Ads Service

Main Menu

 
icon_home.gif Homepage
icon_community.gif Members Zone
· ข้อมูลส่วนตัว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ข่าวสารส่วนตัว
· บริการเว็บเมล์
· กระดานข่าว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก กระดานฝากข้อความ
· รถไฟไทยแกลลอรี่
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก รายนามสมาชิก
· แบบสำรวจ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก สมุดเยี่ยม
· เกี่ยวกับสมาชิก
favoritos.gif News & Stories
· เรื่องทั้งหมด
· เนื้อหาสาระ
· เรื่องสำหรับพิมพ์
· ยอดฮิตติดอันดับ
· ค้นหาข่าวสาร
· ค้นหากระทู้เก่า
nuke.gif Contents
· กำหนดเวลาเดินรถ
· ประเภทขบวนรถโดยสาร
· ข้อมูลเส้นทางรถไฟ
· แผนที่เส้นทางรถไฟ
· อัตราค่าโดยสาร
· คำนวณค่าโดยสารรถไฟ
· รูปแบบการให้บริการรถไฟ
· หมายเลขโทรศัพท์ที่สำคัญ
· ทริปท่องเที่ยวโดยรถไฟ
· ระบบติดตามขบวนรถ
som_downloads.gif Services
· Downloads
· GoogleSearch
· Hotels Booking
· FlashGames
· Wallpaper 1
· Wallpaper 2
· Wallpaper 3
· Wallpaper 4
icon_members.gif Information
· เกี่ยวกับเรา
· นโยบายความเป็นส่วนตัว
· แผนผังเว็บไซต์ฯ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ส่งข้อแนะนำติชม
· ติดต่อลงโฆษณา
· แนะนำและบอกต่อ
· สถิติทั้งหมด
· สำหรับผู้ดูแลระบบ
 

Sponsors

 

Ads Service

 

Visitors

 


มีผู้เข้าเยี่ยมชม
สมาชิก:311289
ทั่วไป:13271136
ทั้งหมด:13582425
คน ตั้งแต่
01-08-2004
 


Rotfaithai.Com :: View topic - ข่าวรถไฟฟ้าสีเขียวเข้ม(หมอชิต-สะพานใหม่) และเขียวอ่อน(แบริ่ง-ปากน้ำ)
 Forum FAQForum FAQ   SearchSearch   UsergroupsUsergroups   ProfileProfile   Log in to check your private messagesLog in to check your private messages   Log inLog in 

ข่าวรถไฟฟ้าสีเขียวเข้ม(หมอชิต-สะพานใหม่) และเขียวอ่อน(แบริ่ง-ปากน้ำ)
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 16, 17, 18 ... 100, 101, 102  Next
 
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> รถไฟฟ้า (BTS) และรถไฟฟ้าใต้ดิน (MRT)
View previous topic :: View next topic  
Author Message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42744
Location: NECTEC

PostPosted: 19/11/2014 12:13 pm    Post subject: Reply with quote

น้องหมัดเพชรฆาตชกพี่ร่วงรถไฟฟ้าดับ กระแทกหนุ่มจยย.สาหัส


โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 19 พฤศจิกายน 2557 00:44 น.


เมื่อวันที่ 18 พ.ย. พ.ต.ท.มงคล พฤษชาติ สารวัตรเวร สภ.สำโรงเหนือ สมุทรปราการ รับแจ้งมีคนงานพลัดตกลงมาจากสถานที่ก่อสร้างรางวิ่งรถไฟฟ้าสายสีเขียว แบริ่งสมุทรปราการ อยู่ระหว่างการก่อสร้างและมีความสูงกว่า 10 เมตร ลงมาทับหนุ่มที่กำลังขับขี่รถรถจักรยานยนต์ อยู่ด้านล่างได้รับบาดเจ็บสาหัส ช่วงถนนสุขุมวิท ปากซอยสุขุมวิท 115 หรือซอยอภิชาต ต.สำโรงเหนือ อ.เมือง จึงพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนและมูลนิธิปอเต๊กตึ้งเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพบศพนายณฐพร กลักดวงจิตร์ อายุ 28 ปี ชาว จ.พังงา คนงานสร้างสะพานรางวิ่งรถไฟฟ้า ซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของบริษัท ช.การช่าง นอนหงายจมกองเลือดอยู่กลางถนนในสภาพศีรษะแตก ใส่กางเกงขายาวเสื้อกล้ามสีขาวทับด้วยเสื้อแขนยาวสีเขียว ใกล้กันยังพบรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า msx สีน้ำเงิน ทะเบียน 2 กพ 7402 กรุงเทพซึ่งเป็นของนายธเนตร บุญเฉย อายุ 29 ปี ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์คันดังกล่าวได้รับบาดเจ็บ เนื่องจากผู้ตายตกลงมากระแทกระหว่างที่นายธเนตร ขับรถสวนมา เจ้าหน้าที่ช่วยนำตัวส่ง รพ.เปาโล สมุทรปราการ

จากการสอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุช่วงพักผู้ตายและนายเกียรติศักดิ์ กลักดวงจิตร์ อายุ 23 ปี ซึ่งเป็นน้องชาย ได้เกิดมีปากเสียงกันโดยที่ไม่ทราบว่าเรื่องอะไร ก่อนที่ทั้งสองจะเกิดการชกต่อยกันบนสะพานรางวิ่งรถไฟฟ้าที่มีความสูงจากพื้นดินกว่า 10 เมตร ก่อนที่ผู้ตายจะถูกน้องชายชกจนเสียหลักตกลงมากระแทกนายธเนตร ที่ขับรถจักรยานยนต์สวนมาด้านล่างก่อนที่จะกระแทกพื้นเสียชีวิต หลังเกิดเหตุนายเกียรติศักดิ์ น้องชายผู้ตายได้หลบหนีไป

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่สันนิฐานว่า ในระหว่างที่ผู้ตายและน้องชายกำลังชกต่อยกันอยู่ด้านบนผู้ตายอาจจะถูกน้องชายชกจนพลัดตกลงมาจากสะพานรางวิ่งรถไฟฟ้ากระแทกกับพื้นจนเสียชีวิตอย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ได้เชิญตัวคนงานที่อยู่ในเหตุการณ์มาทำการสอบปากคำเพิ่มเติมและจะได้ติดตามนายเกียรติศักดิ์ น้องชายมาทำการสอบสวนข้อเท็จจริงเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

//--------------------
น้องชายหมัดโหดต่อยพี่ร่วงรถไฟฟ้าดับ
เดลินิวส์
วันอังคาร 18 พฤศจิกายน 2557 เวลา 23:34 น.

สองพี่น้องคนงานก่อสร้างสะพานรางวิ่งรถไฟฟ้าสายสีเขียว แบริ่งสมุทรปราการชกกันพลัดตกร่างกระแทกหนุ่มขี่ จยย. ผ่านมาเจ็บสาหัส ก่อนโหม่งพื้นดับอนาถ

เมื่อวันที่ 18 พ.ย. พ.ต.ท.มงคล พฤษชาติ สารวัตรเวร สภ.สำโรงเหนือ สมุทรปราการ รับแจ้งมีคนงานพลัดตกลงมาจากสถานที่ก่อสร้างรางวิ่งรถไฟฟ้าสายสีเขียว แบริ่งสมุทรปราการ อยู่ระหว่างการก่อสร้างและมีความสูงกว่า 10 เมตร ลงมาทับหนุ่มที่กำลังขับขี่รถรถจักรยานยนต์ อยู่ด้านล่างได้รับบาดเจ็บสาหัส ช่วงถนนสุขุมวิท ปากซอยสุขุมวิท 115 หรือซอยอภิชาต ต.สำโรงเหนือ อ.เมือง จึงพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนและมูลนิธิปอเต๊กตึ้งเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพบศพนายณฐพร กลักดวงจิตร์ อายุ 28 ปี ชาว จ.พังงา คนงานสร้างสะพานรางวิ่งรถไฟฟ้า ซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของบริษัท ช.การช่าง นอนหงายจมกองเลือดอยู่กลางถนนในสภาพศีรษะแตก ใส่กางเกงขายาวเสื้อกล้ามสีขาวทับด้วยเสื้อแขนยาวสีเขียว ใกล้กันยังพบรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า msx สีน้ำเงิน ทะเบียน 2 กพ 7402 กรุงเทพซึ่งเป็นของนายธเนตร บุญเฉย อายุ 29 ปี ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์คันดังกล่าวได้รับบาดเจ็บ เนื่องจากผู้ตายตกลงมากระแทกระหว่างที่นายธเนตร ขับรถสวนมา เจ้าหน้าที่ช่วยนำตัวส่ง รพ.เปาโลสมุทรปราการ

จากการสอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุช่วงพักผู้ตายและนายเกียรติศักดิ์ กลักดวงจิตร์ อายุ 23 ปี ซึ่งเป็นน้องชาย ได้เกิดมีปากเสียงกันโดยที่ไม่ทราบว่าเรื่องอะไร ก่อนที่ทั้งสองจะเกิดการชกต่อยกันบนสะพานรางวิ่งรถไฟฟ้าที่มีความสูงจากพื้นดินกว่า 10 เมตร ก่อนที่ผู้ตายจะถูกน้องชายชกจนเสียหลักตกลงมากระแทกนายธเนตร ที่ขับรถจักรยานยนต์สวนมาด้านล่างก่อนที่จะกระแทกพื้นเสียชีวิต หลังเกิดเหตุนายเกียรติศักดิ์ น้องชายผู้ตายได้หลบหนีไป

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่สันนิฐานว่า ในระหว่างที่ผู้ตายและน้องชายกำลังชกต่อยกันอยู่ด้านบนผู้ตายอาจจะถูกน้องชายชกจนพลัดตกลงมาจากสะพานรางวิ่งรถไฟฟ้ากระแทกกับพื้นจนเสียชีวิตอย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ได้เชิญตัวคนงานที่อยู่ในเหตุการณ์มาทำการสอบปากคำเพิ่มเติมและจะได้ติดตามนายเกียรติศักดิ์ น้องชายมาทำการสอบสวนข้อเท็จจริงเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป.
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42744
Location: NECTEC

PostPosted: 28/11/2014 11:29 pm    Post subject: Reply with quote

ตรวจที่ดิน537รายแนวเวนคืน สร้างสถานีรถไฟฟ้าสายสีเขียว
แนวหน้า
วันพุธ ที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557, 09.00 น.

26 พ.ย.57 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 2 พ.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งให้ รฟม. สามารถเข้าไปดำเนินการตรวจสอบสภาพและวางแผนออกแบบกิจการขนส่ง ตามพ.ร.ฎ.กำหนดที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน และพ.ร.ฎ.กำหนดเขตที่ในบริเวณที่ที่จะดำเนินการโครงการรถไฟฟ้า 4 สายทาง ปรากฏว่า สายสีเขียว (หมอชิต-สะพานใหม่-คูคต) ระยะทาง 19 กม. มี 16 สถานี ค่าใช้จ่ายในการก่อสร้างรวมทั้งสิ้น 52,972 ล้านบาท โดยเบื้องต้นได้ตั้งงบเวนคืนไว้ที่ 7,863 ล้านบาท มีผู้ถูกเวนคืน 262 แปลง และสิ่งปลูกสร้าง 275 หลัง

จุดเวนคืนจะเป็นจุดขึ้น-ลงสถานีและศูนย์ซ่อมบำรุง ตั้งแต่จุดเริ่มต้น จะเชื่อมบีทีเอสที่หมอชิต ไปตามแนว ถ.พหลโยธิน ข้ามดอนเมืองโทลล์เวย์ ผ่านห้าแยกลาดพร้าว-รัชโยธิน-เกษตร-อนุสาวรีย์วงเวียนหลักสี่-หน้าตลาดยิ่งเจริญ จนถึง กม.ที่ 25 เบี่ยงเข้า ถ.ลำลูกกา ผ่านสถานีตำรวจคูคต สิ้นสุดที่คลอง 2 มีอาคารจอดแล้ว 2 แห่ง และศูนย์ซ่อมบำรุง 130 ไร่

สำหรับ 16 สถานี ได้แก่ ห้าแยกลาดพร้าว , พหลโยธิน 24 , รัชโยธิน , เสนานิคม , ม.เกษตรศาสตร์ , กรมป่าไม้ , บางบัว , กรมทหารราบที่ 11 , วัดพระศรีมหาธาตุ , อนุสาวรีย์หลักสี่ , สายหยุด , สะพานใหม่ , โรงพยาบาลภูมิพลอดุลยเดช , พิพิธภัณฑ์กองทัพอากาศ , สถานี กม.25 และสิ้นสุดที่ สถานีคูคต
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42744
Location: NECTEC

PostPosted: 09/12/2014 3:51 pm    Post subject: Reply with quote

ผู้รับเหมาลุ้นเค้กรถไฟฟ้าสายสีเขียว 2.6 หมื่นล้านวันนี้ “บิ๊กจิน” จ่อชง ครม.เคาะสายสีส้มใน ม.ค. 58
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์
9 ธันวาคม 2557 05:26 น.

“ประจิน” ตั้งเป้าดันรถไฟฟ้าสายสีส้ม (ศูนย์วัฒนธรรม-มีนบุรี) วงเงิน 9.5 หมื่นล้านชง ครม.ขออนุมัติ ม.ค. 58 ด้าน รฟม.เตรียมเปิดซองราคาสายสีเขียวเหนือ (หมอชิต-คูคต) วันนี้ รับเหมาลุ้นเค้กรถไฟฟ้า 2.6 หมื่นล้าน พร้อมเตรียมลงนาม MOU รถไฟทางคู่ ไทย-จีน ธ.ค.นี้ เดินหน้าก่อสร้างตามแผน

พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยถึงความคืบหน้าโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าว่า จะเร่งผลักดันโครงการที่ยังล่าช้าให้เป็นรูปธรรม โดยคาดว่าภายในเดือนมกราคม 2558 จะเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อขออนุมัติโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วง ศูนย์วัฒนธรรม-มีนบุรี ระยะทาง 20 กม. วงเงินลงทุนประมาณ 9.5 หมื่นล้านบาท รวมถึงรายงานผลการประกวดราคาก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต วงเงิน 2.6 หมื่นล้านบาท

“ขณะนี้ รฟม.ได้เสนอรายละเอียดโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วง ศูนย์วัฒนธรรม-มีนบุรี มายังกระทรวงคมนาคมแล้ว จึงคาดว่าจะเสนอ ครม.ได้ภายในเดือนมกราคม 58 ส่วนสายสีเขียวเหนือ ช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต ขณะนี้สีเขียวอยู่ระหว่างการประมูล จะต้องรอสรุปและเสนอต่อคณะกรรมการ (บอร์ด) รฟม. พิจารณาก่อนนำเสนอกระทรวงคมนาคม จึงจะเสนอ ครม.เพื่อพิจารณาต่อไป ส่วนสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว-บางกะปิ-สำโรง และสายสีชมพู ช่วงแคราย-มีนบุรีนั้น คาดว่าจะสามารถเสนอต่อ ครม.เพื่อพิจารณาอนุมัติก่อสร้างได้ประมาณกลางปี 2558” พล.อ.อ.ประจิน กล่าว

ส่วนความคืบหน้าความร่วมมือ (MOU) ระหว่างรัฐบาลไทยกับรัฐบาลจีน ในการดำเนินการก่อสร้างโครงการรถไฟทางคู่ขนาดมาตรฐาน (Standard Gauge) 1.435 เมตร เส้นทางหนองคาย-โคราช-แก่งคอย-ท่าเรือมาบตาพุด ระยะทางประมาณ 734 กิโลเมตร และช่วงแก่งคอย-กรุงเทพฯ ระยะทางประมาณ 133 กิโลเมตร ตามกรอบยุทธศาสตร์การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมขนส่งของไทย พ.ศ. 2558-2565 ซึ่งสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ได้ผ่านความเห็นชอบกรอบความตกลงแล้วนั้น ในการลงนามร่วมกันใน MOU นั้น ขณะนี้จะมี 2 แนวทาง คือ ลงนามในระหว่างที่นายกรัฐมนตรีของรัฐบาลจีนเดินทางมาเยือนประเทศไทยในช่วงก่อนวันที่ 25 ธันวาคม หรือลงนามในช่วงที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เดินทางไปเยือนจีนในช่วงปลายเดือนธันวาคมนี้

อย่างไรก็ตาม หลังการลงนามร่วมกันเรียบร้อยแล้ว กระทรวงคมนาคมจะจัดตั้งคณะทำงานในส่วนของกระทรวงคมนาคมและหน่วยเกี่ยวข้องตามมติ ครม.ให้แล้วเสร็จภายในสัปดาห์แรกของเดือนมกราคม 2558 เพื่อทำงานร่วมกัน

ทั้งนี้ การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) แจ้งว่า ในวันนี้ (9 ธ.ค.) จะมีการเปิดซองข้อเสนอซองที่ 3 (ด้านราคา) โครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต สัญญาที่ 1-4 หลังจากที่คณะกรรมการประกวดราราได้ทำการเปิดซองหลักเกณฑ์การประเมินข้อเสนอเอกสารประกวดราคา ซองที่ 1 (ด้านคุณสมบัติ) และซองที่ 2 (ด้านเทคนิค) การประกวดราคาจ้างก่อสร้างโยธา และมีการพิจารณาประเมินข้อเสนอซองที่ 2 (ด้านเทคนิค) เรียบร้อยแล้ว

โดยมีบริษัทสนใจมาซื้อเอกสารไปทั้งสิ้นจำนวน 31 บริษัท โดยปรากฏว่ามีผู้ยื่นซองประมูลในสัญญาที่ 1 (งานก่อสร้างช่วงหมอชิต-สะพานใหม่ ระยะทาง 12 กิโลเมตร) วงเงิน 14,021 ล้านบาท จำนวน 4 กลุ่ม ประกอบด้วย
1. บมจ. ช.การช่าง
2. บมจ.ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น
3. บมจ.อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์
4. กลุ่ม UN-SH-CH Joint Venture (บริษัท ยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด, SINOHYDRO CORPORATION LIMITED, CHINA HARBOUR ENGINEERING COMPANY LIMITED)

