Ads Service

Main Menu

 
icon_home.gif Homepage
icon_community.gif Members Zone
· ข้อมูลส่วนตัว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ข่าวสารส่วนตัว
· บริการเว็บเมล์
· กระดานข่าว
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก กระดานฝากข้อความ
· รถไฟไทยแกลลอรี่
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก รายนามสมาชิก
· แบบสำรวจ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก สมุดเยี่ยม
· เกี่ยวกับสมาชิก
favoritos.gif News & Stories
· เรื่องทั้งหมด
· เนื้อหาสาระ
· เรื่องสำหรับพิมพ์
· ยอดฮิตติดอันดับ
· ค้นหาข่าวสาร
· ค้นหากระทู้เก่า
nuke.gif Contents
· กำหนดเวลาเดินรถ
· ประเภทขบวนรถโดยสาร
· ข้อมูลเส้นทางรถไฟ
· แผนที่เส้นทางรถไฟ
· อัตราค่าโดยสาร
· คำนวณค่าโดยสารรถไฟ
· รูปแบบการให้บริการรถไฟ
· หมายเลขโทรศัพท์ที่สำคัญ
· ทริปท่องเที่ยวโดยรถไฟ
· ระบบติดตามขบวนรถ
som_downloads.gif Services
· Downloads
· GoogleSearch
· Hotels Booking
· FlashGames
· Wallpaper 1
· Wallpaper 2
· Wallpaper 3
· Wallpaper 4
icon_members.gif Information
· เกี่ยวกับเรา
· นโยบายความเป็นส่วนตัว
· แผนผังเว็บไซต์ฯ
ใช้งานได้เฉพาะสมาชิก ส่งข้อแนะนำติชม
· ติดต่อลงโฆษณา
· แนะนำและบอกต่อ
· สถิติทั้งหมด
· สำหรับผู้ดูแลระบบ
 

Sponsors

 

Rotfaithai.Com

 

Visitors

 


มีผู้เข้าเยี่ยมชม
สมาชิก:311286
ทั่วไป:13267886
ทั้งหมด:13579172
คน ตั้งแต่
01-08-2004
 


Rotfaithai.Com :: View topic - ข่าวและภาพรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน
 Forum FAQForum FAQ   SearchSearch   UsergroupsUsergroups   ProfileProfile   Log in to check your private messagesLog in to check your private messages   Log inLog in 

ข่าวและภาพรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 129, 130, 131 ... 228, 229, 230  Next
 
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> รถไฟฟ้า (BTS) และรถไฟฟ้าใต้ดิน (MRT)
View previous topic :: View next topic  
Author Message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42722
Location: NECTEC

PostPosted: 22/01/2015 1:19 pm    Post subject: Reply with quote

บอร์ดBMCLมีมติควบบริษัทกับBECLสร้างศักยภาพการแข่งขันทางธุรกิจ
โดย ณัฐญา เนตรหิน
คอลัมน์ : ข่าวรายวัน - ข่าวในประเทศ
ฐานเศรษฐกิจ
วันพุธที่ 21 มกราคม 2558 เวลา 22:12 น.

ดร.สมบัติ กิจจาลักษณ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท รถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือBMCLเปิดเผยว่าที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ ครั้งที่ 1/2558 เมื่อวันที่ 21 มกราคม 2558 ได้มีมติในเรื่องสำคัญต่างๆ ดังต่อไปนี้

การควบบริษัทระหว่างบริษัท รถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) กับ บริษัท ทางด่วนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (BECL)

คณะกรรมการบริษัทฯ อนุมัติ และเสนอให้ที่ประชุมผู้ถือหุ้นพิจารณาอนุมัติการควบบริษัทระหว่างบริษัทฯ กับ BECL เนื่องจากการควบบริษัทระหว่างบริษัทฯ และ BECL ถือเป็นกลยุทธ์ในการผสานความแข็งแกร่งของทั้งสองบริษัทเข้าด้วยกัน เพื่อเพิ่มความหลากหลายของการให้บริการ สร้างศักยภาพการแข่งขันทางธุรกิจและเพิ่มโอกาสเติบโตในอนาคต รวมทั้งเสริมสร้างภาพลักษณ์ของหลักทรัพย์ของบริษัทใหม่ที่เกิดจากการควบ


ผลประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับจากการควบบริษัทการควบบริษัทระหว่างบริษัทฯ กับ BECL ถือเป็นกลยุทธ์ในการผสานความแข็งแกร่งของทั้งสองบริษัทเข้าด้วยกันเพื่อ 1) ขยายและต่อยอดธุรกิจ 2) เสริมสร้างศักยภาพของบริษัทใหม่ 3) ผสานจุดแข็งของแต่ละบริษัท 4) เพิ่มโอกาสในการลงทุน ทั้งในและนอกประเทศ และ 5) เสริมสร้างภาพลักษณ์ในมุมมองของนักลงทุน

การควบบริษัทจะเป็นการผสานจุดแข็งระหว่างบริษัทฯ และ BECL ซึ่งจะส่งเสริมประโยชน์ให้แก่บริษัทใหม่ สอดคล้องต่อการดำเนินธุรกิจของแต่ละบริษัท โดยประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับจากการควบบริษัทนั้น บริษัทฯ จะมีความแข็งแกร่งของฐานะทางการเงินเพิ่มมากขึ้นและมีความเพียงพอของแหล่งเงินทุนที่มีต้นทุนทางการเงินที่เหมาะสม เพื่อการแข่งขันในการเข้าลงทุนในโครงการขนาดใหญ่ได้อย่างต่อเนื่องในอนาคต



ทั้งนี้ ในการควบบริษัทจะมีการจัดสรรหุ้นของบริษัทใหม่ให้แก่ผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ และผู้ถือหุ้นของ BECL ที่มีชื่อปรากฎในสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้นของแต่ละบริษัทดังกล่าว ณ วันและเวลาที่จะกำหนดกันต่อไป ในอัตราส่วน1 หุ้นเดิมในบริษัทฯต่อ 0.42050530 หุ้นในบริษัทใหม่1 หุ้นเดิมใน BECLต่อ 8.65537841 หุ้นในบริษัทใหม่

ในการจัดสรรหุ้นในบริษัทใหม่ให้แก่ผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ และผู้ถือหุ้นของ BECL ดังกล่าว หากมีเศษหุ้นที่เกิดขึ้นจากการคำนวณตามอัตราส่วนดังกล่าวมากกว่าหรือเท่ากับ 0.5 หุ้น จะมีการปัดเศษหุ้นนั้นขึ้น ในกรณีที่เศษหุ้นนั้นน้อยกว่า 0.5 หุ้น จะมีการปัดเศษหุ้นนั้นทิ้ง และบริษัทใหม่จะจ่ายเงินชดเชยให้แก่ผู้ถือหุ้นที่ไม่ได้รับการจัดสรรหุ้นของบริษัทใหม่เฉพาะในส่วนของเศษหุ้นที่ถูกปัดทิ้งนั้นในราคาและภายในเวลาที่จะมีการกำหนดกันต่อไป ทั้งนี้อาจจะมีการพิจารณารายละเอียดและหลักการในการปัดเศษหุ้นเพิ่มเติมเพื่อความเหมาะสมต่อไป

ในการนี้ เพื่อให้จำนวนหุ้นของบริษัทใหม่เป็นไปตามที่กำหนด บริษัทฯ ได้รับทราบว่า บริษัท ช. การช่างจำกัด (มหาชน) (บมจ.ช.การช่าง) จะรับเป็นผู้เกลี่ยหุ้น ("Balancer") ในการปัดเศษหุ้น และชำระเงินแก่ หรือรับเงินชดเชยจากบริษัทใหม่ในการเกลี่ยหุ้นดังกล่าว ดังนั้น ในการปัดเศษหุ้นและรับเงินชดเชยจากบริษัทใหม่ในการเกลี่ยหุ้นดังกล่าวดังนั้นในกรณีที่จำนวนหุ้นที่เรียกชำระแล้วของบริษัทใหม่ที่ได้จากการคำนวณตามอัตราข้างต้นมีจำนวนรวมทั้งสิ้นมากกว่า 15,285,000,000 หุ้น หรือจำนวนหุ้นที่เรียกชำระแล้วของบริษัทฯ และ BECL รวมกันก่อนการจดทะเบียนควบบริษัทบริษัทใหม่จะจัดสรรหุ้นบริษัทใหม่ให้แก่ บมจ.ช.การช่างเป็นจำนวนน้อยลงเพื่อให้จำนวนรวมของหุ้นที่เรียกชำระแล้วของบริษัทใหม่เท่ากับ 15,285,000,000 หุ้น โดยบริษัทใหม่จะจ่ายเงินชดเชยให้แก่ บมจ.ช.การช่างในส่วนของหุ้นบริษัทใหม่ที่ได้รับการจัดสรรน้อยลงนี้ในอัตราที่เท่ากับค่าชดเชยต่อ 1 หุ้น ในบริษัทใหม่ที่บริษัทใหม่จะจ่ายให้ผู้ถือหุ้นที่ถูกปัดเศษหุ้นทิ้งคูณด้วยจำนวนหุ้นในบริษัทใหม่ที่จัดสรรให้บมจ.ช.การช่างน้อยลงและในกรณีที่จำนวนหุ้นที่เรียกชำระแล้วของบริษัทใหม่ที่ได้จากการคำนวณตามอัตราข้างต้นมีจำนวนรวมทั้งสิ้นต่ำกว่า15,285,000,000 หุ้น บริษัทใหม่จะจัดสรรหุ้นในบริษัทใหม่ให้บมจ.ช.การช่างเป็นจำนวนมากขึ้นเพื่อให้จำนวนรวมของหุ้นที่เรียกชำระแล้วของบริษัทใหม่เท่ากับ 15,285,000,000 หุ้น โดยบมจ.ช.การช่างจะทำการชำระค่าหุ้นในบริษัทใหม่ที่ได้รับจัดสรรเพิ่มนั้นในอัตราที่เท่ากับค่าชดเชยต่อ 1 หุ้นในบริษัทใหม่ที่บริษัทใหม่จะจ่ายให้ผู้ถือหุ้นที่ถูกปัดเศษหุ้นทิ้งคูณด้วยจำนวนหุ้นในบริษัทใหม่ที่จัดสรรให้บมจ.ช.การช่างเพิ่มขึ้น

