View previous topic :: View next topic |
Author |
Message |
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42724
Location: NECTEC
|
Posted: 17/04/2015 7:41 pm Post subject: |
|
|
"บิ๊กตู่"ลั่นยิ่งถูกว่ายิ่งทำมากกว่าเดิม แย้มสั่งผลิตรถไฟฟ้าเองไม่เห็นยาก
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์
17 เมษายน 2558 11:27 น. (แก้ไขล่าสุด 17 เมษายน 2558 11:35 น.)
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. เป็นประธานแถลงผลงานรัฐบาล 6 เดือน ถ่ายทอดสดผ่านสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทยช่อง 11 ชี้แจงถึงผลงานรัฐบาลในด้านต่างๆ โดยให้ความสำคัญกับนโยบายที่แถลงทั้ง 11 ด้าน ส่วนในรายละเอียดนั้น นายกรัฐมนตรีได้มอบหมายให้สอบถามจากรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีที่รับผิดชอบ
โดยในตอนท้าย พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่าหลายเรื่องที่ตนพูดไปก็ซ้ำแล้วซ้ำอีก เดี๋ยวค่ำนี้ก็เจอกันอีกแล้ว อดทนกันหน่อย หลายคนฟังแต่ตอนแรกแล้วเบื่อแล้วก็ไป แล้วก็บอกว่าผมไม่ได้พูด อุตส่าห์นำเสนอในทีวีให้เห็นในอนาคตว่าประเทศไทยจะดีขนาดไหน นี่ผมสั่งให้ผลิตรถไฟฟ้าประเทศไทยเองให้ได้ไม่เห็นยากเลย วันหน้าเราอาจต้องใช้รถเมล์ไฟฟ้าเป็นอนาคตของเราหลายอย่างที่วิจัยเป็นต้นแบบตลอด ไม่มีกิ่งก้านสาขามาซักทีต่อไปนี้การวิจัยอะไรต้องอยู่ในกรอบที่กำหนดให้วิจัยพัฒนา และให้ทุนทำออกมาให้สำเร็จ
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่ออีกว่า ยิ่งว่าผม ผมยิ่งทำมากกว่าเดิม เข้มงวดมากขึ้นในเรื่องกฎหมาย อะไรที่ต้องรีฟอร์มใหม่ทั้งหมด ยิ่งว่าผมยิ่งสู้ นี่พักผ่อนมา 5 วันแล้วพร้อมสู้ทุกอย่าง
//-------------
เร่งเชื่อมโยง'รัก-เรือ-ราง'ประเดิม3ท่าเรือเจ้าพระยา
โดย กอง บก.ฐานเศรษฐกิจ อสังหา REAL ESTATE -
คอลัมน์ : อสังหาฯ REAL ESTATE
ออนไลน์เมื่อ วันพุธที่ 15 เมษายน 2015 เวลา 09:45 น.
ตีพิมพ์ใน หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 35 ฉบับที่ 3,044 วันที่ 16 - 18 เมษายน พ.ศ. 2558
"คมนาคม" เร่งติดตามระบบเชื่อมต่อรถไฟฟ้า-ถนน-เรือเพื่ออำนวยความสะดวกในการเดินทางของประชาชนกรุงเทพฯ-ปริมณฑล ด้านเอกชนสร้างท่าเรือปิด เน้นส่งเสริมเทคโนโลยีสอดรับระบบตั๋วร่วม คาดส.ค.ปี 59 แล้วเสร็จ ร.ฟ.ท.เร่งปรับโฉมสถานีท่าเรือรามคำแหงให้รองรับใช้บริการแอร์พอร์ตลิงค์ได้มากขึ้น
นางสร้อยทิพย์ ไตรสุทธิ์ ปลัดกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ขณะนี้คณะกรรมการพิจารณาการเชื่อมต่อระบบรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนกับขนส่งสาธารณะรูปแบบอื่น ได้ติดตามความคืบหน้าการเชื่อมต่อเส้นทางระหว่างโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงบางซื่อ-บางใหญ่ และสายสีแดง ช่วงบางซื่อ-ตลิ่งชัน บริเวณสถานีบางซ่อน ซึ่งจะต้องทำทางเชื่อมต่อระหว่างกันบนพื้นที่ประมาณ 200 ตร.ม. พร้อมกับออกแบบรายละเอียดเพื่อให้คนพิการสามารถเข้าถึงและใช้ประโยชน์ได้ โดยเบื้องต้นจะทำ Inclined platform lift (ลิฟต์เกาะกับบันได) จำนวน 2 ตัวติดตั้งที่บันไดทางเชื่อมต่อ และบันไดทางขึ้นลงให้คนพิการสามารถดึงรถเข็นขึ้น-ลงบันไดได้อย่างสะดวกขึ้น
นอกจากนั้นในส่วนของกรมเจ้าท่าจะอยู่ระหว่างปรับปรุงท่าเรือบริเวณริมแม่น้ำเจ้าพระยาจำนวน 17 ท่าเรือ(จากทั้งหมด 35 ท่าเรือ) วงเงินรวมทั้งสิ้น 70 ล้านบาท คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในเดือนกันยายนนี้จำนวน 3 แห่งคือ ท่าเรือพรานนก ราชวงศ์ และสี่พระยา ส่วนที่เหลือจะดำเนินการแล้วเสร็จในเดือนกันยายน 2559 ขณะเดียวกันทางภาคเอกชนที่ต้องการพัฒนาท่าเรือปิดจำนวน 19 ท่าเรือจะเริ่มดำเนินการพัฒนาท่าเรือ 3 แห่งก่อนคือ ท่าเรือนนทบุรี สาทร และท่าพระปิ่นเกล้า คาดว่าจะแล้วเสร็จสิงหาคม 2559
"จะมีการก่อสร้างเส้นทางจักรยานเชื่อมโยงจากสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบังมายังสถานีลาดกระบังของรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงค์ภายใต้งบ 50 ล้านบาท ขณะนี้ท่าเรือรามคำแหง ในคลองแสนแสบที่จะเชื่อมโยงกับแอร์พอร์ตลิงค์ได้ก่อสร้างท่าแล้วเสร็จพร้อมให้บริการ ในส่วนการขนส่งทางน้ำโดยเฉพาะแม่น้ำเจ้าพระยา กรมเจ้าท่าได้ลงนามสัญญาไปแล้วทั้ง 17 ท่า เช่นเดียวกับท่าเรือทันสมัยที่เอกชนจะเข้าไปดำเนินการขณะนี้อยู่ระหว่างเสนอกรมธนารักษ์พิจารณาจัดเก็บค่าใช้พื้นที่ โดยเอกชนจะต่อเรือ 6 ลำมาให้บริการในสิงหาคม 2559 นี้ที่จะสอดรับการการเปิดใช้ระบบตั๋วร่วมพอดี"
Last edited by Wisarut on 17/04/2015 7:59 pm; edited 1 time in total |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42724
Location: NECTEC
|
Posted: 17/04/2015 7:58 pm Post subject: |
|
|
รับเหมาแบ่งเค้กรถไฟฟ้า 3 ยักษ์ช.การช่าง/อิตาเลียนไทย/ซิโน-ไทยลั่นพร้อมสุดขีด
โดย กอง บก.ฐานเศรษฐกิจ
คอลัมน์ : ข่าวหน้า1 - BIG STORIES
ออนไลน์เมื่อ วันอังคารที่ 14 เมษายน 2015 เวลา 14:59 น.