สัญญาที่ 2 (งานก่อสร้างช่วงสะพานใหม่-คูคต ระยะทาง 7.5 กิโลเมตร) วงเงิน 6,126 ล้านบาท จำนวน 4 กลุ่ม ประกอบด้วย
1. บมจ. ช.การช่าง
2. บมจ.ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น
3. บมจ.อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์
4. กลุ่ม UN-SH-CH JOINT VENTURE (บริษัท ยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด, SINOHYDRO CORPORATION LIMITED, CHINA HARBOUR ENGINEERING COMPANY LIMITED)

สัญญาที่ 3 (งานก่อสร้างศูนย์ซ่อมบำรุงและพื้นที่จอดรถไฟฟ้า : Depot and Park & Ride) วงเงิน 3,709 ล้านบาท จำนวน 4 กลุ่ม ประกอบด้วย
1. บมจ. ช.การช่าง
2. กลุ่ม STEC-AS-3JOINT VENTURE (บมจ.ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น, A.S.ASSOCIATED ENGINEERING (1964) COMPANY LIMITED )
3. บมจ.อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์
4. กลุ่ม UN-SH-CH Joint Venture (บริษัท ยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด, SINOHYDRO CORPORATION LIMITED , CHINA HARBOUR ENGINEERING COMPANY LIMITED)

และสัญญาที่ 4 (งานระบบราง) วงเงิน 2,609 ล้านบาท จำนวน 4 กลุ่ม ประกอบด้วย
1. บมจ. ช.การช่าง
2. กลุ่ม STEC-AS-3 JOINT VENTURE (บมจ.ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น, A.S.ASSOCIATED ENGINEERING (1964) COMPANY LIMITED)
3. บมจ.อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์
4. กลุ่ม UN-SH-CH Joint Venture (บริษัท ยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด , SINOHYDRO CORPORATION LIMITED, CHINA HARBOUR ENGINEERING COMPANY LIMITED)

//-----------------

ไม่พลิกโผ "ITD-ยูนิคฯ-ซิโน-ไทย" ซิวงานก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีเขียว 4 สัญญา3หมื่นล้านตามคาด
ประชาชาติธุรกิจออนไลน์
9 ธันวาคม 2557 เวลา 15:30:15 น.


ผู้สื่อข่าว "ประชาชาติธุรกิจ" รายงานว่า เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ได้เปิดซองราคาของผู้รับเหมา 4 บริษัทที่เสนอราคาประมูลโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีเขียว (หมอชิต-สะพานใหม่-คูคต) ระยะทาง 18.4 กิโลเมตร วงเงินกว่า 2.9 หมื่นล้านบาท (ราคารวม VAT)

ผลปรากฎว่าสัญญาที่ 1 งานโยธา (หมอชิต-สะพานใหม่) รวมรื้อสะพานข้ามแยก ผู้เสนอราคาต่ำสุด คือ บริษัท อิตาเลีนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) เสนอราคา 15,279.993 ล้านบาท ต่ำกว่าราคากลาง 15,423 ล้านบาทอยู่ที่ 144 ล้านบาท

สัญญาที่ 2 งานโยธา (สะพานใหม่-คูคต) ผู้เสนอราคาต่ำสุด คือ กลุ่มกิจการร่วมค้า UN-SH-CH ประกอบด้วย บมจ.ยูนิคฯ บริษัท ซิโนไฮโดรและบริษัทไชน่าฮาร์เบอร์ จากประเทศจีน เสนอราคา 6,729 ล้านบาท ต่ำจากราคากลาง 6,738 ล้านบาทอยู่ที่ 9 ล้านบาท

สัญญาที่ 3 งานศูนย์ซ่อมบำรุงรักษาและอาคารจอดรถ ผู้เสนอราคาต่ำสุด คือ กลุ่มกิจการร่วมค้า Stec-As (บมจ.ซิโน-ไทย เอ็นจิเนียริ่งแอนด์คอนสตรัคชั่น และ บ.เอ.เอส.แอสโซซิเอทฯ) เสนอราคา 4,042 ล้านบาท ต่ำกว่าราคากลาง 4,079 ล้านบาทอยู่ที่ 37 ล้านบาท

และสัญญาที่ 4 ออกแบบ จัดหาและติดตั้ง งานระบบรางรถไฟฟ้า ผู้เสนอต่ำสุด คือ กลุ่มกิจการร่วมค้า Stec-As (บมจ.ซิโน-ไทย เอ็นจิเนียริ่งแอนด์คอนสตรัคชั่น และ บ.เอ.เอส.แอสโซซิเอทฯ) เสนอราคา 2,842.772 ล้านบาท ต่ำกว่าราคากลาง 2,869.491 ล้านบาทอยู่ที่ 27 ล้านบาท

//------------------

"ITD-ยูนิค-ซิโน-ไทย"แบ่งเค้กรถไฟฟ้าสีเขียว2.9 หมื่นล.
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์
9 ธันวาคม 2557 19:19 น.
เปิดซองสายสีเขียวดันราคาที่ติด
11 ธันวาคม 2557

รฟม.เปิดซองราคาก่อสร้างงานโยธา รถไฟฟ้าสายสีเขียวเหนือ(หมอชิต-คูคต) 4 สัญญา "อิตาเลียนไทย"คว้าสัญญาหลัก วงเงินกว่า 1.5 หมื่นล. ส่วนยูนิคและซิโน-ไทย แบ่งเค้ก 3 สัญญาที่เหลือ 1.4 หมื่นล.ด้าน"ช.การช่าง"ไม่เข้าวิน เสนอสูงกว่าทุกสัญญา รฟม.เร่งสรุปผลต้นปี58 วางแผนเซ็นสัญญาในเม.ย.-พ.ค. ตอกเข็ม มิ.ย.58

นายสัจจพงศ์ สนั่นเสียง รองผู้ว่า (ปฎิบัติการ) การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ในฐานะประธานคณะกรรมการประกวดราคางานโยธาโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีเขียวเหนือ ช่วงหมอชิต – สะพานใหม่ – คูคต สัญญาที่ 1-4 ระยะทาง 18.2 กิโลเมตรวงเงินรวม29,109 ล้านบาท เปิดเผยว่า หลังจากที่ได้ทำการเปิดซองหลักเกณฑ์การประเมินข้อเสนอเอกสารประกวดราคา ซองที่ 1 (ด้านคุณสมบัติ) และ
ซองที่ 2 (ด้านเทคนิค) แล้ว ล่าสุด ได้มีการเปิดซองข้อเสนอซองที่ 3 (ด้านราคา) ผู้ยื่นซองเอกสารประกวดราคาทั้ง 5 ราย ปรากฎว่า

สัญญาที่ 1(งานก่อสร้างช่วงหมอชิต-สะพานใหม่ระยะทาง 12 กิโลเมตร) วงเงิน15,423.48 ล้านบาท (รวมProvisional sum และภาษีมูลค่าเพิ่ม) ปรากฎว่า
1.1 บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) หรือ ITD เสนอราคาต่ำสุดที่ 15,279.99 ล้านบาท
1.2. กลุ่ม UN-SH-CH Joint Venture (บริษัท ยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด , SINOHYDRO CORPORATION LIMITED , CHINA HARBOUR ENGINEERING COMPANY LIMITED) เสนอราคา 15,410 ล้านบาท
1.3. บริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน) หรือ CKเสนอราคา 15,550 ล้านบาท
1.4. บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ STEC เสนอราคาที่15,570 ล้านบาท

สัญญาที่ 2 (งานก่อสร้างช่วงสะพานใหม่-คูคต ระยะทาง 7.5 กิโลเมตร) วงเงินรวม 6,738.44 ล้านบาท ปรากฎว่า
2.1 กลุ่ม UN-SH-CH Joint Venture เสนอราคาต่ำสุดที่ 6,729 ล้านบาท
2.2. บมจ.อิตาเลียนไทย เสนอราคา 6,740 ล้านบาท
2.3. บมจ. ช.การช่าง เสนอราคา 6,890 ล้านบาท
2.4. บมจ.ซิโน-ไทย เสนอราคา 6,912.74 ล้านบาท

สัญญาที่ 3 (งานก่อสร้างศูนย์ซ่อมบำรุงและพื้นที่จอดรถไฟฟ้า Depot and Park & Ride) วงเงินรวม 4,079 ล้านบาท ปรากฎว่า
3.1 กลุ่ม STEC-AS- 3 JOINT VENTURE (บมจ.ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น, A.S.ASSOCIATED ENGINEERING (1964) COMPANY LIMITED ) เสนอราคาต่ำสุด4,042ล้านบาท
3.2. บมจ.ช.การช่าง เสนอราคา 4,210 ล้านบาท
3.3. บมจ.อิตาเลียนไทย เสนอราคา 4,220 ล้านบาท
3.4. กลุ่ม UN-SH-CH Joint Venture เสนอราคาที่4,250ล้านบาท