(ข) การจัดให้มีผู้ซื้อหุ้นของผู้ถือหุ้นที่คัดค้าน และรับทราบการแสดงเจตจำนงของบริษัท ช.การช่างจำกัด (มหาชน) และรับทราบว่าอาจมีบุคคลอื่นเข้าทำหน้าที่เป็นผู้ซื้อหุ้นของผู้ถือหุ้นที่คัดค้านการควบบริษัทนอกจากบริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน)

คณะกรรมการบริษัทฯ ได้อนุมัติการจัดให้มีผู้ซื้อหุ้นของผู้ถือหุ้นที่คัดค้านการควบบริษัทและรับทราบการแสดงเจตจำนงของ บมจ.ช.การช่าง ในการเป็นผู้ซื้อหุ้นของบริษัทฯ จากผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ ที่คัดค้านการควบบริษัทตามหลักเกณฑ์ และเงื่อนไขที่ บมจ.ช.การช่าง จะกำหนดต่อไป และรับทราบว่าอาจมีบุคคลอื่นเข้าทำหน้าที่เป็นผู้ซื้อหุ้นของผู้ถือหุ้นที่คัดค้านการควบบริษัทนอกจาก บมจ.ช.การช่าง

(ค) การแต่งตั้งที่ปรึกษาเกี่ยวข้องกับธุรกรรมการควบบริษัทเพื่อให้ผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ ได้มีข้อมูลในการตัดสินใจพิจารณาเกี่ยวกับการควบบริษัทระหว่างบริษัทฯ และ
BECL อย่างครบถ้วนเพียงพอคณะกรรมการบริษัทฯ ได้อนุมัติแต่งตั้งให้ (1) บริษัท แกรนท์ ธอนตัน เซอร์วิสเซสจำกัดเป็นที่ปรึกษาทางการเงินอิสระ ในการให้ความเห็นต่อผู้ถือหุ้นในการพิจารณาลงมติเกี่ยวกับการควบบริษัทระหว่างบริษัทฯ และ BECL ในครั้งนี้ โดยบริษัท แกรนท์ ธอนตัน เซอร์วิสเซส จำกัดได้เสนอขอบเขตการปฏิบัติหน้าที่ที่ปรึกษาทางการเงินอิสระซึ่งเป็นไปตามข้อกำหนดของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ และตามเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (2) บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันซ่า จำกัดเป็นที่ปรึกษาทางการเงิน (3) บริษัท เบเคอร์ แอนด์ แม็คเค็นซี่ จำกัดและ บริษัท เดอะลีจิสท์ จำกัด เป็นที่ปรึกษากฎหมาย และ (4) บริษัท อีวาย คอร์ปอเรท เซอร์วิสเซส จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางบัญชีและภาษี

(ง) การมอบอำนาจเพื่อการดำเนินการอันเกี่ยวเนื่องกับการควบบริษัทคณะกรรมการบริษัทฯ ได้อนุมัติการมอบหมายอำนาจให้คณะกรรมการบริหาร ประธานกรรมการ กรรมการผู้จัดการ และ/หรือบุคคลอื่นที่คณะกรรมการบริหาร ประธานกรรมการ หรือกรรมการผู้จัดการมอบหมายมีอำนาจดำเนินการใด ๆ ที่จำเป็นหรือเกี่ยวข้องกับการควบบริษัท รวมถึงการกำหนด และ/หรือเปลี่ยนแปลงรายละเอียด วิธีการ ระยะเวลา ขั้นตอนการดำเนินการ หรือเงื่อนไขอันจำเป็นหรือเกี่ยวข้องกับการควบบริษัท หรือธุรกรรมที่เกี่ยวข้อง ซึ่งรวมถึงการหารือ ประสานงาน การจัดเตรียมหรือดำเนินการเกี่ยวกับการขอความเห็นชอบ อนุญาต อนุมัติ หรือผ่อนผัน ต่อหน่วยงาน เจ้าหนี้ หรือบุคคลที่เกี่ยวข้อง การดำเนินการชำระหนี้ และวางหลักประกันกับเจ้าหนี้ที่คัดค้าน รวมถึงการจัดหาแหล่งเงินทุนเพื่อใช้ในการควบบริษัท ตลอดจนการจัดทำข้อมูลสารสนเทศที่จะนำเสนอต่อที่ประชุมผู้ถือหุ้นเพื่อพิจารณาในเรื่องการควบบริษัท และพิจารณาและอนุมัติให้เสนอให้ประชุมผู้ถือหุ้นพิจารณาอนุมัติมอบหมายให้คณะกรรมการ คณะกรรมการบริหาร ประธานกรรมการ กรรมการผู้จัดการ และ/หรือบุคคลอื่นที่คณะกรรมการ คณะกรรมการบริหาร ประธานกรรมการ หรือกรรมการผู้จัดการมอบหมายมีอำนาจดำเนินการใด ๆ ที่จำเป็นหรือเกี่ยวข้องกับการควบบริษัท หรือธุรกรรมที่เกี่ยวข้อง

(จ) การโอนบัตรส่งเสริมการลงทุนของบริษัทฯ ให้แก่บริษัทใหม่ในกรณีที่มีการอนุมัติการควบบริษัท คณะกรรมการบริษัทฯอนุมัติการโอนบัตรส่งเสริมการลงทุนของบริษัทฯ ให้แก่บริษัทใหม่ และมอบหมายให้คณะกรรมการบริหาร ประธานกรรมการ กรรมการผู้จัดการ และ/หรือบุคคลอื่นที่คณะกรรมการบริหาร ประธานกรรมการ หรือกรรมการผู้จัดการมอบหมายมีอำนาจดำเนินการเกี่ยวกับการโอนบัตรส่งเสริมการลงทุนของบริษัทฯ ให้แก่บริษัทใหม่ และมีอำนาจดำเนินการแทนบริษัทฯ ในการดำเนินการต่างๆ ที่จำเป็นต่อการโอนบัตรส่งเสริมการลงทุนของบริษัทฯ ให้แก่บริษัทใหม่และพิจารณาอนุมัติให้คณะกรรมการบริษัทฯ เสนอให้ที่ประชุมผู้ถือหุ้นพิจารณาอนุมัติการโอนบัตรส่งเสริมการลงทุนของบริษัทฯ ให้แก่บริษัทใหม่ และพิจารณามอบหมายให้ คณะกรรมการบริหาร ประธานกรรมการกรรมการผู้จัดการ และ/หรือบุคคลอื่นที่ คณะกรรมการบริหาร ประธานกรรมการ หรือกรรมการผู้จัดการมอบหมาย มีอำนาจดำเนินการเกี่ยวกับการโอนบัตรส่งเสริมการลงทุนของบริษัทฯ ให้แก่บริษัทใหม่ และมีอำนาจดำเนินการแทนบริษัทฯ ในการดำเนินการต่างๆ ที่จำเป็นต่อการโอนบัตรส่งเสริมการลงทุนของบริษัทฯ ให้แก่บริษัทใหม่

ที่ประชุมฯยังมีมติเรื่องการลดทุนจดทะเบียนและทุนชำระแล้วของบริษัทฯ โดยการลดมูลค่าหุ้นแต่ละหุ้นให้ต่ำลง เพื่อล้างขาดทุนสะสม

คณะกรรมการบริษัทฯอนุมัติและเสนอให้ที่ประชุมผู้ถือหุ้นพิจารณาอนุมัติลดทุนจดทะเบียนและทุนชำระแล้วของบริษัทฯเพื่อล้างขาดทุนสะสมก่อนดำเนินการควบบริษัทซึ่งตามงบการเงินเฉพาะกิจการสิ้นสุดณวันที่ 30 กันยายน 2557 ของบริษัทฯนั้นบริษัทฯมีผลขาดทุนสะสมเป็นจำนวน 13,034,982,166.01 บาท ดังนั้นบริษัทฯจะลดทุนจดทะเบียนและทุนชำระแล้วเพื่อชดเชยผลขาดทุนสะสมตามงบการเงินเฉพาะกิจการสิ้นสุดณวันที่ 30 กันยายน 2557 ให้เหลือน้อยที่สุดซึ่งจะทำให้มูลค่าหุ้นที่ตราไว้ของบริษัทฯลดลงเหลือ 0.3641 บาทแต่อย่างไรก็ตามในการกำหนดมูลค่าหุ้นที่ตราไว้ตามแนวปฏิบัติของกระทรวงพาณิชย์จะกำหนดตำแหน่งทศนิยมของมูลค่าหุ้นที่ตราไว้ได้มากที่สุดเพียงสองตำแหน่งเท่านั้นดังนั้นบริษัทฯจึงอนุมัติและเสนอให้ที่ประชุมผู้ถือหุ้นพิจารณาอนุมัติลดทุนจดทะเบียนและทุนชำระแล้วของบริษัทฯเพื่อชดเชยผลขาดทุนสะสมตามงบการเงินเฉพาะกิจการสำหรับปีสิ้นสุดณวันที่ 30 กันยายน 2557 จากจำนวน 20,500,000,000 บาท ลดลง 12,915,000,000 บาทเป็น 7,585,000,000 บาท โดยการลดมูลค่าที่ตราไว้ของหุ้นแต่ละหุ้นลงจากมูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท เหลือมูลค่าที่ตราไว้จำนวนหุ้นละ 0.37 บาท โดยภายหลังการลดทุนดังกล่าวบริษัทฯจะยังมีขาดทุนสะสมคงเหลือจำนวน 119,982,166.01 บาททั้งนี้การลดทุนในครั้งนี้จะไม่ทำให้ทุนจดทะเบียนของบริษัทฯเหลือต่ำกว่าจำนวนหนึ่งในสี่ของทุนทั้งหมด