พิมพ์ในหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 35 ฉบับที่ 3,044 วันที่ 16 - 18 เมษายน พ.ศ. 2558
เปรมชัย กรรณสูตเปรมชัย กรรณสูต ยักษ์รับเหมาจ้องตาเป็นมัน เค้กรถไฟฟ้าสายใหม่สารพัดสี หลังครม.ประยุทธ์กดปุ่มเร่งเดินหน้า "ช.การช่าง/อิตาเลียนไทย/ซิโน-ไทย" เชื่อทุกรายรับกันถ้วนหน้า ปลัดคมนาคมแย้ม 1-2 เดือนได้ลุ้นประมูลสายส้ม แถมสายสีแดง และแอร์พอร์ตลิงค์ส่วนต่อขยาย พญาไท-บางซื่อ-ดอนเมือง และรถไฟทางคู่จิระ-ขอนแก่นที่จ่อครม. ด้านรฟม.เผยเตรียมแบ่งงานก่อสร้างไว้พร้อมแล้ว
หลังจากที่ "ครม.ประยุทธ์" กดปุ่มเดินหน้าเมกะโปรเจ็กต์โครงข่ายระบบรางโดยเฉพาะรถไฟฟ้าหลากสีทั้งในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑล เพื่อหวังกระตุ้นเศรษฐกิจ สร้างบรรยากาศการลงทุนในประเทศ ทันทีที่รัฐบาลเร่งให้ทุกอย่างเดินหน้าเต็มที มีความเคลื่อนไหวหนึ่งที่น่าติดตาม เมื่อบรรดายักษ์รับเหมาระดับท็อปของวงการไม่ว่าจะเป็นช.การช่าง หรือบมจ.อิตาเลียนไทย"และซิโน-ไทย ถึงจะมีงานล้นทะลักหน้าตัก แต่ก็ยังหมายมั่นหวังชิงเค้กก้อนใหญ่นี้กันอย่างคึกคัก ค่อนข้างจะมั่นใจว่าจะคว้างานมาได้อย่างน้อย 25-30% ของโครงการใหม่ที่จะออกประมูลทั้งหมด
++"ไอทีดี"อั้นแค่ 1.5 แสนล้าน
นายเปรมชัย กรรณสูต ประธานกรรมการ บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) หรือไอทีดี กล่าวในที่ประชุมผู้ถือหุ้นเมื่อเร็วๆนี้ถึงการประมูลงานโครงการใหญ่ที่คาดว่าปีนี้จะมีอีกหลายโครงการทยอยกันออกมาไม่ว่าจะเป็นโครงการรถไฟฟ้าสายสีต่างๆของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) อาทิ สายสีส้ม ชมพู เหลือง โครงการมอเตอร์เวย์ และโครงการรถไฟรางคู่ของการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.)อีก 5 สาย คาดจะมีงบประมาณร่วม 5 แสนล้านบาท ซึ่งบริษัทมีกำลังรับงานได้เพียง 1.5 แสนล้านบาทเท่านั้น ที่สามารถทำงานได้
นอกจากนี้นายเปรมชัยยังระบุอีกว่า ถ้าเกินกว่านี้ไม่สามารถรับงานได้ หรือเท่ากับ 2 หรือ 3 สัญญาเท่านั้น เพราะแต่ละโครงการมีมูลค่าสูงมาก เพราะต้องเก็บความสามารถเอาไว้รองรับงานอย่างอื่น โดยเฉพาะโครงการรถไฟไทย-จีน มูลค่าร่วม 4 แสนล้านบาท ที่คาดว่าสัญญาแรกจะมีมูลค่าถึง 2 แสนล้านบาท ที่น่าจะทำได้ก่อน และจำเป็นต้องใช้บริษัทของคนไทยมาเป็นซับคอนแทร็กซ์ ในการก่อสร้าง ส่วนจีนคงจะเป็นฝ่ายควบคุมหลักเท่านั้น และมั่นใจว่ารถไฟความเร็ว 180กิโลเมตรต่อชั่วโมงซึ่งเกิดจากความร่วมมือระหว่างรัฐบาลไทยกับจีนในเส้นทาง กรุงเทพฯ-หนองคายย่อมเกิดได้แน่นอนภายในปีนี้
อย่างไรก็ดีในส่วนของความร่วมมือรถไฟไทย-จีนนั้นได้มีหารือผ่าน 2 รัฐวิสาหกิจของจีนทั้ง คือซีอาร์อีซีและซีอาร์ซีซี ส่วนความร่วมมือรถไฟไทย-ญี่ปุ่นเราก็สนใจแต่คาดว่าจะใช้เวลาอีก 3ปี โดยหวังงานยาก ๆ และเชื่อว่าคนเก่งทางด้านไหนก็คงจะประมูลงานด้านนั้น
สำหรับเงินลงทุนที่จะต้องใช้ในการขยายงานนั้น นายเปรมชัยกล่าวว่างานประมูลรัฐไม่จำเป็นต้องใช้เงินทุนเพราะสามารถเบิกเงินล่วงหน้า 15 % เป็นเงินทุนอยู่แล้ว ด้านปัญหาแรงงานนั้น คงจะต้องใช้แรงงานเพิ่มมากขึ้น ซึ่งส่วนใหญ่ ไอทีดีใช้แรงงานจากเมียนมาร์ ซึ่งเวลานี้ประเทศไทยเปิดทางให้ใช้แรงงานต่างชาติจาก ลาว กัมพูชาและเมียนมาร์ ส่วนแรงงานบังกลาเทศนั้นค่าแรงแพงกว่าไทย
++มุ่งหางานกำไรเพิ่ม
ส่วนแผนการทำกำไรนั้น นายเปรมชัย ชี้แจงว่าเป็นความตั้งใจของผู้บริหารที่จะแสวงหากำไรเพิ่มมากขึ้นและเห็นว่างานราชการได้กำไรน้อย ส่วนงานภาคเอกชนก็จะถูกต่อรองมาก แต่งานราชการจำเป็นต้องทำเพราะเป็นงานส่วนใหญ่ของประเทศ ทำให้มีเงินหมุนเวียนมาเลี้ยงพนักงาน และองค์กร
"เรามั่นใจว่าระยะยาวอัตราผลตอบแทนกำไรจะมากกว่า 1 % โดยในปี 2557 บริษัทมีรายได้ 4.9 หมื่นล้านบาท ปี 2558 คาดว่าจะมีรายได้ 5-6 หมื่นล้าน โดยมีงานที่รอเซ็นสัญญาอีก 1.7 แสนล้านบาท ในไตรมาสที่ 2 ของปีนี้จาก 8 โครงการ คาดจะมีแบ็กล็อกในมือ 3.5 แสนล้านบาท"
101++ช.การช่างตั้งเป้าได้งานอีก25%
นายพงษ์สฤษดิ์ ตันติสุวณิชกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานพัฒนาธุรกิจ บริษัท ช.การช่าง จำกัด(มหาชน) หรือ CK กล่าวว่าปีนี้ ช.การช่างยังใช้งบลงทุนตามปกติประมาณ10-15% ของปริมาณงานในมือหรือแบ็กล็อกที่ปัจจุบันมีอยู่ประมาณ 9.3 หมื่นล้านบาท และยังคาดว่าจะสามารถรับงานอย่างต่อเนื่องกันไปโดยมีเป้าหมายที่จะรับงานได้ปีนี้อีกราว 25% ของปริมาณการประมูลงานของรัฐบาล
"การร่วมประมูลเดินรถสายสีชมพูและสายสีเหลืองก่อนที่จะก่อสร้างนั้นเราไม่พลาดร่วมแข่งขันอย่างแน่นอนเนื่องจากมีบริษัทลูกอย่างบีเอ็มซีแอลพร้อมดำเนินการอีกทั้งยังมีพันธมิตรจากอีกหลายประเทศพร้อมให้การสนับสนุน เท่านั้นยังไม่พออุปกรณ์และบุคลากรก่อสร้างยังสามารถรับงานได้อีกมาก เช่นเดียวกับความพร้อมด้านการร่วมลงทุนนั้นยังเห็นว่าเป็นสิ่งที่รัฐควรเร่งดำเนินการ ส่วนภาคเอกชนมีความพร้อมอย่างเต็มที่โดยเฉพาะบริษัทชั้นนำของไทย ขอเพียงรัฐบาลแสดงความชัดเจนแต่ละโครงการเท่านั้น เช่น การเดินรถไฟฟ้า มอเตอร์เวย์ 2 เส้นทาง โครงการท่าเรือน้ำลึก เป็นต้น"
++STECเชื่อแบ็กล็อกปีนี้ 5 หมื่นล.
เช่นเดียวกับนายภาคภูมิ ศรีชำนิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด(มหาชน) หรือ STEC ที่กล่าวยืนยันว่า"เตรียมพร้อมประมูลอยู่แล้วทุกเส้นทาง และอยากให้มีโครงการออกมาอย่างเป็นรูปธรรมโดยเร็ว ล่าสุดสายสีเขียวทางซิโน-ไทยก็ได้มา 2 สัญญา ส่วนอีก 5-6 เส้นทางคือสายสีส้ม สายสีชมพู สายสีเหลือง สายสีแดงมิสซิ่งลิงค์และแอร์พอร์ตลิงค์ส่วนต่อขยายนั้นที่คาดว่าจะเปิดประมูลในปีนี้เราก็พร้อมดำเนินการ โดยซิโน-ไทยยังมีการเตรียมความพร้อมทางด้านเทคโนโลยีการก่อสร้าง มีการแสวงหาเครื่องมือตลอดจนอุปกรณ์ก่อสร้างพร้อมทั้งหาวิธีการในการก่อสร้างใหม่เพื่อนำมาช่วยลดการใช้แรงงานและเป็นการช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานด้วย
สำหรับความเห็นด้านการร่วมลงทุนนั้นพร้อมร่วมงาน ทั้งนี้ รัฐควรเร่งดำเนินการ เพราะภาคเอกชนเตรียมการมานานแล้ว โดยเฉพาะบริษัทชั้นนำของไทย ขอเพียงรัฐบาลเร่งผลักดันออกมาโดยเร็วเท่านั้น เช่น ร่วมการลงทุนเดินรถไฟฟ้า โครงการก่อสร้างมอเตอร์เวย์ 2 เส้นทางคือ บางใหญ่-กาญจนบุรี และบางปะอิน-นครราชสีมา หรือโครงการท่าเรือน้ำลึก 3-4 แห่งของกรมเจ้าท่า เป็นต้น
"รายได้ในปีนี้คาดการณ์ว่าจะทำได้ประมาณ 2 หมื่นล้านบาท ส่วนแบ็กล็อกประมาณ 5 หมื่นล้านบาท คาดว่าจะสามารถรับงานได้เรื่อยๆแต่ปีนี้ตั้งเป้าที่จะได้งานไว้ 3 หมื่นล้านบาท ล่าสุดได้สายสีเขียวเหนือ หมอชิต-สะพานใหม่-คูคต 2 สัญญา กว่า 6 พันล้านบาท"
++ลุ้นสายสีส้มเปิดประมูล1-2เดือนนี้
