View previous topic :: View next topic |
Author |
Message |
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42630
Location: NECTEC
|
Posted: 12/12/2014 6:02 pm Post subject: |
|
|
ชงรถไฟฟ้าเข้าครม. รวมมิตรหลากสี ไม่เกินกลางปี58
มติชน
วันที่ 09 ธันวาคม พ.ศ. 2557 เวลา 16:48:15 น.
พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยความคืบหน้าโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายต่างๆ ว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างพิจารณาโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงมีนบุรี-ศูนย์วัฒนธรรม คาดว่าจะเสนอเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่ออนุมัติโครงการได้ก่อนในเดือนมกราคม 2558
ส่วนโครงการต่อไปจะเป็นรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต รวมถึงโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย-ปากเกร็ด-มีนบุรี รถไฟฟ้าสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว-สำโรง และโครงการรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายสายสีน้ำเงิน ช่วงบางแค-พุทธมณฑลสาย 4 คาดว่าจะพิจารณาได้แล้วเสร็จทั้งหมดไม่เกินกลางปี 2558
พล.อ.อ.ประจินกล่าวว่า ในวันที่ 9 ธันวาคม นายวรพล โสคติยานุรักษ์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) จะเข้ามาบรรยายสรุปให้ฟังถึงความเป็นไปได้ในการจัดตั้งกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานสำหรับโครงการในส่วนของกระทรวงคมนาคม หากมีความเป็นไปได้ก็จะแยกให้หน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องไปหารือกับ ก.ล.ต.โดยตรงต่อไป |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42630
Location: NECTEC
|
Posted: 15/12/2014 1:19 am Post subject: |
|
|
"ซีเมนส์" ผนึกพันธมิตร "มังกร" ชิงเค้กโปรเจ็กต์รถไฟฟ้าไทย 4 สาย
ประชาชาติธุรกิจออนไลน์
11 ธันวาคม พ.ศ. 2557 เวลา 19:00:23 น.
"ซีเมนส์" ผนึกพันธมิตรรถไฟจีนสู้ราคาคู่แข่งชิงเค้กโปรเจ็กต์รถไฟฟ้า 4 สาย มูลค่า 2.83 แสนล้านบาท ดึงจุดเด่นด้านนวัตกรรม เทคโนโลยีและบริการหลังการขายเข้าเสริมทัพ ย้ำเชื่อมั่นศักยภาพตลาดไทยยันเอเชีย ลุยลงทุนไม่ยั้งทั้งธุรกิจขนส่ง พลังงานและอุตสาหกรรม
นายโลแลนด์ บุช กรรมการบริหาร บริษัท ซีเมนส์ เอจี เยอรมนี บริษัทวิศวกรรมรายใหญ่จากประเทศเยอรมนี เปิดเผยว่า บริษัทจะร่วมกับพันธมิตรจากประเทศจีนเข้าประมูลรถไฟฟ้า 4 สาย ได้แก่ สีชมพู (แคราย-มีนบุรี) สีส้ม (ศูนย์วัฒนธรรม-มีนบุรี) สีเขียว (หมอชิต-สะพานใหม่-คูคต) และสีเหลือง (ลาดพร้าว-สำโรง) มีมูลค่ารวม 2.83 แสนล้านบาทหรือกว่า 9,000 ล้านเหรียญสหรัฐ
โดยบริษัทรถไฟในประเทศจีนซึ่งเป็นพันธมิตรจะเป็นผู้ซัพพลายขบวนรถ ในขณะที่ซีเมนส์จะซัพพลายเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่เกี่ยวข้อง เช่น ระบบการเดินรถ อาณัติสัญญาณ และระบบควบคุมต่าง ๆ รวมถึงการบำรุงรักษาขบวนรถและระบบ การจัดการการใช้พลังงานให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด เป็นต้น
"เราตระหนักดีว่าสำหรับประเทศไทยและประเทศกำลังพัฒนาอื่น ๆ ราคาสินค้าเป็นเรื่องละเอียดอ่อนและสำคัญต่อการตัดสินใจซื้ออย่างมาก บริษัทรถไฟจีนมีจุดเด่นด้านราคาสินค้าที่ถูกกว่า ขณะที่ซีเมนส์มีจุดเด่นด้านเทคโนโลยีระดับสูงและการบริการหลังการขายที่เชื่อถือได้ การร่วมมือกับพาร์ตเนอร์ที่เหมาะสมนอกจากจะช่วยให้บริษัทมีส่วนแบ่งในตลาดที่มีการแข่งขันด้านราคาสูงได้แล้วยังช่วยเพิ่มโอกาสทางธุรกิจอีกด้วย"
