ข่าวและภาพรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน

[Wisarut]

เผย 7 รายชื่อชิงผู้ว่าการ รฟม. คาดชงบอร์ดเห็นชอบ ม.ค.ปีหน้า


โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์
12 ธันวาคม 2557 19:48 น.

นายพงษ์ภาณุ เศวตรุนทร์ ประธานกรรมการสรรหาผู้ว่าการ การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เปิดเผยว่า ตามที่ รฟม.ประกาศรับสมัครบุคคลเพื่อคัดเลือกเข้าดำรงตำแหน่ง ผู้ว่าการ รฟม. ตั้งแต่วันที่ 21พฤศจิกายน และปิดรับสมัครในวันนี้ (12 ธ.ค.) นั้น ปรากฏว่า มีผู้สนใจยื่นใบสมัครเข้ารับการคัดเลือกเพื่อดำรงตำแหน่ง ผู้ว่าการ รฟม. จำนวน 7 ราย ได้แก่ นายกฤต ธนิศราพงศ์ นายธีรวิทย์ จารุวัฒน์ นายพีระยุทธ สิงห์พัฒนากุล นายต่อศักดิ์ โชติมงคล นายสุระชัย เอี่ยมวชิรสกุล นายอานนท์ ทับเที่ยง และนายรณชิต แย้มสอาด
สำหรับขั้นตอนต่อไปนั้น คณะกรรมการสรรหาจะพิจารณาคุณสมบัติเบื้องต้นของผู้ยื่นใบสมัคร และจะเชิญผู้ที่ผ่านเกณฑ์คุณสมบัติเบื้องต้นมาแสดงวิสัยทัศน์และสัมภาษณ์ โดยคาดว่า จะสามารถจะเสนอชื่อผู้ที่ผ่านการคัดเลือกให้คณะกรรมการ รฟม. เห็นชอบได้ภายในเดือนมกราคมปี 2558

[Wisarut]

รฟม.โอ่สร้างสายสีน้ำเงินคืบ มั่นใจปี62เดินรถได้ทั้งระบบ
ไทยโพสต์
16 ธันวาคม 2557

"ประจิน" ร่วมฉลองความสำเร็จหัวเจาะอุโมงค์รถไฟฟ้าลอดแม่น้ำเจ้าพระยา งานก่อสร้างคืบ 68% เร็วกว่าแผน 2% ยืนยันหาเอกชนบริหารระบบเดินรถไฟฟ้าสีน้ำเงินเดือน ก.พ.58 คาดเปิดเดินรถทั้งระบบ เม.ย.62
พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รมว.คมนาคม เปิดเผยภายหลังเดินทางมาร่วมพิธีฉลองความสำเร็จหัวเจาะอุโมงค์รถไฟฟ้าลอดแม่น้ำเจ้าพระยา โครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ช่วงบางซื่อ-ท่าพระ และหัวลำโพง-บางแค สัญญาที่ 2 ช่วงสถานีสนามไชย-สถานีท่าพระ ว่า การก่อสร้างคืบหน้า 68% เร็วกว่าแผน 2% โดยคาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จภายในปี 2559 หลังจากนั้นจะมีการเปิดทดสอบระบบเดินรถและคาดว่าจะเปิดเดินรถไฟฟ้าได้ไม่เกินเดือนเมษายน 2562
สำหรับการดำเนินการหาผู้รับจ้างเดินรถนั้น ขณะนี้คณะกรรมการตามมาตรา 13 ของพระราชบัญญัติการให้เอกชน เข้าร่วมงานหรือดำเนินงานในกิจการของรัฐ พ.ศ.2535 ที่มีนายรณชิต แย้มสอาด รองผู้ว่าการ รฟม.ฝ่ายบริหาร และรักษการผู้ว่าการ รฟม. เป็นประธานจะสามารถหาผู้ดำเนินการภายในเดือน ก.พ.2558 ซึ่งจะเป็นการเปิดประมูลให้รายอื่นเข้ามาหรือจะเจรจาให้รายเดิมคือ บริษัท รถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด หรือบีเอ็มซีแอล ดำเนินการนั้น จะต้องคำนึงถึงความสะดวกของประชาชนผู้ใช้บริการ
สำหรับการก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน มีจำนวนทั้งสิ้น 6 สัญญา โดยขณะนี้การก่อสร้างทั้งโครงการมีความคืบหน้า 57.33% โดยสัญญาที่ 1 งานอุโมงค์ใต้ดินช่วงหัวลำโพง-สนามไชย ก่อสร้างได้ 64.7% สัญญาที่ 2 งานอุโมงค์ใต้ดิน ช่วงสนามไชย-ท่าพระ ก่อสร้างได้ 68.09% สัญญาที่ 3 งานทางวิ่งยกระดับช่วงเตาปูน-ท่าพระ ก่อสร้างได้ 44.21% สัญญาที่ 4 งานทางวิ่งยกระดับ ช่วงท่าพระ-หลักสอง ก่อสร้างได้ 49.08% สัญญาที่ 5 งานวางรางทั้งโครงการ ก่อสร้างได้ 69.35%.

//---------------------
อุโมงค์รถไฟฟ้าลอดเจ้าพระยาแห่งแรกสำเร็จ รฟม.เปิดเดินรถสีน้ำเงินตลอดสายปี 62
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์
15 ธันวาคม 2557 15:45 น.

รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินอืด "บิ๊กจิน" สั่งหาผู้เดินรถ เข็นเปิดทดลองวิ่งปลายปี′60
ประชาชาติธุรกิจออนไลน์
16 ธันวาคม พ.ศ. 2557 เวลา 09:45:23 น.


พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ความสำเร็จหัวเจาะอุโมงค์รถไฟฟ้าลอดแม่น้ำเจ้าพระยา โครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน สัญญา 2 ช่วงสถานีสนามไชย-สถานีท่าพระ โดยการขุดเจาะอุโมงค์รถไฟฟ้ามีความลึกไปจากระดับผิวแม่น้ำเจ้าพระยาประมาณ 34 เมตร ใช้เวลาเจาะประมาณ 2 เดือน โดยเริ่มมาตั้งแต่เดือนตุลาคม 2557 ที่ผ่านมา

สำหรับการเจาะอุโมงค์ลอดแม่น้ำเจ้าพระยาฝั่งตะวันออกเชื่อมฝั่งตะวันตกของกรุงเทพมหานคร ระยะทาง 2.3 กิโลเมตร เป็นช่วงลอดแม่น้ำ 1.2 กิโลเมตร คาดว่าเส้นทางดังกล่าว จะแล้วเสร็จภายในเดือนมีนาคม 2558 เพื่อสามารถทำการเชื่อมต่อกับเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินฝั่งตะวันออกเพื่อดำเนินการเดินรถต่อไป ซึ่งการดำเนินการเป็นไปตามแผนที่กำหนด

โดยคาดว่าทั้งโครงการงานก่อสร้างจะแล้วเสร็จประมาณปลายปี 2559 และจะสามารถเปิดบริการเชิงพาณิชย์ โดยเปิดให้ประชาชนทดลองใช้บริการในช่วงปลายปี 2560 ถึงต้นปี 2561 เป็นระยะเวลา 6 เดือน โดยไม่เสียค่าบริการ ทั้งนี้ การเปิดเดินรถทั้งระบบตลอดสายในเดือนเมษายน 2562

เนื่องจากยังติดปัญหาการจัดหาเอกชนมาเดินรถไฟฟ้า ซึ่งขณะนี้มอบหมายให้ นายรณชิต แย้มสะอาด รองผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ในฐานะรักษาการผู้ว่าการ รฟม.ได้ดำเนินการตามขั้นตอนที่กำหนดตามหลักการให้มีการเดินรถต่อเนื่อง ทั้งนี้ต้องไม่เป็นภาระแก่ประชาชน โดยประชาชนจะต้องได้ประโยชน์ในการใช้บริการ

อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมา รฟม.ได้มีการตั้งคณะกรรมการตามมาตรา 13 ต้องพิจารณารายละเอียดแล้ว คาดภายในเดือนกุมภาพันธ์ 2558 จะได้ข้อสรุปบริษัทเดินรถ โดยเป็นลักษณะเปิดกว้างไม่ได้กำหนดว่าจะต้องเป็นบริษัทที่ให้บริการรายเดิม อีกทั้ง การพิจารณาจะต้องพิจารณาการต่อเชื่อมแบบต่อเนื่องเป็นหลัก

ทั้งนี้ รฟม.รายงานสรุปความคืบหน้าโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยายช่วงบางซื่อ-ท่าพระ และหัวลำโพง-บางแค ณ วันที่ 1 ธันวาคม 2557 ในภาพรวมคืบหน้า 57.33%

สัญญา 1 งานอุโมงค์ใต้ดิน ช่วงหัวลำโพง-สนามชัย ​ก่อสร้างได้ 64.70% แล้วเสร็จวันที่ ​2 มีนาคม 2560

สัญญา 2 งานอุโมงค์ใต้ดิน ช่วงสนามชัย-ท่าพระ ก่อสร้างได้ 68.09% แล้วเสร็จวันที่ 3 กันยายน2559

สัญญา 3 งานทางวิ่งยกระดับ ช่วง เตาปูน-ท่าพระ ​ก่อสร้างได้ 44.21% แล้วเสร็จ วันที่ ​11 กันยายน 2562

สัญญา 4 งานทางวิ่งยกระดับ ช่วง ท่าพระ-หลักสอง ​ก่อสร้างได้ 49.08% แล้วเสร็จวันที่ 18 กันยายน 2560

สัญญา 5 งานวางราง ทั้งโครงการ ​ก่อสร้างได้ 69.35% แล้วเสร็จวันที่ ​31 ธันวาคม 2561

ส่วนกำหนดเวลาการเปิดเดินรถ ทาง รฟม.กำหนดเวลาการเปิดเดินรถตลอดสายในวันที่ 1 เมษายน 2562 โดยการดำเนินการสัญญา 6 (ระบบเดินรถ) จะต้องใช้ระยะเวลาดำเนินการ 1,200 วัน (40 เดือน) ดังนั้นจำเป็นต้องเซ็นสัญญาภายในวันที่ 1 ธันวาคม 2558 และแล้วเสร็จภายในวันที่ 12 มีนาคม 2562

โดย รฟม. วางแผนเปิดเดินรถ เป็น 2 ระยะ ดังนี้

ระยะที่ 1 เปิดเดินรถสายใต้ (Southern Line) ช่วง หัวลำโพง-หลักสอง ภายในวันที่ 1 กันยายน 2561 (งานระบบรางช่วงนี้แล้วเสร็จ 31 พ.ค. 2560)

ระยะที่ 2 เปิดเดินรถสายเหนือ (Northern Line) ช่วง เตาปูน-ท่าพระ ภายในวันที่ 1 เมษายน 2562 คือทั้งโครงการเปิดให้บริการตลอดสาย ทุกสถานีเปิดให้ประชาชนเข้าใช้บริการรถไฟฟ้าได้ ยกเว้นสถานีแยกไฟฉาย (BN17) ซึ่งตามแผนปัจจุบัน ผู้รับจ้างกำหนดส่งมอบให้ในเดือนกันยายน 2562

[Wisarut]

เร่งส่งที่เทคโนฯพระราม6 รฟม.นัดถกเจ้าของที่-สายสีน้ำเงินสะดุดเข้าพื้นที่ไม่ได้นับปี
โดย ทีมข่าว กทม.
ไทยรัฐ
16 ธ.ค. 2557 05:30


นายพีระยุทธ สิงห์พัฒนากุล รองผู้ว่าการ (วิศวกรรมและก่อสร้าง) การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เปิดเผยถึงความคืบหน้า โครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ช่วงหัวลำโพง-บางแค และบางซื่อ-ท่าพระ ว่าการก่อสร้างด้านโยธา แบ่งเป็น 4 สัญญา โดย
สัญญาที่ 1 จากหัวลำโพง- สนามไชย
สัญญาที่ 2 จากสนามไชย-ท่าพระ ซึ่งเป็นงาน ก่อสร้างอุโมงค์ใต้ดิน ขณะนี้การก่อสร้างเดินหน้า ตามแผนงาน ไม่มีปัญหาแต่อย่างใด จะแล้วเสร็จ ปลายปี 2559 ถึงต้นปี 2560

ส่วนสัญญาที่ 3 จากเตาปูน-ท่าพระ และ
สัญญาที่ 4 จากท่าพระ-หลักสอง เป็นงานก่อสร้างทางยกระดับ