สัญญาที่ 4 (งานระบบราง) วงเงินรวม 2,869 ล้านบาท ปรากฎว่า
4.1 กลุ่ม STEC-AS-4JOINT VENTURE เสนอราคาต่ำสุด ที่ 2,842ล้านบาท
4.2. บมจ.อิตาเลียนไทย เสนอราคา 2,860 ล้านบาท
4.3. บมจ.ช.การช่าง เสนอราคาที่ 2,950 ล้านบาท
4.4. กลุ่ม UN-SH-CH Joint Venture เสนอราคาที่ 3,020ล้านบาท

โดยนายสัจจพงศ์ กล่าวว่า ขั้นตอนหลังจากนี้ คณะกรรมการประกวดราคาฯ จะพิจารณาความถูกต้องของราคาที่แต่ละรายเสนอ ซึ่งคาดว่าจะสรุปได้ภายในเดือนธันวาคมนี้ และในเดือนมกราคม 2558 จะเชิญผู้ที่ได้รับคัดเลือกในแต่ละสัญญามาเจรจา พร้อมกันนี้คาดว่าจะสามารถสรุปผลประกวดราคาเสนอคณะกรรมการ (บอร์ด) รฟม.ได้ภายในเดือนกุมภาพันธ์ 2558 จากนั้นจะรายงานต่อกระทรวงคมนาคม เพื่อเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ให้รับทราบต่อไป โดยรฟม.คาดว่าจะสามารถลงนามกับผู้รับงานทั้ง 4 สัญญาได้ภายในเดือนเมษายน-พฤษภาคม 2558 และเริ่มงานก่อสร้างในเดือนมิถุนายน 2558 ซึ่งจะใช้เวลาก่อสร้างประมาณ 1,350 วันหรือ 4 ปี

นายสัจจพงศ์กล่าวว่า การเปิดซองราคาครั้งนี้ บริษัทที่เสนอราคาต่ำที่สุดยังไม่ใช่บริษัทผู้รับเหมาที่จะได้งานในแต่ละ สัญญา เพราะต้องตรวจสอบรายละเอียดรายการและวงเงินที่เสนออย่างละเอียดก่อนสรุป ทั้งนี้คาดว่าจะตรวจสอบความ ถูกต้องแล้วเสร็จภายในเดือนธันวาคมนี้ จากนั้นภายในเดือนมกราคมปีหน้า จะเรียกบริษัทเอกชนที่เสนอราคาต่ำที่สุดมา ชี้แจงในราคาที่เสนอมา คาดสรุปเสนอบอร์ดรฟม.เดือนกุมภา พันธ์ และเสนอกระทรวงคมนาคมและคณะรัฐมนตรี คาดลง มือก่อสร้างได้เดือนมิถุนายน 2558 ใช้เวลาก่อสร้าง 1,350 วันทุกสัญญา และในส่วนการออกพระราชกฤษฎีกากำหนดเขต ที่ดินในบริเวณที่จะเวนคืนอยู่ระหว่างการเร่งดำเนินการ โดยได้รับงบประมาณไว้เบื้องต้นในการจัดกรรมสิทธิ์ที่ดินแล้ว ประมาณ 7.80 พันล้านบาทเพื่อเร่งรัดงานก่อสร้างเส้นทางดังกล่าวให้แล้วเสร็จตามแผนต่อไป


ด้านนายวสันต์ คงจันทร์ กรรม การผู้จัดการ บริษัทโมเดอร์น พร็อพเพอร์ตี้ คอนซัลแตนท์ จำกัด ที่ปรึกษาด้านการ พัฒนาโครงการและการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ กล่าวว่า ปัจจุบันการซื้อขายที่ดินตามแนวเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วน ต่อขยาย ช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต มีการซื้อขายเปลี่ยนมืออย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะช่วงหมอชิต-สะพานใหม่ กับช่วง คูคต ลำลูกกา โดยการซื้อขายที่ดินช่วงหมอชิตสะพานใหม่จะเป็นการซื้อขาย เพื่อนำมาพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียม ระดับราคา 1 ล้านบาทต้นๆ ซึ่งราคาซื้อขายที่ดินริมถนนในบริเวณดังกล่าว ปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 1.5 แสนบาทต่อตารางวาในขณะส่วน ของที่ดินในซอยราคาซื้อขายจะอยู่ที่ประมาณ 5-6 หมื่นบาทต่อตารางวา ทั้งนี้คาดว่าหากโครงการรถไฟฟ้ามีความคืบหน้า อย่างเป็นรูปธรรมราคาที่ดินริมถนนจะขยับสูงขึ้นถึง 2-2.5 แสนบาทต่อตารางวา

ในส่วนของที่ดินบริเวณคูคต ลำลูกกา ปัจจุบันมีผู้ประกอบการเข้าไปพัฒนาโครงการอย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่รังสิต คลอง 2 เป็นต้นไป ซึ่งโครงการส่วนใหญ่จะเป็นโครงการแนวราบ เนื่องจากราคาที่ดินยังไม่สูงมากประมาณ 3-5 ล้านบาท ต่อไร่ ซึ่งไม่คุ้มกับที่จะพัฒนาเป็นคอนโดมิเนียม

"รถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนขยายมีความคล้ายคลึงกับสายสีม่วงที่มีวัตถุ ประสงค์เพื่อขนคนในเมืองออกนอกเมือง และขนคน จากนอกเมืองเข้าสู่เมือง ดังนั้นเมื่อเริ่มมีการก่อสร้างเราก็จะได้เห็นโครงการที่อยู่อาศัยเกิดขึ้นเป็นจำนวนมาก เหมือนกับสายสีม่วงในปัจจุบัน" นายวสันต์กล่าวทิ้งท้าย


Last edited by Wisarut on 11/12/2014 5:45 pm; edited 1 time in total
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42744
Location: NECTEC

PostPosted: 10/12/2014 12:01 am    Post subject: Reply with quote

เล็งรวบระบบเดินรถไฟฟ้าสีเขียว
กอง บก.ฐานเศรษฐกิจ อสังหา REAL ESTATE -
คอลัมน์ : อสังหาฯ REAL ESTATE พิมพ์
ออนไลน์เมื่อ วันศุกร์ที่ 05 ธันวาคม 2014 เวลา 09:03 น.
ตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 34 ฉบับที่ 3,007 วันที่ 7 - 10 ธันวาคม พ.ศ. 2557

"บอมบาดิเออร์"เล็งผนึก"บีทีเอส"ชิงแข่งจัดหางานระบบรถไฟฟ้าและอาณัติสัญญาณสายสีเขียวส่วนต่อขยาย ช่วงหมอชิต-คูคต และแบริ่ง-สมุทรปราการ หากได้รับสิทธิ์การเดินรถจากการหารือกับรฟม. "บิ๊กบีทีเอส" ยันคุ้มค่ากว่าหากได้ติดตั้งสายสีเขียวส่วนต่อขยายทั้ง 2 ช่วง เผยในส่วนกรณีผลการหารือร่วมกทม.-รฟม.เรื่องความชัดเจนประเด็นเดโป้ยุติแล้ว

ดอน ลาวัวร์ดอน ลาวัวร์นายดอน ลาวัวร์ ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาธุรกิจและฝ่ายขาย โซนเอเชียแปซิฟิก ด้านระบบสื่อสารอาณัติสัญญาณกลุ่มบริษัท บอมบาดิเออร์ จำกัด เปิดเผย "ฐานเศรษฐกิจ" ว่าตามที่กระทรวงคมนาคม โดยการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) อยู่ระหว่างการเร่งผลักดันโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยาย 2 เส้นทางคือ เส้นทางหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต และเส้นทางแบริ่ง-สมุทรปราการนั้น บริษัทมีความสนใจที่จะร่วมเสนอใช้บริการติดตั้งระบบอาณัติสัญญาณของบอมบาดิเออร์

ทั้งนี้เนื่องจากระบบอาณัติสัญญาณของบริษัทโครงการรถไฟฟ้าบีทีเอส ที่ใช้อยู่ในปัจจุบันจะใช้ระบบของบอมบาดิเออร์ทั้งเส้นทางสายสีลมและสุขุมวิท ดังนั้นหากส่วนต่อขยายสามารถใช้ระบบต่อเนื่องกันไปได้จะคุ้มค่าและเกิดประสิทธิภาพมากกว่าโดยเฉพาะการดูแลบำรุงรักษา