ในอนาคตบริษัทจะเน้นการขยายธุรกิจโดยหันมาลงทุนในทวีปเอเชียมากขึ้น เนื่องจากเป็นกลุ่มที่มีการขยายตัวของเมืองรับการเติบโตทางเศรษฐกิจและประชากร ซึ่งภาครัฐจำเป็นต้องลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานไม่ว่าจะเป็นระบบคมนาคมขนส่ง โรงไฟฟ้าอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
"จากการศึกษาวิจัยของบริษัทในตลาดไทย ปี 2573 จำนวนผู้โดยสารระหว่างกรุงเทพฯ และปริมณฑล มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นจากปัจจุบัน 56% ประกอบกับภาครัฐมีนโยบายขยายการลงทุนโครงข่ายคมนาคมให้ครอบคลุมทั้งเมืองหลวง ปริมณฑล และหัวเมืองสำคัญทั่วประเทศไทยจึงเป็นตลาดที่น่าสนใจสำหรับซีเมนส์" |
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 44335
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 16/12/2014 5:44 pm Post subject: |
|
|
ปีหน้าเปิดประมูลรถไฟฟา 3 สายบูมย่านตะวันออกสายเหลือง-ชมพู-ส้ม
เร่งชงรถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันออกศูนย์วัฒนธรรม-มีนบุรีเข้าครม.ต้นม.ค.กลางปี 58 เตรียมเปิดประมูล ด้านสายสีเหลือง-ชมพูจ่อเข้าครม.กลางปีหน้า
เดลินิวส์ วันอังคาร 16 ธันวาคม 2557 เวลา 12:22 น.
นายรณชิต แย้มสอาด รักษาการผู้ว่าการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย(รฟม.)กล่าวถึงความคืบหน้ารถไฟฟัาสายสีส้ม(ตะวันออก)ช่วงศูนย์วัฒนธรรม-มีนบุรีระยะทาง 20 กิโลเมตรว่าขณะนี้รฟม.ได้เสนอโครงการไปยังกระทรวงคมนาคมแล้วคาดว่าประมาณเดือน ม.ค.2558 จะมีการเสนอเข้าคณะรัฐมนตรี(ครม.)เพื่อเห็นชอบและอนุมัติการก่อสร้างโดยภายหลังจากที่ครม.เห็นชอบแล้วรฟม.จะใช้เวลาในการเตรียมการประกวดราคาประมาณ3-4เดือนซึ่งประมาณกลางปี 2558 จะสามารถเปิดประกวดราคาได้
สำหรับรูปแบบในการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีส้มมีแนวเส้นทางเริ่มจากสถานีศูนย์วัฒนธรรมเป็นโครงสร้างใต้ดินที่ศูนย์ซ่อมบำรุงรฟม.มุ่งหน้าไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้เข้าสู่แนวถนนพระราม9ผ่านแยกพระราม 9-ประดิษฐ์มนูธรรมแล้วเข้าสู่ถนนรามคำแหงแยกลำสาลี ผ่านจุดตัดถนนศรีบูรพาจากนั้นจึงเริ่มยกระดับผ่านหมู่บ้านสัมมากรทางแยกต่างระดับรามคำแหงจุดตัดถนนกาญจนาภิเษกผ่านแยกลาดบัวขาวจุดตัดถนนมีนบุรี-พัฒนาการสิ้นสุดเส้นทางที่ถนนสุวินทวงศ์งบประมาณ 90,000 กว่าล้านบาท ทั้งนี้หากสามารถดำเนินการประกวดราคาได้ตามแผนการที่กำหนดจะสามารถดำเนินการก่อสร้างและเปิดให้บริการประชาชนในแถบชานเมืองได้ประมาณปี 2563
นายรณชิตกล่าวต่อว่าสำหรับรถไฟฟ้าสายสีเหลืงลาดพร้าว-สำโรงระยะทาง 30.4 กิโลเมตรและสายสีชมพูช่วงแคราย-มีนบุรีระยะทาง 27 กิโลเมตร ซึ่งทั้ง 2 สาย รฟม.ได้เสนอไปยังกระทรวงคมนาคมในรูปแบบรถไฟฟ้ารางเดี่ยวหรือโมโนเรลโดยพล.อ.อ.ประจิน จั่นตองรมว.คมนาคมจะเร่งเสนอเข้าครม.เพื่ออนุมัติเห็นชอบในการก่อสร้างประมาณกลางปี 2558 อย่างไรก็ตามทางกระทรวงคมนาคมมีนโยบายที่จะเร่งผลักดันรถไฟฟ้าทั้ง3สายให้สามารถดำเนินการก่อสร้างอย่างรวดเร็วเพื่อลดปัญหาการจราจรที่จะเพิ่มปริมาณการหนาแน่นมากยิ่งขึ้นทั้งนี้คาดว่าจะเริ่มทะยอยเปิดให้บริการประชาชนได้ประมาณปี 2563. |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42630
Location: NECTEC
|
Posted: 17/12/2014 10:28 pm Post subject: |
|
|
ครม.รับทราบการปรับโครงสร้างหนี้โครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน-สีเขียว
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์
16 ธันวาคม 2557 17:11 น.
