Ads Service

Main Menu

 
icon_home.gif Homepage
icon_community.gif Members Zone
· ข้อมูลส่วนตัว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ข่าวสารส่วนตัว
· บริการเว็บเมล์
· กระดานข่าว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก กระดานฝากข้อความ
· รถไฟไทยแกลลอรี่
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก รายนามสมาชิก
· แบบสำรวจ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก สมุดเยี่ยม
· เกี่ยวกับสมาชิก
favoritos.gif News & Stories
· เรื่องทั้งหมด
· เนื้อหาสาระ
· เรื่องสำหรับพิมพ์
· ยอดฮิตติดอันดับ
· ค้นหาข่าวสาร
· ค้นหากระทู้เก่า
nuke.gif Contents
· กำหนดเวลาเดินรถ
· ประเภทขบวนรถโดยสาร
· ข้อมูลเส้นทางรถไฟ
· แผนที่เส้นทางรถไฟ
· อัตราค่าโดยสาร
· คำนวณค่าโดยสารรถไฟ
· รูปแบบการให้บริการรถไฟ
· หมายเลขโทรศัพท์ที่สำคัญ
· ทริปท่องเที่ยวโดยรถไฟ
· ระบบติดตามขบวนรถ
som_downloads.gif Services
· Downloads
· GoogleSearch
· Hotels Booking
· FlashGames
· Wallpaper 1
· Wallpaper 2
· Wallpaper 3
· Wallpaper 4
icon_members.gif Information
· เกี่ยวกับเรา
· นโยบายความเป็นส่วนตัว
· แผนผังเว็บไซต์ฯ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ส่งข้อแนะนำติชม
· ติดต่อลงโฆษณา
· แนะนำและบอกต่อ
· สถิติทั้งหมด
· สำหรับผู้ดูแลระบบ
 

Sponsors

 

Ads Service

 

Visitors

 


มีผู้เข้าเยี่ยมชม
สมาชิก:311289
ทั่วไป:13270579
ทั้งหมด:13581868
คน ตั้งแต่
01-08-2004
 


Rotfaithai.Com :: View topic - ระดมสมองสมาชิก.RFT.เพื่อหามาตรการลดอุบัติเหตุให้กับการรถไฟ
 Forum FAQForum FAQ   SearchSearch   UsergroupsUsergroups   ProfileProfile   Log in to check your private messagesLog in to check your private messages   Log inLog in 

ระดมสมองสมาชิก.RFT.เพื่อหามาตรการลดอุบัติเหตุให้กับการรถไฟ
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 25, 26, 27 ... 45, 46, 47  Next
 
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> อุบัติเหตุเกี่ยวกับรถไฟไทย
View previous topic :: View next topic  
Author Message
mirage_II
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 05/01/2011
Posts: 2591

PostPosted: 01/11/2014 12:32 am    Post subject: Reply with quote

"ตายก่อนค่อยกั้นรั้ว" มันก็เหมือนคำพังเพย "วัวหายล้อมคอก" นั่นแหละครับ แต่ยังดีกว่าที่ ยังมีรถไฟวิ่งต่อมาเหมือนเดิม ไม่เหมือนวัวหายไปแล้วไม่มีวัวไปล้อมคอกทำไม? บางที เรื่องยังไม่เกิด คนเราก็ประหยัดเงิน ประหยัดงบ เอาไปจ่ายอย่างอื่นก่อน จนเหมือนมีคนประท้วง หรือเหตุการณ์มันประท้วงให้ ว่าต้องทำนะ มันเสียหายเยอะ เป็นเสมือนบทเรียน จึงต้องออกมาแก้ไขกัน และจะยิ่งเจ็บปวดใจหนักกว่าเดิม ทำนอง "ประวัติศาสตร์ซ้ำรอย" ถ้าหากไม่แก้ไขแล้วปล่อยให้เกิดอุบัติเหตุซ้ำซากต่อไปอย่างไม่มีที่สิ้นสุดครับ จนบางที คนที่ตายไป ก็ถือเป็นผู้เสียสละ กระตุกต่อมความรับผิดชอบ หรือ การมองเห็นปัญหาที่มองข้ามไม่ได้ นะครับ อย่างที่เราบันทึกไว้ในกระทู้นี่ไงครับ (คุณพ่อผมเคยบอกว่า "ผิดเหมือนครู" และเป็น "บทเรียนราคาแพง" อย่างเพลงคุณพุ่มพวง ดวงจันทร์ร้องนะครับ)
Back to top
View user's profile Send private message
ksomchai
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 08/04/2009
Posts: 6384
Location: เมืองทองเนื้อเก้า มะพร้าว สัปรด สวยสดหาด เขา ถ้ำ งามล้ำน้ำใจ ป่าชุ่มน้ำผืนใหญ่ แหล่งวางไข่ปลาทู