นางสร้อยทิพย์ ไตรสุทธิ์ ปลัดกระทรวงคมนาคม เปิดเผย "ฐานเศรษฐกิจ" ถึงความคืบหน้าโครงการรถไฟ-รถไฟฟ้าเส้นทางต่างๆที่อยู่ระหว่างการเร่งผลักดันว่า เมื่อวันที่ 9 เมษายนที่ผ่านมาได้มีการประชุมหารือกรณีที่จะนำรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงพระราม 9-มีนบุรีเสนอให้คณะกรรมการจัดระบบการจราจรทางบก(คจร.)พิจารณากรณีที่ได้ปรับเปลี่ยนแนวเส้นทางจากเดิมกำหนดผ่านชุมชนประชาสงเคราะห์ ย่านดินแดง-ห้วยขวางนั้น แต่เนื่องจากประชาชนต่อต้านพร้อมเสนอให้ปรับเปลี่ยนแนวมาเป็นเชื่อมโยงแยกพระราม 9 แทนเพื่อเลี่ยงผลกระทบต่อชุมชนดังกล่าว
"เบื้องต้นนี้มีความเป็นไปได้อย่างมากที่สายสีส้มจะสามารถเปิดประมูลได้ใน 1-2 เดือนนี้ซึ่งอาจต่อเนื่องไปกับโครงการระบบรถไฟชานเมืองสายสีแดงอ่อน ช่วงบางซื่อ-พญาไท-มักกะสัน-หัวหมาก และสายสีแดงเข้ม ช่วงบางซื่อ-หัวลำโพง หรือเรียกว่าช่วงมิสซิ่งลิงค์ ระยะทางประมาณ 26 กิโลเมตร มูลค่า 3.3 หมื่นล้านบาท และส่วนต่อขยายแอร์พอร์ตลิงค์ ช่วงพญาไท-บางซื่อ-ดอนเมือง วงเงิน 2.8 หมื่นล้านบาทที่นำเสนอเลขาธิการคณะรัฐมนตรี(ครม.)ไปแล้ว"
++สีชมพู-สีเหลืองปลายปีชัด
ด้านนายธีรพันธ์ เตชะศิรินุกูล รองผู้ว่าการกลยุทธ์และแผน การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย(รฟม.) กล่าวถึงความคืบหน้าสายสีชมพู(แคราย-มีนบุรี) และสายสีเหลือง(ลาดพร้าว-สำโรง) ที่จะใช้รูปแบบการเดินรถแบบโมโนเรลนั้น ขณะนี้เรื่องดังกล่าวอยู่ระหว่างการเร่งสรุปรูปแบบการร่วมลงทุน PPPs NetCross ของระบบเดินรถและซีวิลเวิร์กให้สอดคล้องกับการก่อสร้างโครงการดังกล่าว
"เรื่องนี้เสนอกระทรวงคมนาคมมาแล้วครั้งหนึ่ง แต่ได้ให้กลับไปพิจารณาทบทวนรูปแบบการเดินรถ จากนั้นจึงนำไปสู่การออกแบบก่อสร้าง โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการยื่นขออนุมัติดำเนินโครงการรูปแบบการร่วมลงทุน PPPs NetCross กับระบบเดินรถและซีวิลเวิร์ก ล่าสุดบอร์ดรฟม.ได้อนุมัติให้ดำเนินการแล้วเมื่อวันที่ 3 เมษายนที่ผ่านมา คาดว่าในอีก 2 สัปดาห์จะเร่งนำเสนอไปยังสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร(สนข.) กระทรวงคมนาคม และคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ(คตร.) พิจารณา ก่อนนำเสนอครม.อนุมัติให้ดำเนินการโดยเร็วต่อไป ซึ่งคาดว่าปลายปีนี้จะชัดเจนด้านการเปิดประมูลเพื่อหาผู้รับการดำเนินการด้านระบบเดินรถและการก่อสร้างงานโยธาควบคู่กันไป"
++ซอยยิบสัญญาก่อสร้าง
นายพีระยุทธ สิงห์พัฒนากุล ผู้ว่าการรฟม. กล่าวว่า กรณีรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงพระราม 9-มีนบุรี จะแบ่งสัญญาการก่อสร้างทั้งใต้ดินและยกระดับ โดยใต้ดินอาจแบ่งออกเป็น 1-2 สัญญารูปแบบดีไซน์แอนด์บิลต์ ส่วนยกระดับประมาณ 1-2 สัญญา นอกจากนั้นยังมีสัญญางานระบบไฟฟ้า อาณัติสัญญาณ และระบบราง 1-2 สัญญา
"ล่าสุดรถไฟฟ้าสายสีส้ม(ตะวันออก) ช่วงพระราม 9-รามคำแหง-มีนบุรีได้มีการหารือร่วมกับกระทรวงคมนาคมและสนข.แล้ว เพื่อนำเสนอเข้าสู่การเห็นชอบของคณะกรรมการจัดระบบการจราจรทางบก(คจร.)ต่อไป"
ด้านนายจเร รุ่งฐานีย วิศวกรใหญ่ฝ่ายโครงการพิเศษและก่อสร้างร.ฟ.ท.กล่าวว่า กรณีสายสีแดงอาจแบ่งออกเป็น 3-4 สัญญารวมงานระบบด้วย ส่วนแอร์พอร์ตลิงค์ส่วนต่อขยายจะแบ่งออกเป็น 2-3สัญญาคืองานโยธาช่วงพญาไท-บางซื่อ 1 สัญญา ช่วงบางซื่อ-ดอนเมือง 1 สัญญา และงานระบบอีก 1สัญญา นอกจากนั้นยังมีโครงการรถไฟทางคู่ เส้นทางจิระ-ขอนแก่น อยู่อีก 1 เส้นทาง วงเงิน 2.6 หมื่นล้านบาทที่นำเสนอครม.ไปแล้ว
++ยักษ์รับเหมาตุนหน้าตักไว้เพียบ
สำหรับการประมูลงานก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าที่ผ่านมา จากการรวบรวมของ"ฐานเศรษฐกิจ" ซึ่งประกอบด้วยสายสีม่วง ช่วงบางซื่อ-บางใหญ่ สายสีน้ำเงิน ช่วงหัวลำโพง-บางแค และบางซื่อ-ท่าพระ สายสีเขียว ช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ สายม่วง ช่วงบางซื่อ-บางใหญ่ และสายสีเขียว ช่วงหมอชิต-คูคต นั้น ปรากฏว่ามีเพียงบริษัทก่อสร้างชั้นนำเท่านั้นที่แบ่งเค้กไปตามๆกัน โดย บมจ. อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ หรือ ITD ชนะประมูลงานก่อสร้างรวมแล้วกว่า 8.2 หมื่นล้านบาท โดยงานที่มีมูลค่าสูงสุดคือ งานก่อสร้างเส้นทาง รถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงหมอชิต-คูคตกว่า 1.5 หมื่นล้านบาท และงานก่อสร้างเส้นทางใต้ดิน ช่วงหัวลำโพง-สนามชัย สำหรับรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน วงเงินกว่า 1.1 หมื่นล้านบาท เป็นต้น
ตามด้วยบมจ.ซิโน-ไทย ได้งานก่อสร้างรวมกว่า 3.3 หมื่นล้านบาท มีงานก่อสร้างทางยกระดับช่วงท่าพระ-หลักสอง และสร้างศูนย์ซ่อมบำรุง กับอาคารจอดรถ 2 แห่ง ในโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน และงานโครงสร้างยกระดับ ช่วงสะพานพระนั่งเกล้า-คลองบางไผ่ และก่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา ในโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง วงเงินกว่า 1.3 หมื่นล้านบาท
ส่วน บมจ.ช.การช่าง ชนะการประมูลงานก่อสร้างรถไฟฟ้าสายต่างๆเป็นวงเงินเกือบ 3 หมื่นล้านบาท ที่เด่นๆคือ สายสีเขียวช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ ได้งานเกือบทั้งหมด มีงานก่อสร้างทางยกระดับ สร้างสะพานข้ามคลองสำโรง ก่อสร้างศูนย์ซ่อมบำรุงและอาคารจอดรถ เป็นวงเงินรวม 1.4 หมื่นล้านบาท |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42724
Location: NECTEC
|
Posted: 20/04/2015 1:27 am Post subject: |
|
|
ราคาคอนโดฯแนวรถไฟฟ้าปรับเพิ่มเกือบร้อยละ 5 ช่วงไตรมาสแรกปี 2558
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์
17 เมษายน 2558 23:05 น. (แก้ไขล่าสุด 17 เมษายน 2558 23:06 น.)
ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ระบุว่า ในไตรมาสแรกปี 2558 ราคาห้องชุด หรือ คอนโดมิเนียม ในพื้นที่กรุงเทพมหานครพบว่า เขตที่มีการปรับราคาเพิ่มขึ้นมากคือ เขตห้วยขวาง จตุจักร ปทุมวัน สาทร บางรัก วัฒนา และคลองเตย ส่วนปริมณฑล ในจ.นนทบุรี และจ.สมุทรปราการ มีการปรับราคาขึ้นมากคือ อ.เมืองนนทบุรี หรือ บริเวณถนนรัตนาธิเบศร์ ใกล้แนวรถไฟฟ้าสายสีม่วง และอ.เมืองสมุทรปราการ ช่วงส่วนต่อขยายรถไฟฟ้า บีทีเอสอ่อนนุช - แบริ่ง
ทั้งนี้โดยเฉลี่ยราคาคอนโดมีเนียม จ.กรุงเทพมหานคร นนทบุรี และจ.สมุทรปราการ ปรับเพิ่มขึ้นร้อยละ 4.7 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ 2557 โดยคอนโดมีเนียม ตารางเมตรละ 80,000 - 120,000 บาท มีการปรับราคามากที่สุดคือ ร้อยละ 6 ขณะที่ราคาบ้านเดี่ยวทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ปรับขึ้นเฉลี่ยร้อยละ 3.5 ส่วนทาวน์เฮ้าส์ เพิ่มร้อยละ 3.9 |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42724
Location: NECTEC
|
Posted: 23/04/2015 11:58 am Post subject: |
|
|
คอนโดฝั่งธนเปิดศึกทำเล"จรัญ-เพชรเกษม" ทุนจีนดอดขึ้นตึก33ชั้นโซนบางแค"เอพี-ซีพี"แข่งตุนที่ดินผืนใหญ่
ประชาชาติธุรกิจออนไลน์
21 เมษายน 2558 เวลา 20:31:02 น.