ร.อ. น.พ.นายแพทย์ยงยุทธ มัยลาภ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี ว่า ที่ประชุมได้รับรายงานผลการกู้เงินเพื่อปรับโครงสร้างหนี้เพื่อให้กู้ต่อแก่การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ในปีงบประมาณ 2558 เพื่อใช้จ่ายในโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินช่วงหัวลำโพง-บางแค ช่วงบางซื่อ-ท่าพระ และสายสีเขียวช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ โดยการชำระหนี้คืนก่อนกำหนดจากสัญญาเดิมในปีงบประมาณ 2559 จำนวน 20,000 ล้านบาท ให้กับธนาคารกรุงเทพฯ และธนาคารออมสินด้วยการออกจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลเพื่อการบริหารหนี้ให้กู้ต่อในปี 2558 ครั้งที่ 1 อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 3.65 ต่อปี อายุคงเหลือ 7.15 ปี จำนวน 20,000 ล้านบาท
นอกจากนี้ คณะรัฐมนตรีได้รับทราบผลการรายงานหนี้สาธารณะของประเทศ ประจำปีงบประมาณ 2557 ณ วันที่ 30 กันยายน 2557 ยอดหนี้คงค้าง 5,550,390.87 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละของเศรษฐกิจมวลรวมของประเทศ (จีดีพี) ที่ 46.07 ซึ่งถือว่าอยู่ในระดับที่ไม่น่ากังวล และหนี้สาธารณะคงค้างในรอบหนึ่งปีเพิ่มขึ้น 260,254.11 ล้านบาท
//-----------------
ลุ้นรัฐตั้งโรงงานรถไฟฟ้าในไทย รองรับรถไฟฟ้า 10 สายทาง
ไทยรัฐ (กรอบบ่าย)
18 ธันวาคม 2557
http://pantip.com/topic/32993080 |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42630
Location: NECTEC
|
Posted: 18/12/2014 12:25 pm Post subject: |
|
|
ตั้งกองทุนสร้างรถไฟฟ้า-ถนน-สนามบิน
โดย ทีมข่าวเศรษฐกิจ
ไทยรัฐ
18 ธันวาคม 2557 06:00
คมนาคมประกาศลงทุนเมกะโปรเจกต์
นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมช.คมนาคม เปิดเผยว่า ตัวแทนบริษัทหลักทรัพย์ทิสโก้ นำนักลงทุนเข้าพบ เพื่อสอบถามถึงแผนการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของกระทรวงคมนาคมว่ามีรายละเอียด และกำหนดเวลาดำเนินงานใด ซึ่งชี้แจงไปว่าในวันที่ 23 ธ.ค.นี้ กระทรวงคมนาคมจะมีการสรุปราย ละเอียดและแถลงข่าวอย่างชัดเจน นอกจากนี้ทางทิสโก้ยังสนใจร่วมลงทุนผ่านกองทุนโครงสร้างพื้นฐาน โดยโครงการที่คาดว่าจะใช้เงินจากกองทุนโครงสร้างพื้นฐาน อาทิ โครงการก่อสร้างรถไฟฟ้า โครงการก่อสร้างท่าอากาศยานสุวรรณภูมิระยะ 2 ซึ่งอาจใช้เงินจากกองทุนฯบางส่วน เนื่องจากบริษัท ท่าอากาศยานไทย (ทอท.) มีเงินลงทุนอยู่ส่วนหนึ่งแล้ว
นายอาคมกล่าวต่อว่า สำหรับการลงทุนเรื่องถนนจะใช้งบประมาณของรัฐบาลเป็นหลัก ส่วนการลงทุนก่อสร้างทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองหรือมอเตอร์เวย์สายต่างๆ ของกรมทางหลวง จะ ต้องมาพิจารณา ว่าจะใช้กองทุนมอเตอร์เวย์ งบประมาณประจำปี หรือกองทุนโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งขณะนี้ยังไม่ได้ข้อสรุป ส่วนการลงทุนโครงการก่อสร้าง รถไฟฟ้าในกรุงเทพมหานคร ของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) จะแยกระหว่างการลงทุน โครงสร้างพื้นฐานกับการเดินรถ ซึ่งการเดินรถยังเป็นรูปแบบเอกชนร่วมลงทุนกับรัฐ หรือพีพีพี ส่วนโครงการ ก่อสร้างรถไฟทางคู่ของการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) มีการใช้เงินงบประมาณของรัฐเป็นส่วนใหญ่. |