PostPosted: 01/11/2014 8:43 pm    Post subject: Reply with quote

Laughing หน่วยงานหนึ่งที่ควรจะออกมารณรงค์ ก็คือกรมการขนส่งทางบกผู้ออกใบขับขี่นั่นแหละ เวลาอบรบผู้สอบใบขับขี่
เค้าเคยให้ความรู้เกี่ยวกับกฏหมายจราจรแค่ไหน ผู้ขับขี่ยวดยานและผู้ใช้ทางรถไฟจะต้องมีความตระหนักและมีวินัยในการใช้ทางร่วมกัน
ในจุดตัดทางรถไฟเสมอระดับรถยนต์ ต้องปฏิบัติตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ. ๒๕๒๒ อย่างเคร่งครัด คือ

มาตรา ๖๒ ในทางเดินรถตอนใดที่มีทางรถไฟผ่าน ถ้าปรากฏว่ามีเครื่องหมายหรือสัญญาณระวังรถไฟแสดงว่ารถไฟกำลังผ่าน
มีสิ่งปิดกั้นหรือเจ้าหน้าที่ให้สัญญาณแสดงว่ารถไฟกำลังผ่าน มีเสียงสัญญาณของรถไฟหรือรถไฟกำลังแล่นผ่านเข้ามาใกล้ อาจเกิดอันตราย
ในเมื่อจะขับรถผ่านไป ผู้ขับขี่ต้องลดความเร็วของรถ และหยุดรถให้ห่างจากทางรถไฟไม่น้อยกว่า ๕ เมตร เมื่อรถไฟผ่านไปแล้ว
และมีเครื่องหมายหรือสัญญาณให้รถผ่านได้ ผู้ขับขี่จึงจะขับรถผ่านไปได้

มาตรา ๖๓ ในการเดินรถตอนใดที่มีรถไฟผ่าน ไม่ว่าจะมีเครื่องหมายระวังรถไฟหรือไม่ ถ้าทางรถไฟนั้นมีสัญญาณระวังรถไฟหรือสิ่งปิดกั้น
ผู้ขับขี่ต้องลดความเร็วของรถและหยุดห่างจากทางรถไฟ ในระยะไม่น้อยกว่า ๕ เมตร เมื่อเห็นว่าปลอดภัยแล้วจึงจะขับผ่านไปได้.


Laughing แม้แต่สื่อของวิทยุโทรทัศน์ ก็ไม่เคยที่จะทำความเข้าใจเกี่ยวกับกฏหมายจราจรเลย ระเบียบวินัยในการใช้รถใช้ถนนของคนในชาติ
มีมากน้อยแค่ไหนรู้ ๆ กันอยู่ เมื่อเกิดอุบัติเหตุก็โทษว่าไม่มีเครื่องกั้น แต่ไม่เคยพูดถึงความประมาทของผู้ขับขี่รถยนต์ที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุเลย

Laughing รฟท.น่าจะออกมารณรงค์ทางสื่อบ้างก็ดีน่ะ หรือติดตำเตือนไว้ทุกจุดที่เป็นทางเสมอระดับ เมื่อเกิดอุบัติเหตุ
จะได้เป็นข้ออ้างว่า เราเตือนคุณแล้ว ไม่ใช่ให้สังคมโจมตีอยู่ เพียงฝ่ายเดียว
_________________
Click on the image for full size
Back to top
View user's profile Send private message Send e-mail
mirage_II
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 05/01/2011
Posts: 2591

PostPosted: 01/11/2014 11:22 pm    Post subject: Reply with quote

รฟท. เคยมีคลิ๊ปโฆษณาเกี่ยวกับรถไฟ มาหลายปีแล้ว ที่ช่อง 5 ครับ เช่น ""ทางลักผ่านคืออะไรครับ"