มีปัญหา เรื่องพื้นที่ก่อสร้างทับซ้อนกับโครงการของกรุงเทพมหานคร หลักๆ 3 จุด ได้แก่ แยกบางพลัด แยกไฟฉาย และแยกท่าพระ อีกทั้งตลอดแนวก่อสร้างบนถนนจรัญสนิทวงศ์ และถนนเพชรเกษม มีปัญหาจราจรหนาแน่น จึงส่งผลให้งานก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ด้านเหนือ แหว่งเป็นฟันหลอ และล่าช้าออกไปอีก 1 ปี โดยกำหนดแล้วเสร็จปลายปี 2560 ถึงปี 2561

นายพีระยุทธกล่าวว่า นอกจากนี้ในส่วน ของสัญญาที่ 3 จากเตาปูน-ท่าพระ ซึ่งแนวเส้นทางเริ่ม จากสถานีเตาปูน ผ่านถนนประชาราษฎร์สาย 2 ถึงบางโพ จะเป็นสะพานข้าม แม่น้ำเจ้าพระยา ความยาว 300 เมตร ขณะนี้ตัว สะพานเสร็จแล้วโดยข้ามไปลงฝั่งบางอ้อ จากนั้น แนวเส้นทางตัดผ่านเทคโนโลยีพระราม 6 ก่อน ก่อสร้างไปตามแนวเกาะกลางถนนจรัญสนิทวงศ์ จนถึงท่าพระ ซึ่งจุดที่ตัดผ่านเทคโนโลยีพระราม 6 รฟม. จนถึงขณะนี้ รฟม.ยังไม่สามารถส่งมอบพื้นที่ให้กับผู้รับเหมาได้ ทั้งๆที่ได้ทำข้อตกลง หรือเอ็มโอยูกับเจ้าของที่ดินเรื่องการ รื้อถอนอาคาร ประมาณ 1 ปีแล้ว แต่เนื่องจากเจ้าของที่ดินแปลงดังกล่าวมีปัญหาฟ้องร้องกับ ผู้รับเหมาของตนเอง ที่ว่าจ้างมาดำเนินการรื้อถอน อาคารเรียน ที่ผ่านมา รฟม.ได้ส่งเจ้าหน้าที่ไป ติดตามเป็นระยะ แต่ไม่คืบหน้าเท่าที่ควร เร็วๆนี้ จะเข้าไปเจรจากับเจ้าของที่ดินอีกครั้ง เนื่องจากมีความจำเป็นต้องเข้าพื้นที่หลังล่าช้ามานาน.

[Wisarut]

ยืดรถไฟฟ้าไปสาย4แบบเสร็จมิ.ย.58
เดลินิวส์
วันอังคาร 16 ธันวาคม 2557 เวลา 19:02 น.

รฟม.ได้ตัวเอกชนออกแบบรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายสายสีน้ำ เงินช่วงท่าพระ-พุทธฆลฑลสาย 4 คาดใช้เวลา 6 เดือนในการศึกษา


นายรณชิต แย้มสอาด รักษาการผู้ว่าการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย(รฟม.)เปิดเผยว่าขณะนี้ได้บริษัทเอกชนที่จะเข้ามาดำเนินการออกแบบรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยายช่วงบางแค-พุทธฆลฑลสาย4 ระยะทาง8กิโลเมตรแล้ว โดยเตรียมลงนามสัญญาจ้างบริษัท อินเด็กซ์ อินเตอร์เนชั่นแนลกรุ๊ป จำกัด งบประมาณ 44ล้านบาท ซึ่งเป็นโครงข่ายรถไฟฟ้าตามแผนแม่บทขยายจากบางแค-พุทธฆลฑลสาย4จะเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินช่วงหัวลำโพง-บางแค-บางซื่อ-ท่าพระคาดว่าจะใช้เวลาในการศึกษารายละเอียดและออกแบบประมาณ6-8เดือนหรือประมาณเดือนส.ค.-ต.ค.2558 ซึ่งหากดำเนินการเสร็จจะมีการเสนอต่อคณะกรรมการบริหารกิจการ(บอร์ด)รฟม.เพื่อเสนอเข้ากระทรวงคมนาคมและเสนอต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อเห็นชอบให้ดำเนินการก่อสร้างต่อไปอย่างไรก็ตามรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายเส้นทางนี้หากมีการอนุมัติเห็นชอบแล้วจะสามารถดำเนินการก่อสร้างได้ทันทีโดยไม่ต้องรอให้ส่วนต่อขยายหัวลำโพง-บางแค-บางซื่อ-ท่าพระเสร็จก่อนโดยหากผ่านการเห็นชอบจะมีการลงพื้นที่ทันที.

นายรณชิต กล่าวต่อว่าสำหรับรถไฟฟ้าส่วนต่อขายบางแค-พุทธมณฑลสาย4 นั้นมีแนวสายทางไปตามแนวเกาะกลางถนนเพชรเกษมเริ่มต้นที่สถานีหลักสองมุ่งหน้าไปทางทิศตะวันตกและไปสิ้นสุดที่บริเวณจุดตัดถนนพุทธมณฑลสาย4รูปแบบโครงสร้างเป็นแบบยกระดับตลอดแนวเส้นทางซึ่งการก่อสร้างโดยส่วนใหญ่ไม่ติดพื้นที่เวนคืนเนื่องจากมีการก่อสร้างไปตามแนวถนนและขอบทางเท้าช่วงที่จะเป็นตัวสถานีก็มีความกว้างเพียงพอรวมทั้งแนวสายทางที่จะก่อสร้างนั้นเป็นเขตชานเมืองจึงไม่มีจุดที่ประชาชนอาศัยอยู่หนาแน่น.

[Wisarut]

ประธานสรรหาฯยังไม่ฟันธงตัด รณชิต ออกจากสนามชิงผู้ว่าฯรฟม.หรือไม่
เดลินิวส์
วันศุกร์ 19 ธันวาคม 2557 เวลา 19:07 น.