สำหรับการจัดประชุมผู้ถือหุ้นเพื่อพิจารณาการควบบริษัทการลดทุนจดทะเบียนและทุนชำระแล้วและเรื่องที่เกี่ยวข้องต่างๆบริษัทฯจะจัดให้มีการพิจารณาเรื่องดังกล่าวในการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2558 ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 2 เมษายน 2558 ในเวลาและสถานที่ที่จะได้มีการกำหนดต่อไป โดยกำหนดให้วันที่ 5 มีนาคม 2558 เป็นวันกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิเข้าร่วมประชุมสามัญผู้ถือหุ้น (Record Date) โดยจะรวบรวมรายชื่อตามมาตรา 225 ของพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 (และที่มีการแก้ไขเพิ่มเติม) ด้วยวิธีปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหุ้นในวันที่ 6 มีนาคม 2558 ทั้งนี้ บริษัทฯ ได้มอบหมายให้คณะกรรมการบริหาร ประธานกรรมการ กรรมการผู้จัดการ และ/หรือบุคคลอื่นที่ได้รับการแต่งตั้งจากคณะกรรมการบริหาร ประธานกรรมการ หรือกรรมการผู้จัดการมีอำนาจดำเนินการใด ๆ ที่จำเป็นหรือเกี่ยวข้องกับการจัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2558


ทั้งนี้ชื่อของบริษัทที่จะควบเข้าด้วยกัน และชื่อของบริษัทใหม่ที่เกิดจากการควบบริษัท ("บริษัทใหม่")การควบบริษัทระหว่าง บริษัทฯ กับ BECL เป็นไปตามวิธีการแห่งพระราชบัญญัติบริษัทมหาชนจำกัด พ.ศ. 2535 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ("พรบ. บริษัทมหาชน") โดยที่ผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ และผู้ถือหุ้นของ BECL จะมีการประชุมผู้ถือหุ้นร่วมกัน เพื่อพิจารณากำหนดชื่อของบริษัทใหม่ รวมทั้งพิจารณากำหนดเรื่องต่าง ๆ เกี่ยวกับบริษัทใหม่ เช่น ทุน การจัดสรรหุ้นของบริษัทใหม่ หนังสือบริคณห์สนธิ ข้อบังคับ การเลือกตั้งกรรมการและผู้สอบบัญชีใหม่ของบริษัทใหม่ เป็นต้น ตามระยะเวลาที่กฎหมายกำหนดต่อไป
Back to top
View user's profile Send private message
Mongwin
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 24/09/2007
Posts: 44592
Location: ทางรถไฟสายสุพรรณบุรี สายสงขลา

PostPosted: 24/01/2015 8:52 pm    Post subject: Reply with quote

เปิดไพ่ "BTS-BMCL" ยึดสัมปทานเดินรถไฟฟ้า "เขียว-น้ำเงิน"
มติชนออนไลน์ วันที่ 24 มกราคม พ.ศ. 2558 เวลา 19:45:14 น.

ปี 2558 สัมปทานการเดินรถไฟฟ้าส่วนต่อขยาย 2 สาย 2 สีที่ยื้อข้ามปีน่าจะได้ข้อยุติ โดยเฉพาะสีน้ำเงิน"บางซื่อ-ท่าพระ และหัวลำโพง-บางแค" 27 กม. วงเงิน 22,000 ล้านบาท โครงข่ายต่อเชื่อมกับรถไฟฟ้าใต้ดินปัจจุบันวิ่งเป็นวงกลมเชื่อมการเดินทางกรุงเทพฯ ฝั่งพระนครและฝั่งธนฯเข้าด้วยกัน

BMCL ฮุบเค้กม่วง-น้ำเงิน

ในปีนี้น่าจะได้ข้อสรุปสุดท้ายหลัง "รฟม.-การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย" ชั่งใจอยู่ร่วมปีจะเดินหน้ายังไงไม่ให้เกิดข้อครหา ระหว่างเจรจาตรงรายเดิม "บีเอ็มซีแอล-บมจ.รถไฟฟ้ากรุงเทพ" ธุรกิจในเครือยักษ์รับเหมา "ช.การช่าง" ของตระกูลตรีวิศวเวทย์ ที่เพิ่งได้สัมปทานสายสีม่วง "บางซื่อ-บางใหญ่" 23 กม. เวลา 30 ปี วงเงิน 82,625 ล้านบาท พ่วงสัญญาจ้าง 15 ปี เดินรถ จาก "บางซื่อ-เตาปูน"

หรือเปิดประมูลใหม่ แต่ทางเลือกนี้ใช้เวลานานอย่างน้อย 1 ปี เนื่องจากต้องเริ่มกระบวนการนับหนึ่งใหม่ตามขั้นตอน พ.ร.บ.ร่วมทุนฯ ขณะที่กำหนดการเปิดให้บริการก็ไล่กวดมาอย่างกระชั้นชิด เพราะปัจจุบันผลงานก่อสร้างโดยรวมรุดหน้าไปกว่า 60% ติดขัดเพียงสรรหาเอกชนมารับสัมปทานเดินรถยังย่ำอยู่กับที่

Click on the image for full size

"2 บิ๊ก" เน้นความต่อเนื่อง

ฟังนโยบายจาก 2 บิ๊กทั้ง "บิ๊กจิน-พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง" เจ้ากระทรวงคมนาคม กับ "พล.อ.ยอดยุทธ บุญญาธิการ" ประธานบอร์ด รฟม. ที่สั่งการให้ "รฟม." คำนึงถึงการเดินรถแบบต่อเนื่อง ให้ผู้ใช้บริการได้ประโยชน์สูงสุด ไม่ต้องนั่งรถหลายต่อ ไม่ต้องจ่ายค่าโดยสารแพงขึ้น แนวนโยบายจึงน่าจะเป็นการบอกใบ้กลาย ๆ ให้บิ๊ก รฟม.ได้เป็นอย่างดี

"มกราคมนี้ การจัดหาเดินรถสายสีน้ำเงินจะต้องได้ข้อสรุป เจรจารายเดิมหรือประมูล เพราะช้ามานาน จะกระทบแผนเปิดให้บริการจากเดิมปี′60 เลื่อนมาเป็นปี′62" น้ำเสียงย้ำชัดจากบิ๊กจิน

ปุจฉา-วิสัชนาคือ ทำไมที่ผ่านมาสัญญาการเดินรถไฟฟ้าสายนี้ถึงถูกทอดเวลาออกไป นาทีนี้คงไม่มีใครรู้ดีเท่ากับ "รณชิต แย้มสอาด" รองผู้ว่าการ รฟม.ฝ่ายบริหาร ควบรักษาการผู้ว่าการอีกตำแหน่ง

กางแผนเดินรถสีน้ำเงิน

ปรากฏว่าถึงแม้สัญญาจะถูกดองเค็มอยู่นาน แต่ "ปลิว ตรีวิศวเวทย์" บอสใหญ่ ช.การช่าง ยังมั่นใจว่าการเดินรถส่วนต่อขยายสายสีน้ำเงินบริษัทจะได้รับการคัดเลือก เนื่องจากจะเดินรถแบบครบวงจรทั้งโครงข่ายโดยบริษัทเดียว

"ถ้าเราได้เดินรถไฟฟ้าสายนี้ประชาชนได้ประโยชน์ไม่ต้องต่อรถใหม่ ค่าโดยสารถูกลงเพราะใช้ตั๋วโดยสารใบเดียว และจ่ายค่าโดยสารครั้งเดียว คาดว่าต้นปี′58 น่าจะเห็นภาพชัดเจน"

ด้าน "สมบัติ กิจจาลักษณ์" เอ็มดี บริษัทบีเอ็มซีแอล กล่าวกับ "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า หาก รฟม.เลือกบริษัทเดินรถให้ ผลโดยอัตโนมัติคือทำให้การเปิดใช้บริการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินทำได้เร็วขึ้นภายใน 24 เดือน จาก 36 เดือน เนื่องจากบริษัทใช้เดโป้เดิมที่พระราม 9 ไม่ต้องไปหาที่ดินสร้างใหม่ กับสั่งซื้อรถไฟฟ้าลอตเดียวกันมาเดินรถ 1 สถานี และรถไฟฟ้าใต้ดินเดิม สามารถนำรถขบวนดังกล่าววิ่งให้บริการเส้นทางสีน้ำเงินได้ที่สถานีเตาปูนเป็นต้นไป

"จะเสนอ รฟม.ว่ามีแผนการเปิดใช้ 4 ระยะ ช่วงแรกจากบางซื่อ-เตาปูน ช่วงที่ 2 จากเตาปูน-ท่าพระ ช่วงที่ 3 จากท่าพระ-สนามไชย และช่วงที่ 4 จากสนามไชย-หัวลำโพง หากเลือกรายใหม่มาเดินรถคงต้องรอให้เปิดพร้อมกันทั้งโครงข่าย"