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 44335
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 24/12/2014 6:49 am Post subject: |
|
|
ปลัดคมนาคมมั่นใจ-ตั๋วร่วมรถไฟฟ้า 3 ระบบเปิดใช้ก.ค.59
วันที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2557 เวลา 20:19 น. ข่าวสดออนไลน์
วันที่ 23 ธ.ค. นางสร้อยทิพย์ ไตรสุทธิ์ ปลัดกระทรวงคมนาคม เผยภายหลังประชุมคณะกรรมการบริหารจัดการระบบตั๋วร่วมว่า คาดว่าเดือน ก.ค.2559 จะเปิดใช้บริการตั๋วร่วมร่วมระยะแรกกับรถไฟฟ้าบีทีเอส รถไฟฟ้าใต้ดิน รถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิ้งค์ และร้านสะดวกซื้อได้ จากนั้นก่อนสิ้นปี 2559 จะเปิดให้บริการในระยะที่ 2 ครอบคลุมทางด่วนของการทางพิเศษแห่งประเทศไทย และทางพิเศษระหว่างเมือง (มอเตอร์เวย์) ของกรมทางหลวง และระยะที่ 3 จะครอบคลุมการให้บริการรถเมล์ขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ที่จะติดตั้งระบบเก็บค่าโดยสารอัตโนมัติ(อี-ทิกเก็ต)เพื่อรองรับระบบตั๋วร่วมด้วย โดยขณะนี้สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร(สนข.)อยู่ระหว่างจัดทำระบบ
ตามแผนการดำเนินงานจะต้องจัดทำระบบตั๋วร่วมให้แล้วเสร็จภายใน 18 เดือน หรือให้บริการได้กับบริการขนส่งสาธารณะทุกระบบก่อนสิ้นปี 2559 ระบบตั๋วร่วมจะกำหนดให้จัดเก็บค่าแรกเข้าเพียงครั้งเดียวถึงแม้จะเชื่อมต่อการเดินทางไปยังขนส่งสาธารณะอื่นๆ เช่น กรณีใช้รถไฟฟ้าบีทีเอส แล้วไปต่อรถไฟฟ้าใต้ดิน หรือรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงก์ ก็จะเสียค่าแรกเข้าครั้งเดียว จากนั้นจะคิดราคาตามระยะทางแทนที่จะต้องไปเริ่มเสียค่าบริการใหม่ทุกครั้งที่เปลี่ยนไปใช้ระบบอื่นเหมือนปัจจุบัน คาดว่าการคิดค่าบริการเริ่มต้นครั้งเดียว จะเริ่มได้ตั้งแต่เปิดให้บริการในระยะแรกนางสร้อยทิพย์ กล่าว
นางสร้อยทิพย์ กล่าวว่า ในเดือนเม.ย.2558 กรมทางหลวงจะเปิดให้บริการระบบจัดเก็บค่าผ่านทางมอเตอร์เวย์อัตโนมัติ "เอ็มพาส" ซึ่งจะช่วยอำนวยความสะดวกและแก้ไขปัญหารถติดบริเวณหน้าด้านเก็บค่าผ่านทางได้ และในเดือนมิ.ย.2559 ผู้ที่ใช้บัตรเก็บค่าผ่านทางอัตโนมัติอีซี่พาสของการทางพิเศษแห่งประเทศไทย(กทพ.) และบัตรเอ็มพาสจะสามารถใช้บริการได้ทั้งทางด่วนของ กทพ. และมอเตอร์เวย์ของ ทล.ด้วย |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42630
Location: NECTEC
|
Posted: 24/12/2014 9:45 am Post subject: |
|
|
เวอร์ชัน ASTV ดูที่นี่
นำร่องตั๋วร่วม BTS-MRT-แอร์พอร์ตลิงก์ ใช้ได้ ก.ค. 59
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์
23 ธันวาคม 2557 16:40 น.
