View previous topic :: View next topic |
Author |
Message |
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42739
Location: NECTEC
|
Posted: 27/11/2013 1:35 pm Post subject: |
|
|
รถไฟตกรางซ้ำซาก! เนื้อร้ายไอ้ม้าเหล็ก
หน้าคมนาคม-ลอจิสติกส์
สยามธุรกิจ
ฉบับที่ 1456 ประจำวันที่ 20-22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556
"ระทึกม้าเหล็กขบวนกรุงเทพฯ-หนองคาย เกิดพลิกตกรางพังยับ 3 โบกี้ กลางเมืองอุดรธานี ผู้โดยสารคนขับเจ็บระนาวรวม 14 ราย เผยเสียหายไม่ต่ำกว่า 70 ล้านบาท คาดหัวรถจักรพุ่งเสยแผ่นคอนกรีตที่ใช้วางพาดตามจุดตัดรางรถไฟ ที่เกิดเผยอเกยทับราง จนพลิกคว่ำ"
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เกิดเหตุรถไฟ ตกราง! และอาจจะยังไม่ใช่ครั้งสุดท้ายด้วย!
แน่นอนว่า การเกิดอุบัติเหตุแต่ละครั้ง ส่งผลเสียต่อการรถไฟฯเป็นอย่างมาก เพราะรายงานจากทั่วโลกเห็นตรงกันว่า ระบบขนส่งทางราง ถือเป็นการขนส่งที่มีความปลอดภัยมากที่สุด
จะว่าไปแล้ว การเกิดอุบัติเหตุในครั้งนี้ การรถไฟฯ จะอ้างว่าเป็นเพราะรางไม่ดีไม่ได้ เพราะว่าได้ว่าจ้างให้ผู้รับเหมาทำการเปลี่ยนไม้หมอนและรางใหม่หมดแล้ว ตั้งแต่ชุมทางบัวใหญ่ถึงสถานีหนองคาย แต่ยังไม่ได้มีการรับงาน
ตรงนี้ถือเป็นโจทย์ใหญ่ของการรถไฟฯ ที่จำเป็นต้องใส่ใจ และทำงานหนักขึ้นกว่าเดิม เพราะรถไฟตกรางซ้ำซากนี้ ถือเป็น เนื้อร้าย ที่อยู่คู่กับไอ้ม้าเหล็กมานานมากแล้ว
อย่างไรก็ดี ควรจะฟังเสียงของ "อำพน ทองรัตน์" ประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการรถไฟแห่งประเทศไทย (สร.ร.ฟ.ท.) บ้าง ที่เสนอให้การรถไฟฯมีพนักงานสำรวจเส้นทางรถไฟล่วงหน้า ก่อนที่ขบวนรถไฟจะวิ่งให้บริการ โดยให้มีการสำรวจเป็นประจำทุกวันหรืออย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง ซึ่งปัจจุบันไม่ได้ดำเนินการ เนื่องจากมีปัญหาบุคลากรไม่เพียงพอ จากนโยบายการจำกัดจำนวนบุคลากร โดยปัจจุบันการรถไฟมีพนักงาน 12,000 คน
อย่างที่ทุกฝ่ายรู้แก่ใจกันดีว่า ภาพรางรถไฟ หรือรถไฟฟ้าที่เห็นอยู่ในปัจจุบันไม่ว่าจะรางรถไฟธรรมดา รถไฟฟ้า ที่วิ่งให้บริการในปัจจุบันนี้ คนใช้บริการไม่มีทางรู้ได้เลยว่ามีคุณภาพแข็งแกร่งมากมายแค่ไหน???