ด้านวงเงินค่าจ้าง "สมบัติ" ย้ำว่า ต้องลงทุนมากกว่าสายสีม่วง 82,625 ล้านบาท แม้ว่าระยะทางจะใกล้เคียงกัน เพราะขบวนรถที่ซื้อมากกว่า โดยสายสีน้ำเงินคาดว่าจะมี 28 ขบวน ปริมาณผู้โดยสารก็มากกว่า สำหรับยี่ห้อรถเป็นของซีเมนส์จากเยอรมนีหรือญี่ปุ่นก็ได้ อยู่ที่การตกลงราคามากกว่า เนื่องจากใช้ทั้ง 2 ประเทศนี้ในการเดินรถไฟฟ้าใต้ดินและสายสีม่วง

BTS ซิวสีเขียว "ปากน้ำ-คูคต"

อีกสายที่น่าจับตาคือ สายสีเขียว "แบริ่ง-สมุทรปราการ" 12.8 กม. ทาง "บีทีเอสซี-บมจ.ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ" ธุรกิจตระกูลกาญจนพาสน์ มีแนวโน้มจะคว้าเค้กสายนี้ไปแบบไร้คู่แข่ง เนื่องจากมีจุดแข็งยึดกุมโครงข่ายรถไฟฟ้าเส้นไข่แดงไว้ในมือเป็นเครื่องต่อรอง

ยิ่ง "บิ๊กจิน" สั่งให้ "รฟม." เจรจาบีทีเอสทั้งส่วนต่อขยายจากแบริ่ง-สมุทรปราการ กับหมอชิต-คูคต 18.4 กม. ให้การเดินรถเชื่อมโยงกัน ยิ่งตอกย้ำว่าเจ้าพ่อบีทีเอส "คีรี กาญจนพาสน์" กำลังเป็นต่อ

"ให้ รฟม.ไปคุยกับ กทม.ถึงข้อสรุปเดินรถไฟฟ้าระหว่างพื้นที่กรุงเทพฯกับปริมณฑล จะต้องทำงานร่วมกัน จากนั้นให้ รฟม.ไปคุยกับเอกชนคือบีทีเอสให้มาเดินรถ จะต้องเจรจากับบีทีเอสผู้เดินรถรายเดิมเป็นเจ้าแรก ให้เร่งเจรจาช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการก่อน เพราะงานก่อสร้างคืบหน้ามาก อยากเปิดเร็วขึ้นเป็นปี′61 จากเดิมปี′63 รฟม.จะต้องเร่งได้ข้อสรุป ส่วนหมอชิต-คูคตยังมีเวลาเ"

เลือกรายเดิมเปิดเร็วขึ้น 2 ปีครึ่ง

ขณะที่ "สุรพงษ์ เลาหะอัญญา" ผู้อำนวยการสายปฏิบัติการบีทีเอสซี ระบุว่า หากบีทีเอสได้เดินรถสายสีเขียว แบริ่ง-สมุทรปราการ จะทำให้การเปิดใช้เร็วขึ้น ตามแผนจะทยอยเปิด หลังเริ่มงานใน 1 ปี เปิด 1 สถานีจากแบริ่ง-สำโรง เพราะบริษัทมีรถขบวนเดิมรองรับอยู่แล้ว

ส่วนการเปิดเดินรถได้ตลอดเส้นทางภายใน 2 ปีครึ่ง ซึ่งบริษัทมีแบบรถเดิมอยู่แล้ว หากรายใหม่มาจะต้องใช้เวลา 3 ปีครึ่ง เนื่องจากต้องออกแบบใหม่

"ค่าจ้างเดินรถจะอ้างอิงราคาเดียวกับที่ กทม.จ้างบีทีเอสส่วนต่อขยาย เพราะงานคล้ายคลึงกัน เฉลี่ยปีละ 1,000 กว่าล้านบาท หากเปิดใช้เส้นทางแบริ่ง-สมุทรปราการจะทำให้มีผู้โดยสารใหม่ 2-3 หมื่นคนที่เข้ามาเติมในระบบเดิมของบีทีเอส"

จังหวะนี้ต้องรอดูท่าที "บีทีเอส" จะเคาะราคาสุดท้ายสูงหรือต่ำจากที่ "รฟม." ประมาณการไว้ ในช่วง "แบริ่ง-สมุทรปราการ" อยู่ที่ 9,120 ล้านบาท และช่วง "หมอชิต-สะพานใหม่-คูคต" อยู่ที่ 20,055 ล้านบาท

เปิดข้อเสนอแบ่งผลประโยชน์

ที่ผ่านมา 3 เส้าคือ "รฟม.-กทม.-บีทีเอส" เปิดโต๊ะเจรจาอย่างไม่เป็นทางการมาแล้ว 2-3 ครั้ง โดย "บีทีเอส" เสนอรูปแบบในช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต จะลงทุนงานโยธา (ไม่รวมศูนย์ซ่อมบำรุง) และงานระบบรถไฟฟ้า (ไม่รวมตัวรถ) ให้รัฐบาลชำระคืน 10 งวด งวดละ 1 ปี รวม 10 ปี นับจากวันเปิดให้บริการครบทุกสถานี ส่วนสายสีเขียว ช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ "บีทีเอสซี" เสนอลงทุนงานระบบรถไฟฟ้า ไม่รวมตัวรถ โดยให้รัฐบาลชำระคืน 10 งวด งวดละ 1 ปี รวม 10 ปีเช่นกัน

นอกจากนี้ บริษัทยังได้เสนอรูปแบบการเดินรถและผลตอบแทนให้พิจารณา โดยตั้งแต่เปิดให้บริการครบทุกสถานีจนถึง 4 ธันวาคม 2572 รวม 15 ปี บริษัทขอรับสิทธิ์สัมปทานในการรับรายได้ค่าโดยสารและการใช้พื้นที่เชิงพาณิชย์

และตั้งแต่ 5 ธันวาคม 2572 ถึง 4 ธันวาคม 2602 รวม 30 ปี บริษัทจะรับค่าจ้างการเดินรถและบำรุงรักษาระบบ กับได้รับสิทธิ์ในการใช้พื้นที่เชิงพาณิชย์และค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้อง

ส่วนกรณีผลตอบแทนเฉลี่ยตลอดอายุโครงการเกิน 12% บริษัทจะแบ่งผลประโยชน์ของส่วนที่เกิน 12% ให้กับรัฐบาล

ถึงแม้การใช้บริการ "บีทีเอส-บีเอ็มซีแอล" ซึ่งเป็นผู้กุมบังเหียนธุรกิจในขณะนี้น่าจะเป็นทางออกดีที่สุด แต่ว่ารัฐบาลจะต่อรองยังไงให้เกมนี้ "วิน-วิน" ด้วยกันทั้งคู่ บนพื้นฐานผลประโยชน์ของประชาชนเป็นที่ตั้ง

(ที่มา:ประชาชาติธุรกิจออนไลน์)
Back to top
View user's profile Send private message Visit poster's website
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42722
Location: NECTEC

PostPosted: 26/01/2015 3:39 am    Post subject: Reply with quote

สั่งสอบวินัยร้ายแรง “ว่าที่ผู้ว่าการ รฟม.”หลัง “สตง.”ตรวจพบเอื้อปย.ให้เอกชน-ทำรัฐเสียหาย
มติชน
วันที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2558 เวลา 21:19:57 น.

ตั้งคณะกรรมการสอบวินัยร้ายแรง “ว่าที่ผู้ว่าการ รฟม.” หลังสตง.ชี้ เอื้อประโยชน์เอกชนก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน สัญญาที่ 2 ทำให้รัฐเกิดความเสียหาย 290 ล้านบาทและต้องขยายเวลาก่อสร้างไปอีก 90 วัน

รายงานข่าวจากกระทรวงคมนาคม แจ้งว่า สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน(สตง.) ได้ทำหนังสือถึงกระทรวงคมนาคม หลังจากที่ สตง. ได้มีการตรวจพบว่า มีผู้บริหารของ การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย(รฟม.) ได้มีการเปลี่ยนแปลงแก้ไขข้อสัญญาในโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย สัญญาที่ 2 ช่วงสนามไชย-ท่าพระ ส่งผลให้ รฟม. เกิดความเสียหายจากการที่ต้องเพิ่มมูลค่างานถึงวงเงิน 290 ล้านบาท และต้องมีการขยายระยะเวลาในการก่อสร้างให้กับผู้รับเหมาอีก 90 วัน

ข่าวแจ้งว่า หลังจากที่รฟม. ได้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยมีนายสราวุธ เบญจกุล รองเลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม เป็นประธาน โดยมีข้อสรุปว่า ข้อมูลตามที่ สตง.ได้มีการระบุว่า รฟม. ได้มีการเอื้อประโยชน์ให้กับผู้รับเหมานั้น เป็นความจริง

“สำหรับเรื่องการขออนุมัติเปลี่ยนแปลงงานนั้น ผู้ว่าการ รฟม. ในฐานะเลขานุการ คณะกรรมการ รฟม. ได้มีการแต่งตั้งคณะเจ้าหน้าที่โครงการสำหรับงานก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ช่วงหัวลำโพง-บางแค และช่วงบางซื่อ-ท่าพระ ซึ่งประกอบด้วยผู้อำนวยการโครงการ รองผู้อำนวยการโครงการก่อสร้างด้านบริหารงานก่อสร้าง และผู้จัดการโครงการสัญญาที่ 2 ซึ่งมีอำนาจในการควบคุมการปฏิบัติการทั้งหมดให้เป็นไปตามสัญญาว่าจ้างและสัญญาสัมปทาน แต่กลับทำให้ รฟม. เกิดความเสียหาย วงเงิน 290 ล้านบาทและขยายระยะเวลาก่อสร้างอีก 90 วัน ถือเป็นการกระทำโดยประมาทต่อหน้าที่และผิดวินัยตามข้อบังคับของรฟม.”