บอร์ดฯลอยตัว ปัญหาสเปคสรรหาผู้ว่าฯรฟม.ใหม่ ด้านประธานสรรหาขอดูข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องก่อนหลัง "รณชิต" รักษาการผู้ว่าฯลงสมัครขัดสเปค

เมื่อวันที่ 19ธ.ค.พล.อ.ยอดยุทธบุญญาธิการประธานคณะกรรมการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย(รฟม.)เปิดเผยถึงการดำเนินการสรรหาบุคคลเพื่อดำรงตำแหน่งผู้ว่าการรฟม.ว่าปัจจุบัน รฟม.ไม่มีผู้ว่าการปฏิบัติหน้าที่มาตั้งแต่เดือนต.ค.57ซึ่งทำให้เกิดผลกระทบต่อการบริหารงานต่างๆของรฟม.ในหลายส่วนดังนั้นบอร์ดจึงเสนอแนะให้คณะกรรมการสรรหาผู้ว่าการรฟม.ต้องเร่งทำการสรรหาผู้ว่าฯโดยเร็วที่สุดโดยหลังจากการเปิดรับสมัครบุคคลเพื่อเข้ารับการสรรหาพบว่ามีผู้มีความรู้ความสามารถสมัครเข้ารับสรรหาจำนวนทั้งสิ้น7คนโดยเป็นบุคคลภายนอกองค์กรจำนวน5คนและเป็นบุคคลภายในองค์กรจำนวน2คนโดยขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบคุณสมบัติของผู้สมัคร

พล.อ.ยอดยุทธกล่าวต่อว่าทั้งนี้ทางคณะกรรมการสรรหาได้กำหนดคุณสมบัติที่ผู้สมัครจะต้องไม่ดำรงตำแหน่งเป็นรักษาการผู้ว่าการรฟม.ในวันยื่นใบสมัครเพื่อไม่ให้ผู้สมัครรายอื่นเกิดการเสียเปรียบนั้นเนื่องจากในอดีตที่ผ่านมาได้เกิดกรณีผู้ดำรงตำแหน่งรักษาการรฟม.ใช้อำนาจหน้าที่ทำให้ผู้สมัครรายอื่นเกิดความเสียเปรียบขึ้นอย่างไรก็ตามในกรณีที่นายรณชิตแย้มสอาดรักษาการผู้ว่ารฟม.ได้ยื่นสมัครเข้ารับการสรรหาตำแหน่งผู้ว่าการรฟม.โดยมิได้ลาออกจากตำแหน่งรักษาการตามข้อกำหนดคุณสมบัติของคณะกรรมการสรรหานั้นก็ต้องเป็นไปตามมติของคณะกรรมการสรรหาซึ่งจะต้องมีการพิจารณาคุณสมบัติของผู้สมัครเข้ารับการสรรหาตามกฎเกณฑ์ที่ได้กำหนดเอาไว้

รายงานข่าวจากการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทยเปิดเผยว่าตามที่นายรณชิตแย้มสอาด รักษาการผู้ว่าการรฟม.ลงสมัครเข้ารับการสรรหาในตำแหน่งผู้ว่าการรฟม.โดยไม่ได้ลาออกจากตำแหน่งรักษาการผู้ว่าการรฟม.ตามที่คณะกรรมการสรรหากำหนดหลักเกณฑ์ คุณสมบัติขึ้นนั้นเพราะว่าตามกฎหมาย พ.ร.บ.รฟม.มาตรา27 ได้กำหนดไว้ว่าในกรณีที่ผู้ว่าการไม่อาจปฏิบัติหน้าที่ได้หรือตำแหน่งผู้ว่าการว่างลงให้รองผู้ว่าการอาวุโสสูงสุดตามลำดับเป็นผู้รักษาการซึ่งกฎหมายดังกล่าวไม่ได้กำหนดให้ผู้ที่ดำรงตำแหน่งรักษาการสามารถลาออกจากตำแหน่งรักษาการฯได้ดังนั้นจึงถือว่านายรณชิตได้ปฏิบัติตามกฎหมายอย่างถูกต้องและหากนายรณชิตลาออกจากตำแหน่งรักษาการจะถือว่ามีความผิดตามกฎหมายมาตรา157ฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบอีกทั้งในระหว่างที่ไม่มีผู้ดำรงตำแหน่งรักษาดารผู้ว่าการรฟม.นั้นหาเกิดความเสียหายใดๆต่อกิจการของรฟม.ขึ้นนายรณชิตก็จะต้องเป็นผู้รับผิดชอบในฐานะที่ปล่อยปละละเลยการดำเนินงานดังนั้นการที่คณะกรรมการสรรหาผู้ว่าการรฟม.กำหนดคุณสมบัติในลักษณะดังกล่าว จึงอาจขัดกับพ.ร.บ.รฟม.และอาจเป็นการปิดกั้นโอกาสเพื่อไม่ให้นายรณชิตมีโอกาสได้เข้ารับการสรรหาได้ซึ่งคงต้องรอการพิจารณาของคณะกรรมการสรรหาว่าจะตัดสิทธิของสมัครเข้ารับการสรรหาของนายรณชอตหรือไม่ซี่งหากนายรณชิตถูกตัดสิทธิก็สามารถดำเนินการฟ้องร้องตามกฎหมายได้ต่อไป

ด้าน นายพงษ์ภาณุเศวตรุนทร์ รองปลัดกระทรวงการคลังและกรรมการ การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทยในฐานะประธานคณะกรรมการสรรหาผู้ว่าการรฟม. กล่าวเพียงสั้นๆว่ายังไม่สามารถตอบได้ว่าจะตัดนายรณชิตออกจากการสรรหาหรือไม่ขอไปดูข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องก่อนทั้งนี้จะมีการประชุมของคณะกรรมการสรรหาผู้ว่าฯรฟม.ในวันที่ 22ธ.ค.นี้.

[Wisarut]

ปิดจราจรแยกท่าพระทดสอบเข็มเจาะโครงการรถไฟฟ้า 08.30-15.30 น.


โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์
20 ธันวาคม 2557 10:47 น.

กองบังคับการตำรวจจราจร(บก.จร.)ประกาศแจ้งข่าว ปิดการจราจรวันนี้ (20 ธ.ค.) เวลา 08.30-15.30น. ปิดการจราจร ถนนเพชรเกษม บริเวณแยกท่าพระ จนถึงจรัญสนิทวงศ์ ซอย 1/1 ทดสอบความแข็งแรงของเข็มเจาะ โครงการก่อสร้างรถไฟฟ้า สายสีน้ำเงิน ส่วนต่อขยาย ท่าพระ-หลักสอง

[Wisarut]

หึ่ง..เตรียมร้องกก.สรรหาผู้ว่าการ รฟม.-หลังไม่ตัดสิทธิ”รักษาการ ผู้ว่าการ”จากการคัดเลือก
มติชน
วันที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2557 เวลา 16:36:34 น.