ดังนั้น การแสวงหาเครื่องไม้เครื่องมือป้องกันและตรวจสอบสภาพรางรถไฟ หรือรถไฟฟ้า ก่อนให้บริการน่าจะเป็นการตรวจสอบที่ดีที่สุด ไม่ใช่ปล่อยให้เกิดเหตุก่อนแล้วค่อยมานั่งแก้ไข
เป็นที่เข้าใจว่า หน่วยงานที่เกี่ยว ข้องทั้งหลายก็ไม่อยากให้มีเหตุร้ายเกิดขึ้นกับประชาชนอย่างแน่นอน ดังนั้นควรที่จะต้อง "ตัดไฟตั้งแต่ต้นลม"
เท่าที่ทราบในปัจจุบันเขามีการผลิตเครื่องมือตรวจสอบระบบราง ที่เรียกกันว่า "รถเจียรราง" ทำหน้าที่ตรวจสอบสภาพรางรถไฟ หรือ รถไฟฟ้า ว่าอยู่ในมาตรฐานหรือไม่ ในต่างประเทศ อย่าง เยอรมนี ฝรั่งเศส จีน ญี่ปุ่น ฮ่องกง หรือเกาหลีใต้นั้น เขาบังคับให้ผู้ให้บริการรถไฟฟ้า หรือรถไฟใต้ดินต้องตรวจสอบระบบรางเหล่านี้กันอย่างน้อยปีละ 3 ครั้ง โดยอาศัยรถเจียริ่ง ที่ว่านี้แหละทำหน้าที่เจียรรางรถไฟ ป้องกันการเกิดรอยชำรุดบนผิวรางหรือสันราง จนนำไปสู่โศกนาฏกรรมกัน
แต่บ้านเรานั้น ไม่ค่อยแน่ใจว่ามีใช้กันแล้วหรือยัง???
ก็คงได้แต่ฝากท่าน "ชัชชาติ สิทธิพันธุ์" และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมมือกันหามาตรการป้องกันเอาไว้ก่อน เพราะในอนาคตประเทศไทยจะมีรถไฟความเร็วสูง ยิ่งจำเป็นต้องมีความปลอดภัยที่สุดในโลก |
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 44611
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 12/05/2014 4:26 pm Post subject: |
|
|
ภาพ/ข้อมูลจากเพจทีม พีอาร์ การรถไฟแห่งประเทศไทย
12 พ.ค. 57
Quote: | เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่ทางรถไฟสายเหนือ กม.ที่ 710/8-9 ก่อนถึงสถานีหนองหล่ม จ.ลำพูน
รถกระบะคันนี้ ได้ใช้ทางลักผ่าน (ทางลักผ่านคือ ทางที่ชาวบ้านตัดผ่านทางรถไฟกันเอง ถือเป็นทางตัดผ่านแบบผิดกฎหมาย) ปรากฏว่าท้องรถติดกับทางรถไฟ เคลื่อนที่ไม่ได้ และเป็นจังหวะเดียวกับที่ขบวนรถท้องถิ่นที่ 407 นครสวรรค์ - เชียงใหม่ ได้มาถึงพอดี
ด้วยความโชคดีที่จุดนั้นมีการเบาทางลดความเร็วเหลือ 55 กิโลเมตร/ชั่วโมง เพื่อเข้าโค้งรัศมีแคบ พนักงานขับรถจึงสามารถหยุดรถได้ทัน
และที่สำคัญ พนักงานขับรถ, ช่างเครื่อง และ ผู้โดยสาร ได้ลงมาจากรถไฟเพื่อช่วยดันรถยนต์ให้ไม่กีดขวางทางรถไฟอีกด้วย
จากเหตุการณ์ดังกล่าว เป็นข้อเตือนใจให้ตระหนักถึงการใช้ทางตัดที่ไม่ถูกต้อง ซึ่งหากขบวนรถเกิดหยุดไม่ทัน รถคันนี้อาจจะโดนรถไฟชนเข้ากลางคัน ก่อให้เกิดการสูญเสียก็เป็นได้ หรือแม้แต่การล่าช้าของขบวนรถไฟที่ต้องหยุดรถกลางทางโดยไม่มีเหตุอันควรก็ตาม
หรือแม้กระทั่ง การใช้รถใช้ถนนผ่านจุดตัดที่ไม่มีเครื่องกั้น และมีเครื่องกั้น โปรดตระหนักในความปลอดภัยของตนเอง
- ให้ปฏิบัติตามป้ายจราจรอย่างเคร่งครัด ไม่ว่าจะมีเครื่องกั้นหรือไม่ก็ตาม
- หยุดรถมองรถให้แน่ใจก่อนว่าปลอดภัย แล้วจึงข้าม
- ขณะที่เครื่องกั้นทำงาน นั่นหมายถึงระบบการป้องกันภัยได้ทำงานแล้ว โปรดปฏิบัติอย่างเคร่งครัด และไม่ควรอ้อมคานกั้นเพื่อผ่านไป |
|
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42739
Location: NECTEC
|
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 44611
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 26/10/2014 2:15 pm Post subject: |
|
|
ปิดจุดตัดรถไฟอันตรายทั่วประเทศ
พบมีความปลอดภัยต่ำเกิดอุบัติเหตุเสียชีวิต100คนต่อเดือน
เดลินิวส์ วันอาทิตย์ 26 ตุลาคม 2557 เวลา 11:27 น.