ข่าวแจ้งว่า ดังนั้น รฟม. จึงมีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสอบวินัยร้ายแรง ในส่วนของเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องในโครงการดังกล่าว โดย 1 ในผู้ที่ถูกตั้งกรรมการวอบวินัยร้ายแรกงได้แก่ นายพีระยุทธ สิงห์พัฒนากุล รองผู้ว่าการ (วิศวกรรมและโยธา) ในฐานะผู้อำนวยการโครงการ โดยคณะกรรมการสอบวินัยรายแรงประกอบด้วย นายชัยฤกษ์ ดิษฐอำนาจ อดีตอธิบดีกรมที่ดิน เป็นประธาน และกรรมการประกอบด้วย นายพินัย อนันตพงศ์ ศาตราจารย์ ดร.ประกอบ วิโรจนกูฎ โดยมีผู้อำนวยการกองนิติการ ฝ่ายกฏหมาย รฟม. เป็นเลขานุการ โดยให้เสนอผลการสอบสวน พร้อมทั้งกำหนดโทษที่ผู้กระทำผิดสมควรได้รับต่อผู้ว่าการ รฟม.พิจารณาสั่งการต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายพีระยุทธ เพิ่งจะผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการ รฟม. ให้เป็นผู้ว่าการ รฟม. คนใหม่ เมื่อต้นเดือนมกราคมที่ผ่านมา โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจาผลตอบแทนกับทางกระทรวงการคลัง ก่อนที่จะเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) ให้ความเห็นชอบต่อไป
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42722
Location: NECTEC

PostPosted: 26/01/2015 3:41 am    Post subject: Reply with quote

"พล.อ.ยอดยุทธ บุญญาธิการ" เร่งเคลียร์คน-ระบบราง หนุนผลงานรัฐบาลบิ๊กตู่
ประชาชาติธุรกิจออนไลน์
23มกราคม พ.ศ. 2558 เวลา 11:30:02 น.


สัมภาษณ์

ปี 2558 เป็นปีทอง "รฟม.-การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย" ขับเคลื่อนลงทุนรถไฟฟ้าหลากสีที่ "รัฐบาลประยุทธ์" หวังจะกระตุกเศรษฐกิจ

อีกทั้งยังเป็นกองหนุนบิ๊กคมนาคม "พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง" ลุยพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานคมนาคมขนส่งให้เดินหน้าสะดวก มี "พล.อ.ยอดยุทธ บุญญาธิการ" ประธานคณะกรรมการ (บอร์ด) รฟม. ออกแรงแข็งขันดันแผนงานรถไฟฟ้าที่จ่อคิว ได้กดปุ่มประมูล

ยังมีคิวงานหลายโครงการที่บอร์ดต้องเร่งสะสางทั้งโครงการเก่า-ใหม่ รวมถึงแก้กฎหมายให้เปิดทางการทำงานสะดวก


พล.อ.ยอดยุทธ บุญญาธิการ


- ความคืบหน้าโครงการต่าง ๆ

ยอมรับว่าการทำงานของ รฟม.ยังล่าช้า รวมถึงก่อสร้างรถไฟฟ้าทั้ง 10 สายทาง นับจากรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินช่วงบางซื่อ-หัวลำโพง กว่า 20 กม. ที่เปิดมาตั้งแต่ปี 2547 ถึงปีนี้ใช้เวลากว่า 10 ปี

ปัจจุบัน รฟม.มีรถไฟฟ้า 3 สายทางที่อยู่ระหว่างก่อสร้าง มีต่อขยายสายสีน้ำเงิน (บางซื่อ-ท่าพระ และหัวลำโพง-บางแค) ก็ล่าช้า เพราะติดเรื่องพื้นที่ก่อสร้างที่ทับซ้อนกับกรุงเทพมหานคร (กทม.) และการจัดหาเอกชนมาเดินรถ ทำให้ช้าจากแผนร่วม 2 ปี จากเดิมปี′60 เป็นปี′62 ล่าสุดจะเร่งเสร็จเร็วขึ้นในปี′61

สายสีเขียวใต้ (แบริ่ง-สมุทรปราการ) คืบหน้ากว่า 50% เตรียมหาเอกชนมาเดินรถ จะสรุปต้นปีนี้ บอร์ดให้แนวทาง รฟม.ให้เดินรถต่อเนื่องกับบีทีเอสของ กทม.ที่สถานีแบริ่ง ส่วนสายสีม่วง (บางซื่อ-บางใหญ่) งานก่อสร้างใกล้เสร็จ เหลือเปิดเดินรถ ก็เร่งให้เร็วกว่าแผนเดิม จะเปิดเต็มรูปแบบปลายปี′59 ให้เปิดเร็วขึ้นอีก 6 เดือน ในปลายปีนี้รถไฟฟ้าขบวนแรกจะถึงประเทศไทย

สายสีเขียว (หมอชิต-สะพานใหม่-คูคต) ระยะทาง 18.4 กม. การดำเนินการโปร่งใส ไม่มีข้อโต้แย้งใด ๆ เกิดขึ้น หลังได้ผู้ชนะประมูลทั้ง 4 สัญญา จะเร่งก่อสร้างและให้แล้วเสร็จพร้อมเปิดใช้ปี′63


- แผนลงทุนรถไฟฟ้าสายใหม่

อีก 3 สายทางใหม่ใช้เงินลงทุน 221,660 ล้านบาท กำลังเตรียมการประมูลและเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติโครงการ มีสีส้ม ช่วงศูนย์วัฒนธรรม-มีนบุรี 21.20 กม. ลงทุน 110,325 ล้านบาท สีเหลือง ช่วงลาดพร้าว-สำโรง 30.4 กม. ลงทุน 54,644 ล้านบาท และสีชมพู ช่วงแคราย-มีนบุรี 36 กม. ลงทุน 56,691 ล้านบาท ซึ่งสีเหลืองและสีชมพูเป็นระบบโมโนเรล การประมูลจะพิจารณาอีกครั้ง จะคัดเลือกระบบรถก่อนหรือดำเนินการพร้อมกับก่อสร้างเลย

ทั้ง 3 สายทางจะเริ่มกระบวนการประมูลและเซ็นสัญญาในปีนี้ เริ่มสร้างปี′59 น่าจะเป็นไปตามนี้ เพราะเป็นนโยบายรัฐบาลด้านการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานคมนาคม ซึ่งรัฐบาลก็เร่งให้จบในรัฐบาลนี้ หากรัฐบาลเลือกตั้งมาไม่รู้ว่าจะเปลี่ยนอะไรอีก ทุกอย่างจึงต้องรวดเร็วและก้าวหน้ามากที่สุด


- จะแก้ปัญหาที่ล่าช้ายังไง

พยายามประสานงานให้ล่าช้าน้อยที่สุด ผมก็รายงาน พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมเป็นระยะถึงแผนงานและปัญหา ขณะเดียวกันผมก็เร่ง รฟม.ให้ทำแผนก่อสร้างที่ค้าง ๆ อยู่ให้เสร็จเร็วขึ้น เร่งรัดทำรายละเอียดการประมูลโครงการใหม่เตรียมไว้เมื่อ ครม.อนุมัติก็เริ่มได้เลย

ปัญหาเกี่ยวพันกับหน่วยงานข้างนอก เพราะการก่อสร้างอาจจะไม่ใช่ รฟม.ฝ่ายเดียว ก็ไปประสานเจรจา รวมถึงประชาชนที่คัดค้านด้วยก็ต้องรีบเคลียร์ ให้โครงการสะดุดน้อยที่สุด ทุกอย่างต้องร่วมกัน


- น้ำมันโลกลดลงจะทบทวนราคากลางใหม่

เมื่อ ครม.อนุมัติโครงการแล้ว ก่อนประมูลต้องคิดราคากลางใหม่ ยิ่งน้ำมันถูกก็มีแนวโน้มค่าก่อสร้างรถไฟฟ้าอาจจะถูกลงตามไปด้วยก็ได้


- การเดินรถสีน้ำเงินต่อขยาย

ยังหาข้อยุติไม่ได้ จะเจรจารายเดิมคือ บริษัท รถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือบีเอ็มซีแอล หรือประมูลใหม่ ให้เป็นอำนาจของคณะกรรมการมาตรา 13 บอร์ดไม่สามารถไปก้าวล้ำการทำงานได้ ก็พยายามประสานให้การทำงานรวดเร็วและให้คู่ขนานกันไป จะขอให้คณะกรรมการรายงานความคืบหน้าเป็นระยะเพราะเกี่ยวพันกับแผนงานก่อสร้างและเปิดใช้ด้วย ต้องเร่งหาข้อยุติโดยเร็ว ให้เปิดใช้ในปี′61

หลังได้ผู้ว่าการ รฟม.คนใหม่ คือ นายพีระยุทธ สิงห์พัฒนากุล บอร์ดอนุมัติวันที่ 16 ม.ค.ที่ผ่านมา อีก 2 สัปดาห์น่าจะเริ่มงาน คาดว่าการทำงานต่าง ๆ ที่ติดขัดจะเดินหน้าได้ รวมถึงการเดินรถสายสีน้ำเงิน เพราะผู้ว่าการมีอำนาจเปลี่ยนคณะกรรมการมาตรา 13 ได้ หากเห็นว่ายังล่าช้า