ผู้สมัครผู้ว่ารฟม.เตรียมฟ้อง “รมว.คมนาคม” หลังคณะกรรมการสรรหาฯ ไม่ตัดสิทธิ “รณชิต แย้มสอาด” ที่ผิดระเบียบ โดยเข้าสมัครทั้งที่ยังไม่ลาออกจากรักษาการ ผู้ว่าการ รฟม.

เมื่อวันที่ 25 ธันวาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายพงษ์ภาณุ เศวตรุนทร์ รองปลัดกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานกรรมการสรรหาผู้ว่าการ การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย(รฟม.) ได้ประกาศรายชื่อผู้เข้ารับการสัมภาษณ์และแสดงวิสัยทัศน์ สำหรับการคัดเลือกให้เป็น ผู้ว่าการ รฟม. ในวันที่ 5 มกราคม 2558 จำนวน 7 คน ได้แก่ นายกฤต ธนิศราพงศ์ นายธีรวิทย์ จารุวัฒน์ นายพีระยุทธ สิงห์พัฒนากุล นายต่อศักดิ์ โชติมงคล นายสุระชัย เอี่ยมวชิรสกุล นายอานนท์ ทับเที่ยงและนายรณชิต แย้มสอาด

ข่าวแจ้งว่า จากการตรวจสอบคุณสมบัติ พบว่านายรณชิต ยังคงเป็นรักษาการ ผู้ว่าการ รฟม.ในวันที่รับสมัคร โดยยังไม่มีการลาออกจากตำแหน่งแต่อย่างใด ซึ่งอาจจะขัดกับประกาศของคณะกรรมการสรรหาผู้ว่าการ รฟม. เมื่อวันที่ 20 พ.ย. 2557 ในคุณสมบัติข้อ 3.1.12 ที่ระบุว่าผู้ที่จะสมัครจะต้องไม่เป็นรักษาการผู้ว่าการ รฟม.ในวันยื่นใบสมัคร

“ขณะนี้ มีผู้สมัครบางราย ได้มีการหารือร่วมกัน และเตรียมที่จะยื่นเรื่องดังกล่าวไปยังพล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เพื่อให้พิจารณาการดำเนินการของคณะกรรมการสรรหาผู้ว่า รฟม. ที่ไม่ได้มีการตัดสิทธินายรณชิตออกไป เนื่องจากผิดระเบียบอย่างชัดเจน ซึ่งจะส่งผลต่อการพิจารณาคัดเลือกโดยตรง โดยจะรอดูในวันที่ 5 มกราคม 2558 นี้”

[Wisarut]

ความคืบหน้างานระบบราง (สัญญา5) ประจำเดือน ธันวาคม 2557
https://www.facebook.com/media/set/?set=a.841630052524871.1073741871.802468283107715&type=1

[Wisarut]

ชิงสรรหาผู้ว่าฯ รฟม.เดือด “รณชิต” ฟ้อง กก.สรรหาเลือกปฏิบัติ


โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์
29 ธันวาคม 2557 18:08 น.



สรรหาฯ ผู้ว่าฯ รฟม.คนใหม่เดือด “รณชิต” ยื่นศาลปกครองกลางและศาลอาญาฟ้องกรรมการสรรหาฯ 4 คน มาตรา 157 เหตุเลือกปฏิบัติ ผิดขั้นตอนประกาศสรรหาฯ ลุ้นคำสั่งศาลคุ้มครองฉุกเฉินหรือไม่ ด้าน “ยอดยุทธ-พงษ์ภาณุ” แท็กทีมเปิดแถลงข่าวโต้ ขั้นตอนสรรหาถูกต้องไม่กีดกันใคร ยันเดินหน้าสัมภาษณ์ 7 ผู้สมัคร เร่งสรุปใน 5 ม.ค. 58




รายงานข่าวแจ้งว่า ในวันนี้ (29 ธันวาคม) นายรณชิต แย้มสอาด รองผู้ว่าการฝ่ายบริหาร ในฐานะรักษาการ ผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ได้ยื่นฟ้องคณะกรรมการสรรหาผู้ว่าการ รฟม. จำนวนทั้งสิ้น 4 คน ได้แก่ นายพงษ์ภาณุ เศวตรุนทร์ รองปลัดกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานคณะกรรมการสรรหา ส่วนกรรมการอีก 3 คน ได้แก่ นายเพิ่มศักดิ์ สัจจะเวทะ, นายสุนทร ทรัพย์ตันติกุล และ พล.ต.พิเชษฐ์ คงศรี โดนฟ้องทั้งศาลอาญาและศาลปกครองกลางกรณีละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ตามมาตรา 157 โดยระบุความผิดใน 2 ประเด็น คือ กรรมการสรรหาฯ ดำเนินการสรรหาโดยกีดกันและเลือกปฏิบัติที่กำหนดคุณสมบัติผู้สมัครข้อ 3.1.12 ว่าต้องไม่เป็นผู้รักษาการฯ ผู้ว่าการ รฟม.ในวันยื่นใบสมัคร 2. กระบวนการสรรหาฯ ดำเนินการผิดขั้นตอน ซึ่งตามประกาศคณะกรรมการสรรหาฯ จะเชิญผู้มีคุณสมบัติครบถ้วนตามประกาศแสดงวิสัยทัศน์ กรรมการสรรหาได้รวบรัดให้ผู้สมัครทั้ง 7 คนแสดงวิสัยทัศน์ทั้งหมดโดยไม่ประกาศผู้ผ่านคุณสมบัติก่อน ทั้งนี้ ได้ขอคุ้มครองฉุกเฉินต่อศาลปกครองกลางให้ระงับกระบวนการสรรหาผู้ว่าการ รฟม. ซึ่งขณะนี้อยู่ในขั้นตอนที่จะเชิญผู้ผ่านคุณสมบัติมาแสดงวิสัยทัศน์ต่อคณะกรรมการสรรหาในวันที่ 5 มกราคม 2558