นายสฤษฏ์พงษ์ บริบูรณ์สุขผู้อำนวยการสำนักแผนความปลอดภัย สำนักงานนโยบายและแผนขนส่งและจราจร(สนข.)เปิดเผยว่า กระทรวงคมนาคมได้มีข้อสั่งการให้ สนข.ดำเนินการจัดทำแผนแก้ไขปัญหาจุดตัดทางรถไฟภายใน 6 สัปดาห์เพื่อแก้ไขปัญหาอุบัติเหตุทีมักจะเกิดขึ้นอยู่เป็นประจำ โดยจากการสำรวจพบว่าทั่วประเทศไทยมีจุดตัดรถไฟประมาณ2,500 แห่งซึ่งจากการสำรวจพบว่าจุดตัดทางรถไฟในประเทศไทยถือว่ายังมีความปลอดภัยต่ำส่งผลให้เกิดอุบัติเหตุมีผู้เสียชีวิตประมาณ100 คนต่อเดือนทั่วประเทศไทย ทั้งนี้เป็นจุดตัดที่อยู่ในความดูแลของของกรมทางหลวงชนบท(ทช.)25แห่ง กรมทางหลวง(ทล.)82 แห่ง ทั้งสองหน่วยงานก็มีแนวคิดที่จะทำสะพานข้ามทางรถไฟโดยพิจารณาจากจุดที่มีปริมาณรถผ่านเป็นจำนวนมากก่อนเพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุ อย่างไรก็ตามจากการสำรวจพบว่ามีจุดตัดที่เป็นเส้นทางลัดอีก500แห่งที่ยังไม่มีเครื่องกั้นสัญญาณไฟแจ้งเตือนที่ชัดเจนซึ่งสนข.มีแผนการแก้ไขปัญหาจุดตัดทางรถไฟที่เป็นเส้นทางลัดโดยจะมีพิจารณาปิดเส้นทางลัดที่พบว่ามีความอันตรายเนื่องจากไม่มีเจ้าหน้าที่ดูแลความปอดภัย
นายสฤษฏ์พงษ์กล่าวต่อว่า สำหรับในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑลการเกิดอุบัติเหตุมักจะพบไม่มากเพราะมีเจ้าหน้าที่คอยกั้นขณะที่รถไฟวิ่งผ่านจุดตัดรวมทั้งยังมีเครื่องหมายและสัญญาณที่ชัดเจน อย่างไรก็ตามในการแก้ไขปัญหาจุดตัดทางรถไฟแต่ละจุดถือว่ามีความยากในการดำเนินการเนื่องจากติดปัญหาด้านกายภาพที่แตกต่างกันดังนั้นสิ่งที่จะสามารถดำเนินการได้โดยเร่งด่วนคือทุกแห่งจะต้องมีป้ายเตือนทำลูกระนาดก่อนถึงทางรถไฟ มีสัญญาณไฟและไม้กั้นเพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาเบื้องต้นไปก่อนซึ่งสนข.ได้มีการประสานงานไปยังท้องที่ที่รับไปแล้วเพื่อเป็นการป้องกันเบื้องต้น. |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42739
Location: NECTEC
|
Posted: 30/10/2014 5:33 pm Post subject: |
|
|
รฟท.วอนผู้ขับขี่หยุดที่ทางตัดขณะรถไฟผ่าน
โพสต์ทูเดย์
30 ตุลาคม 2557 เวลา 14:35 น.
ร.ฟ.ท.เตรียมชง คค.ทำเครื่องป้องกันอุบัติเหตุจุดตัดรถไฟ
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 30 ตุลาคม 2557 15:44 น.