- คาดหวังกับผู้ว่าการคนใหม่แค่ไหน

คาดหวัง่ให้มาขับเคลื่อนองค์กรต่อเนื่องไม่ชะงัก เพราะการดำเนินงานใน รฟม.เชื่อถือการตัดสินใจของผู้ว่าการ รวมถึงต้องเร่งผลักดันโครงการต่าง ๆ ตามแผนภายใต้แนวคิด นโยบายของรัฐบาลที่จะต้องทำอย่างโปร่งใส ตรวจสอบได้ เกิดความคุ้มค่า จะต้องทำงานเร็วและถูกต้อง ผู้ว่าการคนใหม่มาจากรองผู้ว่าการ ดูงานก่อสร้างมาอยู่แล้ว รู้งานและเร่งรัดการก่อสร้างได้


- คืบหน้าแก้ไข พ.ร.บ.การรถไฟฟ้า

กำลังเร่งแก้ไขพระราชบัญญัติการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2543 ให้เป็นไปตามกรอบการทำงานของ รฟม. โดยเฉพาะกฎระเบียบข้อบังคับต้องระบุรายละเอียดชัดเจน โดยเฉพาะกรณีตำแหน่งผู้ว่าการ รฟม.ยังว่างอยู่ ต้องแต่งตั้งรองผู้ว่าอาวุโสสูงสุดมีสิทธิ์สมัครสรรหาผู้ว่าการได้ แต่สำหรับหน่วยงานอื่นจะแต่งตั้งรองผู้ว่าการ หรือบอร์ด รักษาการผู้ว่าการ

ขณะนี้บอร์ดได้ตั้งคณะทำงานเพื่อแก้ พ.ร.บ.ประเด็นนี้ รวมถึงพัฒนาเทคโนโลยี พัฒนาอุตสาหกรรมรถไฟฟ้า การบริหารจัดการและการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ จะเร่งสรุปเสนอกระทรวงคมนาคมแก้ปัญหาตามขั้นตอนต่อไป คาดว่า ม.ค.-ก.พ.นี้จะผ่านบอร์ด รฟม.เสนอไปกระทรวงและ ครม. ไม่เกินปลายปีนี้จะได้ข้อยุติ
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42722
Location: NECTEC

PostPosted: 27/01/2015 9:05 pm    Post subject: Reply with quote

สอบวินัย”พีระยุทธ” สกัดสรรหาผู้ว่าฯรฟม.


โดย ASTVผู้จัดการรายวัน
26 มกราคม 2558 23:47 น.

ASTVผู้จัดการรายวัน -“รณชิต”เดินหน้าสั่งสอบวินัยร้ายแรง”พีระยุทธ “ว่าที่ผู้ว่าฯรฟม. หลัง สตง.ชี้ให้ รฟม.ทบทวนและตรวจสอบงานก่อสร้างเพิ่มเติมรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน สัญญา 2 มูลค่า 290 ล้านบาท อาจเป็นการเอื้อประโยชน์แก่เอกชน ทำให้การสรรหาผู้ว่าฯรฟม.สะดุด บอร์ด รฟม.เรียกประชุมด่วนเพื่อแก้ไขปัญหา

จากข่าวที่ปรากฎว่า สำนักงานตรวจการแผ่นดิน (สตง.)ได้มีหนังสือถึงการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงแก้ไขงานเพิ่มเติม โครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ส่วนต่อขยาย สัญญาที่ 2 ช่วงสนามไชย-ท่าพระ มูลค่า 290 ล้านบาท และต้องมีการขยายระยะเวลาให้ผู้รับเหมาอีก 90 วัน ส่งผลให้ รฟม.อาจเกิดความเสียหาย และต่อมานายรณชิต แย้มสอาดรักษาการผู้ว่าฯรฟม.ได้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงที่มีนายสราวุธ เบญจกุล รองเลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรมเป็นประธาน และมีข้อสรุปว่า รฟม.มีการเอื้อประโยชน์ให้แก่ผู้รับเหมาจริง นายรณชิต แย้มสอาด รักษาการผู้ว่าฯจึงมีคำสั่งที่ 7/2558 เมื่อวันที่ 15 มกราคม 2558 แต่งตั้งคณะกรรมการสอบวินัยร้ายแรงนายพีระยุทธ สิงห์พัฒนากุล รองผู้ว่าการ (วิศวกรรมและก่อสร้าง)และพนักงานอีก 2 คน ทั้งที่นายพีระยุทธในปัจจุบันเป็นว่าที่ผู้ว่าฯรฟม.ซึ่งอยู่ระหว่างนำเสนอ ครม.เห็นชอบ ทำให้การสรรหาผู้ว่าฯรฟม.เกิดปัญหาขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง

แหล่งข่าวจากกระทรวงคมนาคมเปิดเผย”ASTVผู้จัดการรายวัน” ว่า การตรวจสอบงานก่อสร้างสายสีน้ำเงินนี้เป็นที่น่าสังเกตว่ามีการรวบรัดตัดความ ทำเป็นขั้นตอน ตั้งแต่มีการร้องให้ข้อมูลแก่ สตง. และให้ สตง.สอบถามมายัง รฟม.และ รฟม.ก็ได้ชี้แจงไปโดยผู้ที่ชี้แจงไม่ได้เป็นผู้ที่รับผิดชอบโดยตรง งานนี้เป็นงานวิศวกรรมแต่กลับให้นักกฎหมายเป็นผู้ไปชี้แจง และที่แปลกคือ รฟม.เป็นผู้บอก สตง.เองว่าที่ รฟม.ดำเนินการมาไม่ถูกต้อง ใช้ข้อสัญญาผิด ทำให้ สตง.เข้าใจผิดจึงสั่งการให้ รฟม.สอบสวนข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น นี่เป็นกระบวนการเผาบ้านตัวเองครั้งใหญ่โดยเป้าหมายชัดเจนคือ ต้องการให้เกิดความเสียหายแก่ รฟม.และว่าที่ผู้ว่าฯคนใหม่ อีกประเด็นหนึ่งที่น่าสังเกต คือ เรื่องดังกล่าวนี้ สตง.แจ้งมาตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2557 แต่รักษาการผู้ว่าฯไม่เคยรายงานให้บอร์ดพิจารณา กลับชี้แจงแก่ สตง.เองทั้งที่งานเพิ่มเติมนี้เป็นงานที่บอร์ด รฟม.ได้พิจารณาเห็นชอบไว้

ทั้งนี้ในการเปลี่ยนแปลงงานดังกล่าวจำเป็นต้องทำ เพราะจะทำให้เกิดปัญหาต่อพื้นที่ในเกาะรัตนโกสินทร์ โดยได้ผ่านการตรวจสอบจากที่ปรึกษา รฟม. และ รฟม.แล้ว เนื่องจากผู้รับเหมาไม่สามารถขุดเจาะสำรวจพื้นที่ได้ก่อนการประมูลและเมื่อมาพบปัญหาระหว่างการก่อสร้างว่าสภาพน้ำใต้ดินสูงจนถึงขั้นเป็นอันตรายต่อประชาชนและสิ่งปลูกสร้างข้างเคียง รฟม.จึงได้แก้ไขปัญหาดังกล่าวโดยสั่งให้ผู้รับจ้างทำการปรับปรุงสภาพดินเพิ่มเติมเพื่อให้การก่อสร้างมีความปลอดภัยเพียงพอ ไม่เกิดผลกระทบต่อประชาชน สิ่งปลูกสร้างบริเวณพื้นที่เกาะรัตนโกสินทร์

แหล่งข่าวกล่าวต่อไปว่า ไม่เคยเห็นหน่วยงานใดทำกันแบบนี้ การสอบข้อเท็จจริงหรือการให้ข้อมูลที่เกี่ยวข้องควรให้ผู้ที่เกี่ยวข้องเป็นคนดำเนินการ แต่งานนี้ รฟม.กลับทำกันเองโดยใช้เวลาตรวจสอบแค่ 4-5 วันก็ชี้ว่ามีความผิด ต้องสอบวินัยร้ายแรง นอกจากนี้ หากไปดูองค์ประกอบคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงและสอบวินัยร้ายแรง ยิ่งทำให้เกิดความน่าสงสัยเพราะ รฟม.ไปเชิญบุคคลภายนอกที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับงานเลยมาสอบ แล้วพวกท่านเหล่านั้นจะไปรู้เรื่องได้อย่างไร สุดท้ายพอให้ข้อมูลที่ผิดก็ต้องชี้ว่าผิด งานนี้เป็นพฤติกรรมที่น่าสงสัยว่าทำไมต้องเกิดขึ้นในระหว่างที่จะมีผู้ว่าฯรฟม.คนใหม่

เป็นที่น่าสังเกตว่าที่ผ่านมาบอร์ด รฟม.พยายามเร่งรัดเรื่องการสรรหาผู้ว่าการ แต่ก็เกิดปัญหาขึ้นมาโดยตลอด แม้คณะกรรมการสรรหาจะกำหนดคุณสมบัติให้ผู้สมัครต้องไม่เป็นรักษาการผู้ว่าฯก็ถูกฟ้องร้องจนในที่สุดศาลปกครองมีคำสั่งไม่รับฟ้องและไม่รับคุ้มครองชั่วคราว แต่ท้ายที่สุดรักษาการผู้ว่าฯก็สั่งสอบว่าที่ผู้ว่าฯคนใหม่อีก ซ้ำรอยเหตุการที่เคยเกิดขึ้นใน รฟม.ในอดีต จึงต้องจับตาดูว่ากระทรวงคมนาคมและบอร์ด รฟม.จะแก้ไขปัญหาเหล่านี้อย่างไร
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42722
Location: NECTEC

PostPosted: 27/01/2015 9:08 pm    Post subject: Reply with quote

ชาวเน็ตวิจารณ์ คลิปสาวลีลาพลิ้ว ใช้เสาMRT เต้นโพลแดนซ์
by บุญญิสา เพ็งบุญมา
Voice TV
27 มกราคม 2558 เวลา 18:08 น.