"บอมบาดิเออร์เข้ามาก่อตั้งธุรกิจในประเทศไทยปัจจุบันย่างเข้าสู่ปีที่ 17 จึงมีความพร้อมให้บริการอย่างเต็มที่ ปั้นวิศวกรไทยไว้รองรับกว่า 400 คน พร้อมร่วมงานกับบีทีเอสและรถไฟ-รถไฟฟ้าเส้นทางต่างๆได้ทันที โดยเฉพาะในพื้นที่กรุงเทพมหานครและเมืองต่างๆ ขอเพียงรัฐบาลเร่งผลักดันรถไฟฟ้าเส้นทางต่างๆอย่างจริงจังเท่านั้น ดังนั้นจึงยังเห็นว่าบีทีเอสจะสนใจใช้ระบบของบอมบาดิเออร์เข้าไปดำเนินการติดตั้ง ซึ่งบอมบาดิเออร์ยืนยันมีความพร้อมให้บริการอย่างเต็มที่ คาดว่าจะสามารถพิสูจน์ความไว้วางใจให้บีทีเอสและรฟม.ตลอดจนหน่วยงานอื่นๆได้ไว้วางใจในประสิทธิภาพของระบบอาณัติสัญญาณของบอมบาดิเออร์"

ด้านนายสุรพงษ์ เลาหะอัญญา กรรมการ/ผู้อำนวยการใหญ่ฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด(มหาชน) ผู้ให้บริการเดินรถไฟฟ้าบีทีเอสกล่าวว่า ปัจจุบันยังไม่พบข้อบกพร่องร้ายแรงของการใช้ระบบอาณัติสัญญาณของบอมบาดิเออร์ ดังนั้นหากสามารถนำมาใช้ต่อเนื่องในเส้นทางส่วนต่อขยายก็ยังเชื่อว่าจะเกิดประสิทธิภาพในการเดินรถ ซึ่งที่ผ่านมาได้จัดซื้อระบบของบอมบาดิเออร์มาใช้งานหลายปีแล้ว

"ช่วงก่อนนี้บีทีเอสใช้ระบบอาณัติสัญญาณของซีเมนต์แต่ล่าสุดปรับเปลี่ยนมาใช้ของบอมบาดิเออร์ทุกเส้นทางแล้ว ดังนั้นส่วนต่อขยายที่เหลือคือแบริ่ง-สมุทรปราการ และหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต นั้นหากผลการหารือร่วมระหว่างกรุงเทพมหานคร(กทม.) และรฟม.ให้บีทีเอสได้รับสิทธิ์เข้าไปให้บริการเดินรถก็คงจะใช้งานของระบบบอมบาดิเออร์ต่อไปเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพด้านบริการ ตลอดจนการดูแลบำรุงรักษาให้เป็นไปในแนวทางเดียวกันกับช่วงการใช้งานในเส้นทางปัจจุบัน"

ส่วนความคืบหน้าการเจรจาส่วนต่อขยายหมอชิต-สะพานใหม่-คูคตนั้นว่าขณะนี้ได้ข้อยุติผลการหารือร่วมรฟม.กับกทม.แล้วคือ บีทีเอสจะใช้ศูนย์ซ่อมบำรุง(เดโป้)ที่สมุทรปราการแห่งเดียวโดยไม่จำเป็นต้องใช้เดโป้ที่คูคต
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42744
Location: NECTEC

PostPosted: 15/12/2014 1:22 am    Post subject: Reply with quote

หุ้นกลุ่มรับเหมาเริ่มขยับ รัฐเร่งรถไฟฟ้ากระตุ้น ศก. กลุ่มวัดสุก่อสร้าง-อสังหาฯ ต่อคิว

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์
10 ธันวาคม 2557 21:58 น.


หุ้นรับเหมาขยับตัวรับโครงการลงทุนภาครัฐ หลังรัฐบาลส่งสัญญาณเดินหน้าโครงการรถไฟฟ้า ด้วยการบินไปเซ็นเอ็มโอยูกับจีนปลายเดือนธันวาคม ล่าสุด สายสีเขียวเปิดโผผู้เสนอราคาต่ำสุดใน 4 สัญญาแล้ว สายสีเหลือง-ชมพู-ส่วนต่อขยายสีน้ำเงินจ่อคิวต่อ โบรกฯ คาดวัดสุก่อสร้าง อสังหาฯ เตรียมขยับตาม

เมื่อเร็วๆ นี้ นายสัจจพงศ์ สนั่นเสียง รองผู้ว่าการฝ่ายปฏิบัติการ การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ในฐานะประธานคณะกรรมการประกวดราคาโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต ระยะทาง 18.2 กิโลเมตร กล่าวว่า รฟม.ได้เปิดซองราคาบริษัทที่เข้าร่วมประกวดรวม 4 สัญญา โดยพบว่า สัญญาที่ 1 การก่อสร้างงานโยธา ช่วงหมอชิต-สะพานใหม่ ระยะทาง 12 กิโลเมตร บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) (ITD) เสนอราคาต่ำสุดที่ 15,279.99 ล้านบาท จากราคากลางรวมภาษีประมาณ 15,423 ล้านบาท รองลงมาเป็นกลุ่ม UN-SH-CH Joint Venture นำโดย บมจ.ยูนิค เอ็น จิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น (UNIQ) เสนอราคา 15,410 ล้านบาท

ขณะที่สัญญาที่ 2 การก่อสร้างงานโยธาช่วงสะพานใหม่-คูคต ระยะทาง 7.5 กิโลเมตร กลุ่ม UN-SH-CH Joint Venture เสนอราคาต่ำสุดที่ 6,729 ล้านบาท จากราคากลางรวมภาษีประมาณ 6,738 ล้านบาท รองลงมาเป็น ITD เสนอราคา 6,740 ล้านบาท และ บมจ.ช.การช่าง (CK) เสนอราคา 6,890 ล้านบาท

ส่วนสัญญาที่ 3 การก่อสร้างศูนย์ซ่อมบำรุง และอาคารจอดแล้วจร กลุ่ม STEC-AS-3 Joint venture ประกอบด้วย บมจ.ซิโน-ไทย, A.S.ASSOCIATED ENGINEERING (1964) COMPANY LIMITED เสนอราคา 4,042 ล้านบาท จากราคากลางรวมภาษีประมาณ 4,079 ล้านบาท รองลงมาเป็น บมจ.ช.การช่าง (CK) เสนอราคา 4,210 ล้านบาท และสัญญา 4 งานออกแบบควบคุมการก่อสร้างระบบราง กลุ่ม STEC-AS-3 Joint venture เสนอราคาต่ำสุด ที่ 2,842ล้านบาท จากราคากลางรวมภาษีแล้วประมาณ 2,869 ล้านบาท รองลงมาเป็น ITD เสนอราคา 2,860 ล้านบาท

โดยขั้นตอนหลังจากนี้จะพิจารณาตรวจสอบความถูกต้อง และเรียกบริษัทที่เสนอราคาต่ำสุดมาชี้แจงรายละเอียด ก่อนจะเสนอคณะกรรมการ (บอร์ด) รฟม.พิจารณา ก่อนเสนอ ครม. คาดว่าจะเริ่มก่อสร้างได้ในเดือน มิ.ย.2558 แล้วเสร็จประมาณปี 2562

ทั้งนี้ จากการเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวของ รฟม. มีผลให้เกิดแรงซื้อเข้ามาในหุ้นกลุ่มรับเหมาก่อสร้างมาตั้งแต่ก่อนการเปิดเผยรายชื่อบริษัทที่เสนอราคาต่ำสุด เพราะต่างเชื่อว่า ราคาหุ้นรับเหมารายใหญ่จะได้รับประโยชน์จากการได้งานระบบสาธารณูปโภคพื้นฐานของภาครัฐ ซึ่งเชื่อกันว่า ณ ขณะนี้รัฐบาลมีความพร้อมในเรื่องเม็ดเงินลงทุน และเม็ดเงินที่จะได้รับการสนับสนุนจากต่างประเทศ โดยเฉพาะจีน เพราะในวันที่ 22-23 ธันวาคมนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) จะมีกำหนดเดินทางเยือนสาธารณรัฐประชาชนจีน ตามคำเชิญของผู้นำจีน เพื่อร่วมลงนามร่างบันทึกความร่วมมือ (เอ็มโอยู) ระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทย กับรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ภายใต้การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางรถไฟของประเทศไทย ในกรอบยุทธศาสตร์การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมขนส่งของไทย 2558-2565 ระหว่างรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมของไทย กับประธานสภาเพื่อการพัฒนาและปฏิรูปแห่งชาติของสาธารณประชาชนจีน

นอกจากนี้ จะเร่งดำเนินการพิจารณาโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ลาดพร้าว-สำโรง และสายสีชมพู แคราย-มีนบุรี และโครงการรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายสายสีน้ำเงิน บางแค-พุทธมณฑลสาย 4 เพื่อสรุปรายละเอียดนำเสนอให้ ครม. อนุมัติภายในช่วงกลางปีหน้า