คมนาคมเร่งสรุปแผนตั๋วร่วมเสนอ ครม. ด้าน สนข.คาดเซ็นสัญญาวางระบบตั๋วร่วม ม.ค. 58 เดินหน้าเชื่อมระบบรถไฟฟ้า BTS-MRTA-แอร์พอร์ตลิงก์ตั๋วใบเดียว ก.ค. 59 พร้อมเร่งเจรจาเอกชนลดค่าแรกเข้าใช้บริการรถไฟฟ้า 3 ระบบเหลือครั้งเดียวเพื่อลดภาระประชาชน |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42630
Location: NECTEC
|
Posted: 24/12/2014 12:50 pm Post subject: |
|
|
ช.การช่างเผยBacklogกว่า1แสนลบ.
โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
วันที่ 23 ธันวาคม 2557 15:29
"ปลิว" เผยปัจจุบัน "ช.การช่าง" มีมูลค่างานในมือกว่า 1 แสนล้านบาท พร้อมทยอยรับรู้ไปอีก 4 ปี
นายปลิว ตรีวิศวเวทย์ ประธานกรรมการบริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน)หรือ CK เปิดเผยว่า ปัจจุบันบริษัทฯ มี Backlog ในมือกว่า 100,000 ล้านบาท เพียงพอเป็นรายได้ก่อสร้างได้อีก 4 ปี มีรายได้จากเงินปันผลอย่างสม่ำเสมอและมีงานใหม่เข้ามาอย่างต่อเนื่อง ในส่วนงานในมือที่ดำเนินการอยู่มีความก้าวหน้าเป็นอย่างมาก เช่น โครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ส่วนต่อขยาย ช่วงสนามไชย ท่าพระ มีความก้าวหน้ากว่า 60% แล้ว โดยขณะนี้อุโมงค์รถไฟฟ้าอุโมงค์แรกได้ขุดเจาะลอดแม่น้ำเจ้าพระยาแล้วเสร็จ และกำลังจะเริ่มขุดเจาะอุโมงค์ที่สอง โดยคาดว่างานจะแล้วเสร็จทั้งหมดในปี 2559
ส่วนโครงการจัดซื้อระบบรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงบางใหญ่ บางซื่อ บริษัทฯได้เริ่มผลิตขบวนรถไฟฟ้าแล้วที่ประเทศญี่ปุ่น โดยให้บริษัท J-TREC (Japan Transport Engineering Company) ซึ่งเป็นผู้ผลิตรถไฟฟ้าความเร็วสูง Bullet Train ที่มีความเชี่ยวชาญในประเทศญี่ปุ่นเป็นผู้ดำเนินการ โดยคาดว่ารถไฟฟ้าขบวนแรกจะส่งมาถึงประเทศไทยในปลายปี 2558 ก่อนจะเริ่มทดสอบระบบ โดยคาดว่า BMCL จะเปิดให้ประชาชนทดลองใช้บริการได้กลางปี 2559 และเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการได้ในเดือนสิงหาคม 2559 ส่วนโครงการสำคัญอื่นๆเช่น โครงการไซยะบุรี มีความก้าวหน้ากว่า 45% โครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงแบริ่ง สมุทรปราการ มีความก้าวหน้ากว่า 50%
//-----------------
ช.การช่างลุยงานรัฐ โชว์แบ็กล็อกแสนล.