นายทนงศักดิ์ พงษ์ประเสริฐ ผู้อำนวยการฝ่ายการเดินรถ การรถไฟแห่งประเทศไทย หรือ ร.ฟ.ท. กล่าวว่า อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นระหว่างจุดตัดรถไฟกับถนน เกิดขึ้นบ่อยครั้งในช่วงนี้ ร.ฟ.ท.จึงมีแนวคิดเสนอกระทรวงคมนาคม ประสานกระทรวงมหาดไทยให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ส่งบุคลากรมาอบรม และใช้งบประมาณท้องถิ่นทำเครื่องกั้นลากจูง ที่มีเจ้าหน้าที่คอยดูแล ที่ผ่านมา ร.ฟ.ท.พยายามไม่ให้มีทางลัดตัดระหว่างถนนกับทางรถไฟมากขึ้น จากปัจจุบันมีอยู่ 745 จุดตามหลักเกณฑ์การอนุญาต แต่ที่ผ่านมามีการตัดทางลัดนอกเหนือจากหลักเกณฑ์ ซึ่งมีการประสานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นติดป้ายจราจรเตือนผู้ขับรถ
[youtube[http://www.youtube.com/v/GRflDTl0Dqs[/youtube]
กรณี คนขับมอเตอร์ไซค์แหก ที่กั้นทาง ทำให้ ติดตั้งที่กั้นทางท่าจะไร้ประโยชน์
http://www.youtube.com/watch?v=GRflDTl0Dqs |
|
Back to top |
|
|
mirage_II
1st Class Pass (Air)
Joined: 05/01/2011 Posts: 2591
|
Posted: 31/10/2014 12:27 am Post subject: |
|
|
เรื่องนี้ การรถไฟหนีปัญหาไปไม่ได้ แม้คนขับขี่รถยนต์จะทำผิด พรบ.จราจรทางบกก็ตาม เปรียบเหมือนเราขับรถระวังไม่ชนเขา แต่คนอื่นก็อาจชนเราได้ เช่นกันครับ แต่ทางออกมันมี
เริ่มจาก การรถไฟเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ที่ดินรอบๆ ทางรถไฟอยู่แล้ว การที่มีการตัดถนน หรือทำทางมาข้ามทางรถไฟก็ถือว่า รุกล้ำที่อยู่แล้ว การรถไฟสามารถสร้างรั้วกั้นมิให้รถผ่านได้ แต่ทางปฎิบัติ เพื่อความเจริญเติบโตของเมือง และไม่ง่ายที่จะขัดขวางได้ จึงควรจัดให้มีเครื่องกั้นทุกแห่งที่ถนนผ่านได้ โดยผู้จัดสร้างก็คือ การรถไฟ เพราะใครจะมาเข้าใจ และจัดการเรื่องนี้ได้ดีเท่าการรถไฟ หากแต่ ค่าใช้จ่ายในการสร้างต้องเป็นของ หน่วยราชการท้องถิ่น ไม่พอแค่นั้น ค่าใช้จ่ายในการจ้าง จนท.มาคอยปิด-เปิดเครื่องกั้น หน่วยราชการท้องถิ่นก็ต้องเป็นผู้รับผิดชอบ ตลอดจน ค่าบำรุงรักษารายเดือนอีก (ถ้าใช้เครื่องกั้นอัตโนมัติได้ ก็ไม่ต้องมี คนมาคอยเปิด-ปิด แต่ยามใดที่เครื่องกั้นอัตโนมัติเสีย ก็ต้องมี จนท.มาคอยเปิด-ปิดอีกอยู่ดี ซึ่ง ผู้รับผิดชอบก็คือหน่วยงานท้องถิ่นนั่นเอง