นักวิเคราะห์รายหนึ่งกล่าวว่า การออกมาเปิดเผยผู้เสนอราคาต่ำสุดของรถไฟฟ้าครั้งนี้ หากมองในอีกมุมหนึ่งถือเป็นการส่งสัญญาณจากภาครัฐที่จะเริ่มเดินหน้าการลงทุนระบบโครงสร้างพื้นฐานให้เป็นรูปธรรม และมีความชัดเจนมากขึ้น ซึ่งจะมีผลให้หุ้นในกลุ่มรับเหมาก่อสร้างจะกลับมาเป็นที่สนใจของนักลงทุนอีกครั้งเพื่อเก็งกำไรรับการชนะประมูล ทำให้ทุกตัวโดยเฉพาะรายใหญ่ยังมีโอกาสปรับตัวขึ้นไปได้อีก รวมถึง CK ที่ในรอบสายเขียว แม้จะไม่ใช่ผู้ที่เสนอราคาต่ำสุด แต่ยังมีสายอื่นๆ ที่จะทยอยออกมา

“ต้องยอมรับว่าการฟื้นตัวของภาคการบริโภคในประเทศล่าช้ากว่าที่คาดหวังกันไว้ สิ่งที่จะช่วยให้เศรษฐกิจของประเทศเติบโตได้ก็คงต้องพึ่งการลงทุนจากภาครัฐเป็นหลัก เมื่อมีออกมาในช่วงเดือนสุดท้าย ทำให้แนวโน้มการเติบโตส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นในช่วงไตรมาสแรก หรือครึ่งปีแรก 2558 กลุ่มรับเหมารายใหญ่จะถูกเก็งกำไรจากข่าวเข้ารับงาน ส่วนขนาดกลางและเล็ก เชื่อว่าจะได้เป็นซับคอนแทรกต์หลายราย โดยเฉพาะพวกงานพื้นฐาน ส่วนอีกกลุ่มที่จะขยับตามไปด้วยคือกลุ่มวัสดุก่อสร้าง โดยเฉพาะเหล็ก และปูนซีเมนต์เพราะเมื่อได้ผู้ดำเนินการก่อสร้างจริง ดีมานต์ความต้องการใช้จะต้องมีการเตรียมการรองรับไว้ล่วงหน้า”

ขณะเดียวกัน กลุ่มที่น่าสนใจนอกเหนือจาก 2 กลุ่มที่กล่าวมา นักวิเคราะห์มองไปที่กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ โดยเฉพาะผู้ประกอบการที่มีโครงการติดกับแนวรถไฟฟ้า จะได้รับความสนใจจากนักลงทุนเช่นกัน เพราะนั่นหมายถึงโอกาสที่โครงการจะประสบความสำเร็จในยอดขายมีสูงขึ้น

“ต้องยอมรับว่าเมื่อภาครัฐเร่งการพัฒนาประเทศ หุ้นรับเหมาก่อสร้างจะกลายเป็นกลุ่มที่มีความโดดเด่นทางด้านราคา โดยเฉพาะหุ้น ITD เพราะนักลงทุนส่วนมากให้ความสนมากที่สุดในกลุ่ม ซึ่งเชื่อกันว่าอาจเห็นการขยับตัวขึ้นไปอยู่ระดับ 2 หลัก อย่างไรก็ตาม ต้องบอกว่ามีนักลงทุนรายใหญ่ถือหุ้นนี้อยู่เยอะ การเทขายทำกำไรน่าจะเกิดขึ้นมาก็เป็นได้ นักลงทุนควรระมัดระวังไว้ด้วย”
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42744
Location: NECTEC

PostPosted: 19/12/2014 11:57 am    Post subject: Reply with quote

ความก้าวหน้าการก่อสร้างรถไฟฟ้า จาก แบริ่งไปสมุทรปราการ พฤศจิกายน 2557
http://www.mrta-greenline.net/Index.php?page_id=4420

บีทีเอสจ่อซิวเดินรถสีเขียวใต้ “ประจิน” ยันให้เจรจา คาดสรุปใน ม.ค. 58
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์
19 ธันวาคม 2557 09:55 น.

บีทีเอสดอดพบ “ประจิน” ขอคำยืนยันเจรจาเดินรถสายสีเขียวใต้ ช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ พร้อมเร่งเปิดเดินรถช่วงแบริ่งเชื่อมสถานีสำโรงได้ใน 1 ปี หลังสรุปได้งานเดินรถจริง “ประจิน” ยันเจรจาภายใต้หลักการเดินรถต่อเนื่องประชาชนใช้บริการสะดวก เร่ง รฟม.สรุปผลใน ม.ค. 58

พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ภายหลังนายสุรพงษ์ เลาหะอัญญา กรรมการและผู้อำนวยการใหญ่สายปฏิบัติการ บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ผู้ให้บริการรถไฟฟ้าบีทีเอส เข้าพบ วานนี้ (18 ธ.ค.) ผู้บริหารบีทีเอสเข้ามาขอความชัดเจนนโยบายของกระทรวงคมนาคมเกี่ยวกับการเดินรถไฟฟ้าสายสีเขียวใต้ ช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ ซึ่งได้ยืนยันนโยบายของกระทรวงคมนาคมไปว่ามีแนวคิดในการเจรจากับบีทีเอสให้เป็นผู้เดินรถไฟฟ้าสายสีเขียวใต้ ซึ่งได้มอบหมายให้การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) หารือร่วมกับกรุงเทพมหานคร (กทม.) และบีทีเอสภายใต้หลักการต้องเดินรถต่อเนื่องให้ประชาชนผู้ใช้บริการสะดวกสบาย ในขณะเดียวกันต้องโปร่งใส เป็นประโยชน์

ทั้งนี้ ได้ให้ผู้บริหาร รฟม.เร่งสรุปแนวทางการเดินรถสายสีเขียวใต้เพื่อให้ทันต่อการก่อสร้างงานโยธาที่มีความคืบหน้าไปมากแล้ว โดยคาดว่า รฟม.จะสามารถสรุปและเสนอรายละเอียดมาที่กระทรวงคมนาคมได้ภายในเดือนมกราคม 2558 พร้อมกันนี้ ทาง รฟม.จะต้องเสนอผลสรุปดังกล่าวไปที่อนุกรรมการกลั่นกรองของคณะกรรมการกำกับนโยบายรัฐวิสาหกิจ (ซูเปอร์บอร์ด) คู่ขนานไปด้วยเพื่อเสนอซูเปอร์บอร์ดเห็นชอบต่อไป

ด้านนายสุรพงษ์ เลาหะอัญญา ผู้อำนวยการสายปฏิบัติการ บีทีเอส กล่าวว่า พล.อ.อ.ประจินระบุว่า หากผลการเจรจาได้ข้อสรุปว่าบีทีเอสเป็นผู้เดินรถไฟฟ้าสายสีเขียวใต้จริง ทางกระทรวงคมนาคมต้องการให้เร่งทำงานเพื่อเปิดเดินรถได้เร็วที่สุด ซึ่งบีทีเอสยืนยันว่ามีความพร้อมในการรับงานเดินรถสายสีเขียวใต้มาก โดยจะสามารถเปิดเดินรถต่อจากสถานีแบริ่งของบีทีเอสไปยังสถานีสำโรงของ รฟม.ได้ภายใน 1 ปี และจะสามารถเปิดเดินรถสายสีเขียวใต้ได้ตลอดทั้งเส้นทางภายใน 2 ปีครึ่ง ขณะที่ก่อนหน้านี้ รฟม.ได้มาเจรจากับ กทม. และบีทีเอสแล้ว 2 ครั้งเพื่อนำข้อมูลไปพิจารณา และนำเสนอคณะกรรมการ (บอร์ด) รฟม.ต่อไป

ส่วนการคิดอัตราค่าจ้างเดินรถนั้นคงต้องอ้างอิงจากราคาที่ กทม.จ้างบีทีเอสเดินรถเป็นหลัก เนื่องจากมีรูปแบบการจ้างงานที่คล้ายคลึงกัน โดยหากบีทีเอสเป็นผู้เดินรถสายสีเขียวใต้คาดว่าจำนวนผู้โดยสารจะเพิ่มมากขึ้น โดยในช่วงเริ่มต้นจำนวนผู้โดยสารจะยังไม่มากนัก โดยส่วนใหญ่จะเป็นผู้โดยสารของระบบบีทีเอสเดิม แต่จะเป็นการเดินทางที่ไกลขึ้น โดยปัจจุบีนจำนวนผู้โดยสารรถไฟฟ้าบีทีเอสในวันธรรมดาเฉลี่ยอยู่ที่ 7 แสนคนต่อวัน วันหยุดเสาร์-อาทิตย์อยู่ที่ 5 แสนคนต่อวัน และประเมินว่า ผู้โดยสารจะเติบโตประมาณ 3-4%

“บริษัทมั่นใจและมีความพร้อมในการเร่งรัดการเปิดเดินรถได้เร็วที่สุดหากได้รับเป็นผู้เดินรถสายสีเขียวใต้ ซึ่งภาครัฐจะได้ประโยชน์ตรงในเรื่องราคาที่ไม่แพงหากเปรียบเทียบกับประกวดราคาหาผู้เดินรถรายใหม่ ส่วนประชาชนจะได้ประโยชน์ตรงที่การเดินทางเชื่อมต่อสะดวกสบาย การเดินรถจะสามารถทยอยเปิดภายใน 1 ปีหลังได้ข้อสรุปให้บีทีเอสเดินรถ โดยจะวิ่งทะลุต่อมาจากเส้นทางบีทีเอสในปัจจุบัน มีสถานีสำโรงของสายสีเขียวใต้ที่เป็นสถานีต่อเนื่องกับสถานีแบริ่งของบีทีเอส แต่ทั้งนี้ต้องขึ้นอยู่กับการก่อสร้างงานโยธาด้วยว่าจะเสร็จเร็วแค่ไหน” นายสุรพงษ์กล่าว

สำหรับโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ ระยะทาง 13 กม. วงเงินลงทุนรวม 28,659.3 ล้านบาท มีค่าก่อสร้างงานโยธา 17,233.0 ล้านบาท และค่างานระบบรถไฟฟ้า 9,129.0 ล้านบาท
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42744
Location: NECTEC

PostPosted: 22/12/2014 12:16 pm    Post subject: Reply with quote

“ประจิน”สั่งรฟม.เร่งหารือกทม. สรุปแผนบริหารงานสายสีเขียว
หน้าเศรษฐกิจ
ไทยโพสต์
เสาร์ที่ 20 ธันวาคม 2557- 00:00

“ประจิน” สั่ง รฟม.เร่งเจรจาโยนงานก่อสร้างให้ กทม.รับผิดชอบ แต่มีเงื่อนไขต้องจ่ายค่าลงทุนคืน ด้าน ”รณชิต แย้มสะอาด” ส่อแววแห้วผู้ว่าฯ หลังไม่ผ่านคุณสมบัติ
พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รมว.คมนาคม เปิดเผยว่า การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ไปเร่งเจรจากับทางกรุงเทพมหานคร (กทม.) ซึ่งกำกับดูแลสัมปทานโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงหมอชิต-อ่อนนุช และสนามกีฬาแห่งชาติ-ตากสิน โดยมี บมจ.ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ หรือบีทีเอสซี เป็นผู้รับสัมปทานและบริหารโครงการรถไฟฟ้าบีทีเอส เสนอให้ กทม.รับผิดชอบจ่ายค่าก่อสร้างส่วนต่อขยายสายสีเขียว ช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ ระยะทาง 13 กม. เพื่อ กทม.จะได้สามารถรับผิดชอบการบริหารโครงการและสามารถเชื่อมต่อทั้ง 2 โครงข่ายให้เป็นระบบเดียวกันได้
“ที่ผ่านมานั้นผู้บริหารบริษัท บีทีเอส ได้เข้ามาพบเพื่อหารือ และขอยืนยันความชัดเจน ในนโยบายที่จะให้ กทม.เข้ามารับผิดชอบส่วนต่อขยายสายสีเขียว ช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ ซึ่งทางบีทีเอสก็ได้ให้ความชัดเจนว่ามีความพร้อมที่จะเข้ามารับผิดชอบในการเดินรถอยู่แล้ว แต่ตามขั้นตอนต้องรอให้ทาง รฟม.เจรจากับทาง กทม.และสรุปรายงานกลับมาอีกครั้ง” พล.อ.อ.ประจิน กล่าว
พล.อ.อ.ประจิน กล่าวว่า ส่วนการบริหารเดินรถสายสีเขียว ส่วนต่อขยายช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต ระยะทาง 18.4 กม.นั้น ขณะนี้ขอให้เริ่มต้นในส่วนของงานก่อสร้างก่อน ส่วนการบริหารการเดินรถนั้น จะมาหารือกันอีกครั้ง ขณะนี้ยังไม่มีข้อสรุปว่าจะให้เอกชนรายใดเข้ามาดำเนินการ
นายสุรพงษ์ เลาหะอัญญา ผู้อำนวยการสายปฏิบัติการของบีทีเอส กล่าวว่า บีทีเอสพร้อมที่จะเข้ามาบริหารการเดินรถ ส่วนต่อขยายดังกล่าว และสามารถดำเนินการได้ภายใน 1 ปี เนื่องจากได้เตรียมความพร้อมไว้แล้ว
พล.อ.ยอดยุทธ บุญญาธิการ ประธานคณะกรรมการ(บอร์ด) รฟม. กล่าวถึงความคืบหน้าการสรรหาผู้ว่าฯ รฟม.คนใหม่ ว่ามีผู้สมัครรับการสรรหา 7 ภายในสัปดาห์หน้าจะดำเนินการตรวจสอบคุณสมบัติและแสดงวิสัยทัศน์
แหล่งข่าวจาก รฟม. กล่าวว่า นายรณชิต แย้มสะอาด รักษาการผู้ว่าฯ รฟม. มีแนวโน้มจะไม่ผ่านคุณสมบัติการประเมินตามหลักเกณฑ์ของ รฟม. เนื่องจากในระเบียบการรับสมัครนั้นข้อกำหนดห้ามผู้สมัครเข้ารับการสรรหาทำหน้าที่รักษาการผู้ว่าฯ รฟม. เพื่อป้องกันปัญหาความได้เปรียบเสียเปรียบ.

//---------------------

ช.การช่างชวดเค้กรถไฟฟ้าสีเขียว "บิ๊กจิน" สั่งลุยส้ม-ชมพู-เหลือง
ประชาชาติธุรกิจออนไลน์
15 ธันวาคม 25557 เวลา 14:00:40 น.

ไม่พลิก! 3 ยักษ์รับเหมา "ITD-ยูนิค-ซิโน-ไทย" กวาดเรียบเค้กสายสีเขียว "หมอชิต-คูคต" 4 สัญญา วงเงิน 2.9 หมื่นล้านบาท ตอกเข็มกลางปี′58 ด้าน "ช.การช่าง" ชวดรอประมูลสายสีส้มแสนล้านปีหน้า ดีเดย์ ม.ค. "บิ๊กจิน" เตรียมชง ครม.อนุมัติ

ด้าน พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า จะเร่งผลักดันโครงการรถไฟฟ้าที่ล่าช้าให้เดินหน้าได้โดยเร็ว มีแผนจะนำโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงศูนย์วัฒนธรรมฯ-สุวินทวงศ์ ระยะทาง 20 กม. เงินลงทุน 100,523 ล้านบาท เสนอ ครม.อนุมัติโครงการเดือนมกราคมนี้ จากนั้นกลางปีจะนำรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว-บางกะปิ-สำโรง ระยะทาง 30.4 กม.เงินลงทุน 55,986 ล้านบาท และสายสีชมพู ช่วงแคราย-มีนบุรี ระยะทาง 36 กม. เงินลงทุน 58,264 ล้านบาท เสนอ ครม.อนุมัติโครงการ

นอกจากนี้ จะเร่งรัดสายสีเขียวช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต หลังจาก รฟม.ได้ผู้รับเหมาแล้วจะเร่งรัดให้ทำเรื่องเสนอ ครม.เพื่อให้ลงนามสัญญาก่อสร้างโดยเร็ว รวมถึงสายต่าง ๆ ที่กำลังก่อสร้างทั้งสายสีม่วง (บางซื่อ-บางใหญ่) สายสีน้ำเงิน (บางซื่อ-ท่าพระและหัวลำโพง-บางแค) และสายสีเขียว (แบริ่ง-สมุทรปราการ) และสายสีแดง (บางซื่อ-รังสิต) ให้แล้วเสร็จตามแผนต่อไป
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44618
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 06/01/2015 9:40 am    Post subject: Reply with quote

คมนาคมยกรถไฟฟ้าสายสีเขียวให้ กทม. หวังให้เดินรถเป็นสายเดียวกัน สั่ง รฟม.พิจารณารายละเอียดจบ มี.ค.-ก.พ.นี้
เดลินิวส์ วันอังคาร 6 มกราคม 2558 เวลา 05:01 น.

พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รมว.คมนาคม เปิดเผยว่า ขณะนี้กรุงเทพมหานคร(กทม.)ได้ตอบรับพร้อมรับโอนส่วนต่อขยายโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวใต้ ช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการแล้ว และขณะนี้อยู่ระหว่างเจรจารายละเอียดเรื่องค่าก่อสร้างอยู่ ซึ่งมีความเป็นไปได้ที่จะใช้วิธีการเดียวกับรถไฟฟ้าสายสีเขียวเหนือช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคตเพื่อให้มีผู้บริหารการเดินรถระบบเดียวกันและรายเดียวกัน ซึ่งจะช่วยให้ประหยัดค่าใช้จ่ายในการก่อสร้างศูนย์ซ่อมได้อีก3-4 พันล้านบาทด้วย

“ขณะนี้ได้มอบหมายให้การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย(รฟม.) สรุปรายละเอียดเปรียบเทียบทั้งข้อดีและข้อเสียต่างๆ เสนอให้ตนพิจารณาภายในก.พ.-มี.ค.58 โดยเหตุผลที่โอนส่วนต่อขยายสายสีเขียวช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการให้ กทม.เพื่อให้การเดินรถเป็นระบบเดียวกัน และกทม.ก็ตอบรับแล้ว แต่คณะทำงานอยู่ระหว่างเจรจาพูดคุยและตกลงเรื่องค่าก่อสร้าง ส่วนสายสีเขียวเหนือช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต ก็เช่นเดียวกัน ให้ไปศึกษาเปรียบเทียบข้อดีข้อเสียต่างๆ”