และนี่ช่อง 7 ครับ ""ทางลักผ่านจุดอันตราย"


อีกคลิ๊ป"ข้ามจุดตัดให้ปลอดภัย"


อันนี้เป็นทำตัวอย่างอุบัติเหตุ "TVC Spot รฟท ชุด หยุดก่อนถึงไม้กั้น"


คลิ๊ปนี้ทีแรกนึกว่าไม่เกี่ยวกับการข้ามทางตัดกับรางรถไฟ " "80 60 40 20 คืออะไร"


แต่น่าเสียดายที่ทำมานาน และไม่ได้ออกอากาศอีก เหลือแต่ในยูทู๊ป
อีกคลิ๊ป เป็นของช่อง TNN "แผงกั้นทางรถไฟลดอุบัติเหตุ"
Back to top
View user's profile Send private message
srinopkun
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 08/04/2010
Posts: 2877
Location: นครปฐม

PostPosted: 02/11/2014 8:36 am    Post subject: Reply with quote

เชื่อมั้ยละครับ ว่าเดี๋ยวนี้ผู้คนทั้งหลายขับรถกันไม่ค่อยระมัดระวังเพราะ ... ความคิดที่ว่า

-----> ชนไปเดี๋ยวตามประกันมาเคลียร์ <------

แถวๆนี้ .... ท่านใดที่อาวุโสหน่อย (อายุเยอะแล้วน่ะ - 555) พอจะนึกออกกันว่า สมัยก่อนน่ะ ตอนที่เราขับรถเป็นกันใหม่ๆ เราจะระมัดระวังอย่างดี จะออกจากแยก จะจอด จะขับ ฯลฯ เรามักจะระวังกันอย่างดี

เพราะ

1. สมัยก่อน รถน้อย วิ่งมาทีจะเห็นกันชัดเจน

2. ไม่รีบ ไม่ใจร้อน ไม่เห็นแก่ตัว ฯลฯ

3. ยังไม่มีระบบ "ประกัน" ที่ครอบคลุมมากมายอย่างงี้

************************************************

อ่ะ ตัดมาเรื่องเกี่ยวกับรถไฟ ปะทะกับรถยนต์บ้าง

เมื่อก่อน ผู้ใหญ่จะสอนสั่งเราเสมอๆ ว่าข้ามทางรถไฟต้องหยุดนะ ห้ามผ่านไปเฉยๆ



เรามาดูกันว่า พวกเราเนี่ยแหละ เคยสอนลูกหลานกันมั้ย ???? สอนแบบที่เราได้รับการสอนมาตั้งแต่ก่อนน่ะ

มองดูตัวพวกเรากันก่อนเลยครับ สอนมั้ย สอนน้อง สอนลูก สอนหลานกันบ้างหรือยัง ???



.... สอนว่ารถไฟน่ะ เขาวิ่งอยู่บนราง ซึ่งเป็นเขตของเขานะ เราตะหากที่กำลังผ่าน "เขตของเขา" ... จึงควรหยุดดูเขาด้วย ภาษาชาวบ้านเรียกว่า "ดูตาม้าตาเรือ" นั่นแหละครับ

.... สอนว่า ก่อนข้ามทางรถไฟน่ะ หยุดดูซะก่อนแล้วค่อยข้ามไป



อนึ่ง รถไฟสมัยก่อนนู้นความเร็วเฉลี่ย 30-50 กม/ชม. ผู้ใหญ่ยังเตือนแล้วเตือนอีก

เดี๋ยวนี้ความเร็วเฉลี่ยเท่าไหร่แล้วล่ะ .... พวกเราจะไม่เริ่มสอน + เตือน ลูกหลาน, ญาติพี่น้องกันบ้างเหรอครับ ????