ระเบิดศึกห้องชุดแนวรถไฟฟ้าสีน้ำเงิน-ต่อขยายวงเวียนใหญ่ "จรัญฯ-ตลาดพลู-เพชรเกษม" ทำเลเดือด "เอพี-แมกโนเลีย"กว้านซื้อที่ดินใกล้สถานีบางยี่ขัน-ตรงข้ามเดอะมอลล์ท่าพระ เตรียมเปิดบิ๊กโปรเจ็กต์ครึ่งปีหลัง "อนันดาฯ" ลดเพดานบินขายคอนโดฯต่ำล้านหลบอยู่ในซอยจรัญฯ 3 เกือบ 2 พันห้อง ส่วนถนนเพชรเกษมกลุ่มทุนจีน "จีดีทีฯ" ขึ้นคอนโดฯ 33 ชั้นชิดรถไฟฟ้าสถานีบางแค
ผู้สื่อข่าวสำรวจความเคลื่อนไหวการเปิดตัวคอนโดมิเนียมในช่วงไตรมาส 2-4 ปีนี้ พบว่าการแข่งขันตลาดกลาง-ล่างทำเลฝั่งธนบุรีมีแนวโน้มทวีความรุนแรงขึ้นอีกรอบ เนื่องจากรถไฟฟ้าก่อสร้างคืบหน้าไปมาก โดยเฉพาะบนถนนจรัญสนิทวงศ์ ถนนเพชรเกษม ตามแนวรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายสายสีน้ำเงินช่วงบางซื่อ-ท่าพระ และหัวลำโพง-บางแค ที่มีกำหนดเปิดบริการปี 2560 รวมถึงแนวรถไฟฟ้าต่อขยายจากวงเวียนใหญ่-บางหว้า ที่เปิดบริการปีที่ผ่านมา ล่าสุดมีความเคลื่อนไหวผู้ประกอบการรายใหญ่-รายกลาง และกลุ่มทุนต่างชาติเปิดโครงการคึกคัก
จรัญฯ ขายคอนโดฯวิวแม่น้ำ
นายวิทการ จันทวิมล รองกรรมการผู้อำนวยการสายงานกลยุทธ์การตลาด บมจ.เอพี (ไทยแลนด์) เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้บริษัทเพิ่งซื้อที่ดินบนถนนจรัญสนิทวงศ์ช่วงซอย 40 เดิมเป็นโรงแรมเก่า เนื้อที่ 3 ไร่ ใกล้โครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินสถานีบางยี่ขัน
บริษัทวางแผนเปิดตัวช่วงไตรมาส 3-4 เป็นคอนโดฯไฮไรส์ไม่ต่ำกว่า 1 พันยูนิต อยู่ระหว่างออกแบบคาดว่าราคาเริ่มต้นไม่เกิน 1 แสนบาท/ตร.ม. เจาะกลุ่มผู้พักอาศัยย่านพุทธมณฑลแต่ทำงานในเมือง ผู้ปกครองที่มีลูกหลานเรียนในละแวกนี้ เช่นโรงเรียนเซนต์คาเบรียล โรงเรียนราชินี ฯลฯ
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมาทำเลถนนจรัญฯช่วงสี่แยกบางพลัดของบริษัท มีสไตล์ เอสเตท จำกัด ผู้พัฒนาคอนโดฯทรูทองหล่อ ได้เปิดพรีเซลคอนโดฯบริกซ์ติดสถานีรถไฟฟ้าสิรินธร ห่างจากที่ดินค่ายเอพี 500-600 เมตร เป็นตึกสูง 32 ชั้น 560 ยูนิต ห้องชุดแบบสตูดิโอ-2 ห้องนอน และดูเพล็กซ์ พื้นที่ใช้สอย 22-123 ตร.ม. ราคาเริ่มต้นยูนิตละ1.6 ล้านบาท แถมแอร์ ชุดครัว และวอลเปเปอร์ หลังจากเปิดตัว 1 เดือนมียอดขายแล้ว 50% ถือว่าผลตอบรับค่อนข้างดี
อย่างไรก็ตาม โครงการบริกซ์ต้องประชันกับคอนโดฯเดอะทรี ริโอ้ สถานีบางอ้อของ บมจ.พฤกษา เรียลเอสเตท ที่เปิดขายปลายปี 2557 ทั้ง 2 โครงการเห็นวิวแม่น้ำเจ้าพระยา โดยเดอะทรีฯเป็นตึกสูง 40 ชั้น 1,412 ยูนิต ห้องชุดแบบ 1-2 ห้องนอน พื้นที่ใช้สอย 28-61 ตร.ม. ปัจจุบันเฟส 1-2 มียอดขาย 80% และปรับราคาเริ่มต้นจากยูนิตละ 1.85 ล้านบาท เป็น 1.95 ล้านบาท ส่วนเฟส 3 ที่เหลืออีก 10% จะเปิดตัวครึ่งปีหลัง ราคาน่าจะปรับขึ้น 5%
อนันดาขึ้นคอนโด BOI
ส่วนถนนจรัญสนิทวงศ์นับจากแยกไฟฉาย-แยกท่าพระ ระยะทาง 3-5 กิโลเมตร ผลสำรวจเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา บจ.เดย์เกนกรุ๊ป เปิดพรีเซลคอนโดฯบัดเจท ไบร์ท ใกล้รถไฟฟ้าสีน้ำเงิน (ช่วงบางซื่อ-ท่าพระ) สถานีแยกไฟฉาย เป็นตึก 8 ชั้น 2 อาคารรวม 266 ยูนิต เริ่มต้น 1 ห้องนอน 25 ตร.ม. ราคาเริ่ม 1.69 ล้านบาท มียอดขายมากกว่า 20%
ล่าสุดในช่วงปลายเดือนพฤษภาคมนี้ บมจ.อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จะลงมารุกตลาดคอนโดฯบีโอไอ ราคาไม่เกินยูนิตละ 1 ล้านบาทเป็นครั้งแรก เตรียมเปิดตัวโครงการยูนิโอ้ ซอยจรัญสนิทวงศ์ 3 (เข้าซอย 500 เมตร) ห่างสถานีรถไฟฟ้าท่าพระ 900 เมตร เป็นคอนโดฯ 8 ชั้น 10 อาคาร รวม 1.93 พันยูนิต พื้นที่ใช้สอย 28 ตร.ม. ราคาเดียวทุกยูนิต 999,900 บาท โดยเปิดขายเฟสแรกก่อน 3 อาคาร
ถ.เพชรเกษมทำเลฮอต
ส่วนถนนเพชรเกษมตามแนวรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน (ช่วงหัวลำโพง-บางแค) เมื่อปลายเดือนมีนาคมที่ผ่านมา บจ.จีดีที พร็อพเพอร์ตี้ ที่มีทุนจีนถือหุ้น เปิดพรีเซลคอนโดฯเดอะโพรดิจี้ เพชรเกษม ใกล้สถานีบางแค เป็นตึกสูง 2 อาคาร 31-33 ชั้น รวม 1,273 ยูนิต แบบสตูดิโอ-2 ห้องนอน พื้นที่ใช้สอย 23-50.5 ตร.ม. ตกแต่งเฟอร์นิเจอร์พร้อมอยู่ ราคาเริ่มที่ยูนิตละ 1.69 ล้านบาท มียอดขายกว่า 30%
ส่วนทำเลใกล้เคียงกันในปีที่ผ่านมาบจ.โปรต้า พร็อพเพอร์ตี้ ที่มีทุนจีนไต้หวันถือหุ้น เปิดตัวโครงการดิออสการ์ คอนโด ใกล้สถานีภาษีเจริญ ห้างซีคอนบางแค เป็นตึก 8 ชั้น 256 ยูนิต แบบ 1 ห้องนอน 24-35 ตร.ม. ตกแต่งเฟอร์ฯพร้อมอยู่ ราคาเริ่ม 1.59 ล้านบาท มียอดขายแล้ว 50%
สถานีตลาดพลูแข่งดุ
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ทำเลถนนรัชดาภิเษกใกล้สถานีรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายสถานีตลาดพลู มีแนวโน้มทวีความร้อนแรงหลังจากปลายปีที่ผ่านมา บมจ.เอพี (ไทยแลนด์) ประสบความสำเร็จกับการเปิดตัวคอนโดฯแอสปาย สาทร-ท่าพระ ติดบีทีเอสตลาดพลู ล่าสุด บจ.แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด ของตระกูลเจียรวนนท์ ได้ซื้อที่ดินประชิดสถานีรถไฟฟ้าตรงข้ามห้างเดอะมอลล์ท่าพระ เดิมเป็นศูนย์ซ่อมรถบี-ควิก เตรียมเปิดคอนโดฯในช่วงครึ่งปีหลัง ขณะเดียวกัน มีกระแสข่าวบริษัทพัฒนาที่ดินรายใหญ่ได้ซื้อที่ดินในทำเลใกล้กัน ติดกับคอนโดฯไลฟ์ ท่าพระของ บมจ.เอพี |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42724
Location: NECTEC
|
Posted: 28/04/2015 3:25 am Post subject: |
|
|
ถามตอบเรื่องตั๋วร่วม
Smart VC wrote: | หลังจากได้ฟังสรุปโครงการพัฒนาตั๋วร่วมของสนข. ขอสรุปเป็น FAQsง่ายๆนะครับ
ตั๋วร่วมมาแน่ไมหรือเป็นแนวคิดเฉยๆ?
-มาแน่นอนครับ เปิดงบทำกันแล้ว ประมาณเกือบ 400ล้านบาทโดยมี สนข.เป็นเจ้าของโครงการ
ตั๋วทำงานยังไง?
-ตั๋วนี้จะทำงานเหมือน เป็นกระเป๋าตัง(digital wallet) คือเอาเงินใส่เข้าไปแล้วก็ใช้ไปเรื่อยๆ
ตั๋วนี้ใช้จ่ายค่าอะไรได้บ้าง?
หมวดขนส่งคมนาคม
-ระบบราง BTS,MRT,Airport Link
-รถโดยสารประจำทาง รถเมล์(เฉพาะขสมก.) BRT
-เรือด่วน
-ทางด่วน Troll way
หมวดร้านค้า (ในช่วงเปิดตัว)
7-11
-The Mall
-Tops
-เมเจอร์
-McDonald
-ภาคเอกชนกำลังเข้ามาเรื่อยๆครับ
นอกจากบัตรแล้วใรทำรูปแบบไหนบ้าง?
-รูปแบบของตัวToken จะมี5แบบครับ
1.บัตร
2.บัตรเล็ก(เหมือนบัตรสมาชิกโลตัส)
3.พวงกุญแจ
4.สติกเกอร์ NFC (เอาไว้แปะหลังมือถือฯลฯ)
5.NFCตรงจากมือถือ
จุดออกตั๋ว?
-ธนาคาร-ร้านค้าและจุดให้บริการที่เข้าร่วมโครงการ
บริษัทไหนเป็นคนเข้ามาพัฒนา?
-กลุ่ม BVS (BTSรถไฟลอยฟ้า,Smart Trafficบริษัทที่ออกแบบตัวเก็บตังบนทางด่วน,VIX อันนี้มาจากออสเตรียครับ ทำระบบเก็บตังของที่นั้น)
มาเมื่อไร?
-จากกำหนดการแล้ว น่าจะได้ใช้ สิงหาปี2561 (อีก 3 ปี)
ใครมีข้อสังสัยอื่นๆเข้าไปดูได้ที่
http://www.thaicommonticket.com/index.php/th/
|
https://www.facebook.com/smartvc/photos/a.686925038046135.1073741827.633175056754467/872566042815366/?type=1 |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42724
Location: NECTEC
|
Posted: 28/04/2015 12:57 pm Post subject: |
|
|
ไม่ไกลเกินฝันผลิตรถไฟฟ้าในไทย
เดลินิวส์
วันพุธที่ 22 เมษายน 2558 เวลา 10:06 น.