พล.อ.อ.ประจิน กล่าวว่า ในการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีเขียวเหนือช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคตนั้น ขณะนี้เร่งให้มีการลงนามสัญญาก่อสร้างสัญญาที่ 1–2 ส่วนสัญญาที่ 3เป็นสัญญาระบบการเดินรถและศูนย์ซ่อมนั้น หากสามารถหาข้อสรุปให้บีทีเอสเข้ามาดำเนินการต่อจะได้มีความชัดเจนในเรื่องของการไม่ต้องลงทุนก่อสร้างศูนย์ซ่อม

ด้านนางสร้อยทิพย์ ไตรสุทธิ์ ปลัดกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า ภายในเดือน ก.พ. 58จะสรุปโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้า 3 สาย คือสายสีส้ม ช่วงตลิ่งชัน-ศูนย์วัฒนธรรม-มีนบุรี สีเหลือง ช่วงลาดพร้าว-สำโรง และสายสีชมพูช่วงแคราย-มีนบุรี เพื่อเสนอให้พล.อ.อ.ประจิน รมว.คมนาคม พิจารณา ก่อนเสนอให้ ครม. อนุมัติ ส่วนรถไฟสายสีม่วงช่วงบางใหญ่-บางซื่อ งานโยธาจะก่อสร้างเสร็จ 100% ภายในต้นปีนี้ และขณะนี้ยู่ระหว่างรอขบวนรถจากบริษัทผู้ผลิตขบวนแรกจะส่งถึงไทยและทำการทดสอบระบบการเดือนรถภายในเดือนก.ย.นี้ และจะสามารถเปิดเดินรถอย่างเป็นทางการในปี 59
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42744
Location: NECTEC

PostPosted: 06/01/2015 6:19 pm    Post subject: Reply with quote

กทม.รับเดินรถสายสีเขียว
ข่าวเศรษฐกิจ
ไทยโพสต์
6 มกราคม 2558

“ประจิน” เล็งอนุมัติ กทม.เดินรถส่วนต่อขยายสายสีเขียวเหนือ-ใต้ พร้อมเร่งเดินหน้าการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายส้ม-เหลือง-ชมพู คาด ก.พ.58 ได้ข้อสรุปและ ชง ครม.
พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รมว.คมนาคม เปิดเผยว่า กรุงเทพมหานคร (กทม.) ได้ตอบรับเข้าบริหารงานเดินรถส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าสายสีเขียวใต้ช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจาตกลงรายละเอียดค่าก่อสร้าง และมีความเป็นไปได้ที่จะโอนการบริการการเดินรถส่วนต่อขยายสายสีเขียวเหนือช่วงหมอชิต-สะพายใหม่-คูคตให้กับ กทม.เช่นกัน เพื่อให้มีผู้บริหารการเดินรถรายเดียวและระบบเดียวกัน ซึ่งจะประหยัดค่าใช้จ่ายในการก่อสร้างศูนย์ซ่อมได้อีกประมาณ 3–4 พันล้านบาทด้วย จึงได้มอบหมายให้การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) สรุปรายละเอียดเปรียบเทียบทั้งข้อดีและข้อเสียต่างๆ เสนอให้ตนพิจารณาภายใน ก.พ.-มี.ค.58 นี้
นางสร้อยทิพย์ ไตรสุทธิ์ ปลัดกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า ภายในเดือน ก.พ.58 จะมีความชัดเจนในโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้า 3 สาย คือ สายสีส้ม ช่วงตลิ่งชัน-ศูนย์วัฒนธรรม-มีนบุรี สีเหลือง ช่วงลาดพร้าว-สำโรง และสายสีชมพู ช่วงแคราย-มีนบุรี เพื่อเสนอต่อ พล.อ.อ.ประจินพิจารณา และขออนุมัติจากคณะรัฐมนตรี(ครม.) เพื่อดำเนินโครงการให้เป็นไปตามแผน โดยจะประกวดราคาภายในปี 2558 นี้
รายงานข่าวจากการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) แจ้งว่า เมื่อวันที่ 4 ม.ค.ที่ผ่านมา ได้รับมอบหัวรถจักรใหม่จากผู้ผลิตจำนวน 2 คันแรกที่ท่าเรือแหลมฉบังเรียบร้อยแล้ว โดยหัวรถจักรทั้ง 2 คันนี้ เป็นส่วนหนึ่งของหัวรถจักรที่ ร.ฟ.ท.ได้รับอนุมัติจากคณะรัฐมนตรีให้จัดหารถจักรใหม่จำนวน 20 คัน เพื่อใช้ลากจูงรถสินค้า.

//--------------------------------

กทม.ตอบรับโอนรถไฟฟ้าแบริ่ง-สมุทรปราการแล้ว

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์
6 มกราคม 2558 15:07 น.

พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า กรุงเทพมหานครตอบรับที่จะโอนส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนใต้ แบริ่ง-สมุทรปราการ ระยะทาง 12.8 กิโลเมตรแล้ว โดยอยู่ระหว่างการเจรจาข้อตกลงค่าก่อสร้าง และอาจใช้วิธีเดียวกันนี้กับรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนเหนือ ช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต เพื่อให้มีผู้บริการการเดินรถระบบเดียวและรายเดียวกัน ซึ่งจะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในการก่อสร้างศูนย์ซ่อมได้ประมาณ 3,000-4,000 ล้านบาท
นอกจากนี้ กระทรวงคมนาคมเตรียมส่งข้อมูลโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้า 3 สายให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาภายในเดือนนี้ คาดจะสามารถประกวดราคาได้ทั้ง 3 เส้นทางภายในเดือนนี้
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42744
Location: NECTEC

PostPosted: 14/01/2015 1:25 pm    Post subject: Reply with quote

เลือกที่ปรึกษาเพื่อการก่อสร้าง สายหมอชิต - คูคต
บริษัทยื่นข้อเสนอเป็นที่ปรึกษา โครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว
ช่วงหมอชิต – สะพานใหม่ – คูคต
ตามที่ การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ได้ประกาศเชิญชวนบริษัทที่สนใจมารับเอกสารการจัดจ้างที่ปรึกษาเพื่อศึกษาความเหมาะสม ออกแบบรายละเอียด และจัดทำเอกสารประกวดราคา โครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงหมอชิต – สะพานใหม่ – คูคต ในระหว่างวันที่ 1-17 ตุลาคม 2557 และมีบริษัทที่สนใจมาขอรับเอกสารฯ จำนวน 38 รายนั้น ปรากฎว่าเมื่อสิ้นสุดเวลาการยื่นข้อเสนอเข้ารับพิจารณาคัดเลือกเป็นที่ปรึกษาฯ (วันที่ 18 ธันวาคม 2557) พบว่ามีกลุ่มบริษัทมายื่นข้อเสนอฯ จำนวน 2 ราย โดยมีบริษัทหลักและบริษัทในกลุ่มประกอบด้วย
กลุ่มบริษัทที่ 1 กลุ่มบริษัท SEA ประกอบด้วย
1. SEA – Consult Engineering Co.,Ltd. เป็นบริษัทนำ
2. Epsilon Co., Ltd.
3. Dhara Consultants Co., Ltd.
4. Project Planning Service PLC
5. The Louise Berger Group, Inc.
กลุ่มบริษัทที่ 2 กลุ่มบริษัท AEC ประกอบด้วย
1. บริษัท เอเชี่ยน เอ็นจิเนียริ่ง คอนซัลแต้นส์ จำกัด เป็นบริษัทนำ
2. บริษัท อินเด็กซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล กรุ๊ป จำกัด
3. บริษัทโชติจินดา มูเชล คอนซัลแตนท์ จำกัด
4. บริษัท เอ็ม เอ เอ คอนซัลแตนท์ จำกัด
5. บริษัท พีบี เอเชีย จำกัด
6. SYSTRA ASIA PACIFIC
สำหรับขั้นตอนต่อไป ทาง รฟม. จะดำเนินการพิจารณาคุณสมบัติและประเมินข้อเสนอด้านเทคนิคของกลุ่มบริษัทที่ยื่นข้อเสนอฯ เพื่อคัดเลือกกลุ่มบริษัทมาเป็นที่ปรึกษาบริหารโครงการและควบคุมการก่อสร้างงานโยธา โครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงหมอชิต – สะพานใหม่ – คูคต ต่อไป
https://www.facebook.com/permalink.php?story_fbid=1548302832053112&id=1409174012632662
Back to top
View user's profile Send private message
Display posts from previous:   
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> รถไฟฟ้า (BTS) และรถไฟฟ้าใต้ดิน (MRT) All times are GMT + 7 Hours
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 16, 17, 18 ... 100, 101, 102  Next
Page 17 of 102

 

Share |

Jump to:  
You cannot post new topics in this forum
You cannot reply to topics in this forum
You cannot edit your posts in this forum
You cannot delete your posts in this forum
You cannot vote in polls in this forum

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group


Forums ©