**********************************************************

การแก้ไขในภาพรวม (กำลังดำเนินการอยู่)

ก็แค่ผลักดันให้บริษัทประกันภัย ไม่คุ้มครองในกรณีรถยนต์เข้าไปอยู่ในพื้นที่ทางรถไฟแล้วโดนชน

ฮ่า ๆ ๆ

แค่นี้แหละครับ รับรอง ระวังกันสุดๆ ตอนจะข้ามทางรถไฟเนี่ย

กำลังช่วยกันผลักดันกันอยู่ครับ คือมันต้องมีอะไรๆที่เป็น "วิชาการ" ไปนำเสนอต่อสมาคมประกันฯเค้าด้วย ... ซึ่งมีทั้งงานวิจัย, ข้อมูลสถิติ ฯลฯ ไม่น่าจะนานครับ คงจะได้เห็นกัน

แหม ประกันเค้าชอบออก ... ไม่คุ้มครองเวลาไปปะทะกับรถไฟเนี่ย เพราะรถยนต์ที่เอาประกันอยู่ แล้วไปทำรถไฟเสียหายเนี่ย จ่ายเกินวงเงินประกันทุก Case แหละครับ ถึงจะประกันชั้น 1 ก็เหอะ เกินทุนประกันอยู่ดีแหละ



คอยดูสิ พอคนขับรถยนต์รู้ว่าประกันไม่คุ้มครอง หากไปมีปัญหากับรถไฟละก็ ....

ทีนี้ พอข้ามทางรถไฟแต่ละที เรียบร้อยมีวินัยจราจรกันอย่างดีเลยแหละ

ฟันธง !!!!
Back to top
View user's profile Send private message
mirage_II
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 05/01/2011
Posts: 2591

PostPosted: 02/11/2014 12:20 pm    Post subject: Reply with quote

เห็นด้วยกับคุณ srinopkun ในเรื่องการมีประกันสำหรับรถ ทำให้คนขับรถประมาทมากขึ้น เพราะคิดว่า เกิดเรื่องเดี๋ยวก็มีคนมาเคลียร์ให้ สำหรับผมเลิกประกันชั้น 1 ตั้งแต่ผ่อนรถเสร็จตามข้อบังคับของไฟแนนซ์แล้ว เพราะอะไรที่เราทำ เราควรรับผิดชอบเอง

สำหรับเรื่องการประมาทกับรถไฟนี้ ผมเปรียบได้กับการลักทรัพย์เล็กน้อยๆ หรือพวกแอบดู(ถ้ำมอง) ตลอดจน ลวนลามผู้หญิง คนที่กระทำผิดมักคิดว่าเป็นเรื่องเล็กน้อย ไม่คิดว่าถ้าโดนจับได้จะต้องอับอายขนาดไหน ยิ่งถ้าเป็นระดับผู้ใหญ่ มีตำแหน่งหน้าที่การงานสูงๆ ด้วย บางทีทำแล้วไม่โดนจับได้ ก็รู้สึกตื่นเต้นเข้าไปอีก เรียกว่าได้ลุ้นกับความสุขเล็กๆ แบบนี้เป็นประจำ จนเกิดเรื่องที อาจหลุดจากตำแหน่งงานเลยก็มี

ครับ คนที่ประมาทเวลาข้ามทางรถไฟ ก็เพราะคิดว่า ทางรถไฟเงียบๆ โล่งๆ ในต่างจังหวัด ยิ่งเป็นทางลักข้ามแล้ว ดูเหมือน เน้นว่า ดูเหมือนว่าจะเป็นทางรถไฟที่เลิกใช้ ก็เพราะไม่มีเสาเตือน หรือสัญญาณ หรือ เครื่องกั้นใดๆ ก็เลยประมาท วิ่งข้ามโดยไม่หยุดดูก่อน หรือดูไปขับไป ซึ่งกว่าจะเห็นรถไฟ หัวรถตัวเองก็ล้ำเข้ามาบนรางแล้ว ก็ต้องเร่งเครื่องให้ผ่าน ซึ่งผมคิดว่ามีรอดเยอะ ซึ่งไม่ตกเป็นข่าว วันหลังได้ใจก็ทำแบบนี้ใหม่ หลายคนก็ทำกัน จนวันหนึ่งก็มีคนพลาดโดนรถไฟชน ก็เพิ่มความระัมัดระวังขึ้นไปสักหน่อย สักพักไม่มีข่าวอุบัติเหตุรถไฟชนรถยนต์ตรงทางตัดข้าม ก็เริ่มกลับมาประมาทกันอีก..