แต่ถ้าหากหน่วยงานท้องถิ่นไม่ยอมรับข้อเสนอนี้ ผมอยากให้ ทางการรถไฟตั้งด่านเก็บเงินค่าผ่านทาง เพื่อนำเงินนี้ไปเป็นค่าใช้จ่ายในการสร้าง จ้างจนท.เปิด-ปิด และ บำรุงรักษา อาจคิดคันละ 2 - 5 บาทต่อครั้ง ก็ได้ เพราะถึงอย่างไรก็มีเครื่องกั้นอยู่แล้ว ไม่จ่ายก็ไม่เปิดให้ผ่าน แต่กว่าจะถึงขั้นนี้ ก็อาจต้องผ่านกฏหมาย หรือ การรถไฟต้องแจ้งเตือนล่วงหน้าให้หน่วยงานท้องถิ่นทราบก่อน และจะเริ่มสร้างเครื่องกั้น และเก็บค่าผ่านทาง ไปจนกว่า หน่วยงานท้องถิ่นจะมีงบประมาณมาให้กับการรถไฟ แต่ถึงอย่างไร ก็มีข้อผ่อนปรนให้คือ จุดตัดใดที่มีเครื่องกั้นอยู่แล้ว และอยู่ในความรับผิดชอบของการรถไฟ จุดนั้นก็จะไม่คิดเงินค่าผ่านทางให้ เป็นทางเลือกให้ประชาชนได้ตัดสินใจว่า จะเร่งรีบผ่านทางเส้นนี้ หรือไม่ก็ขับรถอ้อมไปข้ามจุดที่ไม่เสียเงินแทน เหมือนกรณีทางด่วน ซึ่ง ใครผ่าน ใครต้องการความสะดวก ก็ต้องจ่าย จะดูยุติธรรมดี
อนึ่ง จุดที่รถไฟไม่ค่อยมีผ่านในบางเส้นทาง อายุการใช้งานเครื่องกั้น และ เวลาที่จนท.มาควบคุมเครื่องกั้นน้อยกว่า ก็อาจจะมีการเก็บเงินค่าผ่านทางในบางเวลา
สำหรับความคิดผม เรื่องค่าใช้จ่ายในการสร้างเครื่องกั้นนี้ สามารถใช้งบประมาณแผ่นดินส่วนกลางสร้างได้เหมือนโครงการต่างๆ ของรัฐบาล หากแต่ค่าบำรุงรักษา จัดจ้างคนมาคอยปิดเปิดเครื่องกั้นนี้ ทาง อบต. อบจ. ท้องถิ่นต้องหางบมาเอง ซึ่งไม่มาก แต่ต่อเนื่องตลอดทั้งปีครับ |
|
Back to top |
|
|
subin
3rd Class Pass
Joined: 12/09/2007 Posts: 1
|
Posted: 31/10/2014 10:03 am Post subject: |
|
|
1.คนไทยต้องมีจิตสำนึกสาธารณะถึงความปลอดภัยต่อตนเอง และผู้อื่น
2.แก้กฎหมายที่เข้มงวดกับผู้ขับขี่ และพนักงานรถไฟ
3.ไม่อนุญาตสร้างทางตัด หากไม่มีงบสร้างที่กั้น
4.ล้อมรั้วตลอดแนวทางรถไฟ
5.เพิ่มลูกระนาด ป้ายเตือน กล้องวงจรปิด
6.ปรับปรุงทัศนียภาพ เช่น ต้นไม้ใหญ่ เนินดินสูงที่กีดกันการมองรถไฟก่อนข้าม
ปล.หากจะทุ่มงบสร้างระบบทื่กั้นให้ครบทุกจุด แต่ก็ยังมีคนฝ่าฝืนลักข้าม ก็ไร้ประโยชน์ |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42739
Location: NECTEC
|
Posted: 31/10/2014 10:56 am Post subject: |
|
|
3 วันอุบัติเหตุรถไฟชนรถยนต์ ตาย 6 เจ็บเกือบ 50
by วาสนา ปิยะบวรนันท์
Voice TV
30 ตุลาคม 2557 เวลา 17:49 น.
ในช่วง 3 วันที่ผ่านมา เกิดอุบัติเหตุรถไฟชนกับรถยนต์ถึง 2 ครั้ง คือที่จังหวัดเพชรบุรีและขอนแก่น ทั้ง 2 เหตุการณ์เกิดขึ้นในจุดตัดรถ ที่ไม่มีเครื่องกั้นรางรถไฟทั้ง 2 แห่ง และทำให้มีผู้เสียชีวิตถึง 6 ราย บาดเจ็บเกือบ 50 คน
การรถไฟแห่งประเทศไทยและจังหวัดขอนแก่น เร่งกู้ทางรถไฟ บริเวณจุดตัดทางรถไฟบ้านหนองกรุง ตำบลศิลา อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น หลังช่วงเช้าที่ผ่านมา เกิดอุบัติเหตุรถบรรทุก 10 ล้อชนกับ ขบวนรถท้องถิ่นที่ 415 วิ่งระหว่างจังหวัดนครราชสีมา ถึงหนองคาย