ซึ่งในช่วงบ่ายวันเดียวกัน พล.อ.ยอดยุทธ บุญญาธิการ ประธานคณะกรรมการ (บอร์ด) รฟม. พร้อมด้วยนายพงษ์ภาณุ เศวตรุนทร์ รองปลัดกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานคณะกรรมการสรรหาฯ ผู้ว่าการ รฟม.ได้แถลงข่าวด่วนชี้แจงกรณีดังกล่าว โดย พล.อ.ยอดยุทธกล่าวว่า การสรรหาฯ ผู้ว่าการ รฟม.เป็นไปตามกระบวนการ ถ้ามีข้อโต้แย้งใดก็ต้องชี้แจงซึ่งศาลยังไม่มีคำสั่งใดๆ จึงจะยังไม่ต้องหยุดกระบวนการสรรหา เพราะมั่นใจว่าเดินตามกฎระเบียบ กฎหมายเป็นหลัก เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อส่วนรวมและองค์กร การดำเนินงานเป็นไปอย่างถูกต้องและมีเหตุผล ไม่มีอคติกับผู้ใด

ซึ่งปัญหาของ รฟม.คือ มี พ.ร.บ.การรถไฟฟ้าฯ ซึ่งแตกต่างจากหน่วยงานอื่น โดยเฉพาะกรณีที่ตำแหน่งผู้ว่าฯ รฟม.ว่างจะต้องตั้งรองผู้ว่าฯ ที่อาวุโสสูงสุด ซึ่งมีสิทธิ์สมัครสรรหาผู้ว่าฯ ได้ด้วย ทำให้เกิดความได้เปรียบเสียเปรียบ ในขณะที่หน่วยงานอื่นสามารถแต่งตั้งรองผู้ว่าฯ หรือบอร์ดทำหน้าที่รักษาการผู้ว่าฯ ได้ ทำให้ขณะนี้บอร์ดจึงได้ตั้งคณะทำงานในการแก้ พ.ร.บ.การรถไฟฟ้าฯ ในประเด็นดังกล่าว และรวมถึงประเด็นการพัฒนาเทคโนโลยี พัฒนาอุตสาหกรรมรถไฟฟ้า การบริหารจัดการ และการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ เป็นต้น ซึ่งจะเร่งสรุปเสนอกระทรวงคมนาคมเพื่อแก้กฎหมายตามขั้นตอนต่อไป

นายพงษ์ภาณุ เศวตรุนทร์ รองปลัดกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานคณะกรรมการสรรหาผู้ว่าฯ รฟม. กล่าวว่า เมื่อวันที่ 22 ธันวาคม 2557 กก.สรรหาฯ ได้มีการพิจารณารายชื่อผู้ที่ผ่านคุณสมบัติผู้สมัคร 7 ราย แต่เนื่องจากที่ได้ทำหนังสือสอบถามไปยังหน่วยงานต่างๆ เพื่อยืนยันคุณสมบัติแต่ละราย รวม 9 หน่วยงานนั้น ล่าสุดยังตอบยืนยันกลับมาเพียง 6-7 หน่วยทำให้การตรวจสอบคุณสมบัติผู้สมัครทั้ง 7 รายยังไม่ครบ ดังนั้น กรรมการสรรหาฯ จึงยังไม่สามารถประกาศชื่อผู้ผ่านคุณสมบัติได้ และยังไม่มีการตัดสิทธิ์ผู้สมัครทั้ง 7 ราย ในขณะที่ได้กำหนดไว้ให้แสดงวิสัยทัศน์ในวันที่ 5 มกราคม 2558 ไว้แล้ว จึงเห็นว่าไม่จำเป็นต้องรอผลตรวจสอบคุณสมบัติให้แล้วเสร็จก่อน และไม่ถือว่าผิดขั้นตอนแต่อย่างใดเนื่องจากต้องการสรุปผลการสรรหาฯ ให้เร็วที่สุด โดยหลังสัมภาษณ์แล้วเสร็จเย็นวันที่ 5 มกราคม 2558 จะทราบว่าผู้สมัครรายใดได้รับคะแนนสูงสุด และจะเจรจารายละเอียดสัญญาจ้างและค่าตอบแทน รวมถึงเสนอกระทรวงการคลังเห็นชอบ และเสนอกระทรวงคมนาคมเพื่อเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) แต่งตั้งผู้ว่าฯ รฟม.คนใหม่ให้แล้วเสร็จภายในเดือนมกราคม 2558

ส่วนกรณีที่มีการกล่าวหาคณะกรรมการสรรหาฯ มีการเลือกปฏิบัติหรือกีดกันผู้สมัครบางท่านนั้น ยืนยันว่าประกาศ รฟม.รับสมัครผู้ว่าฯ รฟม.นั้นในเรื่องคุณสมบัติทั่วไปไม่ได้มีข้อกีดกันใดๆ ทั้งสิ้น และไม่ได้มีวัตถุประสงค์ที่จะตัดสิทธิ์ใครไม่ว่าจะเป็นคนในหรือคนนอก ส่วนกรณีเป็นรักษาการผู้ว่าฯ ซึ่งได้กำหนดไว้ในข้อ 3.1.12 นั้น ที่ระบุว่าต้องไม่เป็นรักษาการผู้ว่าฯ ในวันยื่นใบสมัครนั้นไม่ได้กีดกันใครทั้งสิ้น เพราะรักษาการผู้ว่าฯ สามารถลาออกจากรักษาการฯ และมาลงสมัครสรรหาฯ ได้โดยไม่ผิดกฎหมายของ รฟม.แต่อย่างใด ซึ่ง พ.ร.บ.รฟม.ในมาตรา 27 ระบุว่าให้รองผู้ว่าฯ รฟม.อาวุโสสูงสุดตามลำดับเป็นผู้รักษาการผู้ว่าฯ รฟม. ถ้าไม่มีหรือปฏิบัติหน้าที่ไม่ได้ ให้แต่งตั้งกรรมการคนใดคนหนึ่งรักษาการผู้ว่าฯ รฟม.แทนได้

ทั้งนี้ หากมองว่าการสรรหาฯ ผู้ว่าฯ รฟม.ครั้งนี้กำหนดคุณสมบัติกีดกัน ดังนั้น กรณีที่รัฐวิสาหกิจอื่นมีข้อห้ามนักการเมือง, กรรมการบอร์ด ลงสมัครก็ถือว่าทุกรัฐวิสาหกิจกีดกันเช่นกัน อย่างไรก็ตาม หากศาลมีคำสั่งกรรมการสรรหาพร้อมชี้แจง แต่ขณะนี้ยืนยันต้องเดินหน้าการสรรหาตามขั้นตอน โดยวันที่ 5 มกราคม 2558 จะทราบผู้ได้รับการสรรหาฯ