ไอเดียที่เอาภาพ หรือตัวอย่างรถถูกชนเละ มาวางไว้ใกล้จุดตัดทางรถไฟ ก็ดี จะได้เตือนใจครับ ว่าเรื่องแบบนี้อาจเกิดกับตัวคุณได้ ถ้ายังคงความประมาท

ส่วนการสร้างเครื่องกั้นแบบขวางถนนสนิททั้งสองเลน นั้นถือเป็นปลายเหตุ ไว้ป้องกันคนดื้อด้าน ถูกห้ามแล้วยังทำ เพื่อรักษาทรัพย์สมบัติของการรถไฟเองมากกว่า คนดื้ออย่างนั้น ถ้ายังพยายามหาวิธีฝ่าฝืนอีกมันก็สุดจะแก้ไขแล้วละครับ Evil or Very Mad

สวัสดีคุณ srinopkun ครับ ไม่เห็นคุณเข้ามาคุยนานแล้วเหมือนกันนะครับ คิดถึงเหมือนกัน Smile
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42743
Location: NECTEC

PostPosted: 02/11/2014 6:01 pm    Post subject: Reply with quote

ปภ.แนะหลักปฏิบัติ 3 ประการขับรถผ่านจุดตัดทางรถไฟให้ปลอดภัย


โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 1 พฤศจิกายน 2557 11:59 น.


กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ระบุว่า จุดตัดทางรถไฟเป็นเส้นทางที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุในลักษณะรุนแรงบ่อยครั้ง โดยสร้างความสูญเสียชีวิตและทรัพย์สินเป็นจำนวนมาก และจากสถิติอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นบริเวณจุดตัดทางรถไฟของการรถไฟแห่งประเทศไทย ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2556-ตุลาคม 2557 เกิดอุบัติเหตุรวม 219 ครั้ง มีผู้เสียชีวิต 33 ราย ผู้บาดเจ็บ 116 คน ซึ่งส่วนใหญ่มักมีสาเหตุจากความไม่คุ้นเคยและความไม่ชำนาญเส้นทางของผู้ขับขี่ รวมถึงการขาดทักษะในการขับรถผ่านเส้นทางเสี่ยงอุบัติเหตุอย่างถูกต้อง
ทั้งนี้ เพื่อความปลอดภัย กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จึงขอแนะข้อควรปฏิบัติในการขับรถผ่านจุดตัดทางรถไฟ โดยเพิ่มความระมัดระวังเป็นพิเศษเมื่อขับรถผ่านเส้นทางที่ไม่คุ้นเคย เพราะอาจมีจุดตัดทางรถไฟบนเส้นทาง ทำให้เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุได้ โดยเฉพาะเส้นทางที่ไม่มีแผงกั้นทางรถไฟ จุดตัดทางรถไฟบริเวณทางโค้ง มีต้นไม้หรือพุ่มไม้บดบังเส้นทาง รวมถึงการขับรถในช่วงกลางคืนที่ทัศนวิสัยในการมองเห็นเส้นทางไม่ดี โดยหมั่นสังเกตป้ายเตือนสัญลักษณ์ทางรถไฟริมข้างทางหรือลูกคลื่นบนพื้นผิวถนน ซึ่งเป็นสัญญาณเตือน ว่าเส้นทางข้างหน้ามีจุดตัดทางรถไฟ
ขณะเดียวกัน ควรชะลอความเร็วรถและหยุดรถก่อนถึงจุดตัดทางรถไฟ พร้อมมองเส้นทางด้านซ้ายและขวาจนแน่ใจว่าไม่มีรถไฟวิ่งผ่านมา ค่อยขับรถข้ามจุดตัดทางรถไฟ กรณีมีสัญญาณไฟจราจรบริเวณทางรถไฟ ไม่ควรหยุดหรือจอดรถคร่อมรางรถไฟเป็นอันขาด เพราะหากมีขบวนรถไฟวิ่งผ่านมา จะไม่สามารถเคลื่อนรถได้ทัน
นอกจากนี้ หากได้ยินเสียงสัญญาณเตือนรถไฟหรือแผงกั้นทางรถไฟปิดลงมา ควรหยุดรถให้ห่างจากทางรถไฟในระยะไม่ต่ำกว่า 5 เมตร พร้อมจอดรถให้ขบวนรถไฟผ่านไปก่อน และรอจนเจ้าหน้าที่เปิดแผงกั้นทางรถไฟออก จึงค่อยขับรถผ่านจุดตัดทางรถไฟ ห้ามยกแผงกั้นทางรถไฟหรือเร่งความเร็วขับข้ามทางรถไฟอย่างเด็ดขาด เพราะบริเวณจุดตัดทางรถไฟมีลักษณะเป็นเนิน หากเครื่องยนต์ขัดข้องหรือล้อรถติดกับร่องทางรถไฟ จะไม่สามารถเร่งเครื่องขับผ่านทางรถไฟได้ทัน ทำให้เกิดอุบัติเหตุได้
กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ย้ำว่า การเรียนรู้หลักปฏิบัติในการขับรถผ่านจุดตัดทางรถไฟ จะช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุและเพิ่มความปลอดภัยในการเดินทาง
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42743
Location: NECTEC