อุบัติเหตุครั้งนี้ ทำให้มีผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ 4 ราย คือ นายเพชร แพนดี พนักงานขับรถไฟ นายดำริ โกสาวาท ช่างเครื่องประจำขบวนรถ นายณรงค์ เดชมา ผู้โดยสารรถไฟ และพระภิกษุ 1 รูปไม่ทราบชื่อ และมีผู้บาดเจ็บ 43 คน ในจำนวนนี้บาดเจ็บสาหัส 8 คน ส่วนคนขับรถบรรทุก คือนายภัทรผล พะระสี ได้รับบาดเจ็บ และยังพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลศรีนครินทร์
ส่วนเมื่อ 2 วันก่อน ก็เกิดเหตุขบวนรถ 261 วิ่งระหว่างกรุงเทพฯ- หัวหิน ชนกับรถยนต์นั่งส่วนบุคคล บริเวณจุดตัดรถไร่กล้วย ตำบลต้นมะม่วง อำเภอเมือง จังหวัดเพชรบุรี มีผู้ เสียชีวิต 2 ราย คือนายวิทยา และนางรจนวรรณ รัตนะ คู่สามีภรรยาที่อยู่ภายในรถยนต์นั่งส่วนบุคคล ซึ่งการรถไฟแห่งประเทศไทย ได้มอบให้เจ้าหน้าที่ไปแจ้งความไว้ที่สถานีตำรวจภูธรเมืองเพชรบุรี เพื่อเรียกร้องค่าเสียหายแล้ว เนื่องจากหัวรถจักร ตัวรถภายนอก เครื่องยนต์และสปีดมิเตอร์ได้รับความเสียรวมมูลค่ากว่า 1ล้านบาท ขณะที่สถิติการเกิดอุบัติในลักษณะนี้ ตลอดปีงบประมาณ 2557 พบว่ามีถึง 127 ครั้ง มีผู้เสียชีวิต 27 ราย บาดเจ็บ 91 คน
นายทนงศักดิ์ พงษ์ประเสริฐ รองผู้อำนวยการฝ่ายการเดินรถ การรถไฟแห่งประเทศไทย กล่าวถึงอุบัติเหตุรถไฟในช่วงนี้ว่า ส่วนหนึ่งมาจากปัญหาขาดเครื่องกั้นรางรถไฟ ในจุดที่เป็นปัญหาและเป็นจุดเสี่ยง |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42739
Location: NECTEC
|
Posted: 31/10/2014 5:58 pm Post subject: |
|
|
บิ๊กจินสั่งประสานท้องถิ่นแก้จุดตัดรถไฟ 584 แห่ง
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 31 ตุลาคม 2557 16:47 น.
ประจินจี้สรุปแก้ปัญหาจุดตัดรถไฟที่เสี่ยงเกิดอุบัติเหตุ สั่งประสานองค์กรท้องถิ่นร่วมมือติดตั้งเครื่องกั้นหรือสัญญาณแจ้งเตือน ตั้งเป้า ทางลักผ่าน 584 แห่ง ต้องมีระบบเตือนครบใน 2 ปี
พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังประชุมหัวหน้าหน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคมวันนี้ (31 ต.ค.) ว่า ได้ติดตามการแก้ปัญหาจุดตัดทางรถไฟกับถนนซึ่งจากการตรวจสอบพบว่า มีจำนวน2,517 แห่งทั่วประเทศ โดยเป็นจุดตัดที่เป็นทางผ่านที่ได้รับอนุญาต จากการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เกือบ 2,000 แห่ง และอีก 584 แห่งเป็นจุดตัดที่ไม่ได้รับอนุญาต (ทางลักผ่าน) ซึ่งจะต้องเร่งแก้ปัญหา เนื่องจากเกิดอุบัติเหตุค่อนข้างบ่อย ซึ่งส่วนใหญ่จะอยู่ในเส้นทางสายใต้ถึง 456 แห่ง รองลงมาคือสายตะวันออกเฉียงเหนือและสายเหนือ โดยตั้งเป้าหมายเร่งดำเนินการให้แล้วเสร็จในปี 2558 จำนวน 1 ใน 3 ที่เหลือจะแล้วเสร็จในปี 2559 และหากได้รับงบกลางหรือทางท้องถิ่นเข้ามาช่วยลงทุน คาดว่าจะเสร็จได้เร็วขึ้น