ข่าวเศรษฐกิจ
ไทยโพสต์
วันที่ 24 ธันวาคม 2557
ช.การช่าง คาดกำไรปีนี้โต 8-10% อวดแบ็กล็อก 100,000 ล้านบาท รองรับรายได้ 4 ปี พร้อมลุยประมูลงานรัฐ จับมือ TTW เตรียมสร้างโรงผลิตน้ำประปาในพม่า
นายปลิว ตรีวิศวเวทย์ ประธานกรรมการบริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ช.การช่าง (CK) เปิดเผยว่า ผลประกอบการปี 2557 คาดว่าจะมีกำไรขั้นต้นจากการดำเนินงานไม่น้อยกว่า 8-10% และมีกำไรพิเศษจากการขายหุ้นบริษัทในเครือ ทำให้รายได้ทั้งปีมากกว่า 34,000 ล้านบาท แม้ว่าในประเทศจะมีปัญหาการเมืองและปัญหาเศรษฐกิจจะชะลอตัว อีกทั้งผลกระทบจากปัญหาเศรษฐกิจโลก งานก่อสร้างของภาครัฐล่าช้า แต่บริษัทมีมูลค่างานในมือ (Backlog) กว่า 100,000 ล้านบาท รองรับรายได้ก่อสร้างได้อีก 4 ปี
นอกจากนี้บริษัทจะเข้าร่วมแข่งขันในการก่อสร้างโครงการขนาดใหญ่ของภาครัฐอย่างเต็มที่ในปีหน้า เช่น โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม สายสีชมพู โครงการรถไฟทางคู่ โครงการมอร์เตอร์เวย์ โดยมั่นใจว่าจะได้ส่วนแบ่งงานก่อสร้างกว่า 20-25% ของงานทั้งหมด และพร้อมที่จะเข้าร่วมลงทุนดำเนินการในโครงการของภาครัฐแบบ PPP ทั้งโครงการทางด่วน รถไฟฟ้า โรงไฟฟ้า น้ำประปา
นอกจากนี้ บริษัทยังร่วมกับ บมจ.ทีทีดับบลิว (TTW) โดยอยู่ระหว่างศึกษาและเตรียมการที่จะดำเนินการก่อสร้างโรงผลิตน้ำประปาในประเทศพม่า เริ่มที่เมืองเมาะลำใยเป็นแห่งแรก คาดว่าจะเห็นความชัดเจนต้นปี 2558
นอกจากนี้ บริษัทยังมีแผนออกหุ้นกู้ขั้นต่ำประมาณ 3,000 ล้านบาท เพื่อนำไปไถ่ถอนหุ้นกู้ชุดเดิมที่ครบกำหนดประมาณ 3,000 ล้านบาท ในช่วงเดือน เม.ย.และ ก.ค. ปีหน้า
นายชัยวัฒน์ อุทัยวรรณ์ กรรมการผู้จัดการ TTW กล่าวว่า ตั้งเป้ารายได้และกำไรในปีหน้า โต 5-10% จากปีนี้ที่คาดว่าจะมีกำไร 3,000 ล้านบาท และรายได้ 6,000 ล้านบาท ซึ่งทำสถิติสูงสุด นอกจากนี้บริษัทยังลงทุนขยายกำลังการผลิตน้ำประปาในพื้นที่สมุทรสาคร-นครปฐม มูลค่า 3,106 ล้านบาท มีกำลังการผลิต 400,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน ในโรงงานแห่งใหม่ที่กระทุ่มแบน เริ่มผลิตปลายปี 2559 คาดว่าจะเต็มกำลังการผลิตภายใน 10 ปี.
Last edited by Wisarut on 24/12/2014 6:12 pm; edited 1 time in total |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42630
Location: NECTEC
|
Posted: 24/12/2014 5:57 pm Post subject: |
|
|
อสังหาฯ หวังรถไฟฟ้าเปิดพื้นที่ใหม่กดราคาขายคอนโด
หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ
23 ธันวาคม 2557
แนวทางการพัฒนาเมืองนับจากนี้ ค่อยๆ เปลี่ยนไปสู่การเกาะติดระบบรางแทนระบบถนน โดยภายใน 3-5 ปีจะยิ่งเห็นภาพที่ชัดเจนมากว่า ระบบรางจะมีส่วนสำคัญในการผลักดันให้เกิดการลงทุน โดยเฉพาะคอนโดมิเนียม เข้ามามีบทบาทต่อการอยู่อาศัยมากขึ้นเรื่อยๆ จากการขยายแนวรถไฟฟ้า และราคาที่ดินที่มีการปรับตัวสูงขึ้นมาก สะท้อนได้จากยุคที่เริ่มมีรถไฟฟ้าบีทีเอสเปิดให้บริการเป็นครั้งแรกเมื่อปี 2543 ตลาดคอนโดมิเนียมมีสัดส่วนเพียง 10-15% ของที่อยู่อาศัยเปิดใหม่ทั้งหมด ปัจจุบันรถไฟฟ้าเปิดบริการมา 14 ปี สัดส่วนคอนโดมิเนียมเพิ่มเป็น 70-80%
โดยในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา คอนโดมิเนียมแนวรถไฟฟ้า เปิดตัวในอัตราก้าวกระโดด รวมทั้งสิ้น 5.46 หมื่นยูนิต ขายไปแล้ว 4 หมื่นยูนิต หรือ 73% เหลือขายเพียง 1.64 หมื่นยูนิต และยิ่งโครงการรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายที่อยู่ระหว่างก่อสร้าง 4 เส้นทาง ทั้งรถไฟฟ้าสายสีม่วง (บางซื่อ-บางใหญ่) สายสีน้ำเงิน (บางซื่อ-ท่าพระ และหัวลำโพง-บางแค) สายสีเขียว (แบริ่ง-สมุทรปราการ) และสายสีแดง (บางซื่อ-ตลิ่งชัน) รวมถึง อีก 4 เส้นทางใหม่ที่จะประมูลในปีหน้าจะเป็นปัจจัยบวกสำคัญ ที่มีต่อภาคอสังหาริมทรัพย์ เพราะเป็นการ เปิดหน้าดินใหม่ๆ
สัมมา คีตสิน ผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) กล่าวว่า การขยายแนวรถไฟฟ้าและโครงข่ายคมนาคมจะเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ในอัตราเร่ง เช่น ระบบขนส่งมวลชนในกรุงเทพฯในรอบ 15 ปีที่ผ่านมา มีจำนวนสถานีรถไฟฟ้าไม่เกิน 70 สถานี จะเพิ่มเป็นมากกว่า 200 สถานีตามแผนงานในอีก 5 ปีข้างหน้า ทำให้เกิดสถานีชุมทางหรือสถานีเชื่อมต่อจำนวนมาก ส่งผลให้เกิดการขยายตัวของโครงการ คอนโด จากการสำรวจโครงการคอนโดมิเนียม ตามแนวรถไฟฟ้า ที่เปิดให้บริการแล้วและส่วนต่อขยายที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง รัศมี ไม่เกิน 1 กม. โครงการเปิดขาย ณ เดือน ต.ค. มีถึง 416 โครงการ แบ่งเป็น แนวรถไฟฟ้า (สายสุขุมวิทและสายสีลม) 97 โครงการ กว่า 3 หมื่นยูนิต เหลือขาย 1 หมื่นยูนิต
ส่วนสายสีม่วง (บางซื่อ-บางใหญ่) เปิด 45 โครงการ กว่า 3.43 หมื่นยูนิต เหลือขาย 1.58 หมื่นยูนิต , สายสีน้ำเงิน (บางซื่อ-ท่าพระ,หัวลำโพง-บางแค) เปิดขาย 19 โครงการ จำนวนกว่า 1 หมื่นยูนิต เหลือขาย 7,300 ยูนิต
สายสีแดงเข้ม (บางซื่อ-ม.ธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต) เปิดขาย 10 โครงการ 6,100 ยูนิต ,สายสีแดงอ่อน (บางซื่อ-ตลิ่งชัน) คอนโดฯเปิดขาย 16 โครงการ จำนวน 1.48 หมื่นยูนิต เหลือขาย 8,300 ยูนิต
ส่วนสายสีเขียว ส่วนต่อขยาย ได้แก่ ตากสิน-บางหว้า มีคอนโดเปิด 27 โครงการ กว่า 1.4 หมื่นยูนิต เหลือขาย 8,800 ยูนิต, หมอชิต-สะพานใหม่-คูคต 18 โครงการ จำนวน 6,600 ยูนิต เหลือขาย 3,500 ยูนิต และอ่อนนุช -สมุทรปราการ 50 โครงการ 1.8 หมื่นยูนิต เหลือขาย 6,200 ยูนิต
ขณะที่เส้นเอ็มอาร์ที (บางซื่อ-หัวลำโพง) เปิดขาย 86 โครงการ จำนวน ทั้งสิ้น 3.2 หมื่นยูนิต และแอร์พอร์ตลิงค์ 48 โครงการ 2.45 หมื่นยูนิต เหลือขาย 7,700 ยูนิต
"ปี"58 น่าจะเห็นผู้ประกอบการเปิดตัวคอนโดเพิ่มขึ้น ปัจจัยมาจากราคาที่ดินแพงและมีก่อสร้างรถไฟฟ้าส่วนต่อขยาย แต่โดยรวมทั้งปีไม่ควรเปิดเกินกว่า 7-7.5 หมื่นหน่วย ถ้ามากกว่านี้ ศูนย์ข้อมูลอสังหาฯจะออกมาเตือน"
ชานนท์ เรืองกฤตยา ประธาน เจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ กล่าวว่า รถไฟฟ้ามีผลต่อความต้องการคอนโดมิเนียมใกล้แนวรถไฟฟ้ามาก และมีผลทำให้ราคาที่คอนโดมิเนียมที่มีอยู่ปรับขึ้นต่อเนื่องด้วย สะท้อนได้จากโครงการแอชตัน อโศก ขยับขึ้นไปแตะ 3 แสนบาทต่อตร.ม. ได้ เป็นเรื่องที่ยากจะคาดคิด แต่ก็เกิดขึ้นแล้ว