PostPosted: 02/11/2014 6:04 pm    Post subject: Reply with quote

srinopkun wrote:
เชื่อมั้ยละครับ ว่าเดี๋ยวนี้ผู้คนทั้งหลายขับรถกันไม่ค่อยระมัดระวังเพราะ ... ความคิดที่ว่า

-----> ชนไปเดี๋ยวตามประกันมาเคลียร์ <------

แถวๆนี้ .... ท่านใดที่อาวุโสหน่อย (อายุเยอะแล้วน่ะ - 555) พอจะนึกออกกันว่า สมัยก่อนน่ะ ตอนที่เราขับรถเป็นกันใหม่ๆ เราจะระมัดระวังอย่างดี จะออกจากแยก จะจอด จะขับ ฯลฯ เรามักจะระวังกันอย่างดี

เพราะ

1. สมัยก่อน รถน้อย วิ่งมาทีจะเห็นกันชัดเจน

2. ไม่รีบ ไม่ใจร้อน ไม่เห็นแก่ตัว ฯลฯ

3. ยังไม่มีระบบ "ประกัน" ที่ครอบคลุมมากมายอย่างงี้

************************************************

อ่ะ ตัดมาเรื่องเกี่ยวกับรถไฟ ปะทะกับรถยนต์บ้าง

เมื่อก่อน ผู้ใหญ่จะสอนสั่งเราเสมอๆ ว่าข้ามทางรถไฟต้องหยุดนะ ห้ามผ่านไปเฉยๆ



เรามาดูกันว่า พวกเราเนี่ยแหละ เคยสอนลูกหลานกันมั้ย ???? สอนแบบที่เราได้รับการสอนมาตั้งแต่ก่อนน่ะ

มองดูตัวพวกเรากันก่อนเลยครับ สอนมั้ย สอนน้อง สอนลูก สอนหลานกันบ้างหรือยัง ???



.... สอนว่ารถไฟน่ะ เขาวิ่งอยู่บนราง ซึ่งเป็นเขตของเขานะ เราตะหากที่กำลังผ่าน "เขตของเขา" ... จึงควรหยุดดูเขาด้วย ภาษาชาวบ้านเรียกว่า "ดูตาม้าตาเรือ" นั่นแหละครับ

.... สอนว่า ก่อนข้ามทางรถไฟน่ะ หยุดดูซะก่อนแล้วค่อยข้ามไป



อนึ่ง รถไฟสมัยก่อนนู้นความเร็วเฉลี่ย 30-50 กม/ชม. ผู้ใหญ่ยังเตือนแล้วเตือนอีก

เดี๋ยวนี้ความเร็วเฉลี่ยเท่าไหร่แล้วล่ะ .... พวกเราจะไม่เริ่มสอน + เตือน ลูกหลาน, ญาติพี่น้องกันบ้างเหรอครับ ????


mirage_II wrote:
เห็นด้วยกับคุณ srinopkun ในเรื่องการมีประกันสำหรับรถ ทำให้คนขับรถประมาทมากขึ้น เพราะคิดว่า เกิดเรื่องเดี๋ยวก็มีคนมาเคลียร์ให้ สำหรับผมเลิกประกันชั้น 1 ตั้งแต่ผ่อนรถเสร็จตามข้อบังคับของไฟแนนซ์แล้ว เพราะอะไรที่เราทำ เราควรรับผิดชอบเอง