ทั้งนี้ กระทรวงคมนาคมจะร่วมมือกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ในการเร่งสร้างเครื่องกั้นถาวรหรือติดตั้งสัญญาณแจ้งเตือนก่อนถึงจุดตัดรถไฟ เพื่อให้เป็นมาตรฐานด้านความปลอดภัยเดียวกัน ซึ่งในการแจ้งเตือนผู้ขับรถให้รับทราบว่า ข้างหน้าจะมีจุดตัดกับรถไฟในระยะอย่างน้อย 30 เมตร และในอีก 15 เมตร จะเตือนด้วยลูกระนาด และอีก 5 เมตรก่อนถึงจุดตัดทางรถไฟ จะมีสัญญาณไฟ หรือสัญญาณเสียงเตือนอีกครั้ง ซึ่งทำได้ทั้งแบบ Manual หรือแบบอัตโนมัติ หรืออาจจะเป็นการติดเซ็นเซอร์ก่อนที่รถไฟจะวิ่งถึงจุดตัด 1 กม. โดยใช้แรงสั่นสะเทือนกรณีที่มีรถไฟวิ่งมา จะส่งสัญญาไปที่จุดตัดเพื่อส่งเป็นสัญญาณไฟ หรือเสียงเตือน เมื่อรถวิ่งผ่านไปแล้ว 200 เมตร สัญญาณเตือนจึงดับ เป็นต้น
พล.อ.อ.ประจินกล่าวว่า เมื่อมีการทำแผนร่วมกัน จะถือเป็นความรับผิดชอบร่วมกัน และในอนาคตจุดตัดที่อนุญาตถูกต้องนั้น ได้มีแผนการติดตั้งระบบป้องกัน โดยร.ฟ.ท.ร่วมมือกับ กรมทางหลวง กรมทางหลวงชนบท ติดตั้งแบบถาวร คือ สะพานข้ามหรือทางลอด กรณีปริมาณจราจรผ่านเกิน 1 แสนเที่ยวต่อวัน โดยต้องมีการวางแผนล่วงหน้า 1-2 ปี , การสร้างเครื่องกั้น แบบอัตโนมัติและแบบธรรมดา (Manual) , ปรับปรุงเครื่องกั้นเดิมเช่น เป็นแบบธรรมดาปรับเป็นอัตโนมัติ จากที่เป็นระบบอัตโนมัติแล้ว มีปริมาณจราจรเพิ่มขึ้นจะยกเป็นสะพานข้ามหรือทางลอด ซึ่งกระทรวงคมนาคมมีการวางแผนงบประมาณไว้ชัดเจน
สำหรับปัจจุบัน มีทางผ่านจุดตัดรถไฟที่มีเครื่องกั้น 877 แห่ง เป็นจุดตัดมีไฟเตือนอัตโนมัติ 12 แห่ง เป็นจุดตัดมีป้ายจราจรเตือน 775 แห่ง เป็นจุดตัดที่มีสะพานข้าม 146 แห่ง เป็นจุดตัดที่เป็นทางลอด 118 แห่ง และเป็นจุดตัดที่เป็นคานยก (เอกชนควบคุมเอง) 5 แห่ง และเป็นจุดตัดที่เป็นทางลักผ่านจำนวน 584 แห่ง
//---------------------
สถิติอุบัติเหตุ รถไฟชนกับรถยนต์ เดือนตุลาคม 56 - กันยายน 57 - เกิด 27 หน ตาย 27 คน บาดเจ็บ 91 คน
https://www.facebook.com/NationChannelTV/photos/a.385635862449.164151.359255107449/10152851684777450/?type=1
www.nationtv.tv/main/content/crime/378430359/ |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42739
Location: NECTEC
|
Posted: 31/10/2014 8:58 pm Post subject: |
|
|
ตายก่อนค่อยกั้นรั้ว 'ประจิน'คาดแก้ปัญหาจุดตัดรถไฟเสร็จปี59
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 31 ตุลาคม 2557 19:49 น.
พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รมว.คมนาคม เปิดเผยถึง การแก้ปัญหาจุดตัดทางรถไฟกับถนนซึ่งจากการตรวจสอบพบว่า มีจำนวน 2,517 แห่งทั่วประเทศ โดยเป็นจุดตัดที่เป็นทางผ่านที่ได้รับอนุญาต จากการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เกือบ 2,000 แห่ง และอีก 584 แห่งเป็นจุดตัดที่ไม่ได้รับอนุญาต หรือทางลักผ่าน ซึ่งจะต้องเร่งแก้ปัญหา เนื่องจากเกิดอุบัติเหตุค่อนข้างบ่อย ซึ่งส่วนใหญ่จะอยู่ในเส้นทางสายใต้ถึง 456 แห่ง รองลงมาคือสายตะวันออกเฉียงเหนือและสายเหนือ ตั้งเป้าหมายเร่งดำเนินการให้แล้วเสร็จ1ใน3ในปี 2558 ส่วนที่เหลือจะแล้วเสร็จในปี 2559
แนวทางการแก้ไขปัญหาในระยะเร่งด่วนทางกระทรวงฯจะร่วมมือกับองค์การปกครองส่วนท้องถิ่น(อปท.) แจ้งเตือนก่อนถึงจุดตัดทางรถไฟ รวมทั้งสร้างเครื่องกั้นถาวร หรือติดตั้งสัญญาณแจ้งเตือนก่อนถึงจุดตัดรถไฟ ส่วนระยะยาวจะต้องร่วมมือสร้างสะพานข้ามและทางลอดผ่าน ส่วนงบประมาณที่ใช้ในการดำเนินการยังไม่สามารถระบุได้ แต่เบื้องต้นในพิจารณาว่าจะดูจากงบในองค์กรส่วนท้องถิ่นก่อน หากไม่เพียงพอจะใช้งบกลางของกระทรวงคมนาคมด้วย
ในส่วนของจุดตัดทางรถไฟกับถนนที่ได้รับอนุญาตเกือบ2000 จุด ก็จะดำเนินการสร้างระบบป้องกันอุบัติเหตุอาทิ
1.การสร้างสะพานข้ามหรือทางลอด หากเส้นทางนั้นมีปริมาณการจราจรผ่านเกิน 1 แสนเที่ยวต่อวัน
2. สร้างทางกั้นผสมผสานระหว่างระบบควบคุมมือกับระบบอัตโนมัติและ
3.ปรับปรุงคุณภาพผ่านทางกั้นเดิมให้ได้มาตรฐาน เช่น เป็นแบบธรรมดาปรับเป็นอัตโนมัติ จากที่เป็นระบบอัตโนมัติแล้ว มีปริมาณจราจรเพิ่มขึ้นจะยกเป็นสะพานข้ามหรือทางลอด ซึ่งกระทรวงคมนาคมมีการวางแผนงบประมาณไว้ชัดเจน
//-------------
ปภ.เตือนขับรถผ่านจุดตัดรถไฟให้ระวังเป็นพิเศษ หวังลดอุบัติเหตุ
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 31 ตุลาคม 2557 19:03 น.
นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กล่าวว่า จุดตัดทางรถไฟเป็นเส้นทางที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง โดยจากสถิติของการรถไฟแห่งประเทศไทย ตั้งแต่เดือนตุลาคม ปี 2556 - ตุลาคม ปี 2557 เกิดอุบัติเหตุรวม 219 ครั้ง มีผู้เสียชีวิต 33 ราย ผู้บาดเจ็บ 116 คน ซึ่งส่วนใหญ่มักมีสาเหตุจากความไม่คุ้นเคยและความไม่ชำนาญเส้นทางของผู้ขับขี่ รวมถึงการขาดทักษะในการขับรถผ่านเส้นทางเสี่ยงอุบัติเหตุ
ทั้งนี้ ปภ.ขอแนะข้อควรปฏิบัติในการขับรถผ่านจุดตัดทางรถไฟ โดยเพิ่มความระมัดระวังเป็นพิเศษ เมื่อขับรถผ่านเส้นทางที่ไม่คุ้นเคย เพราะอาจมีจุดตัดทางรถไฟบนเส้นทาง โดยเฉพาะเส้นทางที่ไม่มีแผงกั้นทางรถไฟจุดตัดทางรถไฟบริเวณทางโค้ง มีต้นไม้ หรือพุ่มไม้บดบังเส้นทาง รวมถึงการขับรถในช่วงกลางคืนที่ทัศนวิสัยในการมองเห็นเส้นทางไม่ดี โดยหมั่นสังเกตป้ายเตือนสัญลักษณ์ทางรถไฟริมข้างทางหรือลูกคลื่นบนพื้นผิวถนน ซึ่งเป็นสัญญาณเตือนว่าเส้นทางข้างหน้ามีจุดตัดทางรถไฟชะลอความเร็วรถ และหยุดรถก่อนถึงจุดตัดทางรถไฟ พร้อมมองเส้นทางด้านซ้ายและขวาจนแน่ใจว่าไม่มีรถไฟวิ่งผ่านมา ค่อยขับรถข้ามจุดตัดทางรถไฟ |
|
Back to top |
|
|
|