ซีเมนส์รุดเดินหน้าผลิตรถไฟฟ้าในไทยรอบรับขยายเส้นทางรถไฟฟ้า10สายทั่วกรุง
นายโทมัส มาซัวรองประธานอาวุธโส บ.ซีเมนส์จำกัด ประเทศไทยกล่าวว่า บริษัทซีเมนส์ได้เข้าร่วมงานเดินรถไฟฟ้าในประเทศไทยตั้งแต่ปี 2542โดยได้นำรถไฟฟ้าเข้ามาวิ่งให้บริการในระบบรถไฟฟ้าบีทีเอสทั้งสายสุขุมวิทและสีลมรวมทั้งส่วนต่อขยายไปบางหว้าและไปแบริ่งด้วยนอกจากนี้ยังได้มีการเข้าไปดูระบบอาณัติสัญญาณและตัวรถให้แก่บีเอ็มซีแอลที่วิ่งให้บริการรถไฟฟ้าใต้ดินซึ่งในการนำรถมาวิ่งครั้งแรกนั้นรถไฟฟ้าจะมีทั้ง 3ตู้ต่อขบวนแต่ปัจจุบันได้มีการเพิ่มเป็น4ตู้ต่อขบวนเพื่อรองรับการเดินทางของประชาชนที่มีมากยิ่งขึ้นปัจจุบันรถไฟฟ้าบีทีเอสมีทั้งหมด 43ขบวน ส่วนรถไฟฟ้าใต้ดินมีทั้งหมด19 ขบวนทั้งนี้ในอนาคตกรุงเทพมหานครจะมีการก่อสร้างรถไฟ้ฟ้าอีก10เส้นทางดังนั้นทางบริษัทจำเป็นจะต้องเพิ่มประสิทธิภาพในระบบการเดินรถอาณัตสัญญาณระบบการดูและรักษาอุปกรณ์ให้ดียิ่งขึ้นเพื่อเข้าแข่งขันกับระบบอื่นๆในรูปแบบการเข้าไปร่วมมือกับบริษัทที่รับสัมปทานจากรัฐบาลและหากรัฐบาลต้องการที่จะให้ซีเมนส์เข้าไปช่วยเหลือเรื่องระบบต่างๆทางบริษัทถือว่ามีความพร้อมเป็นอย่างมากโดยเฉพาะด้านระบบที่สามารถเชื่อมโยงได้กับทุกระบบเพราะซีเมนส์ใช้ระบบอีทีซีเอชซึ่งเป็นระบบรถไฟฟ้าสากลที่ทั่วโลกใช้งานนอกจากนี้ทางบริษัทจะมีการพัฒนาวิศวกรบุคคลกรที่เป็นคนประเทศไทยขึ้นมาเพื่อรองรับการขยายตัวของระบบรถไฟฟ้าด้วยซึ่งในอนาคตจะต้องมีวิศวกรที่สามารถดูแลระบบประกอบรถไฟฟ้าได้มากถึง2,000 คนจึงจะสามารถตอบสนองความต้องการและผลิตขบวนรถให้เพิ่มมากยิ่งขึ้น
นายโทมัสกล่าวต่อว่าด้านการซ่อมบำรุงรถไฟฟ้าที่วิ่งให้บริการขณะนี้ได้มีการแบ่งศูนย์ซ่อมบำรุงออกเป็น 2แห่ง คือบริเวณหมอชิตของบีทีเอสและศูนย์พระราม 9ของเอ็มอาร์ทีซึ่งต่อไปในอนาคตสำหรับสายสีเขียวฝั่งเหนือจะต้องวิ่งไปถึงคูคตและฝั่งใต้จะต้องวิ่งไปถึงสมุทรปราการผู้รับผิดชอบโครงการจะต้องมีการสร้างโรงศูนย์ซ่อมบำรุงเพิ่มเติมเนื่องจากบริเวณหมอชิตจะไม่สามารถรองรับได้เพราะการขยายเส้นทางออกไปจะต้องเพิ่มขบวนมากขึ้นซึ่งขณะนี้ศูนย์ซ่อมหมอชิตสามารถรองรับได้เพียง 45ขบวนเท่านั้นสำหรับการกำหนดการซ่อมบำรุงขบวนรถไฟฟ้านั้นจะมีการซ่อมบำรุงตรวจสอบทั่วไปเป็นประจำ 1ครั้งต่อสัปดาห์และจะซ่อมใหญ่ทุกๆ6 ปีโดยปี 2558นี้จะเป็นการซ่อมใหญ่รอบที่2 อย่างไรก็ตามระหว่างวิ่งบริการประชาชนหากเกิดเหตุขัดข้องต้องรีบดำเนินการให้เร็วที่สุดโดยภายใน 5นาทีเจ้าหน้าที่จะต้องทราบสาเหตุที่ขัดข้องเพื่อจะได้เร่งเข้าแก้ไขปัญหาเพราะหากดำเนินการล้าช้าจะส่งต่อการให้บริการประชาชนซึ่งส่วนมากปัญหาที่พบจะเป็นกรณีแอร์เสีย น้ำมันหล่อลื่นระบบอาณัติสัญญาณช่วงสับรางซึ่งก็สามารถแก้ไขได้ทันเวลา. |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42724
Location: NECTEC
|
Posted: 28/04/2015 4:06 pm Post subject: |
|
|
รถไฟฟ้าสายสีส้มประมูลปี59
เดลินิวส์
วันอังคารที่ 21 เมษายน 2558 เวลา 9:30 น.
รฟม.เดินหน้าศึกษาอีไอเอรถไฟฟัาส้มตะวันตกเสร็จมิ.ย.นี้ คาดประกวดราคาไม่ทันในปี 58
นายพีระยุทธ สิงห์พัฒนากุลผู้ว่าการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย(รฟม.)กล่าวถึงความคืบหน้ารถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันตกช่วงตลิ่งชัน-พระราม9ว่าขณะนี้รฟม.ได้ว่าจ้างบริษัทที่ปรึกษาศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อมหรืออีไอเอและพื้นที่ที่จะต้องทำการเวนคืนที่ดินจากประชาชนซึ่งโดยส่วนมากจะเป็นบริเวณสถานีเบื้องต้นจากการสำรวจพบว่ามีประมาณ50รายทั้งนี้คาดว่าจะใช้เวลาในการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อมประมาณ3เดือนโดยจะแล้วเสร็จประมาณเดือนมิ.ย.2558 นี้จากนั้นจะเสนอผลการศึกษาต่อคณะกรรมการบริหารกิจการ(บอร์ด)รฟม.และเสนอไปยังสำนักนโยบายและแผนทรัพยากรณ์และสิ่งแวดล้อม(สผ.)เพื่ออนุมัติภายหลังจากนั้นรฟม.จะเร่งรัดดำเนินการส่งเรื่องไปยังกระทรวงคมนาคมและคณะรัฐมนตรีอนุมัติการก่อสร้างเพื่อให้โครงการเดินหน้าต่อไปอย่างเร่งด่วนตามนโยบายของรัฐบาล อย่างไรก็ตามคาดว่ารถไฟฟ้าส้มตะวันตกจะยังไม่สามารถเปิดประกวดราคาได้ทันภายในปี2558 นี้เนื่องจากจะต้องมีการศึกษารายละเอียดและผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับประชาชนและจะต้องทำความเข้าใจก่อนรวมทั้งต้องมีการรับฟังความเห็นกันอีกครั้งภายหลังจากศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อมเรียบร้อยแล้ว ซึ่งคาดว่าจะประกวดราคาได้ในปี2559
สำหรับรถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันตกนั้นมีแนวสายทางเริ่มต้นจากสถานีรถไฟชุมทางตลิ่งชันชานเมืองด้านทิศตะวันตกเฉียงเหนือของกรุงเทพฯฝั่งธนบุรีเข้าสู่ย่านบางกอกน้อยลอดแม่น้ำเจ้าพระยาเข้าสู่เขตพระนคร ป้อมปราบศัตรูพ่ายและเขตดุสิต ผ่านสถานที่สำคัญเช่นสนามหลวง ถนนราชดำเนินภูเขาทองตลาดมหานาคเข้าสู่ใจกลางเมืองย่านราชเทวีประตูน้ำโดยโครงสร้างเป็นใต้ดินตลอดแนวสายทาง.
//-----------------
อีไอเอสายสีส้มเสร็จ มิ.ย.นี้ รฟม.ชี้ประกวดราคาไม่ทันปีนี้-เวนคืนมากจัดรับฟังอีก
โดย ไทยรัฐฉบับพิมพ์
วันอังคารที่ 21 เมษายน 2558 เวลา 05:01
เมื่อวันที่ 20 เม.ย. 2558 นายพีระยุทธ สิงห์พัฒนากุล ผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) กล่าวถึงความคืบหน้ารถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันตกช่วงตลิ่งชัน-พระราม 9 ว่า ขณะนี้ รฟม.ได้ว่าจ้างบริษัทที่ปรึกษาศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อม หรืออีไอเอ และพื้นที่ที่จะต้องทำการเวนคืนที่ดินจากประชาชน ซึ่งโดยส่วนมากจะเป็นบริเวณสถานี เบื้องต้นจากการสำรวจพบว่ามีประมาณ 50 ราย ทั้งนี้ คาดว่าจะใช้เวลาในการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อมประมาณ 3 เดือน โดยจะแล้วเสร็จประมาณเดือน มิ.ย.2558 นี้ ภายหลังดำเนินการเสร็จเรียบร้อยแล้ว รฟม.จะนำเสนอผลการศึกษาต่อคณะกรรมการบริหารกิจการ (บอร์ด) รฟม. และเสนอไปยังสำนักนโยบายและแผนทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม (สผ.) เพื่ออนุมัติ หลังจากนั้น รฟม.จะเร่งรัดดำเนินการส่งเรื่องไปยังกระทรวงคมนาคมและคณะรัฐมนตรีอนุมัติการก่อสร้างเพื่อให้โครงการเดินหน้าต่อไปอย่างเร่งด่วนตามนโยบายของรัฐบาล ในส่วนของการออกแบบรายละเอียดนั้น รฟม.ได้ดำเนินการไปพร้อมๆกับการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อม ซึ่งในบางจุดจะต้องมีการทำความเข้าใจกับประชาชนเพื่อลดความขัดแย้งและให้งานทุกอย่างสามารถดำเนินการไปได้ ทั้งนี้สำหรับการยกเลิกสถานีราชปรารภและรวมเป็นสถานีเดียวที่บริเวณซอยรางน้ำนั้น ถือว่าการปรับแผนเป็นที่พอใจของประชาชน ยอมรับในข้อเสนอ
อย่างไรก็ตาม คาดว่ารถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันตกจะยังไม่สามารถเปิดประกวดราคาได้ทันภายในปี 2558 นี้ เนื่องจากแนวสายทางของรถไฟฟ้านั้นมีบ้านเรือน อาคารพาณิชย์เป็นจำนวนมาก ซึ่งจะต้องมีการรับฟังความเห็นกันอีกครั้งภายหลังจากศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อมเรียบร้อยแล้ว สำหรับรถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันตกนั้นมีแนวสายทาง เริ่มต้นจากสถานีรถไฟชุมทางตลิ่งชัน ชานเมืองด้านทิศตะวันตกเฉียงเหนือของกรุงเทพฯ ฝั่งธนบุรี เข้าสู่ย่านบางกอกน้อยลอดแม่น้ำเจ้าพระยา เข้าสู่เขตพระนคร ป้อมปราบศัตรูพ่าย และเขตดุสิต ผ่านสถานที่สำคัญ เช่น สนามหลวง ถนนราชดำเนิน ภูเขาทอง ตลาดมหานาคเข้าสู่ใจกลางเมืองย่านราชเทวีประตูน้ำ โดยโครงสร้างเป็นใต้ดินตลอดแนวสายทาง.