ชาวเน็ตแชร์คลิปสาวสวยลีลาพลิ้ว ใช้เสารถไฟฟ้า MRT เต้นโพลแดนซ์ วิจารณ์สวยงามแต่อาจไม่เหมาะสม

โลกออนไลน์ ได้แชร์คลิปหญิงสาวเล่นโพลแดนซ์ หรือการแสดงลีลารูดเสา ในรถไฟฟ้ามหานครหรือรถไฟฟ้าใต้ดินของประเทศไทย เพราะดูจากป้ายโฆษณาภาษาไทยในรถ และช่วงกลางคลิปมีเสียงประกาศว่า "สถานีสามย่าน ให้ผู้ลงรถใช้ความระมัดระวัง"

โดยในคลิป มีสาวสวย กำลังใช้เสารถไฟฟ้า MRT โชว์การเต้นที่เรียกว่า 'โพลแดนซ์' หรือการเต้นผสมผสานกับเทคนิคยิมนาสติก ซึ่งการเต้นแบบนี้กำลังฮิตมากๆโดยเฉพาะที่ประเทศอเมริกา ซึ่งใช้เป็นการออกกำลังกาย แต่หลายคนก็แสดงความเป็นห่วงสาวเจ้าโพลแดนซ์ว่า ถ้าไม่ระมัดระวังแข้งขาอาจจะหักได้ เพราะรถไฟกำลังวิ่งอยู่ อีกทั้งยังมองว่าบนรถไฟฟ้าMRT เป็นที่สาธารณะด้วย การเต้นดังกล่าวอาจจะผิดที่ และมีความไม่เหมาะสม

https://www.youtube.com/watch?v=M1mWZ4D7wXo
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42722
Location: NECTEC

PostPosted: 29/01/2015 7:29 pm    Post subject: Reply with quote


ขอแก้สัญญาเดินรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน

https://www.youtube.com/watch?v=7Td1f-u2uFo&feature=player_embedded&x-yt-ts=1422503916&x-yt-cl=85027636
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42722
Location: NECTEC

PostPosted: 30/01/2015 9:50 pm    Post subject: Reply with quote

Wisarut wrote:
ชาวเน็ตวิจารณ์ คลิปสาวลีลาพลิ้ว ใช้เสาMRT เต้นโพลแดนซ์
by บุญญิสา เพ็งบุญมา
Voice TV
27 มกราคม 2558 เวลา 18:08 น.
https://www.youtube.com/watch?v=M1mWZ4D7wXo


คลิปสาวรูดเสาในรถไฟใต้ดิน ที่แท้เป็น “วุ้นเส้น” TG ปี1 (ชมคลิป)


โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์
29 มกราคม 2558 15:55 น.

มืออาชีพ...คลิปสาวเต้นในไฟใต้ดิน ที่แท้เป็น “วุ้นเส้น ปาจรีย์” สาวโพลแดนซ์ไทยแลนด์กอตทาเลนต์ ซีซัน 1 ด้านเจ้าตัวพร้อมขอโทษ รฟม. พรุ่งนี้

เรียกว่ากลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ไม่น้อยเลยทีเดียวหลัง 2 วันที่ผ่านมาในโลกออนไลน์ ได้มีการแชร์คลิปวิดีโอของหญิงสาวคนหนึ่งกำลังโชว์ลีลการเต้นกับเสาหรือที่เรียกกันว่า “โพลแดนซ์” pole dance ด้วยการอาศัยเสาในขบวนรถไฟฟ้าใต้ดิน

โดยในขณะที่ส่วนน้อยต่างชื่นชมลีลาของเธอนั้น ปรากฏว่าส่วนใหญ่ต่างมองว่าเรื่องดังกล่าวไม่มีความเหมาะสมแต่อย่างไร นอกจากนี้ ยังมีรายงานว่าทางด้านของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย หรือ รฟม. เอง ก็เตรียมที่จะเรียกตัวหญิงสาวคนดังกล่าวมาพูดคุยด้วยนั้น

ทั้งนี้ จากการติดตามของผู้สื่อข่าวก็พบว่าหญิงสาวคนที่ว่านั้นไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็นหนึ่งในผู้เข้าประกวดรายการ Thailand's Got Talent ซีซัน 1 เมื่อปี 2554 ที่ชื่อ “วุ้นเส้น ปาจรีย์ วรภัณฑ์พิศิษฐ์” ครูสอนเต้นโพลแดนซ์ชื่อดังซึ่งในการประกวดรายการดังกล่าวนั้นเธอเองก็ได้โชว์ความสามารถในการเต้นโพลแดนซ์ที่ว่าจนเข้าไปถึงรอบ 12 คนสุดท้ายด้วยนั่นเอง

ล่าสุด เมื่อผู้สื่อข่าวได้โทรศัพท์ติดต่อไปยังสาวโพลแดนซ์ชื่อดัง ก็ได้รับคำตอบว่าเธอเตรียมตัวที่จะไปพบกับทางรฟม. ในวันพรุ่งนี้ (30 ม.ค.) ส่วนรายละเอียดในการพูดคุยทาง รฟม. จะแจ้งกับทางนักข่าวทราบเอง เพราะเธอไม่อยากให้เรื่องนี้เป็นประเด็นใหญ่โต พร้อมกับยังบอกด้วยว่าคลิปดังกล่าวนั้นได้ถ่ายและนำขึ้นเฟซบุ๊กในกลุ่มเพื่อนๆ โดยไม่คิดว่าจะเป็นกระแสออกมาแต่อย่างใด ก่อนยอมรับว่าเป็นความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ของเธอเอง

กรณีสาวรูดเสา คลิปนี้สอนให้รู้ว่า อย่าอวด 'เก่ง' ผิดที่ผิดทาง! (ชมคลิป)
โดย ASTVผู้จัดการรายวัน
29 มกราคม 2558 18:19 น.

โชว์ความสามารถผิดที่ผิดทางจนถูกรุมวิพากษ์วิจารณ์สนั่นออนไลน์ สำหรับ 'วุ้นเส้น-ปาจรีย์ วรภัณฑ์พิศิษฎ์' ผู้เข้าประกวดรายการไทยแลนด์ ก็อตทาเลนต์ซีซั่น 1 หลังปรากฏคลิปรูดเสา หรือเต้นโพลแดนซ์กลางรถไฟฟ้าใต้ดินจนถูกตำหนิไม่ให้เกียรติสถานที่ ล่าสุดสาวโพลแดนซ์ เตรียมเข้าขอโทษรฟม.ในวันที่ 30 ม.ค.58

สืบเนื่องจากคลิปสาวเต้นรูดเสาหรือโพลแดนซ์ในรถไฟใต้ดินที่ถูกกระแสวิพากษ์วิจารณ์ถึงความไม่เหมาะสมจนการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย หรือ รฟม. ผู้ให้การบริการรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT ได้ออกมาตักเตือนถึงการกระทำดังกล่าวนี้ว่า เข้าข่ายสร้างความเดือดร้อนและรบกวนผู้โดยสารคนอื่น ถือเป็นพฤติกรรมต้องห้ามและไม่ควรทำขณะทำการโดยสาร เนื่องจากอาจจะก่อให้เกิดอันตรายขึ้นได้

ล่าสุด สาวโพลแดนซ์ในคลิปที่รู้ตัวแล้วว่าเป็น 'วุ้นเส้น-ปาจรีย์ วรภัณฑ์พิศิษฎ์' ผู้เข้าประกวดรายการไทยแลนด์ ก็อตทาเลนต์ก็เตรียมเข้าขอโทษรฟม.ถึงการกระทำดังกล่าวในวันที่ 30 ม.ค. ส่วนรายละเอียดในการพูดคุย ทางรฟม.จะแจ้งให้นักข่าวทราบต่อไป

ถือเป็นบทเรียนสอนใจสำหรับคนที่ได้ชื่อว่ามีความสามารถ หรือพรสวรรค์ทุกคน หากแสดงออกในทางที่ถูกที่ควรก็ย่อมนำมาซึ่งเสียงปรบมือ และคำชื่นชม แต่ถ้าแสดงออก อวด "เก่ง" ผิดที่ผิดทาง หรือไม่ถูกกาลเทศะ อาจย้อนกลับมาทำร้ายตัวเองแบบกรณีนี้ก็เป็นได้

สำหรับวุ้นเส้น เป็นครูสอนเต้นโพลแดนซ์วัยอายุ 31 ปี สำเร็จการศึกษาจากคณะมนุษยศาสตร์ เอกท่องเที่ยวและการโรงแรม มหาวิทยาลัยกรุงเทพ ผ่านการประกวด Secon Square Sheerleading ปี 2000 และขึ้นโชว์โพลแดนซ์ในรายการไทยแลนด์ ก็อตทาเลนต์ซีซั่น 1 จนเข้าไปถึงรอบ 12 คนสุดท้าย
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42722
Location: NECTEC

PostPosted: 03/02/2015 11:33 pm    Post subject: Reply with quote

รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน อุโมงค์ลอดใต้แม่น้ำเจ้าพระยา
by Phakaphong Udomkalayalux
Voice TV
3 กุมภาพันธ์ 2558 เวลา 17:57 น.


โครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ช่วงหัวลำโพง-บางแค และช่วงบางซื่อ-ท่าพระ นอกจากจะมีการสร้างอุโมงค์ลอดใต้แม่น้ำเจ้าพระยาแห่งแรกในไทย และเชื่อมต่อระหว่างฝั่งพระนครกับฝั่งธนบุรี แต่ขณะนี้กำลังประสบหลายปัญหา ทั้งการก่อสร้าง การจัดหาผู้เดินรถ และการท้วงติงการขยายเวลาก่อสร้างให้กับเอกชน ที่จะทำให้โครงการนี้ล่าช้าอีก 2 ปี

หากนับจากโครงการรถไฟฟ้ามหานคร สายสีน้ำเงินช่วงบางซื่อ-หัวลำโพง หรือ รถไฟฟ้า MRT ระยะทางรวม 21 กิโลเมตร 18 สถานี ซึ่งเปิดบริการมากว่า 10 ปี ตั้งแต่ปี 2547 ก็ถึงเวลาที่จะมีการขยายเส้นทางด้านเหนือ และด้านใต้

โดยโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ช่วงหัวลำโพง-บางแค ระยะทาง 14 กิโลเมตร โดยเป็นโครงสร้างทางวิ่งใต้ดินช่วงหัวลำโพง-ท่าพระ และทางวิ่งอุโมงค์คู่รางเดี่ยว มีสถานีใต้ดิน 4 สถานี และสถานียกระดับ 7 สถานี จากท่าพระ-บางแค ที่เชื่อมต่อกับโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินในปัจจุบัน โดยจะผ่านใจกลางกรุงเทพฯ เช่น ย่านเยาวราช ย่านวังบูรพา ย่านโรงเรียนวัดราชบพิธ และมิวเซียมสยาม เป็นต้น รวมทั้งจะเป็นโครงการรถไฟฟ้าในย่านฝั่งธนบุรี และความพิเศษ คือการสร้างอุโมงค์ลอดใต้แม่น้ำเจ้าพระยา ที่สถานีอิสรภาพ-สถานีสนามไชย ระยะทาง 2.6 กิโลเมตร ที่มีความลึกจากพื้นดิน เกือบ 40 เมตร เทียบเท่ากับตึก 10 ชั้น

ส่วนโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ช่วงบางซื่อ-ท่าพระ ระยะทาง 11 กิโลเมตร เป็นเส้นทางยกระดับทั้งหมดมี 8 สถานี มีลักษณะเป็นทางวิ่งรางคู่บนเสาตอม่อบริเวณเกาะกลางถนน เริ่มจากสถานีบางซื่อ ผ่านสถานีเตาปูนซึ่งเป็นสถานีร่วมกับโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงบางใหญ่ - บางซื่อ ข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา ถนนจรัญสนิทวงศ์ ผ่านแยกบางพลัด แยกบรมราชชนนี แยกไฟฉาย และสิ้นสุดที่แยกท่าพระ โดยเชื่อมต่อกับโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ช่วงหัวลำโพง - บางแค

ทั้งนี้ โครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินทั้ง 2 ช่วง ใช้วงเงินก่อสร้างกว่า 8 หมื่นล้านบาท มีผู้รับเหมาทั้งหมด 4 ราย ทั้งช.การช่าง อิตาเลียนไทย ชิโน-ไทย และกิจการร่วมค้า SH-UN เดิมกระทรวงคมนาคม คาดว่าจะก่อสร้างเสร็จภายในปี 2560 แต่การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย หรือ รฟม. เจ้าของโครงการยอมรับว่า จะล่าช้าไป 2 ปี แต่จะให้แล้วเสร็จภายในปี 2561 จากปัญหาพื้นที่ก่อสร้างทับซ้อนกับกรุงเทพมหานคร ในโครงการก่อสร้างทางลอดถนนจรัญสนิทวงศ์กับถนนพรานนก ทำให้มีอสังหาริมทรัพย์ที่ถูกเวนคืน ที่ดิน 61 แปลง สิ่งปลูกสร้าง 87 หลัง

อีกปัญหาหนึ่ง คือ การเดินรถ จะให้บริษัท รถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือบีเอ็มซีแอล ที่ให้บริการในเส้นทางนี้ หรือประมูลใหม่ ซึ่งคณะกรรมการตามมาตรา 13 จะเป็นผู้พิจารณา และเป็นโครงการที่ต้องมีการทำข้อตกลงคุณธรรม ตามมติของคณะกรรมการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ หรือ คตช.ด้วย ขณะที่ผู้บริหารบีเอ็มซีแอล เชื่อว่า จะสามารถเดินรถได้อย่างต่อเนื่องเพื่อเชื่อมโยงโครงข่ายการเดินรถทั้งสายสีน้ำเงินและสายสีม่วงที่ได้รับการเดินรถแล้ว

ล่าสุด สตง.ขอให้ รฟม.ทบทวนการดำเนินการขุดอุโมงค์ ช่วงสนามไชย-ท่าพระ เนื่องจากเปลี่ยนวิธีการก่อสร้าง ทำให้รฟม.ต้องจ่ายผู้รับจ้างเพิ่มขึ้น 290 ล้านบาท และต้องขยายเวลาการก่อสร้างอีก 90 วัน ซึ่งขัดกับหลักการที่ผู้รับจ้างต้องสำรวจพื้นที่ก่อสร้าง และต้องเป็นผู้รับความเสี่ยงเอง จึงถือเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นของโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินในขณะนี้
Back to top
View user's profile Send private message
Wisarut
1st Class Pass (Air)
1st Class Pass (Air)


Joined: 27/03/2006
Posts: 42722
Location: NECTEC

PostPosted: 04/02/2015 10:04 pm    Post subject: Reply with quote

บอร์ดรฟม.อนุมัติสร้างทางเชื่อมเข้าห้าง 2 แห่งชี้เป็นการอำนวยความสะดวกแก่ประชาชน
เดลินิวส์
วันพุธ 4 กุมภาพันธ์ 2558 เวลา 20:07 น.

เมื่อวันที่4 ก.พ. 2558 ที่การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย(รฟม.) พล.อ.ยอดยุทธ บุญาธิการ ประธานคณะกรรมการบริหารกิจการ(บอร์ด) รฟม.กล่าวว่าในที่ประชุมบอร์ดวันนี้มีมติเห็นชอบในกรณีที่เอกชนขอเชื่อมทางเดินระหว่างห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์บางแคกับสถานนีหลักสองของรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยายหัวลำโพง-บางแค โดยทางเอกชนได้เจรจาให้ค่าตอบแทนจำนวน 40ล้านบาทในระยะเวลา 15 ปี โดยการก่อสร้างเอกชนจะเป็นผู้ดำเนินการก่อสร้างเองทั้งหมด ซึ่งทางบอร์ดเห็นว่าเป็นการดำเนินการที่ประชาชนจะได้ประโยชน์และไม่มีผลเสียหายต่อรฟม.แต่อย่างใด นอกจากนี้ยังมีการเห็นชอบในกรณีของโรงแรมริชมอนด์ขอเชื่อมทางเข้า-ออกบริเวณสถานีบางกระสอของรถไฟฟ้าสายสีม่วงช่วงบางใหญ่-บางซื่อโดยมีการเจรจาค่าตอบแทนในอัตรา 28 ล้านบาทในระยะเวลา15 ปี ซึ่งเอกชนจะเป็นผู้ดำเนินการก่อสร้างเอง ทั้งนี้ทั้ง 2 แห่งได้ผ่านการตรวจสอบจากทางคณะอนุกรรมการถึงความพร้อมและการดำเนินการด้านการก่อสร้างเป็นที่เรียบร้อยแล้วอย่างไรก็ตามรฟม.

พล.อ.ยอดยุทธ กล่าวต่อว่า สำหรับความคืบหน้าโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต อยู่ระหว่างต่อรองราคากับผูัชนะการประกวดราคาคาดว่าจะได้ข้อสรุปและรายงานให้บอร์ดรฟม.ทราบเร็วๆนี้ ส่วนรถไฟฟ้าสายสีเขียวใต้ช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ จะเป็นหน้าที่ของนายพีระยุทธผู้ว่ารฟม.คนใหม่ไปเจรจาหาข้อยุติ สำหรับรถไฟฟ้าสายสีส้มช่วงตลิ่งชัน-ศูนย์วัฒนธรรมซึ่งมีการเปลี่ยนแนวเส้นทางจากเดิมผ่านไปทางขุมชนประชาสงเคราะห์-สถานีพระราม 9 เป็นจากดินแดงผ่านโบส์ถแม่พระฟาติมาไปยังสถานีพระราม 9 ขณะนี้ทางบริษัทที่ปรึกษาอยู่ระหว่างการลงพื้นที่สำรวจข้อมูล และจะดำเนินการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อม(อีไอเอ)ไปพร้อมๆกันคาดว่าไม่น่าจะมีปัญหาใดๆ.
Back to top
View user's profile Send private message
Display posts from previous:   
Reply to topic    Rotfaithai.Com Forum Index -> รถไฟฟ้า (BTS) และรถไฟฟ้าใต้ดิน (MRT) All times are GMT + 7 Hours
Goto page Previous  1, 2, 3 ... 129, 130, 131 ... 228, 229, 230  Next
Page 130 of 230

 

Share |

Jump to:  
You cannot post new topics in this forum
You cannot reply to topics in this forum
You cannot edit your posts in this forum
You cannot delete your posts in this forum
You cannot vote in polls in this forum

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group


Forums ©