ครับ คนที่ประมาทเวลาข้ามทางรถไฟ ก็เพราะคิดว่า ทางรถไฟเงียบๆ โล่งๆ ในต่างจังหวัด ยิ่งเป็นทางลักข้ามแล้ว ดูเหมือน เน้นว่า ดูเหมือนว่าจะเป็นทางรถไฟที่เลิกใช้ ก็เพราะไม่มีเสาเตือน หรือสัญญาณ หรือ เครื่องกั้นใดๆ ก็เลยประมาท วิ่งข้ามโดยไม่หยุดดูก่อน หรือดูไปขับไป ซึ่งกว่าจะเห็นรถไฟ หัวรถตัวเองก็ล้ำเข้ามาบนรางแล้ว ก็ต้องเร่งเครื่องให้ผ่าน ซึ่งผมคิดว่ามีรอดเยอะ ซึ่งไม่ตกเป็นข่าว วันหลังได้ใจก็ทำแบบนี้ใหม่ หลายคนก็ทำกัน จนวันหนึ่งก็มีคนพลาดโดนรถไฟชน ก็เพิ่มความระัมัดระวังขึ้นไปสักหน่อย สักพักไม่มีข่าวอุบัติเหตุรถไฟชนรถยนต์ตรงทางตัดข้าม ก็เริ่มกลับมาประมาทกันอีก..


A clear case of Moral hazard due to the mandate automobile insurance that make those drivers think they can make insurance clearance after the accidents at the level crossings. They are wrong
Back to top
View user's profile Send private message
srinopkun
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 08/04/2010
Posts: 2877
Location: นครปฐม

PostPosted: 02/11/2014 11:09 pm    Post subject: Reply with quote

Quote:
คนที่ประมาทเวลาข้ามทางรถไฟ ก็เพราะคิดว่า ทางรถไฟเงียบๆ โล่งๆ ในต่างจังหวัด ยิ่งเป็นทางลักข้ามแล้ว ดูเหมือน เน้นว่า ดูเหมือนว่าจะเป็นทางรถไฟที่เลิกใช้ ก็เพราะไม่มีเสาเตือน หรือสัญญาณ หรือ เครื่องกั้นใดๆ ก็เลยประมาท วิ่งข้ามโดยไม่หยุดดูก่อน หรือดูไปขับไป ซึ่งกว่าจะเห็นรถไฟ หัวรถตัวเองก็ล้ำเข้ามาบนรางแล้ว ก็ต้องเร่งเครื่องให้ผ่าน ซึ่งผมคิดว่ามีรอดเยอะ ซึ่งไม่ตกเป็นข่าว วันหลังได้ใจก็ทำแบบนี้ใหม่ หลายคนก็ทำกัน จนวันหนึ่งก็มีคนพลาดโดนรถไฟชน ก็เพิ่มความระัมัดระวังขึ้นไปสักหน่อย สักพักไม่มีข่าวอุบัติเหตุรถไฟชนรถยนต์ตรงทางตัดข้าม ก็เริ่มกลับมาประมาทกันอีก..



... มีผู้ใช้รถน้อยมากครับ หากคิดเป็น % ของผู้ใช้รถทั้งหมด ที่จะรู้ในเบื้องต้นนั้นว่า รถไฟน่ะ ระยะเบรคไม่ได้สั้นเหมือนรถยนต์นะ ... ไม่ต้องอะไรหรอก ผมเองยังไม่รู้เลยว่ารถในบ้านแต่ละคันเนี่ย ระยะเบรคที่ความเร็วเท่านี้ ๆ ๆ ประมาณกี่สิบเมตร

... รถแต่ละดันระยะเบรคไม่เท่ากันหรอก แม้จะเป็นรถรุ่นเดียวกัน หากเครื่องยนต์ต่างกัน, ระบบเบรคต่างกัน (เช่นหน้าดิสค์หลังดรัม กับดิสค์เบรคทั้ง 4 ล้อนี่ก็ต่างกันแล้ว จำนวนผู้โดยสารหรือน้ำหนักบรรทุก ก็ทำให้รถมีระยะเบรคที่ต่างกัน)

ขนาดรถของตัวเอง หลายคนยังไม่รู้เลย ว่าระยะเบรค "ประมาณ" เท่าไหร่

แล้วประสาอะไร จะไปคาดเดาระยะเบรครถคนอื่น

อีกทั้งน้ำหนักอันมหาศาลของรถไฟ ทำให้ระยะเบรคยาวกว่ารถยนต์ที่ความเร็วเท่าๆกันแน่นอน