Last edited by Wisarut on 28/04/2015 9:45 pm; edited 1 time in total |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42724
Location: NECTEC
|
Posted: 28/04/2015 4:07 pm Post subject: |
|
|
เปิดร่วมทุนรถไฟฟ้าสายใหม่2สาย
เดลินิวส์
วันอังคารที่ 28 เมษายน 2558 เวลา 10:10 น.
รฟม.กลับ ลำให้เอกชนร่วมลงทุนรถไฟฟ้าสายสีชมพูชี้มีความเสี่ยงในการลงทุนต่ำกว่า รฟม.ดำเนินการเองเร่งพิจารณาแนวทางเสนอครม.อนุมัติต่อไป่
นายพีระยุทธ สิงห์พัฒนากุลผู้ว่าการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย(รฟม.)เปิดเผยว่า ขณะนี้รฟม.ได้ศึกษารูปแบบการลงทุนของรถไฟฟ้าสายสีชมพูช่วงแคราย-มีนบุรีระยะทาง 34.5กิโลเมตรงบประมาณลงทุน 31,261ล้านบาทและรถไฟฟ้าสายสีเหลืองช่วงลาดพร้าว-สำโรงระยะทาง30.4กิโลเมตรซึ่งจากเดิมทั้ง2สายรฟม.จะดำเนินการจัดซื้อระบบรถไฟฟ้าเองแต่ขณะนี้รฟม.ได้ศึกษารูปแบบการโดยให้เอกชนร่วมลงทุนในรูปแบบPPPNet Costหรือภาครัฐลงทุนด้านงานโยธาและที่เกี่ยวข้องด้านภาคเอกชนลงทุนค่าด้านงานระบบรถไฟฟ้าและขบวนรถไฟฟ้ารวมทั้งบริหารการเดินรถและซ่อมบำรุงเองโดยขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษาและพิจารณาของคณะกรรมการบริหารกิจการ(บอร์ด)รฟม.เพื่อพิจารณาแนวทางที่ชัดเจนและเสนอไปยังกระทรวงคมนาคมต่อไปทั้งนี้หากบอร์ดมีมติเห็บชอบให้ลงทุนแบบPPP Net Costรฟม.จะต้องดำเนินการตามขั้นตอนของพรบ.การให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐพ.ศ.2556
นายพีระยุทธกล่าวต่อว่า สำหรับรูปแบบการลงทุนรูปแบบPPP Net Cost นั้นจะมีความเสี่ยงด้านรายได้ค่าโดยสารด้านการเงินและด้านต้นทุนการลงทุนจัดหาระบบรถไฟฟ้าและการใช้บริการต่ำเนื่องจากเอกชนจะเป็นผู้รับความเสี่ยงทั้งหมดอย่างไรก็ตามคาดว่าจะสามารถเสนอเรื่องไปยังกระทรวงคมนาคมเพื่อเสนอครม.ได้ในเร็วๆนี้ทั้งนี้คาดว่าการการประชุมคณะกรรมการบอร์ดประจำเดือนพ.ค.2558 จะมีการพิจารณาเรื่องดังกล่าวด้วยโดยหากผ่านการเห็นชอบจากครม.แล้วรถไฟฟ้าสายสีชมพูจะสามารถเริ่มก่อสร้างได้ประมาณพ.ศ.2560 และเปิดให้บริการในพ.ศ.2563 สำหรับรูปแบบของรถไฟฟ้าสายสีชมพูและสีเหลืองนรฟม.ได้มีการออกแบบไว้เป็นรถไฟฟ้ารางเดี่ยวหรือโมโนเรลเพราะรถไฟฟ้าทั้ง2สายจะเป็นฟีดเดอร์เพื่อส่งคนเข้าเมือง. |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42724
Location: NECTEC
|
Posted: 06/05/2015 1:58 am Post subject: |
|
|
สั่ง รฟม.ทบทวนแก้ พ.ร.บ.การรถไฟฟ้าฯ ตีกรอบขอบเขตพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ฯ
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์
4 พฤษภาคม 2558 00:27 น. (แก้ไขล่าสุด 5 พฤษภาคม 2558 09:45 น.)
คมนาคม สั่ง รฟม.ทบทวนรายละเอียดแก้ พ.ร.บ.การรถไฟฟ้าฯ ใหม่ ขีดกรอบความชัดเจนการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ และเสนอตั้ง ก.คลัง และ ก.วิทย์ฯ ร่วมในคณะ กก.กองทุนพัฒนาและวิจัย ขณะที่คมนาคมเตรียมแก้ พ.ร.บ.เวนคืนฯ 2530 เปิดทางหน่วยงานพัฒนาที่ดินได้หากใช้ได้ครบถ้วนสมประโยชน์แล้ว
นายชาติชาย ทิพย์สุนาวี รองปลัดกระทรวงคมนาคมด้านโครงสร้างพื้นฐาน เปิดเผยว่า กระทรวงคมนาคมได้ประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อพิจารณาการแก้ไขพระราชบัญญัติการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2543 ซึ่งทาง รฟม.ได้เสนอแก้ไขเพิ่มเติมในส่วนของคำจำกัดความจากเดิม จัดสร้าง ขยาย บูรณะ ซ่อมแซม และบำรุงรักษาระบบรถไฟฟ้า การเดินรถไฟฟ้า การจัดให้มีสถานที่จอดรถ การให้บริการ การอำนวยความสะดวก และการดำเนินกิจการอื่นที่เกี่ยวเนื่องกับกิจการดังกล่าว โดยเพิ่มว่า จัดให้มีการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งผู้แทนสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) กังวลว่าอาจมีความหมายกว้างมากไป เห็นควรปรับให้ชัดเจนมากขึ้น เช่น การจัดหาให้มีกิจการอสังหาริมทรัพย์ที่เกี่ยวข้องกับกิจการของ รฟม. นอกจากนี้ รฟม.ได้เสนอจัดตั้งกองทุนพัฒนาและการวิจัยขึ้น วัตถุประสงค์เพื่อมีทุนสนับสนุนการวิจัยพัฒนาด้านรถไฟฟ้า ซึ่งจะมีการแต่งตั้งคณะกรรมการบริหารกองทุนจำนวน 5 คน คัดเลือกจาก รฟม.ทั้งหมด โดยที่ประชุมเห็นว่าควรมีผู้แทนกระทรวงการคลังและกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีร่วมในคณะกรรมการฯ ด้วยเพื่อให้ข้อเสนอแนะด้านการเงินและด้านเทคโนโลยี
ทั้งนี้ รฟม.จะต้องนำความเห็นทั้งหมดกลับไปทบทวนเพื่อปรับร่างแก้ไข พ.ร.บ.การรถไฟฟ้าฯ พร้อมทั้งนำเรื่องเสนอคณะกรรมการ (บอร์ด) รฟม.ให้ความเห็นชอบใหม่อีกครั้ง โดยก่อนหน้านี้ เมื่อเดือน ก.ย. 2556 รฟม.เคยเสนอแก้ไข พ.ร.บ.การรถไฟฟ้าฯ พ.ศ. 2543 มาแล้ว แต่มีการยุบสภาไปก่อนทำให้ต้องเสนอเรื่องกลับมาใหม่ ซึ่งปรากฏว่า รฟม.ได้มีการแก้ไขเพิ่มเติมจากที่เคยเสนอมาเมื่อปี 2556 ให้กระทรวงคมนาคมต้องประชุมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อพิจารณาในส่วนที่แก้ไขเพิ่มเติม เพื่อจัดทำร่าง พ.ร.บ.การรถไฟฟ้าฯ ฉบับแก้ไข พ.ศ. 2558
กรณีที่เพิ่มคำจำกัดความ ให้มีการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่เกี่ยวข้องกับกิจการ รฟม.นั้นไม่ได้หมายความว่า รฟม.จะสามารถนำที่ดินที่เวนคืนมาดำเนินการพัฒนาเชิงพาณิชย์ได้หรือไม่ได้ เพราะการพัฒนาที่ดินที่เวนคืนมานั้นจะเกี่ยวข้องกับพระราชบัญญัติว่าด้วยการเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ พ.ศ. 2530 ซึ่งเป็นกฎหมายอีกฉบับที่ต้องใช้เป็นหลักในการเวนคืนที่ดินของหน่วยงาน โดยหลักหน่วยงานเวนคืนที่ดินตามกฎหมายเวนคืน จะต้องนำมาใช้ในกิจการ กรณี รฟม.นำมาใช้ในการก่อสร้าง หากใช้ที่ดินบรรลุวัตถุประสงค์แล้วสามารถนำไปพัฒนาได้ เช่น พื้นที่ในสถานีต่างๆ นายชาติชายกล่าว