“การกำหนดคุณสมบัติดังกล่าวเป็นผลดี เพราะจะเป็นการเปิดกว้างในการสรรหาได้อย่างเป็นธรรม โปร่งใส และไม่มีการเอื้อประโยชน์หรือก่อให้เกิดการได้เปรียบเสียเปรียบแต่อย่างใด ซึ่งกรรมการสรรหาฯ ได้พิจารณาอย่างละเอียดและคำนึงถึงเหตุในอดีตที่เคยมีรักษาการผู้ว่าฯ รฟม.ใช้อำนาจหน้าที่ให้คุณให้โทษกับผู้สมัครรายอื่นที่เป็นคู่แข่ง โดยการสรรหาผู้ว่าฯ รฟม.เมื่อประมาณ 4 ปีก่อน เมื่อรักษาการผู้ว่าฯ ไม่ได้รับการสรรหาจึงมีการตั้งกรรมการสอบวินัยร้ายแรงรองผู้ว่าฯ ที่ได้รับคัดเลือกทำให้ต้องล้มการสรรหาครั้งนั้นไป”


//----------------

สรรหาผู้ว่าฯรฟม.เดือด "ยอดยุทธ"ยันโปร่งใส

โดย ASTVผู้จัดการรายวัน
29 ธันวาคม 2557 23:02 น.

ASTVผู้จัดการรายวัน-สรรหาฯผู้ว่าฯรฟม.คนใหม่เดือด “รณชิต”ยื่นศาลปกครองกลางและศาลอาญา ฟ้องกรรมการสรรหาฯ 4 คน มาตรา 157 เหตุเลือกปฏิบัติ ผิดขั้นตอนประกาศสรรหาฯ ด้าน”ยอดยุทธ-พงษ์ภาณุ”แท็กทีมเปิดแถลงข่าวโต้ ขั้นตอนสรรหาถูกต้องไม่กีดกันใคร ยันเดินหน้าสัมภาษณ์ 7 ผู้สมัคร เร่งสรุปใน 5 ม.ค. 58 ลุ้นคำสั่งศาลคุ้มครองฉุกเฉินหรือไม่

รายงานข่าวแจ้งว่า ในวานนี้ (29 ธันวาคม) นายรณชิต แย้มสอาด รองผู้ว่าการฝ่ายบริหาร ในฐานะรักษาการ ผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ได้ยื่นฟ้องคณะกรรมการสรรหาผู้ว่าการ รฟม. จำนวนทั้งสิ้น 4 คน ได้แก่ นายพงษ์ภาณุ เศวตรุนทร์ รองปลัดกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานคณะกรรมการสรรหา ส่วนกรรมการอีก 3 คน ได้แก่ นายเพิ่มศักดิ์ สัจจะเวทะ,นายสุนทรทรัพย์ตันติกุล และพล.ต.พิเชษฐ์ คงศรี โดยฟ้องทั้งศาลอาญาและศาลปกครองกลางกรณีละเว้นการปฎิบัติหน้าที่ ตามมาตรา 157 โดยระบุความผิดใน 2 ประเด็น คือ กรรมการสรรหาฯ ดำเนินการสรรหาโดยกีดกันและเลือกปฎิบัติที่กำหนดคุณสมบัติผู้สมัครข้อ 3.1.12 ว่าต้องไม่เป็นผู้รักษาการฯผู้ว่า รฟม.ในวันยื่นใบสมัคร 2. กระบวนการสรรหาฯ ดำเนินการผิดขั้นตอน ซึ่งตามประกาศคณะกรรมการสรรหาฯจะเชิญผู้มีคุณสมบัติครบถ้วนตามประกาศ แสดงวิสัยทัศน์ กรรมการสรรหาได้รวบรัดให้ผู้สมัครทั้ง 7 คน แสดงวิสัยทัศน์ทั้งหมดโดยไม่ประกาศผู้ผ่านคุณสมบัติก่อน ทั้งนี้ ได้ขอคุ้มครองฉุกเฉินต่อศาลปกครองกลางให้ระงับกระบวนการสรรหาผู้ว่าการ รฟม.ซึ่งขณะนี้อยู่ในขั้นตอนที่จะเชิญผู้ผ่านคุณสมบัติมาแสดงวิสัยทัศน์ต่อคณะกรรมการสรรหาในวันที่ 5 มกราคม 2558 นี้

ซึ่งในช่วงบ่ายวันเดียวกัน พล.อ.ยอดยุทธ บุญญาธิการ ประธานคณะกรรมการ (บอร์ด) รฟม. พร้อมด้วยนายพงษ์ภาณุ เศวตรุนทร์ รองปลัดกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานคณะกรรมการสรรหาฯผู้ว่ารฟม.ได้แถลงข่าวด่วนชี้แจงกรณีดังกล่าว โดยพล.อ.ยอดยุทธกล่าวว่า การสรรหาฯผู้ว่ารฟม. เป็นไปตามกระบวนการ ถ้ามีข้อโต้แย้งใดก็ต้องชี้แจงซึ่งศาลยังไม่มีคำสั่งใดๆจึงจะยังไม่ต้องหยุดกระบวนการสรรหา เพราะมั่นใจว่าเดินตามกฎระเบียบ กฎหมายเป็นหลัก เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อส่วนรวมและองค์กร การดำเนินงานเป็นไปอย่างถูกต้องและมีเหตุผล ไม่มีอคติกับผู้ใด