... แล้วก็ไม่รู้ด้วยว่า ยานพาหนะที่วิ่งเข้าหากันทำมุมฉากหรือใกล้เคียงนั้นมีความเร็วประมาณเท่าไหร่ เห็นไกลๆว่าวิ่งมา แป๊บเดียวเข้ามาถึงตัวแล้ว

ดังนั้น เวลาเขาผ่านทางรถไฟ ก็จะคิดว่าผ่านพ้นได้น่า, รถไฟกว่าจะมา ฯลฯ
ซึ่งเป็นความคิดที่อันตรายและประมาทเป็นอย่างยิ่ง
Back to top
View user's profile Send private message
mirage_II
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 05/01/2011
Posts: 2591

PostPosted: 02/11/2014 11:51 pm    Post subject: Reply with quote

ส่วนหนึ่งก็คิดว่า รถไฟน่าจะเบาทางก่อนถึงจุดตัด เหมือนกับรถยนต์ที่ต้องชะลอเมื่อจะผ่านทางแยก เพื่อจะได้เบรคทัน ซึ่งถ้าเป็นเช่นนั้นรถไฟก็ต้องใช้เวลานานในการเดินทางมาก Sad
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44618
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 03/11/2014 8:04 am    Post subject: Reply with quote

ชาวอุตรดิตถ์ จี้ รฟท. เปลี่ยนเครื่องกั้นรถไฟสุดอันตราย
มติชนออนไลน์ วันที่ 01 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557 เวลา 11:07:19 น.

เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน นายธวัชชัย สมจิตรานุกิจ อดีตสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) อุตรดิตถ์ กล่าวว่า เครื่องกั้นทางรถไฟแบบอัตโนมัติ ที่ติดตั้งจุดตัดถนน และทางรถไฟบริเวณหลังโรงเรียนเทศบาลวัดท้ายตลาด เขตเทศบาลเมืองอุตรดิตถ์ แต่ปลายเสากั้นของเครื่องกั้นสั้นมากจนเกินไป เพราะยังมีประชาชน ที่ขับขี่รถจักรยานยนต์ หรือรถยนต์ก็ยังสามารถผ่านไปได้ โดยการซิกแซ็ก และจุดนี้ก็มักเกิดอุบัติเหตุทางรถไฟบ่อยครั้ง เสียทั้งชีวิต และทรัพย์สินมาแล้วหลายครั้ง ดังนั้นทางการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ควรแก้ไขปรับปรุงด่วน เพราะเครื่องกั้นลักษณะแบบนี้เหมือนกันทั่วประเทศ

Click on the image for full size

“เครื่องกั้นทางรถไฟบริเวณดังกล่าว ซึ่งเป็นเครื่องกั้นแบบอัตโนมัติ บางครั้งไม่มีรถไฟผ่านก็ทำงานเอง ชาวบ้านที่ขับขี่รถยนต์ผ่านไปมาก็จอดรถรออยู่นานแต่กลับไม่มีรถไฟผ่าน ทำให้ชาวบ้านต้องฝ่าฝืนเครื่องกั้นไป ซึ่งลักษณะดังกล่าวหากเกิดขึ้นบ่อยครั้งอาจทำให้ประชาชนไม่ระมัดระวัง เพราะหยุดรอแล้วแต่ไม่มีรถไฟผ่าน และหากบังเอิญเครื่องกั้นอัตโนมัติทำงานแล้วชาวบ้านคิดว่าไม่มีรถไฟผ่านมาอาจฝ่าฝืนโดยไม่ระวังก็อาจจะทำให้เกิดอุบัติเหตุขึ้นได้” นายธวัชชัย กล่าว
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Display posts from previous:   
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> อุบัติเหตุเกี่ยวกับรถไฟไทย All times are GMT + 7 Hours
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 25, 26, 27 ... 45, 46, 47  Next
Page 26 of 47

 

Share |

Jump to:  
You cannot post new topics in this forum
You cannot reply to topics in this forum
You cannot edit your posts in this forum
You cannot delete your posts in this forum
You cannot vote in polls in this forum

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group


Forums ©