รายงานข่าวแจ้งว่า ในส่วนของพระราชบัญญัติว่าด้วยการเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ พ.ศ. 2530 นั้น กระทรวงคมนาคมได้รับมอบหมายจากรัฐบาลให้ศึกษาเพื่อปรับปรุงใหม่ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้หน่วยงานที่เวนคืนที่ดินมาใช้กิจการและสมประโยชน์บรรลุวัตถุประสงค์แล้วสามารถนำที่ดินที่เหลือไปพัฒนาได้ จากเดิมที่ห้ามนำไปพัฒนา โดยจะต้องพิจารณาและระบุรายละเอียดที่จะปรับปรุงอย่างรอบคอบเพื่อไม่ให้เป็นช่องโหว่ ในการเวนคืนที่ดินจำนวนมากเกินความจำเป็นเพราะหวังที่จะให้มีที่ดินเหลือเพื่อไปพัฒนาเชิงพาณิชย์หารายได้ ซึ่งการปรับแก้ พ.ร.บ.เวนคืนฯ นี้จะเกิดประโยชน์ต่อหลายหน่วยงานโดยเฉพาะด้านโครงสร้างพื้นฐานคมนาคมที่ไม่สามารถจัดเก็บค่าโดยสารได้เพียงพอที่จะเลี้ยงตัวเองได้ เนื่องจากจะมีช่องทางในการสร้างรายได้จากการพัฒนาที่ดิน แต่ต้องอยู่ภายใต้เงื่อนไขใช้เพื่อกิจการสมประโยชน์แล้ว เช่น การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) รฟม. กรมทางหลวง (ทล.) กรมทางหลวงชนบท(ทช.) เป็นต้น |
|
Back to top |
|
|
Wisarut
1st Class Pass (Air)
Joined: 27/03/2006 Posts: 42724
Location: NECTEC
|
Posted: 08/05/2015 8:47 pm Post subject: |
|
|
3 ยักษ์ช.การช่าง/อิตาเลียนไทย/ซิโน-ไทยลั่นพร้อมสุดขีด
BUSINESS, INVESTMEN
ฐานเศรษฐกิจ
วันจันทร์ ที่ 20 เมษายน 2558 เวลา 10:00:52
รับเหมาแบ่งเค้กรถไฟฟ้า
ยักษ์รับเหมาจ้องตาเป็นมัน เค้กก้อนใหญ่รถไฟฟ้าสารพัดสี หลังครม.ประยุทธ์กดปุ่มเร่งเดินหน้า ช.การช่าง/อิตาเลียนไทย/ซิโนไทย เชื่อทุกรายรับกันถ้วนหน้า ปลัดคมนาคมแย้ม 1-2 เดือนได้ลุ้นประมูลสายสีส้ม แถมสายสีแดง และแอร์พอร์ตลิงค์ส่วนต่อขยาย พญาไทบางซื่อดอนเมือง และรถไฟทางคู่จิระขอนแก่นที่จ่อครม. ด้านรฟม.เผยเตรียมแบ่งงานก่อสร้างไว้พร้อมแล้ว
หลังจากที่ ครม.ประยุทธ์ กดปุ่มเดินหน้าเมกะโปรเจ็กต์โครงข่ายระบบรางโดยเฉพาะรถไฟฟ้าหลากสีทั้งในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑล เพื่อหวังกระตุ้นเศรษฐกิจ สร้างบรรยากาศการลงทุนในประเทศ ทันทีที่รัฐบาลเร่งให้ทุกอย่างเดินหน้าเต็มที มีความเคลื่อนไหวหนึ่งที่น่าติดตาม เมื่อบรรดายักษ์รับเหมาระดับท็อปของวงการไม่ว่าจะเป็นช.การช่าง หรือบมจ.อิตาเลียนไทยและซิโน-ไทย ถึงจะมีงานล้นทะลักหน้าตัก แต่ก็ยังหมายมั่นหวังชิงเค้กก้อนใหญ่นี้กันอย่างคึกคัก ค่อนข้างจะมั่นใจว่าจะคว้างานมาได้อย่างน้อย 25-30% ของโครงการใหม่ที่จะออกประมูลทั้งหมด
++ไอทีดีอั้นแค่ 1.5 แสนล้าน
นายเปรมชัย กรรณสูต ประธานกรรมการ บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) หรือไอทีดี กล่าวในที่ประชุมผู้ถือหุ้นเมื่อเร็วๆนี้ถึงการประมูลงานโครงการใหญ่ที่คาดว่าปีนี้จะมีอีกหลายโครงการทยอยกันออกมาไม่ว่าจะเป็นโครงการรถไฟฟ้าสายสีต่างๆของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) อาทิ สายสีส้ม ชมพู เหลือง โครงการมอเตอร์เวย์ และโครงการรถไฟรางคู่ของการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.)อีก 5 สาย คาดจะมีงบประมาณร่วม 5 แสนล้านบาท ซึ่งบริษัทมีกำลังรับงานได้เพียง 1.5 แสนล้านบาทเท่านั้น ที่สามารถทำงานได้
นอกจากนี้นายเปรมชัยยังระบุอีกว่า ถ้าเกินกว่านี้ไม่สามารถรับงานได้ หรือเท่ากับ 2 หรือ 3 สัญญาเท่านั้น เพราะแต่ละโครงการมีมูลค่าสูงมาก เพราะต้องเก็บความสามารถเอาไว้รองรับงานอย่างอื่น โดยเฉพาะโครงการรถไฟไทย-จีน มูลค่าร่วม 4 แสนล้านบาท ที่คาดว่าสัญญาแรกจะมีมูลค่าถึง 2 แสนล้านบาท ที่น่าจะทำได้ก่อน และจำเป็นต้องใช้บริษัทของคนไทยมาเป็นซับคอนแทร็กซ์ ในการก่อสร้าง ส่วนจีนคงจะเป็นฝ่ายควบคุมหลักเท่านั้น และมั่นใจว่ารถไฟความเร็ว 180กิโลเมตรต่อชั่วโมงซึ่งเกิดจากความร่วมมือระหว่างรัฐบาลไทยกับจีนในเส้นทาง กรุงเทพฯ-หนองคายย่อมเกิดได้แน่นอนภายในปีนี้
อย่างไรก็ดีในส่วนของความร่วมมือรถไฟไทย-จีนนั้นได้มีหารือผ่าน 2 รัฐวิสาหกิจของจีนทั้ง คือซีอาร์อีซีและซีอาร์ซีซี ส่วนความร่วมมือรถไฟไทย-ญี่ปุ่นเราก็สนใจแต่คาดว่าจะใช้เวลาอีก 3ปี โดยหวังงานยาก ๆ และเชื่อว่าคนเก่งทางด้านไหนก็คงจะประมูลงานด้านนั้น
สำหรับเงินลงทุนที่จะต้องใช้ในการขยายงานนั้น นายเปรมชัยกล่าวว่างานประมูลรัฐไม่จำเป็นต้องใช้เงินทุนเพราะสามารถเบิกเงินล่วงหน้า 15 % เป็นเงินทุนอยู่แล้ว ด้านปัญหาแรงงานนั้น คงจะต้องใช้แรงงานเพิ่มมากขึ้น ซึ่งส่วนใหญ่ ไอทีดีใช้แรงงานจากเมียนมาร์ ซึ่งเวลานี้ประเทศไทยเปิดทางให้ใช้แรงงานต่างชาติจาก ลาว กัมพูชาและเมียนมาร์ ส่วนแรงงานบังกลาเทศนั้นค่าแรงแพงกว่าไทย
ส่วนแผนการทำกำไรนั้น นายเปรมชัย ชี้แจงว่าเป็นความตั้งใจของผู้บริหารที่จะแสวงหากำไรเพิ่มมากขึ้นและเห็นว่างานราชการได้กำไรน้อย ส่วนงานภาคเอกชนก็จะถูกต่อรองมาก แต่งานราชการจำเป็นต้องทำเพราะเป็นงานส่วนใหญ่ของประเทศ ทำให้มีเงินหมุนเวียนมาเลี้ยงพนักงาน และองค์กร
เรามั่นใจว่าระยะยาวอัตราผลตอบแทนกำไรจะมากกว่า 1 % โดยในปี 2557 บริษัทมีรายได้ 4.9 หมื่นล้านบาท ปี 2558 คาดว่าจะมีรายได้ 5-6 หมื่นล้าน โดยมีงานที่รอเซ็นสัญญาอีก 1.7 แสนล้านบาท ในไตรมาสที่ 2 ของปีนี้จาก 8 โครงการ คาดจะมีแบ็กล็อกในมือ 3.5 แสนล้านบาท
++ช.การช่างตั้งเป้าได้งานอีก25%
นายพงษ์สฤษดิ์ ตันติสุวณิชกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานพัฒนาธุรกิจ บริษัท ช.การช่าง จำกัด(มหาชน) หรือ CK กล่าวว่าปีนี้ ช.การช่างยังใช้งบลงทุนตามปกติประมาณ10-15% ของปริมาณงานในมือหรือแบ็กล็อกที่ปัจจุบันมีอยู่ประมาณ 9.3 หมื่นล้านบาท และยังคาดว่าจะสามารถรับงานอย่างต่อเนื่องกันไปโดยมีเป้าหมายที่จะรับงานได้ปีนี้อีกราว 25% ของปริมาณการประมูลงานของรัฐบาล
การร่วมประมูลเดินรถสายสีชมพูและสายสีเหลืองก่อนที่จะก่อสร้างนั้นเราไม่พลาดร่วมแข่งขันอย่างแน่นอนเนื่องจากมีบริษัทลูกอย่างบีเอ็มซีแอลพร้อมดำเนินการอีกทั้งยังมีพันธมิตรจากอีกหลายประเทศพร้อมให้การสนับสนุน เท่านั้นยังไม่พออุปกรณ์และบุคลากรก่อสร้างยังสามารถรับงานได้อีกมาก เช่นเดียวกับความพร้อมด้านการร่วมลงทุนนั้นยังเห็นว่าเป็นสิ่งที่รัฐควรเร่งดำเนินการ ส่วนภาคเอกชนมีความพร้อมอย่างเต็มที่โดยเฉพาะบริษัทชั้นนำของไทย ขอเพียงรัฐบาลแสดงความชัดเจนแต่ละโครงการเท่านั้น เช่น การเดินรถไฟฟ้า มอเตอร์เวย์ 2 เส้นทาง โครงการท่าเรือน้ำลึก เป็นต้น
++ซิโน-ไทยเชื่อแบ็กล็อกปีนี้ 5 หมื่นล.