ซึ่งปัญหาของรฟม.คือมีพ.ร.บ.การรถไฟฟ้าฯ ซึ่งแตกต่างจากหน่วยงานอื่น โดยเฉพาะกรณีที่ตำแหน่งผู้ว่าฯรฟม.ว่าง จะต้องตั้งรองผู้ว่าฯ ที่อาวุโสสูงสุด ตามลำดับ ซึ่งมีสิทธิ์สมัครสรรหาผู้ว่าได้ด้วย ทำให้เกิดความได้เปรียบเสียเปรียบ ในขณะที่หน่วยงานอื่นสามารถแต่งตั้งรองผู้ว่าฯหรือบอร์ดทำหน้าที่รักษาการผู้ว่าฯได้ทำให้ขณะนี้บอร์ดจึงได้ตั้งคณะทำงานในการแก้พ.ร.บ.การรถไฟฟ้าฯในประเด็นดังกล่าวและรวมถึงประเด็น การพัฒนาเทคโนโลยี พัฒนาอุตสาหกรรมรถไฟฟ้า การบริหารจัดการและการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ เป็นต้น ซึ่งจะเร่งสรุปเสนอกระทรวงคมนาคมเพื่อแก้กฎหมายตามขั้นตอนต่อไป

นายพงษ์ภาณุ เศวตรุนทร์ รองปลัดกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานคณะกรรมการสรรหาผู้ว่าฯรรฟม.กล่าวว่า เมื่อวันที่ 22 ธันวาคม 2557 กก.สรรหาฯได้มีการพิจารณารายชื่อผู้ที่ผ่านคุณสมบัติผู้สมัคร 7 ราย แต่เนื่องจากที่ได้ทำหนังสือสอบถามไปยังหน่วยงานต่างๆ เพื่อยืนยันคุณสมบัติแต่ละราย รวม 9 หน่วยงาน นั้น ล่าสุดยังตอบยืนยันกลับมาเพียง 6-7หน่วยทำให้การตรวจสอบคุณสมบัติผู้สมัครทั้ง 7 รายยังไม่ครบ ดังนั้นกรรมการสรรหาฯ จึงยังไม่สามารถประกาศชื่อผู้ผ่านคุณสมบัติได้ และยังไม่มีการตัดสิทธิ์ผู้สมัครทั้ง 7 ราย ในขณะที่ได้กำหนดไว้ให้แสดงวิสัยทัศน์ในวันที่ 5 มกราคม 2558 ไว้แล้วจึงเห็นว่าไม่จำเป็นต้องรอผลตรวจสอบคุณสมบัตให้แล้วเสร็จก่อนและไม่ถือว่าผิดขั้นตอนแต่อย่างใดเนื่องจากต้องการสรุปผลการสรรหาฯให้เร็วที่สุด โดยหลังสัมภาษณ์แล้วเสร็จเย็นวันที่ 5 มกราคม 2558 จะทราบว่าผู้สมัครรายใดได้รับคะแนนสูงสุด และจะเจรจารายละเอียดสัญญาจ้างและค่าตอบแทน รวมถึงเสนอกระทรวงการคลังเห็นขอบและเสนอกระทรวงคมนาคมเพื่อเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) แต่งตั้งผู้ว่าฯ รฟม.คนใหม่ให้แล้วเสร็จภายในเดือนมกราคม 2558

ส่วนกรณีที่มีการกล่าวหาคณะกรรมการสรรหาฯ มีการเลือกปฎิบัติหรือกีดกันผู้สมัครบางท่านนั้น ยืนยันว่า ประกาศรฟม.รับสมัครผู้ว่าฯรฟม.นั้นในเรื่องคุณสมบัติทั่วไป ไม่ได้มีข้อกีดกันใดๆ ทั้งสิ้นและไม่ได้มีวัตถุประสงค์ที่จะตัดสิทธิ์ใคร ไม่ว่าจะเป็นคนในหรือคนนอก ส่วนกรณีเป็นรักษาการผู้ว่าฯ ซึ่งได้กำหนดไว้ในข้อ 3.1.12 นั้นที่ระบุว่าต้องไม่เป็นรักษาการผู้ว่าฯ ในวันยื่นใบสมัครนั้น ไม่ได้กีดกันใครทั้งสิ้นเพราะรักษาการผู้ว่าฯสามารถลาออกจากรักษาการฯ และมาลงสมัครสรรหาฯได้โดยไม่ผิดกฎหมายของรฟม. แต่อย่างใด ซึ่งพ.ร.บ.รฟม. ในมาตรา 27 ระบุว่าให้รองผู้ว่าฯรฟม.อาวุโสสูงสุดตามลำดับ เป็นผู้รักษาการ ผู้ว่าฯรฟม. ถ้าไม่มีหรือปฎิบัติหน้าที่ไม่ได้ให้แต่งตั้งกรรมการคนใดคนหนึ่งรักษาการผู้ว่าฯรฟม.แทนได้

ทั้งนี้ หากมองว่าการสรรหาฯ ผู้ว่าฯ รฟม.ครั้งนี้กำหนดคุณสมบัติกีดกัน ดังนั้น กรณีที่รัฐวิสาหกิจอื่นมีข้อห้ามนักการเมือง , กรรมการบอร์ด ลงสมัครก็ถือว่าทุกรัฐวิสาหกิจกีดกันเช่นกัน อย่างไรก็ตามหากศาลมีคำสั่ง กรรมการสรรหา พร้อมชี้แจง แต่ขณะนี้ยืนยันต้องเดินหน้าการสรรหาตามขั้นตอน โดยวันที่ 5 มกราคม 2558 จะทราบผู้ได้รับการสรรหาฯ

“การกำหนดคุณสมบัติ ดังกล่าวเป็นผลดี เพราะจะเป็นการเปิดกว้างในการสรรหาได้อย่างเป็นธรรมโปร่งใสและไม่มีการเอื้อประโยชน์หรือก่อให้เกิดการได้เปรียบเสียเปรียบแต่อย่างใด ซึ่งกรรมการสรรหาฯได้พิจารณาอย่างละเอียดและคำนึงถึงเหตุในอดีตที่เคยมีรักษาการผู้ว่าฯรฟม.ใช้อำนาจหน้าที่ ให้คุณให้โทษกับผู้สมัครรายอื่นที่เป็นคู่แข่ง
โดยการสรรหาผู้ว่าฯรฟม.เมื่อประมาณ 4 ปีก่อน เมื่อรักษาการผู้ว่าฯ ไม่ได้รับการสรรหา จึงมีการตั้งกรรมการสอบวินัยร้ายแรงรองผู้ว่าฯที่ได้รับคัดเลือกทำให้ต้องล้มการสรรหาครั้งนั้นไป”

[Wisarut]

บ่นเรื่องรถไฟใต้ดินขึ้นราคาวันแรก
https://www.youtube.com/watch?feature=player_embedded&v=HkNun2lr0sA