปริมาณจราจรเพิ่มขึ้นจะยกเป็นสะพานข้ามหรือทางลอด ซึ่งกระทรวงคมนาคมมีการวางแผนงบประมาณไว้ชัดเจน

สำหรับปัจจุบัน มีทางผ่านจุดตัดรถไฟที่มีเครื่องกั้น 877 แห่ง เป็นจุดตัดมีไฟเตือนอัตโนมัติ 12 แห่ง เป็นจุดตัดมีป้ายจราจรเตือน 775 แห่ง เป็นจุดตัดที่มีสะพานข้าม 146 แห่ง เป็นจุดตัดที่เป็นทางลอด 118 แห่ง และเป็นจุดตัดที่เป็นคานยก (เอกชนควบคุมเอง) 5 แห่ง และเป็นจุดตัดที่เป็นทางลักผ่านจำนวน 584 แห่ง

//---------------------

สถิติอุบัติเหตุ รถไฟชนกับรถยนต์ เดือนตุลาคม 56 - กันยายน 57 - เกิด 27 หน ตาย 27 คน บาดเจ็บ 91 คน
https://www.facebook.com/NationChannelTV/photos/a.385635862449.164151.359255107449/10152851684777450/?type=1
www.nationtv.tv/main/content/crime/378430359/
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42739
Location: NECTEC

PostPosted: 31/10/2014 8:58 pm    Post subject: Reply with quote

ตายก่อนค่อยกั้นรั้ว 'ประจิน'คาดแก้ปัญหาจุดตัดรถไฟเสร็จปี59

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 31 ตุลาคม 2557 19:49 น.


พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รมว.คมนาคม เปิดเผยถึง การแก้ปัญหาจุดตัดทางรถไฟกับถนนซึ่งจากการตรวจสอบพบว่า มีจำนวน 2,517 แห่งทั่วประเทศ โดยเป็นจุดตัดที่เป็นทางผ่านที่ได้รับอนุญาต จากการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เกือบ 2,000 แห่ง และอีก 584 แห่งเป็นจุดตัดที่ไม่ได้รับอนุญาต หรือทางลักผ่าน ซึ่งจะต้องเร่งแก้ปัญหา เนื่องจากเกิดอุบัติเหตุค่อนข้างบ่อย ซึ่งส่วนใหญ่จะอยู่ในเส้นทางสายใต้ถึง 456 แห่ง รองลงมาคือสายตะวันออกเฉียงเหนือและสายเหนือ ตั้งเป้าหมายเร่งดำเนินการให้แล้วเสร็จ1ใน3ในปี 2558 ส่วนที่เหลือจะแล้วเสร็จในปี 2559

แนวทางการแก้ไขปัญหาในระยะเร่งด่วนทางกระทรวงฯจะร่วมมือกับองค์การปกครองส่วนท้องถิ่น(อปท.) แจ้งเตือนก่อนถึงจุดตัดทางรถไฟ รวมทั้งสร้างเครื่องกั้นถาวร หรือติดตั้งสัญญาณแจ้งเตือนก่อนถึงจุดตัดรถไฟ ส่วนระยะยาวจะต้องร่วมมือสร้างสะพานข้ามและทางลอดผ่าน ส่วนงบประมาณที่ใช้ในการดำเนินการยังไม่สามารถระบุได้ แต่เบื้องต้นในพิจารณาว่าจะดูจากงบในองค์กรส่วนท้องถิ่นก่อน หากไม่เพียงพอจะใช้งบกลางของกระทรวงคมนาคมด้วย

ในส่วนของจุดตัดทางรถไฟกับถนนที่ได้รับอนุญาตเกือบ2000 จุด ก็จะดำเนินการสร้างระบบป้องกันอุบัติเหตุอาทิ

1.การสร้างสะพานข้ามหรือทางลอด หากเส้นทางนั้นมีปริมาณการจราจรผ่านเกิน 1 แสนเที่ยวต่อวัน
2. สร้างทางกั้นผสมผสานระหว่างระบบควบคุมมือกับระบบอัตโนมัติและ
3.ปรับปรุงคุณภาพผ่านทางกั้นเดิมให้ได้มาตรฐาน เช่น เป็นแบบธรรมดาปรับเป็นอัตโนมัติ จากที่เป็นระบบอัตโนมัติแล้ว มีปริมาณจราจรเพิ่มขึ้นจะยกเป็นสะพานข้ามหรือทางลอด ซึ่งกระทรวงคมนาคมมีการวางแผนงบประมาณไว้ชัดเจน

//-------------


ปภ.เตือนขับรถผ่านจุดตัดรถไฟให้ระวังเป็นพิเศษ หวังลดอุบัติเหตุ


โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 31 ตุลาคม 2557 19:03 น.


นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กล่าวว่า จุดตัดทางรถไฟเป็นเส้นทางที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง โดยจากสถิติของการรถไฟแห่งประเทศไทย ตั้งแต่เดือนตุลาคม ปี 2556 - ตุลาคม ปี 2557 เกิดอุบัติเหตุรวม 219 ครั้ง มีผู้เสียชีวิต 33 ราย ผู้บาดเจ็บ 116 คน ซึ่งส่วนใหญ่มักมีสาเหตุจากความไม่คุ้นเคยและความไม่ชำนาญเส้นทางของผู้ขับขี่ รวมถึงการขาดทักษะในการขับรถผ่านเส้นทางเสี่ยงอุบัติเหตุ
ทั้งนี้ ปภ.ขอแนะข้อควรปฏิบัติในการขับรถผ่านจุดตัดทางรถไฟ โดยเพิ่มความระมัดระวังเป็นพิเศษ เมื่อขับรถผ่านเส้นทางที่ไม่คุ้นเคย เพราะอาจมีจุดตัดทางรถไฟบนเส้นทาง โดยเฉพาะเส้นทางที่ไม่มีแผงกั้นทางรถไฟจุดตัดทางรถไฟบริเวณทางโค้ง มีต้นไม้ หรือพุ่มไม้บดบังเส้นทาง รวมถึงการขับรถในช่วงกลางคืนที่ทัศนวิสัยในการมองเห็นเส้นทางไม่ดี โดยหมั่นสังเกตป้ายเตือนสัญลักษณ์ทางรถไฟริมข้างทางหรือลูกคลื่นบนพื้นผิวถนน ซึ่งเป็นสัญญาณเตือนว่าเส้นทางข้างหน้ามีจุดตัดทางรถไฟชะลอความเร็วรถ และหยุดรถก่อนถึงจุดตัดทางรถไฟ พร้อมมองเส้นทางด้านซ้ายและขวาจนแน่ใจว่าไม่มีรถไฟวิ่งผ่านมา ค่อยขับรถข้ามจุดตัดทางรถไฟ
Back to top
View user's profile Send private message
Display posts from previous:   
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> อุบัติเหตุเกี่ยวกับรถไฟไทย All times are GMT + 7 Hours
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 24, 25, 26 ... 45, 46, 47  Next
Page 25 of 47

 

Share |

Jump to:  
You cannot post new topics in this forum
You cannot reply to topics in this forum
You cannot edit your posts in this forum
You cannot delete your posts in this forum
You cannot vote in polls in this forum

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group


Forums ©