เช่นเดียวกับนายภาคภูมิ ศรีชำนิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด(มหาชน) หรือ STEC ที่กล่าวยืนยันว่าเตรียมพร้อมประมูลอยู่แล้วทุกเส้นทาง และอยากให้มีโครงการออกมาอย่างเป็นรูปธรรมโดยเร็ว ล่าสุดสายสีเขียวทางซิโน-ไทยก็ได้มา 2 สัญญา ส่วนอีก 5-6 เส้นทางคือสายสีส้ม สายสีชมพู สายสีเหลือง สายสีแดงมิสซิ่งลิงค์และแอร์พอร์ตลิงค์ส่วนต่อขยายนั้นที่คาดว่าจะเปิดประมูลในปีนี้เราก็พร้อมดำเนินการ โดยซิโน-ไทยยังมีการเตรียมความพร้อมทางด้านเทคโนโลยีการก่อสร้าง มีการแสวงหาเครื่องมือตลอดจนอุปกรณ์ก่อสร้างพร้อมทั้งหาวิธีการในการก่อสร้างใหม่เพื่อนำมาช่วยลดการใช้แรงงานและเป็นการช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานด้วย
สำหรับความเห็นด้านการร่วมลงทุนนั้นพร้อมร่วมงาน ทั้งนี้ รัฐควรเร่งดำเนินการ เพราะภาคเอกชนเตรียมการมานานแล้ว โดยเฉพาะบริษัทชั้นนำของไทย ขอเพียงรัฐบาลเร่งผลักดันออกมาโดยเร็วเท่านั้น เช่น ร่วมการลงทุนเดินรถไฟฟ้า โครงการก่อสร้างมอเตอร์เวย์ 2 เส้นทางคือ บางใหญ่-กาญจนบุรี และบางปะอิน-นครราชสีมา หรือโครงการท่าเรือน้ำลึก 3-4 แห่งของกรมเจ้าท่า เป็นต้น
รายได้ในปีนี้คาดการณ์ว่าจะทำได้ประมาณ 2 หมื่นล้านบาท ส่วนแบ็กล็อกประมาณ 5 หมื่นล้านบาท คาดว่าจะสามารถรับงานได้เรื่อยๆแต่ปีนี้ตั้งเป้าที่จะได้งานไว้ 3 หมื่นล้านบาท ล่าสุดได้สายสีเขียวเหนือ หมอชิต-สะพานใหม่-คูคต 2 สัญญา กว่า 6 พันล้านบาท
++ลุ้นสายสีส้มเปิดประมูล1-2เดือนนี้
นางสร้อยทิพย์ ไตรสุทธิ์ ปลัดกระทรวงคมนาคม เปิดเผย ฐานเศรษฐกิจ ถึงความคืบหน้าโครงการรถไฟ-รถไฟฟ้าเส้นทางต่างๆที่อยู่ระหว่างการเร่งผลักดันว่า เมื่อวันที่ 9 เมษายนที่ผ่านมาได้มีการประชุมหารือกรณีที่จะนำรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงพระราม 9-มีนบุรีเสนอให้คณะกรรมการจัดระบบการจราจรทางบก(คจร.)พิจารณากรณีที่ได้ปรับเปลี่ยนแนวเส้นทางจากเดิมกำหนดผ่านชุมชนประชาสงเคราะห์ ย่านดินแดง-ห้วยขวางนั้น แต่เนื่องจากประชาชนต่อต้านพร้อมเสนอให้ปรับเปลี่ยนแนวมาเป็นเชื่อมโยงแยกพระราม 9 แทนเพื่อเลี่ยงผลกระทบต่อชุมชนดังกล่าว
เบื้องต้นนี้มีความเป็นไปได้อย่างมากที่สายสีส้มจะสามารถเปิดประมูลได้ใน 1-2 เดือนนี้ซึ่งอาจต่อเนื่องไปกับโครงการระบบรถไฟชานเมืองสายสีแดงอ่อน ช่วงบางซื่อ-พญาไท-มักกะสัน-หัวหมาก และสายสีแดงเข้ม ช่วงบางซื่อ-หัวลำโพง หรือเรียกว่าช่วงมิสซิ่งลิงค์ ระยะทางประมาณ 26 กิโลเมตร มูลค่า 3.3 หมื่นล้านบาท และส่วนต่อขยายแอร์พอร์ตลิงค์ ช่วงพญาไท-บางซื่อ-ดอนเมือง วงเงิน 2.8 หมื่นล้านบาทที่นำเสนอเลขาธิการคณะรัฐมนตรี(ครม.)ไปแล้ว
++สีชมพู-สีเหลืองปลายปีนี้จะชัดเจน
ด้านนายธีรพันธ์ เตชะศิรินุกูล รองผู้ว่าการกลยุทธ์และแผน การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย(รฟม.) กล่าวถึงความคืบหน้าสายสีชมพู(แคราย-มีนบุรี) และสายสีเหลือง(ลาดพร้าว-สำโรง) ที่จะใช้รูปแบบการเดินรถแบบโมโนเรลนั้น ขณะนี้เรื่องดังกล่าวอยู่ระหว่างการเร่งสรุปรูปแบบการร่วมลงทุน PPPs NetCross ของระบบเดินรถและซีวิลเวิร์กให้สอดคล้องกับการก่อสร้างโครงการดังกล่าว
เรื่องนี้เสนอกระทรวงคมนาคมมาแล้วครั้งหนึ่ง แต่ได้ให้กลับไปพิจารณาทบทวนรูปแบบการเดินรถ จากนั้นจึงนำไปสู่การออกแบบก่อสร้าง โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการยื่นขออนุมัติดำเนินโครงการรูปแบบการร่วมลงทุน PPPs NetCross กับระบบเดินรถและซีวิลเวิร์ก ล่าสุดบอร์ดรฟม.ได้อนุมัติให้ดำเนินการแล้วเมื่อวันที่ 3 เมษายนที่ผ่านมา คาดว่าในอีก 2 สัปดาห์จะเร่งนำเสนอไปยังสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร(สนข.) กระทรวงคมนาคม และคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ(คตร.) พิจารณา ก่อนนำเสนอครม.อนุมัติให้ดำเนินการโดยเร็วต่อไป ซึ่งคาดว่าปลายปีนี้จะชัดเจนด้านการเปิดประมูลเพื่อหาผู้รับการดำเนินการด้านระบบเดินรถและการก่อสร้างงานโยธาควบคู่กันไป
++เตรียมแบ่งงานสายสีส้ม 3-6สัญญา
นายพีระยุทธ สิงห์พัฒนากุล ผู้ว่าการรฟม. กล่าวว่า กรณีรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงพระราม 9-มีนบุรี จะแบ่งสัญญาการก่อสร้างทั้งใต้ดินและยกระดับ โดยใต้ดินอาจแบ่งออกเป็น 1-2 สัญญารูปแบบดีไซน์แอนด์บิลต์ ส่วนยกระดับประมาณ 1-2 สัญญา นอกจากนั้นยังมีสัญญางานระบบไฟฟ้า อาณัติสัญญาณ และระบบราง 1-2 สัญญา
ล่าสุดรถไฟฟ้าสายสีส้ม(ตะวันออก) ช่วงพระราม 9-รามคำแหง-มีนบุรีได้มีการหารือร่วมกับกระทรวงคมนาคมและสนข.แล้ว เพื่อนำเสนอเข้าสู่การเห็นชอบของคณะกรรมการจัดระบบการจราจรทางบก(คจร.)ต่อไป
++สายสีแดง/แอร์พอร์ตลิงค์ ซอย 6-8 สัญญา
ด้านนายจเร รุ่งฐานีย วิศวกรใหญ่ฝ่ายโครงการพิเศษและก่อสร้างร.ฟ.ท.กล่าวว่า กรณีสายสีแดงอาจแบ่งออกเป็น 3-4 สัญญารวมงานระบบด้วย ส่วนแอร์พอร์ตลิงค์ส่วนต่อขยายจะแบ่งออกเป็น 2-3สัญญาคืองานโยธาช่วงพญาไท-บางซื่อ 1 สัญญา ช่วงบางซื่อ-ดอนเมือง 1 สัญญา และงานระบบอีก 1สัญญา นอกจากนั้นยังมีโครงการรถไฟทางคู่ เส้นทางจิระ-ขอนแก่น อยู่อีก 1 เส้นทาง วงเงิน 2.6 หมื่นล้านบาทที่นำเสนอครม.ไปแล้ว
++ยักษ์รับเหมาตุนหน้าตักไว้เพียบ
สำหรับการประมูลงานก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าที่ผ่านมา จากการรวบรวมของฐานเศรษฐกิจ ซึ่งประกอบด้วยสายสีม่วง ช่วงบางซื่อ-บางใหญ่ สายสีน้ำเงิน ช่วงหัวลำโพง-บางแค และบางซื่อ-ท่าพระ สายสีเขียว ช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ สายม่วง ช่วงบางซื่อ-บางใหญ่ และสายสีเขียว ช่วงหมอชิต-คูคต นั้น ปรากฏว่ามีเพียงบริษัทก่อสร้างชั้นนำเท่านั้นที่แบ่งเค้กไปตามๆกัน โดย บมจ. อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ หรือ ITD ชนะประมูลงานก่อสร้างรวมแล้วกว่า 8.2 หมื่นล้านบาท โดยงานที่มีมูลค่าสูงสุดคือ งานก่อสร้างเส้นทาง รถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงหมอชิต-คูคตกว่า 1.5 หมื่นล้านบาท และงานก่อสร้างเส้นทางใต้ดิน ช่วงหัวลำโพง-สนามชัย สำหรับรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน วงเงินกว่า 1.1 หมื่นล้านบาท เป็นต้น
ตามด้วยบมจ.ซิโน-ไทย ได้งานก่อสร้างรวมกว่า 3.3 หมื่นล้านบาท มีงานก่อสร้างทางยกระดับช่วงท่าพระ-หลักสอง และสร้างศูนย์ซ่อมบำรุง กับอาคารจอดรถ 2 แห่ง ในโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน และงานโครงสร้างยกระดับ ช่วงสะพานพระนั่งเกล้า-คลองบางไผ่ และก่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา ในโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง วงเงินกว่า 1.3 หมื่นล้านบาท
ส่วน บมจ.ช.การช่าง ชนะการประมูลงานก่อสร้างรถไฟฟ้าสายต่างๆเป็นวงเงินเกือบ 3 หมื่นล้านบาท ที่เด่นๆคือ สายสีเขียวช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ ได้งานเกือบทั้งหมด มีงานก่อสร้างทางยกระดับ สร้างสะพานข้ามคลองสำโรง ก่อสร้างศูนย์ซ่อมบำรุงและอาคารจอดรถ เป็นวงเงินรวม 1.4 หมื่นล้านบาท |
|
Back to top |
|
|
|