ไตรเตชะ ตั้งมติธรรม กรรมการและรองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ศุภาลัย กล่าวว่า การลงทุนในระบบรถไฟฟ้าเส้นทางใหม่ๆ ที่จะเกิดในปีหน้า จะทำให้เปิดหน้าดินใหม่ๆ เพราะแม้กระทั่งรถไฟฟ้าเส้นทางที่อยู่ระหว่างก่อสร้างยังไม่เปิดใช้บริการ เช่น สายสีม่วง สายสีน้ำเงิน ต่างถูกจับจองที่ดินจนแน่นมากจนราคาที่ดินเกาะเส้นทางเหล่านี้ สูงขึ้นมาก จนยากที่จะพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยที่ ผู้บริโภคส่วนใหญ่จับต้องได้
ถ้าไม่มีรถไฟฟ้าสายใหม่ๆ การพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยจะยากขึ้นมาก เพราะต้นทุนที่ดินในกรุงเทพฯ ขยับขึ้นแรงมาก เฉลี่ยประมาณ 9-10% ต่อปี ซึ่งเป็นปัจจัยที่มีผลทำให้ราคาที่อยู่อาศัยต้องขยับขึ้นไปอย่างเลี่ยงไม่ได้ ในขณะที่คนซื้อที่อยู่อาศัยที่ส่วนใหญ่ ซึ่งเป็นพนักงานกินเงินเดือน มีรายได้ที่ปรับขึ้นเฉลี่ยเพียง 4-5% เท่านั้น
"รถไฟฟ้า 70 สถานี จะเพิ่มเป็นมากกว่า 200 สถานีตามแผนงานในอีก 5 ปีข้างหน้า"
"ถ้าไม่มีรถไฟฟ้า สายใหม่ๆ การพัฒนาจะยากมาก เพราะที่ดินขึ้นแรง 9-10% ต่อปี" |
|
Back to top |
|
|
Mongwin
1st Class Pass (Air)
Joined: 24/09/2007 Posts: 44335
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา
|
Posted: 24/12/2014 6:55 pm Post subject: |
|
|
เปิด'4กฤษฎีกา'เวนคืนที่ดินเส้นทางรถไฟฟ้า
โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์วันที่ 24 ธันวาคม 2557 17:48
เปิด 4พระราชกฤษฎีกา รัฐฯเวนคืนที่ดินสร้างเส้นทางรถไฟฟ้า พื้นที่กรุงเทพฯ-นนทบุรี และปทุมธานี
เว็บไซต์ราชกิจจจนุเบกษา เผยแพร่ (24ธ.ค.)พระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืนเพื่อดำเนินการเพื่อกิจการขนส่งมวลชนจำนวน 4 ฉบับ ดังนี้
1.พระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน ในท้องที่อำเภอเมืองนนทบุรี อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี และเขตหลักสี่ เขตบางเขน เขตบึงกุ่ม เขตคันนายาวเขตมีนบุรี กรุงเทพมหานคร พ.ศ. 2557
2.พระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะดำเนินการเพื่อกิจการขนส่งมวลชน ในท้องที่อำเภอเมืองนนทบุรี อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี และเขตหลักสี่ เขตบางเขน เขตบึงกุ่ม เขตคันนายาว เขตมีนบุรี กรุงเทพมหานคร พ.ศ.2557
3.พระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน ในท้องที่เขตจตุจักร เขตบางเขน เขตหลักสี่ เขตสายไหม เขตดอนเมือง กรุงเทพมหานคร และอำเภอลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี พ.ศ.2557
4.พระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะดำเนินการเพื่อกิจการขนส่งมวลชน ในท้องที่เขตจตุจักร เขตบางเขน เขตหลักสี่ เขตสายไหม เขตดอนเมือง กรุงเทพมหานคร และอำเภอลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี พ.ศ.2557
...
ลิงค์รายละเอียด
1. http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2557/A/084/1.PDF
2. http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2557/A/084/4.PDF
3. http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2557/A/084/7.PDF
4. http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2557/A/084/10.PDF |
|
Back to top |
|
|
|